TEDxSydney
Rachel Botsman: The case for collaborative consumption
เรเชล บอตส์แมน: เรื่องราวของการ "บริโภคที่อยู่บนพื้นฐานของการร่วมมือกัน"
Filmed:
Readability: 4.7
1,352,497 views
ณ TEDxSydney, เรเชล บอตส์แมนกล่าวว่าเรา "เชื่อมต่อกันเพื่อแบ่งปัน" -- และแสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์อย่าง Zipcar และ Swaptree กำลังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ไปอย่างสิ้นเชิง
Rachel Botsman - Trust researcher
Rachel Botsman is a recognized expert on how collaboration and trust enabled by digital technologies will change the way we live, work, bank and consume. Full bio
Rachel Botsman is a recognized expert on how collaboration and trust enabled by digital technologies will change the way we live, work, bank and consume. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
So today I'm going to talk to you
0
0
2000
วันนี้ดิฉันจะพูดให้คุณฟัง
00:17
about the rise of collaborative consumption.
1
2000
3000
เกี่ยวกับปรากฎการ "บริโภคอย่างร่วมมือกัน" ที่เพิ่มมากขึ้น
00:20
I'm going to explain what it is
2
5000
2000
ดิฉันจะอธิบายให้ฟังว่ามันคืออะไร
00:22
and try and convince you -- in just 15 minutes --
3
7000
3000
และพยายามจะทำให้คุณเชื่อ -- ใน 15 นาทีนี้ --
00:25
that this isn't a flimsy idea,
4
10000
2000
ว่านี่ไม่ใช่ความคิดที่เหลาะแหละ
00:27
or a short-term trend,
5
12000
2000
หรือความนิยมในช่วงสั้นๆ
00:29
but a powerful cultural and economic force
6
14000
3000
แต่เป็นแรงผลักดันทางวัฒนธรรมและเศรษฐศาสตร์ที่ทรงพลัง
00:32
reinventing not just what we consume,
7
17000
2000
สรรค์สร้างไม่เพียงแต่สิ่งที่เราบริโภค
00:34
but how we consume.
8
19000
2000
แต่รวมถึงวิธีการบริโภคของเราด้วย
00:36
Now I'm going to start with a deceptively simple example.
9
21000
3000
ดิฉันจะเริ่มจากตัวอย่างง่ายๆ
00:39
Hands up -- how many of you
10
24000
3000
ยกมือขึ้นค่ะ -- ใครที่มี
00:42
have books, CDs, DVDs, or videos
11
27000
3000
หนังสือ ซีดี ดีวีดี หรือวีดีโอ
00:45
lying around your house
12
30000
2000
กระจัดกระจายอยู่เต็มบ้าน
00:47
that you probably won't use again,
13
32000
2000
ที่คุณคงไม่ได้ใช้มันอีก
00:49
but you can't quite bring yourself to throw away?
14
34000
2000
แต่คุณก็ไม่อยากทิ้งมันไปซะทีเดียว
00:52
Can't see all the hands,
15
37000
2000
ดิฉันมองไม่ค่อยชัดนะคะ
00:54
but it looks like all of you, right?
16
39000
2000
แต่เหมือนจะยกมือกันทุกคนเลย
00:56
On our shelves at home,
17
41000
2000
บนชั้นวางที่บ้านของเรา
00:58
we have a box set of the DVD series "24,"
18
43000
3000
เรามีเซ็ทดีวีดีละครเรื่อง "24" --
01:01
season six to be precise.
19
46000
2000
season ที่สอง
01:03
I think it was bought for us around three years ago for a Christmas present.
20
48000
3000
ถ้าฉันจำไม่ผิดเราได้มันมาเป็นของขวัญคริสมาสต์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว
01:06
Now my husband, Chris, and I
21
51000
2000
สามี ลูกของฉัน และตัวดิฉันเอง
01:08
love this show.
22
53000
2000
รักละครชุดนี้มาก
01:10
But let's face it, when you've watched it once maybe, or twice,
23
55000
3000
แต่พูดกันตามตรง พอเราดูจบสักรอบ หรือสองรอบ
01:13
you don't really want to watch it again,
24
58000
2000
เราก็ไม่อยากดูมันอีกเลย
01:15
because you know how Jack Bauer is going to defeat the terrorists.
25
60000
3000
เพราะคุณรู้แล้วว่า แจ๊ค บอเออร์จะจัดการกับพวกผู้ก่อการร้ายอย่างไร
01:18
So there it sits on our shelves
26
63000
2000
มันเลยถูกตั้งอยู่บนชั้นอย่างนั้น
01:20
obsolete to us,
27
65000
2000
เป็นโบราณวัตถุไปแล้ว
01:22
but with immediate latent value to someone else.
28
67000
3000
แต่สำหรับผู้อื่นแล้ว มันก็มีคุณค่าซ่อนเร้นขึ้นมาในทันที
01:25
Now before we go on, I have a confession to make.
29
70000
3000
ก่อนที่ดิฉันจะพูดต่อ ดิฉันมีเรื่องจะสารภาพ
01:28
I lived in New York for 10 years,
30
73000
2000
ดิฉันอาศัยอยู่ในนิวยอร์คมา 10 ปีแล้ว
01:30
and I am a big fan of "Sex and the City."
31
75000
3000
และฉันก็เป็นแฟนตัวยงของ Sex and the City
01:33
Now I'd love to watch the first movie again
32
78000
2000
และตอนนี้ฉันก็อยากจะดูหนังภาคแรกอีกครั้ง
01:35
as sort of a warm-up to the sequel coming out next week.
33
80000
3000
เพื่ออุ่นเครื่องก่อนชมภาคสองที่กำลังจะเข้าฉายอาทิตย์หน้า
01:38
So how easily could I swap
34
83000
2000
แล้วมันยากง่ายแค่ไหนที่ฉันจะแลก
01:40
our unwanted copy of "24"
35
85000
2000
ดีวีดีเรื่อง "24" ที่ดิฉันไม่ต้องการแล้ว
01:42
for a wanted copy of "Sex and the City?"
36
87000
3000
เพื่อแลกกับ "Sex and the City"?
01:45
Now you may have noticed
37
90000
2000
ถึงตอนนี้คุณน่าจะสังเกตเห็นแล้ว
01:47
there's a new sector emerging called swap-trading.
38
92000
2000
มีภาคเศรษฐกิจใหม่เกิดขึ้น ชื่อว่า "การแลกเปลี่ยนแบบยื่นหมูยื่นแมว"
01:49
Now the easiest analogy for swap-trading
39
94000
3000
ถ้าจะเปรียบเทียบกันตรงๆ
01:52
is like an online dating service
40
97000
2000
มันก็เหมือนบริการจัดหาคู่ออนไลน์
01:54
for all your unwanted media.
41
99000
2000
สำหรับสื่อทั้งปวงที่คุณไม่ต้องการแล้ว
01:56
What it does is use the Internet
42
101000
2000
มันเกิดขึ้นได้จากการใช้อินเตอร์เน็ต
01:58
to create an infinite marketplace
43
103000
2000
เพื่อสร้างพื้นที่ตลาดที่ไม่มีขีดจำกัด
02:00
to match person A's "haves"
44
105000
2000
เพื่อจับคู่สิ่งที่ คุณ ก. มี
02:02
with person C's "wants,"
45
107000
2000
กับสิ่งที่ คุณ ค. ต้องการ
02:04
whatever they may be.
46
109000
2000
ซึ่งจะเป็นอะไรก็ได้
02:06
The other week, I went on one of these sites,
47
111000
3000
อาทิตย์ที่ก่อน ดิฉันเข้าไปในเว็บไซต์เหล่านี้
02:09
appropriately called Swaptree,
48
114000
3000
ซึ่งมีชื่ออย่างเหมาะสมว่า Swaptree (ต้นไม้แห่งการแลกเปลี่ยน)
02:12
and there were over 59,300 items
49
117000
3000
ในนั้นมีสิ่งของมากกว่า 59,300 ชิ้น
02:15
that I could instantly swap
50
120000
2000
ที่ดิฉันสามารถขอแลกเปลี่ยนได้ทันที
02:17
for my copy of "24."
51
122000
3000
เพื่อแลกกับดีวีดี "24" ของดิฉัน
02:20
Lo and behold,
52
125000
2000
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
02:22
there in Reseda, CA was Rondoron
53
127000
2000
ในเรเซดา, แคลิฟอร์เนีย
02:24
who wanted swap his or her
54
129000
2000
มีคนที่ต้องการแลก
02:26
"like new" copy of "Sex and the City"
55
131000
2000
หนังเรื่อง "Sex and the City" ใหม่เอี่ยมของเขา
02:28
for my copy of "24."
56
133000
3000
กับดีวีดีเรื่อง "24" ของดิฉัน
02:31
So in other words, what's happening here
57
136000
2000
ดิฉันจะบอกให้ว่าเกิดอะไรขึ้น
02:33
is that Swaptree
58
138000
2000
Swaptree ได้สนองปัญหา
02:35
solves my carrying company's sugar rush problem,
59
140000
2000
ความอยากของดิฉัน
02:37
a problem the economists call "the coincidence of wants,"
60
142000
3000
ซึ่งเป็นปัญหาที่นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่า "ความต้องการที่บังเอิญตรงกัน"
02:40
in approximately 60 seconds.
61
145000
3000
ภายในเวลา 60 วินาที
02:43
What's even more amazing is it will print out a purchase label on the spot,
62
148000
3000
สิ่งที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าก็คือ มันจะพิมพ์ข้อมูลการแลกเปลี่ยนได้ทันที
02:46
because it knows the weight of the item.
63
151000
2000
เพราะมันรู้น้ำหนักของสิ่งของชิ้นนั้น
02:48
Now there are layers of technical wonder
64
153000
2000
มันมีความมหัศจรรย์ทางเทคนิคหลายอย่าง
02:50
behind sites such as Swaptree,
65
155000
3000
ภายใต้เว็บไซต์อย่าง Swaptree
02:53
but that's not my interest,
66
158000
2000
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดิฉันสนใจ
02:55
and nor is swap trading, per se.
67
160000
3000
และก็ไม่ใช่ในเนื้อในของการแลกเปลี่ยนด้วย
02:58
My passion, and what I've spent the last few years
68
163000
2000
ความหลงใหลของฉัน และสิ่งที่ฉันใช้เวลาหลายปีที่ผ่านมา
03:00
dedicated to researching,
69
165000
2000
เพื่อค้นคว้าวิจัย
03:02
is the collaborative behaviors and trust-mechanics
70
167000
3000
ก็คือพฤติกรรมการร่วมมือกัน และกลไกในการให้ความไว้วางใจ
03:05
inherent in these systems.
71
170000
3000
ที่มีอยู่ในระบบเหล่านี้
03:08
When you think about it,
72
173000
2000
เมื่อคุณลองมาคิดถึงมัน
03:10
it would have seemed like a crazy idea, even a few years ago,
73
175000
3000
มันคงเป็นความคิดที่บ้ามาก
03:13
that I would swap my stuff with a total stranger
74
178000
3000
ที่ฉันจะยอมแลกของของดิฉันกับคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย
03:16
whose real name I didn't know
75
181000
2000
ผู้ซึ่งดิฉันไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อจริง
03:18
and without any money changing hands.
76
183000
3000
และไม่มีการแลกเปลี่ยนเงินทอง
03:21
Yet 99 percent of trades on Swaptree
77
186000
2000
แต่ 99 เปอร์เซ็นต์ของการแลกเปลี่ยนบน Swaptree
03:23
happen successfully,
78
188000
2000
ก็เกิดขึ้นอย่างไม่มีปัญหา
03:25
and the one percent that receive a negative rating,
79
190000
2000
และ 1 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือที่ได้เรตติ้งที่ไม่ดี
03:27
it's for relatively minor reasons,
80
192000
2000
ก็เกิดจากปัญหาเล็กน้อย
03:29
like the item didn't arrive on time.
81
194000
3000
เช่นความล่าช้าในการส่งสิ่งของ
03:32
So what's happening here?
82
197000
3000
นี่มันกำลังเกิดอะไรขึ้น?
03:35
An extremely powerful dynamic
83
200000
2000
พลวัตที่ทรงพลังมาก
03:37
that has huge commercial and cultural implications
84
202000
3000
ซึ่งมีความนัยต่อการค้าและวัฒนธรรม
03:40
is at play.
85
205000
2000
กำลังเกิดขึ้น
03:42
Namely, that technology
86
207000
2000
เทคโนโลยีนั้น
03:44
is enabling
87
209000
2000
กำลังเปิดช่องทาง
03:46
trust between strangers.
88
211000
2000
ให้ความไว้วางใจระหว่างคนแปลกหน้าสองคนเกิดขึ้น
03:48
We now live in a global village
89
213000
2000
เรากำลังอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ชื่อว่าโลก
03:50
where we can mimic the ties
90
215000
2000
ซึ่งเราสามารถเลียนแบบความสัมพันธ์
03:52
that used to happen face to face,
91
217000
3000
ที่เคยเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อเราเผชิญหน้ากัน
03:55
but on a scale and in ways
92
220000
2000
ขยายเป็นขอบเขตที่ใหญ่ขึ้น
03:57
that have never been possible before.
93
222000
2000
ซึ่งแต่ก่อนคงเป็นไปไม่ได้
03:59
So what's actually happening
94
224000
2000
เราจะเห็นว่า
04:01
is that social networks and real-time technologies
95
226000
2000
เครือข่ายสังคม (หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ค) และเทคโนโลยีแบบเรียลไทม์
04:03
are taking us back.
96
228000
2000
กำลังนำพาเรากลับไปในอดีต
04:05
We're bartering, trading,
97
230000
2000
เรากำลังเจรจา, ค้าขาย,
04:07
swapping, sharing,
98
232000
2000
แลกเปลี่ยน, แบ่งปัน
04:09
but they're being reinvented
99
234000
2000
แต่สิ่งเหล่านี้กำลังถูกสร้างสรรค์ขึ้นใหม่
04:11
into dynamic and appealing forms.
100
236000
2000
ในรูปแบบที่คล่องตัวและน่าดึงดูดกว่า
04:13
What I find fascinating
101
238000
2000
สิ่งที่ดิฉันคิดว่าน่าหลงใหล
04:15
is that we've actually wired our world to share,
102
240000
3000
ก็คือการที่เรากำลังเชื่อมต่อโลกทั้งใบ เพื่อแบ่งปันกัน
04:18
whether that's our neighborhood, our school,
103
243000
2000
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้านของเรา ในโรงเรียนของเรา
04:20
our office, or our Facebook network,
104
245000
3000
ในที่ทำงานของเรา หรือเครือข่ายบน Facebook ที่เรามี
04:23
and that's creating an economy
105
248000
2000
และนั่นกำลังสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่
04:25
of "what's mine is yours."
106
250000
2000
ที่ว่าอะไรเป็นของฉันก็เป็นของเธอเหมือนกัน
04:27
From the mighty eBay,
107
252000
2000
จาก eBay ที่โด่งดัง
04:29
the grandfather of exchange marketplaces,
108
254000
2000
เป็นคุณปู่แห่งตลาดของการแลกเปลี่ยน
04:31
to car-sharing companies such as GoGet,
109
256000
3000
ไปจนถึงบริษัทที่เสนอการใช้รถยนต์ร่วมกันอย่าง GoGet
04:34
where you pay a monthly fee to rent cars by the hour,
110
259000
3000
ที่คุณสามารถเป็นสมัครสมาชิก เพื่อเช่ารถเป็นรายชั่วโมงได้
04:37
to social lending platforms such as Zopa,
111
262000
3000
ไปจนถึงระบบการกู้ยืมอย่าง Zopa
04:40
that will take anyone in this audience
112
265000
2000
ที่ให้ใครก็ได้ในที่นี้
04:42
with 100 dollars to lend,
113
267000
2000
ที่มี 100 ดอลลาร์สหรัฐให้ยืม
04:44
and match them with a borrower anywhere in the world,
114
269000
3000
เพื่อนำไปจับคู่กับผู้ที่ต้องการยืมเงิน ที่อยู่ที่ไหนก็ได้บนโลก
04:47
we're sharing and collaborating again
115
272000
3000
เรากำลังแบ่งปันและร่วมมือกันอีกครั้ง
04:50
in ways that I believe
116
275000
2000
ในทางที่ดิฉันเชื่อว่า
04:52
are more hip than hippie.
117
277000
3000
แนวยิ่งกว่าเด็กแนวเสียอีก
04:55
I call this "groundswell collaborative consumption."
118
280000
3000
ฉันเรียกสิ่งนี้ว่าการ "บริโภคอย่างร่วมมือกันของคนส่วนใหญ่"
04:58
Now before I dig into the different systems
119
283000
2000
ก่อนที่ฉันจะพูดไปถึงระบบอื่นๆ
05:00
of collaborative consumption,
120
285000
2000
ของการ "บริโภคอย่างร่วมมือกัน" นี้
05:02
I'd like to try and answer the question
121
287000
2000
ฉันอยากจะลองตอบคำถาม
05:04
that every author rightfully gets asked,
122
289000
3000
ที่เจ้าของความคิดมักถูกถาม
05:07
which is, where did this idea come from?
123
292000
3000
ซึ่งก็คือ ความคิดนี้มาจากไหน
05:10
Now I'd like to say I woke up one morning
124
295000
2000
ดิฉันจะบอกว่า ดิฉันตื่นขึ้นมาวันหนึ่ง
05:12
and said, "I'm going to write about collaborative consumption,"
125
297000
3000
และพูดว่า "ฉันจะเขียนเกี่ยวกับ การบริโภคอย่างร่วมมือกัน นี่ล่ะ"
05:15
but actually it was a complicated web
126
300000
2000
แต่จริงๆแล้วมันเป็นการเชื่อมโยงกัน
05:17
of seemingly disconnected ideas.
127
302000
3000
ของความคิดที่ดูไม่น่าจะเชื่อมโยงกันได้หลายๆอย่าง
05:20
Over the next minute,
128
305000
2000
ในนาทีต่อไปนี้
05:22
you're going to see a bit like a conceptual fireworks display
129
307000
2000
คุณจะได้เห็นสิ่งที่เหมือนจะเป็นการแสดงดอกไม้ไฟ
05:24
of all the dots that went on in my head.
130
309000
3000
ของทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในหัวดิฉัน
05:28
The first thing I began to notice:
131
313000
2000
สิ่งแรกที่ฉันมองเห็นก็คือ
05:30
how many big concepts were emerging --
132
315000
2000
ความคิดใหญ่ๆที่กำลังผุดขึ้น
05:32
from the wisdom of crowds to smart mobs --
133
317000
3000
ตั้งแต่ "ปัญญาของฝูงชน" ไปจนถึง "กลุ่มคนทันสมัย"
05:35
around how ridiculously easy it is
134
320000
2000
ว่ามันง่ายดายแค่ไหน
05:37
to form groups for a purpose.
135
322000
2000
ที่จะจัดตั้งกลุ่มก้อนขึ้น เพื่อจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง
05:39
And linked to this crowd mania
136
324000
2000
ซึ่งสิ่งที่เชื่อมโยงกับความคลั่งไคล้ต่อฝูงชนเหล่านี้
05:41
were examples all around the world --
137
326000
2000
ก็คือตัวอย่างที่เห็นได้ทั่วโลก
05:43
from the election of a president
138
328000
2000
จากการเลือกตั้งประธานาธิบดี
05:45
to the infamous Wikipedia, and everything in between --
139
330000
2000
ถึงวิกิพีเดียอันเลื่องชื่อ และทุกสิ่งที่อย่างที่อยู่ระหว่างสองสิ่งนั้น
05:47
on what the power of numbers could achieve.
140
332000
3000
ที่ทำให้เห็นว่าพลังของฝูงชนสามารถทำอะไรได้บ้าง
05:50
Now, you know when you learn a new word,
141
335000
3000
คุณจำตอนที่คุณรู้ศัพท์ใหม่ได้ไหม
05:53
and then you start to see that word everywhere?
142
338000
3000
ตอนที่คุณเริ่มมองเห็นศัพท์เหล่านั้นไปทุกที่
05:56
That's what happened to me
143
341000
2000
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉัน
05:58
when I noticed that we are moving
144
343000
2000
เมื่อฉันรู้สึกได้ว่าเรากำลังก้าวเดิน
06:00
from passive consumers
145
345000
2000
จากการเป็นผู้บริโภคที่เฉื่อยชา
06:02
to creators,
146
347000
2000
ไปเป็นนักประดิษฐ์
06:04
to highly enabled collaborators.
147
349000
3000
จนกลายเป็นผู้ให้ความร่วมมือที่ทรงพลัง
06:07
What's happening
148
352000
2000
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นก็คือ
06:09
is the Internet is removing the middleman,
149
354000
2000
การที่อินเตอร์เน็ตลบล้างพ่อค้าคนกลาง
06:11
so that anyone from a T-shirt designer
150
356000
2000
ทำให้ใครก็ได้ ตั้งแต่นักออกแบบเสื้อ
06:13
to a knitter
151
358000
2000
ไปจนถึงนักถักไหมพรม
06:15
can make a living selling peer-to-peer.
152
360000
2000
สามารถหาเลี้ยงปากท้องได้โดยการขายสินค้าโดยตรงให้กับผู้ซื้อ
06:17
And the ubiquitous force
153
362000
2000
และพลังที่แพร่หลาย
06:19
of this peer-to-peer revolution
154
364000
2000
ของการปฏิวัติของ peer-to-peer
06:21
means that sharing is happening at phenomenal rates.
155
366000
3000
นั่นก็คือการแบ่งปันกำลังเกิดขึ้นในระดับที่น่าอัศจรรย์
06:24
I mean, it's amazing to think
156
369000
2000
ดิฉันคิดว่ามันเจ๋งมากที่รู้ว่า
06:26
that, in every single minute of this speech,
157
371000
3000
ในทุกๆนาทีที่ฉันกำลังพูดอยู่นี้
06:29
25 hours
158
374000
2000
วีดีโอบน YouTube จำนวน 25 ชม.
06:31
of YouTube video will be loaded.
159
376000
3000
กำลังถูกชมอยู่
06:34
Now what I find fascinating about these examples
160
379000
3000
สิ่งที่ฉันหลงใหลเกี่ยวกับตัวอย่างเหล่านี้
06:37
is how they're actually tapping into
161
382000
2000
ก็คือการที่มันกำลังถูกซึมซับ
06:39
our primate instincts.
162
384000
2000
เข้าไปในสัญชาติญาณของเราได้อย่างไร
06:41
I mean, we're monkeys,
163
386000
2000
จริงๆแล้วเราก็คือลิงดีๆนี่เอง
06:43
and we're born and bred to share and cooperate.
164
388000
2000
เราเกิด และถูกเลี้ยงดูมาเพื่อแบ่งปันและร่วมมือ
06:45
And we were doing so for thousands of years,
165
390000
3000
และเราก็ทำสิ่งนี้มาเป็นพันๆ ปี
06:48
whether it's when we hunted in packs,
166
393000
2000
ตั้งแต่ที่เราออกล่าเป็นฝูง
06:50
or farmed in cooperatives,
167
395000
3000
หรือร่วมมือกันทำไร่
06:53
before this big system called hyper-consumption came along
168
398000
3000
ก่อนที่ระบบใหญ่ๆอย่างบริโภคนิยมจะเกิดขึ้น
06:56
and we built these fences
169
401000
2000
แล้วเราก็สร้างรั้วขึ้นมากั้น
06:58
and created out own little fiefdoms.
170
403000
2000
และสร้างระบบศักดินาน้อยๆของเรา
07:00
But things are changing,
171
405000
2000
แต่ทุกสิ่งกำลังเปลี่ยนแปลงไป
07:02
and one of the reasons why
172
407000
2000
และหนึ่งในเหตุผลก็เกิดจาก
07:04
is the digital natives, or Gen-Y.
173
409000
3000
ผู้ที่คุ้นเคยกับโลกดิจิตอลโดยกำเนิด หรือ เจน-วาย (gen-Y)
07:07
They're growing up sharing --
174
412000
2000
เขากำลังถูกเลี้ยงดูให้เติบโตผ่านการแบ่งปัน
07:09
files, video games, knowledge.
175
414000
2000
ไฟล์ต่างๆนาๆ วีดีโอเกมส์ ความรู้
07:11
It's second nature to them.
176
416000
2000
มันเป็นธรรมชาติของเขา
07:13
So we, the millennials -- I am just a millennial --
177
418000
3000
ดังนั้นเรา ในฐานะผู้กำลังก้าวข้ามช่วงเวลานี้
07:16
are like foot soldiers,
178
421000
3000
เป็นดั่งทหารแนวหน้า ที่กำลังเคลื่อนย้ายพวกเรา
07:19
moving us from a culture of "me" to a culture of "we."
179
424000
2000
จากวัฒนธรรม "ของฉัน" ไปสู่วัฒนธรรม "ของเรา"
07:21
The reason why it's happening so fast
180
426000
2000
เหตุผลที่มันกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น
07:23
is because of mobile collaboration.
181
428000
2000
ก็เนื่องมาจากการร่วมมือกันทางโทรศัพท์มือถือ
07:25
We now live in a connected age
182
430000
3000
เราอาศัยอยู่ในยุคของการเชื่อมต่อ
07:28
where we can locate anyone, anytime, in real-time,
183
433000
3000
ที่ที่เราสามารถรู้ได้ว่าใครอยู่ที่ไหน เวลาใด ได้ทุกเมื่อ
07:31
from a small device in our hands.
184
436000
3000
โดยใช้อุปกรณ์เล็กๆในมือของเรา
07:34
All of this was going through my head
185
439000
2000
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในหัวข้อฉัน
07:36
towards the end of 2008,
186
441000
2000
ในช่วงปี 2008 นี้เอง
07:38
when, of course, the great financial crash happened.
187
443000
3000
ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำที่สุด
07:41
Thomas Friedman is one of my favorite New York Times columnists,
188
446000
3000
โธมัส ไฟรด์แมน ผู้ซึ่งเป็นนักเขียนที่ฉันชื่นชอบในนิวยอร์คไทมส์
07:44
and he poignantly commented
189
449000
2000
เขากล่าวไว้อย่างเฉียบคมว่า
07:46
that 2008 is when we hit a wall,
190
451000
3000
ปี 2008 เป็นปีที่เราชนเข้ากับกำแพง
07:49
when Mother Nature and the market
191
454000
3000
เมื่อธรรมชาติและตลาดบอกกับเราว่า
07:52
both said, "No more."
192
457000
2000
"ไม่เอาแล้ว"
07:54
Now we rationally know
193
459000
2000
ตอนนี้เรารู้แล้วว่า
07:56
that an economy built on hyper-consumption
194
461000
3000
เศรษฐกิจที่สร้างขึ้นภายในบริโภคนิยม
07:59
is a Ponzi scheme. It's a house of cards.
195
464000
3000
เป็นปราสาทไพ่ รอวันที่จะล้ม
08:02
Yet, it's hard for us to individually know what to do.
196
467000
3000
แต่มันก็ยากที่เราจะรู้ว่าเราควรทำอะไร
08:05
So all of this is a lot of twittering, right?
197
470000
3000
จะเห็นได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเหมือน ทวีตจำนวนเยอะๆ จริงไหม
08:08
Well it was a lot of noise and complexity in my head,
198
473000
2000
จริงว่ามีคลื่นรบกวนและความซับซ้อนมากมายในหัวของดิฉัน
08:10
until actually I realized it was happening
199
475000
2000
จนดิฉันเริ่มเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้น
08:12
because of four key drivers.
200
477000
2000
เกิดเพราะแรงผลักดันหลักๆ 4 ประการ
08:14
One, a renewed belief in the importance of community,
201
479000
3000
หนึ่ง ความเชื่อในเรื่องความสำคัญของชุมชน
08:17
and a very redefinition of what friend and neighbor really means.
202
482000
3000
และการเรียบเรียงความหมายใหม่ ว่าเพื่อนและเพื่อนบ้านแท้จริงแล้วคืออะไร
08:20
A torrent of peer-to-peer social networks
203
485000
3000
สอง กระแสของโซเชียลเน็ตเวิร์ค
08:23
and real-time technologies,
204
488000
2000
และเทคโนโลยีแบบเรียลไทม์
08:25
fundamentally changing the way we behave.
205
490000
3000
ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อรากฐานพฤติกรรมของเรา
08:28
Three, pressing unresolved environmental concerns.
206
493000
3000
สาม ความกดดันจากปัญหาทางสภาพแวดล้อมที่ยังแก้ไขไม่ได้
08:31
And four, a global recession
207
496000
2000
และสี่ การถดถอยทางเศรษฐกิจทั่วโลก
08:33
that has fundamentally shocked
208
498000
2000
ที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภค
08:35
consumer behaviors.
209
500000
2000
ถูกกระทบอย่างแรง
08:37
These four drivers
210
502000
2000
แรงขับเคลื่อน 4 ประการนี้
08:39
are fusing together
211
504000
2000
กำลังหล่อหลอมเข้าด้วยกัน
08:41
and creating the big shift --
212
506000
2000
และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง
08:43
away from the 20th century,
213
508000
2000
ออกจากศตวรรษที่ 20
08:45
defined by hyper-consumption,
214
510000
2000
ที่ถูกกำหนดโดยบริโภคนิยม
08:47
towards the 21st century,
215
512000
2000
ไปสู่ศตวรรษที่ 21
08:49
defined by collaborative consumption.
216
514000
3000
ที่ถูกกำหนดโดย การบริโภคอย่างร่วมมือกัน
08:52
I generally believe we're at an inflection point
217
517000
3000
ดิฉันเชื่อว่าเราอยู่บนจุดแห่งการเปลี่ยนแปลง
08:55
where the sharing behaviors --
218
520000
2000
เมื่อพฤติกรรมการแบ่งปัน --
08:57
through sites such as Flickr and Twitter
219
522000
2000
ผ่านทางเว็บไซต์เช่น Flickr และ Twitter
08:59
that are becoming second nature online --
220
524000
2000
ซึ่งเป็นธรรมชาติของสิ่งที่อยู่ออนไลน์ --
09:01
are being applied to offline areas of our everyday lives.
221
526000
3000
กำลังถูกใช้ในพื้นที่ออฟไลน์ ในชีวิตประจำวันของพวกเรา
09:04
From morning commutes to the way fashion is designed
222
529000
3000
จากการเดินทางทุกเช้า ไปจนถึงวิธีที่แฟชั่นถูกออกแบบขึ้น
09:07
to the way we grow food,
223
532000
2000
ไปจนถึงวิธีการสร้างอาหารของเรา
09:09
we are consuming and collaborating once again.
224
534000
3000
เรากำลังกลับสู้การบริโภค และร่วมมือกันอีกครั้ง
09:14
So my co-author, Roo Rogers, and I
225
539000
3000
เพื่อนนักเขียนของฉัน รู โรเจอร์ส และดิฉัน
09:17
have actually gathered thousands of examples
226
542000
2000
ได้รวบรวมตัวอย่างเป็นพันๆ ตัวอย่าง
09:19
from all around the world of collaborative consumption.
227
544000
2000
จากทั่วทุกมุมโลกของการบริโภคอย่างร่วมมือกัน
09:21
And although they vary enormously
228
546000
2000
และถึงแม้ว่ามันจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก
09:23
in scale, maturity and purpose,
229
548000
2000
ทั้งในเรื่องความอิ่มตัวของขนาด และจุดประสงค์
09:25
when we dived into them,
230
550000
2000
แต่เมื่อเรามองเข้าไป
09:27
we realized that they could actually be organized into three clear systems.
231
552000
3000
เราจะเห็นได้ว่ามันสามารถจัดออกเป็น 3 ระบบ
09:30
The first is redistribution markets.
232
555000
3000
หนึ่งคือตลาดสำหรับจัดสรรปันส่วนใหม่
09:33
Redistribution markets, just like Swaptree,
233
558000
3000
ตลาดสำหรับจัดสรรปันส่วนใหม่ -- เช่น Swaptree --
09:36
are when you take a used, or pre-owned, item
234
561000
2000
ก็คือการที่คุณนำสิ่งของที่คุณใช้แล้ว หรือเป็นเจ้าของ
09:38
and move it from where it's not needed
235
563000
2000
แล้วนำมันจากที่ที่ไม่ต้องการมัน
09:40
to somewhere, or someone, where it is.
236
565000
3000
ไปสู่ที่ที่มันเป็นที่ต้องการ
09:43
They're increasingly thought of as the fifth 'R' --
237
568000
2000
มันถูกเรียกอย่างกว้างขวางมากขึ้น ว่าเป็น R ที่ห้า --
09:45
reduce, reuse, recycle, repair
238
570000
2000
reduce, reuse, recycle, repair
09:47
and redistribute --
239
572000
2000
และ redistribute --
09:49
because they stretch the life cycle of a product
240
574000
2000
เพราะมันยืดระยะเวลาการใช้งานของสินค้านั้น
09:51
and thereby reduce waste.
241
576000
2000
เพราะฉะนั้น ก็ช่วยลดปริมาณขยะด้วย
09:53
The second is collaborative lifestyles.
242
578000
3000
ระบบที่สองก็คือ ไลฟ์สไตล์แห่งการร่วมมือ
09:56
This is the sharing of resources
243
581000
2000
นี่คือการแบ่งปันของทรัพยากรต่างๆ
09:58
of things like money, skills and time.
244
583000
3000
เช่นเงิน ความสามารถ และเวลา
10:01
I bet, in a couple of years,
245
586000
2000
ดิฉันพนันได้เลยว่า ในอีกไม่กี่ปี
10:03
that phrases like "coworking"
246
588000
2000
ศัพท์เช่น การร่วมงาน (coworking)
10:05
and "couchsurfing" and "time banks"
247
590000
3000
การท่องเที่ยวไปตามโซฟา (couch surfing) และธนาคารเวลา (time banks)
10:08
are going to become a part of everyday vernacular.
248
593000
3000
จะกลายเป็นศัพท์ในชีวิตประจำวัน
10:11
One of my favorite examples of collaborative lifestyles
249
596000
3000
ตัวอย่างที่ฉันชื่นชอบเกี่ยวกับ ไลฟสไตล์แห่งการร่วมมือ
10:14
is called Landshare.
250
599000
2000
ก็คือการแบ่งปันที่ดิน (Landshare)
10:16
It's a scheme in the U.K.
251
601000
2000
มันเป็นโครงการในสหราชอาณาจักร
10:18
that matches Mr. Jones,
252
603000
2000
ที่จับคู่คุณโจนส์
10:20
with some spare space in his back garden,
253
605000
3000
ที่มีพื้นที่เหลือใช้ในสวนหลังบ้าน
10:23
with Mrs. Smith, a would-be grower.
254
608000
3000
กับคุณสมิธ ที่ต้องการปลูกพืชผัก
10:26
Together they grow their own food.
255
611000
2000
พวกเขาจึงได้ร่วมมือกันปลูกพืชผักเป็นอาหาร
10:28
It's one of those ideas that's so simple, yet brilliant,
256
613000
3000
มันเป็นความคิดอย่างหนึ่งที่ง่ายดายมาก แต่ก็เจ๋งเลยทีเดียว
10:31
you wonder why it's never been done before.
257
616000
3000
จนคุณต้องสงสัยว่าทำไมมันไม่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
10:34
Now, the third system
258
619000
2000
ระบบที่สามก็คือ
10:36
is product-service systems.
259
621000
2000
การซื้อบริการของสินค้า
10:38
This is where you pay for the benefit of the product --
260
623000
2000
นั่นก็คือ การที่คุณจ่ายเพื่อประโยชน์ของสินค้า --
10:40
what it does for you --
261
625000
2000
สิ่งที่มันทำให้คุณ --
10:42
without needing to own the product outright.
262
627000
2000
โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินค้านั้นๆ
10:44
This idea is particularly powerful
263
629000
3000
ความคิดนี้จะทรงพลังมาก
10:47
for things that have
264
632000
2000
สำหรับสิ่งที่
10:49
high-idling capacity.
265
634000
2000
มีการใช้งานน้อย
10:51
And that can be anything from baby goods
266
636000
2000
และสิ่งนั้นเป็นได้ตั้งแต่ของใช้สำหรับทารก
10:53
to fashions to --
267
638000
2000
จนถึงแฟชั่น จนกระทั่ง --
10:55
how many of you have a power drill,
268
640000
2000
มีใครในที่นี้มีสว่านไฟฟ้าบ้างคะ?
10:57
own a power drill? Right.
269
642000
2000
เป็นเจ้าของสว่านไฟฟ้า?
10:59
That power drill will be used around 12 to 13 minutes
270
644000
3000
สว่านไฟฟ้านั้น ในหนึ่งชั่วชีวิตของมัน
11:02
in its entire lifetime.
271
647000
2000
จะถูกใช้เพียง 12 ถึง 13 นาที
11:04
(Laughter)
272
649000
2000
(หัวเราะ)
11:06
It's kind of ridiculous, right?
273
651000
2000
มันบ้ามาก จริงไหม?
11:08
Because what you need is the hole, not the drill.
274
653000
2000
เพราะสิ่งที่คุณต้องการคือรู ไม่ใช่สว่าน
11:10
(Laughter)
275
655000
2000
(หัวเราะ)
11:12
(Applause)
276
657000
2000
(ปรบมือ)
11:14
So why don't you rent the drill,
277
659000
2000
แล้วทำไมคุณไม่เช่าสว่านล่ะ
11:16
or, even better, rent out your own drill to other people
278
661000
2000
หรือจะดีไปกว่านั้น ปล่อยสว่านของคุณให้คนอื่นเช่า
11:18
and make some money from it?
279
663000
2000
และทำเงินจากสว่านนั้น?
11:20
These three systems are coming together,
280
665000
3000
ระบบทั้งสามนี้กำลังมาพบกัน
11:23
allowing people to share resources
281
668000
2000
ทำให้ผู้คนสามารถแบ่งปันทรัพยากร
11:25
without sacrificing their lifestyles,
282
670000
2000
โดยที่ไม่ต้องเสียชีวิตความเป็นอยู่ของเขาไป
11:27
or their cherished personal freedoms.
283
672000
2000
หรือเสียความเป็นอิสระที่เขารักไป
11:29
I'm not asking people
284
674000
2000
ไม่ใช่ว่าดิฉันบอกให้ผู้คน
11:31
to share nicely in the sandpit.
285
676000
2000
ต้องแบ่งปันกันในสิ่งที่ต่างจำเป็นต้องใช้ตลอดเวลา
11:35
So I want to just give you an example
286
680000
2000
ดิฉันจะยกตัวอย่างให้ดู
11:37
of how powerful collaborative consumption can be
287
682000
2000
ว่าการบริโภคอย่างร่วมมือกัน
11:39
to change behaviors.
288
684000
2000
สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้
11:41
The average car
289
686000
2000
โดยเฉลี่ยแล้ว รถคันหนึ่ง
11:43
costs 8,000 dollars a year to run.
290
688000
3000
มีค่าใช้จ่ายประมาณ 2 แสนบาทต่อปีในการดูแลรักษา
11:46
Yet, that car sits idle
291
691000
2000
แต่รถคันนั้นก็ถูกจอดอยู่เฉยๆ
11:48
for 23 hours a day.
292
693000
2000
กว่า 23 ชม.ต่อวัน
11:50
So when you consider these two facts,
293
695000
2000
เมื่อคุณคำนึงถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้
11:52
it starts to make a little less sense
294
697000
2000
เราก็จะเริ่มเห็นว่ามันค่อนข้างแปลก
11:54
that we have to own one outright.
295
699000
3000
ที่เราจะต้องเป็นเจ้าของรถคนหนึ่งแต่เพียงผู้เดียว
11:57
So this is where car-sharing companies
296
702000
2000
ซึ่งนี่คือสิ่งที่บริษัทแบ่งปันการใช้รถ
11:59
such as Zipcar and GoGet come in.
297
704000
2000
เช่น Zipcar และ GoGet เข้ามาช่วยเหลือ
12:01
In 2009,
298
706000
2000
ในปี 2009
12:03
Zipcar took 250 participants
299
708000
2000
Zipcar ได้นำผู้เข้าร่วมโครงการ 250 คน
12:05
from across 13 cities --
300
710000
3000
จาก 13 เมือง --
12:08
and they're all self-confessed car addicts
301
713000
2000
และทุกคนในนั้นก็ยอมรับว่าเป็นผู้ที่เสพติดการใช้รถยนต์
12:10
and car-sharing rookies --
302
715000
2000
และเป็นมือใหม่ในวงการแบ่งปันรถกันใช้ --
12:12
and got them to surrender their keys for a month.
303
717000
3000
ทำให้ผู้คนเหล่านี้ ยอมสละกุญแจรถของเขาเป็นเวลาหนึ่งเดือน
12:15
Instead, these people had to walk,
304
720000
2000
และยินยอมที่จะเดิน
12:17
bike, take the train,
305
722000
2000
ขี่จักรยาน ขึ้นรถไฟ
12:19
or other forms of public transport.
306
724000
2000
หรือบริการเดินทางสาธารณะอื่นๆ
12:21
They could only use their Zipcar membership
307
726000
2000
เขาสามารถใช้สิทธิของการเป็นสมาชิก Zipcar
12:23
when absolutely necessary.
308
728000
2000
เมื่อจำเป็นเท่านั้น
12:25
The results of this challenge after just one month
309
730000
3000
ผลที่ได้จากการทดลองครั้งนี้
12:28
was staggering.
310
733000
2000
น่าประทับใจมาก
12:30
It's amazing that 413 lbs were lost
311
735000
2000
น้ำหนักลดลงรวมกันกว่า 187 กิโลกรัม
12:32
just from the extra exercise.
312
737000
3000
จากการออกกำลังเพิ่มเติมเท่านั้น
12:35
But my favorite statistic
313
740000
2000
แต่สถิติที่ดิฉันชอบที่สุด
12:37
is that 100
314
742000
2000
ก็คือผู้เข้าร่วมกิจกรรม 100 คน
12:39
out of the 250 participants
315
744000
3000
จากทั้งหมด 250 คน
12:42
did not want their keys back.
316
747000
3000
ไม่ต้องการกุญแจกลับคืน
12:45
In other words, the car addicts
317
750000
2000
ในอีกแง่หนึ่ง เหล่าผู้เสพติดรถยนต์เหล่านั้น
12:47
had lost their urge to own.
318
752000
2000
ได้สูญเสียแรงจูงใจที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์แล้ว
12:49
Now products-service systems have been around for years.
319
754000
3000
ระบบการซื้อบริการสินค้ามีมานานแล้ว
12:52
Just think of libraries and laundrettes.
320
757000
2000
ลองนึกถึงห้องสมุดและร้านซักรีดสิ
12:54
But I think they're entering a new age,
321
759000
2000
แต่ดิฉันคิดว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคใหม่
12:56
because technology makes sharing
322
761000
2000
เพราะเทคโนโลยีกำลังทำให้การแบ่งปัน
12:58
frictionless and fun.
323
763000
2000
เป็นเรื่องที่สนุกและทำได้อย่างง่ายดาย
13:00
There's a great quote that was written in the New York Times
324
765000
3000
นิวยอร์คไทม์สเคยเขียนไว้ว่า
13:03
that said, "Sharing is to ownership
325
768000
2000
การแบ่งปันเป็นดั่งการครอบครอง
13:05
what the iPod is to the 8-track,
326
770000
3000
เหมือนที่ ไอพอดเป็นดั่งแผ่นเสียง
13:08
what solar power is to the coal mine."
327
773000
3000
หรือ พลังงานแสงอาทิตย์เป็นดั่งเหมืองถ่านหิน
13:11
I believe also, our generation,
328
776000
3000
ดิฉันเชื่อด้วยว่า ในคนรุ่นเรา
13:14
our relationship to satisfying what we want
329
779000
3000
การที่เราจะเติมเต็มสิ่งที่เราต้องการ
13:17
is far less tangible
330
782000
2000
ไม่ได้ยึดติดกับสิ่งที่จับต้องได้
13:19
than any other previous generation.
331
784000
2000
เหมือนดังคนรุ่นก่อนๆ
13:21
I don't want the DVD; I want the movie it carries.
332
786000
3000
ดิฉันไม่ต้องการแผ่นดีวีดี ดิฉันต้องการภาพยนตร์ที่อยู่ในนั้นต่างหาก
13:24
I don't want a clunky answering machine;
333
789000
2000
ฉันไม่ต้องการเครื่องตอบรับโทรศัพท์อัตโนมัติที่เทอะทะ
13:26
I want the message it saves.
334
791000
2000
ฉันต้องการข้อความที่มันเก็บไว้ต่างหาก
13:28
I don't want a CD; I want the music it plays.
335
793000
3000
ฉันไม่ต้องการแผ่นซีดี ฉันต้องการเพลงที่อยู่ในนั้น
13:31
In other words, I don't want stuff;
336
796000
3000
ดิฉันพูดได้ว่า ฉันไม่ต้องการสิ่งของ
13:34
I want the needs or experiences it fulfills.
337
799000
3000
ดิฉันต้องการประสบการณ์ที่สิ่งเหล่านั้นมอบให้กับดิฉันต่างหาก
13:37
This is fueling a massive shift
338
802000
3000
ซึ่งความคิดนี้กำลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง
13:40
from where usage trumps possessions --
339
805000
2000
เมื่อการใช้งานสำคัญกว่าการครอบครอง
13:42
or as Kevin Kelly, the editor of Wired magazine, puts it,
340
807000
3000
หรือดังที่ เควิน เคลลี่ บรรณาธิการของนิตยสาร Wired กล่าว
13:45
"where access is better than ownership."
341
810000
3000
"ที่ที่การเข้าถึง ดีกว่า การครอบครอง"
13:48
Now as our possessions
342
813000
2000
ในขณะนี้ สิ่งของที่เราครอบครอง
13:50
dematerialize into the cloud,
343
815000
2000
กำลังระเหิดหายไปในอากาศ
13:52
a blurry line is appearing
344
817000
2000
เส้นจางๆก็เริ่มปรากฎ
13:54
between what's mine, what's yours,
345
819000
2000
ระหว่างสิ่งที่เป็นของดิฉัน กับสิ่งที่เป็นของคุณ
13:56
and what's ours.
346
821000
2000
และสิ่งที่เป็นของพวกเรา
13:58
I want to give you one example
347
823000
2000
ดิฉันต้องการยกตัวอย่างให้คุณเห็น
14:00
that shows how fast this evolution is happening.
348
825000
3000
ถึงความไวที่วิวัฒนาการนี้กำลังเกิดขึ้น
14:03
This represents an eight-year time span.
349
828000
3000
ตัวอย่างนี้ครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี
14:06
We've gone from traditional car-ownership
350
831000
3000
เราได้เริ่มจากการครอบครองรถยนต์แบบดั้งเดิม
14:09
to car-sharing companies, such as Zipcar and GoGet,
351
834000
3000
ไปเป็นการใช้รถยนต์ร่วมกัน -- เช่น Zipcar และ GoGet --
14:12
to ride-sharing platforms that match rides
352
837000
3000
ไปยังการการจับคู่หาเพื่อนร่วมเดินทาง
14:15
to the newest entry, which is peer-to-peer car rental,
353
840000
3000
ไปจนถึงล่าสุด การเช่ารถยนต์ระหว่างผู้ใช้
14:18
where you can actually make money
354
843000
3000
ที่คุณสามารถทำเงิน
14:21
out of renting that car that sits idle for 23 hours a day
355
846000
3000
ได้จากการให้เช่ารถยนต์ของคุณที่จอดแช่อยู่ 23 ชม.ต่อวัน
14:24
to your neighbor.
356
849000
2000
ให้กับเพื่อนบ้านของคุณ
14:26
Now all of these systems
357
851000
2000
ซึ่งระบบทั้งหมดนี้
14:28
require a degree of trust,
358
853000
2000
ต้องใช้ความไว้วางใจในระดับหนึ่ง
14:30
and the cornerstone to this working
359
855000
2000
และสิ่งสำคัญที่ทำให้สิ่งเหล่านี้ประสบความสำเร็จ
14:32
is reputation.
360
857000
2000
ก็คือ ชื่อเสียง
14:34
Now in the old consumer system,
361
859000
2000
ในระบบการบริโภคแบบเก่านั้น
14:36
our reputation didn't matter so much,
362
861000
2000
ชื่อเสียงไม่ใช่สิ่งสำคัญมากนัก
14:38
because our credit history was far more important
363
863000
2000
เพราะประวัติทางการเงินของเรา
14:40
that any kind of peer-to-peer review.
364
865000
3000
สำคัญยิ่งไปกว่าความเห็นของผู้ที่รู้จักคุณ
14:43
But now with the Web, we leave a trail.
365
868000
3000
แต่ในปัจจุบัน ในเว็บนั้น เราทิ้งร่องรอยของทางเดินไว้
14:46
With every spammer we flag,
366
871000
3000
ด้วยการแจ้งโฆษณาที่ไม่เหมาะสม
14:49
with every idea we post, comment we share,
367
874000
3000
ด้วยทุกความคิดที่เราเสนอ ทุกความคิดเห็นที่เราแบ่งปัน
14:52
we're actually signaling how well we collaborate,
368
877000
2000
เรากำลังแสดงให้เห็นว่าตัวเราแต่ละคนมีความร่วมมือได้ดีแค่ไหน
14:54
and whether we can or can't be trusted.
369
879000
3000
และบ่งชี้ว่าเราเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน
14:57
Let's go back to my first example,
370
882000
2000
กลับไปที่ตัวอย่างแรกที่ดิฉันกล่าวถึง
14:59
Swaptree.
371
884000
2000
Swaptree
15:01
I can see that Rondoron
372
886000
2000
ฉันเห็นว่าผู้ชายคนนั้น
15:03
has completed 553 trades
373
888000
3000
ได้ทำการแลกเปลี่ยนไปถึง 533 ครั้ง
15:06
with a 100 percent success rate.
374
891000
3000
และประสบความสำเร็จทุกครั้ง
15:09
In other words, I can trust him or her.
375
894000
3000
กล่าวได้ว่า ดิฉันสามารถเชื่อใจเขาได้
15:13
Now mark my words,
376
898000
2000
จำคำพูดต่อไปนี้เอาไว้
15:15
it's only a matter of time
377
900000
2000
มันเป็นเพียงระยะเวลา
15:17
before we're going to be able to perform a Google-like search
378
902000
3000
ก่อนที่เราจะสามารถสืบค้นแบบกูเกิ้ลได้
15:20
and see a cumulative picture
379
905000
2000
เพื่อจะค้นหาภาพรวม
15:22
of our reputation capital.
380
907000
2000
ของคะแนนทางชื่อเสียงของเรา
15:24
And this reputation capital
381
909000
2000
และต้นทุนทางชื่อเสียงนี่แหละ
15:26
will determine our access to collaborative consumption.
382
911000
3000
ที่จะกำหนดว่าเราสามารถบริโภคอย่างร่วมมือกันได้มากน้อยแค่ไหน
15:29
It's a new social currency, so to speak,
383
914000
2000
กล่าวได้ว่า มันเป็นเงินตราทางสังคมแบบใหม่
15:31
that could become as powerful as our credit rating.
384
916000
3000
ที่จะทรงพลังพอๆกับประวัติทางการเงินของเรา
15:35
Now as a closing thought,
385
920000
2000
เพื่อเป็นการสรุปทั้งหมดนี้
15:37
I believe we're actually in a period
386
922000
3000
ดิฉันเชื่อว่าเราอยู่ในช่วงเวลา
15:40
where we're waking up
387
925000
2000
ที่เรากำลังจะตื่นขึ้น
15:42
from this humongous hangover
388
927000
2000
จากการเมาค้างที่ยาวนาน
15:44
of emptiness and waste,
389
929000
2000
ของความว่างเปล่าและของสิ้นเปลือง
15:46
and we're taking a leap
390
931000
2000
และเรากำลังจะผ่านก้าวที่สำคัญ
15:48
to create a more sustainable system
391
933000
2000
เพื่อที่จะสร้างระบบที่ยั่งยืนกว่า
15:50
built to serve our innate needs
392
935000
2000
ที่สามารถตอบสนองความต้องการของเรา
15:52
for community and individual identity.
393
937000
3000
เพื่อชุมชนของเรา และความเป็นตัวเราได้
15:55
I believe it will be referred to
394
940000
2000
ดิฉันเชื่อว่ามันจะถูกเรียกว่า
15:57
as a revolution, so to speak --
395
942000
2000
การปฏิวัติ ก็เป็นได้ --
15:59
when society, faced with great challenges,
396
944000
3000
เมื่อสังคมเผชิญกับความท้าทายที่ใหญ่หลวง
16:02
made a seismic shift
397
947000
2000
ก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง
16:04
from individual getting and spending
398
949000
2000
จากการตักตวงและบริโภคส่วนตัว
16:06
towards a rediscovery of collective good.
399
951000
3000
ไปยังการค้นพบประโยชน์ของการร่วมมือกันอีกครั้ง
16:09
I'm on a mission to make sharing cool.
400
954000
3000
ดิฉันมีหน้าที่ทำให้การแบ่งปันนั้นเท่ห์
16:12
I'm on a mission to make sharing hip.
401
957000
2000
ดิฉันมีหน้าที่ทำให้การแบ่งปันนั้นทันสมัย
16:14
Because I really believe
402
959000
2000
เพราะดิฉันเชื่อจริงๆว่า
16:16
it can disrupt outdated modes of business,
403
961000
2000
มันสามารถเข้ามาแทนที่วิธีการดำเนินธุรกิจที่ล้าสมัย
16:18
help us leapfrog
404
963000
2000
และช่วยให้เราก้าวกระโดด
16:20
over wasteful forms of hyper-consumption
405
965000
2000
จากภาวะบริโภคนิยมที่สุดแสนจะสิ้นเปลือง
16:22
and teach us when enough really is enough.
406
967000
3000
และสอนให้เรารู้ว่าเมื่อไหร่คำว่าพอ แปลว่าพอจริงๆ
16:25
Thank you very much.
407
970000
2000
ขอบคุณค่ะ
16:27
(Applause)
408
972000
2000
(ปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Rachel Botsman - Trust researcherRachel Botsman is a recognized expert on how collaboration and trust enabled by digital technologies will change the way we live, work, bank and consume.
Why you should listen
Rachel Botsman is an author and a visiting academic at the University of Oxford, Saïd Business School. Her work focuses on how technology is enabling trust in ways that are changing the way we live, work, bank and consume. She defined the theory of "collaborative consumption" in her first book, What's Mine Is Yours, which she co-authored with Roo Rogers. The concept was subsequently named by TIME as one of the "10 Ideas that Will Change the World" and by Thinkers50 as the 2015 Breakthrough Idea.
Named a "Young Global Leader" by the World Economic Forum, Botsman examines the growth and challenges of start-ups such as Airbnb, TaskRabbit and Uber. She is regular writer and commentator in leading international publications including the New York Times, The Wall Street Journal, Harvard Business Review, The Economist, WIRED and more. She is currently writing a new book that explores why the real disruption happening isn’t technology; it’s a profound shift in trust.
Rachel Botsman | Speaker | TED.com