ABOUT THE SPEAKER
Paul Bloom - Psychologist
Paul Bloom explores some of the most puzzling aspects of human nature, including pleasure, religion, and morality.

Why you should listen

In Paul Bloom’s last book, How Pleasure Works, he explores the often-mysterious enjoyment that people get out of experiences such as sex, food, art, and stories. His latest book, Just Babies, examines the nature and origins of good and evil. How do we decide what's fair and unfair? What is the relationship between emotion and rationality in our judgments of right and wrong? And how much of morality is present at birth? To answer these questions, he and his colleagues at Yale study how babies make moral decisions. (How do you present a moral quandary to a 6-month-old? Through simple, gamelike experiments that yield surprisingly adult-like results.)  

Paul Bloom is a passionate teacher of undergraduates, and his popular Introduction to Psychology 110 class has been released to the world through the Open Yale Courses program. He has recently completed a second MOOC, “Moralities of Everyday Life”, that introduced moral psychology to tens of thousands of students. And he also presents his research to a popular audience though articles in The Atlantic, The New Yorker, and The New York Times. Many of the projects he works on are student-initiated, and all of them, he notes, are "strongly interdisciplinary, bringing in theory and research from areas such as cognitive, social, and developmental psychology, evolutionary theory, linguistics, theology and philosophy." 

He says: "A growing body of evidence suggests that humans do have a rudimentary moral sense from the very start of life."

More profile about the speaker
Paul Bloom | Speaker | TED.com
TEDGlobal 2011

Paul Bloom: The origins of pleasure

พอล บลูม: บ่อเกิดความพอใจ

Filmed:
2,137,903 views

ทำไมเราถึงชอบภาพจริงมากกว่าของปลอม? นักจิตวิทยา พอล บลูม กล่าวว่ามนุษย์เราเป็นพวกสารัตถนิยม ที่ความเชื่อของเราเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสิ่งต่างๆเปลี่ยนไปตามประสบการณ์ นี่ไม่ใช่แค่ภาพลวงตา แต่มันคือส่วนสำคัญที่ประกอบเป็นความรู้สึกพอใจ(และความเจ็บปวด)ด้วย
- Psychologist
Paul Bloom explores some of the most puzzling aspects of human nature, including pleasure, religion, and morality. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:15
I'm going to talk todayในวันนี้
0
0
2000
วันนี้ผมจะพูดเรื่อง
00:17
about the pleasuresความสุข of everydayทุกวัน life.
1
2000
2000
ความพอใจในชีวิตประจำวัน
00:19
But I want to beginเริ่ม with a storyเรื่องราว
2
4000
2000
แต่ผมอยากเริ่มด้วยเรื่องของ
00:21
of an unusualผิดปกติ and terribleน่ากลัว man.
3
6000
2000
คนชั่วร้ายและไม่ธรรมดาคนหนึ่ง
00:23
This is Hermannแฮร์มันน์ GoeringGoering.
4
8000
2000
นี่คือ เฮอร์มาน เกอริ่ง
00:25
GoeringGoering was Hitler'sฮิตเลอร์ secondที่สอง in commandคำสั่ง in Worldโลก Warสงคราม IIครั้งที่สอง,
5
10000
3000
เกอริ่งได้รับมอบหมายเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ของฮิตเลอร์
00:28
his designatedที่กำหนด successorตัวตายตัวแทน.
6
13000
2000
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
00:30
And like Hitlerฮิตเลอร์,
7
15000
2000
และเช่นเดียวกับฮิตเลอร์
00:32
GoeringGoering fanciedfancied himselfตัวเขาเอง a collectorสะสม of artศิลปะ.
8
17000
2000
เกอริ่งชอบสะสมงานศิลป์
00:34
He wentไป throughตลอด Europeยุโรป, throughตลอด Worldโลก Warสงคราม IIครั้งที่สอง,
9
19000
2000
เขาไปทั่วยุปโรป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
00:36
stealingการขโมย, extortingขู่เข็ญ and occasionallyเป็นครั้งคราว buyingการซื้อ
10
21000
3000
ขโมย รีดไถและบางครั้งก็ซื้อ
00:39
variousต่างๆ paintingsภาพวาด for his collectionชุด.
11
24000
2000
ภาพวาดหลากหลายมาเก็บสะสม
00:41
And what he really wanted was something by VermeerVermeer.
12
26000
3000
และสิ่งที่เขาอยากได้มากคือผลงานของแวร์เมีย
00:44
Hitlerฮิตเลอร์ had two of them, and he didn't have any.
13
29000
3000
ฮิตเลอร์มีผลงานเขาสองภาพ แต่เขากลับไม่มีสักชิ้น
00:47
So he finallyในที่สุด foundพบ an artศิลปะ dealerเจ้ามือ,
14
32000
2000
ในที่สุด เขาก็เจอพ่อค้าภาพศิลป์
00:49
a Dutchดัตช์ artศิลปะ dealerเจ้ามือ namedชื่อ Hanฮัน vanรถตู้ MeegerenMeegeren,
15
34000
3000
พ่อค้าภาพศิลป์ชาวดัชชื่อ ฮาน วาน เมเกอเรน
00:52
who soldขาย him a wonderfulยอดเยี่ยม VermeerVermeer
16
37000
2000
ผู้ขายภาพผลงานแวเมียร์แก่เขา
00:54
for the costราคา of what would now be 10 millionล้าน dollarsดอลลาร์.
17
39000
3000
ซึ่งตอนนี้ราคาคงประมาณ 10 ล้านดอลล่าร์แล้ว
00:57
And it was his favoriteที่ชื่นชอบ artworkงานศิลปะ ever.
18
42000
3000
และเป็นภาพศิลป์ชิ้นโปรดที่สุดของเขาด้วย
01:00
Worldโลก Warสงคราม IIครั้งที่สอง cameมา to an endปลาย,
19
45000
2000
สงครามโลกครั้งที่ 2 มาถึงจุดจบ
01:02
and GoeringGoering was capturedถูกจับกุม, triedพยายาม at Nurembergนูเรมเบิร์ก
20
47000
3000
และเกอริ่งถูกจับและตัดสินที่นูเรมเบิร์ก
01:05
and ultimatelyในที่สุด sentencedถูกพิพากษา to deathความตาย.
21
50000
3000
และในที่สุดถูกศาลสั่งประหารชีวิต
01:08
Then the Alliedเป็นพันธมิตรกัน forcesกองกำลัง wentไป throughตลอด his collectionsคอลเลกชัน
22
53000
2000
ฝ่ายพันธมิตรเข้าค้นดูของสะสมของเขา
01:10
and foundพบ the paintingsภาพวาด
23
55000
2000
พบภาพวาดต่างๆ
01:12
and wentไป after the people who soldขาย it to him.
24
57000
2000
และตามล่าคนที่ขายให้แก่เขา
01:14
And at some pointจุด the Dutchดัตช์ policeตำรวจ cameมา into Amsterdamอัมสเตอร์ดัม
25
59000
3000
จนถึง ณ จุดหนึ่งที่ตำรวจชาวดัชมาถึงเมืองอัมสเตอร์ดัม
01:17
and arrestedจับกุม Vanรถตู้ MeegerenMeegeren.
26
62000
2000
เข้าจับกุม วาน เมเกอร์เรนไว้
01:19
Vanรถตู้ MeegerenMeegeren was chargedการเรียกเก็บเงิน with the crimeอาชญากรรม of treasonกบฏ,
27
64000
3000
วาน เมเกอร์เรนถูกจับกุมข้อหาก่อการกบฎ
01:22
whichที่ is itselfตัวเอง punishableที่มีโทษ by deathความตาย.
28
67000
3000
ซึ่งบทลงโทษของข้อหานี้คือประหารชีวิต
01:25
Sixหก weeksสัปดาห์ที่ผ่านมา into his prisonคุก sentenceประโยค,
29
70000
2000
หลังถูกขังในคุก 6 สัปดาห์
01:27
vanรถตู้ MeegerenMeegeren confessedสารภาพ.
30
72000
2000
วาน เมเกอร์เรน สารภาพ
01:29
But he didn't confessสารภาพ to treasonกบฏ.
31
74000
2000
แต่เขาไม่ได้สารภาพในเรื่องก่อกบฎ
01:31
He said, "I did not sellขาย a great masterpieceผลงานชิ้นเอก
32
76000
3000
เขาพูดว่า "ผมไม่ได้ขายผลงานชิ้นเอก
01:34
to that Naziนาซี.
33
79000
2000
ให้กับนาซี
01:36
I paintedทาสี it myselfตนเอง; I'm a forgerคนฅีเหล็ก."
34
81000
3000
ผมวาดมันเอง ผมเป็นนักปลอมแปลง"
01:39
Now nobodyไม่มีใคร believedเชื่อว่า him.
35
84000
3000
ขณะนั้นไม่มีใครเชื่อเขา
01:42
And he said, "I'll proveพิสูจน์ it.
36
87000
2000
เขาจึงพูดว่า "ผมจะพิสูจน์ให้ดู
01:44
Bringนำมาซึ่ง me a canvasผ้าใบ and some paintสี,
37
89000
2000
เอาผ้าใบกับสีมาให้ผม
01:46
and I will paintสี a VermeerVermeer much better
38
91000
2000
แล้วผมจะวาดภาพของแวเมียร์ให้ดี
01:48
than I soldขาย that disgustingน่าสะอิดสะเอียน Naziนาซี.
39
93000
2000
กว่าที่ผมขายให้กับพวกนาซีที่น่าขยะแขยงเสียอีก
01:50
I alsoด้วย need alcoholแอลกอฮอล์ and morphineธาตุมอร์ฟีน, because it's the only way I can work."
40
95000
3000
ผมขอเหล้ากับมอร์ฟีนด้วย เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้ผมทำงานได้"
01:53
(Laughterเสียงหัวเราะ)
41
98000
2000
(หัวเราะ)
01:55
So they broughtนำ him in.
42
100000
2000
พวกเขาเลยเอาของมาให้
01:57
He paintedทาสี a beautifulสวย VermeerVermeer.
43
102000
3000
เขาวาดรูปแวเมียร์แสนวิจิตร
02:00
And then the chargesค่าใช้จ่าย of treasonกบฏ were droppedปรับตัวลดลง.
44
105000
3000
และข้อหาก่อกบฎก็ตกไป
02:03
He had a lesserน้อยกว่า chargeค่าธรรมเนียม of forgeryการปลอม,
45
108000
2000
เขาเลยได้ข้อหานักต้มตุ๋นแทน
02:05
got a yearปี sentenceประโยค
46
110000
2000
ซึ่งถูกจำคุกหนึ่งปี
02:07
and diedเสียชีวิต a heroพระเอก to the Dutchดัตช์ people.
47
112000
3000
และตายอย่างฮีโร่ในสายตาชาวดัช
02:11
There's a lot more to be said about vanรถตู้ MeegerenMeegeren,
48
116000
3000
ความจริงมีเรื่องอีกมากเกี่ยวกับ วาน เมเกอร์เรน
02:14
but I want to turnกลับ now to GoeringGoering,
49
119000
2000
แต่ตอนนี้ผมอยากพูดถึงเกอริ่ง
02:16
who'sใคร picturedภาพ here beingกำลัง interrogatedสอบปากคำ at Nurembergนูเรมเบิร์ก.
50
121000
3000
ที่ถูกสอบปากคำที่เมืองนูเรมเบิร์ก
02:19
Now GoeringGoering was, by all accountsบัญชี, a terribleน่ากลัว man.
51
124000
2000
ไม่ว่าจะมองในมุมไหน เกอริ่งถือเป็นคนเลวร้ายมาก
02:21
Even for a Naziนาซี, he was a terribleน่ากลัว man.
52
126000
3000
แม้แต่นาซีด้วยกัน เขาเป็นคนที่แย่มาก
02:24
His Americanอเมริกัน interrogatorsซักถาม describedอธิบาย him
53
129000
3000
ปรัศนีชาวอเมริกันอธิบายเกี่ยวกับเขาว่า
02:27
as an amicableเป็นมิตร psychopathคนบ้า.
54
132000
2000
เป็นสหายโรคจิตคนหนึ่ง
02:29
But you could feel sympathyความเห็นอกเห็นใจ
55
134000
2000
แต่คุณอาจรู้สึกสงสาร
02:31
for the reactionปฏิกิริยา he had
56
136000
2000
ถ้าเห็นอาการของเขา
02:33
when he was told that his favoriteที่ชื่นชอบ paintingจิตรกรรม
57
138000
2000
เมื่อรู้ว่าภาพวาดสุดโปรดของเขานั้น
02:35
was actuallyแท้จริง a forgeryการปลอม.
58
140000
2000
จริงๆแล้วเป็นของเก๊
02:37
Accordingตาม to his biographerคนเขียนชีวประวัติ,
59
142000
2000
ผู้เขียนประวัติของเกอริ่งบอกว่า
02:39
"He lookedมอง as if for the first time
60
144000
2000
"ตอนนั้นเหมือนเป็นครั้งแรกที่เขา
02:41
he had discoveredค้นพบ there was evilชั่วร้าย in the worldโลก."
61
146000
2000
ได้ค้นพบว่าโลกนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน"
02:43
(Laughterเสียงหัวเราะ)
62
148000
3000
(เสียงหัวเราะ)
02:46
And he killedถูกฆ่าตาย himselfตัวเขาเอง soonในไม่ช้า afterwardsภายหลัง.
63
151000
3000
แล้วเขาก็ฆ่าตัวตายหลังจากนั้น
02:49
He had discoveredค้นพบ after all
64
154000
2000
เขาได้ค้นพบว่าที่ผ่านมา
02:51
that the paintingจิตรกรรม he thought was this
65
156000
2000
ภาพวาดที่เขาคิดว่าเป็นภาพนี้
02:53
was actuallyแท้จริง that.
66
158000
3000
จริงๆ แล้วเป็นอันนี้ต่างหาก
02:56
It lookedมอง the sameเหมือนกัน,
67
161000
2000
มันดูเหมือนกันอยู่ดี
02:58
but it had a differentต่าง originที่มา, it was a differentต่าง artworkงานศิลปะ.
68
163000
2000
เพียงแต่มันมีต้นกำเนิดที่ต่างกัน มันเป็นงานศิลปะคนละอันกัน
03:00
It wasn'tก็ไม่ได้ just him who was in for a shockช็อก.
69
165000
2000
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นที่ต้องอึ้ง
03:02
Onceครั้งหนึ่ง vanรถตู้ MeegerenMeegeren was on trialการทดลอง, he couldn'tไม่สามารถ stop talkingการพูด.
70
167000
3000
ครั้งหนึ่งเมื่อ วาน เมเกอร์เรนอยู่ในช่วงสอบสวน เขาหยุดพูดไม่ได้
03:05
And he boastedBoasted about all the great masterpiecesผลงานชิ้นเอก
71
170000
2000
เขาโอ้อวดผลงานชิ้นเอกทั้งหมด
03:07
that he himselfตัวเขาเอง had paintedทาสี
72
172000
2000
ที่เป็นของศิลปินของคนอื่น
03:09
that were attributedมาประกอบ to other artistsศิลปิน.
73
174000
2000
แต่เขานำมาวาดเป็นของตนเอง
03:11
In particularโดยเฉพาะ, "The Supperอาหารมื้อเย็น at Emmausเอมมา"
74
176000
2000
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "เดอะ ซัปเปอร์ แอท เอ็มมาอุซ"
03:13
whichที่ was viewedดู as Vermeer'sเวอร์เมียร์ finestที่ดีที่สุด masterpieceผลงานชิ้นเอก, his bestดีที่สุด work --
75
178000
3000
ที่ได้รับคำชมว่าเป็นผลงานชิ้นเอกที่ดีและเยี่ยมที่สุดของแวเมียร์
03:16
people would come [from] all over the worldโลก to see it --
76
181000
3000
ผู้คนบินจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อมาดูภาพนี้
03:19
was actuallyแท้จริง a forgeryการปลอม.
77
184000
2000
ซึ่งความจริงแล้วเป็นของปลอม
03:21
It was not that paintingจิตรกรรม, but that paintingจิตรกรรม.
78
186000
2000
มันไม่ใช่ภาพนี้ แต่เป็นภาพนี้
03:23
And when that was discoveredค้นพบ,
79
188000
2000
แล้วเมื่อความจริงเปิดเผย
03:25
it lostสูญหาย all its valueความคุ้มค่า and was takenยึด away from the museumพิพิธภัณฑ์.
80
190000
3000
ภาพนั้นก็หมดค่าและถูกปลดออกจากพิพิธภัณฑ์
03:28
Why does this matterเรื่อง?
81
193000
2000
แล้วเรื่องนี้สำคัญยังไงละ?
03:30
I'm a psychologistsนักจิตวิทยา -- why do originsต้นกำเนิด matterเรื่อง so much?
82
195000
3000
ผมอยากถามนักจิตวิทยาอย่างพวกคุณ ทำไมที่มาที่ไปถึงสำคัญหนักหนา?
03:33
Why do we respondตอบสนอง so much
83
198000
2000
ทำไมพวกเราถึงใส่ใจ
03:35
to our knowledgeความรู้ of where something comesมา from?
84
200000
3000
ว่าสิ่งของว่ามันมาจากที่ไหน?
03:38
Well there's an answerตอบ that manyจำนวนมาก people would give.
85
203000
2000
เรื่องนี้มีคำตอบมากมาย
03:40
Manyจำนวนมาก sociologistsนักสังคมวิทยา like VeblenVeblen and Wolfeวูล์ฟ
86
205000
3000
นักสังคมวิทยาหลายคนอย่าง เวเบลนและโวฟฟ์
03:43
would argueเถียง that the reasonเหตุผล why we take originsต้นกำเนิด so seriouslyอย่างจริงจัง
87
208000
3000
ได้ให้เหตุผลว่าที่เราจริงจังกับที่มาที่ไปนั้น
03:46
is because we're snobssnobs, because we're focusedที่มุ่งเน้น on statusสถานะ.
88
211000
3000
ก็เพราะพวกเราเสแสร้ง เพราะพวกเรายึดติดกับสถานะ
03:49
Amongในหมู่ other things,
89
214000
2000
และเหนือสิ่งอื่นใด
03:51
if you want to showแสดง off how richรวย you are, how powerfulมีอำนาจ you are,
90
216000
2000
ถ้าคุณอยากจะโชว์ว่าตัวเองรวยแค่ไหน มีอำนาจมากแค่ไหน
03:53
it's always better to ownด้วยตัวเอง an originalเป็นต้นฉบับ than a forgeryการปลอม
91
218000
2000
การมีของแท้ย่อมดูดีกว่าของปลอมเสมอ
03:55
because there's always going to be fewerน้อยลง originalsต้นฉบับ than forgeriesปลอม.
92
220000
3000
เพราะว่ายังไงซะ ของแท้ย่อมมีน้อยชิ้นกว่าของปลอมอยู่แล้ว
03:59
I don't doubtสงสัย that that playsการเล่น some roleบทบาท,
93
224000
2000
ผมไม่สงสัยเลยว่าสิ่งเหล่านี้มีผลต่อความคิดอยู่บ้าง
04:01
but what I want to convinceโน้มน้าวใจ you of todayในวันนี้
94
226000
2000
แต่สิ่งที่ผมอยากให้คุณรู้ในวันนี้
04:03
is that there's something elseอื่น going on.
95
228000
2000
คือมีอีกหลายสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกัน
04:05
I want to convinceโน้มน้าวใจ you
96
230000
2000
ผมอยากให้คุณรู้ว่า
04:07
that humansมนุษย์ are, to some extentขอบเขต, naturalโดยธรรมชาติ bornโดยกำเนิด essentialistsessentialists.
97
232000
3000
มนุษย์เรานั้น ในส่วนหนึ่ง เกิดมาเป็นสารัตถนิยม
04:10
What I mean by this
98
235000
2000
นั่นก็คือ
04:12
is we don't just respondตอบสนอง to things as we see them,
99
237000
2000
พวกเราตอบสนองกับสิ่งต่างๆอย่างที่พวกเราเห็น
04:14
or feel them, or hearได้ยิน them.
100
239000
2000
ที่เรารู้สึก หรือได้รู้เกี่ยวกับสิ่งนั้นๆ
04:16
Ratherค่อนข้าง, our responseคำตอบ is conditionedถูกปรับอากาศ on our beliefsความเชื่อ,
101
241000
3000
การตอบสนองของพวกเราขึ้นอยู่กับความเชื่อที่เรามี
04:19
about what they really are, what they cameมา from,
102
244000
3000
แต่ความเชื่อเหล่านั้นคืออะไร มาจากไหน
04:22
what they're madeทำ of, what theirของพวกเขา hiddenซ่อนเร้น natureธรรมชาติ is.
103
247000
3000
เกิดขึ้นมาจากอะไร แล้วอะไรคือธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ละ
04:25
I want to suggestแนะนำ that this is trueจริง,
104
250000
2000
ผมอยากบอกว่านี่คือเรื่องจริง
04:27
not just for how we think about things,
105
252000
2000
ไม่ใช่แค่ว่าเราคิดอย่างไรกับสิ่งต่างๆ
04:29
but how we reactเกิดปฏิกิริยา to things.
106
254000
2000
แต่รวมถึงการตอบสนองกับสิ่งต่างๆด้วย
04:31
So I want to suggestแนะนำ that pleasureความสุข is deepลึก --
107
256000
2000
ผมอยากบอกว่า ความพึงพอใจมันอยู่ลึกข้างใน
04:33
and that this isn't trueจริง
108
258000
2000
และไม่ใช่แค่เฉพาะ
04:35
just for higherสูงกว่า levelชั้น pleasuresความสุข like artศิลปะ,
109
260000
3000
ความพึงพอใจต่องานศิลปะ
04:38
but even the mostมากที่สุด seeminglyดูเหมือนว่า simpleง่าย pleasuresความสุข
110
263000
3000
แม้แต่ความพอใจธรรมดาๆ
04:41
are affectedได้รับผล by our beliefsความเชื่อ about hiddenซ่อนเร้น essencesสาระสําคัญ.
111
266000
3000
ก็ได้รับอิทธิพลจากความเชื่อของเราที่อยู่ลึกในใจ
04:44
So take foodอาหาร.
112
269000
2000
อย่างการกิน
04:46
Would you eatกิน this?
113
271000
2000
คุณจะกินสิ่งนี้ไหม?
04:48
Well, a good answerตอบ is, "It dependsขึ้นอยู่กับ. What is it?"
114
273000
3000
คำตอบที่ดีคือ "ขึ้นอยู่กับว่ามันคืออะไร?"
04:51
Some of you would eatกิน it if it's porkเนื้อหมู, but not beefเนื้อวัว.
115
276000
2000
บางคนคงกินถ้ามันเป็นเนื้อหมู ไม่ใช่เนื้อวัว
04:53
Some of you would eatกิน it if it's beefเนื้อวัว, but not porkเนื้อหมู.
116
278000
3000
บางคนกินเพราะเป็นเนื้อวัวแต่ไม่ใช่หมู
04:56
Fewน้อย of you would eatกิน it if it's a ratหนู
117
281000
2000
และน้อยคนที่จะกินถ้าเป็นเนื้อหนู
04:58
or a humanเป็นมนุษย์.
118
283000
2000
หรือเนื้อคน
05:00
Some of you would eatกิน it only if it's a strangelyตระการ coloredมีสี pieceชิ้น of tofuเต้าหู้.
119
285000
3000
และพวกคุณบางคนจะกินถ้ามันเป็นเต้าหู้สีประหลาดๆ
05:04
That's not so surprisingน่าแปลกใจ.
120
289000
2000
ก็ไม่ค่อยน่าแปลกใจอะไร
05:06
But what's more interestingน่าสนใจ
121
291000
2000
แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า
05:08
is how it tastesรสนิยม to you
122
293000
2000
คือรสชาติของสิ่งที่กิน
05:10
will dependขึ้นอยู่กับ criticallyฉกรรจ์ on what you think you're eatingการรับประทานอาหาร.
123
295000
3000
ขึ้นอยู่กับว่าคุณคิดว่าสิ่งที่คุณกินคืออะไร
05:13
So one demonstrationสาธิต of this was doneเสร็จแล้ว with youngหนุ่มสาว childrenเด็ก ๆ.
124
298000
3000
การทดลองหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ถูกทดสอบกับกลุ่มเด็กๆ
05:16
How do you make childrenเด็ก ๆ
125
301000
2000
เราจะทำยังไงให้เด็กๆ
05:18
not just be more likelyน่าจะ to eatกิน carrotsแครอท and drinkดื่ม milkนม,
126
303000
3000
ไม่ใช่แค่รู้สึกอยากกินแครอทและดื่มนมมากขึ้น
05:21
but to get more pleasureความสุข from eatingการรับประทานอาหาร carrotsแครอท and drinkingการดื่ม milkนม --
127
306000
3000
แต่ทำให้พวกเขารู้สึกพอใจ มีความสุขกับการกินแครอทและดื่มนม
05:24
to think they tasteลิ้มรส better?
128
309000
2000
ทำให้พวกเขาคิดว่ามันรสชาติดี?
05:26
It's simpleง่าย, you tell them they're from McDonald'sโดนัลด์.
129
311000
3000
มันง่ายมากครับ คุณแค่บอกพวกเด็กๆว่าของพวกนี้มาจากแมคโดนัล
05:29
They believe McDonald'sโดนัลด์ foodอาหาร is tastierรสชาติ,
130
314000
2000
พวกเด็กๆเชื่อว่าอาหารที่มาจากแมคโดนัลนั้นอร่อยกว่า
05:31
and it leadsโอกาสในการขาย them to experienceประสบการณ์ it as tastierรสชาติ.
131
316000
3000
และจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าของที่กินรสชาติดีไปด้วย
05:34
How do you get adultsผู้ใหญ่ to really enjoyสนุก wineไวน์?
132
319000
2000
คุณจะทำยังไงให้ผู้ใหญ่รู้สึกเพลินกับการจิบไวน์?
05:36
It's very simpleง่าย:
133
321000
2000
ง่ายมากครับ
05:38
pourเท it from an expensiveแพง bottleขวด.
134
323000
2000
เทออกจากขวดที่แพงๆไงครับ
05:40
There are now dozensหลายสิบ, perhapsบางที hundredsหลายร้อย of studiesการศึกษา showingการแสดง
135
325000
3000
มีการวิจัยออกมาเป็นสิบเป็นร้อยที่บอกว่า
05:43
that if you believe you're drinkingการดื่ม the expensiveแพง stuffสิ่ง,
136
328000
2000
ถ้าคุณเชื่อว่าคุณดื่มของแพง
05:45
it tastesรสนิยม better to you.
137
330000
2000
คุณจะรู้สึกว่ามันรสชาติดี
05:47
This was recentlyเมื่อเร็ว ๆ นี้ doneเสร็จแล้ว with a neuroscientificneuroscientific twistบิด.
138
332000
3000
การทดลองนี้ใช้การวิเคราะห์ทางสมอง
05:50
They get people into a fMRIfMRI scannerสแกนเนอร์,
139
335000
2000
พวกเขาให้คนนอนในเครื่องสแกน dMRI
05:52
and while they're lyingโกหก there, throughตลอด a tubeหลอด,
140
337000
2000
และในคณะที่พวกเขานอนอยู่ในอุโมงค์นั้น
05:54
they get to sipจิบ wineไวน์.
141
339000
2000
พวกเขาก็จิบไวน์ไปด้วย
05:56
In frontด้านหน้า of them on a screenจอภาพ is informationข้อมูล about the wineไวน์.
142
341000
3000
และที่หน้าจอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับไวน์ที่พวกเขาดื่ม
05:59
Everybodyทุกคน, of courseหลักสูตร,
143
344000
2000
แน่นอนว่า ทุกคน
06:01
drinksเครื่องดื่ม exactlyอย่างแน่นอน the sameเหมือนกัน wineไวน์.
144
346000
2000
ดื่มไวน์แบบเดียวกันหมด
06:03
But if you believe you're drinkingการดื่ม expensiveแพง stuffสิ่ง,
145
348000
3000
แต่ถ้าคุณเชื่อว่าคุณดื่มไวน์แพง
06:06
partsชิ้นส่วน of the brainสมอง associatedที่เกี่ยวข้อง with pleasureความสุข and rewardรางวัล
146
351000
3000
ส่วนหนึ่งของสมองจะทำงานร่วมกับความรู้สึกเกิดความพอใจ
06:09
lightเบา up like a Christmasคริสต์มาส treeต้นไม้.
147
354000
2000
เหมือนกับต้นคริสมาสเปิดไฟเลยแหละ
06:11
It's not just that you say it's more pleasurableน่าพอใจ, you say you like it more,
148
356000
3000
คุณไม่บอกแค่ว่าพอใจกับไวน์ตัวนั้นมากกว่า แต่คุณจะบอกว่าคุณชอบมากกว่า
06:14
you really experienceประสบการณ์ it in a differentต่าง way.
149
359000
3000
คุณรู้สึกว่ามันไม่เหมือนกันจริงๆ
06:17
Or take sexเพศ.
150
362000
3000
หรือการมีเซ็กส์
06:20
These are stimuliสิ่งเร้า I've used in some of my studiesการศึกษา.
151
365000
3000
นี่เป็นสิ่งเร้าที่ผมใช้ในการทดลองของผม
06:23
And if you simplyง่ายดาย showแสดง people these picturesภาพ,
152
368000
3000
ถ้าคุณโชว์รูปภาพให้คนดู
06:26
they'llพวกเขาจะ say these are fairlyอย่างเป็นธรรม attractiveมีเสน่ห์ people.
153
371000
2000
พวกเขาจะพูดว่า คนในรูปพวกนี้หน้าตาดีใช้ได้เลย
06:28
But how attractiveมีเสน่ห์ you find them,
154
373000
3000
แต่หน้าตาดีแค่ไหน
06:31
how sexuallyทางเพศสัมพันธ์ or romanticallyโรแมนติก movedย้าย you are by them,
155
376000
3000
เร้าอารมณ์หรือโรแมนติกแค่ไหนสำหรับพวกเขานั้น
06:34
restsวางอยู่ criticallyฉกรรจ์ on who you think you're looking at.
156
379000
3000
ขึ้นอยู่กับว่าคุณคิดว่าคนในรูปคือใคร
06:37
You probablyอาจ think the pictureภาพ on the left is maleชาย,
157
382000
3000
คุณอาจจะคิดว่าคนทางซ้ายคือผู้ชาย
06:40
the one on the right is femaleหญิง.
158
385000
2000
แล้วคนที่อยู่ทางขวาคือผู้หญิง
06:42
If that beliefความเชื่อ turnsผลัดกัน out to be mistakenผิดพลาด, it will make a differenceข้อแตกต่าง.
159
387000
3000
แต่ถ้าสิ่งที่เชื่อกลายเป็นเรื่องผิด มันจะให้ผลที่ต่างกัน
06:45
(Laughterเสียงหัวเราะ)
160
390000
2000
(เสียงหัวเราะ)
06:47
It will make a differenceข้อแตกต่าง if they turnกลับ out to be
161
392000
2000
มันจะให้ผลที่ต่างกันถ้าในความจริงพวกเขา
06:49
much youngerที่อายุน้อยกว่า or much olderเก่ากว่า than you think they are.
162
394000
3000
เด็กกว่าหรือแก่กว่าที่คุณคิดว่าพวกเขาเป็น
06:52
It will make a differenceข้อแตกต่าง if you were to discoverค้นพบ
163
397000
2000
จะรู้สึกต่างไปถ้าคุณค้นพบว่า
06:54
that the personคน you're looking at with lustความต้องการทางเพศ
164
399000
2000
คนที่คุณมองด้วยความหลงไหล
06:56
is actuallyแท้จริง a disguisedซึ่งปลอมตัว versionรุ่น of your sonบุตรชาย or daughterลูกสาว,
165
401000
2000
จริงๆแล้วคือลูกชาย หรือลูกสาว หรือแม่ หรือพ่อ
06:58
your motherแม่ or fatherพ่อ.
166
403000
2000
ที่ปลอมตัวมาหลอกคุณ
07:00
Knowingรู้ดี somebody'sใครสักคนที่เป็น your kinญาติ typicallyเป็นปกติ killsฆ่า the libidoความใคร่.
167
405000
3000
การรู้ว่าคนๆนั้นเป็นญาติคุณทำให้ตัณหาหายไป
07:03
Maybe one of the mostมากที่สุด hearteningที่ให้กำลังใจ findingsผลการวิจัย
168
408000
2000
บางทีการเจอที่มีชีวิตชีวาที่สุด
07:05
from the psychologyจิตวิทยา of pleasureความสุข
169
410000
2000
จากจิตวิทยาของการพอใจคือ
07:07
is there's more to looking good than your physicalกายภาพ appearanceการปรากฏ.
170
412000
3000
สิ่งเหล่านี้ดูดีกว่ารูปร่างของคุณ
07:10
If you like somebodyบางคน, they look better to you.
171
415000
3000
หากคุณชอบใครบาคน พวกเขาจะดูดีสำหรับคุณ
07:13
This is why spousesผัวเมีย in happyมีความสุข marriagesการแต่งงาน
172
418000
3000
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คู่สมรสที่หวานชื่น
07:16
tendมีแนวโน้ม to think that theirของพวกเขา husbandสามี or wifeภรรยา
173
421000
2000
คิดว่าสามีหรือภรรยาของตัวเองนั้น
07:18
looksรูปลักษณ์ much better than anyoneใคร ๆ elseอื่น thinksคิดว่า that they do.
174
423000
3000
ดูดีกว่าคนอื่น ยิ่งกว่าที่คนอื่นคิดว่าพวกเขาดูดีเสียอีก
07:21
(Laughterเสียงหัวเราะ)
175
426000
2000
(เสียงหัวเราะ)
07:23
A particularlyโดยเฉพาะ dramaticน่าทึ่ง exampleตัวอย่าง of this
176
428000
3000
ตัวอย่างที่น่าทึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
07:26
comesมา from a neurologicalเกี่ยวกับประสาทวิทยา disorderความไม่เป็นระเบียบ knownที่รู้จักกัน as CapgrasCapgras syndromeซินโดรม.
177
431000
3000
มาจากโรคความผิดปกติทางประสาท ที่เรียกว่า อาการแคปกราส์ (Capgras)
07:29
So CapgrasCapgras syndromeซินโดรม is a disorderความไม่เป็นระเบียบ
178
434000
3000
ดังนั้นอาการแคปกราส์ (Capgras) คือความผิดปกติ
07:32
where you get a specificโดยเฉพาะ delusionความเข้าใจผิด.
179
437000
2000
ที่ทำให้คุณเห็นภาพหลอน
07:34
Sufferersผู้ประสบภัย of CapgrasCapgras syndromeซินโดรม
180
439000
2000
ผู้ที่มีอาการแคปกราส์นี้
07:36
believe that the people they love mostมากที่สุด in the worldโลก
181
441000
2000
เชื่อว่าคนที่เขารักมากที่สุดในโลก
07:38
have been replacedแทนที่ by perfectสมบูรณ์ duplicatesที่ซ้ำกัน.
182
443000
2000
ถูกแทนที่ด้วยอีกคนที่มีความสมบูรณ์แบบเท่าๆกัน
07:40
Now oftenบ่อยครั้ง, a resultผล of CapgrasCapgras syndromeซินโดรม is tragicอนาถ.
183
445000
3000
ในหลายๆครั้ง ผลของอาการแคปกราส์เป็นเรื่องน่าเศร้า
07:43
People have murderedฆ่า those that they lovedรัก,
184
448000
2000
คนเหล่านี้ฆ่าคนที่พวกเขารัก
07:45
believingเชื่อว่า that they were murderingสังหาร an imposterแอบอ้าง.
185
450000
3000
เพราะคิดว่าพวกเขาคือตัวปลอม
07:48
But there's at leastน้อยที่สุด one caseกรณี
186
453000
2000
แต่อย่างน้อยก็มีหนึ่งตัวอย่าง
07:50
where CapgrasCapgras syndromeซินโดรม had a happyมีความสุข endingสิ้นสุด.
187
455000
2000
ที่อาการแคปกราส์จบอย่างมีความสุข
07:52
This was recordedบันทึก in 1931.
188
457000
2000
นั่นคือบันทึกเมื่อปี 1931
07:54
"Researchการวิจัย describedอธิบาย a womanหญิง with CapgrasCapgras syndromeซินโดรม
189
459000
3000
"รายงานกล่าวว่าผู้หญิงคนนึงที่มีอาการแคปกราส์
07:57
who complainedบ่น about her poorlyไม่สบาย endowedกอปร and sexuallyทางเพศสัมพันธ์ inadequateไม่เพียงพอ loverคนรัก."
190
462000
3000
ที่คิดว่าคู่รักของเขาไม่มีความรักให้แก่กันมากพอ
08:00
But that was before she got CapgrasCapgras syndromeซินโดรม.
191
465000
3000
แต่นั่นเป็นอาการก่อนที่เธอจะมีอาการแคปกราส์
08:03
After she got it, "She was happyมีความสุข to reportรายงาน
192
468000
2000
หลังจากมีอาการนั้นแล้ว "เธอเล่าอย่างมีความสุขว่า
08:05
that she has discoveredค้นพบ that he possessedผีสิง a doubleสอง
193
470000
3000
เธอพบคู่ครองตัวปลอม
08:08
who was richรวย, virileมีกำลังวังชา, handsomeหล่อ and aristocraticชนชั้นสูง."
194
473000
2000
ที่ทั้งรวย หล่อ ร่างกำยำและมีฐานะ"
08:10
Of courseหลักสูตร, it was the sameเหมือนกัน man,
195
475000
2000
แน่นอนว่านั่นเป็นคนๆเดียวกัน
08:12
but she was seeingเห็น him in differentต่าง waysวิธี.
196
477000
2000
แต่เธอเห็นเขาต่างออกไป
08:14
As a thirdที่สาม exampleตัวอย่าง,
197
479000
2000
ตัวอย่างที่สาม
08:16
considerพิจารณา consumerผู้บริโภค productsผลิตภัณฑ์.
198
481000
2000
ในกรณีของผู้บริโภค
08:18
So one reasonเหตุผล why you mightอาจ like something is its utilityประโยชน์.
199
483000
3000
เหตุผลหนึ่งที่คุณจะชอบบางอย่างนั้นคือด้วยประโยชน์ของมัน
08:21
You can put shoesรองเท้า on your feetฟุต; you can playเล่น golfกอล์ฟ with golfกอล์ฟ clubsสโมสร;
200
486000
3000
คุณสามารถสวมรองเท้า คุณสามารถเล่นกอล์ฟในสโมสร
08:24
and chewedเคี้ยว up bubbleฟอง gumเหงือก doesn't do anything at all for you.
201
489000
3000
และเคี้ยวหมากฝรั่งก็ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับคุณสักนิด
08:27
But eachแต่ละ of these threeสาม objectsวัตถุ has valueความคุ้มค่า
202
492000
2000
แต่สิ่งเหล่านี้ต่างมีคุณค่า
08:29
aboveข้างบน and beyondเกิน what it can do for you
203
494000
2000
สำหรับคุณเหนือสิ่งอื่นใด
08:31
basedซึ่งเป็นรากฐาน on its historyประวัติศาสตร์.
204
496000
2000
ขึ้นอยู่กับประวัติของมัน
08:33
The golfกอล์ฟ clubsสโมสร were ownedเป็นเจ้าของ by Johnจอห์น F. Kennedyเคนเนดี้
205
498000
3000
สโมสรกอล์ฟที่มี จอห์น เอฟ เคนเนดี เป็นเจ้าของ
08:36
and soldขาย for three-quartersสามส่วน of a millionล้าน dollarsดอลลาร์ at auctionประมูล.
206
501000
3000
ถูกประมูลขายในราคาเกือบหนึ่งล้านดอลล่าร์
08:39
The bubbleฟอง gumเหงือก was chewedเคี้ยว up by popป๊อป starดาว Britneyบริทนี Spearsสเปียร์ส
207
504000
3000
หมายฝรั่งอันนี้เคี้ยวโดยดาราเพลงป๊อป บริทนีย์ สเปียร์
08:42
and soldขาย for severalหลาย hundredsหลายร้อย of dollarsดอลลาร์.
208
507000
2000
ถูกขายในราคาหลายร้อยดอลล่าร์
08:44
And in factความจริง, there's a thrivingการเจริญรุ่งเรือง marketตลาด
209
509000
2000
ในความเป็นจริงแล้ว มีหลายคนที่พร้อมซื้อ
08:46
in the partiallyเพียงบางส่วน eatenกิน foodอาหาร of belovedที่รัก people.
210
511000
3000
อาหารเหลือจากคนที่เขาชื่นชอบ
08:49
(Laughterเสียงหัวเราะ)
211
514000
2000
(เสียงหัวเราะ)
08:51
The shoesรองเท้า are perhapsบางที the mostมากที่สุด valuableมีคุณค่า of all.
212
516000
3000
รองเท้าคู่นี้อาจจะมีค่ามากที่สุดเท่าที่ผมพูดมา
08:54
Accordingตาม to an unconfirmedไม่มีการยืนยัน reportรายงาน,
213
519000
2000
จากการรายงาน
08:56
a Saudiซาอุดีอาระเบีย millionaireเศรษฐี offeredที่นำเสนอ 10 millionล้าน dollarsดอลลาร์
214
521000
2000
เศรษฐีชาวซาอุดิยอมจ่ายกว่า สิบล้านดอลลาร์
08:58
for this pairคู่ of shoesรองเท้า.
215
523000
2000
เพื่อรองเท้าคู่นี้
09:00
They were the onesคน thrownโยน at Georgeจอร์จ Bushพุ่มไม้
216
525000
3000
เพราะมันเป็นคู่ที่ถูกโยนใส่หน้าจอร์จ บุช
09:03
at an Iraqiเกี่ยวกับอิรัก pressกด conferenceการประชุม severalหลาย yearsปี agoมาแล้ว.
217
528000
2000
ที่งานแถลงข่าวที่อิรัก ประมาณสองสามปีที่แล้ว
09:05
(Applauseการปรบมือ)
218
530000
2000
(เสียงปรบมือ)
09:07
Now this attractionเสน่ห์ to objectsวัตถุ
219
532000
2000
สิ่งของที่ดึงดูดใจเหล่านี้
09:09
doesn't just work for celebrityชื่อเสียง objectsวัตถุ.
220
534000
2000
ไม่ได้มาจากคนดังๆเท่านั้น
09:11
Eachแต่ละ one of us, mostมากที่สุด people,
221
536000
2000
พวกเราเกือบทุกคน
09:13
have something in our life that's literallyอย่างแท้จริง irreplaceableไม่สามารถถูกแทนที่,
222
538000
3000
มีบางสิ่งบางอย่างในชีวิตเราที่ไม่มีอะไรแทนที่ได้
09:16
in that it has valueความคุ้มค่า because of its historyประวัติศาสตร์ --
223
541000
3000
และนั่นทำให้สิ่งนั้นมีค่าเพราะประวัติของมัน
09:19
maybe your weddingงานแต่งงาน ringแหวน, maybe your child'sของเด็ก babyทารก shoesรองเท้า --
224
544000
3000
อาจจะเป็นแหวนแต่งงาน อาจจะเป็นรองเท้าของลูกตอนเด็กๆ
09:22
so that if it was lostสูญหาย, you couldn'tไม่สามารถ get it back.
225
547000
3000
สิ่งที่เมื่อมันหายไป คุณไม่สามารถเอามันกลับคืนได้
09:25
You could get something that lookedมอง like it or feltรู้สึกว่า like it,
226
550000
2000
คุณสามารถหาของที่หน้าตาเหมือนกันได้
09:27
but you couldn'tไม่สามารถ get the sameเหมือนกัน objectวัตถุ back.
227
552000
3000
แต่คุณไม่สามารถเอาของชิ้นเดิมกลับมาได้
09:30
With my colleaguesเพื่อนร่วมงาน Georgeจอร์จ Newmanผู้ชายคนใหม่ and Gilกิล DiesendruckDiesendruck,
228
555000
3000
เพื่อนร่วมงานของผม จอร์จ นิวแมน และ กิล ดีเซนดรุค
09:33
we'veเราได้ lookedมอง to see what sortประเภท of factorsปัจจัย, what sortประเภท of historyประวัติศาสตร์, mattersเรื่อง
229
558000
3000
พวกเราชอบสังเกตดูว่าอะไรเป็นปัจจัย หรือต้นตอ ที่สำคัญ
09:36
for the objectsวัตถุ that people like.
230
561000
2000
ในการเป็นสิ่งของที่คนเราชอบ
09:38
So in one of our experimentsการทดลอง,
231
563000
2000
หนึ่งในการทดลองของเรา
09:40
we askedถาม people to nameชื่อ a famousมีชื่อเสียง personคน who they adoredเธซเน,
232
565000
3000
เราให้คนบอกชื่อคนดังที่เขาชื่นชอบ
09:43
a livingการดำรงชีวิต personคน they adoredเธซเน.
233
568000
2000
คนที่เขาชื่นชอบและยังมีชีวิตอยู่
09:45
So one answerตอบ was Georgeจอร์จ Clooneyคลูนีย์.
234
570000
2000
หนึ่งในคำตอบคือ จอร์จ คลูนีย์
09:47
Then we askedถาม them,
235
572000
2000
แล้วเราก็ถามเขา
09:49
"How much would you payจ่ายเงิน for Georgeจอร์จ Clooney'sคลูนีย์ sweaterเสื้อกันหนาว?"
236
574000
2000
"คุณยอมจ่ายเสื้อสเว็ตเตอร์ของจอร์จ คลูนีย์ในราคาเท่าไหร่"
09:51
And the answerตอบ is a fairธรรม amountจำนวน --
237
576000
2000
คำตอบก็ค่อนข้างหลายตังค์
09:53
more than you would payจ่ายเงิน for a brandยี่ห้อ newใหม่ sweaterเสื้อกันหนาว
238
578000
3000
มากกว่าราคาที่คุณซื้อเสื้อสเว็ตเตอร์ตัวใหม่
09:56
or a sweaterเสื้อกันหนาว ownedเป็นเจ้าของ by somebodyบางคน who you didn't adoreรัก.
239
581000
3000
หรือสเว็ตเตอร์ที่เจ้าของไม่ใช่คนที่คุณชื่นชอบเสียอีก
09:59
Then we askedถาม other groupsกลุ่ม of subjectsอาสาสมัคร --
240
584000
2000
จากนั้นเราก็ถามอีกคน กับสิ่งของอีกอย่างหนึ่ง
10:01
we gaveให้ them differentต่าง restrictionsข้อ จำกัด
241
586000
2000
เราให้ข้อกำหนดที่ต่างกัน
10:03
and differentต่าง conditionsเงื่อนไข.
242
588000
2000
และสภาพต่างกัน
10:05
So for instanceตัวอย่าง, we told some people,
243
590000
2000
เช่น เราบอกคนกลุ่มนี้ว่า
10:07
"Look, you can buyซื้อ the sweaterเสื้อกันหนาว,
244
592000
2000
"นี่ คุณสามารถซื้อเสื้อสเว็ตเตอร์
10:09
but you can't tell anybodyใคร ๆ you ownด้วยตัวเอง it,
245
594000
2000
แต่คุณไม่สามารถบอกใครได้ว่าคุณเป็นเจ้าของมัน
10:11
and you can't resellขายต่อ it."
246
596000
2000
และห้ามขายต่อด้วย"
10:13
That dropsยาหยอด the valueความคุ้มค่า of it,
247
598000
2000
นั่นทำให้มูลค่าของตกลง
10:15
suggestingบอกเป็นนัย ๆ that that's one reasonเหตุผล why we like it.
248
600000
3000
เป็นข้อสังเกตอีกอย่าง ว่าทำไมเราชอบของสิ่งนั้น
10:18
But what really causesสาเหตุ an effectผล
249
603000
2000
แต่สิ่งที่มีผลกระทบมากจริงๆ
10:20
is you tell people, "Look, you could resellขายต่อ it, you could boastโม้ about it,
250
605000
3000
คือคุณบอกคนพวกนี้ว่า "นี่ คุณขายต่อได้ แล้วโม้เกี่ยวกับมันได้
10:23
but before it getsได้รับ to you,
251
608000
2000
แต่ก่อนที่คุณจะได้มันไป
10:25
it's thoroughlyอย่างถี่ถ้วน washedล้าง."
252
610000
2000
เราซักมาให้อย่างดี"
10:27
That causesสาเหตุ a hugeใหญ่ dropหล่น in the valueความคุ้มค่า.
253
612000
3000
นั่นทำให้ราคาตกลงอย่างมาก
10:30
As my wifeภรรยา put it, "You've washedล้าง away the Clooneyคลูนีย์ cootiescooties."
254
615000
3000
อย่างที่ภรรยาผมบอก "คุณล้างความเป็นคลูนีย์ไปแล้วหนิ"
10:33
(Laughterเสียงหัวเราะ)
255
618000
2000
(เสียงหัวเราะ)
10:35
So let's go back to artศิลปะ.
256
620000
2000
โอเค กลับมาเรื่องศิลปะกัน
10:37
I would love a ChagallChagall. I love the work of ChagallChagall.
257
622000
2000
ผมอยากได้งานของชาร์เกาล์ ผมชอบผลงานเขา
10:39
If people want to get me something at the endปลาย of the conferenceการประชุม,
258
624000
2000
ถ้าคุณอยากให้อะไรผมหลังงานสัมมนา
10:41
you could buyซื้อ me a ChagallChagall.
259
626000
2000
คุณควรซื้อผลงานชาร์กาลล์ให้ผม
10:43
But I don't want a duplicateซ้ำ,
260
628000
2000
แต่ผมไม่อยากได้ของก๊อปปี้
10:45
even if I can't tell the differenceข้อแตกต่าง.
261
630000
2000
ถึงแม้ว่าผมจะแยกไม่ออกก็ตาม
10:47
That's not because, or it's not simplyง่ายดาย because,
262
632000
2000
นั่นไม่ใช่เพราะว่า
10:49
I'm a snobคนเสแสร้ง and want to boastโม้ about havingมี an originalเป็นต้นฉบับ.
263
634000
3000
ผมเสแสร้งและอยากโม้ว่าได้ของแท้มา
10:52
Ratherค่อนข้าง, it's because I want something that has a specificโดยเฉพาะ historyประวัติศาสตร์.
264
637000
3000
แต่เป็นเพราะผมอยากได้บางสิ่งที่มีประวัติในตัวมันนั่นเอง
10:55
In the caseกรณี of artworkงานศิลปะ,
265
640000
2000
ในกรณีผลงานศิลปะ
10:57
the historyประวัติศาสตร์ is specialพิเศษ indeedจริง.
266
642000
2000
ประวัติของตัวผลงานสำคัญมาก
10:59
The philosopherนักปรัชญา Denisเดนิส Duttonดัตตัน
267
644000
2000
นักปรัชญา เดนิซ ดูตอง
11:01
in his wonderfulยอดเยี่ยม bookหนังสือ "The Artศิลปะ Instinctสัญชาตญาณ"
268
646000
2000
กล่าวในหนังสือ "สัญชาตญาณศิลป์" ไว้ว่า
11:03
makesยี่ห้อ the caseกรณี that, "The valueความคุ้มค่า of an artworkงานศิลปะ
269
648000
2000
"คุณค่าของงานศิลป์
11:05
is rootedซึ่งได้หยั่งราก in assumptionsสมมติฐาน about the humanเป็นมนุษย์ performanceประสิทธิภาพ underlyingพื้นฐาน its creationการสร้าง."
270
650000
3000
ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรารู้ ว่ามันยากลำบากแค่ไหนที่จะสร้างชิ้นงานขึ้นมา"
11:08
And that could explainอธิบาย the differenceข้อแตกต่าง
271
653000
2000
และนั่นเป็นตัวอธิบายความแตกต่าง
11:10
betweenระหว่าง an originalเป็นต้นฉบับ and a forgeryการปลอม.
272
655000
2000
ระหว่างของแท้กับของเก๊
11:12
They mayอาจ look alikeเหมือนกัน, but they have a differentต่าง historyประวัติศาสตร์.
273
657000
2000
ทั้งสองอาจดูเหมือนกัน แต่มันมีต้นกำเนิดไม่เหมือนกัน
11:14
The originalเป็นต้นฉบับ is typicallyเป็นปกติ the productสินค้า of a creativeความคิดสร้างสรรค์ actการกระทำ,
274
659000
3000
ของแท้นั้นคือผลงานจากการสร้างสรรค์
11:17
the forgeryการปลอม isn't.
275
662000
2000
แต่ของเก๊ไม่ใช่
11:19
I think this approachเข้าใกล้ can explainอธิบาย differencesความแตกต่าง
276
664000
3000
ผมว่าเรื่องนี้จะอธิบายความแตกต่างในเรื่อง
11:22
in people'sของผู้คน tasteลิ้มรส in artศิลปะ.
277
667000
2000
รสนิยมงานศิลป์ของคนเราได้
11:24
This is a work by Jacksonแจ็คสัน PollockPollock.
278
669000
2000
นี่คือผลงานของ แจ๊คสัน โพลลอค
11:26
Who here likesชอบ the work of Jacksonแจ็คสัน PollockPollock?
279
671000
3000
มีใครในที่นี้ชอบงานของแจ๊คสัน โพลลอคบ้างครับ
11:30
Okay. Who here, it does nothing for them?
280
675000
2000
โอเค แล้วใครบ้างที่รู้สึกเฉยๆ
11:32
They just don't like it.
281
677000
3000
แค่ไม่ชอบมันนะครับ
11:35
I'm not going to make a claimข้อเรียกร้อง about who'sใคร right,
282
680000
2000
ผมจะไม่มาเถียงว่าใครถูกใครผิด
11:37
but I will make an empiricalเชิงประจักษ์ claimข้อเรียกร้อง
283
682000
2000
แต่ผมอยากทำให้เห็นประจักษ์
11:39
about people'sของผู้คน intuitionsสัญชาติญาณ,
284
684000
2000
เกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิดของคนเรา
11:41
whichที่ is that, if you like the work of Jacksonแจ็คสัน PollockPollock,
285
686000
2000
ที่ว่า เมื่อเราชอบงานของแจ๊คสัน โพลลอคแล้ว
11:43
you'llคุณจะ tendมีแนวโน้ม more so than the people who don't like it
286
688000
3000
คุณจะคิดว่าผลงานเหล่านี้ เป็นผลงานที่ทำได้ยาก
11:46
to believe that these worksโรงงาน are difficultยาก to createสร้าง,
287
691000
3000
มากกว่าคนที่ไม่ชอบมัน
11:49
that they requireจำเป็นต้อง a lot of time and energyพลังงาน
288
694000
2000
ผลงานเหล่านี้ใช้เวลา ใช้กำลัง
11:51
and creativeความคิดสร้างสรรค์ energyพลังงาน.
289
696000
2000
และแรงสร้างสรรค์มาก
11:53
I use Jacksonแจ็คสัน PollockPollock on purposeวัตถุประสงค์ as an exampleตัวอย่าง
290
698000
3000
ผมใช้งานของแจ๊คสัน โพลลอค เป็นตัวอย่าง
11:56
because there's a youngหนุ่มสาว Americanอเมริกัน artistศิลปิน
291
701000
2000
เพราะว่ามีศิลปินตัวน้อยชาวอเมริกัน
11:58
who paintsสี very much in the styleสไตล์ of Jacksonแจ็คสัน PollockPollock,
292
703000
2000
ที่วาดภาพสไตล์คล้ายกับแจ๊คสัน โพลลอคมาก
12:00
and her work was worthคุ้มค่า
293
705000
2000
และงานของเธอกลายเป็นมีค่า
12:02
manyจำนวนมาก tensนับ of thousandsพัน of dollarsดอลลาร์ --
294
707000
2000
หลายสิบ หลายพัน ดอลลาร์
12:04
in largeใหญ่ partส่วนหนึ่ง because she's a very youngหนุ่มสาว artistศิลปิน.
295
709000
2000
ส่วนใหญ่เพราะเธอเป็นศิลปินที่อายุน้อยมาก
12:06
This is Marlaมาร์ลา OlmsteadOlmstead
296
711000
2000
นี่คือ มาร์ล่า โอม์สเตด
12:08
who did mostมากที่สุด of her work when she was threeสาม yearsปี oldเก่า.
297
713000
2000
ที่ผลงานส่วนใหญ่ของเธอทำตอนเธออายุได้สามขวบ
12:10
The interestingน่าสนใจ thing about Marlaมาร์ลา OlmsteadOlmstead
298
715000
2000
สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ มาร์ล่า โอม์สเตด
12:12
is her familyครอบครัว madeทำ the mistakeผิดพลาด
299
717000
2000
คือครอบครัวของเธอทำพลาด
12:14
of invitingดึงดูดใจ the televisionโทรทัศน์ programโครงการ 60 Minutesรายงานการประชุม IIครั้งที่สอง into theirของพวกเขา houseบ้าน
300
719000
4000
โดยการเชิญรายการทีวี 60 วินาที ภาคสอง (60 Minutes II) มาที่บ้าน
12:18
to filmฟิล์ม her paintingจิตรกรรม.
301
723000
2000
เพื่อถ่ายทำเด็กน้อยชณะวาดภาพ
12:20
And they then reportedรายงาน that her fatherพ่อ was coachingการฝึก her.
302
725000
3000
และพวกนักข่าวก็รายงานว่าพ่อของเธอเป็นโค้ชให้เธอ
12:23
When this cameมา out on televisionโทรทัศน์,
303
728000
2000
เมื่อรายการนี้ออกอากาศ
12:25
the valueความคุ้มค่า of her artศิลปะ droppedปรับตัวลดลง to nothing.
304
730000
3000
มูลค่าผลงานของเธอตกถึงขั้นไม่มีค่า
12:28
It was the sameเหมือนกัน artศิลปะ, physicallyทางร่างกาย,
305
733000
2000
มันคือผลงานชิ้นเดียวกันเลย
12:30
but the historyประวัติศาสตร์ had changedการเปลี่ยนแปลง.
306
735000
3000
แ่ต่ประวัติได้ถูกเปลี่ยนไป
12:33
I've been focusingสำรวม now on the visualภาพ artsศิลปะ,
307
738000
2000
ผมเน้นเรื่องงานศิลป์ที่จับต้องได้
12:35
but I want to give two examplesตัวอย่าง from musicเพลง.
308
740000
2000
แต่ผมอยากยกตัวอย่างสองตัวอย่างจากดนตรี
12:37
This is Joshuaโจชัว Bellกระดิ่ง, a very famousมีชื่อเสียง violinistนักเล่นเครื่องไวโอลิน.
309
742000
2000
นี่คือ โจชัว เบลล์ นักไวโอลินชื่อดัง
12:39
And the Washingtonวอชิงตัน Postเสา reporterผู้สื่อข่าว Geneยีน WeingartenWeingarten
310
744000
3000
และนักข่าววอชิงตันโพสต์ ชื่อ จีน ไวน์การ์เทน
12:42
decidedตัดสินใจ to enlistเกณฑ์ him for an audaciousหาญ experimentการทดลอง.
311
747000
3000
ผู้ซึ่งตัดสินใจจะทำงานทดลองที่บ้าบิ่นชิ้นหนึ่ง
12:45
The questionคำถาม is: How much would people like Joshuaโจชัว Bellกระดิ่ง,
312
750000
2000
โดยตั้งคำถามว่า มีคนชอบโจชัว เบลล์มากน้อยแค่ไหน
12:47
the musicเพลง of Joshuaโจชัว Bellกระดิ่ง,
313
752000
2000
ชอบเสียงดนตรีของเขามากแค่ไหน
12:49
if they didn't know they were listeningการฟัง to Joshuaโจชัว Bellกระดิ่ง?
314
754000
3000
ถ้าพวกเขาไม่รู้ตัวว่าเขาฟังโจชัว เบลล์เล่นอยู่
12:53
So he got Joshuaโจชัว Bellกระดิ่ง to take his millionล้าน dollarดอลลาร์ violinไวโอลิน
315
758000
3000
เขาจึงพาโจชัว เบลล์กับไวโอลินราคาหลักล้านของเขา
12:56
down to a Washingtonวอชิงตัน D.C. subwayรถไฟใต้ดิน stationสถานี
316
761000
3000
ไปที่สถานีรถไฟใต้ดินวอร์ชิงตัน ดีซี
12:59
and standยืน in the cornerมุม and see how much moneyเงิน he would make.
317
764000
3000
ลองให้เขายืนเล่นอยู่ที่มุมหนึ่ง ดูว่าเขาจะได้เงินมากแค่ไหน
13:02
And here'sนี่คือ a briefสั้น clipคลิป of this.
318
767000
2000
และนี่เป็นคลิปสั้นๆ
13:04
(Violinไวโอลิน musicเพลง)
319
769000
7000
(เสียงไวโอลิน)
13:11
After beingกำลัง there for three-quartersสามส่วน of an hourชั่วโมง,
320
776000
2000
หลังจากยืนอยู่ตรงนั้นได้ราวสี่สิบห้านาที
13:13
he madeทำ 32 dollarsดอลลาร์.
321
778000
3000
เขาทำเงินได้ 32 ดอลล่าร์
13:16
Not badไม่ดี. It's alsoด้วย not good.
322
781000
2000
ก็ไม่เลว แต่ก็ไม่ได้ดีเ่ท่าไหร่
13:18
Apparentlyเด่นชัด to really enjoyสนุก the musicเพลง of Joshuaโจชัว Bellกระดิ่ง,
323
783000
3000
เห็นได้ชัดว่า การที่จะเพลินไปกับดนตรีของโจชัว เบลล์
13:21
you have to know you're listeningการฟัง to Joshuaโจชัว Bellกระดิ่ง.
324
786000
3000
นั้นคุณจะต้องรู้ว่าคุณฟังโจชัวร์ เบลล์เล่นอยู่
13:24
He actuallyแท้จริง madeทำ 20 dollarsดอลลาร์ more than that,
325
789000
2000
จริงๆเขาทำเงินได้มากกว่านั้น 20 ดอลล่าร์
13:26
but he didn't countนับ it.
326
791000
2000
แต่เขาไม่ได้นับ
13:28
Because this womanหญิง comesมา up --
327
793000
2000
เพราะผู้หญิงคนที่เดินมาหาเขา
13:30
you see at the endปลาย of the videoวีดีโอ -- she comesมา up.
328
795000
2000
ตรงมุมวิดีโอนั่น เธอเดินเข้ามา
13:32
She had heardได้ยิน him at the Libraryห้องสมุด of Congressคองเกรส a fewน้อย weeksสัปดาห์ที่ผ่านมา before
329
797000
2000
เธอฟังเขาเล่นดนตรีที่ห้องสมุดรัฐสภาเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
13:34
at this extravagantฟุ่มเฟือย black-tieเน็คไทสีดำ affairเรื่อง.
330
799000
3000
ในชุดมาดเท่ ผูกไทสีดำ
13:37
So she's stunnedตะลึง that he's standingจุดยืน in a subwayรถไฟใต้ดิน stationสถานี.
331
802000
3000
เธอจึงแปลกใจมากที่เห็นเขาเล่นอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน
13:40
So she's struckหลง with pityสงสาร.
332
805000
2000
เธอรู้สึกสงสารเขา
13:42
She reachesต้นน้ำ into her purseเงิน and handsมือ him a 20.
333
807000
2000
เลยยื่นเงินจากกระเป๋าตังค์ให้เขาไป 20 เหรียญ
13:44
(Laughterเสียงหัวเราะ)
334
809000
2000
(เสียงหัวเราะ)
13:46
(Applauseการปรบมือ)
335
811000
2000
(เสียงปรบมือ)
13:48
The secondที่สอง exampleตัวอย่าง from musicเพลง
336
813000
2000
ตัวอย่างที่สองจากดนตรี
13:50
is from Johnจอห์น Cage'sกรง modernistสมัย compositionส่วนประกอบ,
337
815000
2000
คือ จอห์น เคจ นักประพันธ์เพลงสมัยใหม่
13:52
"4'33"."
338
817000
2000
"4 นาที 33 วินาที"
13:54
As manyจำนวนมาก of you know,
339
819000
2000
ที่หลายๆคนรู้จัก
13:56
this is the compositionส่วนประกอบ where the pianistนักเปียโน sitsนั่งอยู่ at a benchม้านั่ง,
340
821000
3000
นี่เป็นส่วนหนึ่งของบทประพันธ์ ที่นักเปียโนนั่งที่ม้านั่ง
13:59
opensเปิด up the pianoเปียโน
341
824000
2000
เปิดเปียโน
14:01
and sitsนั่งอยู่ and does nothing for fourสี่ minutesนาที and 33 secondsวินาที --
342
826000
2000
แล้วนั่งอยู่เฉยๆเป็นเวลา 4 นาที 33 วินาที
14:03
that periodระยะเวลา of silenceความเงียบ.
343
828000
2000
ในช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบ
14:05
And people have differentต่าง viewsมุมมอง on this.
344
830000
2000
ผู้คนมีความเห็นที่ต่างกันออกไปกับเรื่องนี้
14:07
But what I want to pointจุด out
345
832000
2000
แต่สิ่งที่ผมอยากบอกคือ
14:09
is you can buyซื้อ this from iTunesiTunes.
346
834000
2000
คุณสามารถซื้อเพลงนี้ผ่าน ไอจูนส์ (iTunes) ได้ครับ
14:11
(Laughterเสียงหัวเราะ)
347
836000
2000
(เสียงหัวเราะ)
14:13
For a dollarดอลลาร์ 99,
348
838000
2000
ด้วยราคาหนึ่งดอลลาร์ เก้าสิบเก้า
14:15
you can listen to that silenceความเงียบ,
349
840000
2000
คุณสามารถรับฟังความเงียบนั่นได้
14:17
whichที่ is differentต่าง than other formsรูปแบบ of silenceความเงียบ.
350
842000
3000
ซึ่งมันแตกต่างจากเสียงเงียบรูปแบบอื่น
14:20
(Laughterเสียงหัวเราะ)
351
845000
2000
(เสียงหัวเราะ)
14:22
Now I've been talkingการพูด so farห่างไกล about pleasureความสุข,
352
847000
3000
ผมได้พูดเรื่องเกี่ยวกับความพอใจ
14:25
but what I want to suggestแนะนำ
353
850000
2000
แต่สิ่งที่ผมอยากบอก
14:27
is that everything I've said appliesมีผลบังคับใช้ as well to painความเจ็บปวด.
354
852000
3000
คือทุกเรื่องที่ผมพูด เอาไปใช้กับความเจ็บปวดได้เช่นกัน
14:30
And how you think about what you're experiencingประสบ,
355
855000
2000
และความคิดที่คุณมีต่อสิ่งที่คุณประสบ
14:32
your beliefsความเชื่อ about the essenceแก่นแท้ of it,
356
857000
2000
ความเชื่อเกี่ยวกับสาระของสิ่งนั้น
14:34
affectมีผลต่อ how it hurtsเจ็บ.
357
859000
2000
มีผลทำให้รู้สึกเจ็บปวดแตกต่างกันได้
14:36
One lovelyน่ารัก experimentการทดลอง
358
861000
2000
การทดลองที่ดีอันหนึ่ง
14:38
was doneเสร็จแล้ว by Kurtเคิร์ต Grayสีเทา and Danแดน WegnerWegner.
359
863000
2000
ทดลองโดย เคิร์ท เกรย์และ แดน เวกเนอร์
14:40
What they did was they hookedติดยาเสพติด up Harvardฮาร์วาร์ undergraduatesนักศึกษาระดับปริญญาตรี
360
865000
2000
สิ่งที่พวกเขาทำคือใช้นักศึกษาปริญญาตรีฮาร์เวิร์ด
14:42
to an electricไฟฟ้า shockช็อก machineเครื่อง.
361
867000
2000
มาโดนช๊อตด้วยไฟฟ้า
14:44
And they gaveให้ them a seriesชุด of painfulเจ็บปวด electricไฟฟ้า shocksแรงกระแทก.
362
869000
3000
แล้วให้พวกเขาลองรับความรู้สึกเจ็บจากการช็อตหลายระดับ
14:47
So it was a seriesชุด of fiveห้า painfulเจ็บปวด shocksแรงกระแทก.
363
872000
3000
พวกเขาใช้ไฟห้าระดับ
14:50
Halfครึ่ง of them are told that they're beingกำลัง givenรับ the shocksแรงกระแทก
364
875000
2000
เราบอกครึ่งหนึ่งว่า คนที่ช๊อตคุณ
14:52
by somebodyบางคน in anotherอื่น roomห้อง,
365
877000
2000
อยู่ห้องข้างๆนี้
14:54
but the personคน in the other roomห้อง doesn't know they're givingให้ them shocksแรงกระแทก.
366
879000
3000
แต่คนที่อยู่ห้องข้างๆไม่รู้เรื่องเลยว่าพวกเขาช๊อตคนเหล่านี้อยู่
14:57
There's no malevolenceความมุ่งร้าย, they're just pressingการกด a buttonปุ่ม.
367
882000
2000
พวกเขาไม่ได้ประสงค์ร้าย พวกเขาแค่กดปุ่มเท่านั้น
14:59
The first shockช็อก is recordedบันทึก as very painfulเจ็บปวด.
368
884000
3000
การช๊อตครั้งแรกถูกบันทึกว่าเจ็บมากๆ
15:02
The secondที่สอง shockช็อก feelsรู้สึก lessน้อยกว่า painfulเจ็บปวด, because you get a bitบิต used to it.
369
887000
3000
การช๊อตครั้งถัดมาเจ็บน้อยลง เพราะคุณเริ่มชินกับมัน
15:05
The thirdที่สาม dropsยาหยอด, the fourthที่สี่, the fifthที่ห้า.
370
890000
2000
การช๊อตครั้งที่สาม สี่ และห้า
15:07
The painความเจ็บปวด getsได้รับ lessน้อยกว่า.
371
892000
3000
ความเจ็บจะค่อยๆลดลง
15:10
In the other conditionเงื่อนไข,
372
895000
2000
ในอีกกรณีนึง
15:12
they're told that the personคน in the nextต่อไป roomห้อง
373
897000
2000
พวกเขาได้รับข้อมูลว่าคนในอีกห้องหนึ่ง
15:14
is shockingที่ตกตะลึง them on purposeวัตถุประสงค์ -- knowsรู้ they're shockingที่ตกตะลึง them.
374
899000
3000
กำลังช๊อตพวกเขา ทั้งๆที่รู้ว่าทำอะไรอยู่
15:17
The first shockช็อก hurtsเจ็บ like hellนรก.
375
902000
2000
การช๊อตครั้งแรกเจ็บเจียนตาย
15:19
The secondที่สอง shockช็อก hurtsเจ็บ just as much,
376
904000
2000
การช๊อตครั้งที่สองก็เจ็บไม่แพ้กัน
15:21
and the thirdที่สาม and the fourthที่สี่ and the fifthที่ห้า.
377
906000
2000
และครั้งที่สาม สี่ และห้า
15:23
It hurtsเจ็บ more
378
908000
2000
เจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ
15:25
if you believe somebodyบางคน is doing it to you on purposeวัตถุประสงค์.
379
910000
3000
ถ้าคุณเชื่อว่าใครบางคนทำบางอย่างกับคุณโดยมีจุดมุ่งหมาย
15:28
The mostมากที่สุด extremeสุดขีด exampleตัวอย่าง of this
380
913000
3000
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของเรื่องนี้คือ
15:31
is that in some casesกรณี,
381
916000
2000
ในบางกรณี
15:33
painความเจ็บปวด underภายใต้ the right circumstancesพฤติการณ์
382
918000
2000
ความเจ็บปวดในบางสถานการณ์
15:35
can transformแปลง into pleasureความสุข.
383
920000
2000
สามารถเปลี่ยนเป็นความพอใจได้
15:37
Humansมนุษย์ have this extraordinarilyพิเศษ interestingน่าสนใจ propertyคุณสมบัติ
384
922000
3000
มนุษย์เรานั้นมีความน่าสนใจมาก
15:40
that will oftenบ่อยครั้ง seekแสวงหา out low-levelระดับต่ำ dosesปริมาณ of painความเจ็บปวด
385
925000
2000
ที่จะมีความรู้สึกเจ็บน้อยกว่า
15:42
in controlledถูกควบคุม circumstancesพฤติการณ์
386
927000
2000
ในสถานการณ์ที่ควบคุมไว้
15:44
and take pleasureความสุข from it --
387
929000
2000
และเพลิดเพลินไปกับสิ่งนั้น
15:46
as in the eatingการรับประทานอาหาร of hotร้อน chiliพริก peppersพริกไทย
388
931000
2000
เหมือนกับการกินพริกเผ็ดๆ
15:48
and rollerลูกกลิ้ง coasterเรือยามฝั่ง ridesขี่.
389
933000
3000
และเล่นรถไฟเหาะตีลังกา
15:51
The pointจุด was nicelyอย่างดี summarizedสรุป
390
936000
2000
บทสรุปที่น่าสนใจ
15:53
by the poetกวี Johnจอห์น Miltonมิลตัน
391
938000
2000
โดยนักแต่งกลอน จอห์น มิลตัน
15:55
who wroteเขียน, "The mindใจ is its ownด้วยตัวเอง placeสถานที่,
392
940000
2000
ที่เขียนเรื่อง "จิตนั้นมีที่ของมัน
15:57
and in itselfตัวเอง can make a heavenสวรรค์ of hellนรก,
393
942000
2000
มันสามารถสร้างวิมานในนรก
15:59
a hellนรก of heavenสวรรค์."
394
944000
2000
และนรกในวิมารได้"
16:01
And I'll endปลาย with that. Thank you.
395
946000
2000
ผมขอทิ้งท้ายไว้แค่นี้ครับ ขอบคุณ
16:03
(Applauseการปรบมือ)
396
948000
7000
(เสียงปรบมือ)

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Paul Bloom - Psychologist
Paul Bloom explores some of the most puzzling aspects of human nature, including pleasure, religion, and morality.

Why you should listen

In Paul Bloom’s last book, How Pleasure Works, he explores the often-mysterious enjoyment that people get out of experiences such as sex, food, art, and stories. His latest book, Just Babies, examines the nature and origins of good and evil. How do we decide what's fair and unfair? What is the relationship between emotion and rationality in our judgments of right and wrong? And how much of morality is present at birth? To answer these questions, he and his colleagues at Yale study how babies make moral decisions. (How do you present a moral quandary to a 6-month-old? Through simple, gamelike experiments that yield surprisingly adult-like results.)  

Paul Bloom is a passionate teacher of undergraduates, and his popular Introduction to Psychology 110 class has been released to the world through the Open Yale Courses program. He has recently completed a second MOOC, “Moralities of Everyday Life”, that introduced moral psychology to tens of thousands of students. And he also presents his research to a popular audience though articles in The Atlantic, The New Yorker, and The New York Times. Many of the projects he works on are student-initiated, and all of them, he notes, are "strongly interdisciplinary, bringing in theory and research from areas such as cognitive, social, and developmental psychology, evolutionary theory, linguistics, theology and philosophy." 

He says: "A growing body of evidence suggests that humans do have a rudimentary moral sense from the very start of life."

More profile about the speaker
Paul Bloom | Speaker | TED.com