ABOUT THE SPEAKER
Emily Esfahani Smith - Journalist, author
In her book "The Power of Meaning," Emily Esfahani Smith rounds up the latest research -- and the stories of fascinating people she interviewed -- to argue that the search for meaning is far more fulfilling than the pursuit of personal happiness.

Why you should listen

Emily Esfahani Smith is the author of The Power of Meaning: Finding Fulfillment in a World Obsessed With Happiness. In her book and TED Talk, she argues that we're chasing the wrong goal -- a life of meaning, not happiness, should be our aim.

Our culture is obsessed with happiness. Even though we devote vast amounts of time and resources trying to be happier, many of us feel aimless and alienated nonetheless. With depression and loneliness trending upward for decades and the suicide rate rising around the world -- recently reaching a 30-year high in the United States -- it's clear that something is wrong. In recent years, social scientists have been trying to understand what exactly the problem is. What they've found is striking. What predicts the rising tide of despair sweeping across society is not a lack of happiness. It's a lack of something else -- a lack of having meaning in life. In fact, chasing and valuing happiness, the way our culture encourages us to do, can actually make people unhappy.

This set Smith on a journey to understand what constitutes a meaningful life. After extensive research and reporting, she came to see that there are four pillars of a meaningful life -- and she lays them out in her TED Talk. Ultimately, she discovered that the search for meaning is far more fulfilling than the pursuit of personal happiness -- and we all have the power to build more meaning in our lives.

Smith's articles and essays have appeared in the Wall Street Journal, New York Times, and The Atlantic. The former managing editor of The New Criterion, Smith is also an editor at the Stanford University's Hoover Institution, where she advises the Ben Franklin Circles project, a collaboration with the 92nd Street Y and Citizen University to build meaning in local communities.  

More profile about the speaker
Emily Esfahani Smith | Speaker | TED.com
TED2017

Emily Esfahani Smith: There's more to life than being happy

เอมิลี เอสฟาฮานี สมิธ (Emily Esfahani Smith): ชีวิตที่มีมากกว่ายิ่งกว่าความสุข

Filmed:
8,815,535 views

วัฒนธรรมของเราหมกมุ่นกับเรื่องหาความสุข แต่ถ้าฒันมีอะไรที่น่าพึงพอใจยิ่งกว่าความสุขละ เอมิลี เอสฟาฮานี สมิธ บอกว่าความสุขเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน แต่การมีความหมายในชีวิตจะช่วยให้คุณยืนหยัดอยู่ได้ ซึ่งก็คือการรับใช้อะไรบางอย่างที่เป็นยิ่งกว่าตัวคุณและพัฒนาตนเองให้เต็มศักยภาพ เสาแห่งคามหมายสี่้ต้นของเอมิลี สมิธ จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างการมีความสุขกับการมีความหมายในชีวิต
- Journalist, author
In her book "The Power of Meaning," Emily Esfahani Smith rounds up the latest research -- and the stories of fascinating people she interviewed -- to argue that the search for meaning is far more fulfilling than the pursuit of personal happiness. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:12
I used to think
0
904
1279
ฉันเคยคิดว่า
00:14
the wholeทั้งหมด purposeวัตถุประสงค์ of life
was pursuingการใฝ่หา happinessความสุข.
1
2207
3734
เราเกิดมา
เพื่อที่จะหาความสุขในชีวิตเป็นหลัก
00:18
Everyoneทุกคน said the pathเส้นทาง
to happinessความสุข was successความสำเร็จ,
2
6680
3384
ทุกคนบอกว่า
ความสำเร็จนำมาซึ่งความสุข
00:22
so I searchedสืบค้น for that idealในอุดมคติ jobงาน,
3
10088
2498
ฉันจึงพยายามหางานดี ๆ ทำ
00:24
that perfectสมบูรณ์ boyfriendแฟน,
that beautifulสวย apartmentอพาร์ทเม้น.
4
12610
3031
หาแฟนที่แสนน่ารัก
หาอพาร์ทเมนต์ที่สวยหรู
00:28
But insteadแทน of ever feelingความรู้สึก fulfilledสม,
5
16998
2998
แต่ถึงมีสิ่งเหล่านี้แล้ว
ฉันก็ไม่ได้รู้สึกพึงพอใจเลย
00:32
I feltรู้สึกว่า anxiousกระวนกระวาย and adriftไม่มีจุดหมาย.
6
20020
2604
ฉันกลับรู้สึกกังวล เคว้งคว้าง
00:35
And I wasn'tก็ไม่ได้ aloneคนเดียว; my friendsเพื่อน --
they struggledต่อสู้ with this, too.
7
23195
4009
และฉันไม่ได้รู้สึกแบบนี้คนเดียวด้วย
เพื่อนหลายคนก็รู้สึกแย่พอกัน
00:40
Eventuallyในที่สุด, I decidedตัดสินใจ to go
to graduateจบการศึกษา schoolโรงเรียน for positiveบวก psychologyจิตวิทยา
8
28720
4269
ในที่สุด ฉันจึงตัดสินใจไปเรียนต่อโท
ด้านจิตวิทยาเชิงบวก
00:45
to learnเรียน what trulyอย่างแท้จริง makesยี่ห้อ people happyมีความสุข.
9
33013
3220
เพื่อจะได้รู้ว่า อะไรทำให้คนเรา
มีความสุขจริง ๆ
00:48
But what I discoveredค้นพบ there
changedการเปลี่ยนแปลง my life.
10
36971
2656
แต่ฉันได้พบ
เป็นสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตของฉันเอง
00:52
The dataข้อมูล showedแสดงให้เห็นว่า that chasingการกวด happinessความสุข
can make people unhappyไม่มีความสุข.
11
40452
4610
มีข้อมูลชี้ว่า การวิ่งไล่หาความสุข
อาจทำให้เราเป็นทุกข์
00:57
And what really struckหลง me was this:
12
45967
2257
เรื่องที่ทำฉันอึ้งมากก็คือ
01:01
the suicideการฆ่าตัวตาย rateอัตรา has been risingที่เพิ่มสูงขึ้น
around the worldโลก,
13
49058
2787
อัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก
01:03
and it recentlyเมื่อเร็ว ๆ นี้ reachedถึง
a 30-year-ปี highสูง in Americaสหรัฐอเมริกา.
14
51869
3091
ในอเมริกา ไม่นานมานี้
ตัวเลขขึ้นสูงสุดในรอบ 30 ปี
01:07
Even thoughแม้ life is gettingได้รับ
objectivelyอย่างไม่มีอคติ better
15
55753
2763
แม้ว่าความเป็นอยู่ของคนเราจะดีขึ้นจริง ๆ
01:10
by nearlyเกือบ everyทุกๆ conceivableเป็นไปได้ standardมาตรฐาน,
16
58540
2690
ถ้าดูจากตัวชี้วัดต่าง ๆ
01:13
more people feel hopelessสิ้นหวัง,
17
61254
2199
แต่กลับมีคนที่รู้สึกสิ้นหวังมากขึ้น
01:15
depressedตกต่ำ and aloneคนเดียว.
18
63477
2125
ทั้งซึมเศร้าและอ้างว้าง
01:18
There's an emptinessสิ่งที่ว่างเปล่า
gnawingที่แทะ away at people,
19
66214
2813
ความเปล่าเปลี่ยวกำลังกัดกินจิตใจผู้คน
01:21
and you don't have to be
clinicallyทางคลินิก depressedตกต่ำ to feel it.
20
69051
3270
คุณก็รู้สึกได้ โดยไม่ต้องเป็นโรคซึมเศร้า
01:24
Soonerเร็วกว่า or laterต่อมา, I think we all wonderน่าแปลกใจ:
21
72345
2900
ถึงจุดหนึ่ง เราทุกคนจะสงสัยว่า
01:27
Is this all there is?
22
75784
2232
ชีวิตมีแค่นี้เองหรือ
01:31
And accordingตาม to the researchการวิจัย,
what predictsคาดการณ์ this despairสิ้นหวัง
23
79167
3206
งานวิจัยบอกว่า
สิ่งที่ทำนายความรู้สึกสิ้นหวัง
01:34
is not a lackไม่มี of happinessความสุข.
24
82397
1827
ไม่ใช่การขาดความสุข
01:36
It's a lackไม่มี of something elseอื่น,
25
84248
1842
แต่เป็นการขาดเรื่องอื่น
01:38
a lackไม่มี of havingมี meaningความหมาย in life.
26
86817
2938
นั่นคือ ขาดความหมายในชีวิต
01:42
But that raisedยก some questionsคำถาม for me.
27
90962
2393
ฉันเลยถามตัวเองว่า
01:45
Is there more to life than beingกำลัง happyมีความสุข?
28
93855
2599
มีอะไรที่สำคัญต่อชีวิต
มากกว่าความสุขหรือ
01:49
And what's the differenceข้อแตกต่าง
betweenระหว่าง beingกำลัง happyมีความสุข
29
97216
2423
อะไรคือความแตกต่างระหว่างความสุข
01:51
and havingมี meaningความหมาย in life?
30
99663
1891
กับการมีความหมายในชีวิต
01:54
Manyจำนวนมาก psychologistsนักจิตวิทยา defineกำหนด happinessความสุข
as a stateสถานะ of comfortความสะดวกสบาย and easeความสะดวก,
31
102879
4600
นักจิตวิทยาบอกว่า ความสุขคือ
ความรู้สึกที่สบายผ่อนคลาย
01:59
feelingความรู้สึก good in the momentขณะ.
32
107503
1889
เมื่อมีความสุข เราจะรู้สึกดี
02:02
Meaningความหมาย, thoughแม้, is deeperลึก.
33
110098
1658
แต่ความหมายเป็นอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้น
02:04
The renownedมีชื่อเสียง psychologistนักจิตวิทยา
Martinนกนางแอ่น SeligmanSeligman saysกล่าวว่า
34
112278
2564
มาร์ติน เซลิกแมน
นักจิตวิทยาชื่อดังบอกว่า
02:06
meaningความหมาย comesมา from belongingซึ่งเป็นของ to
and servingการให้บริการ something beyondเกิน yourselfด้วยตัวคุณเอง
35
114866
4647
ความหมายมาจากการเป็นส่วนหนึ่งของสิ่ง
ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเรา และรับใช้สิ่งนั้น
02:11
and from developingที่กำลังพัฒนา the bestดีที่สุด withinภายใน you.
36
119537
2683
และยังมาจากการพัฒนาตัวเองให้เก่ง
02:15
Our cultureวัฒนธรรม is obsessedหมกมุ่น with happinessความสุข,
37
123617
2595
เราอยู่ในวัฒนธรรมที่หมกมุ่น
กับการหาความสุข
02:18
but I cameมา to see that seekingที่กำลังมองหา meaningความหมาย
is the more fulfillingการตอบสนอง pathเส้นทาง.
38
126236
4107
แต่ฉันรู้แล้วว่า การหาความหมาย
เป็นหนทางที่น่าพึงพอใจมากกว่า
02:22
And the studiesการศึกษา showแสดง that people
who have meaningความหมาย in life,
39
130367
2929
และผลจากการศึกษาพบว่า
คนที่มีชีวิตที่มีความหมาย
02:25
they're more resilientยืดหยุ่น,
40
133320
1410
เมื่อล้มแล้วจะลุกได้ง่ายกว่า
02:26
they do better in schoolโรงเรียน and at work,
41
134754
2557
พวกเขาประสบความสำเร็จในการเรียน
และการทำงานมากกว่า
02:29
and they even liveมีชีวิต longerอีกต่อไป.
42
137335
1607
และยังมีอายุยืนยาวกว่าด้วย
02:31
So this all madeทำ me wonderน่าแปลกใจ:
43
139985
2021
ฉันจึงสงสัยว่า
02:34
How can we eachแต่ละ liveมีชีวิต more meaningfullyมีความหมาย?
44
142030
2474
แล้วเราจะมีชีวิต
อย่างมีความหมายมากขึ้นได้อย่างไร
02:37
To find out, I spentการใช้จ่าย fiveห้า yearsปี
interviewingสัมภาษณ์ hundredsหลายร้อย of people
45
145980
3678
ฉันใช้เวลา 5 ปี
เพื่อสัมภาษณ์ผู้คนหลายร้อยคน
02:41
and readingการอ่าน throughตลอด thousandsพัน
of pagesหน้า of psychologyจิตวิทยา,
46
149682
2901
อ่านหนังสือหลายพันหน้า
ทั้งจิตวิทยา
02:44
neuroscienceประสาท and philosophyปรัชญา.
47
152607
2101
ประสาทวิทยา และปรัชญา
02:47
Bringingการนำ it all togetherด้วยกัน,
48
155366
1789
พอรวบรวมสิ่งเหล่านี้เพื่อหาข้อสรุป
02:49
I foundพบ that there are what I call
fourสี่ pillarsเสา of a meaningfulมีความหมาย life.
49
157179
5341
ฉันพบว่า มีสิ่งที่ฉันเรียกว่า
4 เสาหลักของชีวิตที่มีความหมาย
02:54
And we can eachแต่ละ createสร้าง livesชีวิต of meaningความหมาย
50
162544
2434
และเราทุกคนก็สามารถ
สร้างชีวิตที่มีความหมายได้
02:57
by buildingอาคาร some or all
of these pillarsเสา in our livesชีวิต.
51
165002
3349
โดยการสร้างเสาพวกนี้ขึ้นมาในชีวิต
จะแค่บางเสา หรือทุกเสาก็ได้
03:01
The first pillarเสา is belongingซึ่งเป็นของ.
52
169428
2188
เสาต้นแรกคือ การเป็นส่วนหนึ่งของบางอย่าง
03:04
Belongingเป็นของ comesมา
from beingกำลัง in relationshipsสัมพันธ์
53
172378
2307
การเป็นส่วนหนึ่งมาจาก
สร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน
03:06
where you're valuedมูลค่า
for who you are intrinsicallyภายใน
54
174709
2705
ในแบบที่ทำให้เรารู้สึกมีค่า
จากสิ่งที่เรามีอยู่ข้างในตัว
03:09
and where you valueความคุ้มค่า othersคนอื่น ๆ as well.
55
177438
2113
และเห็นค่าของคนอื่นในแบบที่เขาเป็น
03:12
But some groupsกลุ่ม and relationshipsสัมพันธ์
deliverส่งมอบ a cheapถูก formฟอร์ม of belongingซึ่งเป็นของ;
56
180218
4690
แต่บางกลุ่มบางความสัมพันธ์ก็ให้
ความเป็นส่วนหนึ่งแบบด้วยคุณภาพกับเรา
03:16
you're valuedมูลค่า for what you believe,
57
184932
1893
คือ คุณจะมีค่ากับเขาเพราะคุณเชื่อตามเขา
03:18
for who you hateเกลียด,
58
186849
1246
เกลียดอะไรเหมือนเขา
03:20
not for who you are.
59
188119
1545
ไม่ใช่จากสิ่งที่คุณเป็น
03:22
Trueจริง belongingซึ่งเป็นของ springsน้ำพุ from love.
60
190420
2783
การเป็นส่วนหนึ่งที่แท้จริง
ต้องมาจากความรัก
03:25
It livesชีวิต in momentsช่วงเวลา amongในหมู่ individualsบุคคล,
61
193227
2985
มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้น
ระหว่างคนกับคนด้วยกัน
03:28
and it's a choiceทางเลือก -- you can chooseเลือก
to cultivateปลูกฝัง belongingซึ่งเป็นของ with othersคนอื่น ๆ.
62
196236
3845
และเป็นสิ่งที่เราเลือกเองว่า
จะเป็นส่วนหนึ่งกับอะไร
03:32
Here'sต่อไปนี้คือ an exampleตัวอย่าง.
63
200661
1607
ตัวอย่างอันหนึ่งคือ
03:34
Eachแต่ละ morningตอนเช้า, my friendเพื่อน Jonathanโจนาธาน
buysซื้อ a newspaperหนังสือพิมพ์
64
202292
3555
ฉันมีเพื่อนชื่อโจนาธาน
ทุกเช้าเขาจะซื้อหนังสือพิมพ์
03:37
from the sameเหมือนกัน streetถนน vendorผู้ขาย in Newใหม่ Yorkนิวยอร์ก.
65
205871
2218
จากร้านเจ้าประจำริมถนนในนิวยอร์ค
03:40
They don't just conductความประพฤติ
a transactionการซื้อขาย, thoughแม้.
66
208502
2280
ระหว่างเขากับเจ้าของร้าน
ไม่ใช่แค่ซื้อของขายของให้กัน
03:42
They take a momentขณะ to slowช้า down, talk,
67
210806
2683
แต่พวกเขาทักทาย พูดคุยกัน
03:45
and treatรักษา eachแต่ละ other like humansมนุษย์.
68
213513
1906
เหมือนเป็นเพื่อนกัน
03:48
But one time, Jonathanโจนาธาน
didn't have the right changeเปลี่ยนแปลง,
69
216038
3394
เช้าวันหนึ่ง
โจนาธานไม่มีแบงค์ย่อย
03:51
and the vendorผู้ขาย said,
70
219456
1220
เจ้าของร้านบอกว่า
03:52
"Don't worryกังวล about it."
71
220700
1520
“ไม่เป็นไร เงินเล็กน้อย”
03:54
But Jonathanโจนาธาน insistedยืนยัน on payingการจ่ายเงิน,
72
222244
2487
แต่โจนาธานยืนยันที่จะจ่าย
03:56
so he wentไป to the storeเก็บ
and boughtซื้อ something he didn't need
73
224755
3012
เขาจึงเดินไปที่ร้านขายของ
ซื้ออะไรบางอย่างที่ไม่จำเป้น
03:59
to make changeเปลี่ยนแปลง.
74
227791
1461
เพื่อให้ได้เศษเหรียญมาจ่าย
04:01
But when he gaveให้ the moneyเงิน to the vendorผู้ขาย,
75
229992
2623
แต่พอเขายื่นเงินให้กับเจ้าของร้าน
04:04
the vendorผู้ขาย drewDrew back.
76
232639
1522
เจ้าของร้านผงะถอยหลัง
04:06
He was hurtทำให้เจ็บ.
77
234820
1278
เพราะเขารู้สึกเสียใจ
04:08
He was tryingพยายาม to do something kindชนิด,
78
236715
1849
เขาพยายามแสดงน้ำใจ
04:10
but Jonathanโจนาธาน had rejectedปฏิเสธ him.
79
238588
2247
แต่โจนาธานกลับปฏิเสธน้ำใจเขา
04:14
I think we all rejectปฏิเสธ people in smallเล็ก waysวิธี
like this withoutไม่มี realizingตระหนักถึง it.
80
242113
4151
ฉันคิดว่า เราทุกคนปฏิเสธคนอื่น
ในเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้โดยไม่รู้ตัว
04:18
I do.
81
246288
1198
ฉันเองก็ทำ
04:19
I'll walkเดิน by someoneบางคน I know
and barelyเพิ่งจะ acknowledgeรับทราบ them.
82
247510
3063
บางครั้งเดินผ่านคนที่รู้จัก
แต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น
04:22
I'll checkตรวจสอบ my phoneโทรศัพท์
when someone'sใครบางคน talkingการพูด to me.
83
250597
2647
หรือเล่นโทรศัพท์
ขณะที่ใครกำลังคุยกับฉันอยู่
04:25
These actsการกระทำ devalueลดค่า othersคนอื่น ๆ.
84
253678
1929
การทำแบบนี้เท่ากับไม่เห็นค่าของคนอื่น
04:27
They make them feel
invisibleมองไม่เห็น and unworthyไม่คู่ควร.
85
255631
2753
ทำให้พวกเขารู้สึกไร้ตัวตน ไร้ค่า
04:31
But when you leadนำ with love,
you createสร้าง a bondพันธบัตร
86
259130
2752
แต่ถ้าคุณทำอะไรด้วยความรัก
ก็จะสร้างความสัมพันธ์
04:33
that liftsลิฟท์ eachแต่ละ of you up.
87
261906
1672
ที่ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกดีขึ้น
04:37
For manyจำนวนมาก people, belongingซึ่งเป็นของ
is the mostมากที่สุด essentialสำคัญ sourceแหล่ง of meaningความหมาย,
88
265030
3628
สำหรับใครหลายคน การเป็นส่วนหนึ่ง
เป็นที่มาของความหมายในชีวิต
04:40
those bondsพันธบัตร to familyครอบครัว and friendsเพื่อน.
89
268682
1998
เช่น กับครอบครัว กับเพื่อนฝูง
04:43
For othersคนอื่น ๆ, the keyสำคัญ to meaningความหมาย
is the secondที่สอง pillarเสา: purposeวัตถุประสงค์.
90
271176
4005
แต่สำหรับบางคน ความหมายที่สำคัญของชีวิต
อยู่ที่เสาต้นที่สอง นั่นคือ จุดมุ่งหมาย
04:47
Now, findingคำวินิจฉัย your purposeวัตถุประสงค์
is not the sameเหมือนกัน thing
91
275844
2915
การค้นหาจุดมุ่งหมายนี้ไม่เหมือนกับ
04:50
as findingคำวินิจฉัย that jobงาน that makesยี่ห้อ you happyมีความสุข.
92
278783
2248
การหางานที่จะทำให้คุณมีความสุข
04:53
Purposeวัตถุประสงค์ is lessน้อยกว่า about what you want
than about what you give.
93
281520
3459
จุดประสงค์เป็นเรื่องที่คุณเป็นฝ่ายให้
มากกว่าเป็นฝ่ายรับ
04:57
A hospitalโรงพยาบาล custodianผู้ปกครอง told me
her purposeวัตถุประสงค์ is healingการรักษา sickป่วย people.
94
285003
4488
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนหนึ่งบอกฉันว่า
จุดประสงค์ของเธอคือ เยียวยาคนป่วย
05:01
Manyจำนวนมาก parentsพ่อแม่ tell me,
95
289515
1711
พ่อแม่หลายคนบอกว่า
05:03
"My purposeวัตถุประสงค์ is raisingการยก my childrenเด็ก ๆ."
96
291250
1936
“จุดประสงค์ของฉันคือ เลี้ยงดูลูก ๆ จนโต“
05:05
The keyสำคัญ to purposeวัตถุประสงค์
is usingการใช้ your strengthsจุดแข็ง to serveบริการ othersคนอื่น ๆ.
97
293527
4044
หัวใจสำคัญของจุดมุ่งหมายคือ
ใช้จุดแข็งของคุณเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
05:10
Of courseหลักสูตร, for manyจำนวนมาก of us,
that happensที่เกิดขึ้น throughตลอด work.
98
298381
3508
สำหรับพวกเราหลายคน
นั่นย่อมหมายถึงการทำงาน
05:13
That's how we contributeสนับสนุน and feel neededจำเป็น.
99
301913
2979
มันเป็นวิธีทำตัวให้เป็นประโยชน์
และรู้สึกมีคนต้องการเรา
05:16
But that alsoด้วย meansวิธี
that issuesปัญหา like disengagementความหลุดพ้น at work,
100
304916
3860
แต่นั่นก็ยังแปลได้ว่า ปัญหาต่าง ๆ
อย่างเช่นการไม่สนใจทำงาน
05:20
unemploymentการว่างงาน,
101
308800
1413
ตกงาน
05:22
lowต่ำ laborแรงงาน forceบังคับ participationการมีส่วนร่วม --
102
310237
2227
ขาดการมีส่วนร่วมในงาน
05:24
these aren'tไม่ได้ just economicด้านเศรษฐกิจ problemsปัญหาที่เกิดขึ้น,
they're existentialอัตถิภาวนิยม onesคน, too.
103
312488
3691
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาทางเศรษฐกิจ
แต่เป็นปัญหาของการดำรงชีวิตด้วย
05:28
Withoutไม่มี something worthwhileคุ้มค่า to do,
104
316821
2213
ถ้าไม่ได้ทำสิ่งที่มีคุณค่า
05:31
people flounderดิ้นรน.
105
319058
1301
เราจะรู้สึกลำบากใจ
05:33
Of courseหลักสูตร, you don't have to find
purposeวัตถุประสงค์ at work,
106
321493
2616
จริงอยู่ ที่คุณไม่ต้องหาจุดประสงค์
จากการทำงานก็ได้
05:36
but purposeวัตถุประสงค์ givesจะช่วยให้ you
something to liveมีชีวิต for,
107
324133
2729
แต่ถ้าคุณมีจุดประสงค์
คุณก็จะรู้ว่าจะอยู่เพื่ออะไร
05:38
some "why" that drivesไดรฟ์ you forwardข้างหน้า.
108
326886
2080
คุณจะมีพลังที่จะก้าวไปข้างหน้า
05:43
The thirdที่สาม pillarเสา of meaningความหมาย
is alsoด้วย about steppingก้าว beyondเกิน yourselfด้วยตัวคุณเอง,
109
331147
3300
เสาต้นที่สามของความหมาย
ยังเป็นเรื่องการก้าวข้ามความเป็นตัวเองด้วย
05:46
but in a completelyอย่างสมบูรณ์ differentต่าง way:
110
334471
1842
แต่ในแง่มุมที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
05:48
transcendenceวิชชา.
111
336337
1587
เรียกว่า การสลายตัวตน
05:49
Transcendentดาร statesรัฐ are those rareหายาก momentsช่วงเวลา
112
337948
2377
มันคือสภาวะที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
05:52
when you're liftedยก aboveข้างบน
the hustleเร่งรีบ and bustleคึกคัก of dailyประจำวัน life,
113
340349
3412
เมื่อคุณรู้สึกตัวลอย
อยู่เหนือภาระความวุ่นวายจากชีวิตประจำวัน
05:55
your senseความรู้สึก of selfตนเอง fadesจางหายไป away,
114
343785
1705
ความรู้สึกที่มีต่ออัตตาหายไป
05:57
and you feel connectedเกี่ยวข้อง
to a higherสูงกว่า realityความจริง.
115
345514
2774
และคุณสัมผัสได้ถึง
ความจริงที่ยิ่งใหญ่ที่สูงกว่า
06:01
For one personคน I talkedพูดคุย to,
transcendenceวิชชา cameมา from seeingเห็น artศิลปะ.
116
349214
3690
คนหนึ่งที่ฉันคุยด้วยบอกว่า
เขารู้สึกถึงการสลายตัวตนเมื่อมองงานศิลปะ
06:04
For anotherอื่น personคน, it was at churchโบสถ์.
117
352928
2530
อีกคนบอกว่า เป็นตอนที่อยู่ในโบสถ์
06:07
For me, I'm a writerนักเขียน,
and it happensที่เกิดขึ้น throughตลอด writingการเขียน.
118
355482
3554
ส่วนฉัน ซึ่งเป็นนักเขียน
จะเกิดขึ้นเวลาเขียนหนังสือ
06:11
Sometimesบางครั้ง I get so in the zoneโซน
that I loseสูญเสีย all senseความรู้สึก of time and placeสถานที่.
119
359060
5070
บางครั้ง ฉันลืมตัวไปเลย
ว่ากี่โมงแล้ว หรืออยู่ที่ไหน
06:16
These transcendentพ้น
experiencesประสบการณ์ can changeเปลี่ยนแปลง you.
120
364757
3146
ประสบการณ์สลายตัวตนเหล่านี้
อาจเปลี่ยนแปลงคุณได้
06:19
One studyศึกษา had studentsนักเรียน look up
at 200-feet-tall-feet สูง eucalyptusต้นยูคา treesต้นไม้
121
367927
4524
การศึกษาหนึ่งมอบหมายให้นักศึกษา
มองขึ้นไปบนยอดต้นยูคาลิปตัสที่สูงถึง 200 ฟุต
06:24
for one minuteนาที.
122
372475
1201
นานหนึ่งนาที
06:26
But afterwardsภายหลัง
they feltรู้สึกว่า lessน้อยกว่า self-centeredมุ่ง แต่ตัวเอง,
123
374263
2154
หลังจากนั้น
พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาถือตัวน้อยลง
06:28
and they even behavedความประพฤติ more generouslyอย่างไม่เห็นแก่ตัว
124
376441
1944
และมีน้ำใจกับคนอื่นมากขึ้น
06:30
when givenรับ the chanceโอกาส to help someoneบางคน.
125
378409
2070
เมื่อมีโอกาสที่จะได้ช่วยเหลือผู้อื่น
06:33
Belongingเป็นของ, purposeวัตถุประสงค์, transcendenceวิชชา.
126
381582
3720
เราได้พูดถึงการเป็นส่วนหนึ่ง
จุดประสงค์ และการสลายตัวตนแล้ว
06:38
Now, the fourthที่สี่ pillarเสา
of meaningความหมาย, I've foundพบ,
127
386374
2723
มาถึงเสาที่ให้ความหมายต้นที่สี่
06:41
tendsมีแนวโน้มที่ to surpriseแปลกใจ people.
128
389121
1755
ฉันพบว่า มันมักทำให้คนแปลกใจ
06:43
The fourthที่สี่ pillarเสา is storytellingการเล่านิยาย,
129
391366
2734
เสาต้นที่สี่คือ การเล่าเรื่อง
06:46
the storyเรื่องราว you tell yourselfด้วยตัวคุณเอง
about yourselfด้วยตัวคุณเอง.
130
394124
2865
คือเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเราเอง
ที่เราเล่าให้ตัวเองฟัง
06:49
Creatingการสร้าง a narrativeการเล่าเรื่อง from the eventsเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
of your life bringsนำ clarityความชัดเจน.
131
397616
4144
การร้อยเรียงเรื่องเล่าจากเหตุการณ์ต่าง ๆ
ในชีวิตทำให้เกิดความชัดเจน
06:53
It helpsจะช่วยให้ you understandเข้าใจ
how you becameกลายเป็น you.
132
401784
3036
มันช่วยให้คุณเข้าใจว่า
คุณเป็นคุณแบบนี้ได้อย่างไร
06:57
But we don't always realizeตระหนักถึง
that we're the authorsผู้เขียน of our storiesเรื่องราว
133
405669
3096
แต่เราไม่ค่อยได้ตระหนักว่า
เราเป็นผู้เขียนเรื่องของตัวเอง
07:00
and can changeเปลี่ยนแปลง the way we're tellingบอก them.
134
408789
2163
และเราสามารถเปลี่ยนวิธีการเล่าเรื่องได้
07:02
Your life isn't just a listรายการ of eventsเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.
135
410976
2491
ชีวิตของคุณไม่ใช่แค่เหตุการณ์
ที่เรียงต่อกันเท่านั้น
07:05
You can editแก้ไข, interpretตีความ
and retellสั่งย้ำ your storyเรื่องราว,
136
413491
3216
แต่คุณสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไข
แปลความหมาย แล้วเล่าเรื่องใหม่ได้
07:08
even as you're constrainedถูก จำกัด by the factsข้อเท็จจริง.
137
416731
2220
ถึงแม้ว่าความจริงจะไม่ได้เปลี่ยนไปก็ตาม
07:11
I metพบ a youngหนุ่มสาว man namedชื่อ EmekaEmeka,
who'dที่ต้องการ been paralyzedเป็นอัมพาต playingเล่น footballฟุตบอล.
138
419681
4628
ฉันเจอชายหนุ่มที่ชื่อ เอมิก้า
ที่เป็นอัมพาตจากการเล่นฟุตบอล
07:16
After his injuryความเสียหาย, EmekaEmeka told himselfตัวเขาเอง,
139
424920
2459
หลังจากบาดเจ็บ เอมิกาบอกตัวเองว่า
07:19
"My life was great playingเล่น footballฟุตบอล,
140
427403
2705
“ฉันเคยเป็นนักฟุตบอลที่เก่ง
07:22
but now look at me."
141
430132
2124
แต่ดูสภาพฉันตอนนี้สิ”
07:26
People who tell storiesเรื่องราว like this --
142
434002
2292
คนที่เล่าเรื่องทำนองนี้ว่า
07:28
"My life was good. Now it's badไม่ดี." --
143
436318
2524
“ฉันเคยมีชีวิตที่ดี แต่เดี๋ยวนี้แย่มาก”
07:30
tendมีแนวโน้ม to be more anxiousกระวนกระวาย and depressedตกต่ำ.
144
438866
2822
มักจะหดหู่และซึมเศร้ามากขึ้น
07:33
And that was EmekaEmeka for a while.
145
441712
2329
เอมิก้าเคยเป็นแบบนั้นอยู่ช่วงหนึ่ง
07:36
But with time, he startedเริ่มต้น
to weaveสาน a differentต่าง storyเรื่องราว.
146
444573
3391
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาค่อย ๆ
เปลี่ยนวิธีการเล่าเรื่องของตนเอง
07:40
His newใหม่ storyเรื่องราว was,
147
448415
1733
เรื่องราวใหม่ของเขาก็คือ
07:42
"Before my injuryความเสียหาย,
my life was purposelessจับจด.
148
450172
3267
"ก่อนที่จะเป็นอัมพาต
ฉันไม่มีจุดมุ่งหมายอะไรในชีวิต
07:45
I partiedปาร์ตี้ a lot and was
a prettyน่ารัก selfishเห็นแก่ตัว guy.
149
453463
3253
มีแต่เรื่องสังสรรค์บันเทิง
นึกถึงแต่เรื่องของตัวเอง
07:48
But my injuryความเสียหาย madeทำ me realizeตระหนักถึง
I could be a better man."
150
456740
3708
แต่การเป็นอัมพาตทำให้ฉันรู้ว่า
ฉันเป็นคนที่ดีกว่าเดิมได้"
07:53
That editแก้ไข to his storyเรื่องราว
changedการเปลี่ยนแปลง Emeka'sของ Emeka life.
151
461488
3541
การปรับเรื่องเล่าใหม่นี้
ได้เปลี่ยนชีวิตของเอมิก้า
07:57
After tellingบอก the newใหม่ storyเรื่องราว to himselfตัวเขาเอง,
152
465053
2431
หลังจากเขาเรียบเรียงเรื่องของตัวเองใหม่
07:59
EmekaEmeka startedเริ่มต้น mentoringการให้คำปรึกษา kidsเด็ก,
153
467508
1922
เขาก็เริ่มให้คำแนะนำกับเด็ก ๆ
08:01
and he discoveredค้นพบ what his purposeวัตถุประสงค์ was:
154
469454
2366
และเขาก็ได้ค้นพบว่าจุดมุ่งหมายใหม่ก็คือ
08:03
servingการให้บริการ othersคนอื่น ๆ.
155
471844
1390
การช่วยเหลือผู้อื่น
08:06
The psychologistนักจิตวิทยา Danแดน McAdamsแม็กอดัมส์
callsโทร this a "redemptiveไถ่บาป storyเรื่องราว,"
156
474101
3378
นักจิตวิทยา แดน อดัมส์ เรียกสิ่งนี้ว่า
“เรื่องเล่าฟื้นฟูจิตใจ”
08:09
where the badไม่ดี is redeemedแลก by the good.
157
477503
2283
คือ การเปลี่ยนเรื่องแย่ให้เป็นเรื่องดี
08:12
People leadingชั้นนำ meaningfulมีความหมาย
livesชีวิต, he's foundพบ,
158
480627
2183
เขาพบว่า คนที่ใช้ชีวิตที่มีความหมาย
08:14
tendมีแนวโน้ม to tell storiesเรื่องราว about theirของพวกเขา livesชีวิต
159
482834
1931
มักเล่าเรื่องราวในชีวิตตัวเอง
08:16
definedที่กำหนดไว้ by redemptionการไถ่ถอน, growthการเจริญเติบโต and love.
160
484789
3022
ที่เต็มไปด้วยการฟื้นฟูจิตใจ
การเติบโต และความรัก
08:20
But what makesยี่ห้อ people
changeเปลี่ยนแปลง theirของพวกเขา storiesเรื่องราว?
161
488723
2462
แต่อะไรล่ะ ที่ทำให้คนเรา
เปลี่ยนเรื่องเล่าของตัวเองได้
08:23
Some people get help from a therapistนักบำบัดโรค,
162
491725
1928
บางคนมีนักจิตบำบัดคอยให้คำแนะนำ
08:25
but you can do it on your ownด้วยตัวเอง, too,
163
493677
1810
แต่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเอง
08:27
just by reflectingสะท้อนให้เห็นถึง
on your life thoughtfullyความคิด,
164
495511
2760
เพียงแค่ทบทวนชีวิตของคุณอย่างถี่ถ้วน
08:30
how your definingการกำหนด experiencesประสบการณ์ shapedมีรูป you,
165
498295
2087
มีประสบการณ์สำคัญอะไรบ้างหล่อหลอมตัวคุณ
08:32
what you lostสูญหาย, what you gainedได้รับ.
166
500406
1737
คุณสูญเสียอะไรไป คุณได้อะไรมา
08:34
That's what EmekaEmeka did.
167
502589
1534
เอมิก้าทำเช่นนั้น
08:37
You won'tเคยชิน changeเปลี่ยนแปลง your storyเรื่องราว overnightค้างคืน;
168
505012
2046
คุณเปลี่ยนเรื่องเล่าคุณไม่ได้แค่เพียงชั่วคืน
08:39
it could take yearsปี and be painfulเจ็บปวด.
169
507082
2345
มันอาจใช้เวลาหลายปีและอาจจะเจ็บปวด
08:41
After all, we'veเราได้ all sufferedได้รับความเดือดร้อน,
and we all struggleการต่อสู้.
170
509451
2934
ถ้าจะว่าไป เราทุกคนก็มีทุกข์
มีเรื่องให้ต้องกลุ้มใจ
08:44
But embracingกอด those painfulเจ็บปวด memoriesความทรงจำ
can leadนำ to newใหม่ insightsข้อมูลเชิงลึก and wisdomความฉลาด,
171
512957
4339
แต่การโอบรับความทรงจำที่เจ็บปวดเหล่านี้
จะทำให้เราเกิดความรู้ใหม่และเกิดปัญญา
08:49
to findingคำวินิจฉัย that good that sustainssustains you.
172
517320
3065
ได้เจอสิ่งดี ๆ ที่คอยค้ำจุนตัวคุณ
08:54
Belongingเป็นของ, purposeวัตถุประสงค์,
transcendenceวิชชา, storytellingการเล่านิยาย:
173
522584
4533
การเป็นส่วนหนึ่ง การมีจุดมุ่งหมาย
การสลายตัวตน และการเล่าเรื่อง
08:59
those are the fourสี่ pillarsเสา of meaningความหมาย.
174
527863
2731
เป็นสี่เสาที่สร้างความหมาย
09:03
When I was youngerที่อายุน้อยกว่า,
175
531626
1606
ตอนที่ฉันยังเด็ก
09:05
I was luckyโชคดี enoughพอ to be surroundedล้อมรอบ
by all of the pillarsเสา.
176
533256
3638
ฉันโชคดี ที่ชีวิตแวดล้อมไปด้วย
เสาเหล่านี้ทั้งหมด
09:09
My parentsพ่อแม่ ranวิ่ง a SufiSufi meetinghouseอาคารประชุม
from our home in Montrealมอนทรีออ.
177
537381
4540
พ่อแม่ของฉันใช้บ้านในเมืองมอนทรีล
เป็นที่พบปะของชาวซูฟี
09:14
Sufismผู้นับถือมุสลิม is a spiritualมโนมัย practiceการปฏิบัติ
associatedที่เกี่ยวข้อง with the whirlingการขว้าง dervishesDervishes
178
542686
4483
นิกายซูฟีคือ คือแนวทางการปฏิบัติตามความเชื่อ
ที่มีความเกี่ยวข้องกับนักบวชลัทธิลมวน
09:19
and the poetกวี Rumiรุมิ.
179
547193
1393
และกวีที่ชื่อรูมี
09:21
Twiceสองครั้ง a weekสัปดาห์, SufisSufis would come to our home
180
549430
2575
ชาวซูฟีจะมาที่บ้านเราสัปดาห์ละสองครั้ง
09:24
to meditateรำพึง, drinkดื่ม Persianเปอร์เซีย teaชา,
and shareหุ้น storiesเรื่องราว.
181
552029
3760
นั่งสมาธิ ดื่มชาเปอร์เซีย
และพูดคุยเล่าเรื่องกัน
09:28
Theirของพวกเขา practiceการปฏิบัติ alsoด้วย involvedที่เกี่ยวข้อง
servingการให้บริการ all of creationการสร้าง
182
556209
2957
ชาวซูฟียังสอนให้เรารับใช้ทุกสรรพสิ่ง
09:31
throughตลอด smallเล็ก actsการกระทำ of love,
183
559190
1810
ด้วยการกระทำด้วยความรัก
09:33
whichที่ meantความหมาย beingกำลัง kindชนิด
even when people wrongedอธรรม you.
184
561024
3341
ซึ่งหมายถึง การมีเมตตา
แม้แต่กันคนที่ทำผิดกับเรา
09:36
But it gaveให้ them a purposeวัตถุประสงค์:
to reignรัชกาล in the egoอาตมา.
185
564389
3154
จุดประสงค์ก็คือเพื่อให้เราเป็นผู้ครองใจตน
09:40
Eventuallyในที่สุด, I left home for collegeวิทยาลัย
186
568912
2616
ต่อมา ฉันย้ายออกจากบ้าน
เพื่อไปเรียนที่มหาวิทยาลัย
09:43
and withoutไม่มี the dailyประจำวัน groundingดิน
of Sufismผู้นับถือมุสลิม in my life,
187
571552
3702
ชีวิตประจำวันที่ห่างหายจากการวิถีแบบซูฟี
09:47
I feltรู้สึกว่า unmooredunmoored.
188
575278
1588
ทำให้ฉันรู้สึกเคว้งคว้าง
09:48
And I startedเริ่มต้น searchingค้นหา for those things
that make life worthคุ้มค่า livingการดำรงชีวิต.
189
576890
3588
ฉันจึงเริ่มค้นหาสิ่งต่าง ๆ
ที่จะทำให้การใช้ชีวิตมีคุณค่า
09:52
That's what setชุด me on this journeyการเดินทาง.
190
580502
2113
นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางนี้
09:55
Looking back, I now realizeตระหนักถึง
191
583012
1757
นึกย้อนกลับไป ฉันตระหนักได้ว่า
09:56
that the SufiSufi houseบ้าน
had a realจริง cultureวัฒนธรรม of meaningความหมาย.
192
584793
3242
บ้านที่เป็นที่พบปะของนิกายซูฟีนั้น
เป็นแหล่งวัฒนธรรมแห่งความหมาย
10:00
The pillarsเสา were partส่วนหนึ่ง of the architectureสถาปัตยกรรม,
193
588059
2506
เสาต่าง ๆ นั้นเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างบ้าน
10:02
and the presenceการมี of the pillarsเสา
helpedช่วย us all liveมีชีวิต more deeplyลึก.
194
590589
3226
และการมีเสาอยู่นี้
ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ลึกซึ้งมากขึ้น
10:06
Of courseหลักสูตร, the sameเหมือนกัน principleหลัก appliesมีผลบังคับใช้
195
594414
2321
แน่นอนค่ะว่า หลักการเดียวกันนี้
10:08
in other strongแข็งแรง communitiesชุมชน as well --
196
596759
2201
ใช้ได้กับคนกลุ่มสังคมอื่น
ที่มีความเหนียวแน่นได้เช่นเดียวกัน
10:10
good onesคน and badไม่ดี onesคน.
197
598984
2022
ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี
10:13
Gangsแก๊ง, cultsลัทธิ:
198
601556
2029
กลุ่มอันธพาล หรือลัทธิต่าง ๆ
10:15
these are culturesวัฒนธรรม of meaningความหมาย
that use the pillarsเสา
199
603609
3013
กลุ่มเหล่านี้มีวัฒนธรรมแห่งความหมาย
ที่ใช้เสาเหล่านี้
10:18
and give people
something to liveมีชีวิต and dieตาย for.
200
606646
3378
และสิ่งยึดเหนี่ยวที่คนในกลุ่มรู้สึกว่า
จะอยู่และหรือตายเพื่อสิ่งใด
10:22
But that's exactlyอย่างแน่นอน why we as a societyสังคม
201
610048
2867
นั่นเป็นสาเหตุที่แท้จริงว่าในฐานะสังคม
10:24
mustต้อง offerเสนอ better alternativesทางเลือก.
202
612939
2109
เราต้องให้ทางเลือกที่ดีกว่านี้
10:27
We need to buildสร้าง these pillarsเสา
withinภายใน our familiesครอบครัว and our institutionsสถาบันการศึกษา
203
615072
3751
เราต้องสร้างเสาเหล่านี้
ภายในครอบครัวและสถาบันต่าง ๆ
10:30
to help people becomeกลายเป็น theirของพวกเขา bestดีที่สุด selvesตัว.
204
618847
2582
เพื่อช่วยให้คนเป็นคนเต็มศักยภาพของตน
10:34
But livingการดำรงชีวิต a meaningfulมีความหมาย life takes work.
205
622524
2586
แต่การใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย
ต้องใช้ความพยายาม
10:37
It's an ongoingต่อเนื่อง processกระบวนการ.
206
625134
1875
และมันเป็นกระบวนการต่อเรื่อง
10:39
As eachแต่ละ day goesไป by,
we're constantlyนิจศีล creatingการสร้าง our livesชีวิต,
207
627033
3729
เราสร้างสรรค์ชีวิตของเรา
ในแต่ละวันที่ล่วงเลยผ่านไป
10:42
addingเพิ่ม to our storyเรื่องราว.
208
630786
1569
เติมแต่งเรื่องราวของเรา
10:44
And sometimesบางครั้ง we can get off trackลู่.
209
632831
2749
และบางครั้ง เราก็อาจออกนอกลู่นอกทางได้
10:48
Wheneverเมื่อไรก็ตาม that happensที่เกิดขึ้น to me,
210
636362
1911
เมื่อใดก็ตามที่ฉันเริ่มเป็นแบบนั้น
10:50
I rememberจำ a powerfulมีอำนาจ experienceประสบการณ์
I had with my fatherพ่อ.
211
638297
3389
ฉันจะนึกถึงประสบการณ์ที่ทรงค่าครั้งหนึ่ง
ที่ฉันมีร่วมกับพ่อ
10:55
Severalหลาย monthsเดือน after
I graduatedจบการศึกษา from collegeวิทยาลัย,
212
643821
2647
หลังจากที่ฉันรับปริญญาสองสามเดือน
10:58
my dadพ่อ had a massiveมาก heartหัวใจ attackโจมตี
that should have killedถูกฆ่าตาย him.
213
646492
3858
คุณพ่อของฉันหัวใจวายรุนแรง
จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
11:03
He survivedรอดชีวิตมาได้, and when I askedถาม him
what was going throughตลอด his mindใจ
214
651033
3214
เมื่อฉันถามพ่อว่า
ณ วินาทีชีวิตนั้น พ่อคิดอะไร
11:06
as he facedต้องเผชิญกับ deathความตาย,
215
654271
1622
เมื่อพ่อกำลังเผชิญกับพญามจุราช
11:07
he said all he could think about
was needingต้อง to liveมีชีวิต
216
655917
2683
พ่อตอบว่า
พ่อคิดอยู่อย่างเดียวว่าต้องไม่ตาย
11:10
so he could be there
for my brotherพี่ชาย and me,
217
658624
2138
เพื่อที่จะได้อยู่กับฉันและน้องชาย
11:12
and this gaveให้ him the will
to fightสู้ for life.
218
660786
2589
และนี่เอง ที่ทำให้เขามีพลังใจที่จะสู้
11:16
When he wentไป underภายใต้ anesthesiaการระงับความรู้สึก
for emergencyกรณีฉุกเฉิน surgeryศัลยกรรม,
219
664063
3298
ตอนที่พ่อได้รับยาสลบเพื่อการผ่าตัดฉุกเฉิน
11:19
insteadแทน of countingการนับ backwardsย้อนกลับ from 10,
220
667385
2330
แทนที่จะนับถอยหลังก่อนจะหลับไปนั้น
11:21
he repeatedซ้ำแล้วซ้ำอีก our namesชื่อ like a mantraมนต์.
221
669739
3170
พ่อเอ่ยชื่อพวกเราซ้ำ ๆ แทนการสวดมนต์
11:25
He wanted our namesชื่อ to be
the last wordsคำ he spokeพูด on earthโลก
222
673790
3811
พ่ออยากให้ชื่อของพวกเรา
เป็นคำสุดท้ายที่ออกจากปาก
11:29
if he diedเสียชีวิต.
223
677625
1225
หากเขาต้องจากโลกนี้ไป
11:33
My dadพ่อ is a carpenterช่างไม้ and a SufiSufi.
224
681033
3612
พ่อของฉันเป็นช่างไม้และเป็นชาวซูฟี
11:37
It's a humbleอ่อนน้อมถ่อมตน life,
225
685185
1547
ท่านใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
11:38
but a good life.
226
686756
1269
แต่เป็นชีวิตที่ดี
11:40
Lyingโกหก there facingเผชิญ deathความตาย,
he had a reasonเหตุผล to liveมีชีวิต:
227
688564
3912
ขณะที่ล้มป่วยและเผชิญหน้ากับความตายนั้น
เขามีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่
11:44
love.
228
692500
1408
นั่นคือ ความรัก
11:45
His senseความรู้สึก of belongingซึ่งเป็นของ withinภายใน his familyครอบครัว,
229
693932
2451
เขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
11:48
his purposeวัตถุประสงค์ as a dadพ่อ,
230
696407
1729
จุดประสงค์ของความเป็นพ่อ
11:50
his transcendentพ้น meditationการทำสมาธิ,
repeatingการทำซ้ำ our namesชื่อ --
231
698160
3014
เขาทำทำสมาธิเพื่อสลายตัวตน
ด้วยการเอ่ยชื่อของพวกเราซ้ำ ๆ
11:53
these, he saysกล่าวว่า, are the reasonsเหตุผล
why he survivedรอดชีวิตมาได้.
232
701198
2781
พ่อบอกว่า สิ่งเหล่านี้แหละ
ที่ทำให้ท่านรอดชีวิต
11:56
That's the storyเรื่องราว he tellsบอก himselfตัวเขาเอง.
233
704003
2439
นั่นเป็นเรื่องเล่าที่พ่อบอกกับตัวเอง
11:59
That's the powerอำนาจ of meaningความหมาย.
234
707747
2150
นั่นคือพลังแห่งความหมาย
ความสุขนั้นไม่ได้ยั่งยืนจีรัง
12:02
Happinessความสุข comesมา and goesไป.
235
710643
2792
12:05
But when life is really good
236
713459
1849
แต่ไม่ว่าจะชีวิตของคุณจะสุดแสนดี
12:07
and when things are really badไม่ดี,
237
715332
1889
หรือแสนจะเลวร้าย
12:09
havingมี meaningความหมาย givesจะช่วยให้ you
something to holdถือ on to.
238
717241
3053
การมีความหมายในชีวิต
จะช่วยให้คุณยืนหยัดอยู่ได้
12:12
Thank you.
239
720322
1224
ขอบคุณคะ
12:13
(Applauseการปรบมือ)
240
721570
3582
(เสียงปรบมือ)

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Emily Esfahani Smith - Journalist, author
In her book "The Power of Meaning," Emily Esfahani Smith rounds up the latest research -- and the stories of fascinating people she interviewed -- to argue that the search for meaning is far more fulfilling than the pursuit of personal happiness.

Why you should listen

Emily Esfahani Smith is the author of The Power of Meaning: Finding Fulfillment in a World Obsessed With Happiness. In her book and TED Talk, she argues that we're chasing the wrong goal -- a life of meaning, not happiness, should be our aim.

Our culture is obsessed with happiness. Even though we devote vast amounts of time and resources trying to be happier, many of us feel aimless and alienated nonetheless. With depression and loneliness trending upward for decades and the suicide rate rising around the world -- recently reaching a 30-year high in the United States -- it's clear that something is wrong. In recent years, social scientists have been trying to understand what exactly the problem is. What they've found is striking. What predicts the rising tide of despair sweeping across society is not a lack of happiness. It's a lack of something else -- a lack of having meaning in life. In fact, chasing and valuing happiness, the way our culture encourages us to do, can actually make people unhappy.

This set Smith on a journey to understand what constitutes a meaningful life. After extensive research and reporting, she came to see that there are four pillars of a meaningful life -- and she lays them out in her TED Talk. Ultimately, she discovered that the search for meaning is far more fulfilling than the pursuit of personal happiness -- and we all have the power to build more meaning in our lives.

Smith's articles and essays have appeared in the Wall Street Journal, New York Times, and The Atlantic. The former managing editor of The New Criterion, Smith is also an editor at the Stanford University's Hoover Institution, where she advises the Ben Franklin Circles project, a collaboration with the 92nd Street Y and Citizen University to build meaning in local communities.  

More profile about the speaker
Emily Esfahani Smith | Speaker | TED.com

Data provided by TED.

This site was created in May 2015 and the last update was on January 12, 2020. It will no longer be updated.

We are currently creating a new site called "eng.lish.video" and would be grateful if you could access it.

If you have any questions or suggestions, please feel free to write comments in your language on the contact form.

Privacy Policy

Developer's Blog

Buy Me A Coffee