TEDGlobal 2012
Mina Bissell: Experiments that point to a new understanding of cancer
มีนา บิซเซลล์ (Mina Bissell): การทดลองที่นำไปสู่ความเข้าใจใหม่เรื่องมะเร็ง
Filmed:
Readability: 3.4
1,094,158 views
ด้วยเวลาหลายทศวรรษ นักวิจัยนาม มีนา บิซเซลล์ ไล่ตามแนวคิดปฏิวัติที่ว่า เซลล์มะเร็งไม่ได้กลายเป็นเนื้อร้ายได้โดยตัวมันเอง แต่มันพึ่งพาเซลล์รอบๆมัน (สภาพแวดล้อมระดับจุลภาค) เพื่อเป็นตัวบอกให้มันพัฒนาไปเช่นไร เธอแบ่งปันงานทดลองสำคัญ 2 ชิ้น ที่พิสูจน์ว่าความเชื่อปัจจุบันเกี่ยวการการเติบโตของมะเร็งนั้นผิด
Mina Bissell - Cancer Researcher
Mina Bissell studies how cancer interacts with our bodies, searching for clues to how cancer's microenvironment influences its growth. Full bio
Mina Bissell studies how cancer interacts with our bodies, searching for clues to how cancer's microenvironment influences its growth. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:16
Now, I don't usually like cartoons,
0
432
2722
ปกติฉันไม่ชอบการ์ตูน
00:19
I don't think many of them are funny,
1
3154
2510
ฉันคิดว่าส่วนใหญ่แล้วมันไม่ค่อยตลก
00:21
I find them weird. But I love this cartoon from the New Yorker.
2
5664
5223
ฉันว่ามันพิลึก แต่ฉันชอบรูปการ์ตูนจาก
เดอะนิวยอร์กเกอร์รูปนี้
เดอะนิวยอร์กเกอร์รูปนี้
00:26
(Text: Never, ever think outside the box.) (Laughter)
3
10887
2612
(ข้อความ: อย่าแม้แต่จะคิดออกนอกกรอบเชียวนะ)
(เสียงหัวเราะ)
(เสียงหัวเราะ)
00:29
So, the guy is telling the cat,
4
13499
2469
ชายคนนี้กำลังบอกแมวของเขาว่า
00:31
don't you dare think outside the box.
5
15968
5371
อย่าแม้แต่จะคิด [ถ่ายมูล] นอก"กล่อง"เชียวนะ
00:37
Well, I'm afraid I used to be the cat.
6
21339
3307
เอาล่ะ ฉันเกรงว่าฉันคงจะเคยเป็นแมวตัวนั้น
00:40
I always wanted to be outside the box.
7
24646
3058
ฉันต้องการจะออกนอกกรอบมาตลอด
00:43
And it's partly because I came to this field
8
27704
3482
และส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะฉันมาทำงานในสายนี้
00:47
from a different background, chemist and a bacterial geneticist.
9
31186
5213
โดยมีพื้นฐานที่แตกต่าง คือเป็นนักเคมี
และนักพันธุศาสตร์แบคทีเรีย
และนักพันธุศาสตร์แบคทีเรีย
00:52
So, what people were saying to me
10
36399
2602
สิ่งที่ผู้คนบอกกับฉัน
00:54
about the cause of cancer, sources of cancer,
11
39001
3191
เกี่ยวกับสาเหตุของมะเร็ง ต้นเหตุของมะเร็ง
00:58
or, for that matter, why you are who you are,
12
42192
3081
หรือทำไมคุณจึงเป็นเช่นที่เป็นอยู่
01:01
didn't make sense.
13
45273
1874
มันฟังดูแล้วไม่สมเหตุผลเอาเลย
01:03
So, let me quickly try and tell you why I thought that
14
47147
3047
เอาล่ะ ให้ดิฉันบอกคุณว่าทำไมฉันคิดเช่นนั้น
01:06
and how I went about it.
15
50194
2601
และฉันทำอย่างไร
01:08
So, to begin with, however,
16
52795
2432
ก่อนจะเริ่ม
01:11
I have to give you a very, very quick lesson
17
55227
4426
ฉันต้องให้บทเรียนสั้นๆ แก่คุณ
01:15
in developmental biology,
18
59653
1767
ในด้านชีววิทยาการเจริญ
01:17
with apologies to those of you who know some biology.
19
61420
4062
และต้องขออภัยสำหรับผู้ที่รู้เรื่องชีววิทยาอยู่แล้ว
01:21
So, when your mom and dad met,
20
65482
3014
เมื่อแม่และพ่อของคุณพบกัน
01:24
there is a fertilized egg,
21
68496
2674
มีไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิ
01:27
that round thing with that little blip.
22
71170
2121
ก้อนกลมๆ ที่มีตุ่มเล็กๆ
01:29
It grows and then it grows,
23
73291
3055
มันโตขึ้น และโตขึ้นเรื่อยๆ
01:32
and then it makes this handsome man.
24
76346
4153
และจากนั้นก็กลายมาเป็นหนุ่มรูปงามคนนี้
01:36
(Applause)
25
80499
1415
(เสียงปรบมือ)
01:37
So, this guy, with all the cells in his body,
26
81914
5658
ชายคนนี้ พร้อมด้วยเซลล์ในร่างกายของเขา
01:43
all have the same genetic information.
27
87572
4212
ล้วนมีรหัสพันธุกรรมเดียวกัน
01:47
So how did his nose become his nose, his elbow his elbow,
28
91784
4375
แล้วทำไมจมูกจึงกลายมาเป็นจมูก
ข้อศอก จึงกลายมาเป็นข้อศอก
ข้อศอก จึงกลายมาเป็นข้อศอก
01:52
and why doesn't he get up one morning
29
96159
2176
และทำไมเขาไม่ตื่นมาเช้าวันหนึ่ง
01:54
and have his nose turn into his foot?
30
98335
2560
แล้วพบว่าจมูกเขากลายเป็นเท้าล่ะ ?
01:56
It could. It has the genetic information.
31
100895
3240
มันอาจเป็นได้ เพราะมันมีรหัสพันธุกรรมเดียวกัน
02:00
You all remember, dolly,
32
104135
1208
ทุกคนคงจำแกะดอลลี่ได้
02:01
it came from a single mammary cell.
33
105343
2681
มันเกิดจากเซลล์เต้านมเพียงเซลล์เดียว
02:03
So, why doesn't it do it?
34
108024
1934
แล้วทำไมไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นเล่า ?
02:05
So, have a guess of how many cells he has in his body.
35
109958
5503
ลองทายซิคะ ว่ามีเซลล์ในร่างกายเขากี่เซลล์
02:11
Somewhere between 10 trillion to 70 trillion cells in his body.
36
115461
7402
อยู่แถวๆ 10 ล้านล้าน ถึง 70 ล้านล้านเซลล์ในร่างกาย
02:18
Trillion!
37
122863
1640
ล้านล้านเชียวนะคะ !
02:20
Now, how did these cells, all with the same genetic material,
38
124503
4638
ทีนี้ ทำไมเซลล์เหล่านี้ ที่มีรหัสพันธุกรรมเดียวกัน
02:25
make all those tissues?
39
129141
2208
ถึงกลายมาเป็นเนื้อเยื่อต่างๆได้ ?
02:27
And so, the question I raised before
40
131349
3144
และคำถามที่ฉันถามไว้ก่อนหน้านี้
02:30
becomes even more interesting if you thought about
41
134493
3614
มันยิ่งน่าสนใจมากขึ้น ถ้าคุณคิดถึง
02:34
the enormity of this in every one of your bodies.
42
138107
4586
ว่ามีเซลล์มหาศาลแค่ไหนในร่างกายของคุณแต่ละคน
02:38
Now, the dominant cancer theory would say
43
142693
3000
ทีนี้ทฤษฎีหลักๆ เกี่ยวกับมะเร็งบอกว่า
02:41
that there is a single oncogene
44
145693
2312
มันมียีนมะเร็ง (oncogene) อยู่ตัวหนึ่ง
02:43
in a single cancer cell, and it would make you
45
148005
3704
ในเซลล์มะเร็งเซลล์หนึ่ง และมันจะทำให้คุณ
02:47
a cancer victim.
46
151709
2649
กลายเป็นเหยื่อของมะเร็ง
02:50
Well, this did not make sense to me.
47
154358
3666
มันฟังดูไม่สมเหตุผลเลยสำหรับฉัน
02:53
Do you even know how a trillion looks?
48
158024
3182
คุณรู้หรือเปล่า ว่าล้านล้านมันเยอะแค่ไหน
02:57
Now, let's look at it.
49
161206
1719
ลองมาดูกัน
02:58
There it comes, these zeroes after zeroes after zeroes.
50
162925
5041
นี่ไงคะ เลขศูนย์ตัวแล้วตัวเล่า
03:03
Now, if .0001 of these cells got mutated,
51
167966
6818
ดังนั้น ถ้า 0.0001 ในเซลล์เหล่านี้เกิดกลายพันธุ์
03:10
and .00001 got cancer, you will be a lump of cancer.
52
174784
5257
และ 0.00001 กลายเป็นมะเร็ง
พวกคุณทุกคนคงจะกลายเป็นก้อนมะเร็ง
พวกคุณทุกคนคงจะกลายเป็นก้อนมะเร็ง
03:15
You will have cancer all over you. And you're not.
53
180041
2296
คุณคงจะมีมะเร็งเต็มไปหมดทั้งตัว
แต่จริงๆแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้น
แต่จริงๆแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้น
03:18
Why not?
54
182337
2309
ทำไมล่ะ ?
03:20
So, I decided over the years,
55
184646
3722
ฉันปักใจเชื่อ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
03:24
because of a series of experiments
56
188368
1928
จากข้อมูลการทดลองหลายครั้ง
03:26
that this is because of context and architecture.
57
190296
4880
ว่ามะเร็งมีสาเหตุจากบริบทและโครงสร้าง
03:31
And let me quickly tell you
58
195176
2177
ให้ฉันพูดให้ฟังแบบเร็วๆ
03:33
some crucial experiment that was able to actually show this.
59
197353
3927
ถึงการทดลองสำคัญๆ ที่สามารถแสดงให้เห็นได้
03:37
To begin with, I came to work with this virus
60
201280
3911
เริ่มต้นจาก ฉันได้ศึกษาไวรัสตัวหนึ่ง
03:41
that causes that ugly tumor in the chicken.
61
205191
3393
ที่เป็นสาเหตุของเนื้องอกที่น่าเกลียดในไก่
03:44
Rous discovered this in 1911.
62
208584
3360
เราส์ (Rous) ค้นพบมันในปี 1911
03:47
It was the first cancer virus discovered,
63
211944
3565
มันเป็นไวรัสมะเร็งตัวแรกที่ถูกค้นพบ
03:51
and when I call it "oncogene," meaning "cancer gene."
64
215509
4891
และถ้าฉันพูดถึง ออนโคยีน (oncogene)
มันหมายถึง ยีนมะเร็ง
มันหมายถึง ยีนมะเร็ง
03:56
So, he made a filtrate, he took this filter
65
220400
2912
เขาได้สารที่คัดกรองแล้ว โดยใช้ที่กรองนี้
03:59
which was the liquid after he passed the tumor through a filter,
66
223312
4256
ซึ่งเป็นของเหลวที่ได้หลังจากเขาเอาเนื้องอกกดผ่านที่กรอง
04:03
and he injected it to another chicken, and he got another tumor.
67
227568
4001
เขาฉีดมันเข้าไปในไก่อีกตัวหนึ่ง แล้วไก่อีกตัวก็เกิดเนื้องอก
04:07
So, scientists were very excited,
68
231569
2711
เหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างตื่นเต้นกันมาก
04:10
and they said, a single oncogene can do it.
69
234280
2168
และเขาบอกว่ายีนมะเร็งแค่ตัวเดียว
ก็สามารถทำให้เกิดมะเร็งได้
ก็สามารถทำให้เกิดมะเร็งได้
04:12
All you need is a single oncogene.
70
236448
2296
คุณต้องการยีนมะเร็งเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น
04:14
So, they put the cells in cultures, chicken cells,
71
238744
2895
ดังนั้น เขาจึงเอาเซลล์ของไก่ไปเพาะเลี้ยง
04:17
dumped the virus on it,
72
241639
2035
เทไวรัสลงไป
04:19
and it would pile up,
73
243674
1449
และมันจะโตกองสูงขึ้นมา
04:21
and they would say, this is malignant and this is normal.
74
245123
3021
และเขาจะบอกว่านี่คือเนื้อร้าย และนี่ก็เป็นปกติ
04:24
And again this didn't make sense to me.
75
248144
2018
และก็อีกนั่นแหละ มันฟังดูไม่มีเหตุผลเลยสำหรับฉัน
04:26
So for various reasons, we took this oncogene,
76
250162
3286
ด้วยสาเหตุอะไรหลายอย่าง เราเอายีนมะเร็งตัวนี้
04:29
attached it to a blue marker,
77
253448
2312
ติดเครื่องหมาย (marker) สีน้ำเงิน
04:31
and we injected it into the embryos.
78
255760
3008
และฉีดมันเข้าไปในตัวอ่อน
04:34
Now look at that. There is that beautiful feather in the embryo.
79
258768
4193
ลองดูสิ มันมีขนนกสวยๆอยู่ในตัวอ่อน
04:38
Every one of those blue cells are a cancer gene
80
262961
4279
ทุกเซลล์ที่เป็นสีน้ำเงินมียีนมะเร็ง
04:43
inside a cancer cell, and they're part of the feather.
81
267240
4416
ที่อยู่ภายในเซลล์มะเร็ง และมันเป็นส่วนหนึ่งของขนนก
04:47
So, when we dissociated the feather and put it in a dish,
82
271656
4600
เมื่อเราแยกส่วนที่เป็นขนนกออก
แล้วเอามาเลี้ยงในจานทดลอง
แล้วเอามาเลี้ยงในจานทดลอง
04:52
we got a mass of blue cells.
83
276256
2712
เราได้ก้อนของเซลล์สีน้ำเงิน
04:54
So, in the chicken you get a tumor,
84
278968
1466
ดังนั้น ในไก่คุณพบเนื้องอก
04:56
in the embryo you don't,
85
280434
1704
แต่ในตัวอ่อนคุณไม่พบ
04:58
you dissociate, you put it in a dish, you get another tumor.
86
282138
3992
ถ้าคุณแยกมันออกมา เอามาเลี้ยงในจานทดลอง
คุณได้เนื้องอกอีกก้อนหนึ่ง
คุณได้เนื้องอกอีกก้อนหนึ่ง
05:02
What does that mean?
87
286130
1223
มันแปลว่าอะไร ?
05:03
That means that microenvironment
88
287353
2984
นี่แปลว่าสภาวะแวดล้อมระดับจุลภาค
05:06
and the context which surrounds those cells
89
290337
4009
และบริบทที่แวดล้อมเซลล์เหล่านั้นอยู่
05:10
actually are telling the cancer gene and the cancer cell what to do.
90
294346
6927
จริงๆ แล้วเป็นตัวบอกยีนมะเร็งและเซลล์มะเร็ง
ว่าให้ทำอะไร
ว่าให้ทำอะไร
05:17
Now, let's take a normal example.
91
301273
3312
ทีนี้ ลองเอาตัวอย่างปกติ
05:20
The normal example, let's take the human mammary gland.
92
304585
3185
ตัวอย่างปกติ ลองเอาต่อมน้ำนมของมนุษย์
05:23
I work on breast cancer.
93
307770
1480
ฉันศึกษามะเร็งเต้านม
05:25
So, here is a lovely human breast.
94
309250
3007
นี่คือทรวงอกอันสวยงามของมนุษย์
05:28
And many of you know how it looks,
95
312257
1948
หลายๆคนรู้ว่ามันรูปร่างอย่างไร
05:30
except that inside that breast, there are all these
96
314205
2853
แต่ในภายเต้านมนั้น มันมีสิ่งเหล่านี้อยู่
05:32
pretty, developing, tree-like structures.
97
317058
3377
มีโครงสร้างรูปร่างอันสวยงามคล้ายต้นไม้ที่กำลังเติบโต
05:36
So, we decided that what we like to do
98
320435
2898
ดังนั้น เราตัดสินใจ ว่าสิ่งที่เราจะทำ
05:39
is take just a bit of that mammary gland,
99
323333
2960
คือเอาเนื้อเยื่อบางส่วนจากต่อมน้ำนม
05:42
which is called an "acinus,"
100
326293
2032
ที่เรียกว่าแอซินัส (acinus; กระเปาะของเซลล์)
05:44
where there are all these little things inside the breast
101
328325
3641
ซึ่งภายในเต้านมมีสิ่งเล็กๆนี้ เต็มไปหมด
05:47
where the milk goes, and the end of the nipple
102
331966
3543
ที่ซึ่งน้ำนมไหล ไปจนสุดที่หัวนม
05:51
comes through that little tube when the baby sucks.
103
335509
3544
ผ่านท่อเล็กๆ เมื่อทารกดูด
05:54
And we said, wonderful! Look at this pretty structure.
104
339053
3407
และเราบอกว่า วิเศษ! ดูโครงสร้างที่สวยงามนี่สิ
05:58
We want to make this a structure, and ask the question,
105
342460
3769
เราอยากทำโครงสร้างแบบนี้บ้าง และต้องตั้งคำถามว่า
06:02
how do the cells do that?
106
346229
1704
พวกเซลล์ทำแบบนั้นได้อย่างไร
06:03
So, we took the red cells --
107
347933
1792
เรานำเหล่าเซลล์สีแดง
06:05
you see the red cells are surrounded by blue,
108
349725
3248
คุณเห็นเซลล์สีแดงถูกล้อมรอบด้วยเซลล์สีน้ำเงิน
06:08
other cells that squeeze them, and behind it
109
352973
3329
เซลล์อื่นๆ ที่บีบพวกมันไว้ และด้านหลัง
06:12
is material that people thought was mainly inert,
110
356302
3718
คือวัสดุที่ผู้คนคิดว่ามันไม่มีบทบาท
06:15
and it was just having a structure to keep the shape,
111
360020
3597
และมันมีไว้เป็นโครงสร้างเพื่อรักษารูปทรง
06:19
and so we first photographed it
112
363617
2928
และขั้นแรกเราถ่ายภาพมันเก็บไว้
06:22
with the electron microscope years and years ago,
113
366545
2768
ด้วยกล้องอิเล็คตรอนกำลังขยายสูงเมื่อหลายปีก่อน
06:25
and you see this cell is actually quite pretty.
114
369313
3056
และคุณจะเห็นว่าเซลล์นี้จริงๆ แล้วสวยงามทีเดียว
06:28
It has a bottom, it has a top,
115
372369
2463
มันมีด้านล่าง มีด้านบน
06:30
it is secreting gobs and gobs of milk,
116
374832
2681
มันกำลังหลั่งนมออกมามากมาย
06:33
because it just came from an early pregnant mouse.
117
377513
3192
เพราะมันเพิ่งเอามาจากหนูที่เพิ่งตั้งท้อง
06:36
You take these cells, you put them in a dish,
118
380705
2327
คุณเอาเซลล์เหล่านี้ เอามันใส่ไว้ในจาน
06:38
and within three days, they look like that.
119
383032
3345
และภายในสามวัน มันกลายเป็นแบบนั้น
06:42
They completely forget.
120
386377
3160
มันลืมสนิท
06:45
So you take them out, you put them in a dish,
121
389537
2800
คุณเอามันออกมา เอาใส่ในจานทดลอง
06:48
they don't make milk. They completely forget.
122
392337
2663
มันไม่ผลิตนม มันลืมสนิท
06:50
For example, here is a lovely yellow droplet of milk
123
395000
4899
ยกตัวอย่าง นี่คือหยดน้ำนมน้อยๆ สีเหลือง
06:55
on the left, there is nothing on the right.
124
399899
2255
ทางด้านซ้าย และไม่มีอะไรอยู่ทางด้านขวา
06:58
Look at the nuclei. The nuclei in the cell on the left
125
402154
3729
ดูที่นิวเคลียส นิวเคลียสในเซลล์ทางซ้าย
07:01
is in the animal, the one on the right is in a dish.
126
405883
3496
คือสภาพตอนที่อยู่ในหนู ส่วนทางด้านขวาคือที่อยู่ในจาน
07:05
They are completely different from each other.
127
409379
2736
ทั้งสองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
07:08
So, what does this tell you?
128
412115
2025
แล้วนี่มันบอกอะไรเรา?
07:10
This tells you that here also, context overrides.
129
414140
4967
มันบอกคุณว่า นี่เช่นกันที่บริบทสำคัญกว่า
07:15
In different contexts, cells do different things.
130
419107
3385
ในบริบทที่ต่างกัน เซลล์ทำสิ่งที่ต่างกัน
07:18
But how does context signal?
131
422492
2745
แต่บริบทสื่อสารได้อย่างไร?
07:21
So, Einstein said that
132
425237
2542
ไอน์สไตน์กล่าวว่า
07:23
"For an idea that does not first seem insane, there is no hope."
133
427779
6653
"แนวคิดที่ในตอนแรกฟังดูแล้วไม่เหมือนบ้า
นั้นมันสิ้นหวังแล้ว"
นั้นมันสิ้นหวังแล้ว"
07:30
So, you can imagine the amount of skepticism
134
434432
5960
ดังนั้นคุณจึงจินตนาการได้ถึงความเคลือบแคลง
07:36
I received -- couldn't get money,
135
440392
2401
ที่ฉันได้รับ -- ไม่ได้รับเงิน
07:38
couldn't do a whole lot of other things,
136
442793
1943
ทำอย่างอื่นๆ ไม่ได้อีกมากมาย
07:40
but I'm so glad it all worked out.
137
444736
1729
แต่ฉันดีใจมากที่มันออกมาได้สวย
07:42
So, we made a section of the mammary gland of the mouse,
138
446465
3815
ดังนั้นเราจึงตัดต่อมน้ำนมของหนู
07:46
and all those lovely acini are there,
139
450280
3183
พร้อมด้วยเหล่ากระเปาะของเซลล์ที่น่ารัก
07:49
every one of those with the red around them are an acinus,
140
453463
4211
ทุกๆ อันที่มีสีแดงๆ อยู่รอบๆ นั่นคือกระเปาะของเซลล์
07:53
and we said okay, we are going to try and make this,
141
457674
3694
และเราบอกว่า เราจะลองสร้างมันดู
07:57
and I said, maybe that red stuff
142
461368
3232
และฉันพูดว่า บางทีเจ้าสีแดงๆ
08:00
around the acinus that people think there's just a structural scaffold,
143
464600
5125
ที่อยู่รอบๆ กระเปาะของเซลล์
ที่ผู้คนคิดว่ามันเป็นแค่โครงสร้าง
ที่ผู้คนคิดว่ามันเป็นแค่โครงสร้าง
08:05
maybe it has information,
144
469725
1940
บางทีมันมีข้อมูลอยู่
08:07
maybe it tells the cells what to do, maybe it tells the nucleus what to do.
145
471665
4566
บางทีมันบอกเหล่าเซลล์ว่าต้องทำอะไร
บางทีมันบอกนิวเคลียสว่าต้องทำอะไร
บางทีมันบอกนิวเคลียสว่าต้องทำอะไร
08:12
So I said, extracellular matrix, which is this stuff
146
476231
4283
ฉันจึงพูดว่า
เจ้าสิ่งนี้ ซึ่งก็คือสารเคลือบเซลล์ (extracellular matrix)
เจ้าสิ่งนี้ ซึ่งก็คือสารเคลือบเซลล์ (extracellular matrix)
08:16
called ECM, signals and actually tells the cells what to do.
147
480514
4391
เรียกสั้นๆ ว่า ECM
ส่งสัญญาณบอกเหล่าเซลล์ว่าต้องทำอะไร
ส่งสัญญาณบอกเหล่าเซลล์ว่าต้องทำอะไร
08:20
So, we decided to make things that would look like that.
148
484905
3767
เราตัดสินใจจะสร้างบางสิ่งที่ดูเหมือนเช่นนั้น
08:24
We found some gooey material
149
488672
2880
เราพบวัสดุเหนียวๆ บางอย่าง
08:27
that had the right extracellular matrix in it,
150
491552
2875
ที่มีส่วนผสมของสารเคลือบเซลล์พอเหมาะ
08:30
we put the cells in it, and lo and behold,
151
494427
2539
เราเอาเซลล์ใส่เข้าไปในนั้นและเผ้าดู
08:32
in about four days, they got reorganized
152
496966
2821
ภายในสี่วัน มันจัดเรียงตัวใหม่
08:35
and on the right, is what we can make in culture.
153
499787
3408
ทางขวามือ คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นโดยการเพาะเลี้ยง
08:39
On the left is what's inside the animal, we call it in vivo,
154
503195
4496
ทางซ้ายมือคือตัวอย่างที่อยู่ในตัวสัตว์
ที่เราเรียกว่า อิน วีโว (in vivo,)
ที่เราเรียกว่า อิน วีโว (in vivo,)
08:43
and the one in culture was full of milk,
155
507691
2584
และตัวอย่างที่อยู่ในจานเพาะเลี้ยงนั้นเต็มไปด้วยนม
08:46
the lovely red there is full of milk.
156
510275
2800
เจ้าสีแดงๆ น่ารักเหล่านั้นเต็มไปด้วยนม
08:48
So, we Got Milk, for the American audience.
157
513075
3416
เรา "ได้นม" มาแล้ว สำหรับผู้ชมชาวอเมริกัน
[Got Milk?; โครงการรณรงค์ดื่มนมของอเมริกา] นะคะ
[Got Milk?; โครงการรณรงค์ดื่มนมของอเมริกา] นะคะ
08:52
All right. And here is this beautiful human cell,
158
516491
5344
เอาล่ะ และนี่คือเซลล์มนุษย์อันสวยงาม
08:57
and you can imagine that here also, context goes.
159
521835
4946
และคุณคงคาดได้เช่นกันว่า บริบทนั้นมีความสำคัญ
09:02
So, what do we do now?
160
526781
2716
แล้วจะทำอย่างไรต่อ?
09:05
I made a radical hypothesis.
161
529497
2224
ฉันตั้งสมมติฐานที่ค่อนข้างแหวกแนว
09:07
I said, if it's true that architecture is dominant,
162
531721
6663
ฉันกล่าวว่า ถ้าเป็นจริงว่าโครงสร้างนั้นมีอำนาจเหนือกว่า
09:14
architecture restored to a cancer cell
163
538384
4486
โครงสร้างจะต้องคืนสภาพแก่เซลล์มะเร็งด้วย
09:18
should make the cancer cell think it's normal.
164
542870
2989
ต้องทำให้เซลล์มะเร็งคิดว่ามันปกติ
09:21
Could this be done?
165
545859
1484
สิ่งนี้จะเป็นไปได้หรือไม่?
09:23
So, we tried it.
166
547343
2528
ดังนั้นเราจึงลองทำมัน
09:25
In order to do that, however,
167
549871
2038
เพื่อที่จะทำเช่นนั้น
09:27
we needed to have a method of distinguishing normal from malignant,
168
551909
4885
เราต้องมีวิธีเพื่อใช้แยกระหว่างเนื้อดี และเนื้อร้าย
09:32
and on the left is the single normal cell,
169
556794
3997
ทางซ้ายนี้เป็นเซลล์ปกติเซลล์หนึ่ง
09:36
human breast, put in three-dimensional gooey gel
170
560791
3963
จากเต้านมของมนุษย์ ใส่ไว้ในเจลเหนียวๆ
09:40
that has extracellular matrix, it makes all these beautiful structures.
171
564754
3864
ที่มีสารเคลือบเซลล์มันสร้างโครงสร้างอันสวยงาม
09:44
On the right, you see it looks very ugly,
172
568618
2888
ทางขวา คุณจะเห็นว่ามันดูอัปลักษณ์
09:47
the cells continue to grow,
173
571506
1648
เหล่าเซลล์ขยายตัวไปเรื่อยๆ
09:49
the normal ones stop.
174
573154
1576
แต่เซลล์ปกติจะหยุดขยายตัว
09:50
And you see here in higher magnification
175
574730
2832
และที่กำลังขยายสูงคุณจะเห็น
09:53
the normal acinus and the ugly tumor.
176
577562
4352
กระเปาะเซลล์ปกติ และเนื้อร้ายอัปลักษณ์
09:57
So we said, what is on the surface of these ugly tumors?
177
581914
4224
อะไรอยู่บนผิวของเนื้อร้ายน่าเกลียดนี้
10:02
Could we calm them down --
178
586138
2168
เราจะทำให้มันสงบลงได้อย่างไร
10:04
they were signaling like crazy and they have pathways all messed up --
179
588306
4920
มันส่งสัญญาณกันแบบบ้าคลั่ง
และเส้นทางสื่อสารของมันยุ่งเหยิงไปหมด
และเส้นทางสื่อสารของมันยุ่งเหยิงไปหมด
10:09
and make them to the level of the normal?
180
593226
3064
ทำให้มันสงบลงอยู่ในระดับเป็นปกติ
10:12
Well, it was wonderful. Boggles my mind.
181
596290
4720
นี่มันสวยงามมาก ฉันทึ่งมาก
10:16
This is what we got.
182
601010
2161
นี่คือสิ่งที่เราได้
10:19
We can revert the malignant phenotype.
183
603171
3679
เราสามารถคืนสภาพของเนื้อร้ายได้
10:22
(Applause)
184
606850
2568
(เสียงปรบมือ)
10:25
And in order to show you that the malignant phenotype
185
609418
3112
และเพื่อที่จะเอาตัวอย่างที่มีลักษณะเป็นเนื้อร้าย
ชิ้นนั้นมาให้คุณดู
ชิ้นนั้นมาให้คุณดู
10:28
I didn't just choose one,
186
612530
1718
ฉันไม่ได้เลือกมาแค่ตัวอย่างเดียว
10:30
here are little movies, sort of fuzzy,
187
614248
2770
นี่คือหนังสั้นๆ ออกจะพร่ามัวหน่อย
10:32
but you see that on the left are the malignant cells,
188
617018
3656
แต่คุณจะเห็นว่าทางซ้ายคือเซลล์มะเร็ง
10:36
all of them are malignant,
189
620674
1344
ทั้งหมดนั้นคือมะเร็ง
10:37
we add one single inhibitor in the beginning,
190
622018
4800
เราใส่สารยับยั้งเข้าไปตัวหนึ่งในตอนเริ่มต้น
10:42
and look what happens, they all look like that.
191
626818
3457
และดูสิ่งที่เกิดขึ้นสิคะ มันเป็นอย่างนั้นทั้งหมด
10:46
We inject them into the mouse, the ones on the right,
192
630275
3447
เราฉีดเซลล์ทางด้านขวาเข้าไปในตัวหนู
10:49
and none of them would make tumors.
193
633722
2240
ไม่มีเซลล์ไหนเลยที่ก่อให้เกิดเนื้อร้าย
10:51
We inject the other ones in the mouse, 100 percent tumors.
194
635962
3536
เราฉีดเซลล์อีกกลุ่มหนึ่งเข้าไปในตัวหนู
ผลคือ 100% กลายเป็นเนื้อร้าย
ผลคือ 100% กลายเป็นเนื้อร้าย
10:55
So, it's a new way of thinking about cancer,
195
639498
2672
ดังนั้น มันจึงเป็นมุมมองใหม่เกี่ยวกับมะเร็ง
10:58
it's a hopeful way of thinking about cancer.
196
642170
2400
มันเป็นวิธีที่เต็มไปด้วยความหวังเกี่ยวกับมะเร็ง
11:00
We should be able to be dealing with these things at this level,
197
644570
3976
เราน่าจะสามารถจัดการพวกมันได้ที่ระดับนี้
11:04
and these conclusions say that growth and malignant behavior
198
648546
5912
และบทสรุปเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า
การเติบโตและพฤติกรรมเนื้อร้าย
การเติบโตและพฤติกรรมเนื้อร้าย
11:10
is regulated at the level of tissue organization
199
654458
3872
ถูกควบคุมในระดับการจัดเรียงตัวของเนื้อเยื่อ
11:14
and that the tissue organization is dependent
200
658330
3992
และการจัดเรียงตัวของเนื้อเยื่อนั้นขึ้นอยู่
11:18
on the extracellular matrix and the microenvironment.
201
662322
3696
กับสารเคลือบเซลล์
และสภาพแวดล้อมระดับจุลภาค
และสภาพแวดล้อมระดับจุลภาค
11:21
All right, thus form and function interact dynamically and reciprocally.
202
666018
7631
ดังนั้น รูปแบบและหน้าที่จึงมีปฏิสัมพันธ์
อย่างต่อเนื่องและอาศัยซึ่งกันและกัน
อย่างต่อเนื่องและอาศัยซึ่งกันและกัน
11:29
And here is another five seconds of repose,
203
673649
4120
และนี่คือการพักสั้นๆ 5 วินาที
11:33
is my mantra. Form and function.
204
677769
4422
มันคือมนตราของฉัน รูปแบบและหน้าที่
11:38
And of course, we now ask, where do we go now?
205
682191
3646
และแน่นอน คำถามต่อไปสำหรับพวกเรา
คือเราจะทำอะไรต่อ?
คือเราจะทำอะไรต่อ?
11:41
We'd like to take this kind of thinking into the clinic.
206
685837
2995
เราอยากเอาแนวคิดนี้ไปใช้กับการรักษา
11:44
But before we do that, I'd like you to think
207
688832
3924
แต่ก่อนจะทำอย่างนั้น ฉันอยากให้คุณคิด
11:48
that at any given time when you're sitting there,
208
692756
3588
ว่าในทุกๆ ขณะที่คุณนั่งอยู่ตรงนี้
11:52
in your 70 trillion cells,
209
696344
3013
ในทั้ง 70 ล้านล้านเซลล์ของคุณ
11:55
the extracellular matrix signaling to your nucleus,
210
699357
3473
สารเคลือบเซลล์กำลังส่งสัญญาณไปยังนิวเคลียส
11:58
the nucleus is signaling to your extracellular matrix
211
702830
3078
นิวเคลียสก็ส่งสัญญาณไปยังสารเคลือบเซลล์
12:01
and this is how your balance is kept and restored.
212
705908
5994
นี่คือวิธีที่สมดุลของคุณคงอยู่และฟื้นคืนกลับมา
12:07
We have made a lot of discoveries,
213
711902
2215
เราได้ค้นพบมากมาย
12:10
we have shown that extracellular matrix talks to chromatin.
214
714117
3088
เราได้แสดงให้เห็นว่าสารเคลือบเซลล์
นั้นสื่อสารกับโครมาตินได้
นั้นสื่อสารกับโครมาตินได้
12:13
We have shown that there's little pieces of DNA
215
717205
3447
เราแสดงให้เห็นว่ามันมีส่วนเล็กๆ ในดีเอ็นเอ
12:16
on the specific genes of the mammary gland
216
720652
3823
ในยีนบางตัวของต่อมน้ำนม
12:20
that actually respond to extracellular matrix.
217
724475
2864
ที่จริงๆ แล้วตอบสนองต่อสารเคลือบเซลล์
12:23
It has taken many years, but it has been very rewarding.
218
727339
3697
มันต้องใช้เวลานานหลายปี แต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่า
12:26
And before I get to the next slide, I have to tell you
219
731036
4391
และก่อนที่ฉันจะไปยังสไลด์ถัดไป ฉันต้องขอบอกว่า
12:31
that there are so many additional discoveries to be made.
220
735427
5112
มีการยังมีค้นพบเพิ่มเติมอีกมากมาย
12:36
There is so much mystery we don't know.
221
740539
2528
ยังมีปริศนาอีกมากมายที่เรายังไม่รู้
12:38
And I always say to the students and post-docs I lecture to,
222
743067
4361
และฉันมักบอกนักเรียนและนักวิจัยหลังปริญญาเอก
ที่ฉันสอนเสมอๆ ว่า
ที่ฉันสอนเสมอๆ ว่า
12:43
don't be arrogant, because arrogance kills curiosity.
223
747428
5663
อย่าหยิ่งยโส เพราะความหยิ่ง
ทำลายความกระหายใคร่รู้
ทำลายความกระหายใคร่รู้
12:48
Curiosity and passion.
224
753091
2192
ความกระหายใคร่รู้และความหลงใหล
12:51
You need to always think, what else needs to be discovered?
225
755283
3897
คุณจะต้องคิดตลอดเวลา ว่าเราจะต้องค้นคว้าอะไรอีก
12:55
And maybe my discovery needs to be added to
226
759180
2975
และบางที การค้นพบของฉันจะต้องเพิ่มอะไรเข้าไป
12:58
or maybe it needs to be changed.
227
762155
1792
บางทีมันอาจจะต้องถูกเปลี่ยนแปลง
12:59
So, we have now made an amazing discovery,
228
763947
3504
ตอนนี้เราได้ค้นพบยิ่งใหญ่
13:03
a post-doc in the lab who is a physicist asked me,
229
767451
3104
นักวิจัยหลังปริญญาเอกคนหนึ่ง
ในห้องทดลองของฉันถามว่า
ในห้องทดลองของฉันถามว่า
13:06
what do the cells do when you put them in?
230
770555
2177
พวกเซลล์เหล่านั้นมันทำอะไรเมื่อคุณใส่มันเข้าไป?
13:08
What do they do in the beginning when they do?
231
772732
3294
พวกเซลล์เหล่านั้นมันทำอะไรเมื่อคุณใส่มันเข้าไป?
13:11
I said, I don't know, we couldn't look at them.
232
776026
1481
ฉันบอกว่าฉันไม่รู้ เรามองมันไม่เห็น
13:13
We didn't have high images in the old days.
233
777507
2593
เราไม่มีเครื่องมือถ่ายภาพความละเอียดสูงในสมัยนั้น
13:16
So she, being an imager and a physicist,
234
780100
2695
ดังนั้นเธอ ในฐานะนักถ่ายภาพและแพทย์
13:18
did this incredible thing.
235
782795
1744
จึงทำสิ่งน่าเหลือเชื่อนี้
13:20
This is a single human breast cell in three dimensions.
236
784539
4376
นี่คือเซลล์เต้านมของมนุษย์เซลล์หนึ่ง
ในแบบสามมิติ
ในแบบสามมิติ
13:24
Look at it. It's constantly doing this.
237
788915
2528
ดูสิคะ มันทำแบบนี้ตลอดเวลาเลย
13:27
Has a coherent movement.
238
791443
2096
มันเคลื่อนที่ไปพร้อมๆ กันอย่างเป็นระเบียบ
13:29
You put the cancer cells there, and they do go all over,
239
793539
4334
คุณเอาเซลล์มะเร็งใส่เข้าไป มันวิ่งไปทั่วเลย
13:33
they do this. They don't do this.
240
797873
1904
มันทำแบบนี้
มันไม่ใช่แบบนี้
มันไม่ใช่แบบนี้
13:35
And when we revert the cancer cell, it again does this.
241
799777
4008
และเมื่อเราย้อนสภาพเซลล์มะเร็ง
มันกลับมาทำแบบนี้ได้อีก
มันกลับมาทำแบบนี้ได้อีก
13:39
Absolutely boggles my mind.
242
803785
2184
ฉันทึ่งมาก
13:41
So the cell acts like an embryo. What an exciting thing.
243
805969
5344
ดังนั้น เซลล์ทำตัวเหมือนตัวอ่อน
ช่างเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นจริงๆ
ช่างเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นจริงๆ
13:47
So I'd like to finish with a poem.
244
811313
2856
ฉันอยากจบการบรรยายด้วยบทกลอน
13:50
Well I used to love English literature,
245
814169
3064
คือฉันเคยหลงใหลวรรณกรรมอังกฤษมาก
13:53
and I debated in college, which one should I do?
246
817233
2607
และฉันลังเลตอนเรียนมหาลัย
ว่าฉันจะเลือกสายไหนดี
ว่าฉันจะเลือกสายไหนดี
13:55
And unfortunately or fortunately, chemistry won.
247
819840
4612
และโชคไม่ดี หรืออาจเป็นโชคดี ที่ด้านเคมีชนะ
14:00
But here is a poem from Yeats. I'll just read you the last two lines.
248
824452
5724
นี่คือกลอนจากยีทส์ (Yeats)
ฉันจะอ่านแค่สองบรรทัดท้ายนะคะ
ฉันจะอ่านแค่สองบรรทัดท้ายนะคะ
14:06
It's called "Among the School Children."
249
830176
2659
มันชื่อว่า "ในหมู่เด็กนักเรียน"
14:08
"O body swayed to music / O brightening glance /
250
832835
4521
"โอ้ ร่างกายร่ายรำตามทำนอง
โอ้ แววตาอันเป็นประกายเมียงมอง
โอ้ แววตาอันเป็นประกายเมียงมอง
14:13
How [can we know] the dancer from the dance?"
251
837356
3150
นักเต้นและท่ารำร่าย จะแยกจากกันได้เช่นไร?"
14:16
And here is Merce Cunningham,
252
840506
1911
และนี่คือ เมิร์ซ คันนิงแฮม (Merce Cunningham)
14:18
I was fortunate to dance with him when I was younger,
253
842417
2984
ฉันโชคดีมากที่ได้เต้นกับเขาเมื่อตอนฉันอายุน้อยกว่านี้
14:21
and here he is a dancer,
254
845401
2193
ในรูปนี้เขาเป็นนักเต้น
14:23
and while he is dancing, he is both the dancer and the dance.
255
847594
3304
เมื่อเขากำลังเต้น เขาเป็นทั้งนักเต้นและการเต้น
14:26
The minute he stops, we have neither.
256
850898
3701
เมื่อใดที่เขาหยุด เขาจะไม่เป็นทั้งสองอย่าง
14:30
So it's like form and function.
257
854599
3474
มันจึงเหมือนรูปแบบและหน้าที่
14:33
Now, I'd like to show you a current picture of my group.
258
858073
5779
ตอนนี้ฉันอยากให้คุณเห็นภาพกลุ่มวิจัยของฉัน
14:39
I have been fortunate to have had these magnificant
259
863852
3528
ฉันโชคดีมากที่ได้ร่วมงานกันนักเรียน
และนักวิจัยหลังปริญญาเอก
และนักวิจัยหลังปริญญาเอก
14:43
students and post-docs who have taught me so much,
260
867380
3224
ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ ผู้ซึ่งสอนฉันมากมาย
14:46
and I have had many of these groups come and go.
261
870604
3263
และฉันมีหลายหลายกลุ่มเช่นนี้เข้ามาและจากไป
14:49
They are the future and I try to make them not be afraid
262
873867
4577
พวกเขาคืออนาคต และฉันพยายามที่จะไม่ให้พวกเขากลัว
14:54
of being the cat and being told,
263
878444
3703
ที่จะเป็นแมวที่ถูกบอกว่า
14:58
don't think outside the box.
264
882147
1593
อย่าคิดออกนอกกรอบ
14:59
And I'd like to leave you with this thought.
265
883740
2495
และฉันอยากจะทิ้งข้อคิด
15:02
On the left is water coming through the shore,
266
886235
4745
ทางด้านซ้ายคือภาพน้ำที่บรรจบกับฝั่ง
15:06
taken from a NASA satellite.
267
890980
1895
ถ่ายจากดาวเทียมนาซ่า
15:08
On the right, there is a coral.
268
892875
3049
ทางขวาคือปะการัง
15:11
Now if you take the mammary gland and spread it
269
895924
4002
ถ้าคุณเอาต่อมน้ำนมแล้วแผ่มันออก
15:15
and take the fat away, on a dish it looks like that.
270
899926
3445
เอาไขมันออกไม บนจานทดลองมันจะเป็นแบบนี้
15:19
Do they look the same? Do they have the same patterns?
271
903371
3352
มันเหมือนกันไหม? มันมีแบบแผนเดียวกันไหม?
15:22
Why is it that nature keeps doing that over and over again?
272
906723
3952
ทำไมธรรมชาติถึงทำอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
15:26
And I'd like to submit to you
273
910675
2360
และฉันอยากให้คุณทราบว่า
15:28
that we have sequenced the human genome,
274
913035
2177
เราได้ถอดรหัสพันธุกรรมมนุษ์
15:31
we know everything about the sequence of the gene,
275
915212
2880
เรารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับลำดับยีน
15:33
the language of the gene, the alphabet of the gene,
276
918092
2431
ภาษาแห่งยีน ตัวอักษรแห่งยีน
15:36
But we know nothing, but nothing,
277
920523
3239
แต่เรายังไม่รู้อะไรเลย แม้สักนิดเดียว
15:39
about the language and alphabet of form.
278
923762
4663
เกี่ยวกับภาษาและอักษรแห่งรูปแบบ
15:44
So, it's a wonderful new horizon,
279
928425
3044
มันเป็นดินแดนใหม่ที่วิเศษ
15:47
it's a wonderful thing to discover for the young
280
931469
3750
มันเป็นสิ่งวิเศษสุด ที่ได้ค้นพบเพื่อเด็กๆ
15:51
and the passionate old, and that's me.
281
935219
2480
และเพื่อผู้ใหญ่ที่ยังหลงใหลมัน
ซึ่งนั่นก็คือฉันเอง
ซึ่งนั่นก็คือฉันเอง
15:53
So go to it!
282
937699
2048
ดังนั้น รีบลงมือค่ะ!
15:55
(Applause)
283
939747
11500
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Mina Bissell - Cancer ResearcherMina Bissell studies how cancer interacts with our bodies, searching for clues to how cancer's microenvironment influences its growth.
Why you should listen
Mina Bissell's groundbreaking research has proven that cancer is not only caused by cancer cells. It is caused by an interaction between cancer cells and the surrounding cellular micro-environment. In healthy bodies, normal tissue homeostasis and architecture inhibit the progression of cancers. But changes in the microenvironment--following an injury or a wound for instance--can shift the balance. This explains why many people harbor potentially malignant tumors in their bodies without knowing it and never develop cancer, and why tumors often develop when tissue is damaged or when the immune system is suppressed.
The converse can also be true. In a landmark 1997 experiment, mutated mammary cells, when dosed with an antibody and placed into a normal cellular micro-environment, behaved normally. This powerful insight from Bissell's lab may lead to new ways of treating existing and preventing potential cancers.
Mina Bissell | Speaker | TED.com