ABOUT THE SPEAKER
Eric Haseltine - Author, futurist, innovator
Eric Haseltine applies discoveries about the brain to innovation and forecasting game-changing advances in science and technology.

Why you should listen

Dr. Eric Haseltine is a neuroscientist and futurist who has applied a brain-centered approach to help organizations in aerospace, entertainment, healthcare, consumer products and national security transform and innovate. He is the author of Long Fuse, Big Bang: Achieving Long-Term Success Through Daily Victories. For five years, he wrote a monthly column on the brain for Discover magazine and is a frequent contributor to Psychology Today's web site, where his popular blog on the brain has garnered over 800,000 views. Haseltine received the Distinguished Psychologist in Management Award from the Society of Psychologists in Management and has published 41 patents and patent applications in optics, media and entertainment technology.

In 1992 he joined Walt Disney Imagineering to help found the Virtual Reality Studio, which he ultimately ran until his departure from Disney in 2002. When he left Disney, Haseltine was executive vice president of Imagineering and head of R&D for the entire Disney Corporation, including film, television, theme parks, Internet and consumer products.

In the aftermath of 9/11, Eric joined the National Security Agency to run its Research Directorate. Three years later, he was promoted to associate of director of National Intelligence, where he oversaw all science and technology efforts within the United States Intelligence Community as well as fostering development innovative new technologies for countering cyber threats and terrorism. For his work on counter-terrorism technologies, he received the National Intelligence Distinguished Service Medal in 2007.

Haseltine serves on numerous boards, and is an active consultant, speaker and writer. Over the past three years, he has focused heavily on developing innovation strategies and consumer applications for the Internet of Things, virtual reality and augmented reality.

Haseltine continues to do basic research in neuroscience, with his most recent publications focusing on the mind-body health connection and exploitation of big-data to uncover subtle, but important trends in mental and physical health.

More profile about the speaker
Eric Haseltine | Speaker | TED.com
TED Talks Live

Eric Haseltine: What will be the next big scientific breakthrough?

อิริค ฮาเซลทิน (Eric Haseltine): อะไรที่จะเป็นการค้นพบครั้งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ในครั้งต่อไป

Filmed:
1,571,528 views

ตลอดระยะเวลาในประวัติศาสตร์ การคาดการได้กระตุ้นวิทยาศาสตร์ที่งดงามและล้ำหน้า -- เปิดทัศนะของเราสู่จักรวาลใหม่ "ผมไม่ได้กำลังจะพูดถึงวิทยาศาสตร์ที่เดินเตาะแตะ" อิริค ฮาเซลทิน กล่าว "ผมกำลังพูดถึงวิทยาศาสตร์ที่ก้าวกระโดด" ในการบรรยายนี้ ฮาเซลทิน พาเราไปถึงขอบของควมพยายามทางปัญญาด้วยสองแนวคิด -- ประการแรกที่ได้สร้างประวัติศาสตร์ไว้แล้ว ด้วยความเคารพและทะเยอทะยาน (และความสงสัยในประมาณที่กำลังดีจากหลาย ๆ คน)
- Author, futurist, innovator
Eric Haseltine applies discoveries about the brain to innovation and forecasting game-changing advances in science and technology. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:12
Tonightคืนนี้, I'm going to shareหุ้น with you
my passionความชอบ for scienceวิทยาศาสตร์.
0
920
3616
คืนนี้ ผมจะแบ่งปันความหลงใหลของผม
ที่มีต่อวิทยาศาสตร์ให้กับพวกคุณ
00:16
I'm not talkingการพูด about scienceวิทยาศาสตร์
that takes babyทารก stepsขั้นตอน.
1
4560
3016
ผมไม่ได้กำลังจะพูดถึงวิทยาศาสตร์
ที่เดินเตาะแตะ
00:19
I'm talkingการพูด about scienceวิทยาศาสตร์
that takes enormousมหาศาล leapsกระโดด.
2
7600
4256
ผมกำลังพูดถึงวิทยาศาสตร์ที่ก้าวกระโดด
00:23
I'm talkingการพูด Darwinดาร์วิน, I'm talkingการพูด Einsteinไอน์สไต,
3
11880
3376
ผมกำลังพูดถึงดาร์วิน ผมกำลังพูดถึงไอสไตน์
00:27
I'm talkingการพูด revolutionaryการปฏิวัติ scienceวิทยาศาสตร์
that turnsผลัดกัน the worldโลก on its headหัว.
4
15280
3600
ผมกำลังพูดถึงวิทยาศาสตร์ที่ล้ำสมัย
ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของโลก
00:31
In a momentขณะ, I'm going to talk
about two ideasความคิด that mightอาจ do this.
5
19440
3400
อีกสักครู่ ผมจะพูดถึงสองแนวคิด
ที่อาจมีส่วนทำให้เกิดสิ่งนี้
00:35
I say "mightอาจ"
6
23800
1216
ผมบอกว่า "อาจ" นะครับ
00:37
because, with revolutionaryการปฏิวัติ ideasความคิด,
mostมากที่สุด are flatแบน wrongไม่ถูกต้อง,
7
25040
2776
เพราะว่า ด้วยแนวคิดที่ล้ำสมัย
ส่วนใหญ่แล้วมันไม่ค่อยจะถูกต้อง
00:39
and even those that are right
seldomไม่ค่อยจะ have the impactส่งผลกระทบ
8
27840
2456
และแม้ว่ามันจะถูกต้อง
น้อยนักที่มันจะส่งผลกระทบ
00:42
that we want them to have.
9
30320
1696
อย่างที่เราต้องการให้มันเป็น
00:44
To explainอธิบาย why I pickedหยิบ
two ideasความคิด in particularโดยเฉพาะ,
10
32040
2496
เพื่อที่จะอธิบายว่าทำไมผมถึงเลือก
จำเพาะแนวคิดทั้งสองนี้
00:46
I'm going to startเริ่มต้น with a mysteryความลึกลับ.
11
34560
1680
ผมขอเริ่มด้วยปริศนา
00:48
1847, Viennaเวียนนา, Austriaออสเตรีย.
12
36840
3080
ในปี ค.ศ. 1847
00:53
Ignazนาซ SemmelweisSemmelweis was a somberเศร้าหมอง,
compulsivelyจูงใจ thoroughทั่วถึง doctorคุณหมอ
13
41080
3616
อิกนาซ เซมเมลไวส์
เป็นแพทย์มาดขรึมที่ใส่ใจรายละเอียด
00:56
who ranวิ่ง two maternityการคลอดบุตร clinicsคลินิก.
14
44720
1856
ที่ทำการทดสอบสองชิ้น
ทางคลินิคทางมาตุภาวะ
00:58
They were identicalเหมือนกัน exceptยกเว้น for one thing.
15
46600
2440
มันเหมือนกันยกเว้นอย่างหนึ่ง
01:01
Womenผู้หญิง were dyingเฮือกสุดท้าย of highสูง feversไข้
soonในไม่ช้า after givingให้ birthกำเนิด
16
49720
2656
ผู้หญิงที่กำลังป่วยหนักด้วยไข้สูง
ไม่นานหลังจากให้กำเนิดบุตร
01:04
threeสาม timesครั้ง more oftenบ่อยครั้ง
at one of the clinicsคลินิก than at the other.
17
52400
3560
มีความเสี่ยงที่จะมีอาการนี้
สูงกว่าสามเท่าของกลุ่มอื่น
01:08
Tryingพยายาม to figureรูป out
what the differenceข้อแตกต่าง was that causedก่อให้เกิดความ this,
18
56600
2936
ลองพยายามนึกภาพดูนะครับ
ว่าอะไรกันที่ทำให้เกิดความแตกต่างนี้
01:11
SemmelweisSemmelweis lookedมอง at everything he could.
19
59560
2016
เซมเมลไวส์ มองหาทุกปัจจัยที่อาจเป็นไปได้
01:13
Sanitationสุขาภิบาล? No.
20
61600
1736
สุขอนามัยอย่างนั้นหรือ ไม่
01:15
Medicalทางการแพทย์ proceduresขั้นตอน? No.
21
63360
2000
กระบวนการทางการแพทย์หรือ ก็ไม่
01:18
Airอากาศ flowไหล? No.
22
66000
1920
การระบายอากาศหรือเปล่า ไม่ใช่
01:20
The puzzleปริศนา wentไป unsolvedยังไม่แก้
untilจนกระทั่ง he happenedที่เกิดขึ้น to autopsyการชันสูตรศพ a doctorคุณหมอ
23
68800
3256
ปริศนานี้ไม่ได้รับการเปิดเผย
จนกระทั่งเขาได้ชันสูตรศพ
01:24
who diedเสียชีวิต of an infectedที่ติดเชื้อ scalpelมีดผ่าตัด cutตัด.
24
72080
2000
ผู้ที่เสียชีวิตจากแผลผ่าตัดที่ติดเชื้อ
01:26
The doctor'sแพทย์ symptomsอาการ were identicalเหมือนกัน
to those of the mothersมารดา who were dyingเฮือกสุดท้าย.
25
74760
3776
อาการของแพทย์คนนี้เหมือนกัน
กับบรรดาคุณแม่ผู้ที่ป่วยหนัก
01:30
How was that possibleเป็นไปได้?
26
78560
1376
มันเป็นไปได้อย่างไรกัน
01:31
How could a maleชาย doctorคุณหมอ
get the sameเหมือนกัน thing as newใหม่ mothersมารดา?
27
79960
2880
เป็นไปได้อย่างไรที่แพทย์ชาย
มีอาการแบบเดียวกับบรรดาคุณแม่มือใหม่
01:35
SemmelweisSemmelweis reconstructedสร้างขึ้นใหม่
everything the doctorคุณหมอ had doneเสร็จแล้ว
28
83560
3256
เซมเมลไวส์ ร้อยเรียงเรื่องราวทุกอย่าง
ที่แพทย์คนนั้นเคยทำ
01:38
right before he got sickป่วย,
29
86840
1256
ก่อนที่เขาจะป่วย
01:40
and he discoveredค้นพบ
that he'dเขาต้องการ been autopsyingautopsying a corpseศพ.
30
88120
4296
และเขาก็พบว่า
แพทย์คนนั้นได้ไปชันสูตรศพมา
01:44
Had something gottenอากาศ
in his woundบาดแผล that killedถูกฆ่าตาย him?
31
92440
2800
มีอะไรที่เข้าไปในแผลของเขา
แล้วทำให้เขาเสียชีวิตหรือเปล่า
01:48
With growingการเจริญเติบโต excitementความตื่นเต้น,
32
96760
1776
ด้วยความตื่นเต้น
01:50
SemmelweisSemmelweis lookedมอง
for any connectionสัมพันธ์ he could
33
98560
2816
เซมเมลไวส์มองหาจุดเชื่อมโยงใดก็ตาม
ที่เขาจะสามารถหาได้
01:53
betweenระหว่าง deadตาย bodiesร่างกาย in the morgueโรงเก็บศพ
and deadตาย mothersมารดา in his deliveryการจัดส่ง roomห้อง,
34
101400
5376
ระหว่างร่างไร้วิญญาณในห้องดับจิต
และแม่ที่เสียชีวิตในห้องคลอด
01:58
and he foundพบ it.
35
106800
1600
และเขาก็พบมัน
02:01
It turnedหัน out that at the hospitalโรงพยาบาล
with the highสูง deathความตาย rateอัตรา,
36
109320
2856
กลายเป็นว่า
โรงพยาบาลที่มีอัตราการเสียชีวิตสูง
02:04
but not the othersคนอื่น ๆ,
37
112200
1776
ต่างกับโรงพยาบาลที่อื่น ๆ
02:06
doctorsแพทย์ deliveredส่ง babiesทารก immediatelyทันที
after autopsyingautopsying corpsesศพ in the morgueโรงเก็บศพ.
38
114000
5136
แพทย์ทำหน้าที่ดูแลเด็กที่คลอดทันที
หลังจากไปทำการชันสูตรศพ
02:11
Ahaเอเอชเอ! Corpsesศพ were contaminatingการปนเปื้อน
the doctors'แพทย์ handsมือ
39
119160
3936
อ่าฮ่า ศพทำให้มือของหมอติดเชื้อ
02:15
and killingที่ฆ่า his mothersมารดา.
40
123120
1240
และฆ่าคนที่กำลังจะเป็นแม่
02:17
So he orderedสั่งซื้อ the doctorsแพทย์
to sterilizeฆ่าเชื้อ theirของพวกเขา handsมือ,
41
125240
3055
ฉะนั้น เขาจึงสั่งให้แพทย์ฆ่าเชื้อที่มือ
02:20
and the deathsการเสียชีวิต stoppedหยุด.
42
128320
2280
และอัตราการตายก็หยุดลง
02:23
Drดร. Ignazนาซ SemmelweisSemmelweis
had discoveredค้นพบ infectiousติดเชื้อ diseaseโรค.
43
131400
4400
ดร. อิกนัส เซมเมลไวส์
ได้ค้นพบเชื้อโรคติดต่อ
02:28
But the doctorsแพทย์ of the day
thought he was crazyบ้า,
44
136400
3416
แต่แพทย์ในเวลานั้นคิดว่าเขาเพี้ยน
02:31
because they knewรู้ว่า,
and had for hundredsหลายร้อย of yearsปี,
45
139840
3496
เพราะว่าพวกเขารู้
รู้มาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้วด้วย
02:35
that odorousกลิ่นหอม vaporsไอระเหย
calledเรียกว่า miasmasmiasmas causedก่อให้เกิดความ diseaseโรค,
46
143360
5096
ว่าไอระเหยมีกลิ่นที่เรียกว่า
เมียส์มาสเป็นตัวก่อโรค
02:40
not these hypotheticalน่าสงสัย particlesอนุภาค
that you couldn'tไม่สามารถ see.
47
148480
3400
ไม่ใช่อนุภาคในสมมติฐาน
ที่คุณมองไม่เห็นอะไรนี่
02:44
It tookเอา 20 yearsปี
for Frenchmanผู้ชายฝรั่งเศส Louisหลุยส์ Pasteurปาสเตอร์
48
152880
4176
มันใช้เวลาอีก 20 ปี
เพื่อที่ชาวฝรั่งเศส หลุย ปาสเตอร์
02:49
to proveพิสูจน์ that SemmelweisSemmelweis was right.
49
157080
1960
จะพิสูจน์ว่า เซมเมลไวส์นั้นเข้าใจถูกต้อง
02:51
Pasteurปาสเตอร์ was an agriculturalการเกษตร chemistนักเคมี
50
159680
2696
พลาสเตอร์เป็นนักเคมีการเกษตร
02:54
who triedพยายาม to figureรูป out
why milkนม and beerเบียร์ spoiledนิสัยเสีย so oftenบ่อยครั้ง.
51
162400
4176
ผู้พยายามค้นหาว่า
ทำไมนมและเบียร์ถึงเสียอยู่บ่อย ๆ
02:58
He foundพบ that bacteriaแบคทีเรีย were the culpritsculprits.
52
166600
2440
เขาพบว่า แบคทีเรียคือตัวการ
03:02
He alsoด้วย foundพบ that bacteriaแบคทีเรีย
could killฆ่า people in exactlyอย่างแน่นอน the sameเหมือนกัน way
53
170160
3856
เขายังพบอีกว่า แบคทีเรีย
สามารถฆ่าคนในแบบเดียวกันได้
03:06
that Semmelweis'sSemmelweis ของ patientsผู้ป่วย were dyingเฮือกสุดท้าย.
54
174040
2320
อย่างที่คนไข้ของเซมเมลไวส์เสียชีวิต
03:09
We now look at what I want
to talk about tonightคืนนี้, in two ideasความคิด.
55
177120
4400
เรามาถึงสิ่งที่ผมอยากจะพูดในคืนนี้
แนวคิดสองอย่าง
03:14
We saw it with SemmelweisSemmelweis,
that he was a revolutionaryการปฏิวัติ.
56
182600
2920
เราเห็นมันจากเซมเมลไวส์
ว่าเขาเป็นนักปฏิวัติวงการ
03:18
He did it for two reasonsเหตุผล.
57
186560
1256
ด้วยสองเหตุผล
03:19
One, he openedเปิด our eyesตา
to a completelyอย่างสมบูรณ์ newใหม่ worldโลก.
58
187840
3240
ประการแรก เขาเปิดทัศนะของเรา
สู่โลกใหม่ที่เราไม่เคยเห็น
03:23
We'dพุธ knownที่รู้จักกัน sinceตั้งแต่ the 1680s about bacteriaแบคทีเรีย.
59
191720
2976
เรารู้จักแบคทีเรียมาตั้งแต่ช่วง ค.ศ. 1680
03:26
We just didn't know
that bacteriaแบคทีเรีย killedถูกฆ่าตาย people.
60
194720
2456
แต่ไม่รู้ว่าแบคทีเรียฆ่าคนได้ด้วย
03:29
And he alsoด้วย demolishedพังยับเยิน fondรัก ideasความคิด
that people keptเก็บไว้ closeปิด to theirของพวกเขา heartหัวใจ.
61
197200
5056
และเขายังลบล้างแนวคิดที่มีมานาน
ที่คนเชื่อกันอย่างเต็มอก
03:34
MiasmasMiasmas didn't killฆ่า people.
Bacteriaแบคทีเรีย killedถูกฆ่าตาย people.
62
202280
3320
เมียส์มาสไม่ได้ฆ่าคน
แบคทีเรียต่างหากที่ฆ่าคน
03:38
So this bringsนำ me to the two ideasความคิด
I want to talk about tonightคืนนี้.
63
206080
3336
ฉะนั้น มันนำผมมาสู่สองแนวคิด
ที่ผมอยากจะพูดถึง
03:41
One has openedเปิด our eyesตา
to a completelyอย่างสมบูรณ์ newใหม่ universeจักรวาล,
64
209440
2816
ประการแรกคือการเปิดทัศนะของเรา
สู่โลกใบใหม่
03:44
and the other attacksการโจมตี long-heldถือยาว beliefsความเชื่อ.
65
212280
3976
และอีกประการหนึ่งก็คือ
การโจมตีความเชื่อที่มีมานาน
03:48
Let's get startedเริ่มต้น with Drดร. Ericเอริค BetzigBetzig.
66
216280
1936
ลองมาเริ่มกันด้วย ดร. อิริค เบทซิก
03:50
He's a physicistนักฟิสิกส์ who has openedเปิด our eyesตา
to an entirelyอย่างสิ้นเชิง newใหม่ worldโลก
67
218240
3896
เขาคือนักฟิสิกส์ผู้ที่เปิดทัศนะชองเรา
ต่อโลกใบใหม่
03:54
by violatingการละเมิด the lawsกฎหมาย of physicsฟิสิกส์.
68
222160
1880
โดยการท้าทายกฎของฟิสิกส์
03:56
BetzigBetzig is a trueจริง rebelกบฏ.
69
224720
1280
เบทซิกเป็นนักต่อต้านตัวจริง
03:58
He quitเลิก a jobงาน at prestigiousมีเกียรติ
Bellกระดิ่ง Laboratoryห้องปฏิบัติการ
70
226560
2896
เขาลาออกจากงานที่ห้องทดลองเบล
ที่เป็นที่เชิดหน้าชูตา
04:01
inventingประดิษฐ์ newใหม่ microscopesกล้องจุลทรรศน์ for biologyชีววิทยา
71
229480
2256
ที่ประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์เพื่อชีววิทยา
04:03
because he thought scientistsนักวิทยาศาสตร์
were takingการ his brilliantสุกใส inventionsสิ่งประดิษฐ์
72
231760
4336
เพราะเขาคิดว่านักวิทยาศาสตร์
กำลังเอาสิ่งประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยมของเขา
04:08
and doing lousyมีหมัด work with them.
73
236120
1520
ไปใช้ทำอะไรน่ารำคาญ
04:10
So he becameกลายเป็น a househusbandสามีของบ้าน,
74
238880
3040
เขาก็เลยกลายเป็นพ่อบ้าน
04:15
but he never lostสูญหาย his passionความชอบ
for figuringการหา out
75
243360
2576
แต่เขาไม่เคยเสียแรงบันดาลใจ
ที่จะค้นหาว่า
04:17
how to get microscopesกล้องจุลทรรศน์
to see finerปลีกย่อย and finerปลีกย่อย detailsรายละเอียด
76
245960
2896
จะทำอย่างไรให้กล้องจุลทรรศน์
เห็นภาพที่ชัดขึ้นและรายละเอียดที่ดีขึ้น
04:20
than had ever been seenเห็น before
or ever could be seenเห็น.
77
248880
2477
กว่าที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้
หรือมากเท่าที่จะเป็นไปได้
04:23
This is crucialสำคัญมาก if we're ever
going to understandเข้าใจ how cellsเซลล์ work,
78
251960
4456
มันสำคัญมากถ้าเราจะทำความเข้าใจ
ว่าเซลล์ทำหน้าที่ของมันได้อย่างไร
04:28
and how cancerโรคมะเร็ง worksโรงงาน,
79
256440
1495
และมะเร็งทำหน้าที่ของมันอย่างไร
04:29
and how something
150thTH the sizeขนาด of a headหัว of a pinหมุด
80
257959
5417
และอะไรบางอยาง
ที่มีขนาดเล็กกว่าหัวเข็มหมุด 150 เท่า
04:35
can do all these amazingน่าอัศจรรย์ things,
81
263400
2136
สามารถทำสิ่งอัศจรรย์เหล่านี้ได้อย่างไร
04:37
like make proteinsโปรตีน
82
265560
1576
เช่น การสร้างโปรตีน
04:39
and moveย้าย chargesค่าใช้จ่าย around
83
267160
1896
และการเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ
04:41
and all of those things.
84
269080
1280
และสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้
04:43
There's just one problemปัญหา.
85
271400
1680
แต่มันมีอยู่ปัญหาหนึ่ง
04:46
There's this thing
calledเรียกว่า the lawกฎหมาย of physicsฟิสิกส์,
86
274040
2976
ซึ่งก็คือสิ่งที่เรียกว่า กฎของฟิสิกส์
04:49
and partส่วนหนึ่ง of the lawกฎหมาย of physicsฟิสิกส์
is the thing calledเรียกว่า the diffractionการเลี้ยวเบน limitจำกัด.
87
277040
3456
และส่วนหนึ่งของกฎของฟิสิกส์
ที่เรียกว่า ข้อจำกัดการเลี้ยวเบน
04:52
The diffractionการเลี้ยวเบน limitจำกัด is kindชนิด of like
when you go to a doctor'sแพทย์ officeสำนักงาน,
88
280520
3376
ข้อจำกัดการเลี้ยวเบน
คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณไปหาแพทย์
04:55
you can only see so farห่างไกล down,
no matterเรื่อง how good glassesแว่นตา you have.
89
283920
3136
คุณเห็นได้แต่ลึกลงไป
ไม่ว่าคุณจะมีแว่นที่ดีขนาดไหน
04:59
This was a so-calledที่เรียกว่า impossibleเป็นไปไม่ได้ problemปัญหา.
90
287080
3376
มันยังถูกเรียกว่าปัญหาที่เป็นไปไม่ได้
05:02
But one of Betzig'sBetzig ของ friendsเพื่อน
figuredคิด out how to take a tinyขนาดเล็ก moleculeอณู
91
290480
3176
แต่เพื่อนของเบทซิกคนหนึ่ง
พบว่าจะนำโมเลกุลเล็ก ๆ
05:05
that was smallerที่มีขนาดเล็ก than
the bestดีที่สุด microscopeกล้องจุลทรรศน์ could see
92
293680
2416
ที่เล็กเสียยิ่งกว่าที่กล้องจุลทรรศน์ที่ดีที่สุด
จะส่องเห็นได้
05:08
and get it to lightเบา up and fluoresceโรจน์.
93
296120
2136
ทำให้มันสว่างขึ้นและเรืองแสงได้อย่างไร
05:10
"Ahaเอเอชเอ!" BetzigBetzig said.
94
298280
2496
"อ่าฮ่า" เบทซิก กล่าว
05:12
"I think maybe the lawsกฎหมาย of physicsฟิสิกส์
are not so unbreakableไม่รู้จักแตก after all."
95
300800
4696
"ผมคิดว่าบางที จริง ๆ แล้ว กฎของฟิสิกส์
ก็ไม่ใช่ว่าจะถูกทำลายไม่ได้สักหน่อย"
05:17
So he lashedฟาด togetherด้วยกัน a microscopeกล้องจุลทรรศน์
in his friend'sเพื่อน livingการดำรงชีวิต roomห้อง.
96
305520
4856
เขาจัดการประกอบกล้องจุลทรรศน์
ในห้องนั่งเล่นของเพื่อน
05:22
He had no laboratoryห้องปฏิบัติการ.
97
310400
1816
เขาไม่มีห้องทดลอง
05:24
This revolutionaryการปฏิวัติ instrumentตราสาร
got differentต่าง proteinโปรตีน moleculesโมเลกุล
98
312240
3576
อุปกรณ์ล้ำหน้านี้
ทำให้โมเลกุลของโปรตีนต่าง ๆ
05:27
to lightเบา up in differentต่าง colorsสี,
99
315840
1560
มีแสงสว่างเป็นสีต่าง ๆ
05:30
and with a computerคอมพิวเตอร์, he was ableสามารถ
to turnกลับ very, very fuzzyเลือน blursพร่าเลือน
100
318080
4696
และด้วยคอมพิวเตอร์ เขาสามารถที่จะ
เปลี่ยนภาพที่เลือนลางไม่ชัดเจน
05:34
into very sharpคม dotsจุด and produceก่อ imagesภาพ
of unprecedentedเป็นประวัติการณ์ and startlingที่ทำให้ตกใจ clarityความชัดเจน.
101
322800
6696
เป็นจุดที่คมชัดมาก ๆ และผลิตภาพ
ที่ชัดเจนอย่างน่าทึ่งแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
05:41
For this work, last yearปี,
102
329520
2296
ด้วยผลงานนี้ ปีที่แล้ว
05:43
Ericเอริค BetzigBetzig wonวอน the Nobelโนเบล Prizeรางวัล.
103
331840
2600
อิคิค เบทซิล ได้รับรางวัลโนเบล
05:47
Why?
104
335360
1216
ทำไมล่ะ
05:48
Because now we can see
with unprecedentedเป็นประวัติการณ์ detailรายละเอียด
105
336600
4096
ก็เพราะว่าตอนนี้ เราสามารถมองเห็น
รายละเอียดที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
05:52
things that we never had seenเห็น before,
106
340720
1816
ในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
05:54
and now doctorsแพทย์ can get
a better handleจัดการ on things like cancerโรคมะเร็ง.
107
342560
3840
และตอนนี้แพทย์สามารถที่จะจัดการ
กับสิ่งต่าง ๆ อย่างมะเร็ง ได้ดีขึ้น
05:59
But do you think
BetzigBetzig was satisfiedความพึงพอใจ there?
108
347080
2496
แต่คุณคิดว่าเบทซิกจะพอใจ
และหยุดอยู่แค่นั้นหรือเปล่า
06:01
No.
109
349600
1296
ไม่ครับ
06:02
He wanted moviesภาพยนตร์.
110
350920
1856
เขาอยากได้ภาพเคลื่อนไหว
06:04
The problemปัญหา was
111
352800
1216
ปัญหาก็คือ
06:06
that even the geniusอัจฉริยภาพ microscopesกล้องจุลทรรศน์
that he inventedคิดค้น were just too slowช้า.
112
354040
3976
แม้แต่กล้องจุลทรรศน์อัจฉริยะ
ที่เขาประดิษฐ์ขึ้นก็ยังช้าเกินไป
06:10
So what did he do?
113
358040
1256
แล้วเขาทำอย่างไรล่ะ
06:11
He cameมา up with a 200-year-old-ปี ideaความคิด
114
359320
3576
เขาได้แนวคิดจากความคิดอายุ 200 ปี
06:14
calledเรียกว่า moirMoiré patternsรูปแบบ.
115
362920
1696
ที่เรียกว่า รูปแบบมอร์ (moiré )
06:16
So the way that worksโรงงาน is
if you take two very, very fine patternsรูปแบบ
116
364640
3456
การทำงานของมันก็คือ ถ้าคุณนำรูปแบบ
ที่ละเอียดมาก ๆ มาสองรูปแบบ
06:20
and you moveย้าย them acrossข้าม eachแต่ละ other,
117
368120
1776
และเคลื่อนมันขวางกันและกัน
06:21
you will see a grossทั้งหมด patternแบบแผน
118
369920
3016
คุณจะเห็นรูปแบบรวม
06:24
that a microscopeกล้องจุลทรรศน์ can see
119
372960
1480
ที่กล้องจุลทรรศน์เห็น
06:27
that otherwiseมิฉะนั้น you would not
be ableสามารถ to see.
120
375360
2096
ที่มิฉะนั้นแล้ว
คุณจะไม่สามารถมองเห็นได้
06:29
So he appliedประยุกต์ this techniqueเทคนิค
to takingการ a really blurryตาพร่า imageภาพ of a cellเซลล์
121
377480
3296
เขาใช้เทคนิคนี้
ในการถ่ายภาพเซลล์ที่ไม่ชัดเจน
06:32
and movingการเคลื่อนย้าย lots of structuredโครงสร้าง
lightเบา patternsรูปแบบ acrossข้าม it
122
380800
2576
และเคลื่อนรูปแบบแสงที่มีโครงสร้างต่าง ๆ
ขวางไปบนมัน
06:35
untilจนกระทั่ง this cellเซลล์ becameกลายเป็น crystalคริสตัล clearชัดเจน.
123
383400
2440
จนกระทั่งภาพเซลล์นั้นชัดเจน
06:38
And here is the resultผล:
124
386840
2016
และนี่ก็คือผลลัพท์
06:40
a mysteriousลึกลับ newใหม่ worldโลก,
125
388880
2736
โลกพิศวงใบใหม่
06:43
fullเต็ม of strangeแปลก things zippingซิป around
126
391640
2136
ที่เต็มไปด้วยสิ่งแปลก ๆ ที่มีชีวิตชีวา
06:45
doing things that
we don't know what they're doing.
127
393800
2400
ทำสิ่งที่เราไม่รู้ว่าพวกมันทำอะไร
06:49
But when we figureรูป it out,
we'llดี have a better handleจัดการ on life itselfตัวเอง.
128
397600
3976
แต่เมื่อเราค้นพบมัน
เราจะจัดการกับชีวิตได้ดีขึ้น
06:53
For exampleตัวอย่าง, those
greenสีเขียว globsglobs that you see?
129
401600
2096
ยกตัวอย่างเช่น
ก้อนกลมสีเขียวที่คุณเห็นนั่น
06:55
Those things are calledเรียกว่า clathrinsclathrins.
130
403720
1680
พวกมันเรียกว่า คลาทรินส์
06:57
They're moleculesโมเลกุล
that protectป้องกัน other moleculesโมเลกุล
131
405960
2416
พวกมันคือโมเลกุลที่ปกป้องโมเลกุลอื่น ๆ
07:00
as they moveย้าย throughตลอด a cellเซลล์.
132
408400
1376
เมื่อพวกมันเคลื่อนที่ไปในเซลล์
07:01
Unfortunatelyน่าเสียดาย, virusesไวรัส sometimesบางครั้ง
hijackจี้ those to infectทำให้ติดเชื้อ cellsเซลล์.
133
409800
4336
โชคไม่ดี ที่บางครั้งไวรัส
เข้ายึดมันเพื่อเข้ามาในเซลล์
07:06
Alsoด้วย, you see those little squigglyไก่เขี่ย
wormlikewormlike things movingการเคลื่อนย้าย around?
134
414160
3096
นอกจากนั้น คุณยังเห็นสิ่งที่
เหมือนหนอนเล็ก ๆ ที่เคลื่อนไปรอบ ๆ
07:09
Those are actinโปรตีน moleculesโมเลกุล.
135
417280
2296
นั่นคือโมเลกุลแอคติน
07:11
Unfortunatelyน่าเสียดาย, virusesไวรัส
alsoด้วย climbไต่ down those things
136
419600
2416
โชคไม่ดี ที่ไวรัสยังไต่ลงมาตามสิ่งนี้
07:14
to get into the cellเซลล์ nucleusนิวเคลียส
137
422040
1456
เพื่อเข้าไปในนิวเคลียสของเซลล์
07:15
to replicateทำซ้ำ themselvesตัวเอง and make you sickป่วย.
138
423520
2120
เพื่อที่จะเพิ่มจำนวนพวกมันเอง
และทำให้คุณป่วย
07:18
Now that we can look at moviesภาพยนตร์
139
426240
1856
ตอนนี้เราสามารถชมภาพเคลื่อนไหว
07:20
of what's actuallyแท้จริง going on
deepลึก insideภายใน a cellเซลล์,
140
428120
2856
ว่ามันเกิดอะไรขึ้นลึกลงไปในเซลล์
07:23
we have a much better chanceโอกาส
of curingการบ่ม viralไวรัส diseasesโรค like AIDSเอดส์.
141
431000
4080
เรามีโอกาสที่ดีขึ้นในการรักษาโรค
ที่เกิดจากไวรัส อย่างเช่น เอดส์
07:27
So when you look at a movieหนัง like this,
142
435680
1856
ฉะนั้น เมื่อคุณชมภาพยนตร์แบบนี้
07:29
it's very clearชัดเจน that BetzigBetzig has openedเปิด
our eyesตา to a completelyอย่างสมบูรณ์ newใหม่ worldโลก.
143
437560
4000
มันชัดเจนมากว่า เบทซิก
ได้เปิดทัศนะของเราสู่โลกใหม่อย่างแท้จริง
07:34
But he hasn'tไม่ได้ shatteredแตกเป็นเสี่ยง ๆ
any cherishedหัวแก้วหัวแหวน beliefsความเชื่อ.
144
442560
4120
แต่เขาไม่ได้ทำลายล้าง
ความเชื่อที่คนยึดถือกันแต่อย่างใด
07:39
That leadsโอกาสในการขาย us to Drดร. Aubreyออเบรย์ deเดอ Greyสีเทา
145
447200
2936
นั่นนำเราไปสู่ ดร. อูเบรย์ เดอ เกรย์
07:42
at Cambridgeเคมบริดจ์.
146
450160
1200
ที่เคมบริดจ์
07:44
DeDe Greyสีเทา definitelyอย่างแน่นอน has scientistsนักวิทยาศาสตร์
squirmingดิ้น with an interestingน่าสนใจ ideaความคิด:
147
452440
4336
แน่นอนว่า เดอ เกรย์ ทำให้นักวิทยาศาสตร์
ค่อย ๆ คลานไปข้างหน้าด้วยแนวคิดที่น่าสนใจ
07:48
we can be immortalเป็นอมตะ.
148
456800
1376
ซึ่งก็คือ เราสามารถที่จะเป็นอมตะได้
07:50
We can beatตี agingริ้วรอย.
149
458200
1616
เราจะเอาชนะการแก่ชราได้
07:51
Now, mostมากที่สุด scientistsนักวิทยาศาสตร์
think he's a crackpotสติไม่สมประกอบ.
150
459840
2560
ตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่
คิดว่าเขาคือจุดพัก
07:55
Any Biologyชีววิทยา 101 studentนักเรียน knowsรู้
151
463320
3296
นักเรียนที่ได้เรียนวิชาชีววิทยาพื้นฐานรู้ว่า
07:58
that agingริ้วรอย is an inevitableแน่นอน
consequenceผลพวง of livingการดำรงชีวิต.
152
466640
4016
การแก่ชราเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ของการมีชีวิตอยู่
08:02
For exampleตัวอย่าง, when we eatกิน,
153
470680
2096
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเรากิน
08:04
we take in foodอาหาร and we metabolizeเผาผลาญ it,
154
472800
1856
เรารับเอาอาหารเข้าไป เราสันดาปมัน
08:06
and that throwsพ่น off
what we call freeฟรี radicalsอนุมูล.
155
474680
2376
และสิ่งที่ปลดปล่อยออกมา
ที่เราเรียกว่าอนุมูลอิสระ
08:09
You mightอาจ have heardได้ยิน of those.
156
477080
1456
คุณอาจเคยได้ยินสิ่งเหล่านี้
08:10
Alsoด้วย knownที่รู้จักกัน as oxygenออกซิเจน ionsไอออน,
157
478560
1936
และยังรู้อีกว่า ประจุออกซิเจน
08:12
those bindผูก to our DNAดีเอ็นเอ, causeสาเหตุ it to mutateกลายพันธุ์,
158
480520
2376
ที่จับกับดีเอ็นเอของเรา
ทำให้เกิดการกลายพันธุ์
08:14
and causeสาเหตุ us to get oldเก่า and loseสูญเสีย our hairผม.
159
482920
2056
และทำให้เราแก่หรือสูญเสียผมของเราไป
08:17
(Laughterเสียงหัวเราะ)
160
485000
1576
(เสียงหัวเราะ)
08:18
It's just like, no, it's exactlyอย่างแน่นอน like
161
486600
2736
มันก็คล้าย ๆ กับ ไม่สิ มันเหมือนกันเลยกับ
08:21
oxygenออกซิเจน bindingผูกพัน to ironเหล็ก and makingการทำ it rustสนิม.
162
489360
2176
ออกซิเจนที่จับกับเหล็กและทำให้มันเกิดสนิม
08:23
So you ageอายุ because you rustสนิม out.
163
491560
2456
ฉะนั้น คุณแก่ชราก็เพราะว่าคุณขึ้นสนิม
08:26
(Laughterเสียงหัวเราะ)
164
494040
2176
(เสียงหัวเราะ)
08:28
Oh, and scientistsนักวิทยาศาสตร์ alsoด้วย know
there is something calledเรียกว่า immortalityความอมตะ:
165
496240
5096
ครับ นักวิทยาศาสตร์ยังรู้อีกว่า
มีอะไรบางอย่างที่เรียกว่าความเป็นอมตะ
08:33
in cancerโรคมะเร็ง cellsเซลล์.
166
501360
1976
ในเซลล์มะเร็ง
08:35
So if you stop agingริ้วรอย,
167
503360
2296
ถ้าคุณหยุดการแก่ชรา
08:37
all of you are going to turnกลับ
into giantยักษ์ walkingที่เดิน malignantร้าย tumorsเนื้องอก.
168
505680
3920
คุณก็จะกลายไปเป็นก้อนเนื้องอกลุกลาม
ก้อนยักษ์ที่เดินได้
08:42
These are cherishedหัวแก้วหัวแหวน beliefsความเชื่อ,
but could deเดอ Greyสีเทา be on to something?
169
510680
3160
นี่คือความเชื่อที่มีมานาน
แต่ เดอ เกรย์ กำลังทำอะไรอยู่หรือเปล่า
08:47
I think he deservesสมควรได้รับ a closerใกล้ชิด look.
170
515159
1657
ผมคิดว่าเราควรที่จะมองดูดี ๆ
08:48
First of all, I have a really hardยาก time
seeingเห็น him as a crackpotสติไม่สมประกอบ.
171
516840
3136
ประการแรก ผมรู้สึกขัดข้องใจ
ที่จะมองว่าเขาเป็นจุดพัก
08:52
Yeah, he startedเริ่มต้น off life
as a computerคอมพิวเตอร์ scientistนักวิทยาศาสตร์,
172
520000
2336
ครับ เขาเริ่มชีวิตการทำงานของเขา
ในฐานะนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
08:54
not a biologistนักชีววิทยา,
173
522360
1496
ไม่ใช่นักชีววิทยา
08:55
but he earnedได้รับ a PhDปริญญาเอก
in biologyชีววิทยา from Cambridgeเคมบริดจ์,
174
523880
3816
แต่เขาได้รับปริญญาเอก สาขาชีววิทยา
จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
08:59
and he has publishedการตีพิมพ์
some very significantสำคัญ work
175
527720
2376
และเขาได้ตีพิมพ์บางอย่าง
ที่เป็นผลงานที่โดดเด่น
09:02
on mitochondrialยล DNAดีเอ็นเอ
and a bunchพวง of other stuffสิ่ง.
176
530120
2456
เกี่ยวกับดีเอ็นเอของไมโตรคอนเดรีย
และสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย
09:04
Secondlyในประการที่สอง, he startedเริ่มต้น
an antiagingต่อต้านริ้วรอย foundationมูลนิธิ
177
532600
3096
ประการที่สอง
เขาเริ่มก่อตั้งมูลนิธีเกี่ยวกับการแก่ชรา
09:07
that has identifiedระบุ
sevenเจ็ด differentต่าง causesสาเหตุ of agingริ้วรอย,
178
535720
2576
ที่ได้บ่งจำแนกสาเหตุต่าง ๆ เจ็ดประการ
ของการแก่ชรา
09:10
to me, that seemดูเหมือน very plausibleน่าเชื่อถือ,
179
538320
2256
สำหรับผมแล้ว นั่นมันฟังดูเข้าท่ามาก
09:12
and he is hotร้อน in pursuitการแสวงหา
of fixesแก้ไข for everyทุกๆ singleเดียว one of them.
180
540600
4136
และเขาก็พยายามอย่างมาก
ที่จะจัดการกับทุกอย่างในรายการนั้น
09:16
For exampleตัวอย่าง, one of the reasonsเหตุผล we ageอายุ
is that our mitochondrialยล DNAดีเอ็นเอ mutatesการแปรรูป,
181
544760
5016
ยกตัวอย่างเช่น หนึ่งในเหตุผลที่เราแก่ชรา
คือดีเอ็นเอในไมโตรคอนเดรียของเรา
09:21
and we get kindชนิด of oldเก่า
and our cellsเซลล์ loseสูญเสีย energyพลังงาน.
182
549800
2680
และเราแก่ตัว
และเซลล์ของเราก็เสียพลังงาน
09:25
He believesเชื่อว่า, and he's madeทำ
a convincingน่าเชื่อ caseกรณี,
183
553160
2336
เขาเชื่อว่า และเขาก็ทำให้มันน่าเชื่อถือ
09:27
that usingการใช้ virusesไวรัส we can do geneยีน therapyการรักษาด้วย,
184
555520
2536
ว่าการใช้ไวรัสทำให้เราสามารถ
ใช้การบำบัดด้วยยีนได้
09:30
fixแก้ไขปัญหา that DNAดีเอ็นเอ
185
558080
1656
เพื่อซ่อมดีเอ็นเอ
09:31
and rejuvenateชุบตัว our cellsเซลล์.
186
559760
1720
และทำให้เซลล์เป็นเด็กอีกครั้ง
09:35
One more thing.
187
563400
1336
อีกอย่างหนึ่ง
09:36
We have an existentสิ่งที่มีอยู่จริง proofพิสูจน์
188
564760
1856
เรามีหลักฐานยืนยันได้ว่า
09:38
that extremeสุดขีด longevityอายุยืน is possibleเป็นไปได้.
189
566640
2720
การมีชีวิตอยู่อย่างยาวนานมาก ๆ นั้น
เป็นไปได้
09:42
BristleconeBristlecone pineต้นสน treesต้นไม้ liveมีชีวิต 5,000 yearsปี,
190
570520
4160
ไม้สน บริสลีคอน มีชีวิตอยู่ 5,000 ปี
09:47
and some lobstersล็อบสเตอร์ don't ageอายุ at all.
191
575720
3800
และล๊อบสเตอร์บางอย่างก็ไม่แก่ขึ้นเลย
09:52
Now, this doesn't mean that deเดอ Greyสีเทา
is going to revolutionizeปฏิวัติ our lifespanslifespans.
192
580640
4336
เอาล่ะ นั่นไม่ได้หมายความว่า
เดอ เกรย์ จะไม่ปฏิวัติอนาคตของเรา
09:57
I mean, after all, we're not treesต้นไม้,
and mostมากที่สุด of us are not lobstersล็อบสเตอร์.
193
585000
3816
ผมหมายถึงว่า อย่างไรก็ดี เราไม่ใช่ต้นไม้
และพวกเราส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ล๊อปสเตอร์
10:00
(Laughterเสียงหัวเราะ)
194
588840
1216
(เสียงหัวเราะ)
10:02
But I've got to believe that there are
Darwinsดาร์วิน and EinsteinsEinsteins out there,
195
590080
4800
แต่ผมต้องเชื่อว่า
มันมีดาวินและไอสไตน์อยู่สักแห่ง
10:07
and I'll tell you why.
196
595840
1376
ที่จะบอกคุณว่าทำไม
10:09
Considerพิจารณา this:
197
597240
1200
ลองพิจารณาดูนะครับ
10:11
there are sevenเจ็ด timesครั้ง more people
aliveมีชีวิตอยู่ todayในวันนี้ than duringในระหว่าง Darwin'sดาร์วิน time.
198
599160
5296
ว่ามีคนมากกว่า 7 เท่า ที่มีชีวิตอยู่ในวันนี้
เทียบกับในยุคของดาวิน
10:16
There are fourสี่ timesครั้ง as manyจำนวนมาก people
aliveมีชีวิตอยู่ todayในวันนี้ as Einsteinไอน์สไต.
199
604480
3456
มีคนมากกว่าเป็นสี่เท่าในวันนี้
เมื่อเทียบกับในยุคของไอสไตน์
10:19
When you considerพิจารณา
200
607960
1216
เมื่อคุณตระหนักแล้วว่า
10:21
that the proportionสัดส่วน of scientistsนักวิทยาศาสตร์
in the populationประชากร has skyrocketedพุ่งสูงขึ้น,
201
609200
3216
สัดส่วนของนักวิทยาศาสตร์
ในกลุ่มประชากรสูงขึ้นอย่างมาก
10:24
there are now sevenเจ็ด millionล้าน scientistsนักวิทยาศาสตร์.
202
612440
2376
ตอนนี้มีนักวิทยาศาสตร์เจ็ดล้านคน
10:26
I've got to believe, and I do believe,
that there's one of them out there
203
614840
3440
ผมต้องเชื่อว่า และผมเชื่อจริง ๆ ว่า
จะมีใครสักคนหนึ่งในนั้น
10:31
who is workingการทำงาน right now in obscurityความสับสน
204
619720
2336
ที่สามารถคิดออก
ในเวลาที่ทุกอย่างขุ่นมัวนี้
10:34
to rockหิน our livesชีวิต,
and I don't know about you,
205
622080
2416
เพื่อที่จะทำให้ชีวิตคุณต้องสะเทือน
ผมไม่รู้หรอกว่าคุณคิดอย่างไร
10:36
but I can't wait to be rockedโยก.
206
624520
1816
แต่ผมรอไม่ไหวแล้วที่จะรับแรงสั่นนั้น
10:38
Thank you.
207
626360
1256
ขอบคุณครับ
10:39
(Applauseการปรบมือ)
208
627640
6961
(เสียงปรบมือ)

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Eric Haseltine - Author, futurist, innovator
Eric Haseltine applies discoveries about the brain to innovation and forecasting game-changing advances in science and technology.

Why you should listen

Dr. Eric Haseltine is a neuroscientist and futurist who has applied a brain-centered approach to help organizations in aerospace, entertainment, healthcare, consumer products and national security transform and innovate. He is the author of Long Fuse, Big Bang: Achieving Long-Term Success Through Daily Victories. For five years, he wrote a monthly column on the brain for Discover magazine and is a frequent contributor to Psychology Today's web site, where his popular blog on the brain has garnered over 800,000 views. Haseltine received the Distinguished Psychologist in Management Award from the Society of Psychologists in Management and has published 41 patents and patent applications in optics, media and entertainment technology.

In 1992 he joined Walt Disney Imagineering to help found the Virtual Reality Studio, which he ultimately ran until his departure from Disney in 2002. When he left Disney, Haseltine was executive vice president of Imagineering and head of R&D for the entire Disney Corporation, including film, television, theme parks, Internet and consumer products.

In the aftermath of 9/11, Eric joined the National Security Agency to run its Research Directorate. Three years later, he was promoted to associate of director of National Intelligence, where he oversaw all science and technology efforts within the United States Intelligence Community as well as fostering development innovative new technologies for countering cyber threats and terrorism. For his work on counter-terrorism technologies, he received the National Intelligence Distinguished Service Medal in 2007.

Haseltine serves on numerous boards, and is an active consultant, speaker and writer. Over the past three years, he has focused heavily on developing innovation strategies and consumer applications for the Internet of Things, virtual reality and augmented reality.

Haseltine continues to do basic research in neuroscience, with his most recent publications focusing on the mind-body health connection and exploitation of big-data to uncover subtle, but important trends in mental and physical health.

More profile about the speaker
Eric Haseltine | Speaker | TED.com

Data provided by TED.

This site was created in May 2015 and the last update was on January 12, 2020. It will no longer be updated.

We are currently creating a new site called "eng.lish.video" and would be grateful if you could access it.

If you have any questions or suggestions, please feel free to write comments in your language on the contact form.

Privacy Policy

Developer's Blog

Buy Me A Coffee