TEDGlobal 2009
Itay Talgam: Lead like the great conductors
อิเทย์ ทัลกัม: นำอย่างไวทยากรชั้นยอด
Filmed:
Readability: 3.2
3,574,454 views
สิ่งท้าทายที่สุดสำหรับนักไวทยากรวงออเคสตร้าคือการประสานเสียงดนตรีให้สมบูรณ์แบบที่สุดโดยปราศจากคำพูด ใน TED Talk ที่่ฟังแล้วชวนให้คุณอมยิ้มนี้ อีทัย ทัลกัมพาผู้ชมไปพบกับบทเรียนสำคัญสำหรับผู้นำผ่านวิธีการนำวงดนตรีออเคสตร้าของ 6 ไวทยากรแนวหน้าในศตวรรษที่ 20ของโลก
Itay Talgam - Conductor and leadership expert
After a decade-long conducting career in his native Israel, Itay Talgam has reinvented himself as a "conductor of people" -- in government, academia, business and education. He is the author of The Ignorant Maestro. Full bio
After a decade-long conducting career in his native Israel, Itay Talgam has reinvented himself as a "conductor of people" -- in government, academia, business and education. He is the author of The Ignorant Maestro. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:16
The magical moment, the magical moment of conducting.
0
1000
4000
ห้วงเวลาที่น่าอัศจรรย์ที่สุดสำหรับไวทยากร
00:20
Which is, you go onto a stage. There is an orchestra sitting.
1
5000
2000
คือเวลาที่ไวทยากรเดินขึ้นไปบนเวทีที่มีวงดนตรีออเคสตร้านั่งอยู่เบื้องหน้า
00:22
They are all, you know, warming up and doing stuff.
2
7000
4000
นักดนตรีเหล่านี้ อย่างที่คุณรู้ กำลังเตรียมความพร้อมก่อนการแสดง
00:26
And I go on the podium.
3
11000
2000
แล้วผมเดินขึ้นไปยืนอยู่บนแท่นยืนสำหรับนักไวทยากร
00:28
You know, this little office of the conductor.
4
13000
3000
ที่ๆเป็นเหมือนออฟฟิศขนาดจิ๋วของนักไวทยากร
00:31
Or rather a cubicle, an open-space cubicle,
5
16000
3000
หรือจะเรียกว่าเป็นคอกเล็กๆก็ได้ คอกโล่งแจ้ง
00:34
with a lot of space.
6
19000
2000
ที่เต็มไปด้วยที่ว่าง
00:36
And in front of all that noise,
7
21000
2000
และเบื้องหน้าก็มีเสียงต่างๆมากมาย
00:38
you do a very small gesture.
8
23000
2000
แล้วผมให้สัญญาณเล็กๆ
00:40
Something like this, not very pomp, not very sophisticated, this.
9
25000
4000
สัญญาณแบบนี้ (ทำท่า) ไม่ได้ดูโอ่อ่าหรือวิลิศมาหราอะไรเลย แบบนี้ (ทำท่า)
00:44
And suddenly, out of the chaos, order.
10
29000
3000
แล้วฉับพลัน ความเป็นระเบียบก็บังเกิดขึ้นมาแทนที่ความวุ่นวาย
00:47
Noise becomes music.
11
32000
2000
เสียงอึกทึกกลายเป็นเสียงดนตรี
00:49
And this is fantastic. And it's so tempting
12
34000
2000
และนี่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุด แถมยั่วยวนที่สุด
00:51
to think that it's all about me.
13
36000
2000
ยั่วยวนให้ผมคิดว่าระเบียบที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือโชว์เดี่ยวของผม
00:53
(Laughter)
14
38000
2000
(หัวเราะ)
00:55
All those great people here, virtuosos,
15
40000
2000
และนักดนตรีชั้นยอดเหล่านี้
00:57
they make noise, they need me to do that.
16
42000
2000
เพียงแต่สร้างเสียงอึกทึก พวกเขาต้องการให้ผมนำวง
00:59
Not really. If it were that,
17
44000
2000
แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ถ้าหน้าที่ของไวทยากรออเคสตร้ามีเพียงเท่านั้น
01:01
I would just save you the talk,
18
46000
2000
ผมก็คงจะประหยัดเวลาของพวกคุณโดยไม่มานั่งอธิบาย
01:03
and teach you the gesture.
19
48000
2000
แล้วก็แค่สอนพวกคุณถึงท่าเทคนิคของไวทยากรเท่านั้น
01:05
So you could go out to the world
20
50000
2000
เพื่อให้พวกคุณ พอฟังจบแล้ว สามารถกลับไปสู่โลกภายนอก
01:07
and do this thing in whatever company or whatever you want,
21
52000
3000
แล้วก็ทำท่าทางที่ผมสอนพวกคุณในบริษัทของคุณ หรือที่ไหนๆที่คุณต้องการ
01:10
and you have perfect harmony. It doesn't work.
22
55000
2000
แล้วคุณก็จะสามารถสร้างความสมานฉันท์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ในความเป็นจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้น
01:12
Let's look at the first video.
23
57000
2000
มาชมวิดีโอแรกกันดีกว่าครับ
01:14
I hope you'll think it's a good example of harmony.
24
59000
3000
ผมหวังว่าคุณจะเห็นว่านี่เป็นการประสานเสียงที่ดี
01:17
And then speak a little bit about how it comes about.
25
62000
4000
แล้วเดี๋ยวเรามาคุยกันถึงเบื้องหลังของการนำวงออเคสตร้ารูปแบบนี้
01:21
(Music)
26
66000
4000
(ดนตรี)
02:17
Was that nice?
27
122000
2000
ชอบมั๊ยครับ?
02:19
So that was a sort of a success.
28
124000
3000
และนั่นก็ถือว่าเป็นการแสดงที่ประสบความสำเร็จ
02:22
Now, who should we thank for the success?
29
127000
3000
แต่มันเป็นผลความสำเร็จของใครเหรอครับ?
02:25
I mean, obviously the orchestra musicians
30
130000
2000
ผมหมายถึง แน่นอนส่วนหนึ่งมาจากนักดนตรีวงออเคสตร้า
02:27
playing beautifully,
31
132000
2000
ที่แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม
02:29
the Vienna Philharmonic Orchestra.
32
134000
4000
วงเวียนนาฟิลฮาร์โมนิคออเคสตร้านี้
02:33
They don't often even look at the conductor.
33
138000
2000
จริงๆแล้วนักดนตรีของวงเค้าไม่มองไวทยากรเท่าไหร่ด้วยซ้ำ
02:35
Then you have the clapping audience, yeah,
34
140000
3000
แล้วเราก็ยังมีผู้ฟังที่ปรบมือตามเสียงเพลงไปด้วย
02:38
actually taking part in doing the music.
35
143000
2000
ที่มีส่วนร่วมในการแสดงดนตรีนี้
02:40
You know Viennese audiences usually don't interfere with the music.
36
145000
4000
พวกคุณก็รู้ว่าปกติแล้ว คนเวียนนาเวลาฟังดนตรี เค้าจะไม่ก้าวก่ายการแสดงดนตรีเลย
02:44
This is the closest to an Oriental bellydancing feast
37
149000
4000
และนี่คงเป็นการแสดงดนตรีที่ใกล้เคียงที่สุดกับการเต้นระบำหน้าท้องของชาวตะวันออก
02:48
that you will ever get in Vienna.
38
153000
2000
ที่คุณจะสัมผัสได้ในเวียนนา
02:50
(Laughter)
39
155000
1000
(หัวเราะ)
02:51
Unlike, for example Israel, where audiences cough all the time.
40
156000
3000
ไม่เหมือนกับที่อื่นอย่างอิสราเอล ที่คนฟังดนตรีจะกระแอมไอตลอดเวลา
02:54
You know, Arthur Rubinstein, the pianist, used to say
41
159000
3000
อย่างที่นักเปียโน อาร์เธอร์ รูบินสไตน์เคยพูดไว้ว่า
02:57
that, "Anywhere in the world, people that have the flu, they go to the doctor.
42
162000
3000
ไม่ว่าที่ไหนก็ตามไหนโลก ถ้าใครเป็นหวัด เค้าจะไปหาหมอ
03:00
In Tel Aviv they come to my concerts."
43
165000
3000
แต่ที่เตล อาวิฟ คนเหล่านี้จะมาที่คอนเสิร์ตผม
03:03
(Laughter)
44
168000
1000
(หัวเราะ)
03:04
So that's a sort of a tradition.
45
169000
2000
มันเป็นเหมือนประเพณีของที่นั่น
03:06
But Viennese audiences do not do that.
46
171000
2000
แต่ผู้ฟังดนตรีที่เวียนนาไม่ทำอย่างนั้น
03:08
Here they go out of their regular, just to be part of that,
47
173000
5000
ที่เวียนนาผู้ชมจะตั้งหน้าตั้งตามา ขอให้ได้ฟังดนตรีโดยเฉพาะ
03:13
to become part of the orchestra, and that's great.
48
178000
2000
เพื่อที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของวงออเคสตร้า และนั่นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก
03:15
You know, audiences like you, yeah,
49
180000
2000
คุณผู้ชมรู้มั๊ยครับว่า ผู้ฟังดนตรีอย่างพวกคุณ
03:17
make the event.
50
182000
3000
คือคนที่ทำให้การแสดงมีความหมายอย่างแท้จริง
03:20
But what about the conductor? What can you say
51
185000
2000
แล้วไวทยากรล่ะ? คุณคิดว่าอะไรกันแน่
03:22
the conductor was doing, actually?
52
187000
4000
ที่นักไวทยากรทำ?
03:26
Um, he was happy.
53
191000
3000
อ่า เห็นได้ว่า นักไวทยากรท่านนี้มีความสุข
03:29
And I often show this to senior management.
54
194000
3000
จริงๆผมมักจะนำคลิปการแสดงนี้ให้นักธุรกิจระดับผู้บริหารดู
03:32
People get annoyed.
55
197000
2000
แต่คนส่วนใหญ่มักจะรำคาญ
03:34
"You come to work. How come you're so happy?"
56
199000
2000
"คุณมาทำงาน ทำไมคุณถึงดูมีความสุขนัก?"
03:36
Something must be wrong there, yeah? But he's spreading happiness.
57
201000
3000
มันต้องมีอะไรผิดปรกติแน่นอน จริงมั๊ย แต่นักไวทยากรท่านนี้ถ่ายทอดความสุขขณะแสดง
03:39
And I think the happiness, the important thing is this happiness
58
204000
2000
และผมคิดว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับความสุขนี้
03:41
does not come from
59
206000
3000
คือมันไม่ได้มาจาก
03:44
only his own story and his joy of the music.
60
209000
3000
เรื่องราวของนักไวทยากรท่านนี้ หรือความสุขส่วนตัวของท่านที่มีต่อดนตรีเพียงอย่างเดียว
03:47
The joy is about enabling other people's stories
61
212000
4000
แต่มันเป็นความสุขที่มาจากการได้ส่งเสริมให้เรื่องราวของผู้ร่วมแสดงคนอื่นๆ
03:51
to be heard at the same time.
62
216000
2000
สื่อออกมาพร้อมๆกันให้คนฟัง
03:53
You have the story of the orchestra as a professional body.
63
218000
4000
คุณจึงได้ยินเรื่องราวที่ถ่ายทอดผ่านวงออเคสตร้ามืออาชีพ
03:57
You have the story of the audience as a community. Yeah.
64
222000
3000
แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ยังได้ยินเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาผ่านผู้ชมการแสดงไปด้วย
04:00
You have the stories of the individuals
65
225000
2000
แล้วคุณก็ยังได้ยินเรื่องราวเฉพาะบุคคล
04:02
in the orchestra and in the audience.
66
227000
2000
ทั้งจากนักดนตรีวงออเคสตร้าและจากผู้ชม
04:04
And then you have other stories, unseen.
67
229000
3000
แล้วคุณก็ยังจะสามารถซึมซับเรื่องราวอื่นๆที่เรามองไม่เห็น
04:07
People who build this wonderful concert hall.
68
232000
3000
เรื่องราวของคนที่สร้างหอแสดงคอนเสิร์ตที่แสนวิเศษนี้
04:10
People who made those Stradivarius, Amati, all those beautiful instruments.
69
235000
5000
และเรื่องราวของดนตรีเครื่องสายที่ทำขึ้นจากฝีมือของสตราดิวาเรียส ไวโอลินที่ทำจากฝึมือของตระกูลอมาทิ หรือเครื่องดนตรีแสนวิจิตรชิ้นอื่นๆ
04:15
And all those stories are being heard at the same time.
70
240000
3000
เรื่องราวทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดออกมาในเวลาเดียวกัน
04:18
This is the true experience of a live concert.
71
243000
3000
เป็นประสบการณ์คอนเสิร์ตสดอย่างแท้จริง
04:21
That's a reason to go out of home. Yeah?
72
246000
2000
ให้คุ้มแก่การออกจากบ้าน จริงมั๊ยครับ?
04:23
And not all conductors do just that.
73
248000
3000
แต่ไม่ใช่ไวทยากรทุกคนที่ทำเช่นนั้น
04:26
Let's see somebody else, a great conductor.
74
251000
2000
เรามาดูวิธีการนำวงออเคสตร้าของนักไวทยากรชั้นเยี่ยมอีกท่าน
04:28
Riccardo Muti, please.
75
253000
2000
ริคาร์โด้ มูติ เชิญชมครับ
04:31
(Music)
76
256000
4000
(ดนตรี)
05:07
Yeah, that was very short, but you could see
77
292000
2000
ครับ คลิปนี้สั้นมาก แต่คุณสามารถเห็นได้
05:09
it's a completely different figure. Right?
78
294000
2000
ว่ามันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ใช่มั๊ยครับ?
05:11
He's awesome. He's so commanding. Yeah?
79
296000
2000
มูติยอดมาก บัญชาการอย่างเฉียบขาด เห็นด้วยมั๊ยครับ?
05:13
So clear. Maybe a little bit over-clear.
80
298000
5000
เด็ดขาดมาก อาจจะเด็ดขาดจนเกินไป
05:18
Can we have a little demonstration? Would you be my orchestra for a second?
81
303000
3000
ไหนเรามาทดลองกันที่นี่ซักนิดนึง? พวกคุณช่วยเป็นวงออเคสตร้าของผมซักประเดี๋ยวนะครับ
05:21
Can you sing, please, the first note of Don Giovanni?
82
306000
2000
ไหนคุณลองร้องคลอร่วมไปด้วย โน้ตตัวแรกของบทประพันธ์เพลง Don Giovanni ได้มั๊ยครับ?
05:23
You have to sing "Aaaaaah," and I'll stop you.
83
308000
3000
คุณออกเสียง 'อาาา' แล้วผมจะหยุดคุณ
05:26
Okay? Ready?
84
311000
2000
โอเคมั๊ยครับ? พร้อมมั๊ยครับ?
05:28
Audience: ♫ Aaaaaaah ... ♫
85
313000
2000
ผู้ชม: ♫ อาาา... ♫
05:30
Itay Talgam: Come on, with me. If you do it without me
86
315000
2000
อิเทย์ ทัลกัม: อ่า พร้อมกับผมสิครับ ถ้าคุณไม่ฟังสัญญาณผม
05:32
I feel even more redundant than I already feel.
87
317000
3000
ผมคงรู้สึกไม่มีประโยชน์ไปกว่าที่ผมก็รู้สึกได้ในตอนนี้
05:35
So please, wait for the conductor.
88
320000
3000
เพราะฉะนั้น ได้โปรดรอสัญญาณจากไวทยากรด้วยครับ
05:38
Now look at me. "Aaaaaah," and I stop you. Let's go.
89
323000
3000
อ่า ทีนี้มองผมครับ ร้อง 'อาาา' แล้วเดี๋ยวผมจะหยุดคุณ พร้อม
05:41
Audience: ♫ ... Aaaaaaaah ... ♫
90
326000
4000
♫ อาาา... ♫
05:45
(Laughter)
91
330000
2000
(หัวเราะ)
05:47
Itay Talgam: So we'll have a little chat later.
92
332000
2000
อิเทย์ ทัลกัม: โอเค เดี๋ยวเราอาจจะต้องเคลียร์กันนิดหน่อยหลังเวที
05:49
(Laughter)
93
334000
1000
(หัวเราะ)
05:50
But ... There is a vacancy for a ...
94
335000
4000
แต่... ตอนนี้เรายังมีตำแหน่งว่างในวง...
05:54
But -- (Laughter)
95
339000
4000
แต่ - (หัวเราะ)
05:58
-- you could see that you could stop an orchestra with a finger.
96
343000
3000
- คุณเห็นได้ว่าไวทยากรสามารถหยุดเสียงดนตรีของวงออเคสตร้าด้วยนิ้วมือเดียว
06:01
Now what does Riccardo Muti do? He does something like this ...
97
346000
2000
แล้วริคาร์โด้ มูติเค้าทำยังงัยเหรอครับ? มูติทำอะไรแบบนี้
06:06
(Laughter)
98
351000
1000
(หัวเราะ)
06:07
And then -- sort of -- (Laughter)
99
352000
3000
ตามด้วย - อะไรประมาณนี้ - (หัวเราะ)
06:10
So not only the instruction is clear,
100
355000
3000
เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่คำสั่งที่ชัดเจน
06:13
but also the sanction, what will happen if you don't do what I tell you.
101
358000
3000
แต่คำขู่ก็ยังชัดเจนอีกด้วย ดูซิว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าคุณไม่เล่นดนตรีตามที่ผมสั่ง
06:16
(Laughter)
102
361000
3000
(หัวเราะ)
06:19
So, does it work? Yes, it works --
103
364000
4000
แล้วสุดท้ายแบบนี้นี่ใช้ได้มั๊ยครับ? แน่นอน ใช้ได้
06:23
to a certain point.
104
368000
2000
แต่ได้จนถึงจุดหนึ่ง
06:25
When Muti is asked, "Why do you conduct like this?"
105
370000
2000
เวลามีคนถามมูติว่า "ทำไมคุณถึงนำวงออเคสตร้าลักษณะนี้?"
06:27
He says, "I'm responsible."
106
372000
2000
มูติตอบว่า "เพราะมันเป็นความรับผิดชอบของผม"
06:29
Responsible in front of him.
107
374000
2000
ความรับผิดชอบที่อยู่เบื้องหน้าของ 'เขา'
06:31
No he doesn't really mean Him. He means Mozart,
108
376000
2000
'เขา' ในที่นี่ไม่ใช่พระเจ้าหรือใคร แต่เป็นโมสาร์ท
06:33
which is -- (Laughter) -- like a third seat from the center.
109
378000
4000
ซึ่ง - (หัวเราะ) - ก็เหมือนกับว่ากำลังนั่งอยู่แถวที่สามจากตรงกลางด้านหน้า
06:37
(Laughter)
110
382000
1000
(หัวเราะ)
06:38
So he says, "If I'm --
111
383000
2000
ซึ่งมูติบอกว่า ถ้าเค้า -
06:40
(Applause)
112
385000
2000
(เสียงปรบมือ)
06:42
if I'm responsible for Mozart,
113
387000
2000
ถ้าเค้ามีความรับผิดชอบต่อโมสาร์ท
06:44
this is going to be the only story to be told.
114
389000
2000
เรื่องราวของโมสาร์ท ก็จะเป็นเพียงเรื่องราวเดียวที่ถูกถ่ายทอดออกมา
06:46
It's Mozart as I, Riccardo Muti, understand it."
115
391000
4000
คือเรื่องราวของโมสาร์ท ผ่านความเข้าใจของผม ริคาร์โด้ มูติ
06:50
And you know what happened to Muti?
116
395000
2000
แล้วคุณรู้มั๊ย ว่าสุดท้ายแล้วเกิดอะไรขึ้นกับมูติ?
06:52
Three years ago he got a letter signed by
117
397000
2000
3 ปีก่อนเค้าได้รับจดหมายที่ลงนามโดย
06:54
all 700 employees of La Scala,
118
399000
3000
พนักงานทั้ง 700 คน จาก โรงละครโอเปร่า ลา สกาลา
06:57
musical employees, I mean the musicians,
119
402000
2000
และพนักงานดนตรีเหล่านี้ ผมหมายถึงเหล่านักดนตรี
06:59
saying, "You're a great conductor. We don't want to work with you. Please resign."
120
404000
4000
ที่กำลังบอกต่อมูติว่า "คุณเป็นนักไวทยากรชั้นยอด แต่พวกเราไม่อยากทำงานกับคุุณ กรุณาลาออก"
07:03
(Laughter)
121
408000
1000
(หัวเราะ)
07:04
"Why? Because you don't let us develop.
122
409000
3000
"เพราะอะไร? เพราะคุณไม่ยอมให้พวกเราได้พัฒนาในฐานะนักดนตรี
07:07
You're using us as instruments, not as partners.
123
412000
3000
คุณใช้พวกเราเป็นเครื่องเล่นดนตรี ไม่ใช่ผู้ร่วมแสดงดนตรี
07:10
And our joy of music, etc., etc. ..."
124
415000
2000
และความสุขของพวกเราที่มีต่อเสียงดนตรี และอื่นๆอีกมากมาย
07:12
So he had to resign. Isn't that nice?
125
417000
2000
ดังนั้นมูติจึงต้องลาออก ดีใช่มั๊ยครับ?
07:14
(Laughter)
126
419000
2000
(หัวเราะ)
07:16
He's a nice guy. He's a really nice guy.
127
421000
3000
จริงๆแล้วเค้าเป็นคนดี มูติเป็นคนดีมาก
07:19
Well, can you do it with less control,
128
424000
3000
แต่ คุณสามารถนำวงออเคสตร้าได้โดยไม่ต้องใช้การบังคับถึงขั้นนั้น
07:22
or with a different kind of control?
129
427000
2000
หรือไม่ ก็ด้วยวิธีบังคับในลักษณะอื่น?
07:24
Let's look at the next conductor, Richard Strauss.
130
429000
4000
เราลองมาชมวิธีการคุมวงดนตรีของนักไวทยากรท่านต่อไป ริชาร์ด สเตราส์
07:30
(Music)
131
435000
4000
(หัวเราะ)
07:58
I'm afraid you'll get the feeling that I really picked on him because he's old.
132
463000
4000
ผมแอบกลัวว่า คุณกำลังเข้าใจว่าผมเลือกไวทยากรท่านนี้เพราะท่านอายุมาก
08:02
It's not true. When he was a young man
133
467000
3000
นั่นไม่เป็นความจริง ตอนที่สเตราส์ยังหนุ่มๆ
08:05
of about 30, he wrote what he called
134
470000
2000
อายุประมาณ 30 ท่านเขียนสิ่งที่เรียกว่า
08:07
"The Ten Commandments for Conductors."
135
472000
2000
"บัญญัติสิบประการของนักไวทยากร"
08:09
The first one was: If you sweat by the end of the concert
136
474000
3000
บัญญัติขัอแรกคือ: ถ้าคุณเหงื่อแตกหลังจากคอนเสิร์ตจบลง
08:12
it means that you must have done something wrong.
137
477000
2000
นั่นหมายความว่า คุณทำอะไรบางอย่างผิดพลาด
08:14
That's the first one. The fourth one you'll like better.
138
479000
2000
แต่นั่นเป็นบัญญัติขัอแรก พวกคุณน่าจะชอบบัญญัติขัอที่สี่มากกว่า
08:16
It says: Never look at the trombones --
139
481000
2000
สเตราส์กล่าวว่า: ห้ามมองพวกเครื่องทรอมโบนเป็นอันขาด
08:18
it only encourages them.
140
483000
2000
เพราะมันรังแต่จะส่งเสริมเหล่านักดนตรีกลุ่มนั้น
08:20
(Laughter)
141
485000
5000
(หัวเราะ)
08:25
So, the whole idea is really to let
142
490000
2000
แนวคิดหลักคือการปล่อยให้ทุกสิ่ง
08:27
it happen by itself.
143
492000
2000
เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ
08:29
Do not interfere.
144
494000
2000
โดยที่ไวทยากรไม่ไปก้าวก่าย
08:31
But how does it happen? Did you see
145
496000
3000
แล้วสุดท้ายเกิดอะไรขึ้นครับ? คุณทันสังเกตเห็นสเตราส์
08:34
him turning pages in the score?
146
499000
2000
เปลี่ยนหน้าโน้ตดนตรีรึเปล่าครับ?
08:36
Now, either he is senile,
147
501000
2000
ซึ่งเรียกได้ว่า ถ้าท่านไม่อายุมาก
08:38
and doesn't remember his own music, because he wrote the music.
148
503000
3000
จนจำดนตรีของตัวเองไม่ได้ เพราะท่านเป็นคนประพันธ์บทเพลงนั้น
08:41
Or he is actually transferring a very strong message to them, saying,
149
506000
3000
หรือไม่ก็เป็นเพราะว่า สเตราส์ต้องการสื่อข้อความสำคัญแก่นักดนตรี ว่า
08:44
"Come on guys. You have to play by the book.
150
509000
4000
"ทุกคน คุณต้องเล่นดนตรีตามโน้ตที่กำหนดไว้"
08:48
So it's not about my story. It's not about your story.
151
513000
2000
เพราะฉะนั้น ท้ายที่สุดแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องราวของผม หรือ เรื่องราวของคุณ
08:50
It's only the execution of the written music,
152
515000
3000
แต่คือการแสดงดนตรีที่ดำเนินการในกรอบของบทดนตรีที่เขียนขึ้น
08:53
no interpretation."
153
518000
2000
ไม่มีการวิเคราะห์ใส่ความเห็นส่วนตัว"
08:55
Interpretation is the real story of the performer.
154
520000
3000
การตีความคือเรื่องราวที่แท้จริงของนักดนตรี
08:58
So, no, he doesn't want that. That's a different kind of control.
155
523000
3000
แต่คุณสเตราส์ท่านไม่ต้องการการเติมแต่ง นี่เป็นการบังคับดนตรีที่ต่างออกไปอีกแบบ
09:01
Let's see another super-conductor,
156
526000
3000
เรามาลองดูวิธีการคุมวงดนตรีจากนักไวทยากรชั้นเซียนอีกท่าน
09:04
a German super-conductor. Herbert von Karajan, please.
157
529000
3000
สุดยอดนักไวทยากรชาวเยอรมัน เฮอร์เบิร์ต วอน คารายาน เชิญชมครับ
09:07
(Music)
158
532000
4000
(ดนตรี)
09:40
What's different? Did you see the eyes? Closed.
159
565000
3000
อะไรที่ต่างไปครับ? คุณเห็นสายตาของคารายานรึเปล่าครับ เค้าหลับตา
09:43
Did you see the hands?
160
568000
3000
แล้วคุณเห็นมือของคารายานมั๊ยครับ?
09:46
Did you see this kind of movement? Let me conduct you. Twice.
161
571000
3000
คุณเห็นวิธีการแสดงท่าทีแบบนี้ โอเค ให้ผมลองนำคุณอีกที สองรอบ
09:49
Once like a Muti, and you'll -- (Claps) -- clap, just once.
162
574000
2000
รอบแรกแบบมูติ แล้วคุณต้อง - (ปรบมือ) - ปรบมือ แต่รอบเดียว
09:51
And then like Karajan. Let's see what happens. Okay?
163
576000
2000
แล้วเดี๋ยวผมจะนำแบบคารายาน แล้วเรามาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น โอเคมั๊ยครับ?
09:53
Like Muti. You ready? Because Muti ...
164
578000
3000
แบบมูติ พร้อมมั๊ยครับ เพราะมูติเค้า...
09:56
(Laughter) Okay? Ready? Let's do it.
165
581000
3000
(หัวเราะ) โอเค? พร้อมมั๊ย? เอ้า
09:59
Audience: (Claps)
166
584000
1000
ผู้ชม: (ปรบมือ)
10:00
Itay Talgam: Hmm ... again.
167
585000
2000
อิเทย์ ทัลกัม: ฮึ่ม...ขออีกที
10:02
Audience: (Claps)
168
587000
2000
ผู้ชม: (ปรบมือ)
10:04
Itay Talgam: Good. Now like a Karajan. Since you're already trained,
169
589000
2000
อิเทย์ ทัลกัม: ดี ไหน ทีนี้ขอลองแบบคารายาน เพราะพวกคุณผ่านการฝึกหัดมาแล้ว
10:06
let me concentrate, close my eyes. Come, come.
170
591000
3000
โอเค ขอผมตั้งสมาธิ หลับตา มา มา
10:11
Audience: (Claps) (Laughter)
171
596000
2000
ผู้ชม: (ปรบมือ) (หัวเราะ)
10:13
Itay Talgam: Why not together? (Laughter)
172
598000
2000
อิเทย์ ทัลกัม: อ้าว ทำไมไม่พร้อมกันล่ะ? (หัวเราะ)
10:15
Because you didn't know when to play.
173
600000
2000
นั่นเป็นเพราะว่า พวกคุณไม่รู้ว่าควรจะเริ่มเมื่อไหร่
10:17
Now I can tell you, even the Berlin Philharmonic
174
602000
2000
และผมบอกคุณได้ว่า แม้กระทั่งนักดนตรีวงออเคสตร้าอย่าง เบอร์ลิน ฟิลฮาร์โมนิค
10:19
doesn't know when to play.
175
604000
2000
เค้าก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะเริ่มเล่นตอนไหน
10:21
(Laughter)
176
606000
1000
(หัวเราะ)
10:22
But I'll tell you how they do it. No cynicism.
177
607000
2000
แต่ผมจะบอกคุณให้ว่าแล้วนักดนตรีเหล่านี้เค้าทำยังงัย พูดอย่างไม่ประชดประชัน
10:24
This is a German orchestra, yes?
178
609000
2000
นี่เป็นวงดนตรีออเคสตร้าเยอรมัน ถูกมั๊ยครับ?
10:26
They look at Karajan. And then they look at each other.
179
611000
4000
นักดนตรีเค้ามองที่คารายาน แล้วเค้าก็มองหน้ากันเอง
10:30
(Laughter)
180
615000
3000
(หัวเราะ)
10:33
"Do you understand what this guy wants?"
181
618000
3000
"นี่รู้มั๊ยว่าตกลงพี่แกจะเอายังงัย?"
10:36
And after doing that,
182
621000
2000
แล้วหลังจากที่ทำอย่างนั้น
10:38
they really look at each other, and the first players of the orchestra
183
623000
2000
นักดนตรีต้องมองกันเองอย่างจริงๆจังๆ แล้วกลุ่มนักดนตรีที่เล่นโน้ตตัวแรกของวง
10:40
lead the whole ensemble in playing together.
184
625000
3000
จึงกลายเป็นผู้นำวงในการเล่นดนตรี
10:43
And when Karajan is asked about it
185
628000
2000
เวลาที่มีคนถามคารายานถึงการนำวงดนตรีของเขา
10:45
he actually says, "Yes, the worst damage
186
630000
2000
คารายานบอกว่า "ใช่ สิ่งที่เลวร้ายที่สุด
10:47
I can do to my orchestra
187
632000
2000
ที่ผมสามารถทำใหักับวงออเคสตร้าของผม
10:49
is to give them a clear instruction.
188
634000
4000
คือการให้คำสั่งชัดเจนแก่พวกเขา
10:53
Because that would
189
638000
2000
เพราะนั่น
10:55
prevent the ensemble, the listening to each other
190
640000
4000
คือการขัดขวางนักดนตรีไม่ให้ฟังนักดนตรีคนอื่นด้วยกันเอง
10:59
that is needed for an orchestra."
191
644000
2000
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับวงดนตรีออเคสตร้า
11:01
Now that's great. What about the eyes?
192
646000
2000
โอเค นั่นเป็นความคิดที่เยี่ยม แล้วตาของคารายานล่ะ?
11:03
Why are the eyes closed?
193
648000
2000
ทำไมเค้าถึงต้องหลับตา?
11:05
There is a wonderful story about Karajan conducting in London.
194
650000
4000
มีเรื่องราวที่น่าประทับใจของคารายานระหว่างที่เค้านำวงออเคสตร้าที่ลอนดอน
11:09
And he cues in a flute player like this.
195
654000
3000
แล้วเค้าให้สัญญาณนักเป่าฟลุตแบบนี้
11:12
The guy has no idea what to do. (Laughter)
196
657000
3000
ซึ่งนักดนตรีคนนี้ไม่รู้เลยว่าต้องทำอะไร (หัวเราะ)
11:15
"Maestro, with all due respect, when should I start?"
197
660000
3000
"ท่านไวทยากรครับ ด้วยความเคารพที่มีทั้งหมด กระผมควรจะเริ่มเมื่อไหร่"
11:18
What do you think Karajan's reply was? When should I start?
198
663000
3000
พวกคุณคิดว่าคำตอบของคารายานคืออะไร? คุณอยากให้ผมเริ่มเล่นเมื่อไหร่?
11:21
Oh yeah. He says, "You start when you can't stand it anymore."
199
666000
4000
คารายานตอบ "คุณควรเริ่มเล่นก็ต่อเมื่อคุณอดทนไม่ไหวแล้วนั่นแหละ"
11:25
(Laughter)
200
670000
3000
(หัวเราะ)
11:28
Meaning that you know you have no authority to change anything.
201
673000
5000
นั่นหมายความว่า นักดนตรีรู้ว่าพวกเขาไม่มีสิทธ์ที่จะเปลี่ยนอะไรเลย
11:33
It's my music. The real music is only in Karajan's head.
202
678000
4000
นี่คือดนตรีของคารายาน ดนตรีที่แท้จริงอยู่ในหัวของคารายานเท่านั้น
11:37
And you have to guess my mind. So you are under tremendous pressure
203
682000
3000
แล้วเมื่อคุณต้องเดาสิ่งที่อยู่ในหัวของผม คุณจะอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างมาก
11:40
because I don't give you instruction,
204
685000
2000
เพราะผมไม่ได้ให้คำอธิบายใดๆกับคุณเลย
11:42
and yet, you have to guess my mind.
205
687000
2000
แต่ในขณะเดียวกัน คุณต้องเดาความคิดผมให้ได้
11:44
So it's a different kind of, a very spiritual but yet
206
689000
2000
เพราะฉะนั้น นี่ก็เป็นวิธีคุมวงออเคสตร้าอีกแบบหนึ่งที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ แต่ในขณะเดียวกัน
11:46
very firm control.
207
691000
3000
ก็มีวิธีการบังคับที่แน่นอน
11:49
Can we do it in another way? Of course we can. Let's go back
208
694000
2000
เราสามารถคุมวงออเคสตร้าวิธีอื่นได้มั๊ย แน่นอน เราลองกลับไปดู
11:51
to the first conductor we've seen:
209
696000
2000
นักไวทยากรท่านแรก
11:53
Carlos Kleiber, his name. Next video, please.
210
698000
2000
คาร์ลอส ไคลเบอร์ เชิญชมครับ
11:57
(Music)
211
702000
4000
(ดนตรี)
12:53
(Laughter) Yeah.
212
758000
2000
(หัวเราะ) ครับ
12:55
Well, it is different. But isn't that controlling in the same way?
213
760000
3000
โอเค นี่เป็นวิธีที่ต่างออกไป แต่ว่าก็เป็นลักษณะการบังคับอีกแบบหนึ่งใช่มั๊ยครับ?
12:58
No, it's not, because he is not telling them what to do.
214
763000
3000
แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เพราะไคลเบอร์ไม่ได้บอกนักดนตรีว่าต้องเล่นยังงัย
13:01
When he does this, it's not,
215
766000
2000
เวลาที่เค้าให้สัญญาณแบบนี้ มันไม่ได้หมายความว่า
13:03
"Take your Stradivarius and like Jimi Hendrix,
216
768000
3000
เอาไวโอลินของคุณ แล้วทำเหมือนจิมี่ เฮนดริกซ์ โดย
13:06
smash it on the floor." It's not that.
217
771000
2000
ฟาดมันลงไปที่พื้น ไม่ใช่อย่างนั้น
13:08
He says, "This is the gesture of the music.
218
773000
2000
ไคลเบอร์กำลังบอกว่า อารมณ์ดนตรีมันเป็นแบบนี้
13:10
I'm opening a space for you
219
775000
2000
แต่ผมให้พื้นที่ว่างคุณ
13:12
to put in another layer
220
777000
2000
ให้คุณได้ใส่ความเข้าใจส่วนตัวของคุณ
13:14
of interpretation."
221
779000
2000
ลงไปในดนตรี
13:16
That is another story.
222
781000
2000
และนั่นก็เป็นอีกเรื่องราวหนึ่ง
13:18
But how does it really work together
223
783000
2000
แต่พอถึงเวลาจริงต้องทำยังงัยทั้งหมดนี้ถึงจะประสานกันได้ครับ?
13:20
if it doesn't give them instructions?
224
785000
2000
ถ้าไคลเบอร์ไม่ให้คำชี้แนะใดๆทั้งสิ้น
13:22
It's like being on a rollercoaster. Yeah?
225
787000
2000
ก็เหมือนกับเวลาเรานั่งรถไฟตีลังกา
13:24
You're not really given any instructions,
226
789000
2000
ที่ไม่มีใครให้คำอธิบายว่าเราต้องทำอะไร
13:26
but the forces of the process itself keep you in place.
227
791000
4000
แต่พอถึงเวลา แรงของรถไฟตีลังกานั่นเองที่เป็นตัวบ่งชี้ว่าเราควรทำอะไร
13:30
That's what he does.
228
795000
2000
และนั่นก็คือสิ่งที่ไคลเบอร์ทำ
13:32
The interesting thing is of course the rollercoaster does not really exist.
229
797000
2000
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็คือ ไอ้ตัวรถไฟตีลังกานี้มันไม่ได้มีอยู่จริง
13:34
It's not a physical thing. It's in the players' heads.
230
799000
4000
มันไม่ใช่สิ่งที่จับต้องได้ แต่มันอยู่ในหัวของนักดนตรี
13:38
And that's what makes them into partners.
231
803000
3000
และนั่นก็คือสิ่งที่ทำให้นักดนตรีกลายเป็นผู้ร่วมแสดง
13:41
You have the plan in your head.
232
806000
2000
คุณมีแผนการอยู่ในหัว
13:43
You know what to do, even though Kleiber is not conducting you.
233
808000
3000
คุณรู้ว่าจะต้องเล่นยังงัย แม้ว่าไคลเบอร์จะไม่ได้บอกอะไรกับคุณ
13:46
But here and there and that. You know what to do.
234
811000
3000
เพราะว่าเค้ามัวแต่ทำนู่นนี่นั่น แต่คุณรู้ว่าคุณต้องทำอะไร
13:49
And you become a partner building the rollercoaster,
235
814000
3000
คุณจึงกลายมาเป็นผู้ร่วมสร้างรถไฟตีลังกานี้
13:52
yeah, with sound,
236
817000
2000
ด้วยดนตรี
13:54
as you actually take the ride.
237
819000
2000
ในขณะเดียวกัน ตัวคุณเองก็กำลังนั่งรถไฟตีลังกานี้ไปด้วย
13:56
This is very exciting for those players.
238
821000
3000
นักดนตรีถือว่านี่เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมาก
13:59
They do need to go to a sanatorium for two weeks, later.
239
824000
2000
พอเล่นเสร็จแล้วสองอาทิตย์ให้หลังนักดนตรีเหล่านี้ถึงกับต้องไปบำบัดรักษาจิต
14:01
(Laughter)
240
826000
1000
(หัวเราะ)
14:02
It is very tiring. Yeah?
241
827000
2000
เพราะการเล่นดนตรีแบบนี้มันเหนื่อยมาก
14:04
But it's the best music making, like this.
242
829000
4000
แต่นี่เป็นวิธีการสร้างดนตรีที่ดีที่สุด
14:08
But of course it's not only about motivation
243
833000
3000
แต่แน่นอน มันไม่ได้มาจากแรงดลใจเพียงอย่างเดียว
14:11
and giving them a lot of physical energy.
244
836000
3000
หรือจากการที่เรามีแรงกำลังกายมาก
14:14
You also have to be very professional.
245
839000
2000
เพราะคุณยังต้องอาศัยความเป็นมืออาชีพ
14:16
And look again at this Kleiber.
246
841000
2000
เรามาชมกันอีกครั้งกับไคลเบอร์
14:18
Can we have the next video, quickly?
247
843000
2000
ขอวิดีโอถัดไปต่อเลยครับ
14:20
You'll see what happens when there is a mistake.
248
845000
4000
ตอนนี้เราจะมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีการเล่นพลาด
14:24
(Music) Again you see the beautiful body language.
249
849000
3000
(ดนตรี) เห็นภาษากายที่สวยงามมั๊ยครับ
14:27
(Music)
250
852000
3000
(ดนตรี)
14:33
And now there is a trumpet player who
251
858000
3000
แล้วตอนนี้มีนักเล่นทรัมเปตคนนึงที่
14:36
does something not exactly the way it should be done.
252
861000
2000
เล่นไม่เหมือนอย่างที่ควรจะเล่น
14:38
Go along with the video. Look.
253
863000
2000
ดูตามวิดีโอไปเรื่อยๆ อ้า เห็นมั๊ยครับ
14:43
See, second time for the same player.
254
868000
4000
โอ้ ผิดครั้งที่สอง นักดนตรีคนเดียวกัน
14:49
(Laughter) And now the third time for the same player.
255
874000
3000
(หัวเราะ) อ้า ผิดรอบที่สาม คนเดิม
14:56
(Laughter)
256
881000
1000
(หัวเราะ)
14:57
"Wait for me after the concert.
257
882000
2000
"เดี๋ยวคอนเสิร์ตจบแล้วผมขอคุย
14:59
I have a short notice to give you."
258
884000
2000
มีโนติสจะมอบให้"
15:01
You know, when it's needed, the authority is there. It's very important.
259
886000
4000
เห็นมั๊ยครับ ไคลเบอร์พร้อมใช้อำนาจในยามจำเป็น นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
15:05
But authority is not enough to make people your partners.
260
890000
3000
แต่อำนาจเพียงอย่างเดียวไม่พอสำหรับการเปลี่ยนคนให้การเป็นหุ้นส่วน
15:08
Let's see the next video, please. See what happens here.
261
893000
2000
ลองดูวิดีโอถัดไปครับ สังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น
15:10
You might be surprised having seen Kleiber
262
895000
2000
คุณอาจแปลกใจที่เห็นไคลเบอร์
15:12
as such a hyperactive guy.
263
897000
3000
ที่ปกติเป็นคนที่เต็มไปด้วยพลัง
15:15
He's conducting Mozart.
264
900000
2000
ในวิดีโอท่านกำลังคุมเพลงของโมสาร์ท
15:17
(Music)
265
902000
3000
(ดนตรี)
15:20
The whole orchestra is playing.
266
905000
2000
และวงออเคสตร้าทั้งหมดกำลังเล่น
15:22
(Music)
267
907000
2000
(ดนตรี)
15:24
Now something else.
268
909000
2000
แต่ตรงนี้มีอะไรที่ต่างออกไป
15:26
(Music)
269
911000
3000
(ดนตรี)
15:36
See? He is there 100 percent,
270
921000
4000
เห็นมั๊ยครับ ไคลเบอร์อยู่กับการแสดงร้อยเปอร์เซ็นต์
15:40
but not commanding, not telling what to do.
271
925000
2000
แต่ท่านไม่ก้าวก่าย ไม่กำกับนักดนตรีว่าจะต้องเล่นยังงัย
15:42
Rather enjoying what the soloist is doing.
272
927000
3000
แต่เลือกที่จะเพลินไปกับดนตรีที่ผู้บรรเลงเดี่ยวกำลังเล่น
15:45
(Music)
273
930000
3000
(ดนตรี)
15:48
Another solo now. See what you can pick up from this.
274
933000
3000
นักบรรเลงเดี่ยวคนถัดไป ลองดูนะครับว่าคุณอ่านอะไรได้จากคลิปนี้
15:51
(Music)
275
936000
3000
(ดนตรี)
15:57
Look at the eyes.
276
942000
2000
ดูตาของเค้าสิครับ
16:03
Okay. You see that?
277
948000
2000
โอเค เห็นมั๊ยครับ?
16:05
First of all, it's a kind of a compliment we all like to get.
278
950000
3000
อย่างแรกเลย นี่เป็นเหมือนคำชมอย่างหนึ่งที่ทุกคนชอบที่จะได้รับ
16:08
It's not feedback. It's an "Mmmm ..." Yeah, it comes from here.
279
953000
3000
มันไม่ใช่แค่การประเมินผล แต่เป็น "อือฮืมมม..." ใช่มันมาจากตรงนี้
16:11
So that's a good thing.
280
956000
2000
นี่คือข้อดีอย่างแรก
16:13
And the second thing is
281
958000
2000
ส่วนข้อที่สอง
16:15
it's about actually being in control,
282
960000
2000
เกี่ยวกับความสามารถในการคุมวง
16:17
but in a very special way.
283
962000
2000
แต่เป็นการคุมที่น่าสนใจ
16:19
When Kleiber does -- did you see the eyes,
284
964000
3000
สิ่งที่ไคลเบอร์ทำ คุณเห็นสายตาของเค้า
16:22
going from here? (Singing)
285
967000
2000
ที่มองไปจากตรงนี้มั๊ยครับ? (ร้องเพลง)
16:24
You know what happens? Gravitation is no more.
286
969000
4000
คุณรู้มั๊ยว่าเกิดอะไรขึ้น? แรงโน้มถ่วงหายไปไหนพริบตา
16:28
Kleiber not only creates a process,
287
973000
2000
ไคลเบอร์ไม่เพียงแต่วางแนวทาง
16:30
but also creates the conditions in the world
288
975000
3000
แต่ยังสร้างเงื่อนไขดนตรี
16:33
in which this process takes place.
289
978000
3000
ของแนวทางนี้ด้วย
16:36
So again, the oboe player
290
981000
2000
นักเล่นโอโบ
16:38
is completely autonomous
291
983000
2000
จึงมีอิสรภาพในการเล่นอย่างแท้จริง
16:40
and therefore happy and proud of his work,
292
985000
3000
ดังนั้นเค้าจึงมีความสุขและเกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตัวเอง
16:43
and creative and all of that.
293
988000
2000
และแสดงออกอย่างสร้างสรร ต่างๆนานา
16:45
And the level in which Kleiber is in control is in a different level.
294
990000
4000
ไคลเบอร์แสดงความควบคุมวงออกมาในอีกระดับ
16:49
So control is no longer a zero-sum game.
295
994000
3000
มันไม่ใช่ความควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์
16:52
You have this control. You have this control. And all you put together,
296
997000
2000
ผมคุมตรงนี้ คุณคุมตรงนั้น แล้วเรามารวมกัน
16:54
in partnership, brings about the best music.
297
999000
4000
ความร่วมมือนี้ดึงสิ่งที่เยี่ยมที่สุดของดนตรีออกมา
16:58
So Kleiber is about process.
298
1003000
2000
เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับไคลเบอร์มันคือกระบวนการ
17:00
Kleiber is about conditions in the world.
299
1005000
2000
มันคือการสร้างเงื่อนไขทางดนตรี
17:02
But you need to have process and content to create the meaning.
300
1007000
4000
แต่คุณต้องมีทั้งกระบวนการและข้อมูลในการทำให้เกิดความหมาย
17:06
Lenny Bernstein, my own personal maestro.
301
1011000
2000
สำหรับเลนนี เบิร์นสไตน์ ครูส่วนตัวของผมแล้ว
17:08
Since he was a great teacher,
302
1013000
3000
เนื่องจากเบิร์นสไตน์เป็นครูชั้นเอก
17:11
Lenny Bernstein always started from the meaning. Look at this, please.
303
1016000
6000
เลนนี เบิร์นสไตน์จึงเริ่มที่ความหมายเป็นอย่างแรกเสมอ เรามาชมกันครับ
17:17
(Music)
304
1022000
4000
(ดนตรี)
18:16
Do you remember the face of Muti, at the beginning?
305
1081000
2000
ยังจำสีหน้าของมูติได้มั๊ยครับ ที่ผมโชว์ให้ดูช่วงแรก
18:18
Well he had a wonderful expression, but only one.
306
1083000
3000
มูติมีการแสดงออกทางสีหน้าที่วิเศษ แต่ก็มีอยู่เพียงลักษณะเดียว
18:21
(Laughter)
307
1086000
1000
(หัวเราะ)
18:22
Did you see Lenny's face?
308
1087000
2000
คุณเห็นสีหน้าของเลนนีมั๊ยครับ?
18:24
You know why? Because the meaning of the music is pain.
309
1089000
4000
คุณรู้มั๊ยว่าทำไมท่านถึงทำหน้าแบบนั้น? เพราะความหมายของบทประพันธ์นั้นคือความเจ็บปวด
18:28
And you're playing a painful sound.
310
1093000
2000
และนักดนตรีกำลังเล่นเสียงดนตรีที่ฟังดูเจ็บปวด
18:30
And you look at Lenny and he's suffering.
311
1095000
3000
และเมื่อคุณมองหน้าเลนนี คุณเห็นได้ว่าท่านกำลังทรมานอยู่กับความรู้สึกนั้น
18:33
But not in a way that you want to stop.
312
1098000
2000
แต่ไม่ใช่ในลักษณะที่คุณอยากจะหยุดมัน
18:35
It's suffering, like, enjoying himself in a Jewish way, as they say.
313
1100000
4000
เป็นความทรมานอย่างที่คนเค้าชอบบอกว่าเป็นแบบที่คนยิวชอบ
18:39
(Laughter)
314
1104000
4000
(หัวเราะ)
18:43
But you can see the music on his face.
315
1108000
3000
แต่คุณสามารถมองเห็นดนตรีผ่านทางสีหน้าของท่าน
18:46
You can see the baton left his hand. No more baton.
316
1111000
3000
คุณเห็นได้ว่าไม้ของไวทยากรหายไป ไม่มีการใช้ไม้ในการกำกับวงอีกต่อไป
18:49
Now it's about you, the player,
317
1114000
2000
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนักดนตรีเท่านั้น
18:51
telling the story.
318
1116000
2000
ที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมา
18:53
Now it's a reversed thing. You're telling the story. And you're telling the story.
319
1118000
2000
และนี่ก็เป็นสิ่งที่กลับกัน คุณคือคนเล่าเรื่อง และคุณคือคนเล่าเรื่อง
18:55
And even briefly, you become the storyteller
320
1120000
3000
และแม้กระทั่งในเวลาที่สั้นที่สุด คุณกลายเป็นผู้เล่าเรื่องราว
18:58
to which the community, the whole community, listens to.
321
1123000
3000
ที่ผู้ฟังทั้งหมดในหอแสดงร่วมฟังเรื่องราวของคุณ
19:01
And Bernstein enables that. Isn't that wonderful?
322
1126000
4000
และเบิร์นสไตน์ท่านทำเช่นนั้น มันยอดเยี่ยมมากใช่มั๊ยครับ?
19:05
Now, if you are doing all the things we talked about, together,
323
1130000
4000
และสำหรับตอนนี้ ถ้าคุณทำในทุกสิ่งที่เราคุยถึงด้วยกัน
19:09
and maybe some others,
324
1134000
2000
รวมไปถึงสิ่งอื่นด้วย
19:11
you can get to this wonderful point of doing without doing.
325
1136000
3000
คุณจะสามารถไปถึงจุดที่แสนวิเศษในการสรรสร้างโดยปราศจากการสร้าง
19:14
And for the last video, I think this is simply the best title.
326
1139000
5000
และสำหรับวิดีโอสุดท้ายนี้ ผมคิดว่าชื่อที่เหมาะที่สุดคือ
19:19
My friend Peter says,
327
1144000
2000
ชื่อที่เพื่อนผม ปีเตอร์ กล่าว
19:21
"If you love something, give it away." So, please.
328
1146000
4000
"ถ้าคุณรักอะไรซักอย่าง ถ่ายทอดมันต่อ" มาชมกันครับ
19:25
(Music)
329
1150000
4000
(ดนตรี)
20:29
(Applause)
330
1214000
17000
(ปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Itay Talgam - Conductor and leadership expertAfter a decade-long conducting career in his native Israel, Itay Talgam has reinvented himself as a "conductor of people" -- in government, academia, business and education. He is the author of The Ignorant Maestro.
Why you should listen
Itay Talgam finds metaphors for organizational behavior -- and models for inspired leadership -- within the workings of the symphony orchestra. Imagining music as a model for all spheres of human creativity, from the classroom to the boardroom, Talgam created the Maestro Leadership Program.
Talgam's workshops aim to help everyday people develop a musician's sense of collaboration, and a conductor's sense of leadership: that inner sense of being intuitively, even subconsciously, connected to your fellow players, giving what they need and getting what you need. It's this art of listening and reacting in the moment that makes for a swinging jazz combo, a sublime string quartet, a brilliant orchestra -- and great teams at work.
Before he conducted people, Talgam conducted music, including numerous orchestras in Europe. He was the first Israeli conductor to perform with the St. Petersburg Philharmonic Orchestra and the Leipzig Opera house. His book, The Ignorant Maestro, was published in 2015.
Itay Talgam | Speaker | TED.com