TEDGlobal 2010
Dan Cobley: What physics taught me about marketing
แดน โคบลีย์ (Dan Cobley): ฟิสิกส์สอนอะไรผมเกี่ยวกับการตลาด
Filmed:
Readability: 4.5
1,583,922 views
ฟิสิกส์และการตลาดดูจะไม่ค่อยมีอะไรเหมือนกันซักเท่าไหร่ แต่แดน โคบลีย์ที่หลงใหลทั้ง 2 สิ่ง ได้แสดงให้เราเห็นว่ากฎข้อที่สองของนิวตัน หลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก หลักการทางวิทยาศาสตร์ และกฎข้อที่สองของอุณหพลศาสตร์ สามารถอธิบายพื้นฐานของการสร้างแบรนด์ได้อย่างไร
Dan Cobley - Online marketing whiz
Dan Cobley is a marketing director at Google, where he connects customers and businesses, helping both navigate digital space to find what they need. Full bio
Dan Cobley is a marketing director at Google, where he connects customers and businesses, helping both navigate digital space to find what they need. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:16
So I work in marketing, which I love,
0
1000
2000
ตอนนี้ผมทำงานด้านการตลาด และผมรักมันมาก
00:18
but my first passion was physics,
1
3000
3000
แต่ฟิสิกส์คืออย่างแรกที่ผมหลงใหล
00:21
a passion brought to me by a wonderful school teacher,
2
6000
3000
ผมมีครูที่เยี่ยมมากๆ ท่านหนึ่ง เป็นผู้นำมันมาให้กับผม
00:24
when I had a little less gray hair.
3
9000
3000
ตั้งแต่ตอนที่ผมยังเด็ก
00:27
So he taught me
4
12000
2000
ท่านสอนผม
00:29
that physics is cool
5
14000
2000
ว่าฟิสิกส์นั้นเจ๋ง
00:31
because it teaches us so much about the world around us.
6
16000
2000
เพราะมันสอนให้เราได้รู้เกี่ยวกับโลกรอบๆ ตัวเรา
00:33
And I'm going to spend the next few minutes trying to convince you
7
18000
3000
และผมกำลังจะใช้เวลาไม่กี่นาทีนี้ ที่จะโน้มน้าวพวกคุณ
00:36
that physics can teach us something about marketing.
8
21000
3000
ว่าฟิสิกส์ก็สอนบางอย่างเกี่ยวกับการตลาดได้
00:39
So quick show of hands --
9
24000
2000
เอาล่ะ ไหนลองยกมือหน่อยซิครับ
00:41
who studied some marketing in university?
10
26000
2000
ว่าใครได้เรียนวิชาการตลาดในมหาวิทยาลัยบ้าง
00:43
Who studied some physics in university?
11
28000
2000
แล้วถ้าเป็นวิชาฟิสิกส์ในมหาวิทยาลัยล่ะ
00:45
Pretty good. And at school?
12
30000
2000
เยี่ยม แล้วถ้าเป็นที่โรงเรียนล่ะ
00:47
Okay, lots of you.
13
32000
2000
โอเค มีหลายคนทีเดียว
00:49
So, hopefully this will bring back some happy,
14
34000
2000
เพราะฉะนั้นผมหวังว่านี่จะนำมาซึ่งความทรงจำแสนสุข
00:51
or possibly some slightly disturbing memories.
15
36000
3000
หรือไม่ก็อาจเรียกความทรงจำที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่นัก
00:54
So, physics and marketing.
16
39000
3000
เอาล่ะ ฟิสิกส์กับการตลาด
00:58
We'll start with something very simple -- Newton's Law:
17
43000
2000
ผมจะเริ่มจากสิ่งที่ง่ายๆ ก่อน กฎของนิวตัน (Newton's Law)
01:00
"The force equals mass times acceleration."
18
45000
3000
"แรงเท่ากับมวลคูณด้วยความเร่ง"
01:03
This is something that perhaps Turkish Airlines
19
48000
2000
บางอย่างที่สายการบินตุรกี
01:05
should have studied a bit more carefully
20
50000
3000
น่าจะศึกษาเพิ่มเติมอีกซักหน่อย
01:08
before they ran this campaign.
21
53000
2000
ก่อนจะเริ่มติดโฆษณาอันนี้
01:10
(Laughter)
22
55000
3000
(เสียงหัวเราะ)
01:13
But if we rearrange this formula quickly,
23
58000
3000
แต่ถ้าเราลองเรียงตัวแปรในสูตรที่ว่านั้นใหม่
01:16
we can get to acceleration equals force over mass,
24
61000
3000
ความเร่งจะเท่ากับแรงหารด้วยมวล
01:19
which means
25
64000
2000
ซึ่งหมายความว่า
01:21
that for a larger particle -- a larger mass --
26
66000
3000
สำหรับสิ่งที่มีขนาดใหญ่ มีมวลมากๆ
01:24
it requires more force to change its direction.
27
69000
3000
ก็ยิ่งต้องการแรงที่มากยิ่งขึ้นในการเปลี่ยนทิศทาง
01:28
It's the same with brands:
28
73000
2000
เช่นเดียวกับการทำการตลาดของแบรนด์ต่างๆ
01:30
the more massive a brand, the more baggage it has,
29
75000
3000
ยิ่งใหญ่โตมากเท่าใด ก็ยิ่งเป็นที่รู้จัก
01:33
the more force is needed to change its positioning.
30
78000
3000
ยิ่งต้องอาศัยแรงกระตุ้นเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งผลิตภัณฑ์มากเท่านั้น
01:36
And that's one of the reasons why
31
81000
2000
และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม
01:38
Arthur Andersen chose to launch Accenture
32
83000
3000
อาเธอร์ แอนเดอร์เซน (Arthur Andersen) เลือกที่จะเปิดแอคเซนเจอร์ (Accenture)
01:41
rather than try to persuade the world
33
86000
2000
มากกว่าที่จะพยายามโน้มน้าวโลกให้เชื่อ
01:43
that Andersen's could stand for something
34
88000
2000
ว่าคำว่า "แอนเดอร์เซน" สามารถหมายถึงอย่างอื่น
01:45
other than accountancy.
35
90000
2000
นอกจากการทำบัญชีได้
01:47
It explains why Hoover
36
92000
2000
มันอธิบายว่าทำไม ฮูเวอร์ (Hoover)
01:49
found it very difficult to persuade the world
37
94000
2000
พบว่ามันยากเหลือเกินที่จะทำให้โลกเชื่อ
01:51
that it was more than vacuum cleaners,
38
96000
2000
ว่ามันเป็นมากกว่าแค่เครื่องดูดฝุ่น
01:53
and why companies like Unilever and P&G
39
98000
3000
และอธิบายว่าทำไมบริษัทอย่าง ยูนิลิเวอร์ (Unilever) และพีแอนด์จี (P&G)
01:56
keep brands separate,
40
101000
2000
ถึงได้แยกแบรนด์สินค้าแต่ละแบบออกจากกัน
01:58
like Ariel and Pringles and Dove
41
103000
3000
เช่น เอเรียล (Ariel) และพริงเกิ้ลส์ (Pringles) และโดฟ (Dove)
02:01
rather than having one giant parent brand.
42
106000
3000
มากกว่าการใช้แบรนด์ใหญ่ๆ เพียงแบรนด์เดียว
02:05
So the physics is that the bigger the mass of an object
43
110000
3000
เอาล่ะ ฟิสิกส์บอกว่ายิ่งมวลมีขนาดใหญ่เท่าใด
02:08
the more force is needed
44
113000
2000
ก็ยิ่งต้องใช้แรงมากขึ้น
02:10
to change its direction.
45
115000
2000
ในการเปลี่ยนทิศทางของมัน
02:12
The marketing is, the bigger a brand,
46
117000
2000
การตลาดบอกว่า ยิ่งผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักมากเท่าใด
02:14
the more difficult it is to reposition it.
47
119000
2000
มันก็ยิ่งยากที่จะเปลี่ยนแปลงมันเท่านั้น
02:16
So think about a portfolio of brands
48
121000
2000
ลองคิดไปถึงแบรนด์ต่างๆ
02:18
or maybe new brands for new ventures.
49
123000
3000
หรือไม่พวกแบรนด์ใหม่ๆ ของบริษัทที่ร่วมทุนกันดู
02:21
Now, who remembers Heisenberg's uncertainty principle?
50
126000
3000
เอาล่ะใครจำทฤษฎีหลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก (Heisenberg's uncertainty principle) ได้บ้าง
02:24
Getting a little more technical now.
51
129000
2000
เราจะมาลงเนื้อหาทางวิชาการกันมากขึ้นแล้วนะ
02:26
So this says that
52
131000
2000
ทฤษฎีนี้กล่าวเอาไว้ว่า
02:28
it's impossible, by definition,
53
133000
2000
มันเป็นไปไม่ได้
02:30
to measure exactly the state -- i.e., the position --
54
135000
2000
ที่จะวัดค่าใดๆ ได้อย่างแม่นยำ เช่น ตำแหน่ง
02:32
and the momentum of a particle,
55
137000
2000
หรือโมเมนตัมของอนุภาคใดๆ
02:34
because the act of measuring it, by definition, changes it.
56
139000
3000
เพราะการวัดค่ามัน จะส่งผลให้มันเปลี่ยนแปลงไปด้วย
02:37
So to explain that -- if you've got an elementary particle
57
142000
2000
ถ้าคุณมีอนุภาคมูลฐานอยู่อนุภาคหนึ่ง
02:39
and you shine a light on it,
58
144000
2000
และคุณฉายไฟลงบนตัวมัน
02:41
then the photon of light has momentum,
59
146000
3000
โฟตอนของแสงมีโมเมนตัม
02:44
which knocks the particle,
60
149000
3000
ซึ่งจะชนเข้ากับอนุภาคนั้น
02:47
so you don't know where it was before you looked at it.
61
152000
3000
คุณเลยไม่สามารถรู้ได้อย่างแน่นอนว่า มันอยู่ตรงไหนแน่ ก่อนที่คุณจะมองมัน
02:50
By measuring it,
62
155000
2000
การวัดค่า
02:52
the act of measurement changes it.
63
157000
2000
มีผลทำให้ค่าที่ได้เปลี่ยนแปลงไป
02:54
The act of observation changes it.
64
159000
2000
การเฝ้าสังเกตทำให้มันเปลี่ยนไป
02:56
It's the same in marketing.
65
161000
2000
เช่นเดียวกับการตลาด
02:58
So with the act of observing consumers, changes their behavior.
66
163000
3000
การเฝ้าสังเกตผู้บริโภค ทำให้พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลง
03:01
Think about the group of moms
67
166000
3000
ลองคิดถึงกลุ่มของแม่ๆ ทั้งหลาย
03:04
who are talking about their wonderful children in a focus group,
68
169000
3000
ที่พูดถึงลูกที่น่ารักน่าชังของพวกเขาในการสำรวจ
03:07
and almost none of them buy lots of junk food.
69
172000
3000
แทบไม่มีซักคนบอกว่าได้ซื้ออาหารขยะมามากมาย
03:10
And yet, McDonald's sells hundreds of millions of burgers every year.
70
175000
3000
แต่ถึงกระนั้น แมคโดนัลด์ก็ยังขายเบอร์เกอร์ได้นับร้อยล้านชิ้นต่อปี
03:13
Think about the people who are on accompanied shops in supermarkets,
71
178000
3000
ลองคิดถึงคนที่ถูกสำรวจพฤติกรรมการจับจ่ายซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต
03:16
who stuff their trolleys
72
181000
2000
ที่หยิบผัก ผลไม้นานาชนิด
03:18
full of fresh green vegetables and fruit,
73
183000
2000
ใส่ลงในไปรถเข็น
03:20
but don't shop like that any other day.
74
185000
3000
แต่ไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างนั้นในวันอื่นๆ
03:23
And if you think about the number of people
75
188000
2000
คุณลองคิดไปถึงจำนวนคน
03:25
who claim in surveys
76
190000
2000
ที่ตอบในแบบสำรวจ
03:27
to regularly look for porn on the Web,
77
192000
2000
ว่าได้ดูภาพโป๊ผ่านอินเตอร์เนทเป็นประจำ
03:29
it's very few.
78
194000
2000
ที่มีน้อยมากๆ
03:31
Yet, at Google, we know it's the number-one searched for category.
79
196000
3000
แต่ที่กูเกิ้ล (Google) เรารู้ว่ามันคือคำค้นหาลำดับต้นๆ
03:35
So luckily, the science --
80
200000
2000
โชคดี ที่วิทยาศาสตร์
03:37
no, sorry -- the marketing is getting easier.
81
202000
3000
ไม่สิ ที่การตลาดกำลังจะง่ายขึ้น
03:40
Luckily, with now better point-of-sale tracking,
82
205000
3000
โชคดีที่ตอนนี้เรามีระบบการติดตาม
03:43
more digital media consumption,
83
208000
2000
การบริโภคสื่อดิจิตอลที่ดียิ่งขึ้น
03:45
you can measure more what consumers actually do,
84
210000
3000
คุณสามารถรู้ได้ว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมจริงๆ เช่นไร
03:48
rather than what they say they do.
85
213000
2000
มากกว่าที่พวกเขาบอกว่าเขาเป็น
03:50
So the physics is
86
215000
2000
สำหรับฟิสิกส์
03:52
you can never accurately and exactly
87
217000
2000
คุณไม่มีทางวัดค่าอนุภาคหนึ่งๆ
03:54
measure a particle,
88
219000
2000
ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
03:56
because the observation changes it.
89
221000
2000
เพราะว่าการสังเกตมันจะเปลี่ยนมันไป
03:58
The marketing is -- the message for marketing is --
90
223000
3000
สำหรับการตลาด
04:01
that try to measure what consumers actually do,
91
226000
3000
คุณต้องพยายามหาว่าผู้บริโภคทำอะไรจริงๆ
04:04
rather than what they say they'll do
92
229000
2000
ไม่ใช่แค่สิ่งที่พวกเขาบอกว่าพวกเขาทำ
04:06
or anticipate they'll do.
93
231000
3000
หรือพวกเขากำลังคิดว่าจะทำ
04:09
So next, the scientific method --
94
234000
3000
ข้อต่อไป เกี่ยวกับขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์
04:12
an axiom of physics, of all science --
95
237000
2000
หลักการของฟิสิกส์ และของวิทยาศาสตร์ทั้งมวล
04:14
says you cannot prove a hypothesis through observation,
96
239000
2000
บอกว่าการสังเกตไม่สามารถพิสูจน์สมมติฐานใดๆ ได้
04:16
you can only disprove it.
97
241000
2000
ทำได้เพียงการหักล้างเท่านั้น
04:18
What this means is you can gather more and more data
98
243000
3000
ยิ่งคุณเก็บข้อมูล
04:21
around a hypothesis or a positioning,
99
246000
2000
เกี่ยวกับข้อสมมติฐานมากเท่าไหร่
04:23
and it will strengthen it, but it will not conclusively prove it.
100
248000
3000
ยิ่งทำให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปข้อพิสูจน์ใดๆ ได้อยู่ดี
04:26
And only one contrary data point
101
251000
2000
เพราะเพียงข้อมูล 1 ชุดที่แสดงออกถึงความขัดแย้ง
04:28
can blow your theory out of the water.
102
253000
3000
ก็ยังมีผลทำให้ทฤษฎีของคุณตกกระป๋องได้ทันที
04:31
So if we take an example --
103
256000
2000
เรามาลองดูตัวอย่างกัน
04:33
Ptolemy had dozens of data points to support his theory
104
258000
3000
ปโตเลมี (Ptolemy) มีข้อมูลนับโหลที่สนับสนุนต่อทฤษฎีของเค้า
04:36
that the planets would rotate around the Earth.
105
261000
3000
ที่กล่าวว่าดาวเคราะห์ทุกดวงนั้นหมุนรอบโลก
04:39
It only took one robust observation from Copernicus
106
264000
3000
โคเปอร์นิคัส (Copernicus) ใช้แค่การสังเกตอย่างละเอียดเพียงครั้งเดียว
04:42
to blow that idea out of the water.
107
267000
3000
ความคิดนั้นก็ตกกระป๋องไป
04:45
And there are parallels for marketing --
108
270000
2000
เช่นเดียวกับการตลาด
04:47
you can invest for a long time in a brand,
109
272000
3000
คุณอาจลงทุนในแบรนด์หนึ่งมาเป็นเวลานาน
04:50
but a single contrary observation of that positioning
110
275000
2000
แต่หากพบจุดขัดแย้งในการกำหนดตำแหน่งของผลิตภัณฑ์เพียงจุดเดียว
04:52
will destroy consumers' belief.
111
277000
3000
ก็อาจทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของคุณได้
04:55
Take BP --
112
280000
2000
ลองดูบีพี (BP, บริษัทน้ำมันระดับโลก)
04:57
they spent millions of pounds over many years
113
282000
2000
พวกเค้าใช้เงินนับล้านปอนด์
04:59
building up its credentials as an environmentally friendly brand,
114
284000
3000
ในการสร้างภาพว่าเป็นบริษัทที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ
05:02
but then one little accident.
115
287000
3000
แต่ก็จบลงด้วยอุบัติเหตุเล็กๆ เพียงครั้งเดียว
05:05
Think about Toyota.
116
290000
2000
ลองคิดถึงโตโยต้า
05:07
It was, for a long time, revered
117
292000
2000
ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของรถที่ไว้ใจได้มากที่สุด
05:09
as the most reliable of cars,
118
294000
2000
มาเป็นเวลานาน
05:11
and then they had the big recall incident.
119
296000
3000
แต่ก็เกิดการเรียกสินค้ากลับครั้งยิ่งใหญ่
05:14
And Tiger Woods, for a long time,
120
299000
2000
และไทเกอร์ วู๊ด (Tiger Woods)
05:16
the perfect brand ambassador.
121
301000
2000
เป็นตัวทูตประจำแบรนด์ที่ยอดเยี่ยมเป็นเวลานาน
05:18
Well, you know the story.
122
303000
2000
แต่ก็นะ คุณก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้วนี่
05:20
(Laughter)
123
305000
6000
(เสียงหัวเราะ)
05:26
So the physics is
124
311000
2000
ฟิสิกส์บอกไว้ว่า
05:28
that you cannot prove a hypothesis,
125
313000
2000
คุณไม่สามารถพิสูจน์สมมติฐานได้
05:30
but it's easy to disprove it --
126
315000
2000
แต่มันง่ายมากที่จะหักล้างมัน
05:32
any hypothesis is shaky.
127
317000
2000
ไม่ว่ากับสมมติฐานใดๆ ก็ตาม
05:34
And the marketing is
128
319000
2000
และสำหรับการตลาด
05:36
that not matter how much you've invested in your brand,
129
321000
3000
ไม่ว่าคุณลงทุนกับแบรนด์มากแค่ไหน
05:39
one bad week can undermine decades of good work.
130
324000
3000
แค่ 1 อาทิตย์แย่ๆ ก็ทำลายผลงานนับ 10 ปีได้
05:42
So be really careful to try and avoid the screw-ups
131
327000
2000
เพราะฉะนั้นจงระวังความผิดพลาด
05:44
that can undermine your brand.
132
329000
2000
ที่อาจทำร้ายผลิตภัณฑ์ของคุณให้ดี
05:47
And lastly, to the slightly obscure world of entropy --
133
332000
3000
และข้อสุดท้าย ในโลกอันลึกลับของเอนโทรปี (Entropy)
05:50
the second law of thermodynamics.
134
335000
2000
หรือกฎข้อที่สองของอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamics)
05:52
This says that entropy,
135
337000
2000
กล่าวเอาไว้ว่าเอนโทรปี
05:54
which is a measure of the disorder of a system,
136
339000
2000
ซึ่งก็คือการวัดความไม่เป็นระเบียบของระบบใดๆ
05:56
will always increase.
137
341000
2000
จะเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ
05:58
The same is true of marketing.
138
343000
2000
ซึ่งก็เป็นจริงในโลกของการตลาด
06:00
If we go back 20 years,
139
345000
2000
ถ้าเราย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน
06:02
the one message pretty much controlled by one marketing manager
140
347000
3000
เพียงข้อความเดียว จากผู้จัดการฝ่ายการตลาด
06:05
could pretty much define a brand.
141
350000
3000
ก็สามารถสื่อความเป็นแบรนด์ได้แล้ว
06:08
But where we are today, things have changed.
142
353000
3000
แต่ในโลกทุกวันนี้ หลายอย่างได้เปลี่ยนไป
06:11
You can get a strong brand image
143
356000
2000
คุณสามารถมีภาพลักษณ์
06:13
or a message
144
358000
2000
หรือข้อความที่แข็งแรง
06:15
and put it out there like the Conservative Party did
145
360000
2000
และแขวนมันไว้อย่างที่พรรคอนุรักษ์นิยมทำ
06:17
earlier this year with their election poster.
146
362000
3000
เมื่อต้นปีนี้ กับป้ายหาเสียงของพวกเขา
06:20
But then you lose control of it.
147
365000
3000
และคุณเสียการควบคุมมัน
06:23
With the kind of digital comment creation and distribution tools
148
368000
3000
ให้กับการแสดงความคิดเห็นทางดิจิตอล หรือช่องทางใหม่ๆ
06:26
that are available now to every consumer,
149
371000
3000
ที่เข้าถึงได้โดยผู้บริโภคทุกคน
06:29
it's impossible to control where it goes.
150
374000
3000
มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมทิศทางของมัน
06:32
Your brand starts being dispersed,
151
377000
2000
แบรนด์ของคุณเริ่มไปคนละทิศละทาง
06:34
(Laughter)
152
379000
2000
(เสียงหัวเราะ)
06:36
it gets more chaotic.
153
381000
2000
และมันเสียหายมากขึ้นๆ
06:38
(Laughter)
154
383000
2000
(เสียงหัวเราะ)
06:40
It's out of your control.
155
385000
2000
จนคุณไม่สามารถควบคุมได้
06:42
(Laughter)
156
387000
5000
(เสียงหัวเราะ)
06:47
I actually saw him speak -- he did a good job.
157
392000
2000
ผมเคยดูเค้าพูด และเค้าทำได้ดีทีเดียว
06:49
But while this may be unsettling for marketers,
158
394000
2000
และถึงแม้มันอาจดูแย่สำหรับนักการตลาด
06:51
it's actually a good thing.
159
396000
2000
แต่มันก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน
06:53
This distribution of brand energy
160
398000
2000
เจ้าช่องทางใหม่ๆ นี่
06:55
gets your brand closer to the people,
161
400000
2000
ทำให้คนเข้าถึงแบรนด์ของคุณ
06:57
more in with the people.
162
402000
2000
ได้มากขึ้น
06:59
It makes this distribution of energy a democratizing force,
163
404000
3000
มันก่อให้เกิดเป็นพลังงานของมวลชน
07:02
which is ultimately good for your brand.
164
407000
3000
ที่ในที่สุดจะส่งผลดีต่อแบรนด์ของคุณ
07:05
So, the lesson from physics is
165
410000
2000
เพราะฉะนั้น บทเรียนจากฟิสิกส์
07:07
that entropy will always increase; it's a fundamental law.
166
412000
3000
กฎพื้นฐานที่ว่าเอนโทรปีจะเพิ่มขึ้นเสมอ
07:10
The message for marketing is that your brand is more dispersed.
167
415000
3000
และสำหรับการตลาด แบรนด์ของคุณจะยุ่งเหยิงมากขึ้น
07:13
You can't fight it, so embrace it
168
418000
2000
คุณหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ จงยอมรับมัน
07:15
and find a way to work with it.
169
420000
3000
และหาวิธีจัดการกับมันซะ
07:18
So to close,
170
423000
2000
และเพื่อจบการพูดนี้
07:20
my teacher, Mr. Vutter, told me
171
425000
2000
คุณครูวัตเตอร์ของผมบอกว่า
07:22
that physics is cool,
172
427000
2000
ฟิสิกส์นั้นเจ๋ง
07:24
and hopefully, I've convinced you
173
429000
2000
และหวังว่านี่จะช่วยโน้มน้าวคุณ
07:26
that physics can teach all of us, even in the world of marketing, something special.
174
431000
3000
ว่าฟิสิกส์สามารถสอนให้เราเห็นถึงความมหัศจรรย์ ไม่เว้นแม้แต่กับโลกของการตลาดได้
07:29
Thank you.
175
434000
2000
ขอบคุณครับ
07:31
(Applause)
176
436000
2000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Dan Cobley - Online marketing whizDan Cobley is a marketing director at Google, where he connects customers and businesses, helping both navigate digital space to find what they need.
Why you should listen
In 2006, Dan Cobley was appointed director of marketing at Google for central and northern Europe. He shows customers the best way to use Google products to find the information and services they’re searching for, while working with businesses to demonstrate how a search engine can help them find interested customers.
Before Google, Cobley was the vice president of branding and marketing for Capital One and the marketing director of Ask Jeeves. He’s worked in both the UK and US, but always in marketing although his first degree from Oxford is in physics.
More profile about the speakerBefore Google, Cobley was the vice president of branding and marketing for Capital One and the marketing director of Ask Jeeves. He’s worked in both the UK and US, but always in marketing although his first degree from Oxford is in physics.
Dan Cobley | Speaker | TED.com