TED2004
Mihaly Csikszentmihalyi: Flow, the secret to happiness
มิฮาลี ชิคเซนมิฮาย: ว่าด้วย Flow
Filmed:
Readability: 4.2
5,809,721 views
มิฮาลี ชิคเซนมิฮายตั้งคำถามว่า "อะไรทำให้ชีวิตมีคุณค่าควรแก่การดำรงอยู่?" เมื่อพบว่าเงินไม่สามารถทำให้คนเรามีความสุขได้ เขาจึงหันมาศึกษาคนที่หาความสุขและความพึงพอใจที่ยั่งยืนจากกิจกรรมที่ทำให้คนเราเข้าสู่ภาวะ "flow" (จิตมีสมาธิจดจ่อจนลื่นไหลเป็นหนึ่งเดียวไปกับสิ่งที่ทำ)
Mihaly Csikszentmihalyi - Positive psychologist
Mihaly Csikszentmihalyi has contributed pioneering work to our understanding of happiness, creativity, human fulfillment and the notion of "flow" -- a state of heightened focus and immersion in activities such as art, play and work. Full bio
Mihaly Csikszentmihalyi has contributed pioneering work to our understanding of happiness, creativity, human fulfillment and the notion of "flow" -- a state of heightened focus and immersion in activities such as art, play and work. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
I grew up in Europe, and World War II caught me
0
0
5000
ผมโตในยุโรป แล้วก็ได้สัมผัสกับสงครามโลกครั้งที่สอง
00:17
when I was between seven and 10 years old.
1
5000
4000
เมื่อตอนที่อายุระหว่าง 7-10 ขวบ
00:21
And I realized how few of the grown-ups that I knew
2
9000
7000
ผมได้ตระหนักว่า ในบรรดาผู้ใหญ่ที่ผมรู้จัก มีแค่ไม่กี่คน
00:28
were able to withstand the tragedies that the war visited on them --
3
16000
10000
ที่สามารถยืนหยัดเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมที่มาพร้อมกับสงครามได้
00:38
how few of them could even resemble a normal, contented,
4
26000
8000
น้อยคนนักที่ยังคงมีชีวิตใกล้เคียงปกติ พึงพอใจ
00:46
satisfied, happy life once their job, their home, their security
5
34000
9000
และมีความสุขอยู่ได้ เมื่องาน บ้าน และความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต
00:55
was destroyed by the war.
6
43000
2000
ถูกทำลายเพราะสงคราม
00:57
So I became interested in understanding
7
45000
3000
ผมจึงเริ่มอยากทำความเข้าใจ
01:00
what contributed to a life that was worth living.
8
48000
5000
ว่าอะไรที่ทำให้ชีวิตที่มีคุณค่าควรแก่การดำรงอยู่
01:05
And I tried, as a child, as a teenager, to read philosophy
9
53000
6000
ดังนั้น ตั้งแต่ยังวัยรุ่น ผมจึงอ่านปรัชญา
01:11
and to get involved in art and religion and many other ways
10
59000
8000
ทำงานศิลปะ เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา และอะไรอีกหลายอย่าง
01:19
that I could see as a possible answer to that question.
11
67000
4000
ที่ผมคิดว่าน่าจะให้คำตอบต่อคำถามนั้นได้
01:23
And finally I ended up encountering psychology by chance.
12
71000
9000
ในที่สุด ผมก็ได้มาเจอจิตวิทยาเข้าโดยบังเอิญ
01:32
I was at a ski resort in Switzerland without any money
13
80000
5000
ตอนนั้นผมอยู่ในรีสอร์ตเพื่อการเล่นสกีแห่งหนึ่งในสวิสเซอร์แลนด์โดยไม่มีเงินติดตัว
01:37
to actually enjoy myself, because the snow had melted and
14
85000
8000
ผมก็สนุกนะ เพราะหิมะละลายแล้ว แล้วก็มี --
01:45
I didn't have money to go to a movie. But I found that on the --
15
93000
5000
คือ ผมไม่มีเงินไปดูหนัง แต่ผมพบว่า --
01:50
I read in the newspapers that there was to be a presentation
16
98000
5000
ผมอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ว่าจะมีปาฐกถาอันหนึ่ง
01:55
by someone in a place that I'd seen in the center of Zurich,
17
103000
6000
โดยใครคนหนึ่งจากที่ไหนสักแห่งที่ผมเคยเห็นในใจกลางเมืองซูริค
02:01
and it was about flying saucers [that] he was going to talk.
18
109000
6000
เขาจะพูดเรื่องจานบิน
02:07
And I thought, well, since I can't go to the movies,
19
115000
2000
ผมเลยคิดว่า อืม ผมไม่มีเงินไปดูหนัง
02:09
at least I will go for free to listen to flying saucers.
20
117000
6000
อย่างน้อยไปฟังคนพูดเรื่องจานบินก็ยังดี เพราะมันฟรี
02:15
And the man who talked at that evening lecture was very interesting.
21
123000
9000
สุภาพบุรุษที่มาพูดคืนนั้นเป็นคนน่าสนใจมาก
02:24
Instead of talking about little green men,
22
132000
3000
แทนที่เขาจะพูดถึงมนุษย์จิ๋วตัวเขียว
02:27
he talked about how the psyche of the Europeans
23
135000
5000
เขาพูดถึงจิตของคนยุโรป
02:32
had been traumatized by the war, and now they're projecting
24
140000
4000
ที่ทุกข์ทรมานเพราะสงคราม แล้วก็เลยสร้างภาพ
02:36
flying saucers into the sky.
25
144000
3000
จานบินขึ้นมาบนท้องฟ้า เหมือนกับ --
02:40
He talked about how the mandalas of ancient Hindu religion
26
148000
5000
เขาพูดถึงมันดาลา (mandalas - สัญลักษณ์แทนจักรวาล) ในศาสนาฮินดูโบราณ
02:45
were kind of projected into the sky as an attempt to regain
27
153000
7000
เหมือนว่าจิตคนเราสร้างภาพนั้นขึ้นบนท้องฟ้า เพื่อพยายามเรียกคืน
02:52
some sense of order after the chaos of war.
28
160000
4000
ความรู้สึกของความสงบเป็นระเบียบกลับมา หลังจากความวุ่นวายของสงคราม
02:56
And this seemed very interesting to me.
29
164000
3000
ผมว่ามันน่าสนใจมาก
02:59
And I started reading his books after that lecture.
30
167000
3000
ผมจึงเริ่มอ่านหนังสือของเขาหลังจากฟังเลคเชอร์ครั้งนั้น
03:02
And that was Carl Jung, whose name or work I had no idea about.
31
170000
8000
และนั่นคือคาร์ล ยุง ชื่อที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย
03:10
Then I came to this country to study psychology
32
178000
3000
แล้วผมก็มาที่ประเทศนี้ (อเมริกา) เพื่อเรียนจิตวิทยา
03:13
and I started trying to understand the roots of happiness.
33
181000
7000
และเริ่มพยายามทำความเข้าใจรากฐานของความสุข
03:20
This is a typical result that many people have presented,
34
188000
5000
นี่เป็นผลสำรวจที่หลายคนนำเสนอไปแล้ว
03:25
and there are many variations on it.
35
193000
3000
แล้วก็มีการสำรวจที่ดัดแปลงเพิ่มเติมไปจากนี้อีกหลายชิ้น
03:28
But this, for instance, shows that about 30 percent of the people
36
196000
4000
แต่อย่างชิ้นนี้ แสดงให้เห็นว่า 30% ของคนที่ตอบแบบสอบถาม
03:32
surveyed in the United States since 1956
37
200000
4000
ในอเมริกา ตั้งแต่ปี 1956
03:36
say that their life is very happy.
38
204000
4000
บอกว่าชีวิตเขามีความสุขมาก
03:40
And that hasn't changed at all.
39
208000
2000
และตัวเลขนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยจนวันนี้
03:42
Whereas the personal income,
40
210000
2000
ในขณะที่รายได้ส่วนบุคคล
03:44
on a scale that has been held constant to accommodate for inflation,
41
212000
6000
ที่ปรับค่าเงินเฟ้อแล้ว
03:50
has more than doubled, almost tripled, in that period.
42
218000
4000
เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า ที่จริงเกือบสามเท่าในช่วงเวลาเหล่านี้
03:54
But you find essentially the same results,
43
222000
4000
แต่คุณพบผลแบบเหมือนเดิมเลย
03:58
namely, that after a certain basic point -- which corresponds more or less
44
226000
5000
นั่นคือ ที่ระดับรายได้เหนือกว่าจุดจุดหนึ่ง ซึ่งอยู่ประมาณ
04:03
to just a few 1,000 dollars above the minimum poverty level --
45
231000
4000
ไม่กี่พันดอลล่าร์เหนือเกณฑ์ขั้นต่ำของความยากจน
04:07
increases in material well-being don't seem to affect how happy people are.
46
235000
7000
การมีความพรั่งพร้อมทางวัตถุมากขึ้นไม่ได้มีผลให้คนมีความสุขมากขึ้น
04:14
In fact, you can find that the lack of basic resources,
47
242000
7000
คือ คุณจะพบว่าการขาดแคลนวัตถุที่เป็นปัจจัยพี้นฐาน
04:21
material resources, contributes to unhappiness,
48
249000
3000
ทำให้คนเราเป็นทุกข์
04:24
but the increase in material resources does not increase happiness.
49
252000
6000
แต่การมีทรัพยากรที่เป็นวัตถุมากขึ้นไม่ได้ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น
04:30
So my research has been focused more on --
50
258000
5000
ดังนั้น งานวิจัยของผมจึงมุ่งศึกษา --
04:35
after finding out these things that actually corresponded
51
263000
7000
คือ หลังจากได้เห็นผลสำรวจนี้ ซึ่งก็สอดคล้องกับ
04:42
to my own experience, I tried to understand:
52
270000
3000
ประสบการณ์ของผมเอง ตอนนี้ผมก็เลยพยายามทำความเข้าใจ
04:45
where -- in everyday life, in our normal experience --
53
273000
6000
ว่าตอนไหน ตรงไหนในชีวิตประจำวัน ในประสบการณ์ปกติทั่วไปของเรา
04:51
do we feel really happy?
54
279000
3000
ที่เรามีความสุขอย่างแท้จริง
04:54
And to start
55
282000
4000
ผมเริ่มต้นโดย --
04:58
those studies about 40 years ago, I began to look at creative people --
56
286000
5000
เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ผมเริ่มศึกษาคนที่มีความคิดสร้างสรรค์
05:03
first artists and scientists, and so forth -- trying to understand
57
291000
6000
เริ่มจากศิลปินและนักวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ -- พยายามทำความเข้าใจ
05:09
what made them feel that it was worth essentially spending their life
58
297000
10000
ว่าอะไรทำให้เขารู้สึกว่า มันคุ้มที่จะใช้ชีวิต
05:19
doing things for which many of them didn't expect either fame or fortune,
59
307000
6000
ทำสิ่งที่พวกเขาหลายคนทำโดยไม่คาดหวังชื่อเสียงหรือความร่ำรวย
05:25
but which made their life meaningful and worth doing.
60
313000
5000
แต่เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเขามีความหมาย และควรค่าที่จะทำ
05:30
This was one of the leading composers of American music back in the '70s.
61
318000
6000
นี่เป็นข้อมูลจากนักประพันธ์เพลงชาวอเมริกันเมื่อยุค 70s
05:36
And the interview was 40 pages long.
62
324000
3000
บทสัมภาษณ์ของเขายาว 40 หน้า
05:39
But this little excerpt is a very good summary
63
327000
4000
แต่คำพูดสั้นๆ ที่ผมตัดตอนมานี้เป็นบทสรุปที่ดีมาก
05:43
of what he was saying during the interview.
64
331000
4000
ของสิ่งที่เขาพูดในระหว่างการสัมภาษณ์
05:47
And it describes how he feels when composing is going well.
65
335000
5000
มันบรรยายความรู้สึกของเขาระหว่างที่การแต่งเพลงลื่นไหลดี
05:52
And he says by describing it as an ecstatic state.
66
340000
4000
และเขาบรรยายว่ามันเป็นภาวะที่มีความปิติ (ecstasy)
05:56
Now, "ecstasy" in Greek meant
67
344000
2000
ทีนี้ คำว่า ecstasy ในภาษากรีก
05:58
simply to stand to the side of something.
68
346000
3000
แปลว่า ยืนอยู่อีกข้างหนึ่งของอะไรบางอย่าง
06:01
And then it became essentially an analogy for a mental state
69
349000
7000
แล้วต่อมามันก็มีความหมายเชิงเปรียบเทียบถึงสภาวะทางจิต
06:08
where you feel that you are not doing your ordinary everyday routines.
70
356000
6000
ที่คุณรู้สึกว่าคุณไม่ได้ทำสิ่งธรรมดาสามัญที่ทำในชีวิตประจำวัน
06:14
So ecstasy is essentially a stepping into an alternative reality.
71
362000
6000
ดังนั้น ecstasy (ที่เราแปลว่าความปิติ) จึงหมายถึงการก้าวเข้าสู่ความจริงอีกระดับหนึ่ง
06:20
And it's interesting, if you think about it, how, when we think about
72
368000
5000
น่าสนใจนะครับ ถ้าคุณลองคิดดู เมื่อเรานึกถึง
06:25
the civilizations that we look up to as having been pinnacles of human achievement --
73
373000
6000
อารยธรรมที่เราชื่นชมว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดของมนุษยชาติ
06:31
whether it's China, Greece, the Hindu civilization,
74
379000
5000
ไม่ว่าจะเป็นอารยธรรมจีน กรีก ฮินดู
06:36
or the Mayas, or Egyptians -- what we know about them
75
384000
5000
หรือมายา หรืออียิปต์ -- สี่งที่เรารู้เกี่ยวกับอารยธรรมเหล่านั้น
06:41
is really about their ecstasies, not about their everyday life.
76
389000
5000
คือช่วงเวลาที่ไม่ธรรมดาสามัญ ไม่ใช่ชีวิตประจำวันของผู้คนเลย
06:46
We know the temples they built, where people could come
77
394000
3000
เรารู้เกี่ยวกับวัดวาอารามที่พวกเขาสร้าง ที่ที่ผู้คนสามารถ
06:49
to experience a different reality.
78
397000
2000
เข้ามาสัมผัสความเป็นจริงที่แตกต่างออกไป
06:51
We know about the circuses,
79
399000
3000
เรารู้เรื่องลานแสดงละครสัตว์
06:54
the arenas, the theaters.
80
402000
3000
สนามกีฬา โรงละคร
06:57
These are the remains of civilizations and they are the places that people went
81
405000
8000
ซึ่งเป็นร่องรอยของอารยธรรม เป็นที่ที่คนในยุคนั้นไปกัน
07:05
to experience life in a more concentrated, more ordered form.
82
413000
9000
เพื่อสัมผัสชีวิตในรูปแบบที่เข้มข้น มีการจัดแจงแต่งเติมมากกว่าปกติ
07:14
Now, this man doesn't need to go to a place like this,
83
422000
4000
ทีนี้ ชายคนนี้เขาไม่ต้องไปยังสถานที่เหล่านี้
07:18
which is also -- this place, this arena, which is built
84
426000
4000
อย่างโรงมหรสพของกรีก
07:22
like a Greek amphitheatre, is a place for ecstasy also.
85
430000
4000
ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
07:26
We are participating in a reality that is different
86
434000
4000
ที่เราจะได้พบกับความจริงที่แตกต่าง
07:30
from that of the everyday life that we're used to.
87
438000
3000
จากชีวิตประจำวันที่เราคุ้นเคย
07:33
But this man doesn't need to go there.
88
441000
3000
แต่ชายคนนี้เขาไม่จำเป็นต้องไปตามสถานที่พวกนี้
07:36
He needs just a piece of paper where he can put down little marks,
89
444000
6000
เขาแค่ต้องการกระดาษแผ่นหนึ่ง ที่เขาสามารถขีดเขียนอะไรลงไปได้
07:42
and as he does that, he can imagine sounds
90
450000
6000
และขณะที่เขาทำอย่างนั้น เขาสามารถจินตนาการเสียง
07:48
that had not existed before in that particular combination.
91
456000
4000
เสียงที่ถูกร้อยเรียงกันเป็นท่วงทำนองที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน
07:52
So once he gets to that point of beginning to create,
92
460000
6000
เมื่อเขาเข้าถึงจุดที่เขาเริ่มต้นสร้างสรรค์ความจริงในรูปแบบใหม่
07:58
like Jennifer did in her improvisation,
93
466000
3000
อย่างที่เจนนิเฟอร์ได้แสดงการอิมโพรไวเซชั่นไปเมื่อครู่
08:01
a new reality -- that is, a moment of ecstasy --
94
469000
5000
นั่นล่ะคือชั่วขณะของความปิติ (ecstasy)
08:06
he enters that different reality.
95
474000
3000
เขาเข้าสู่โลกความจริงอีกมิติที่แตกต่างออกไป
08:09
Now he says also that this is so intense an experience
96
477000
4000
เขายังบอกอีกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่เข้มข้นมาก
08:13
that it feels almost as if he didn't exist.
97
481000
3000
จนเหมือนกับว่าตัวเขาเองไม่มีตัวตน
08:16
And that sounds like a kind of a romantic exaggeration.
98
484000
6000
ฟังดูเหมือนพูดเกินจริงนะครับ
08:22
But actually, our nervous system is incapable of processing
99
490000
4000
แต่ที่จริง ระบบประสาทของเราสามารถประมวลผล
08:26
more than about 110 bits of information per second.
100
494000
5000
ข้อมูลได้ไม่เกิน 110 บิตต่อวินาที
08:31
And in order to hear me and understand what I'm saying,
101
499000
4000
การที่คุณจะได้ยินผมและเข้าใจสิ่งที่ผมพูด
08:35
you need to process about 60 bits per second.
102
503000
4000
คุณต้องประมวลผลข้อมูล 60 บิตต่อวินาที
08:39
That's why you can't hear more than two people.
103
507000
3000
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่สามารถฟังคนมากกว่าสองคนพร้อมกัน
08:42
You can't understand more than two people talking to you.
104
510000
3000
คุณไม่สามารถคุยและเข้าใจคนมากกว่าสองคนในเวลาเดียวกันได้
08:45
Well, when you are really involved in this completely engaging process
105
513000
11000
ทีนี้ เวลาคุณจดจ่ออย่างเต็มที่อยู่กับกระบวนการ
08:56
of creating something new, as this man is,
106
524000
3000
สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างที่ชายคนนี้เป็น
08:59
he doesn't have enough attention left over to monitor
107
527000
6000
เขาไม่เหลือทรัพยากรทางจิตให้ไปใส่ใจเฝ้าสังเกต
09:05
how his body feels, or his problems at home.
108
533000
4000
ว่าร่างกายของเขากำลังรู้สึกอย่างไร หรือคิดถึงปัญหาที่บ้าน
09:09
He can't feel even that he's hungry or tired.
109
537000
3000
เขาไม่สามารถรับรู้แม้แต่ความหิวหรือความเหนื่อย
09:12
His body disappears,
110
540000
3000
ร่างกายของเขาหายวับไปเลย
09:15
his identity disappears from his consciousness,
111
543000
5000
ตัวตนของเขาก็หายไปจากภาวะการรับรู้ด้วย
09:20
because he doesn't have enough attention, like none of us do,
112
548000
4000
เพราะเขาไม่มีทรัพยากรทางจิตเพียงพอที่จะ
09:24
to really do well something that requires a lot of concentration,
113
552000
6000
ทำอะไรที่ใช้สมาธิสูงมากๆ ให้ได้ผลดี
09:30
and at the same time to feel that he exists.
114
558000
2000
แล้วยังรู้สึกถึงตัวตนของตัวเองด้วยในเวลาเดียวกัน
09:32
So existence is temporarily suspended.
115
560000
4000
เราจึงหยุดการรับรู้ถึงการมีตัวตนของเราไปชั่วคราว
09:37
And he says that his hand seems to be moving by itself.
116
565000
5000
เขาบอกว่ามือของเขาเหมือนกับจะเคลื่อนไหวเอง
09:43
Now, I could look at my hand for two weeks, and I wouldn't feel
117
571000
8000
ทีนี้ ให้ผมนั่งมองมือตัวเองอยู่สองอาทิตย์ ผมก็ไม่รู้สึก
09:51
any awe or wonder, because I can't compose. (Laughter)
118
579000
4000
ถึงความอัศจรรย์อะไรแบบนั้นหรอก เพราะผมแต่งเพลงไม่เป็น
09:55
So what it's telling you here
119
583000
2000
แล้วนั่นบอกอะไรคุณ
09:57
is that obviously this automatic,
120
585000
7000
ในบางตอนของบทสัมภาษณ์ เราเห็นได้ชัดว่ากระบวนการที่เป็นอัตโนมัติ
10:04
spontaneous process that he's describing can only happen to someone
121
592000
5000
ลื่นไหลไปอย่างเป็นธรรมชาติที่เขาบรรยายมานั้น จะเกิดขึ้นเฉพาะ
10:09
who is very well trained and who has developed technique.
122
597000
4000
กับคนที่ฝึกฝนและได้พัฒนาเทคนิคหรือทักษะมาเป็นอย่างดีแล้ว
10:13
And it has become a kind of a truism in the study of creativity
123
601000
7000
นั่นเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธในงานวิจัยเรื่องความคิดสร้างสรรค์ไปแล้ว
10:20
that you can't be creating anything with less than 10 years
124
608000
5000
ที่ว่าคุณไม่สามารถสร้างสรรค์อะไรได้ ถ้าคุณคลุกคลี
10:25
of technical-knowledge immersion in a particular field.
125
613000
6000
ซึมซับความรู้ทางเทคนิคในวงการนั้นมายังไม่ถึง 10 ปี
10:31
Whether it's mathematics or music, it takes that long
126
619000
5000
ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ ดนตรี มันใช้เวลานานขนาดนั้นเลย
10:36
to be able to begin to change something in a way that it's better
127
624000
8000
กว่าจะสามารถเปลี่ยนอะไร
10:44
than what was there before.
128
632000
3000
ให้มันดีกว่าที่เคยมีมาก่อน
10:47
Now, when that happens,
129
635000
2000
เอาล่ะ ทีนี้ เมื่อมันเกิดขึ้น
10:49
he says the music just flows out.
130
637000
2000
เขาบอกว่า เสียงดนตรีพรั่งพรูออกมาเอง (flows out)
10:51
And because all of these people I started interviewing --
131
639000
4000
คนที่ผมสัมภาษณ์ทุกคน
10:55
this was an interview which is over 30 years old --
132
643000
4000
ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
11:01
so many of the people described this as a spontaneous flow
133
649000
4000
หลายคนมากบรรยายว่ามันเป็นภาวะที่ลื่นไหล (flow) ไปอย่างเป็นธรรมชาติ
11:05
that I called this type of experience the "flow experience."
134
653000
5000
ผมจึงเรียกประสบการณ์นี้ว่า "flow"
11:10
And it happens in different realms.
135
658000
3000
ภาวะนี้เกิดขึ้นในกิจกรรมต่างๆ หลากหลาย
11:13
For instance, a poet describes it in this form.
136
661000
4000
เช่น กวีคนหนึ่งก็บรรยายภาวะที่ว่าแบบนี้
11:17
This is by a student of mine who interviewed
137
665000
3000
จากข้อมูลที่ลูกศิษย์คนหนึ่งของผมไปสัมภาษณ์
11:20
some of the leading writers and poets in the United States.
138
668000
3000
นักเขียนและกวีแถวหน้าของสหรัฐอเมริกา
11:23
And it describes the same effortless, spontaneous feeling
139
671000
6000
คุณจะรู้สึกเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องพยายาม
11:29
that you get when you enter into this ecstatic state.
140
677000
3000
เมื่อคุณเข้าสู่ภาวะ "flow" ที่จิตคุณมีสมาธิจดจ่อและอยู่ในภาวะปิติ (ecstasy)
11:32
This poet describes it as opening a door that floats in the sky --
141
680000
5000
กวีท่านนี้บรรยายว่ามันเหมือนการเปิดประตูที่นำคุณล่องลอยไปบนท้องฟ้า
11:37
a very similar description to what Albert Einstein gave
142
685000
3000
เหมือนกับที่ไอน์สไตน์บรรยายความรู้สึก
11:40
as to how he imagined the forces of relativity,
143
688000
6000
ที่เขาจินตนาการเรื่องแรงในทฤษฎีสัมพัทธภาพ
11:46
when he was struggling with trying to understand how it worked.
144
694000
4000
ตอนที่เขาพยายามทำความเข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร
11:50
But it happens in other activities.
145
698000
5000
แต่ภาวะนี้เกิดในกิจกรรมอื่นๆ ด้วย
11:55
For instance, this is another student of mine,
146
703000
2000
เช่น ลูกศิษย์ของผมอีกคนหนึ่ง
11:57
Susan Jackson from Australia, who did work
147
705000
4000
ซูซาน แจ็คสัน จากออสเตรเลีย
12:01
with some of the leading athletes in the world.
148
709000
4000
ที่ศึกษานักกีฬาชั้นนำของโลก
12:05
And you see here in this description of an Olympic skater,
149
713000
4000
นี่คือคำบรรยายประสบการณ์ของนักสเก็ตโอลิมปิก
12:09
the same essential description of the phenomenology
150
717000
3000
เป็นภาวะทางจิตด้านใน
12:12
of the inner state of the person.
151
720000
2000
ที่เหมือนกับที่ผมบรรยายมาก่อนหน้านี้เลย
12:14
You don't think; it goes automatically,
152
722000
3000
คุณไม่ได้คิด มันเป็นไปแบบอัตโนมัติ
12:17
if you merge yourself with the music, and so forth.
153
725000
4000
ถ้าคุณปล่อยให้ตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกับดนตรี หรืออะไรอย่างอื่น
12:21
It happens also, actually, in the most recent book I wrote,
154
729000
4000
คุณก็สัมผัสภาวะนี้ได้เช่นกัน ที่จริง ในหนังสือเล่มล่าสุดที่ผมเขียน
12:25
called "Good Business," where I interviewed some of the CEOs
155
733000
3000
ชื่อว่า "Good Business" ผมสัมภาษณ์ซีอีโอจำนวนหนึ่ง
12:28
who had been nominated by their peers as being both very successful
156
736000
5000
ที่ได้รับการเสนอชื่อจากซีอีโอด้วยกัน ว่าทั้งประสบความสำเร็จอย่างสูง
12:33
and very ethical, very socially responsible.
157
741000
3000
และมีจริยธรรม รับผิดชอบต่อสังคมอย่างสูงด้วย
12:36
You see that these people define success
158
744000
4000
คุณจะเห็นว่า คนเหล่านี้นิยามความสำเร็จ
12:40
as something that helps others and at the same time
159
748000
5000
ว่าเป็นการช่วยเหลือคนอื่น และในเวลาเดียวกัน
12:45
makes you feel happy as you are working at it.
160
753000
3000
ก็ทำให้คุณมีความสุขในขณะที่คุณทำมันด้วย
12:48
And like all of these successful and responsible CEOs say,
161
756000
6000
และตามที่ซีอีโอที่ประสบความสำเร็จและมีจริยธรรมสูงว่าไว้
12:55
you can't have just one of these things be successful
162
763000
5000
ถ้าอยากประสบความสำเร็จ คุณมีแค่อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้
13:02
if you want a meaningful and successful job.
163
770000
3000
ถ้าคุณต้องการทำงานที่มีความหมายและประสบความสำเร็จ
13:05
Anita Roddick is another one of these CEOs we interviewed.
164
773000
5000
แอนนิตา รอดดิกเป็นซีอีโออีกคนหนึ่งที่เราสัมภาษณ์
13:10
She is the founder of Body Shop,
165
778000
4000
เธอเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเครื่องสำอางบอดี้ชอป
13:14
the natural cosmetics king.
166
782000
2000
ซื่งเป็นราชาของเครื่องสำอางที่ผลิตจากธรรมชาติ
13:16
It's kind of a passion that comes
167
784000
2000
มันเป็นความหลงใหลในงาน
13:18
from doing the best and having flow while you're working.
168
786000
4000
ที่เกิดขึ้นเมื่อคุณทำเต็มที่และเข้าสู่ภาวะ flow ในขณะที่คุณทำงาน
13:22
This is an interesting little quote from Masaru Ibuka,
169
790000
4000
นี่เป็นคำพูดสั้นๆ ที่น่าสนใจของมาซารุ อิบูกะ
13:26
who was at that time starting out Sony without any money,
170
794000
5000
ซึ่งสร้างบริษัทโซนี่ขึ้นโดยไม่มีเงิน
13:31
without a product -- they didn't have a product,
171
799000
2000
และไม่มีผลิตภัณฑ์อะไรเลย
13:33
they didn't have anything, but they had an idea.
172
801000
3000
เขาไม่มีอะไรเลย แต่เขามีไอเดีย
13:36
And the idea he had was to establish a place of work where engineers
173
804000
5000
ไอเดียของเขาก็คือ เขาอยากสร้างที่ทำงานที่วิศวกร
13:41
can feel the joy of technological innovation,
174
809000
4000
จะมีความสุขกับการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
13:45
be aware of their mission to society and work to their heart's content.
175
813000
5000
ตระหนักถึงพันธกิจที่เขามีต่อสังคมและทำงานที่นำมาซึ่งความอิ่มเอิบพึงพอใจ
13:50
I couldn't improve on this as a good example
176
818000
4000
ผมว่าตัวอย่างพวกนี้ดีมากจนไม่ต้องอธิบายเพิ่มแล้ว
13:54
of how flow enters the workplace.
177
822000
3000
ว่า flow เกิดขึ้นในที่ทำงานได้อย่างไร
13:57
Now, when we do studies --
178
825000
3000
ทีนี้ เวลาเราทำงานวิจัย
14:00
we have, with other colleagues around the world,
179
828000
4000
ร่วมกับทีมงานทั่วโลก
14:04
done over 8,000 interviews of people -- from Dominican monks,
180
832000
5000
สัมภาษณ์คนมากกว่า 8,000 คน ตั้งแต่พระในนิกายโดมินิกัน
14:09
to blind nuns, to Himalayan climbers, to Navajo shepherds --
181
837000
7000
แม่ชีตาบอด นักปีนเขาหิมาลัย คนเลี้ยงแกะเผ่านาวาโจ (อินเดียนแดงเผ่าหนึ่ง)
14:16
who enjoy their work.
182
844000
2000
ที่มีความสุขกับงานที่เขาทำ
14:18
And regardless of the culture,
183
846000
2000
ไม่ว่าในวัฒนธรรมไหน
14:20
regardless of education or whatever, there are these seven conditions
184
848000
7000
ไม่ว่าจะในระดับการศึกษาใดๆ เมื่อเข้าสู่ภาวะ flow
14:27
that seem to be there when a person is in flow.
185
855000
4000
จะพบว่ามีสภาวะ 7 อย่างต่อไปนี้เกิดขึ้น
14:31
There's this focus that, once it becomes intense,
186
859000
4000
นั่นคือ คุณมีสมาธิจดจ่ออย่างแรงกล้า
14:35
leads to a sense of ecstasy, a sense of clarity:
187
863000
4000
ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกปิติ อิ่มเอิบ และความรู้สึกกระจ่างแจ้ง
14:39
you know exactly what you want to do from one moment to the other;
188
867000
3000
คือ คุณรู้ชัดเจนว่าคุณต้องทำอะไรจากชั่วขณะหนึ่งไปยังอีกชั่วขณะหนึ่ง
14:42
you get immediate feedback.
189
870000
2000
คุณได้รับผลสะท้อนกลับทันที
14:44
You know that what you need to do
190
872000
2000
คุณรู้ว่าคุณต้องทำอะไร
14:46
is possible to do, even though difficult,
191
874000
3000
คุณสามารถทำอะไรได้ แม้ว่ามันจะยาก
14:49
and sense of time disappears, you forget yourself,
192
877000
3000
และความรู้สึกว่าเวลาหายวับไป คุณลืมตัวตนของตัวเอง
14:52
you feel part of something larger.
193
880000
3000
และรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่า
14:55
And once the conditions are present,
194
883000
3000
และเมื่อสภาวะเหล่านี้เกิดขึ้น
14:58
what you are doing becomes worth doing for its own sake.
195
886000
5000
สิ่งที่คุณทำอยู่ก็กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าควรแก่การทำเอง
15:03
In our studies, we represent the everyday life of people in this simple scheme.
196
891000
6000
ในการวิจัยของเรา เรามองหารูปแบบที่เรียบง่ายเหล่านี้ในชีวิตประจำวันของผู้คน
15:09
And we can measure this very precisely, actually,
197
897000
4000
และเราก็สามารถวัดมันได้อย่างแม่นยำด้วย
15:13
because we give people electronic pagers that go off 10 times a day,
198
901000
4000
เพราะเราให้คนพกเพจเจอร์ที่ส่งสัญญาณเตือนวันละ 10 ครั้ง
15:17
and whenever they go off you say what you're doing, how you feel,
199
905000
5000
เมื่อใดที่สัญญาณดังขึ้น ให้คุณบันทึกเสียงลงไปว่าคุณทำอะไรอยู่ คุณรู้สึกอย่างไร
15:22
where you are, what you're thinking about.
200
910000
2000
คุณอยู่ที่ไหน คุณคิดอะไรอยู่
15:24
And two things that we measure is the amount of challenge
201
912000
3000
ตัวแปรสองอย่างที่เราวัดได้แก่ระดับความท้าทายของสิ่งที่คุณกำลังทำ
15:27
people experience at that moment and the amount of skill
202
915000
4000
ตามที่คุณรู้สึกในขณะนั้น และอีกตัวหนึ่งคือระดับของทักษะ
15:31
that they feel they have at that moment.
203
919000
3000
ความสามารถที่คุณรู้สึกว่าคุณมีอยู่ในขณะนั้น
15:34
So for each person we can establish an average,
204
922000
3000
เราหาค่าเฉลี่ยของตัวแปรทั้งสองของแต่ละบุคคล
15:37
which is the center of the diagram.
205
925000
3000
ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของภาพนี้
15:40
That would be your mean level of challenge and skill,
206
928000
3000
นั่นเป็นค่าเฉลี่ยของความท้าทายของงาน กับทักษะ
15:43
which will be different from that of anybody else.
207
931000
3000
ตามการรรับรู้ของคุณ ซึ่งแตกต่างจากของคนอื่น
15:46
But you have a kind of a set point there, which would be in the middle.
208
934000
5000
แต่คุณจะมีพิกัดมาตรฐานของตัวเอง ที่เป็นค่าเฉลี่ย
15:51
If we know what that set point is,
209
939000
2000
ถ้าเรารู้ว่าค่าเฉลี่ยตรงนั้นคือเท่าใด
15:53
we can predict fairly accurately when you will be in flow,
210
941000
5000
เราจะทำนายได้อย่างแม่นยำเลยว่าเมื่อไหร่คุณจะเข้าสู่ภาวะ flow
15:58
and it will be when your challenges are higher than average
211
946000
3000
นั่นคือ เมื่อคุณรู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่ท้ายทายกว่าค่าเฉลี่ย
16:01
and skills are higher than average.
212
949000
2000
และคุณรู้สึกว่าคุณมีทักษะในการทำงานนั้นมากกว่าค่าเฉลี่ย
16:03
And you may be doing things very differently from other people,
213
951000
4000
งานที่คุณทำอาจจะแตกต่างจากคนอื่น
16:07
but for everyone that flow channel, that area there,
214
955000
4000
แต่สำหรับทุกคนที่เข้าสู่ภาวะ flow เมื่อคุณอยู่ในพื้นที่ตรงนั้น
16:11
will be when you are doing what you really like to do --
215
959000
4000
นั่นคือเวลาที่คุณกำลังทำสิ่งที่คุณชอบทำมากๆ
16:15
play the piano, be with your best friend, perhaps work,
216
963000
6000
เล่นเปียโน อยู่กับเพื่อนสนิท หรือทำงาน
16:21
if work is what provides flow for you.
217
969000
4000
ถ้างานคือสิ่งที่ทำให้คุณเกิด flow
16:25
And then the other areas become less and less positive.
218
973000
4000
พี้นที่ส่วนอื่นๆ บนภาพนี้เป็นภาวะที่คุณจะรู้สึกดีน้อยลง
16:29
Arousal is still good because you are over-challenged there.
219
977000
5000
ภาวะตื่นตัวยังถือว่าเป็นภาวะที่ดี เพราะคุณได้เจออะไรที่ท้าทายมากกว่าปกติ
16:34
Your skills are not quite as high as they should be,
220
982000
2000
แต่ทักษะคุณไม่สูงมากพอที่จะทำงานนั้น
16:36
but you can move into flow fairly easily
221
984000
3000
แต่คุณก็จะเข้าสู่ภาวะ flow ได้ง่าย
16:39
by just developing a little more skill.
222
987000
3000
เพียงแค่พัฒนาทักษะเพิ่มอีกนิดหน่อยเท่านั้น
16:42
So, arousal is the area where most people learn from,
223
990000
4000
ดังนั้น ภาวะตื่นตัว (Arousal) นั่นคือพี้นที่ที่คนส่วนใหญ่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
16:46
because that's where they're pushed beyond their comfort zone
224
994000
6000
เพราะเขาถูกผลักดันให้ก้าวออกนอกขอบเขตที่คุ้นเคย
16:52
and to enter that -- going back to flow --
225
1000000
3000
เพื่อเข้าสู่ภาวะ flow อีกครั้ง
16:55
then they develop higher skills.
226
1003000
2000
เมื่อเขาได้พัฒนาทักษะที่สูงขึ้น
16:57
Control is also a good place to be,
227
1005000
4000
ภาวะควบคุมได้ (Control) ก็เป็นพี้นที่ที่ดีเหมือนกัน
17:01
because there you feel comfortable, but not very excited.
228
1009000
4000
เพราะคุณรู้สึกสบาย มั่นใจ ไม่ตื่นเต้น
17:05
It's not very challenging any more.
229
1013000
3000
แต่คุณจะรู้สึกว่าไม่มีอะไรท้าทายแล้ว
17:08
And if you want to enter flow from control,
230
1016000
2000
และถ้าคุณต้องการเข้าสู่ภาวะ flow จากภาวะควบคุมได้ (Control)
17:10
you have to increase the challenges.
231
1018000
3000
คุณต้องหาอะไรที่ท้าทายมากขึ้น
17:13
So those two are ideal and complementary areas
232
1021000
4000
พี้นที่สองส่วนนี้เหมาะสมและเอื้อ
17:17
from which flow is easy to go into.
233
1025000
4000
ต่อการขยับเข้าสู่ภาวะ flow
17:21
The other combinations of challenge and skill
234
1029000
3000
ส่วนอีกภาวะหนึ่ง ที่ความท้าทายกับระดับทักษะ
17:24
become progressively less optimal.
235
1032000
3000
ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของคุณ
17:27
Relaxation is fine -- you still feel OK.
236
1035000
2000
ภาวะผ่อนคลาย (Relaxation) ก็ดี คุณก็ยังรู้สึก ok
17:29
Boredom begins to be very aversive
237
1037000
5000
ความเบื่อนี่เริ่มจะไม่ดีแล้ว
17:34
and apathy becomes very negative:
238
1042000
4000
ส่วนความเฉี่อยชานั้นเป็นความรู้สึกที่แย่มาก
17:38
you don't feel that you're doing anything,
239
1046000
4000
คณรู้สึกว่าคุณไม่ได้ทำอะไรเลย
17:42
you don't use your skills, there's no challenge.
240
1050000
2000
ไม่ได้ใช้ทักษะอะไร ไม่มีอะไรท้าทายเลย
17:44
Unfortunately, a lot of people's experience is in apathy.
241
1052000
5000
ที่แย่ก็คือ คนจำนวนมากอยู่ในภาวะแบบนี้ เฉื่อยชา
17:49
The largest single contributor to that experience
242
1057000
7000
ปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดภาวะแบบนั้น
17:56
is watching television; the next one is being in the bathroom, sitting.
243
1064000
6000
ก็คือการดูทีวี อันดับต่อมาก็คือการอยู่ในห้องน้ำแล้วก็นั่งนิ่งๆ
18:02
Even though sometimes watching television
244
1070000
6000
แม้ว่าบางที 7-8 % ของเวลาที่คุณดูทีวี
18:08
about seven to eight percent of the time is in flow,
245
1076000
4000
คุณจะเข้าถึงภาวะ flow ได้เหมือนกัน
18:12
but that's when you choose a program you really want to watch
246
1080000
3000
แต่นั่นคือเวลาที่คุณเลือกดูรายการที่คุณอยากดูจริงๆ
18:15
and you get feedback from it.
247
1083000
3000
แล้วก็ได้รับผลตอบกลับจากการดูรายการนั้น
18:18
So the question we are trying to address -- and I'm way over time --
248
1086000
6000
ดังนั้น คำถามที่เราต้องการตอบ --นี่ผมพูดเกินเวลาไปเยอะแล้ว--
18:24
is how to put more and more of everyday life in that flow channel.
249
1092000
6000
ก็คือ เราจะทำให้ชีวิตประจำวันของเราอยู่ในช่องทางของ flow ให้มากขึ้นได้อย่างไร
18:30
And that is the kind of challenge that we're trying to understand.
250
1098000
5000
นั่นคือปัญหาที่ท้าทายที่เรากำลังพยายามทำความเข้าใจ
18:35
And some of you obviously know how to do that spontaneously
251
1103000
3000
พวกคุณบางคนรู้อยู่แล้วว่าจะทำอย่างไร
18:38
without any advice, but unfortunately a lot of people don't.
252
1106000
4000
โดยไม่ต้องมีคำแนะนำอะไร แต่ยังมีคนอีกมากที่ไม่รู้
18:42
And that's what our mandate is, in a way, to do.
253
1110000
6000
และนั่นคือหน้าที่ที่เราจะต้องศึกษาต่อไป
18:48
Thank you.
254
1116000
1000
โอเค ขอบคุณครับ
18:49
(Applause)
255
1117000
1000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Mihaly Csikszentmihalyi - Positive psychologistMihaly Csikszentmihalyi has contributed pioneering work to our understanding of happiness, creativity, human fulfillment and the notion of "flow" -- a state of heightened focus and immersion in activities such as art, play and work.
Why you should listen
Mihaly Csikszentmihalyi says creativity is a central source of meaning in our lives. A leading researcher in positive psychology, he has devoted his life to studying what makes people truly happy: "When we are involved in [creativity], we feel that we are living more fully than during the rest of life." He is the architect of the notion of "flow" -- the creative moment when a person is completely involved in an activity for its own sake.
Csikszentmihalyi teaches psychology and management at Claremont Graduate University, focusing on human strengths such as optimism, motivation and responsibility. He's the director the Quality of Life Research Center there. He has written numerous books and papers about the search for joy and fulfillment.
Mihaly Csikszentmihalyi | Speaker | TED.com