TEDxKC
Janine Shepherd: A broken body isn't a broken person
จานีน เชพเพิร์ด (Janine Shepherd): ร่างกายที่แตกหักไม่ใช่คนที่แตกหัก
Filmed:
Readability: 3
1,609,445 views
นักเล่นสกีข้ามประเทศ จานีน เชพเพิร์ด (Janine Shepherd) หวังที่จะได้เหรียญโอลิมปิค จนกระทั่งเธอถูกชนด้วยรถบรรทุกในขณะขี่จักรยาน เธอแบ่งปันเรื่องราวที่เต็มไปด้วยพลังเกี่ยวกับความสามารถและการกลับคืนมาของร่างกายมนุษย์ ในคำกล่าวของเธอ คุณไม่ใช่ร่างกายของคุณ และการยอมแพ้ความฝันอันเก่าเป็นการก้าวทะยานไปสู่ความฝันรูปแบบใหม่ที่สดใสกว่าเดิม
Janine Shepherd - Pilot
Aspiring Olympic skier Janine Shepherd was nearly killed when she was hit by a truck during a training bike ride. Paralysed and immobile for six months, she was given a grim picture for recovery. But not only did she teach herself to walk again— she learned to fly. Full bio
Aspiring Olympic skier Janine Shepherd was nearly killed when she was hit by a truck during a training bike ride. Paralysed and immobile for six months, she was given a grim picture for recovery. But not only did she teach herself to walk again— she learned to fly. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:16
Life is about opportunities,
0
428
2997
ชีวิตเป็นเรื่องของโอกาส
00:19
creating them and embracing them, and for me,
1
3425
3150
การสร้างโอกาส ชื่นชมกับโอกาสที่ได้
ส่วนของฉันนั้น
ส่วนของฉันนั้น
00:22
that was the Olympic dream.
2
6575
1931
คือการฝันถึงโอลิมปิก
00:24
That's what defined me. That was my bliss.
3
8506
3446
นั่นคือสิ่งที่นิยามตัวตนฉัน
นั่นคือความสุขที่สุดของฉัน
นั่นคือความสุขที่สุดของฉัน
00:27
As a cross-country skier and member of the Australian ski team,
4
11952
3749
ฉันซึ่งเป็นนักสกีวิบาก
และสมาชิกทีมสกีแห่งออสเตรเลีย
และสมาชิกทีมสกีแห่งออสเตรเลีย
00:31
headed towards the Winter Olympics,
5
15701
1645
ขณะนั้นกำลังมุ่งหน้าไปสู่สนามแข่งโอลิมปิกฤดูหนาว
00:33
I was on a training bike ride with my fellow teammates.
6
17346
4229
ฉันอยู่บนรถจักรยานกับเพื่อนร่วมทีม
00:37
As we made our way up towards
7
21575
1944
มุ่งหน้าไปตามเส้นทางของเรา
00:39
the spectacular Blue Mountains west of Sydney,
8
23519
3150
สู่เทือกเขาฝั่งตะวันตกของซิดนีย์ (Sydney)
เทือกเขาบลูเมาน์เทน (Blue Mountain) ที่สวยตระหง่าน
เทือกเขาบลูเมาน์เทน (Blue Mountain) ที่สวยตระหง่าน
00:42
it was the perfect autumn day:
9
26669
2464
วันนั้นเป็นวันในฤดูใบไม้ร่วงที่สุดยอดไปเลย
00:45
sunshine, the smell of eucalypt and a dream.
10
29133
4185
แสงแดด กลิ่นของยูคาลิปตัส และความฝัน
00:49
Life was good.
11
33318
1433
ชีวิตไปได้สวย
00:50
We'd been on our bikes for around five and half hours
12
34751
2898
เราอยู่บนรถจักรยานกันมาราวๆ 5 ชั่วโมงครึ่ง
00:53
when we got to the part of the ride that I loved,
13
37649
2394
พอมาถึงช่วงที่ฉันชอบที่สุด
00:55
and that was the hills, because I loved the hills.
14
40043
3037
คือช่วงที่มาถึงเนินเขา เพราะฉันชอบเนินเขามาก
00:58
And I got up off the seat of my bike, and I started
15
43080
2698
เมื่อฉันยกตัวออกจากที่นั่ง และเริ่มที่จะ
01:01
pumping my legs, and as I sucked in the cold mountain air,
16
45778
2953
ขยับแข้งขยับขาที่ล้อมรอบด้วยอากาศที่เย็นของภูเขา
01:04
I could feel it burning my lungs, and I looked up
17
48731
2655
ฉันรู้สึกถึงความรุ่มร้อนในอก ฉันมองหน้าขึ้น
01:07
to see the sun shining in my face.
18
51386
3687
หาแสงแดดที่ปะทะใบหน้า
01:10
And then everything went black.
19
55073
3084
และทุกอย่างก็ดับมืดลง
01:14
Where was I? What was happening?
20
58157
2994
ฉันอยู่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น
01:17
My body was consumed by pain.
21
61151
3601
ร่างกายเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ฉันถูกชนด้วยรถบรรทุกที่วิ่งด้วยความเร็วสูง
01:20
I'd been hit by a speeding utility truck
22
64752
2824
01:23
with only 10 minutes to go on the bike ride.
23
67576
3319
ในเวลาเพียง 10 นาทีที่วิ่งชนรถจักรยาน
01:26
I was airlifted from the scene of the accident
24
70895
1848
ฉันถูกส่งตัวทางอากาศจากอุบัติเหตุ
01:28
by a rescue helicopter to a large spinal unit in Sydney.
25
72743
3608
โดยเฮลิคอปเตอร์กู้ภัย
ไปยังศูนย์กระดูกสันหลังที่เมืองซิดนีย์ (Sydney)
ไปยังศูนย์กระดูกสันหลังที่เมืองซิดนีย์ (Sydney)
01:32
I had extensive and life-threatening injuries.
26
76351
3052
ฉันได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงและ
อยู่ในสภาวะเป็นอันตรายอาจถึงแก่ชีวิต
อยู่ในสภาวะเป็นอันตรายอาจถึงแก่ชีวิต
01:35
I'd broken my neck and my back in six places.
27
79403
4136
ทั้งคอและหลังฉันหักรวมทั้งหมด 6 จุด
01:39
I broke five ribs on my left side.
28
83539
2577
ซี่โครงด้านซ้ายแตก 5 ซี่
01:42
I broke my right arm. I broke my collarbone.
29
86116
2807
ขาขวาหัก กระดูกไหปลาร้าแตก/หัก
01:44
I broke some bones in my feet.
30
88923
2246
กระดูกเท้าแตกบางจุด
01:47
My whole right side was ripped open, filled with gravel.
31
91169
3260
ร่างกายซีกขวาฉีกขาดเปิดออก เต็มไปด้วยกรวดหิน
01:50
My head was cut open across the front, lifted back,
32
94429
2294
ฉันได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ และภายใน
01:52
exposing the skull underneath.
33
96723
1461
ศรีษะถูกเปิดออกเห็นกะโหลกด้านใน
01:54
I had head injures. I had internal injuries.
34
98184
2363
ได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะภายใน
01:56
I had massive blood loss. In fact, I lost about five liters
35
100547
2681
เสียเลือดไปจำนวนมาก ประมาณ 5 ลิตรได้
01:59
of blood, which is all someone my size would actually hold.
36
103228
3195
ซึ่งคนขนาดตัวเท่าฉันเนี่ย
ถือว่าเสียเลือดไปแทบจะหมดตัวเลยทีเดียว
ถือว่าเสียเลือดไปแทบจะหมดตัวเลยทีเดียว
02:02
By the time the helicopter arrived at Prince Henry Hospital
37
106423
2791
เมื่อเฮลิคอปเตอร์มาถึง
โรงพยาบาลพรินซ์เฮนรี (Prince Henry)
โรงพยาบาลพรินซ์เฮนรี (Prince Henry)
02:05
in Sydney, my blood pressure was 40 over nothing.
38
109214
4371
ในซิดนีย์ ความดันเลือดฉันอยู่ที่ 40
02:09
I was having a really bad day. (Laughter)
39
113585
5403
ถือเป็นวันซวยจริงๆ นะเนี้ย (เสียงหัวเราะ)
02:18
For over 10 days, I drifted between two dimensions.
40
122635
5097
เป็นเวลากว่า 10 วัน ที่ฉันล่องลอยไปมาระหว่าง 2 ภพ
02:23
I had an awareness of being in my body, but also
41
127732
3229
ฉันยังรู้สึกถึงร่างกายของตัวเองอยู่ แต่ก็
02:26
being out of my body, somewhere else, watching
42
130961
2329
รู้สึกว่าได้ออกไปจากร่าง ไปยังที่อื่น
02:29
from above as if it was happening to someone else.
43
133290
1898
มองลงมาจากข้างบน
เหมือนกับว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนอื่น
เหมือนกับว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนอื่น
02:31
Why would I want to go back to a body that was so broken?
44
135188
3753
ทำไมฉันจะต้องอยากกลับไปอยู่
ในร่างที่บอบช้ำยับเยินขนาดนั้น?
ในร่างที่บอบช้ำยับเยินขนาดนั้น?
02:34
But this voice kept calling me: "Come on, stay with me."
45
138941
5722
แต่เสียงนั้นเรียกฉัน "มานี่ มาอยู่กับฉัน"
02:40
"No. It's too hard."
46
144663
2505
"ไม่ล่ะ นั่นมันลำบากเกินไป"
02:43
"Come on. This is our opportunity."
47
147168
2953
"มาเถอะ นี่เป็นโอกาสของเรานะ"
02:46
"No. That body is broken. It can no longer serve me."
48
150121
3969
"ไม่นะ ร่างกายนั้นมันย่อยยับเกินไป
ใช้อะไรไม่ได้แล้วล่ะ"
ใช้อะไรไม่ได้แล้วล่ะ"
02:49
"Come on. Stay with me. We can do it. We can do it together."
49
154090
5504
"มาเถอะนะ มาอยู่กับฉัน
เราต้องทำได้ ถ้าเราอยู่ด้วยกัน"
เราต้องทำได้ ถ้าเราอยู่ด้วยกัน"
02:55
I was at a crossroads.
50
159594
2283
ฉันยืนอยู่ตรงทางแยก (แห่งการตัดสินใจ)
02:57
I knew if I didn't return to my body, I'd have to leave this world forever.
51
161877
3868
ฉันรู้ว่าถ้าฉันไม่กลับมายังร่างกายของฉัน
ฉันก็คงได้จากโลกนี้ไปตลอดกาล
ฉันก็คงได้จากโลกนี้ไปตลอดกาล
03:01
It was the fight of my life.
52
165745
4158
มันคือการต่อสู้ของชีวิต
03:05
After 10 days, I made the decision to return to my body,
53
169903
4750
หลังจากนั้น สิบวัน
ฉันตัดสินใจที่จะกลับมายังร่างของฉัน
ฉันตัดสินใจที่จะกลับมายังร่างของฉัน
03:10
and the internal bleeding stopped.
54
174653
4392
และอาการเลือดออกภายใน หยุดลง
03:14
The next concern was whether I would walk again,
55
179045
3116
สิ่งที่ต้องกังวลต่อมาคือ
ฉันจะกลับมาเดินได้อีกหรือไม่
ฉันจะกลับมาเดินได้อีกหรือไม่
03:18
because I was paralyzed from the waist down.
56
182161
2530
เพราะฉันเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงไป
03:20
They said to my parents, the neck break was a stable fracture,
57
184691
2722
พวกเขาพูดกับพ่อแม่ฉันว่า การบาดเจ็บ
ที่กระดูกสันหลังส่วนคอ เป็นส่วนที่รักษาได้
ที่กระดูกสันหลังส่วนคอ เป็นส่วนที่รักษาได้
03:23
but the back was completely crushed.
58
187413
1690
แต่การบาดเจ็บที่หลัง
เป็นการแตกหักของกระดูกสันหลังอย่างสิ้นเชิง
เป็นการแตกหักของกระดูกสันหลังอย่างสิ้นเชิง
03:25
The vertebra at L1 was like you'd dropped a peanut,
59
189103
3947
กระดูกสันหลังระดับเอวข้อที่ 1
แตกหักเหมือนกับเหยียบลงบนถั่ว
แตกหักเหมือนกับเหยียบลงบนถั่ว
03:28
stepped on it, smashed it into thousands of pieces.
60
193050
3218
เมื่อเหยียบถั่ว มันจะแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
03:32
They'd have to operate.
61
196268
2431
พวกเขาทำการผ่าตัด
03:34
They went in. They put me on a beanbag. They cut me,
62
198699
2900
โดยใส่ฉันไว้ในถุง และผ่าตัดฉัน
03:37
literally cut me in half, I have a scar
63
201599
2294
ผ่าตรงกลางลำตัว มีรอยแผลเป็นให้เห็น
03:39
that wraps around my entire body.
64
203893
2916
รอบลำตัวของฉันเลยทีเดียว
03:42
They picked as much broken bone as they could
65
206809
2610
พวกเขาหยิบกระดูกที่แตกทั้งหมดเท่าที่จะมากได้
03:45
that had lodged in my spinal cord.
66
209419
1762
ที่ฝังอยู่ในเส้นประสาทไขสันหลัง
03:47
They took out two of my broken ribs, and they rebuilt my back,
67
211181
4111
พวกเขาใช้กระดูกซี่โครงที่หักของฉัน 2 ส่วน
สร้างหลังของฉันใหม่
สร้างหลังของฉันใหม่
03:51
L1, they rebuilt it, they took out another broken rib,
68
215292
2834
กระดูกสันหลังระดับเอวข้อที่ 1 ถูกสร้างใหม่
โดยใช้กระดูกซี่โครงที่หัก
โดยใช้กระดูกซี่โครงที่หัก
03:54
they fused T12, L1 and L2 together.
69
218126
3220
เชื่อมเข้ากับกระดูกสันหลังส่วนอกระดับที่ 12
และระดับเอวข้อที่ 1 และ 2 เข้าด้วยกัน
และระดับเอวข้อที่ 1 และ 2 เข้าด้วยกัน
03:57
Then they stitched me up. They took an entire hour to stitch me up.
70
221346
3032
จากนั้นใช้เวลาทั้งชั่วโมงในการเย็บแผล
04:00
I woke up in intensive care, and the doctors were really excited
71
224378
3007
ฉันรู้สึกตัวขึ้นในห้องผู้ป่วยหนัก (IC)
และหมอค่อนข้างตื่นเต้น
และหมอค่อนข้างตื่นเต้น
04:03
that the operation had been a success because at that stage
72
227385
3024
เพราะการผ่าตัดประสบความสำเร็จ เนื่องจาก
04:06
I had a little bit of movement in one of my big toes,
73
230409
3085
ฉันสามารถขยับปลายนิ้วโป้งเท้าได้เล็กน้อย
04:09
and I thought, "Great, because I'm going to the Olympics!"
74
233494
3341
ฉันคิดว่า สุดยอด ฉันจะไปโอลิมปิค!
04:12
(Laughter)
75
236835
1886
(เสียงหัวเราะ)
04:14
I had no idea. That's the sort of thing
76
238721
2273
ฉันไม่ได้คิดอะไรเลย เหมือนกับว่า
04:16
that happens to someone else, not me, surely.
77
240994
3087
มันเกิดกับคนอื่น ไม่ใช่ฉันแน่ๆ
04:19
But then the doctor came over to me, and she said,
78
244081
2110
แต่หมอมาหาฉันและพูดว่า
04:22
"Janine, the operation was a success, and we've picked
79
246191
3426
"แจนนีน การผ่าตัดประสบความสำเร็จนะ พวกเรา
04:25
as much bone out of your spinal cord as we could,
80
249617
3352
ดึงกระดูกที่เข้าไปในเส้นประสาทไขสันหลัง
ออกมามากเท่าที่จะทำได้
ออกมามากเท่าที่จะทำได้
04:28
but the damage is permanent.
81
252969
1104
แต่มันมีส่วนที่เสียหายถาวร
04:29
The central nervous system nerves, there is no cure.
82
254073
3317
ระบบประสาทส่วนกลาง ยังมีเส้นประสาทรับรู้
แต่ไม่มีทางรักษาส่วนที่เสียหายได้
แต่ไม่มีทางรักษาส่วนที่เสียหายได้
04:33
You're what we call a partial paraplegic, and you'll have
83
257390
3050
คุณจะมีลักษณะที่เราเรียกว่าอัมพาตครึ่งล่างบางส่วน
04:36
all of the injuries that go along with that.
84
260440
2992
จะมีอาการบาดเจ็บร่วมด้วย
04:39
You have no feeling from the waist down, and at most,
85
263432
3208
จะไม่มีความรู้สึกตั้งแต่เอวลงไป
04:42
you might get 10- or 20-percent return.
86
266640
3021
คุณจะดีขึ้นกลับมาได้อย่างมากที่สุด 10-20%
04:45
You'll have internal injuries for the rest of your life.
87
269661
3121
คุณจะมีอาการบาดเจ็บภายในไปตลอดชีวิตที่เหลือ
04:48
You'll have to use a catheter for the rest of your life.
88
272782
2418
จะต้องใช้สายสวนตลอดชีวิต
04:51
And if you walk again, it will be with calipers and a walking frame."
89
275200
5502
และถ้าคุณจะกลับมาเดินอีกครั้ง
คุณจะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน"
คุณจะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน"
04:56
And then she said, "Janine,
90
280702
1611
และเมื่อหมอพูดต่อว่า "แจนนีน
04:58
you'll have to rethink everything you do in your life,
91
282313
2103
คุณจะต้องคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตคุณใหม่นะ
05:00
because you're never going to be able to do the things you did before."
92
284416
4760
เพราะคุณจะไม่สามารถทำอะไรหลายๆ อย่าง
ที่เคยทำได้มาก่อน"
ที่เคยทำได้มาก่อน"
05:05
I tried to grasp what she was saying.
93
289176
2713
ฉันพยายามจะจับสิ่งต่างๆ ที่หมอกำลังบอก
05:07
I was an athlete. That's all I knew. That's all I'd done.
94
291889
2462
ฉันเป็นนักกรีฑา นั่นคือสิ่งที่ฉันรู้ นั่นคือสิ่งที่ฉันทำ
05:10
If I couldn't do that, then what could I do?
95
294351
3248
แล้วถ้าฉันไม่สามารถทำได้แล้ว จะให้ฉันทำอะไรล่ะ?
05:13
And the question I asked myself is, if I couldn't do that,
96
297599
3870
คำถามที่ฉันถามตัวเองก็คือ
ถ้าฉันไม่สามารถทำมันได้แล้ว
ถ้าฉันไม่สามารถทำมันได้แล้ว
05:17
then who was I?
97
301469
1851
แล้วฉันจะเป็นใครเนี่ย?
05:23
They moved me from intensive care to acute spinal.
98
307735
3320
พวกเขาย้ายฉันจากส่วนผู้ป่วยหนัก
ไปยังส่วนผู้ป่วยบาดเจ็บทางกระดูกสันหลัง
ไปยังส่วนผู้ป่วยบาดเจ็บทางกระดูกสันหลัง
05:26
I was lying on a thin, hard spinal bed.
99
311055
2419
ฉันนอนบนเตียงที่แข็งและบาง
05:29
I had no movement in my legs. I had tight stockings on
100
313474
2543
ขาทั้งสองไม่มีการเคลื่อนไหว ต้องใส่ถุงน่องรัดไว้
05:31
to protect from blood clots.
101
316017
1914
เพื่อป้องกันเลือดอุดตัน
05:33
I had one arm in plaster, one arm tied down by drips.
102
317931
3125
แขนข้างหนึ่งเข้าเฝือก อีกข้างผูกห้อยไว้
05:36
I had a neck brace and sandbags on either side of my head
103
321056
2757
มีที่รั้งคอและถุงทรายรั้งไว้คนละด้านของศีรษะ
05:39
and I saw my world through a mirror
104
323813
1929
ฉันเห็นโลกของฉันผ่านกระจก
05:41
that was suspended above my head.
105
325742
3358
ที่ถูกแขวนไว้เหนือหัวของฉัน
05:45
I shared the ward with five other people,
106
329100
3477
ฉันอยู่ในห้องผู้ป่วยกับผู้ป่วยอีกห้าคน
05:48
and the amazing thing is that because we were all lying
107
332577
2255
สิ่งมหัศจรรย์ก็คือ พวกเราทั้งหมดนอนบนเตียง
05:50
paralyzed in a spinal ward, we didn't know what each other looked like.
108
334832
5071
เป็นอัมพาตในแผนกคนไข้กระดูกสันหลัง
เราไม่รู้จักลักษณะหน้าตาของกันและกัน
เราไม่รู้จักลักษณะหน้าตาของกันและกัน
05:55
How amazing is that? How often in life
109
339903
3137
มหัศจรรย์ใช่ไหม จะมีสักกี่ครั้งในชีวิต
05:58
do you get to make friendships, judgment-free,
110
343040
4714
ที่เราจะมีมิตรภาพที่ไม่มีการตัดสินกันและกัน
06:03
purely based on spirit?
111
347754
2734
เป็นมิตรภาพ บนรากฐานแห่งจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์
06:06
And there were no superficial conversations
112
350488
2511
และไม่มีการพูดคุยแค่เพียงผิวเผิน
06:08
as we shared our innermost thoughts, our fears,
113
352999
3328
เหมือนกับว่าเรารู้สึก
ถึงความคิดภายในของกันและกัน ความกลัว
ถึงความคิดภายในของกันและกัน ความกลัว
06:12
and our hopes for life after the spinal ward.
114
356327
4658
และความหวังของชีวิตที่จะมี
หลังจากออกจากแผนกผู้ป่วยกระดูกสันหลังนี้
หลังจากออกจากแผนกผู้ป่วยกระดูกสันหลังนี้
06:16
I remember one night, one of the nurses came in,
115
360985
2717
ฉันจำได้ว่า มีคืนหนึ่ง
หนึ่งในพยาบาลเดินเข้ามาในห้อง
หนึ่งในพยาบาลเดินเข้ามาในห้อง
06:19
Jonathan, with a whole lot of plastic straws.
116
363702
4190
ชื่อ โจนาธาน เข้ามา
พร้อมกับหลอดพลาสติกหลายหลอด
พร้อมกับหลอดพลาสติกหลายหลอด
06:23
He put a pile on top of each of us, and he said,
117
367892
2669
เขาวางหลอดกองไว้ด้านบนของพวกเราแต่ละคน
และพูดว่า
และพูดว่า
06:26
"Start threading them together."
118
370561
2752
"เริ่มต่อหลอดเข้าด้วยกันได้"
06:29
Well, there wasn't much else to do in the spinal ward, so we did.
119
373313
3301
อืม ก็ในเมื่อไม่มีอะไรจะทำอยู่ในแล้ว
แผนกผู้ป่วยกระดูกสันหลังเนี่ย เราก็เลยต่อหลอดซะเลย
แผนกผู้ป่วยกระดูกสันหลังเนี่ย เราก็เลยต่อหลอดซะเลย
06:32
And when we'd finished, he went around silently
120
376614
3641
และเมื่อเราทำเสร็จ เขาก็เดินไปรอบๆ อย่างเงียบๆ
06:36
and he joined all of the straws up
121
380255
2485
และค่อยๆ ต่อหลอดของแต่ละคนเข้าด้วยกัน
06:38
till it looped around the whole ward, and then he said,
122
382740
3573
จนกระทั่งมันกลายเป็นวงกลมรอบทั้งห้อง
แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า
แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า
06:42
"Okay, everybody, hold on to your straws."
123
386313
3932
"เอาล่ะ ทุกคน ถือหลอดของตัวเองไว้นะ"
06:46
And we did. And he said, "Right. Now we're all connected."
124
390245
6975
พวกเราทำอย่างที่เขาบอก และเขาก็พูดต่อว่า
"พวกเราได้เชื่อมเข้าด้วยกันแล้วนะ"
"พวกเราได้เชื่อมเข้าด้วยกันแล้วนะ"
06:53
And as we held on, and we breathed as one,
125
397220
5460
เหมือนกับเราหายใจเป็นหนึ่งเดียวกัน
ในขณะที่เราถือหลอดอยู่นั้น
ในขณะที่เราถือหลอดอยู่นั้น
06:58
we knew we weren't on this journey alone.
126
402680
4353
เรารู้ว่า เราไม่ได้เดินเพียงลำพัง
07:02
And even lying paralyzed in the spinal ward,
127
407033
4504
และแม้ว่าจะนอนอัมพาตในแผนกผู้ป่วยกระดูกสันหลังนี้
07:07
there were moments of incredible depth and richness,
128
411537
3222
ก็มีหลายๆ ครั้งที่เรารู้สึกถึงกันอย่างลึกซึ้งและเต็มเปี่ยม
07:10
of authenticity and connection
129
414759
3252
ของความจริงใจ และสายใยที่เชื่อมใจเราไว้
07:13
that I had never experienced before.
130
418011
4344
ที่ฉันไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
07:18
And each of us knew that when we left the spinal ward
131
422355
4481
พวกเราแต่ละคน รู้ว่า
เมื่อออกจากแผนกผู้ป่วยกระดูกสันหลังแล้ว
เมื่อออกจากแผนกผู้ป่วยกระดูกสันหลังแล้ว
07:22
we would never be the same.
132
426836
4819
เราจะไม่เหมือนเดิม
07:27
After six months, it was time to go home.
133
431655
4162
หกเดือนหลังจากนั้น ก็ถึงเวลาที่จะกลับบ้าน
07:31
I remember Dad pushing me outside in my wheelchair,
134
435817
3466
ฉันจำได้ว่า พ่อเข็นเก้าอี้มีล้อสำหรับคนพิการให้ฉัน
07:35
wrapped in a plaster body cast,
135
439283
2861
ที่เข้าเฝือกทั้งตัว
07:38
and feeling the sun on my face for the first time.
136
442144
2971
รู้สึกถึงแสงแดดที่ปะทะใบหน้าครั้งแรก
07:41
I soaked it up and I thought,
137
445115
1938
ฉันสูดหายใจและคิดว่า
07:42
how could I ever have taken this for granted?
138
447053
3874
ฉันได้สิทธิ ได้โอกาสนี้ได้อย่างไรเนี่ย ?
07:46
I felt so incredibly grateful for my life.
139
450927
4277
ฉันรู้สึกถึงความปลื้มปิติอย่างเต็มเปี่ยม
กับชีวิตของฉัน
กับชีวิตของฉัน
07:51
But before I left the hospital, the head nurse
140
455204
1995
และเมื่อออกจากโรงพยาบาล หัวหน้าพยาบาล
07:53
had said to me, "Janine, I want you to be ready,
141
457199
2219
พูดกับฉันว่า "แจนนีน ฉันอยากให้คุณเตรียมพร้อม
07:55
because when you get home, something's going to happen."
142
459418
2735
เพราะเมื่อไปถึงบ้าน บางสิ่งบางอย่างจะเกิดขึ้นนะ
07:58
And I said, "What?" And she said,
143
462153
1892
ฉันถามว่า "อะไร ?" เธอตอบว่า
07:59
"You're going to get depressed."
144
464045
2106
"คุณจะเจอภาวะซึมเศร้านะ"
08:02
And I said, "Not me, not Janine the Machine,"
145
466151
2715
ฉันตอบว่า "ไม่หรอก
ไม่ใช่กับฉัน แจนนินมนุษย์หุ่นยนต์"
ไม่ใช่กับฉัน แจนนินมนุษย์หุ่นยนต์"
08:04
which was my nickname.
146
468866
2180
ซึ่งมันเป็นชื่อเล่นของฉันเอง
08:06
She said, "You are, because, see, it happens to everyone.
147
471046
2866
เธอตอบว่า "คุณจะเจอ เพราะมันเกิดกับทุกคนนะ
08:09
In the spinal ward, that's normal.
148
473912
2747
ในศูนย์ผู้ป่วยกระดูกสันหลัง มันเป็นเรื่องปกติ
08:12
You're in a wheelchair. That's normal.
149
476659
1313
คุณจะอยู่บนเก้าอี้มีล้อสำหรับผู้ป่วย
มันเป็นเรื่องธรรมดานะ
มันเป็นเรื่องธรรมดานะ
08:13
But you're going to get home and realize
150
477972
2170
แต่เมื่อคุณถึงบ้านและได้รับรู้ว่า
08:16
how different life is."
151
480142
2096
ชีวิตมันเปลี่ยนไปนะ"
08:18
And I got home and something happened.
152
482238
3833
และเมื่อฉันถึงบ้าน บางสิ่งได้เกิดขึ้น
08:24
I realized Sister Sam was right.
153
488641
3019
ฉันเข้าใจว่า แซมพูดถูกทีเดียว
08:27
I did get depressed.
154
491660
2894
ฉันเจอภาวะซึมเศร้า
08:30
I was in my wheelchair. I had no feeling from the waist down,
155
494554
3371
ฉันอยู่บนเก้าอี้มีล้อ
และไร้ความรู้สึกตั้งแต่เอวลงไป
และไร้ความรู้สึกตั้งแต่เอวลงไป
08:33
attached to a catheter bottle. I couldn't walk.
156
497925
3569
มีขวดสวนปัสสวะห้อยอยู่ด้วย ฉันเดินไม่ได้
08:37
I'd lost so much weight in the hospital
157
501494
2133
ตอนอยู่ในโรงพยาบาล น้ำหนักลดลงไปมาก
08:39
I now weighed about 80 pounds.
158
503627
3762
ตอนนี้ฉันหนัก 80 ปอนด์
08:43
And I wanted to give up.
159
507389
2521
และฉันอยากจะยอมแพ้
08:45
All I wanted to do was put my running shoes on and run out the door.
160
509910
3430
สิ่งที่จะอยากจะทำก็คือ
ใส่รองเท้าวิ่งและวิ่งออกไปนอกประตู
ใส่รองเท้าวิ่งและวิ่งออกไปนอกประตู
08:49
I wanted my old life back. I wanted my body back.
161
513340
3387
ฉันอยากได้ชีวิตที่เคยเป็นของฉันคือ
ฉันอยากได้ร่างกายของฉันกลับมาคืน
ฉันอยากได้ร่างกายของฉันกลับมาคืน
08:52
And I can remember Mom sitting on the end of my bed,
162
516727
2520
ฉันจำได้ว่าแม่นั่งที่ปลายเตียง
และพูดว่า "ฉันว่าชีวิตน่าจะกลับมาดีอีกครั้งนะ"
08:55
and saying, "I wonder if life will ever be good again."
163
519247
3893
08:59
And I thought, "How could it? Because I've lost everything
164
523140
4296
ฉันคิดว่า "จะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อฉันสูญเสียทุกสิ่ง
09:03
that I valued, everything that I'd worked towards.
165
527436
4200
นั่นคือ ทุกสิ่งที่ฉันทำมาทั้งหมด
09:07
Gone."
166
531636
2877
มันหายไปแล้ว"
09:10
And the question I asked was, "Why me? Why me?"
167
534513
5024
คำถามที่ฉันถามก็คือ
"ทำไมต้องเป็นฉัน? ทำไมต้องเป็นฉัน?"
"ทำไมต้องเป็นฉัน? ทำไมต้องเป็นฉัน?"
09:15
And then I remembered my friends
168
539537
3899
ตอนนั้นเอง ฉันจำเพื่อนของฉันได้
09:19
that were still in the spinal ward,
169
543436
2403
เพื่อนที่อยู่ในแผนกผู้ป่วยกระดูกสันหลัง
09:21
particularly Maria.
170
545839
1644
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาเรีย
09:23
Maria was in a car accident, and she woke up
171
547483
2110
มาเรียได้รับอุบัติเหตุทางรถ และเมื่อเธอตื่นขึ้นมา
09:25
on her 16th birthday to the news that she was a complete quadriplegic,
172
549593
4847
ในวันเกิดครบ 16 ปี ก็พบว่า เธอเป็นอัมพาตทั้งตัว
09:30
had no movement from the neck down,
173
554440
2293
และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย ตั้งแต่คอลงไป
09:32
had damage to her vocal chords, and she couldn't talk.
174
556733
3689
กล่องเสียงก็ได้รับความเสียหาย ทำให้เธอพูดไม่ได้
09:36
They told me, "We're going to move you next to her
175
560422
2274
พวกเขาบอกฉันว่า "เราจะย้ายคุณไปอยู่ข้างๆ เธอนะ
09:38
because we think it will be good for her."
176
562696
2295
เพราะเราคิดว่า มันดีกับเธอ"
09:40
I was worried. I didn't know how I'd react
177
564991
3330
ฉันกังวล ฉันไม่รู้ว่า ฉันจะทำตัวยังไงกับเธอ
09:44
to being next to her.
178
568321
1949
เมื่อไปอยู่ข้างๆ เธอ
09:46
I knew it would be challenging, but it was actually a blessing,
179
570270
3924
ฉันรู้ว่า มันค่อนข้างท้าทาย แต่มันเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ
09:50
because Maria always smiled.
180
574194
5242
เพราะมาเรียยิ้มเสมอ
09:55
She was always happy, and even when she began to talk again,
181
579436
4422
เธอมีความสุขเสมอ แม้แต่ตอนที่เธอเริ่มจะพูดอีกครั้ง
09:59
albeit difficult to understand, she never complained, not once.
182
583858
6077
แม้ว่าจะยากที่จะเข้าใจ และเธอก็ไม่เคยบ่น
แม้แต่ครั้งเดียว
แม้แต่ครั้งเดียว
10:05
And I wondered how had she ever found that level of acceptance.
183
589935
5823
ฉันสงสัยว่า เธอมาถึงจุดที่ยอมรับขนาดนั้นได้อย่างไร
10:11
And I realized that this wasn't just my life.
184
595758
4719
ฉันตระหนักว่า นี่ไม่ใช่ชีวิตของฉัน
10:16
It was life itself. I realized that this wasn't just my pain.
185
600477
4305
แต่มันเป็นชีวิตของมันเอง ฉันตระหนักว่า
ไม่ใช่แค่ฉันที่เจ็บปวด
ไม่ใช่แค่ฉันที่เจ็บปวด
10:20
It was everybody's pain. And then I knew, just like before,
186
604782
5143
มันเป็นความเจ็บปวดของทุกคน และตอนนั้นเอง
ฉันก็รู้เหมือนเมื่อก่อนว่า
ฉันก็รู้เหมือนเมื่อก่อนว่า
10:25
that I had a choice. I could keep fighting this
187
609925
4332
ฉันมีทางเลือกนะ ฉันสามารถสู้ได้
10:30
or I could let go and accept not only my body
188
614257
5021
หรือฉันเลือกที่จะปล่อยมันไป
ยอมรับไม่เฉพาะร่างกายของฉัน
ยอมรับไม่เฉพาะร่างกายของฉัน
10:35
but the circumstances of my life.
189
619278
3383
แต่ยอมรับสิ่งที่จะเป็นผลตามมาในชีวิตของฉันด้วย
10:38
And then I stopped asking, "Why me?"
190
622661
3815
เมื่อฉันหยุดที่จะถามว่า "ทำไมต้องเป็นฉัน ?"
10:42
And I started to ask, "Why not me?"
191
626476
2953
ฉันก็เริ่มที่จะถามว่า "แล้วทำไมจะไม่ใช่ฉันล่ะ?"
10:45
And then I thought to myself, maybe being at rock bottom
192
629429
4127
และเมื่อฉันคิดถึงตัวเอง บางทีจุดที่ลึกและต่ำที่สุด
10:49
is actually the perfect place to start.
193
633556
6891
อาจจะเป็นจุดที่เริ่มต้นที่ดีที่สุดก็ได้นะ
10:56
I had never before thought of myself as a creative person.
194
640447
3992
ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเอง
จะเป็นคนสร้างสรรค์มาก่อนในชีวิต
จะเป็นคนสร้างสรรค์มาก่อนในชีวิต
11:00
I was an athlete. My body was a machine.
195
644439
3664
ฉันเป็นนักกรีฑา ร่างกายฉันเป็นหุ่นยนต์
11:04
But now I was about to embark on the most creative project
196
648103
4691
แต่ตอนนี้ ฉันกำลังจะเริ่มโครงการ
ที่สุดแสนจะสร้างสรรค์
ที่สุดแสนจะสร้างสรรค์
11:08
that any of us could ever do:
197
652794
1935
ที่พวกเราทุกคนเคยทำมาก่อน
11:10
that of rebuilding a life.
198
654729
2720
นั่นก็คือ การสร้างชีวิตใหม่อีกครั้ง
11:13
And even though I had absolutely no idea
199
657449
2559
และเมื่อคิดถึงจุดนี้
ฉันไม่มีแผนหรือแนวความคิดอะไรเลย
ฉันไม่มีแผนหรือแนวความคิดอะไรเลย
11:15
what I was going to do, in that uncertainty
200
660008
2855
ในสิ่งกำลังจะทำ ในความไม่แน่นอนนั้น
11:18
came a sense of freedom.
201
662863
2444
มาพร้อมกับความรู้สึกอิสระ
11:21
I was no longer tied to a set path.
202
665307
2754
ไม่รู้สึกผูกมัดอยู่กับเส้นทางต่างๆ
11:23
I was free to explore life's infinite possibilities.
203
668061
6122
รู้สึกถึงความอิสระที่จะเปิดชีวิต
สู่ความเป็นไปได้ที่ไม่จำกัด
สู่ความเป็นไปได้ที่ไม่จำกัด
11:30
And that realization was about to change my life.
204
674183
6220
และการหยั่งรู้เช่นนั้น
ก็กำลังจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของฉัน
ก็กำลังจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของฉัน
11:36
Sitting at home in my wheelchair and my plaster body cast,
205
680403
4804
ขณะที่นั่งอยู่ในบ้าน บนเก้าอี้มีล้อสำหรับคนพิการ
และร่างกายที่เข้าเผือก
และร่างกายที่เข้าเผือก
11:41
an airplane flew overhead, and I looked up,
206
685207
3889
มีเครื่องบินลำหนึ่งบินผ่าน ฉันมองขึ้นไป
11:44
and I thought to myself, "That's it!
207
689096
2907
และคิดว่า "นั่นไง!"
11:47
If I can't walk, then I might as well fly."
208
692003
4363
ถ้าฉันเดินไม่ได้ล่ะก็ ฉันก็อาจจะบินได้นะ
11:52
I said, "Mom, I'm going to learn how to fly."
209
696366
2636
ฉันพูดกับแม่ว่า "แม่ ฉันอยากจะเรียนการบิน"
11:54
She said, "That's nice, dear." (Laughter)
210
699002
4140
เธอตอบฉันว่า "เจ๋งมากเลย ลูกรัก" (เสียงหัวเราะ)
11:59
I said, "Pass me the yellow pages."
211
703142
1931
ฉันบอกแม่ "ขอสมุดหน้าเหลืองหน่อยสิแม่"
12:00
She passed me the phone book, I rang up the flying school,
212
705073
2342
เธอส่งสมุดหน้าเหลืองให้ฉัน
ฉันโทรไปที่โรงเรียนสอนการบิน
ฉันโทรไปที่โรงเรียนสอนการบิน
12:03
I made a booking, said I'd like to make a booking to come out for a flight.
213
707415
2962
ฉันทำการจองโดยบอกว่า ต้องการจองการออกไปบิน
12:06
They said, "You know, when do you want to come out?"
214
710377
2631
พวกเขาถามว่า "คุณต้องการบินเมื่อไร?"
12:08
I said, "Well, I have to get a friend to drive me out
215
713008
1853
ฉันตอบว่า "อืม ฉันต้องให้เพื่อนมารับฉันไปส่งที่นั่นก่อน
12:10
because I can't drive. Sort of can't walk either.
216
714861
3309
เพราะฉันขับรถไม่ได้ แบบว่าเดินไม่ได้เหมือนกัน
12:14
Is that a problem?"
217
718170
990
มันจะเป็นปัญหาอะไรไหม?"
12:15
I made a booking, and weeks later my friend Chris
218
719160
2097
ฉันจองและอาทิตย์ต่อมา คริส เพื่อนของฉัน
12:17
and my mom drove me out to the airport,
219
721257
1777
และแม่ของฉัน ก็ขับรถไปส่งฉันที่สนามบิน
12:18
all 80 pounds of me covered in a plaster body cast
220
723034
2693
ทั่วทั้งร่างกาย 80 ปอนด์ เต็มไปด้วยเฝือก
12:21
in a baggy pair of overalls. (Laughter)
221
725727
3036
ในถุงคู่อยู่รอบๆ ตัว (เสียงหัวเราะ)
12:24
I can tell you, I did not look like the ideal candidate
222
728763
2798
ฉันบอกได้เลยว่า
มันไม่ได้ดูเหมือนผู้สมัครในอุดมคติเท่าไหร่เลย
มันไม่ได้ดูเหมือนผู้สมัครในอุดมคติเท่าไหร่เลย
12:27
to get a pilot's license. (Laughter)
223
731561
2790
ที่จะสามารถผ่านจนได้บัตรนักบิน (เสียงหัวเราะ)
12:30
I'm holding on to the counter because I can't stand.
224
734351
2366
ฉันยืนเกาะเคาท์เตอร์เพราะไม่สามารถยืนเองได้
12:32
I said, "Hi, I'm here for a flying lesson."
225
736717
1814
และพูดว่า "สวัสดีค่ะ ฉันอยากจะเรียนการบินค่ะ"
12:34
And they took one look and ran out the back to draw short straws.
226
738531
3266
และพวกเขามองมาที่ฉันแล้ววิ่งออกไปเหมือนจะจับไม้สั้นไม้ยาว
12:37
"You get her.""No, no, you take her."
227
741797
3918
"คุณรับเธอไปสิ" "ไม่ คุณนั่นแหละ"
12:41
Finally this guy comes out. He goes,
228
745715
1330
ในที่สุด หนุ่มคนนี้ก็ออกมา
12:42
"Hi, I'm Andrew, and I'm going to take you flying."
229
747045
1783
"สวัสดี ผม แอนดรู ผมจะพาคุณไปบิน"
12:44
I go, "Great." And so they drive me down,
230
748828
1628
ฉันตอบไป "เยี่ยม!" จากนั้นพวกเขาก็พาฉันไป
12:46
they get me out on the tarmac,
231
750456
1328
ไปยังถนนรันเวย์
12:47
and there was this red, white and blue airplane.
232
751784
1758
และฉันก็เห็นเครื่องบินสีแดง ขาว นำ้เงิน
12:49
It was beautiful. They lifted me into the cockpit.
233
753542
3334
มันสวยงามมาก พวกเขายกฉันเข้าไปนั่งในส่วนที่นั่งนักบิน
12:52
They had to slide me up on the wing, put me in the cockpit.
234
756876
2598
ซึ่งจะต้องเลื่อนฉันขึ้นไปทางปีก
เพื่อส่งตัวฉันไปยังส่วนที่นั่งนักบิน
เพื่อส่งตัวฉันไปยังส่วนที่นั่งนักบิน
12:55
They sat me down. There are buttons and dials everywhere.
235
759474
2273
เมื่อพวกเขาให้ฉันนั่งลงแล้ว มันมีปุ่มและอุปกรณ์เต็มไปหมด
12:57
I'm going, "Wow, how do you ever know what all these buttons and dials do?"
236
761747
3533
ฉันเหมือนกับว่า "ว้าว พวกคุณรู้การใช้งานปุ่ม
และอุปกรณ์พวกนี้ทั้งหมดได้อย่างไรเนี้ย"
และอุปกรณ์พวกนี้ทั้งหมดได้อย่างไรเนี้ย"
13:01
Andrew the instructor got in the front, started the airplane up.
237
765280
2543
แอนดรูว์ ผู้สอนที่นั่งส่วนหน้า เริ่มนำเครื่องขึ้น
13:03
He said, "Would you like to have a go at taxiing?"
238
767823
2062
เขาเอ่ยว่า "อยากจะทำเหมือนแท็กซี่ไหม?"
13:05
That's when you use your feet to control the rudder pedals
239
769885
2201
คือคุณจะใช้เท้าคุณควบคุมคันเร่ง และเบรค
13:07
to control the airplane on the ground.
240
772086
2025
เพื่อควบคุมเครื่องบินบนพื้นดิน
13:10
I said, "No, I can't use my legs."
241
774111
2347
ฉันตอบว่า "ไม่ ขาฉันใช้งานไม่ได้"
13:12
He went, "Oh."
242
776458
1212
เขาตอบว่า "โอ้"
13:13
I said, "But I can use my hands," and he said, "Okay."
243
777670
2807
ฉันจึงบอกต่อว่า "แต่ฉันใช้มือฉันได้นะ"
เขาตอบตกลง
เขาตอบตกลง
13:16
So he got over to the runway, and he applied the power.
244
780477
3029
ดังนั้นเมื่อเขาขึ้นบนรันเวย์ เขาเริ่มใช้พาวเวอร์
13:19
And as we took off down the runway,
245
783506
2809
แล้วพวกเราก็บินขึ้นจากรันเวย์
13:22
and the wheels lifted up off the tarmac, and we became airborne,
246
786315
4010
และเมื่อล้อยกเก็บ และเราบินแล้ว
13:26
I had the most incredible sense of freedom.
247
790325
5031
ฉันก็สัมผัสได้ถึงความสุดยอดของอิสรภาพ
13:31
And Andrew said to me,
248
795356
2466
แล้วแอนดรูว์ก็พูดกับฉัน
13:33
as we got over the training area,
249
797822
2581
ในขณะที่เรากำลังบนอยู่พื้นที่ฝึกหัด
13:36
"You see that mountain over there?"
250
800403
2476
"คุณเห็นภูเขานั่นไหม?"
13:38
And I said, "Yeah."
251
802879
1533
ฉันตอบ "อืม"
13:40
And he said, "Well, you take the controls, and you fly towards that mountain."
252
804412
4756
เขาก็บอกต่อว่า "อืม
คุณจะต้องควบคุมเครื่องและบินไปยังภูเขาลูกนั้นนะ"
คุณจะต้องควบคุมเครื่องและบินไปยังภูเขาลูกนั้นนะ"
13:45
And as I looked up, I realized
253
809168
2482
ในขณะที่ฉันมองไปยังภูเขาลูกนั้น และตระหนักว่า
13:47
that he was pointing towards the Blue Mountains
254
811650
3223
เขากำลังชี้ไปยัง บลูเมาท์เทน
13:50
where the journey had begun.
255
814873
2980
ที่ที่การเดินทางเริ่มต้นขึ้น
13:53
And I took the controls, and I was flying.
256
817853
4585
เมื่อฉันเริ่มควบคุม ฉันกำลังบิน
13:58
And I was a long, long way from that spinal ward,
257
822438
3053
ไกลห่างออกไปจากศูนย์แผนกกระดูกสันหลังนั่น
14:01
and I knew right then that I was going to be a pilot.
258
825491
4142
และฉันรู้ทันทีว่า ฉันจะต้องเป็นนักบิน
14:05
Didn't know how on Earth I'd ever pass a medical.
259
829633
3870
แต่ไม่รู้หรอกนะว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
เพื่อให้ผ่านการทดสอบทางการแพทย์
เพื่อให้ผ่านการทดสอบทางการแพทย์
14:09
But I'd worry about that later, because right now I had a dream.
260
833503
3059
แต่ฉันมากังวลในภายหลัง เพราะฉันมีความฝัน
14:12
So I went home, I got a training diary out, and I had a plan.
261
836562
4224
ฉันจึงกลับบ้านและหยิบบันทึกประจำวันออกมาวางแผน
14:16
And I practiced my walking as much as I could,
262
840786
2830
ฉันฝึกเดินมากที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้
14:19
and I went from the point of two people holding me up
263
843616
3134
และฉันเริ่มจากจุดที่ต้องใช้คนสองคนช่วยพยุงฉัน
14:22
to one person holding me up
264
846750
2875
จนเหลือเพียงแค่หนึ่งคนพยุงฉัน
14:25
to the point where I could walk around the furniture
265
849625
1902
และมาถึงจุดที่ฉันเดินไปรอบๆ เฟอร์นิเจอร์เองได้
14:27
as long as it wasn't too far apart.
266
851527
2733
โดยที่ไม่ห่างกันมากนัก
14:30
And then I made great progression to the point
267
854260
2192
และจุดที่ก้าวหน้าสุดๆ
14:32
where I could walk around the house, holding onto the walls,
268
856452
2232
คือจุดที่ฉันสามารถเดินไปรอบๆ
บ้านโดยที่ใช้มือแตะผนังไปเรื่อยๆ
บ้านโดยที่ใช้มือแตะผนังไปเรื่อยๆ
14:34
like this, and Mom said she was forever following me,
269
858684
3590
แบบนี้ และแม่ฉันพูดว่า คงต้องเดินตามฉันไปตลอด
14:38
wiping off my fingerprints. (Laughter)
270
862274
3653
เพื่อลบรอยมือบนผนัง (เสียงหัวเราะ)
14:41
But at least she always knew where I was.
271
865927
4679
แต่อย่างน้อย เธอก็จะรู้เสมอว่าฉันมาจากทางไหน
14:46
So while the doctors continued to operate
272
870606
2386
ดังนั้นเมื่อหมอเริ่มผ่าตัดฉันต่อไปอีก
14:48
and put my body back together again,
273
872992
2037
และทำให้ร่างกายฉันกลับเข้าด้วยกันอีกครั้ง
14:50
I went on with my theory study, and then eventually,
274
875029
3655
ฉันก็ศึกษาตามทฤษฎีของฉันอีกครั้ง และในที่สุด
อย่างมหัศจรรย์มากๆ
ฉันผ่านการสอบทางการแพทย์ของนักบิน
ฉันผ่านการสอบทางการแพทย์ของนักบิน
14:54
and amazingly, I passed my pilot's medical,
275
878684
3435
และมันคือไฟเขียวของฉันสู่การบิน
14:58
and that was my green light to fly.
276
882119
2532
15:00
And I spent every moment I could out at that flying school,
277
884651
2664
ฉันใช้เวลาแทบจะตลอดเวลาที่โรงเรียนการบิน
15:03
way out of my comfort zone,
278
887315
1538
เพื่อที่จะออกนอกพื้นที่แห่งความสะดวกสบายของฉัน
15:04
all these young guys that wanted to be Qantas pilots,
279
888853
2402
เหล่าวัยรุ่นชายที่ต้องการที่จะเป็นนักบินแควนตัส (Qantas)
15:07
you know, and little old hop-along me in first my plaster cast,
280
891255
3487
คุณรู้ใช่ไหม ว่ามีเฝือกรอบตัวฉัน
15:10
and then my steel brace, my baggy overalls,
281
894742
2701
มีเหล็กดามรอบๆ ตัว
15:13
my bag of medication and catheters and my limp,
282
897443
3566
มีถุงยาและถุงสวนและการเดินกระโผกกระเผลก
15:16
and they used to look at me and think,
283
901009
1261
และพวกเขาเคยมองที่ฉันและคิดว่า
15:18
"Oh, who is she kidding? She's never going to be able to do this."
284
902270
3371
"โอ้ว เธอล้อเล่นอยู่หรือเปล่าเนี่ย
เธอไม่มีทางที่จะทำอย่างนี้ได้แน่นอน"
เธอไม่มีทางที่จะทำอย่างนี้ได้แน่นอน"
15:21
And sometimes I thought that too.
285
905641
1903
และบางครั้ง ฉันก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน
15:23
But that didn't matter, because now there was something inside that burned
286
907544
4500
แต่มันไม่สำคัญหรอก เพราะบางสิ่งภายในที่ลุกไหม้นั้น
15:27
that far outweighed my injuries.
287
912044
4387
มันได้หักล้างอาการบาดเจ็บของฉันราบคาบแล้ว
15:32
And little goals kept me going along the way,
288
916431
1965
และเป้าหมายเล็กๆ นั้น ทำให้ฉันเดินทางต่อไป
15:34
and eventually I got my private pilot's license,
289
918396
3726
และในที่สุด ฉันก็ได้สอบผ่านนักบินเอกชนเรียบร้อยแล้ว
15:38
and then I learned to navigate, and I flew my friends around Australia.
290
922122
5230
และฉันได้เรียนการขับเครื่องบินนำร่อง
ฉันบินพาเพื่อนไปรอบๆ ออสเตรเลีย
ฉันบินพาเพื่อนไปรอบๆ ออสเตรเลีย
15:43
And then I learned to fly an airplane with two engines
291
927352
2828
และฉันเรียนการบินด้วยเครื่องบิน 2 เครื่องยนต์
15:46
and I got my twin engine rating.
292
930180
2566
และฉันได้ระดับ 2 เครื่องยนต์เรียบร้อยแล้ว
15:48
And then I learned to fly in bad weather as well as fine weather
293
932746
2945
และฉันได้เรียนรู้การบินในสภาพภูมิอากาศที่เลวร้าย
15:51
and got my instrument rating.
294
935691
2465
และได้ใบอนุญาตการขับแบบนั้นแล้ว
15:54
And then I got my commercial pilot's license.
295
938156
3104
และฉันได้ใบอนุญาตขับขี่นักบินพาณิชเรียบร้อยแล้ว
15:57
And then I got my instructor rating.
296
941260
2723
และต่อมา ฉันก็ได้ใบอนุญาตเป็นครูฝึกสอน
15:59
And then I found myself back at that same school
297
943983
3199
และต่อมา ฉันก็พบตัวฉันเองกลับมาทีโรงเรียนเดิม
16:03
where I'd gone for that very first flight,
298
947182
2248
ที่ที่ฉันเริ่มบินครั้งแรก
16:05
teaching other people how to fly,
299
949430
3146
เพื่อที่จะสอนคนอื่นๆ ที่จะบิน
16:08
just under 18 months after I'd left the spinal ward.
300
952576
4142
เพียงแค่ 18 เดือน
หลังจากที่ฉันออกจากศูนย์ดูแลผู้ป่วยกระดูกสันหลัง
หลังจากที่ฉันออกจากศูนย์ดูแลผู้ป่วยกระดูกสันหลัง
16:12
(Applause)
301
956718
11554
(((เสียงปรบมือ)))
16:24
And then I thought, "Why stop there?
302
968272
2151
และต่อมา ฉันก็คิดว่า "ทำไมจะหยุดที่ตรงนั้นล่ะ?
16:26
Why not learn to fly upside down?"
303
970423
3271
ทำไมไม่ลองเรียนการบินผาดโผนล่ะ?"
16:29
And I did, and I learned to fly upside down
304
973694
2654
และฉันก็เรียนเรียบร้อยแล้ว กับการบินผาดโผน
16:32
and became an aerobatics flying instructor.
305
976348
4058
และได้เป็นครูสอนการบินผาดโผน
16:36
And Mom and Dad? Never been up.
306
980406
6183
แม่กับพ่อของฉันนะเหรอ? ไม่เคยขึ้นบินเลยด้วยซำ้
16:42
But then I knew for certain that although my body might be limited,
307
986589
5715
แต่ฉันรู้สิ่งหนึ่งแน่นอนว่า ถึงร่างกายฉันจะมีขีดจำกัด
16:48
it was my spirit that was unstoppable.
308
992304
5162
แต่ ไม่มีอะไรจะมาหยุดจิตวิญญาณฉันได้
16:53
The philosopher Lao Tzu once said,
309
997466
3381
นักปรัชญา เล่า จื๊อ (Lao Tzu) เคยกล่าวไว้ว่า
16:56
"When you let go of what you are,
310
1000847
2919
"เมื่อคุณปลดปล่อยสิ่งที่คุณเป็น
16:59
you become what you might be."
311
1003766
3431
คุณจะกลายเป็นสิ่งที่คุณอาจจะเป็นได้"
17:03
I now know that it wasn't until I let go of who I thought I was
312
1007197
4905
ตอนนี้ ฉันรู้แล้วว่า
หากฉันไม่ปล่อยวางตัวตนแบบเดิมที่ฉันยึดติด
หากฉันไม่ปล่อยวางตัวตนแบบเดิมที่ฉันยึดติด
17:08
that I was able to create a completely new life.
313
1012102
4201
ฉันคงจะไม่สามารถสร้างตัวตนใหม่ที่สมบูรณ์กว่าเดิมได้
17:12
It wasn't until I let go of the life I thought I should have
314
1016303
4637
และหากฉันไม่ได้ปลดปล่อยชีวิตแบบเก่าๆเดิมๆที่เคยมี
17:16
that I was able to embrace the life that was waiting for me.
315
1020940
4784
ฉันคงไม่ได้เปิดใจต้อนรับชีวิตใหม่ที่ได้กำลังรอฉันอยู่
ฉันรู้แล้วว่าจุดแข็งของฉันที่แท้จริง
17:21
I now know that my real strength
316
1025724
3221
ไม่เคยได้มาจากร่างกายของฉัน
17:24
never came from my body,
317
1028945
3217
17:28
and although my physical capabilities have changed dramatically,
318
1032162
5007
และแม้กระทั่งความสามารถทางกายภาพของฉัน
จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงก็ตาม
จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงก็ตาม
17:33
who I am is unchanged.
319
1037169
3783
สิ่งที่ฉันเป็น ไม่เคยเปลี่ยนไป
17:36
The pilot light inside of me was still a light,
320
1040952
4339
แสงของนักบินภายในตัวฉันยังคงส่องแสง
เหมือนกับแสงสว่างภายในแต่ในละคน ของพวกเรา
17:41
just as it is in each and every one of us.
321
1045291
4697
17:45
I know that I'm not my body,
322
1049988
3223
ฉันรู้ว่า นั่นไม่ใช่ร่างกายฉัน
17:49
and I also know that you're not yours.
323
1053211
3448
และรู้ว่า คุณก็ไม่ใช่ร่างกายของคุณ
17:52
And then it no longer matters what you look like,
324
1056659
4276
และเมื่อมันไม่สำคัญอีกต่อไปว่าคุณจะรูปร่างยังไง
17:56
where you come from, or what you do for a living.
325
1060935
4318
คุณมาจากที่ไหน และทำงานอะไร
18:01
All that matters is that we continue to fan the flame of humanity
326
1065253
5447
สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะกระพือไฟแห่งความเป็นมนุษย์
18:06
by living our lives as the ultimate creative expression
327
1070700
4052
โดยการใช้ชีวิตของเราด้วยการแสดงออก
ที่สร้างสรรค์ที่แสนบรรเจิด
ที่สร้างสรรค์ที่แสนบรรเจิด
18:10
of who we really are,
328
1074752
3766
ของการเป็น'เรา'อย่างแท้จริง
18:14
because we are all connected
329
1078518
2806
เพราะเราถูกเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน
18:17
by millions and millions of straws,
330
1081324
4147
ด้วยหลอดหลายล้านหลอดเหล่านั้น (ที่เล่าไว้ตอนแรก)
18:21
and it's time to join those up
331
1085471
2921
และถึงเวลาแล้ว ที่เราจะหลอดมาต่อกัน
18:24
and to hang on.
332
1088392
1807
ยึดมั่นไว้ด้วยกัน
18:26
And if we are to move towards our collective bliss,
333
1090199
4364
และถ้าเราจะเคลื่อนไปข้างหน้าสู่ความสุขร่วมกัน
18:30
it's time we shed our focus on the physical
334
1094563
2723
ถึงเวลาที่เราจะสลัดจุดสนใจทางกายภาพ
18:33
and instead embrace the virtues of the heart.
335
1097286
3835
และมาโอบกอดความดีงามของหัวใจ
18:37
So raise your straws if you'll join me.
336
1101121
4079
ดังนั้น โปรดยกหลอดของคุณขึ้นมา
ถ้าคุณจะร่วมวงกับฉัน
ถ้าคุณจะร่วมวงกับฉัน
18:41
Thank you. (Applause)
337
1105200
6279
ขอบคุณ (เสียงปรบมือ)
18:47
Thank you.
338
1111479
4970
ขอบคุณ
ABOUT THE SPEAKER
Janine Shepherd - PilotAspiring Olympic skier Janine Shepherd was nearly killed when she was hit by a truck during a training bike ride. Paralysed and immobile for six months, she was given a grim picture for recovery. But not only did she teach herself to walk again— she learned to fly.
Why you should listen
Janine Shepherd is a “walking paraplegic.” Defying her disability, she has become a commercial pilot and aerobatics instructor, motivational speaker, best-selling author, and mother of three. A champion cross-country skier in training for the Calgary Olympics, Janine’s life changed forever when she was hit by a truck during a bicycle ride in the Blue Mountains of Australia. Doctors did not expect her to survive.
After six months in hospital—nearly all of it on her back—Janine focused intently on healing both her broken body and crushed morale. A turning point in her recovery came when a small plane flying overhead gave her the most improbable idea. “That’s it!” she exclaimed from her wheelchair. “If I can’t walk, I’ll fly.”
Still encased in a full body cast, Janine had to be lifted into an aircraft for her introductory flight lesson. But within a year she had defied the odds and earned her private pilot’s license. Her talent and skill as a pilot earned Janine a commercial pilot license and ultimately, her flying instructor’s rating. Then she decided to learn to fly upside down, and finally, to teach acrobatic flight to other pilots.
Janine is an ambassador for Spinal Cure Australia and Red Bull Wings For Life, and is committed to helping find a cure for spinal cord injury in the near future. She was awarded the Order of Australia, the nation’s highest honor. She is a contributor to Deepak Chopra’s workshops, and has been featured on 60 Minutes and This Is Your Life.
In the meantime, she seeks to inspire those coping with physical disability and life challenges. Janine is the author of six books, including the newly released memoir Defiant: A Broken Body Is Not a Broken Person. She regularly delivers inspirational keynotes to audiences of thousands in countries around the world.
Janine Shepherd | Speaker | TED.com