TEDxSFU
Mandy Len Catron: A better way to talk about love
แมนดี้ เลน คัททรอน (Mandy Len Catron): วิธีที่ดีในการพูดถึงความรัก
Filmed:
Readability: 3.9
2,605,858 views
ในความรัก เรา "ตกหลุม" เราถูกจู่โจมโดยความรัก เราถูกบดขยี้ด้วยความรัก เรารักจนหน้ามืดตามัว อารมณ์ของเราพลุกพล่าน ความรักนั้น ทำให้เราเป็นบ้าและป่วย หัวใจของเราเจ็บปวด และจบที่แตกสลาย การพูดถึงความรักแบบนี้ไปควบคุมวิธีที่เรารับรู้ถึงความรัก กล่าวโดยนักเขียน แมนดี้ เลน คัททรอน ในทอล์คนี้สำหรับใครก็ตามที่ยังอยู่วนเวียนอยู่ในความรัก คัททรอน เน้นย้ำถึงการเปรียบเปรยต่าง ๆ ที่อาจจะช่วยเราพบว่าความรักที่แท้จริง นั้นแทนที่จะเจ็บปวดทรมานกลับกลายเป็นความเพลิดเพลินและความสุขได้
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
OK, so today I want to talk
about how we talk about love.
about how we talk about love.
0
553
4300
โอเค วันนี้ฉันจะมาพูดถึง
วิธีที่คนพูดถึงความรัก
วิธีที่คนพูดถึงความรัก
00:17
And specifically,
1
5237
1150
โดยเฉพาะ
00:18
I want to talk about what's wrong
with how we talk about love.
with how we talk about love.
2
6411
3435
สิ่งที่ผิดไปเวลาพูดถึงความรัก
00:22
Most of us will probably
fall in love a few times
fall in love a few times
3
10673
3407
คนส่วนมากตกหลุมรักสองสามครั้ง
00:26
over the course of our lives,
4
14104
1465
ในช่วงชีวิตหนึ่ง
00:27
and in the English language,
this metaphor, falling,
this metaphor, falling,
5
15593
4210
และในภาษาอังกฤษ คำว่า ตกหลุม
เป็นคำเปรียบเปรย
เป็นคำเปรียบเปรย
00:31
is really the main way that we
talk about that experience.
talk about that experience.
6
19827
3014
ซึงมักใช้เวลาพูดถึงประสบการณ์ความรัก
00:35
I don't know about you,
7
23592
1151
ไม่รู้คุณคิดอย่างไรนะ
00:36
but when I conceptualize this metaphor,
8
24767
1927
แต่เวลาฉันให้นิยามแก่คำเปรียบเปรยนี้
00:38
what I picture is straight
out of a cartoon --
out of a cartoon --
9
26718
2878
ฉันมักจะคิดเป็นภาพที่หลุดมาจากการ์ตูน
00:42
like there's a man,
10
30076
1296
คือ มีผู้ชายคนนึง
00:43
he's walking down the sidewalk,
11
31396
1717
กำลังเดินอยู่ข้างถนน
00:45
without realizing it, he crosses
over an open manhole,
over an open manhole,
12
33137
3112
ไม่รู้ตัวว่ากำลังเดินข้าม
ท่อระบายน้ำที่เปิดอยู่
ท่อระบายน้ำที่เปิดอยู่
00:48
and he just plummets into the sewer below.
13
36273
3661
ก็เลยตกลงไป
00:51
And I picture it this way
because falling is not jumping.
because falling is not jumping.
14
39958
4080
ฉันคิดภาพแบบนั้น
เพราะว่าการตกลงไป ไม่ใช่การกระโดด
เพราะว่าการตกลงไป ไม่ใช่การกระโดด
00:56
Falling is accidental,
15
44769
2032
การตก เป็นอุบัติเหตุ
00:58
it's uncontrollable.
16
46825
1902
มันควบคุมไม่ได้
01:00
It's something that happens to us
without our consent.
without our consent.
17
48751
3525
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา
โดยไม่ได้รับความยินยอม
โดยไม่ได้รับความยินยอม
01:04
And this --
18
52300
1193
และนี่
01:05
this is the main way we talk
about starting a new relationship.
about starting a new relationship.
19
53517
3567
เป็นวิธีที่เราพูดถึง
การเริ่มต้นความสัมพันธ์
การเริ่มต้นความสัมพันธ์
01:10
I am a writer and I'm also
an English teacher,
an English teacher,
20
58336
3767
ฉันเป็นนักเขียน และเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ
01:14
which means I think
about words for a living.
about words for a living.
21
62127
2285
ซึ่งหมายถึง ฉันครุ่นคิดเรื่องคำเป็นอาชีพ
01:16
You could say that I get paid
to argue that the language we use matters,
to argue that the language we use matters,
22
64436
4150
หรือจะบอกว่า เขาจ้างฉันมาเถียง
กับคนอื่นเรื่องภาษาก็ได้
กับคนอื่นเรื่องภาษาก็ได้
01:20
and I would like to argue
that many of the metaphors we use
that many of the metaphors we use
23
68610
4200
และฉันอยากจะเถียงว่า
คำเปรียบเปรยหลายคำที่เราใช้
คำเปรียบเปรยหลายคำที่เราใช้
01:24
to talk about love --
24
72834
1567
เวลาพูดถึงความรัก
01:26
maybe even most of them --
25
74425
1823
อาจจะส่วนมากด้วยซ้ำ
01:28
are a problem.
26
76272
1401
เป็นปัญหา
01:30
So, in love, we fall.
27
78700
1893
เช่น เราตกหลุมรัก
01:33
We're struck.
28
81766
1465
ความรักจู่โจม
01:35
We are crushed.
29
83255
1396
เราถูกบีบคั้น (crush = คนที่ชอบ)
01:37
We swoon.
30
85331
1370
รักจนหน้ามืดตามัว
01:39
We burn with passion.
31
87186
1797
อารมณ์ของเราพลุกพล่าน
01:41
Love makes us crazy,
32
89738
1977
ความรักทำให้เราคลุ้มคลั่ง
01:43
and it makes us sick.
33
91739
1564
และทำให้ป่วยใจ
01:45
Our hearts ache,
34
93796
1360
หัวใจของเราเจ็บปวด
01:47
and then they break.
35
95180
2006
และแตกสลาย
01:50
So our metaphors equate
the experience of loving someone
the experience of loving someone
36
98226
3144
สรุปได้ว่า เมื่อเรารักใครสักคน
เราจะพูดเปรียบกับ
เราจะพูดเปรียบกับ
01:53
to extreme violence or illness.
37
101394
2653
ความรุนแรงหรือความเจ็บป่วย
01:56
(Laughter)
38
104071
2085
(เสียงหัวเราะ)
01:59
They do.
39
107101
1151
จริง ๆ นะคะ
02:00
And they position us as the victims
40
108276
1983
เราถูกวางตำแหน่งให้เป็นเหยื่อ
02:02
of unforeseen and totally
unavoidable circumstances.
unavoidable circumstances.
41
110283
3359
ของสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง
และหลีกเลี่ยงไม่ได้
และหลีกเลี่ยงไม่ได้
02:06
My favorite one of these is "smitten,"
42
114547
2723
คำที่ฉันชอบที่สุดคือคำว่า smitten
02:09
which is the past participle
of the word "smite."
of the word "smite."
43
117294
2854
ซึ่งเป็นคำกริยาช่องสามของคำว่า smite
02:12
And if you look this word up
in the dictionary --
in the dictionary --
44
120172
3068
และถ้าคุณเปิดดูในพจนานุกรม
02:15
(Laughter)
45
123264
1024
(เสียงหัวเราะ)
02:16
you will see that it can be defined
as both "grievous affliction,"
as both "grievous affliction,"
46
124312
4518
คุณจะพบว่า มันแปลว่า ความเจ็บปวดร้ายแรง
02:20
and, "to be very much in love."
47
128854
2851
และรักหัวปรักหัวปรำ
02:25
I tend to associate the word "smite"
with a very particular context,
with a very particular context,
48
133716
3344
ฉันพยายามเชื่อมโยงคำว่า
smite เข้ากับบริบทต่าง ๆ
smite เข้ากับบริบทต่าง ๆ
02:29
which is the Old Testament.
49
137084
1564
เช่น ในคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาเดิม
02:31
In the Book of Exodus alone,
there are 16 references to smiting,
there are 16 references to smiting,
50
139560
4748
ในหนังสือเล่มที่สองของพันธสัญญาเดิม
มี 16 ตัวอย่างที่อ้างถึงคำว่า smite
มี 16 ตัวอย่างที่อ้างถึงคำว่า smite
02:36
which is the word that the Bible uses
for the vengeance of an angry God.
for the vengeance of an angry God.
51
144332
3773
ซึ่งเป็นคำที่ไบเบิลใช้ในการล้างแค้นของพระเจ้าที่พิโรธ
02:40
(Laughter)
52
148129
1721
(เสียงหัวเราะ)
02:41
Here we are using the same word
to talk about love
to talk about love
53
149874
2705
เราก็ใช้คำคำเดียวกันนี้ พูดถึงความรัก
02:44
that we use to explain
a plague of locusts.
a plague of locusts.
54
152603
2426
และใช้อธิบายพระคัมภีร์ตอน
ภัยพิบัติจากฝูงตั๊กแตน
ภัยพิบัติจากฝูงตั๊กแตน
02:47
(Laughter)
55
155053
1028
(เสียงหัวเราะ)
02:48
Right?
56
156105
1256
ใช่ไหมคะ
02:49
So, how did this happen?
57
157385
2092
แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไร
02:51
How have we come to associate love
with great pain and suffering?
with great pain and suffering?
58
159501
3991
เราเชื่อมโยงความรัก
กับความเจ็บปวดทรมานได้อย่างไร
กับความเจ็บปวดทรมานได้อย่างไร
02:55
And why do we talk about
this ostensibly good experience
this ostensibly good experience
59
163516
3989
แล้วทำไมเราถึงผู้ถึงประสบการณ์ดีๆ แบบนี้
02:59
as if we are victims?
60
167529
2104
ราวกับว่าเราตกเป็นเหยื่อ
03:02
These are difficult questions,
61
170556
1691
นี่เป็นคำถามที่ยาก
03:04
but I have some theories.
62
172271
1646
แต่ฉันมีทฤษฎี
03:05
And to think this through,
63
173941
1239
ในการพิจารณานี้
03:07
I want to focus on one
metaphor in particular,
metaphor in particular,
64
175204
2628
ฉันจะเน้นไปที่คำเปรียบเปรยคำหนึ่ง
03:09
which is the idea of love as madness.
65
177856
2171
ที่เปรียบว่า ความรักเหมือนความคลุ้มคลั่ง
03:13
When I first started
researching romantic love,
researching romantic love,
66
181088
2707
ตอนแรกที่ฉันเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับความรัก
03:15
I found these madness
metaphors everywhere.
metaphors everywhere.
67
183819
2761
ทุกแหล่งเปรียบเปรยความรัก
เป็นความคลุ้มคลั่ง
เป็นความคลุ้มคลั่ง
03:18
The history of Western culture
68
186604
2103
ในวัฒนธรรมตะวันตก
03:20
is full of language that equates
love to mental illness.
love to mental illness.
69
188731
3937
มีการใช้ภาษาเปรียบความรัก
เหมือนความเจ็บป่วยทางจิต
เหมือนความเจ็บป่วยทางจิต
03:25
These are just a few examples.
70
193440
1927
ยกตัวอย่างสักเล็กน้อย
03:27
William Shakespeare:
71
195391
1343
วิลเลียม เชกสเปียร์กล่าวว่า
03:28
"Love is merely a madness,"
72
196758
1433
ความรักเป็นแค่เพียงความคลุ้มคลั่ง
03:30
from "As You Like It."
73
198215
1317
จากบทกวี "ตามใจท่าน"
03:32
Friedrich Nietzsche:
74
200092
1257
ฟริดริค นิตเช่ กล่าวว่า
03:33
"There is always some madness in love."
75
201373
2503
มีความบ้าคลั่งอยู่ในความรักเสมอ
03:36
"Got me looking, got me looking
so crazy in love -- "
so crazy in love -- "
76
204559
2866
รักของคุณทำให้ฉันเสียสติ
03:39
(Laughter)
77
207449
2069
(เสียงหัวเราะ)
03:41
from the great philosopher,
Beyoncé Knowles.
Beyoncé Knowles.
78
209542
2598
จากนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ บียอนเซ่ โนวส์
03:44
(Laughter)
79
212164
1461
(เสียงหัวเราะ)
03:47
I fell in love for the first
time when I was 20,
time when I was 20,
80
215083
2834
ฉันตกหลุมรักครั้งแรกตอนอายุ 20
03:49
and it was a pretty turbulent
relationship right from the start.
relationship right from the start.
81
217941
3179
เป็นความสัมพันธ์ที่วุ่นวายตั้งแต่เริ่ม
03:53
And it was long distance
for the first couple of years,
for the first couple of years,
82
221459
3205
ในสองปีแรก มันเป็นรักระยะไกล
03:56
so for me that meant very high highs
and very low lows.
and very low lows.
83
224688
4596
สำหรับฉัน มันเป็นรักที่ขึ้น ๆ ลง ๆ
04:01
I can remember one moment in particular.
84
229794
2204
ฉันจำช่วงหนึ่งได้
04:04
I was sitting on a bed
in a hostel in South America,
in a hostel in South America,
85
232580
3345
ฉันนั่งอยู่บนเตียง ที่โรงแรมในอเมริกาใต้
04:07
and I was watching the person
I love walk out the door.
I love walk out the door.
86
235949
3696
นั่งมองคนที่ฉันรักเดินออกประตูไป
04:12
And it was late,
87
240151
1613
มันดึกมากแล้ว
04:13
it was nearly midnight,
88
241788
1260
ใกล้จะเที่ยงคืน
04:15
we'd gotten into an argument over dinner,
89
243072
1977
เราทะเลาะกันตอนทานอาหารเย็น
04:17
and when we got back to our room,
90
245073
1949
และเมื่อเรากลับมาที่ห้อง
04:19
he threw his things in the bag
and stormed out.
and stormed out.
91
247046
2725
เขาโยนของใส่กระเป๋า และเดินตึงตังออกไป
04:23
While I can no longer remember
what that argument was about,
what that argument was about,
92
251141
3259
ฉันจำไม่ได้ว่าเราทะเลาะกันเรื่องอะไร
04:26
I very clearly remember
how I felt watching him leave.
how I felt watching him leave.
93
254424
4055
แต่ฉันจำได้ดีเลยว่า ฉันรู้สึกอย่างไร
ตอนมองเขาเดินออกไป
ตอนมองเขาเดินออกไป
04:31
I was 22, it was my first time
in the developing world,
in the developing world,
94
259122
3545
ตอนนั้นฉันอายุ 22 เป็นครั้งแรก
ที่ฉันมาเยือนประเทศที่กำลังพัฒนา
ที่ฉันมาเยือนประเทศที่กำลังพัฒนา
04:35
and I was totally alone.
95
263424
2255
และฉันอยู่ลำพัง
04:38
I had another week until my flight home,
96
266412
3367
อีก 1 อาทิตย์ถึงจะมีเที่ยวบินกลับบ้าน
04:41
and I knew the name
of the town that I was in,
of the town that I was in,
97
269803
2368
ฉันรู้ชื่อของเมืองที่ฉันอยู่
04:44
and the name of the city
that I needed to get to to fly out,
that I needed to get to to fly out,
98
272195
3583
และเมืองที่ฉันต้องไปเพื่อบินกลับบ้าน
04:47
but I had no idea how to get around.
99
275802
3256
แต่ฉันไม่รู้ว่าจะไปที่นั่นอย่างไร
04:51
I had no guidebook and very little money,
100
279842
3177
ฉันไม่มีคู่มือเดินทาง และมีเงินนิดเดียว
04:55
and I spoke no Spanish.
101
283043
1770
และฉันยังพูดภาษาสเปนไม่ได้
04:57
Someone more adventurous than me
102
285547
2097
คนที่บ้าบิ่นกว่าฉัน
04:59
might have seen this as
a moment of opportunity,
a moment of opportunity,
103
287668
2430
คงเห็นสถานการณ์นี้เป็นโอกาสอันดีงาม
05:02
but I just froze.
104
290122
1830
แต่ฉันตัวแข็ง
05:04
I just sat there.
105
292406
1817
ทำได้แค่นั่งอยู่ตรงนั้น
05:06
And then I burst into tears.
106
294738
2043
และร้องไห้น้ำตาแตก
05:09
But despite my panic,
107
297357
2371
แต่ถึงจะมีความตื่นตระหนก
05:11
some small voice in my head thought,
108
299752
2570
ก็ยังมีเสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นในหัวว่า
05:14
"Wow. That was dramatic.
109
302346
2337
ว้าว นี่มันดราม่าสุด ๆ
05:16
I must really be doing
this love thing right."
this love thing right."
110
304707
2699
ฉันต้องทำเรื่องความรักนี่ถูกแล้วแน่ ๆ
05:19
(Laughter)
111
307430
1788
(เสียงหัวเราะ)
05:21
Because some part of me
wanted to feel miserable in love.
wanted to feel miserable in love.
112
309242
4520
เพราะว่า ส่วนหนึ่งของฉันอยาก
ทุกข์ทรมานในรัก
ทุกข์ทรมานในรัก
05:26
And it sounds so strange
to me now, but at 22,
to me now, but at 22,
113
314226
3440
มันฟังดูแปลกสำหรับฉันในตอนนี้
แต่ตอนอายุ 22
แต่ตอนอายุ 22
05:29
I longed to have dramatic experiences,
114
317690
3145
ฉันอยากจะมีประสบการณ์ดราม่า
05:32
and in that moment, I was irrational
and furious and devastated,
and furious and devastated,
115
320859
5198
ตอนนั้น ฉันไม่มีเหตุผล
โกรธเกรี้ยว และหมดหวัง
โกรธเกรี้ยว และหมดหวัง
05:38
and weirdly enough,
116
326081
1224
และพอใจอย่างน่าประหลาด
05:39
I thought that this somehow
legitimized the feelings I had
legitimized the feelings I had
117
327329
3376
ฉันคิดว่า นี่ช่วยยืนยันความรู้สึก
05:42
for the guy who had just left me.
118
330729
1839
ที่ฉันมีต่อผู้ชายที่เพิ่งทิ้งฉันไป
05:46
I think on some level I wanted
to feel a little bit crazy,
to feel a little bit crazy,
119
334163
4363
ฉันคิดว่า ในจุดๆ หนึ่ง
ฉันอยากจะรู้สึกคลุ้มคลั่งนิดๆ
ฉันอยากจะรู้สึกคลุ้มคลั่งนิดๆ
05:50
because I thought that
that was how loved worked.
that was how loved worked.
120
338550
3532
เพราะฉันคิดว่า นั่นเป็นวิถีแห่งความรัก
05:55
This really should not be surprising,
121
343141
1807
มันไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่
05:56
considering that according to Wikipedia,
122
344972
2454
เพราะจากข้อมูลวิกีพิเดีย
05:59
there are eight films,
123
347450
2273
มีหนัง 8 เรื่อง
06:01
14 songs,
124
349747
1997
เพลง 14 เพลง
06:03
two albums and one novel
with the title "Crazy Love."
with the title "Crazy Love."
125
351768
3197
อัลบั้มเพลง 2 อัลบั้มและนิยาย 1 เรื่อง
ที่ใช้ชื่อว่า "Crazy Love"
ที่ใช้ชื่อว่า "Crazy Love"
06:07
About half an hour later,
he came back to our room.
he came back to our room.
126
355837
3126
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เขาก็กลับมาที่ห้อง
06:10
We made up.
127
358987
1151
เราคืนดีกัน
06:12
We spent another mostly
happy week traveling together.
happy week traveling together.
128
360162
2817
และใช้เวลา 1 สัปดาห์ที่เหลือ
เที่ยวกันอย่างมีความสุข
เที่ยวกันอย่างมีความสุข
06:15
And then, when I got home,
129
363003
1432
จากนั้น เมื่อฉันกลับถึงบ้าน
06:16
I thought, "That was so
terrible and so great.
terrible and so great.
130
364459
4984
ฉันก็คิดว่า นั่นมันแย่ แต่ก็วิเศษมาก
06:21
This must be a real romance."
131
369989
1715
นี่คงเป็นความโรแมนติคที่แท้จริง
06:25
I expected my first love
to feel like madness,
to feel like madness,
132
373006
2700
ฉันคาดหวังให้รักแรก ให้ความรู้สึกบ้าคลั่ง
06:27
and of course, it met
that expectation very well.
that expectation very well.
133
375730
3780
และแน่นอน มันเป็นไปอย่างที่ฉันหวัง
06:31
But loving someone like that --
134
379941
1691
แต่การรักใครซักคนแบบนั้น
06:33
as if my entire well-being depended
on him loving me back --
on him loving me back --
135
381656
4095
ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน
ขึ้นอยู่กับการที่เขารักตอบ
ขึ้นอยู่กับการที่เขารักตอบ
06:37
was not very good for me
136
385775
2093
ไม่ดีสำหรับฉัน
06:39
or for him.
137
387892
1150
หรือสำหรับเขา
06:41
But I suspect this experience of love
is not that unusual.
is not that unusual.
138
389850
3701
ฉันว่าประสบการณ์ความรักแบบนี้
ไม่ได้แปลกอะไรนัก
ไม่ได้แปลกอะไรนัก
06:46
Most of us do feel a bit mad
in the early stages of romantic love.
in the early stages of romantic love.
139
394026
4211
คนส่วนมากรู้สึกบ้าคลั่ง
ในระยะแรกๆ ของความรัก
ในระยะแรกๆ ของความรัก
06:50
In fact, there is research to confirm
that this is somewhat normal,
that this is somewhat normal,
140
398815
3816
จริง ๆ แล้ว มีงานวิจัยยืนยันว่า
มันเป็นเรื่องปกติ
มันเป็นเรื่องปกติ
06:55
because, neurochemically speaking,
141
403280
1886
เพราะสารเคมีในประสาท
06:57
romantic love and mental illness
are not that easily distinguished.
are not that easily distinguished.
142
405190
4562
ความรักและอาการป่วยทางจิต
ไม่ได้แยกออกจากกันง่ายขนาดนั้น
ไม่ได้แยกออกจากกันง่ายขนาดนั้น
07:03
This is true.
143
411046
1151
จริง ๆ นะคะ
07:04
This study from 1999 used blood tests
144
412221
4559
งานวิจัยปี 1999 ใช้ผลเลือด
07:08
to confirm that the serotonin
levels of the newly in love
levels of the newly in love
145
416804
3094
ในการยืนยันว่า ระดับสารเซอโรโทนิน
ของคนที่มีความรักใหม่ ๆ
ของคนที่มีความรักใหม่ ๆ
07:11
very closely resembled
the serotonin levels
the serotonin levels
146
419922
2797
ใกล้เคียงกับ
07:14
of people who had been diagnosed
with obsessive-compulsive disorder.
with obsessive-compulsive disorder.
147
422743
3305
คนที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ
07:18
(Laughter)
148
426072
1008
(เสียงหัวเราะ)
07:19
Yes, and low levels of serotonin
149
427104
2697
ใช่ค่ะ และระดับเซโรโทนินต่ำ
07:21
are also associated
with seasonal affective disorder
with seasonal affective disorder
150
429825
3602
นั้นเกี่ยวข้องกับโรคภาวะซึมเศร้าตามฤดูกาล
07:25
and depression.
151
433451
1280
และโรคซึมเศร้า
07:27
So there is some evidence
152
435687
2260
มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า
07:29
that love is associated with changes
to our moods and our behaviors.
to our moods and our behaviors.
153
437971
4348
ความรักเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง
ของอารมณ์และพฤติกรรม
ของอารมณ์และพฤติกรรม
07:34
And there are other studies to confirm
154
442343
4007
ยังมีงานวิจัยอื่นๆ ที่ยืนยันว่า
07:38
that most relationships begin this way.
155
446374
3690
ความสัมพันธ์ส่วนมากเริ่มต้นแบบนี้
07:42
Researchers believe
that the low levels of serotonin
that the low levels of serotonin
156
450660
4163
นักวิจัยเชื่อว่า ระดับเซโรโทนินที่ต่ำ
07:46
is correlated with obsessive thinking
about the object of love,
about the object of love,
157
454847
4035
สัมพันธ์กับอาการคิดมากเรื่องความรัก
07:50
which is like this feeling that someone
has set up camp in your brain.
has set up camp in your brain.
158
458906
4058
ซึ่งจะรู้สึกเหมือนมีคนมาตั้งแคมป์อยู่ในหัว
07:54
And most of us feel this way
when we first fall in love.
when we first fall in love.
159
462988
2931
คนส่วนมากรู้สึกแบบนี้ตอนตกหลุมรักใหม่ ๆ
07:57
But the good news is,
it doesn't always last that long --
it doesn't always last that long --
160
465943
3126
ข่าวดีก็คือ มันจะไม่คงอยู่ตลอดไป
08:01
usually from a few months
to a couple of years.
to a couple of years.
161
469093
3173
อาจอยู่ไม่กี่เดือน ถึงสองสามปี
08:05
When I got back from my trip
to South America,
to South America,
162
473352
2808
เมื่อฉันกลับมาจากทริปอเมริกาใต้
08:08
I spent a lot of time alone in my room,
163
476184
3577
ฉันใช้เวลาอยู่คนเดียวในห้อง
08:11
checking my email,
164
479785
1340
เช็กอีเมลล์
08:13
desperate to hear from the guy I loved.
165
481149
2363
หวังจะได้ข่าวจากผู้ชายที่ฉันรัก
08:16
I decided that if my friends could not
understand my grievous affliction,
understand my grievous affliction,
166
484545
5348
และคิดว่าเพื่อนๆ คงไม่เข้าใจ
ความเจ็บปวดของฉัน
ความเจ็บปวดของฉัน
08:21
then I did not need their friendship.
167
489917
1949
ดังนั้น ฉันจึงไม่ต้องการพวกเขา
08:23
So I stopped hanging out
with most of them.
with most of them.
168
491890
2083
ฉันเลิกออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ
08:26
And it was probably the most
unhappy year of my life.
unhappy year of my life.
169
494387
4194
นั่นเป็นปีที่ทุกข์ที่สุดในชีวิตของฉัน
08:31
But I think I felt like
it was my job to be miserable,
it was my job to be miserable,
170
499086
4114
แต่ฉันคิดว่าหน้าที่ของฉันคือ ต้องรู้สึกแย่
08:35
because if I could be miserable,
171
503849
1792
เพราะฉันอาจจะย่ำแย่จริง ๆ
08:37
then I would prove how much I loved him.
172
505665
2667
แล้วค่อยพิสูจน์ว่าฉันรักเขามากแค่ไหน
08:40
And if I could prove it,
173
508356
1885
และถ้าฉันสามารถพิสูจน์ได้
08:42
then we would have to end up
together eventually.
together eventually.
174
510265
2954
พวกเราก็คงกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
08:46
This is the real madness,
175
514050
2088
นี่มันบ้ามาก
08:48
because there is no cosmic rule
176
516162
2395
เพราะว่าไม่มีกฎจักรวาลข้อไหนเลย
08:50
that says that great suffering
equals great reward,
equals great reward,
177
518581
3362
ที่บอกว่าความทรมานที่ยิ่งใหญ่
จะหมายถึงรางวัลที่สวยหรู
จะหมายถึงรางวัลที่สวยหรู
08:54
but we talk about love as if this is true.
178
522478
3904
แต่พวกเราพูดถึงความรักราวกับว่า
มันเป็นสิ่งที่เป็นจริง
มันเป็นสิ่งที่เป็นจริง
08:59
Our experiences of love
are both biological and cultural.
are both biological and cultural.
179
527463
3676
ประสบการณ์ความรักของเรามีทั้งเชิง
ชีววิทยาและทางวัฒนธรรม
ชีววิทยาและทางวัฒนธรรม
09:03
Our biology tells us that love is good
180
531774
2459
ทางชีวิทวิทยากล่าวไว้ว่า "ความรักนั้นดี"
09:06
by activating these reward
circuits in our brain,
circuits in our brain,
181
534257
3154
โดยการกระตุ้นวัฏจักรรางวัลในสมองเรา
09:09
and it tells us that love is painful
when, after a fight or a breakup,
when, after a fight or a breakup,
182
537435
4620
และมันก็บอกเราว่าความรักนั้นเจ็บปวด
หลังจากการทะเลาะหรือการเลิกราจากกัน
หลังจากการทะเลาะหรือการเลิกราจากกัน
09:14
that neurochemical reward is withdrawn.
183
542079
2610
ที่ทำให้รางวัลสารเคมีในสมองนั้น
ถูกดึงกลับคืน
ถูกดึงกลับคืน
09:17
And in fact -- and maybe
you've heard this --
you've heard this --
184
545155
2442
และจริง ๆ แล้ว คุณอาจจะเคยได้ยินว่า
09:19
neurochemically speaking,
185
547621
1844
ถ้าพูดในเชิงสารเคมีในสมองแล้ว
09:21
going through a breakup is a lot
like going through cocaine withdrawal,
like going through cocaine withdrawal,
186
549489
3434
การผ่านการเลิกรามาหลายรอบ
ก็เหมือนกับการหยุดเล่นโคเคน
ก็เหมือนกับการหยุดเล่นโคเคน
09:25
which I find reassuring.
187
553675
1636
ซื่งทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจขึ้น
09:27
(Laughter)
188
555335
1150
(เสียงหัวเราะ)
09:29
And then our culture uses language
189
557066
2832
หลังจากนั้น วัฒนธรรมของเราก็ใช้ภาษา
09:31
to shape and reinforce
these ideas about love.
these ideas about love.
190
559922
2781
เพื่อทำให้ความคิดเกี่ยวกับความรักนั้น
เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
09:34
In this case, we're talking
about metaphors about pain
about metaphors about pain
191
562727
2624
ในกรณีนี้ พวกเราพูดถึงการเปรียบเปรย
ถึงความเจ็บปวด
ถึงความเจ็บปวด
09:37
and addiction and madness.
192
565375
1515
การเสพย์ติดและความบ้าคลั่ง
09:39
It's kind of an interesting feedback loop.
193
567826
2444
ซึ่งเป็นวัฏจักรที่น่าสนใจ
09:42
Love is powerful and at times painful,
194
570294
3517
ความรักนั้นยิ่งใหญ่นักแต่ก็เจ็บปวดไปด้วย
09:45
and we express this
in our words and stories,
in our words and stories,
195
573835
2765
พวกเราแสดงออกมาในคำพูดและเรื่องราวของเรา
09:49
but then our words and stories prime us
196
577182
2498
แต่คำพูดและเรื่องราวของเราเองก็ถูกบอกกล่าว
09:51
to expect love to be powerful and painful.
197
579704
3462
ให้คาดหวังว่าความรักนั้นยิ่งใหญ่และเจ็บปวด
09:55
What's interesting to me
is that all of this happens
is that all of this happens
198
583955
3173
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับฉัน คือ
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น
09:59
in a culture that values
lifelong monogamy.
lifelong monogamy.
199
587152
2723
ในวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับ
การรักคน ๆ เดียวไปทั้งชีวิต
การรักคน ๆ เดียวไปทั้งชีวิต
10:02
It seems like we want it both ways:
200
590658
2061
ราวเหมือนกับว่า เราอยากได้ทั้ง 2 อย่างเลย
10:04
we want love to feel like madness,
201
592743
2351
เราอยากให้ความรักรู้สึกเหมือนความบ้าคลั่ง
10:07
and we want it to last an entire lifetime.
202
595718
3146
และอยากให้มันคงอยู่ตลอดชีวิต
10:11
That sounds terrible.
203
599561
1563
ฟังดูแย่นะคะ
10:13
(Laughter)
204
601148
1529
(เสียงหัวเราะ)
10:15
To reconcile this,
205
603853
1596
เพื่อให้ไปด้วยกันได้
10:17
we need to either change our culture
or change our expectations.
or change our expectations.
206
605473
5025
เราต้องไม่เปลี่ยนวัฒนธรรม
ก็เปลี่ยนความคาดหวังของเรา
ก็เปลี่ยนความคาดหวังของเรา
10:23
So, imagine if we were all
less passive in love.
less passive in love.
207
611408
3593
ลองคิดตามดูว่า
ถ้าพวกเรานิ่งเฉยกับความรักน้อยลง
ถ้าพวกเรานิ่งเฉยกับความรักน้อยลง
10:27
If we were more assertive,
more open-minded, more generous
more open-minded, more generous
208
615642
4146
ถ้าพวกเราตรงไปตรงมา เปิดใจ และ ใจกว้าง
มากกว่านี้
มากกว่านี้
10:31
and instead of falling in love,
209
619812
3301
และแทนที่เราจะ "ตกหลุมรัก"
10:35
we stepped into love.
210
623137
2225
เรากลับ "เดินเข้าไปในความรัก"
10:38
I know that this is asking a lot,
211
626223
1929
ฉันรู้ดีว่านี่ขอร้องให้คุณทำเยอะมาก
10:40
but I'm not actually
the first person to suggest this.
the first person to suggest this.
212
628176
3474
แต่ฉันก็ไม่ใช่คนแรกที่แนะนำให้ทำ
10:45
In their book, "Metaphors We Live By,"
213
633012
2509
ในหนังสือ "Metaphors We Live By"
10:47
linguists Mark Johnson and George Lakoff
suggest a really interesting solution
suggest a really interesting solution
214
635545
5114
นักภาษาศาสตร์ มาร์ค จอห์นสัน และจอร์จ ลาคอฟ
แนะนำทางออกที่น่าสนใจกับ
แนะนำทางออกที่น่าสนใจกับ
10:52
to this dilemma,
215
640683
1218
ปัญหาที่ขัดแย้งกันเองนี้
10:54
which is to change our metaphors.
216
642491
2416
คือ ให้เราเปลี่ยนคำเปรียบเปรย
10:57
They argue that metaphors really do shape
the way we experience the world,
the way we experience the world,
217
645795
4417
พวกเขาแย้งว่า คำเปรียบเปรยนั้น เปลี่ยนแปลง
วิธีที่เรารับรู้สิ่งต่าง ๆ บนโลก
วิธีที่เรารับรู้สิ่งต่าง ๆ บนโลก
11:03
and that they can even act
as a guide for future actions,
as a guide for future actions,
218
651071
3498
และยังสามารถเป็นตัวชี้นำสำหรับการกระทำ
ในอนาคตต่าง ๆ
ในอนาคตต่าง ๆ
11:06
like self-fulfilling prophecies.
219
654593
1888
เช่น การทำตามคำนาย
11:09
Johnson and Lakoff suggest
a new metaphor for love:
a new metaphor for love:
220
657489
3556
จอห์นสันและลาคอฟแนะว่า
การเปรียบเปรยใหม่สำหรับความรัก
การเปรียบเปรยใหม่สำหรับความรัก
11:13
love as a collaborative work of art.
221
661977
2114
ความรัก คือ ผลงานศิลปะของการทำงานร่วมกัน
11:16
I really like this way
of thinking about love.
of thinking about love.
222
664872
3050
ฉันชอบวิธีการคิดความรักแบบนี้มาก
11:21
Linguists talk about metaphors
as having entailments,
as having entailments,
223
669028
3522
นักภาษาศาสตร์กล่าวถึงการเปรียบเปรย ว่า
สิ่งหนึ่งพอเป็นจริง อีกสิ่งก็จะจริง
สิ่งหนึ่งพอเป็นจริง อีกสิ่งก็จะจริง
11:24
which is essentially a way of considering
all the implications of,
all the implications of,
224
672574
3796
ซึ่งเป็นวิธีในการพิจารณาการใช้งานทั้งหมด
11:28
or ideas contained
within, a given metaphor.
within, a given metaphor.
225
676394
2932
หรือแนวคิดต่าง ๆ เบื้องหลังการเปรียบเปรย
11:31
And Johnson and Lakoff
talk about everything
talk about everything
226
679350
2909
และจอห์นสันกับลาคอฟฟก็ได้พูดทุกอย่างแล้ว
11:34
that collaborating
on a work of art entails:
on a work of art entails:
227
682283
2152
ว่าผลงานศิลปะของการทำงานร่วมมือกันจะทำให้
11:36
effort, compromise,
patience, shared goals.
patience, shared goals.
228
684976
4155
ความพยายาม การประนีประนอม
ความอดทน เป้าหมายร่วม เกิดขึ้นพร้อมกัน
ความอดทน เป้าหมายร่วม เกิดขึ้นพร้อมกัน
11:41
These ideas align nicely
with our cultural investment
with our cultural investment
229
689655
3830
ความคิดเหล่านี้เรียงตัวอย่างสวยงามกับ
วัฒนธรรมของเรา
วัฒนธรรมของเรา
11:45
in long-term romantic commitment,
230
693509
2073
ในความสัมพันธ์ระยะยาว
11:47
but they also work well
for other kinds of relationships --
for other kinds of relationships --
231
695606
3611
และยังไปได้ดีกับความสัมพันธ์รูปแบบอื่นด้วย
11:52
short-term, casual, polyamorous,
non-monogamous, asexual --
non-monogamous, asexual --
232
700020
5656
ไม่ว่าจะระยะสั้น แบบเพื่อน หลากคู่นอน ไม่
รักแค่คนเดียวและไม่มีเพศสัมพันธ์มาเกี่ยว
รักแค่คนเดียวและไม่มีเพศสัมพันธ์มาเกี่ยว
11:57
because this metaphor brings
much more complex ideas
much more complex ideas
233
705700
3885
เพราะการเปรียบเปรยนี้
ทำให้เกิดความคิดที่ซับซ้อนมากขึ้น
ทำให้เกิดความคิดที่ซับซ้อนมากขึ้น
12:01
to the experience of loving someone.
234
709609
2040
ในการรักใครซักคน
12:04
So if love is a collaborative work of art,
235
712670
4394
ฉะนั้นแล้ว ถ้าความรัก คือ
ผลงานศิลปะของการร่วมมือกัน
ผลงานศิลปะของการร่วมมือกัน
12:09
then love is an aesthetic experience.
236
717088
3412
ความรักก็คือประสบการณ์ที่สวยงาม
12:13
Love is unpredictable,
237
721524
1895
ไม่สามารถคาดเดาได้
12:16
love is creative,
238
724153
2024
มีความคิดสร้างสรรค์
12:18
love requires communication
and discipline,
and discipline,
239
726898
4133
ความรักต้องการการสื่อสารและ
การฝึกให้สามารถควบคุมตัวเองได้
การฝึกให้สามารถควบคุมตัวเองได้
12:23
it is frustrating
and emotionally demanding.
and emotionally demanding.
240
731055
3189
แน่นอน มันน่าผิดหวัง
และใช้อารมณ์ร่วมเยอะมาก
และใช้อารมณ์ร่วมเยอะมาก
12:26
And love involves both joy and pain.
241
734677
3350
และความรักยังมีทั้ง
ความเพลิดเพลินและความเจ็บปวด
ความเพลิดเพลินและความเจ็บปวด
12:30
Ultimately, each experience
of love is different.
of love is different.
242
738742
3619
สุดท้ายแล้ว ประสบการณ์แต่ละคนในความรัก
แตกต่างกันหมด
แตกต่างกันหมด
12:35
When I was younger,
243
743759
1627
ตอนที่ฉํนยังเด็กกว่านี้
12:37
it never occurred to me that I was allowed
to demand more from love,
to demand more from love,
244
745410
4668
การที่ฉันต้องการมากขึ้นจากความรักนั้น
ไม่เคยเกิดขึ้นกับฉันเลย
ไม่เคยเกิดขึ้นกับฉันเลย
12:42
that I didn't have to just accept
whatever love offered.
whatever love offered.
245
750102
3693
ฉันไม่เคยต้องยอมรับสิ่งใด ๆ
ที่รักนำพามาให้
ที่รักนำพามาให้
12:46
When 14-year-old Juliet first meets --
246
754775
3329
ตอนที่จูเลียตที่อายุ 14 พอเจอกับ
12:50
or, when 14-year-old Juliet
cannot be with Romeo,
cannot be with Romeo,
247
758128
3925
หรือตอนที่จูเลียตไม่สามารถพบเจอกับโรมิโอ
12:54
whom she has met four days ago,
248
762077
2637
คนที่เธอเพิ่งได้เจอเมื่อ 4 วันก่อนหน้านี้
12:56
she does not feel disappointed or angsty.
249
764738
3810
เธอไม่รู้สึกผิดหวังหรือไม่สบายใจ
13:01
Where is she?
250
769022
1357
แล้วเธออยู่ไหนละ
13:02
She wants to die.
251
770403
1294
เธอต้องการตาย
13:04
Right?
252
772236
1151
ใช่ไหมคะ
13:05
And just as a refresher,
at this point in the play,
at this point in the play,
253
773411
2469
และเพื่อเตือนความจำ ถ้ามาถึงตอนนี้ของละคร
13:07
act three of five,
254
775904
1308
ตอนที่ 3 จากทั้งหมด 5
13:09
Romeo is not dead.
255
777236
1821
โรมิโอยังไม่ตาย
13:11
He's alive,
256
779641
1340
เขายังมีชีวิตอยู่
13:13
he's healthy,
257
781005
1388
ยังสุขภาพดี
13:14
he's just been banished from the city.
258
782417
2194
แค่เขาถูกเนรเทศออกจากเมือง
13:17
I understand that 16th-century Verona
is unlike contemporary North America,
is unlike contemporary North America,
259
785853
6001
ฉันเข้าใจว่าเมืองเวโรน่า ศตวรรษที่ 16
ยังไม่เหมือนกับอเมริกาเหมือนยุคร่วมสมัย
ยังไม่เหมือนกับอเมริกาเหมือนยุคร่วมสมัย
13:23
and yet when I first read this play,
260
791878
2978
และตอนแรกที่ฉันได้อ่านบทละครนี้
13:26
also at age 14,
261
794880
2393
ฉันก็อายุ 14 เช่นเดียวกัน
13:29
Juliet's suffering made sense to me.
262
797297
2683
ความทรมานของจูเลียตดูสมเหตุสมผลสำหรับฉัน
13:33
Reframing love as something
I get to create with someone I admire,
I get to create with someone I admire,
263
801295
5357
การตีกรอบความรักใหม่ ฉันได้สรรค์สร้าง
คนที่ฉันสามารถชื่นชม
คนที่ฉันสามารถชื่นชม
13:38
rather than something
that just happens to me
that just happens to me
264
806676
2444
แทนที่จะเป็นบางอย่างที่แค่เกิดขึ้นกับฉัน
13:41
without my control or consent,
265
809144
2522
โดยไร้การควบคุมหรือความเห็นชอบ
13:43
is empowering.
266
811690
1605
มันทำให้มั่นใจนะ
13:45
It's still hard.
267
813779
1618
แต่มันยังคงยาก
13:47
Love still feels totally maddening
and crushing some days,
and crushing some days,
268
815421
5532
ความรักยังทำให้รู้สึกโกรธและย่ำแย่ในบางวัน
13:52
and when I feel really frustrated,
269
820977
2115
และเมื่อฉันรู้สึกผิดหวัง
13:55
I have to remind myself:
270
823116
1330
ฉันต้องเตือนตัวเองว่า
13:56
my job in this relationship
is to talk to my partner
is to talk to my partner
271
824995
3344
หน้าที่ของฉันในความสัมพันธ์นี้
คือ การคุยกับคู่ของฉัน
คือ การคุยกับคู่ของฉัน
14:00
about what I want to make together.
272
828363
2051
ว่าอะไรคือสิ่งที่เราอยากทำไปด้วยกัน
14:03
This isn't easy, either.
273
831923
2334
แน่นอน ไม่ได้ง่ายเลย
14:06
But it's just so much better
than the alternative,
than the alternative,
274
834756
3447
แต่ก็ยังดีกว่าทางเลือกอีกทาง
14:10
which is that thing
that feels like madness.
that feels like madness.
275
838672
2777
ซึ่งคือสิ่งที่รู้สึกได้ว่าบ้าคลั่ง
14:14
This version of love is not about winning
or losing someone's affection.
or losing someone's affection.
276
842839
5357
ความรักรูปแบบนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเอาชนะ
หรือการสูญเสียความชื่นชอบในใครซักคน
หรือการสูญเสียความชื่นชอบในใครซักคน
14:20
Instead, it requires
that you trust your partner
that you trust your partner
277
848761
3598
แต่กลับกัน คุณต้องเชื่อใจในคู่ของคุณ
14:24
and talk about things
when trusting feels difficult,
when trusting feels difficult,
278
852383
3074
และพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ
เมื่อการเชื่อใจมันยากขึ้น
เมื่อการเชื่อใจมันยากขึ้น
14:27
which sounds so simple,
279
855481
2446
ซึ่งมันฟังดูง่าย
14:29
but is actually a kind
of revolutionary, radical act.
of revolutionary, radical act.
280
857951
4496
แต่จริง ๆ เป็นการกระทำที่
เปลี่ยนแปลงและมีเหตุผลซะด้วยซ้ำ
เปลี่ยนแปลงและมีเหตุผลซะด้วยซ้ำ
14:35
This is because you get to stop
thinking about yourself
thinking about yourself
281
863062
3264
นี่เป็นเพราะว่าคุณได้หยุด
และคิดเรื่องตัวเอง
และคิดเรื่องตัวเอง
14:39
and what you're gaining
or losing in your relationship,
or losing in your relationship,
282
867230
3141
และสิ่งที่คุณได้หรือสูญเสียในความสัมพันธ์
14:42
and you get to start thinking
about what you have to offer.
about what you have to offer.
283
870395
3397
และคุณได้เริ่มคิดเรื่องสิ่งที่
คุณสามารถให้ได้
คุณสามารถให้ได้
14:46
This version of love
allows us to say things like,
allows us to say things like,
284
874811
3405
ความรักรูปแบบนี้ทำให้เราสามารถพูดแบบที่ว่า
14:50
"Hey, we're not very good collaborators.
Maybe this isn't for us."
Maybe this isn't for us."
285
878240
4830
"เฮ้ พวกเราไม่ได้ทำงานร่วมกันดีเลย
บางที เราอาจจะไม่ได้เหมาะสมกันจริง ๆ"
บางที เราอาจจะไม่ได้เหมาะสมกันจริง ๆ"
14:55
Or, "That relationship
was shorter than I had planned,
was shorter than I had planned,
286
883733
3861
หรือ "ความสัมพันธ์ครั้งนั้น
สั้นกว่าที่ฉันวางแผนไว้อีก
สั้นกว่าที่ฉันวางแผนไว้อีก
14:59
but it was still kind of beautiful."
287
887618
2172
แต่มันก็ยังสวยงามอยู่นะ
15:02
The beautiful thing
about the collaborative work of art
about the collaborative work of art
288
890836
2790
สิ่งที่สวยงามเกี่ยวกับผลงานศิลปะ
ที่มาจากการร่วมมือกัน
ที่มาจากการร่วมมือกัน
15:05
is that it will not paint
or draw or sculpt itself.
or draw or sculpt itself.
289
893650
2891
ไม่ได้ถูกสรรค์สร้างด้วยตัวของมันเอง
15:09
This version of love allows us
to decide what it looks like.
to decide what it looks like.
290
897098
3911
แต่ความรักรูปแบบนี้ เราสามารถเลือกได้ว่า
มันจะออกมารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
มันจะออกมารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
15:13
Thank you.
291
901033
1151
ขอบคุณค่ะ
15:14
(Applause)
292
902208
2023
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Mandy Len Catron - WriterMandy Len Catron explores love stories.
Why you should listen
Originally from Appalachian Virginia, Mandy Len Catron is a writer living and working in Vancouver, British Columbia. Her book How to Fall in Love with Anyone, is available for preorder on Amazon. Catron's writing has appeared in the New York Times, The Washington Post, and The Walrus, as well as literary journals and anthologies. She writes about love and love stories at The Love Story Project and teaches English and creative writing at the University of British Columbia. Her article "To Fall in Love with Anyone, Do This" was one of the most popular articles published by the New York Times in 2015.
Mandy Len Catron | Speaker | TED.com