TEDxPennQuarter
Christopher McDougall: Are we born to run?
คริสโตเฟอร์ แมคโดกอล: หรือว่าพวกเราเกิดมาเพื่อวิ่ง?
Filmed:
Readability: 3.6
3,807,943 views
คริสโตเฟอร์ แมคโดกอล ได้สำรวจความปรารถนาอันลี้ลับของมนุษย์ที่จะวิ่ง การวิ่งได้ช่วยเหลือมนุษย์ในยุคเริ่มแรกอย่างไร และแรงกระตุ้นใดของเหล่าบรรพบุรุษที่ยังส่งคงผลมาสู่เราทุกวันนี้ ที่ TEDxPennQuarter เขาได้เล่าเรื่องของนักมาราธอนที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อ คนที่ไม่น่าที่จะเป็นสุดยอดนักวิ่งได้ และชนเผ่าลึกลับในเม็กซิโกที่วิ่งเพื่อเอาชีวิตรอด
Christopher McDougall - Journalist, runner
Christopher McDougall is the author of "Born to Run: A Hidden Tribe, Super Athletes, and the Greatest Race the World Has Never Seen." Full bio
Christopher McDougall is the author of "Born to Run: A Hidden Tribe, Super Athletes, and the Greatest Race the World Has Never Seen." Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
Running -- it's basically just right, left, right, left -- yeah?
0
0
3000
การวิ่งเนี่ย มันก็แค่ ขวา ซ้าย ขวา ซ้าย ใช่มั้ยครับ?
00:18
I mean, we've been doing it for two million years,
1
3000
2000
ผมหมายถึงว่าพวกเราได้ทำมันมามากกว่า 2 ล้านปีมาแล้ว
00:20
so it's kind of arrogant to assume
2
5000
3000
มันก็เลยดูเหมือนอวดดีที่จะบอกว่า
00:23
that I've got something to say
3
8000
2000
ผมมีอะไรที่จะพูดเกี่ยวกับมัน
00:25
that hasn't been said and performed better a long time ago.
4
10000
3000
ที่ยังไม่ได้ถูกพูดถึงและถูกแสดงออกมาได้ดีมากกว่านี้เมื่อนานมาแล้ว
00:28
But the cool thing about running, as I've discovered,
5
13000
2000
แต่สิ่งที่เจ๋งเกี่ยวกับการวิ่ง อย่างที่ผมได้พบคือ
00:30
is that something bizarre happens
6
15000
2000
ว่ามันมักจะมีสิ่งแปลกๆ เกิดขึ้น
00:32
in this activity all the time.
7
17000
2000
ในกิจกรรมนี้อยู่เสมอๆ
00:34
Case in point: A couple months ago, if you saw the New York City Marathon,
8
19000
3000
ยกตัวอย่างเช่น 2-3 เดือนที่ผ่านมา ถ้าหากคุณได้ดูการวิ่งมาราธอนของเมืองนิวยอร์ค
00:37
I guarantee you, you saw something
9
22000
2000
ผมยืนยันได้ว่าคุณจะเห็นอะไรบางอย่าง
00:39
that no one has ever seen before.
10
24000
3000
ที่ไม่มีใครเคยได้เห็นมาก่อน
00:42
An Ethiopian woman named Derartu Tulu
11
27000
2000
หญิงชาวเอธิโอเปียที่ชื่อว่า เดอราตู ตูลู (Derartu Tulu)
00:44
turns up at the starting line.
12
29000
2000
เข้ามาถึงที่เส้นเริ่มต้น
00:46
She's 37 years old,
13
31000
2000
เธออายุ 37 ปี
00:48
she hasn't won a marathon of any kind in eight years,
14
33000
2000
ในระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยชนะการวิ่งมาราธอนใดๆ
00:50
and a few months previously
15
35000
2000
อีกทั้งไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้น
00:52
she almost died in childbirth.
16
37000
2000
เธอเองก็เกือบที่จะเสียชีวิตระหว่างการคลอดบุตร
00:54
Derartu Tulu was ready to hang it up and retire from the sport,
17
39000
3000
เดอราตู ตูลู กำลังพร้อมที่จะเลิกเล่นกีฬาชนิดนี้
00:57
but she decided she'd go for broke
18
42000
2000
แต่แล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อ
00:59
and try for one last big payday
19
44000
2000
และลองเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเงินก้อนโต
01:01
in the marquee event,
20
46000
2000
ในงานใหญ่
01:03
the New York City Marathon.
21
48000
2000
ที่การวิ่งมาราธอนประจำเมืองนิวยอร์ก
01:05
Except -- bad news for Derartu Tulu -- some other people had the same idea,
22
50000
3000
เสียแต่ว่า ข่าวร้ายสำหรับ เดอราตู ตูลู ที่คนอื่นๆ ก็มีความคิดแบบเดียวกัน
01:08
including the Olympic gold medalist
23
53000
2000
ซึ่งรวมไปถึงนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก
01:10
and Paula Radcliffe, who is a monster,
24
55000
3000
และพอลล่า แรดคลิฟท์ (Paula Radcliffe) ซึ่งเหมือนกับอสูรกาย
01:13
the fastest woman marathoner in history by far.
25
58000
4000
ผู้หญิงที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของการวิ่งมาราธอน
01:17
Only 10 minutes off the men's world record,
26
62000
2000
ซึ่งทำสถิติห่างจากสถิติของผู้ชายเพียง 10 นาที
01:19
Paula Radcliffe is essentially unbeatable.
27
64000
3000
พอลล่า แรดคลิฟท์ไม่มีทางที่จะถูกโค่นลงได้
01:22
That's her competition.
28
67000
2000
นั่นแหละคือคู่แข่งของเธอ
01:24
The gun goes off, and she's not even an underdog.
29
69000
3000
เมื่อเสียงปืนดังขึ้น เธอไม่ใช่แค่เป็นหมารองบ่อน
01:27
She's under the underdogs.
30
72000
2000
เธอเป็นยิ่งกว่าหมารองบ่อนซะอีก
01:29
But the under-underdog hangs tough,
31
74000
2000
แต่คนที่ยิ่งกว่าหมารองบ่อนนี้ไม่ยอมลดละ
01:31
and 22 miles into a 26-mile race,
32
76000
3000
และที่ระยะทาง 22 จากการแข่งขันระยะ 26 ไมล์
01:34
there is Derartu Tulu
33
79000
2000
ก็มีเดอราตู ตูลู
01:36
up there with the lead pack.
34
81000
2000
อยู่ด้านหน้ารวมกับกลุ่มผู้นำ
01:38
Now this is when something really bizarre happens.
35
83000
3000
ตอนนี้แหละที่มีบางอย่างแปลกประหลาดเกิดขึ้น
01:41
Paula Radcliffe, the one person who is sure to snatch the big paycheck
36
86000
3000
พอลล่า แรดคลิฟท์ คนๆ เดียวที่น่าจะได้รับรางวัลก้อนโตกลับบ้าน
01:44
out of Derartu Tulu's under-underdog hands,
37
89000
3000
คนที่เป็นรองกว่าหมารองบ่อนอย่างเดอราตู ตูลูไม่สามารถที่จะอาจเอื้อมได้
01:47
suddenly grabs her leg and starts to fall back.
38
92000
3000
ก็จับขาของเธอ และเริ่มที่จะวิ่งช้าลง
01:50
So we all know what to do in this situation, right?
39
95000
2000
ในสถานการณ์อย่างนี้ พวกเราคงรู้ว่าควรทำอย่างไรใช่มั้ยครับ?
01:52
You give her a quick crack in the teeth with your elbow
40
97000
2000
คุณควรที่จะเอาศอกกระแทกหน้าเธอซะ
01:54
and blaze for the finish line.
41
99000
2000
และรีบพุ่งเข้าเส้นชัย
01:57
Derartu Tulu ruins the script.
42
102000
2000
แต่เดอราตู ตูลูกลับสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด
01:59
Instead of taking off,
43
104000
2000
แทนที่จะรีบมุ่งหน้าเข้าเส้นชัย
02:01
she falls back, and she grabs Paula Radcliffe,
44
106000
2000
เธอวิ่งช้าลง และจับพอลล่า แรดคลิฟท์เอาไว้
02:03
says, "Come on. Come with us. You can do it."
45
108000
2000
และพูดว่า "เอาน่ะ มากับพวกเรา คุณทำได้"
02:05
So Paula Radcliffe, unfortunately, does it.
46
110000
2000
บังเอิญว่าพอลล่า แรดคลิฟท์สามารถทำได้
02:07
She catches up with the lead pack
47
112000
2000
เธอตามกลุ่มผู้นำได้ทัน
02:09
and is pushing toward the finish line.
48
114000
2000
และกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เส้นชัย
02:11
But then she falls back again.
49
116000
2000
แต่แล้วเธอก็เริ่มช้าลงอีกครั้ง
02:13
And the second time Derartu Tulu grabs her and tries to pull her.
50
118000
2000
และเป็นครั้งที่สอง ที่เดอราตู ตูลูจับเธอเอาไว้ และพยายามที่จะดึงเธอให้ไปด้วยกัน
02:15
And Paula Radcliffe at that point says,
51
120000
2000
และพอลล่า แรดคลิฟท์ในตอนนั้นพูดว่า
02:17
"I'm done. Go."
52
122000
2000
"ฉันพอแล้ว ไปเถอะ"
02:19
So that's a fantastic story, and we all know how it ends.
53
124000
3000
และนั่นแหละคือเรื่องราวอันยอดเยี่ยม ที่เรารู้ว่ามันจะจบยังไง
02:22
She loses the check,
54
127000
2000
เธออดได้เงินรางวัล
02:24
but she goes home with something bigger and more important.
55
129000
2000
แต่ก็กลับบ้านไปพร้อมกับบางอย่างที่ยิ่งใหญ่และสำคัญมากกว่า
02:26
Except Derartu Tulu ruins the script again --
56
131000
3000
ยกเว้นเสียแต่ว่า เดอราตู ตูลูได้ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดอีกครั้ง
02:29
instead of losing, she blazes past the lead pack and wins,
57
134000
3000
แทนที่จะแพ้ เธอกลับวิ่งแซงกลุ่มผู้นำ และชนะการแข่ง
02:32
wins the New York City Marathon,
58
137000
2000
มาราธอนประจำเมืองนิวยอร์ก
02:34
goes home with a big fat check.
59
139000
2000
กลับบ้านไปพร้อมกับเงินรางวัลก้อนโต
02:36
It's a heartwarming story,
60
141000
2000
มันเป็นเรื่องราวที่น่าตื้นตันใจ
02:38
but if you drill a little bit deeper,
61
143000
2000
แต่ถ้าคุณขุดลึกเข้าไปอีกซักนิด
02:40
you've got to sort of wonder about what exactly was going on there.
62
145000
3000
คุณก็คงต้องสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
02:43
When you have two outliers in one organism,
63
148000
2000
เมื่อไหร่ที่มันมีสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เกิดขึ้นถึงสองครั้ง ในคราวเดียว
02:45
it's not a coincidence.
64
150000
2000
มันไม่ใช่แค่เหตุบังเอิญ
02:47
When you have someone who is more competitive and more compassionate
65
152000
3000
เมื่อคุณมีใครบางคนที่มีความปรารถนาที่จะชนะและมีความเห็นอกเห็นใจ
02:50
than anybody else in the race, again, it's not a coincidence.
66
155000
3000
มากกว่าใครๆ ในการแข่ง มันไม่ใช่เหตุบังเอิญ
02:53
You show me a creature with webbed feet and gills;
67
158000
3000
ถ้าคุณให้ผมดูสิ่งมีชีวิตที่มีขาเป็นพังผืดและมีเหงือกเหมือนปลา
02:56
somehow water's involved.
68
161000
2000
ด้วยเหตุผลใดก็ตามมันต้องเกี่ยวกับน้ำอย่างแน่นอน
02:58
Someone with that kind of heart, there's some kind of connection there.
69
163000
3000
คนที่มีจิตใจแบบนั้น มันต้องมีความเชื่อมโยงอะไรบางอย่าง
03:01
And the answer to it, I think,
70
166000
2000
และผมว่าคำตอบของมันนั้น
03:03
can be found down in the Copper Canyons of Mexico,
71
168000
3000
สามารถถูกพบได้ที่ Copper Canyons ของแมกซิโก
03:06
where there's a tribe, a reclusive tribe,
72
171000
2000
ที่ๆ มีชาวเผ่าอันสันโดษ
03:08
called the Tarahumara Indians.
73
173000
2000
ที่ถูกเรียกว่า ทาราฮูมารา อินเดียน (Tarahumara Indians)
03:10
Now the Tarahumara are remarkable for three things.
74
175000
3000
พวกทาราฮูมารานี้ มีความยอดเยี่ยมอยู่ 3 อย่างด้วยกัน
03:13
Number one is,
75
178000
2000
หนึ่งเลยก็คือ
03:15
they have been living essentially unchanged
76
180000
2000
พวกเขาใช้ชีวิตอย่างไม่เปลี่ยนแปลง
03:17
for the past 400 years.
77
182000
2000
มาเป็นเวลากว่า 400 ปีแล้ว
03:19
When the conquistadors arrived in North America you had two choices:
78
184000
3000
เมื่อเหล่าผู้ล่าอาณานิคมมาถึงที่อเมริกาเหนือ คุณมีอยู่ 2 ทางเลือก
03:22
you either fight back and engage or you could take off.
79
187000
3000
คุณสามารถที่จะสู้กลับ หรือคุณสามารถที่จะหนี
03:25
The Mayans and Aztecs engaged,
80
190000
2000
พวกมายันและแอซเทคเลือกที่จะสู้
03:27
which is why there are very few Mayans and Aztecs.
81
192000
3000
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเหลือชาวมายันและแอซเทคน้อยเหลือเกิน
03:30
The Tarahumara had a different strategy.
82
195000
2000
พวกทาราฮูมาราเลือกที่จะทำต่างออกไป
03:32
They took off and hid
83
197000
2000
พวกเค้าเลือกที่จะหนีและหลบซ่อนตัว
03:34
in this labyrinthine, networking,
84
199000
2000
อยู่ในเขาวงกต
03:36
spiderwebbing system of canyons
85
201000
2000
ที่เป็นเหมือนเครือข่ายใยแมงมุมของหุบเขาลึก
03:38
called the Copper Canyons,
86
203000
2000
ที่ถูกเรียกว่า Copper Canyons
03:40
and there they remained since the 1600s --
87
205000
3000
และพวกเขาก็อยู่ที่นั่นมาตั้งแต่ประมาณ ค.ศ. 1600
03:43
essentially the same way they've always been.
88
208000
4000
อยู่เรื่อยๆ อย่างไม่เปลี่ยนแปลงตลอดมา
03:47
The second thing remarkable about the Tarahumara
89
212000
3000
อย่างที่ 2 ที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับชาวทาราฮูมารา
03:50
is, deep into old age -- 70 to 80 years old --
90
215000
3000
คือในช่วงชรา ประมาณช่วงอายุ 70 ถึง 80 ปี
03:53
these guys aren't running marathons;
91
218000
2000
พวกเขาไม่ได้วิ่งมาราธอน
03:55
they're running mega-marathons.
92
220000
2000
แต่พวกเขาวิ่งมหามาราธอน
03:57
They're not doing 26 miles;
93
222000
2000
พวกเขาไม่ได้วิ่งระยะเพียง 26 ไมล์
03:59
they're doing 100, 150 miles at a time,
94
224000
3000
แต่พวกเขาวิ่งครั้งละ 100 ถึง 150 ไมล์
04:02
and apparently without injury, without problems.
95
227000
3000
โดยไม่มีปัญหา ไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ
04:05
The last thing that's remarkable about the Tarahumara
96
230000
2000
อย่างสุดท้ายที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับพวกเค้า
04:07
is that all the things that we're going to be talking about today,
97
232000
2000
ก็คือเรื่องราวทั้งหมดที่พวกเรากำลังจะพูดถึงในวันนี้
04:09
all the things that we're trying to come up with
98
234000
2000
เรื่องราวทั้งหมดที่พวกเราคิดค้นกันมา
04:11
using all of our technology and brain power to solve --
99
236000
3000
ที่ใช้ทั้งเทคโนโลยีและปัญญาในการวิเคราะห์
04:14
things like heart disease and cholesterol and cancer
100
239000
2000
เรื่องอย่างโรคหัวใจ, คอเลสเตอรอล และมะเร็ง
04:16
and crime and warfare and violence and clinical depression --
101
241000
3000
เรื่องของอาชญากรรม, การสู้รบ, ความรุนแรง และความเครียด
04:19
all this stuff, the Tarahumara don't know what you're talking about.
102
244000
3000
เรื่องพวกนี้ ชาวทาราฮูมารา ไม่รู้ว่าพวกเรากำลังพูดถึงอะไร
04:22
They are free
103
247000
2000
พวกเขาเป็นอิสระ
04:24
from all of these modern ailments.
104
249000
2000
จากโรคสมัยใหม่พวกนี้
04:26
So what's the connection?
105
251000
2000
เพราะฉะนั้นแล้วมันเชื่อมต่อกันตรงไหนล่ะ?
04:28
Again, we're talking about outliers --
106
253000
2000
อีกครั้งที่เรากำลังพูดถึงสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
04:30
there's got to be some kind of cause and effect there.
107
255000
2000
มันจะต้องมีเหตุมีผลอะไรซักอย่างที่นี่
04:32
Well, there are teams of scientists
108
257000
2000
ทีมนักวิทยาศาตร์
04:34
at Harvard and the University of Utah
109
259000
2000
จากทั้งฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยยูทาร์
04:36
that are bending their brains to try to figure out
110
261000
2000
กำลังพยายามขบคิดเพื่อหาคำตอบ
04:38
what the Tarahumara have known forever.
111
263000
3000
ถึงสิ่งที่ชาวทาราฮูมารารู้มาโดยตลอด
04:41
They're trying to solve those same kinds of mysteries.
112
266000
3000
พวกเขากำลังพยายามหาคำตอบของเรื่องลี้ลับเดียวกัน
04:44
And once again, a mystery wrapped inside of a mystery --
113
269000
3000
และเป็นอีกครั้งที่มันเป็นเรื่องลี้ลับ ภายในเรื่องลึกลับ
04:47
perhaps the key to Derartu Tulu and the Tarahumara
114
272000
3000
บางทีกุญแจสำคัญของเดอราตู ตูลูกับชาวทาราฮูมารานั้น
04:50
is wrapped in three other mysteries, which go like this:
115
275000
3000
ถูกเกี่ยวข้องอยู่กับเรื่องลึกลับ 3 เรื่อง
04:53
three things -- if you have the answer, come up and take the microphone,
116
278000
2000
3 เรื่อง ซึ่งถ้าคุณรู้คำตอบ ก็ขอให้ขึ้นมาและพูดออกไมค์
04:55
because nobody else knows the answer.
117
280000
2000
เพราะไม่มีใครอื่น ที่จะรู้คำตอบ
04:57
And if you know it, then you are smarter than anybody else on planet Earth.
118
282000
3000
และถ้าคุณรู้มัน คุณก็จะเป็นคนที่ฉลาดที่สุดกว่าใครในโลกนี้
05:00
Mystery number one is this:
119
285000
2000
เรื่องลึกลับเรื่องที่ 1 คือเรื่องนี้
05:02
Two million years ago the human brain exploded in size.
120
287000
3000
เมื่อ 2 ล้านปีก่อน สมองมนุษย์ก็ใหญ่ขึ้นอย่างผิดหูผิดตา
05:05
Australopithecus had a tiny little pea brain.
121
290000
2000
ออสทราโลพิเทคัส (Australopithecus) มีสมองขนาดจิ๋ว เท่าเมล็ดถั่ว
05:07
Suddenly humans show up -- Homo erectus --
122
292000
2000
อยู่ดีๆ มนุษย์โฮโมอิเรคตัส (Homo erectus) ก็โผล่มา
05:09
big, old melon-head.
123
294000
2000
พร้อมกับหัวขนาดใหญ่
05:11
To have a brain of that size,
124
296000
2000
การที่จะมีสมองขนาดนั้นได้
05:13
you need to have a source of condensed caloric energy.
125
298000
3000
คุณจำเป็นจะต้องมีแหล่งพลังงานแคลอรี่ที่เข้มข้น
05:16
In other words, early humans are eating dead animals --
126
301000
2000
พูดอีกอย่างนึงก็คือ มนุษย์ในยุคเริ่มแรกนั้นกินสัตว์ที่ตายแล้ว
05:18
no argument, that's a fact.
127
303000
2000
ไม่ต้องถกเถียงกัน เพราะนั่นมันเป็นความจริง
05:20
The only problem is,
128
305000
2000
ปัญหาอย่างเดียวก็คือ
05:22
the first edged weapons only appeared about 200,000 years ago.
129
307000
3000
อาวุธปลายแหลมเพิ่งจะถูกค้นพบเมื่อประมาณ 200,000 ปีที่แล้ว
05:25
So, somehow, for nearly two million years,
130
310000
3000
เพราะฉะนั้นด้วยเวลาเกือบประมาณ 2 ล้านปี
05:28
we are killing animals without any weapons.
131
313000
3000
เราล่าสัตว์ได้โดยไม่ต้องใช้อาวุธใดๆ
05:31
Now we're not using our strength
132
316000
2000
เอาล่ะ เราคงไม่ได้ใช้กำลังของเราอย่างแน่นอน
05:33
because we are the biggest sissies in the jungle.
133
318000
2000
เพราะว่าเรามันจอมห่วยที่สุดในป่า
05:35
Every other animal is stronger than we are --
134
320000
2000
สัตว์ชนิดอื่นๆ ต่างก็แข็งแรงกว่าเราทั้งนั้น
05:37
they have fangs, they have claws, they have nimbleness, they have speed.
135
322000
3000
พวกมันมีทั้งเขี้ยว ทั้งเล็บ มีความว่องไว รวดเร็ว
05:40
We think Usain Bolt is fast. Usain Bolt can get his ass kicked by a squirrel.
136
325000
3000
เราต่างก็คิดว่า ยูเซียน โบลต์ (นักวิ่งสถิติโลก) น่ะเร็วแล้ว แต่ยูเซียน โบลต์ก็ยังถูกกระรอกแซงได้อย่างง่ายๆ
05:43
We're not fast.
137
328000
2000
เราน่ะไม่ได้เร็วหรอก
05:45
That would be an Olympic event: turn a squirrel loose --
138
330000
2000
ลองปล่อยกระรอกให้เป็นอิสระซักตัว ในงานกีฬาโอลิมปิก
05:47
whoever catches the squirrel, you get a gold medal.
139
332000
3000
ใครก็ตามที่จับได้ จะได้เหรียญทองไปครอง
05:50
So no weapons, no speed, no strength, no fangs, no claws --
140
335000
3000
เพราะฉะนั้น ไม่มีอาวุธ ไม่มีความเร็ว ไม่มีกำลัง ไม่มีเขี้ยว และเล็บ
05:53
how were we killing these animals? Mystery number one.
141
338000
3000
แล้วเราฆ่าสัตว์พวกนี้ได้อย่างไรกันล่ะ? นี่แหละคือเรื่องลึกลับเรื่องที่ 1
05:56
Mystery number two:
142
341000
2000
เรื่องที่ 2
05:58
Women have been in the Olympics for quite some time now,
143
343000
3000
ผู้หญิงได้เข้าร่วมแข่งขันในงานกีฬาโอลิมปิกมาได้ซักพักแล้ว
06:01
but one thing that's remarkable about all women sprinters --
144
346000
2000
แต่อย่างหนึ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับนักกีฬาวิ่งระยะสั้นที่เป็นผู้หญิงก็คือ
06:03
they all suck; they're terrible.
145
348000
2000
พวกเขาต่างห่วย
06:05
There's not a fast woman on the planet
146
350000
2000
ไม่เคยมีผู้หญิงที่วิ่งได้เร็ว
06:07
and there never has been.
147
352000
2000
ไม่ว่าจะในตอนนี้หรือตอนไหน
06:09
The fastest woman to ever run a mile did it in 4:15.
148
354000
3000
สถิติที่เร็วที่สุดของผู้หญิงในการวิ่ง 1 ไมล์ ทำได้ใน 4.15 นาที
06:12
I could throw a rock and hit a high school boy
149
357000
2000
ผมสามารถโยนก้อนหินใส่เด็กผู้ชายมัธยมซักคน
06:14
who can run faster than 4:15.
150
359000
2000
ที่สามารถจะวิ่งได้เร็วกว่าสถิติ 4.15 ได้
06:16
For some reason you guys are just really slow.
151
361000
2000
ด้วยเหตุผลบางประการพวกคุณก็แค่ช้ามากๆ
06:18
(Laughter)
152
363000
2000
(เสียงหัวเราะ)
06:20
But you get to the marathon we were just talking about --
153
365000
3000
แต่คุณก็เข้าร่วมในมาราธอนที่เราได้พูดถึงไป
06:23
you guys have only been allowed to run the marathon for 20 years.
154
368000
2000
ความจริงพวกคุณเพิ่งจะได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมแข่งขันมาราธอนได้ แค่เมื่อ 20 ปีมาแล้วเท่านั้น
06:25
Because, prior to the 1980s,
155
370000
2000
เพราะว่าก่อนหน้าปี ค.ศ. 1980
06:27
medical science said that if a woman tried to run 26 miles --
156
372000
3000
วิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าวว่าหากผู้หญิงคนใดก็ตามพยายามที่จะวิ่งระยะทาง 26 ไมล์
06:30
does anyone know what would happen if you tried to run 26 miles,
157
375000
2000
คุณรู้มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณวิ่งระยะทาง 26 ไมล์?
06:32
why you were banned from the marathon before the 1980s?
158
377000
4000
ว่าทำไมคุณถึงถูกห้ามไม่ให้แข่งมาราธอนก่อนปี ค.ศ. 1980?
06:36
(Audience Member: Her uterus would be torn.) Her uterus would be torn.
159
381000
3000
(เสียงจากผู้ชม: "มดลูกของเธอจะฉีกขาด") มดลูกของเธอจะฉีกขาด
06:39
Yes. You would have torn reproductive organs.
160
384000
2000
ใช่ครับ คุณจะทำอวัยวะสืบพันธุ์ฉีกขาด
06:41
The uterus would fall out, literally fall out of the body.
161
386000
3000
มดลูกจะร่วงลงมา เหมือนมันจะหลุดออกจากร่าง
06:44
Now I've been to a lot of marathons,
162
389000
2000
เอาล่ะ ผมก็แข่งมาราธอนมาแล้วหลายครั้ง
06:46
and I've yet to see any ...
163
391000
2000
และผมเองก็ยังไม่เคยเห็นกับตาซักหน
06:48
(Laughter)
164
393000
3000
(เสียงหัวเราะ)
06:51
So it's only been 20 years that women have been allowed to run the marathon.
165
396000
3000
เพราะฉะนั้นผู้หญิงก็เลยเพิ่งได้เข้าร่วมแข่งมาราธอนมาแค่ 20 ปี
06:54
In that very short learning curve,
166
399000
2000
ในเวลาสั้นๆ นั้น
06:56
you guys have gone from broken organs
167
401000
3000
พวกคุณได้ก้าวข้ามจากอวัยวะฉีกขาด
06:59
up to the fact that you're only 10 minutes off
168
404000
2000
มาอยู่ในความจริงที่ว่าคุณห่างออกไปแค่ 10 นาที
07:01
the male world record.
169
406000
2000
จากสถิติของผู้ชาย
07:03
Then you go beyond 26 miles,
170
408000
2000
จากนั้นคุณก็ก้าวข้ามจาก 26 ไมล์
07:05
into the distance that medical science also told us would be fatal to humans --
171
410000
3000
ไปสู่ระยะที่วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์บอกเราว่าอาจทำให้ถึงแก่ชีวิต
07:08
remember Pheidippides died when he ran 26 miles --
172
413000
2000
จำได้ไหมว่า ฟิดิปปิดีส (Pheidippides) ตายเมื่อเขาวิ่งระยะ 26 ไมล์
07:10
you get to 50 and 100 miles,
173
415000
2000
และถ้าคุณไปถึง 50 และ 100 ไมล์
07:12
and suddenly it's a different game.
174
417000
2000
มันก็จะเป็นคนละเรื่องกันเลย
07:14
You can take a runner like Ann Trason, or Nikki Kimball, or Jenn Shelton,
175
419000
3000
คุณสามารถเอานักวิ่งอย่าง แอน เทรสัน (Ann Trason) หรือ นิกกิ คิมบอล (Nikki Kimball) หรือ เจน เชลตัน (Jenn Shelton)
07:17
you put them in a race of 50 or 100 miles against anybody in the world
176
422000
3000
จากนั้นให้พวกเขาวิ่งแข่งระยะ 50 หรือ 100 ไมล์ กับใครก็ได้บนโลกนี้
07:20
and it's a coin toss who's going to win.
177
425000
2000
มันก็จะเป็นเรื่องของโชคเท่านั้น
07:22
I'll give you an example.
178
427000
2000
ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง
07:24
A couple years ago, Emily Baer signed up for a race
179
429000
2000
ปี สองปีที่แล้ว เอมิลี่ เบเออร์ (Emily Baer) ลงสมัครการแข่งขันงานหนึ่ง
07:26
called the Hardrock 100,
180
431000
2000
ชื่อว่า ฮาร์ดร๊อค 100 (Hardrock 100)
07:28
which tells you all you need to know about the race.
181
433000
3000
ซึ่งน่าจะบอกคุณทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการแข่งนี้
07:31
They give you 48 hours to finish this race.
182
436000
2000
พวกเขาจะให้เวลาคุณ 48 ชั่วโมงเพื่อเข้าเส้นชัย
07:33
Well Emily Baer -- 500 runners --
183
438000
2000
เอมิลี่ เบเออร์ จากนักวิ่งอีก 500 คน
07:35
she finishes in eighth place, in the top 10,
184
440000
2000
เธอเข้าเส้นชัยเป็นคนที่ 8 เข้าเส้นชัยเป็น 10 คนแรก
07:37
even though she stopped at all the aid stations
185
442000
2000
ถึงแม้ว่าเธอจะหยุดที่ทุกๆ สถานีช่วยเหลือ
07:39
to breastfeed her baby during the race --
186
444000
3000
เพื่อให้นมลูกด้วยตัวเองตลอดระยะเวลาการแข่ง
07:42
and yet, beat 492 other people.
187
447000
2000
แต่ถึงกระนั้น ก็ยังเอาชนะผู้ร่วมแข่งขันได้ 492 คน
07:44
So why is it that women get stronger
188
449000
2000
เรื่องลึกลับสุดท้าย แล้วทำไมผู้หญิงถึงได้แข็งแกร่งขึ้น
07:46
as distances get longer?
189
451000
2000
เมื่อระยะทางนั้นยิ่งไกลขึ้น
07:48
The third mystery is this:
190
453000
2000
เรื่องลึกลับเรื่องที่ 3 คือเรื่องนี้
07:50
At the University of Utah, they started tracking finishing times
191
455000
3000
ที่มหาวิทยาลัยยูทาร์ พวกเขาเริ่มจับเวลาในการเข้าเส้นชัย
07:53
for people running the marathon.
192
458000
2000
สำหรับคนที่เข้าแข่งขันมาราธอน
07:55
And what they found
193
460000
2000
และสิ่งที่พวกเขาค้นพบ
07:57
is that, if you start running the marathon at age 19,
194
462000
2000
ก็คือว่าถ้าคุณเริ่มวิ่งมาราธอนตั้งแต่อายุ 19
07:59
you will get progressively faster, year by year,
195
464000
2000
เมื่อผ่านไปแต่ละปี คุณจะทำเวลาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
08:01
until you reach your peak at age 27.
196
466000
2000
จนมาถึงจุดสูงสุดที่อายุ 27
08:03
And then after that, you succumb
197
468000
2000
และหลังจากนั้น มันก็จะถึงขาลง
08:05
to the rigors of time.
198
470000
2000
เมื่อเวลาผ่านไป
08:07
And you'll get slower and slower,
199
472000
2000
คุณจะช้าลงเรื่อยๆ
08:09
until eventually you're back to running the same speed you were at age 19.
200
474000
3000
จนผลสุดท้ายคุณจะกลับมาวิ่งด้วยความเร็วเท่าเดิมตอนคุณอายุ 19
08:12
So about seven years, eight years to reach your peak,
201
477000
2000
เพราะฉะนั้นมันใช้เวลาประมาณ 7-8 ปี เพื่อขึ้นถึงจุดสูงสุด
08:14
and then gradually you fall off your peak,
202
479000
2000
และจากนั้นมันก็จะเป็นขาลง
08:16
until you go back to the starting point.
203
481000
3000
กลับไปจนถึงจุดเริ่มต้นอีกครั้ง
08:19
You would think it might take eight years to go back to the same speed,
204
484000
3000
คุณอาจจะคิดว่ามันใช้เวลา 8 ปีเพื่อกลับไปวิ่งเร็วเท่าเดิมอีกครั้ง
08:22
maybe 10 years -- no, it's 45 years.
205
487000
3000
หรืออาจจะ 10 ปี แต่เปล่าที่ถูกต้องคือ 45 ปี
08:25
64-year-old men and women
206
490000
2000
ผู้ชายและผู้หญิงที่อายุ 60 ปี
08:27
are running as fast as they were at age 19.
207
492000
3000
จะวิ่งได้เร็วเท่ากับที่พวกเค้าเคยวิ่งได้เมื่อตอน 19
08:30
Now I defy you to come up with any other physical activity --
208
495000
3000
เอาล่ะ ผมจะท้าให้คุณคิดกิจกรรมทางกายขึ้นมาซักอย่างหนึ่ง
08:33
and please don't say golf -- something that actually is hard --
209
498000
4000
และก็ได้โปรดอย่าพูดว่ากอล์ฟ ให้คิดถึงอะไรที่มันยากจริงๆ
08:37
where geriatrics are performing
210
502000
2000
ที่ผู้ชราจะทำได้
08:39
as well as they did as teenagers.
211
504000
3000
ดีเท่ากับตอนที่พวกเค้ายังวัยรุ่น
08:42
So you have these three mysteries.
212
507000
2000
เอาล่ะ คุณมีเรื่องลึกลับ 3 เรื่อง
08:44
Is there one piece in the puzzle
213
509000
2000
มันจะมีชิ้นส่วนปริศนาซักชิ้น
08:46
which might wrap all these things up?
214
511000
2000
ที่จะประกอบเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกันมั้ยนะ?
08:48
You've got to be really careful any time
215
513000
2000
แต่คุณคงต้องระวังเอาไว้ซักหน่อย
08:50
someone looks back in prehistory and tries to give you some sort of global answer,
216
515000
3000
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนมองย้อนกลับไปในอดีต และพยายามหาคำตอบของเรื่องราวทั้งหมด
08:53
because, it being prehistory,
217
518000
2000
เพราะมันเป็นเรื่องราวในอดีต
08:55
you can say whatever the hell you want and get away with it.
218
520000
2000
คุณจะพูดอะไรก็ได้ และรอดตัวไปทุกครั้ง
08:57
But I'll submit this to you:
219
522000
2000
แต่ผมจะบอกเรื่องนี้กับคุณ
08:59
If you put one piece in the middle of this jigsaw puzzle,
220
524000
2000
ว่าถ้าคุณใส่ชิ้นส่วนซักชิ้นลงไปกลางภาพต่อปริศนา
09:01
suddenly it all starts to form a coherent picture.
221
526000
3000
อยู่ดีๆ ทุกๆ อย่างมันก็จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
09:04
If you wonder, why it is the Tarahumara don't fight
222
529000
2000
และถ้าคุณสงสัย ว่าทำไมชาวทาราฮูมาราไม่สู้
09:06
and don't die of heart disease,
223
531000
2000
และไม่ตายด้วยโรคหัวใจ
09:08
why a poor Ethiopian woman named Derartu Tulu
224
533000
3000
ว่าทำไมผู้หญิงยากจนชาวเอธิโอเปียที่ชื่อว่า เดอราตู ตูลู
09:11
can be the most compassionate and yet the most competitive,
225
536000
3000
สามารถเป็นคนที่เอื้อเฟื้อที่สุด แต่ก็ยังเป็นคนที่รักการแข่งขันมากที่สุดคนหนึ่งด้วย
09:14
and why we somehow were able
226
539000
2000
และว่าทำไมพวกเราถึงสามารถ
09:16
to find food without weapons,
227
541000
2000
หาอาหารได้โดยไม่มีอาวุธใดๆ
09:18
perhaps it's because humans,
228
543000
2000
บางที มันอาจจะเป็นเพราะว่ามนุษย์อย่างเรา
09:20
as much as we like to think of ourselves as masters of the universe,
229
545000
3000
ถึงแม้ว่าจะชอบคิดว่าตัวเองคือศูนย์กลางของจักรวาลมากซักเพียงใด
09:23
actually evolved as nothing more
230
548000
2000
แต่ก็วิวัฒนาการมาไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่า
09:25
than a pack of hunting dogs.
231
550000
2000
ฝูงหมาป่าล่าเนื้อดีๆ นี่เอง
09:27
Maybe we evolved
232
552000
2000
บางทีเราอาจจะวิวัฒนาการ
09:29
as a hunting pack animal.
233
554000
2000
มาเป็นสัตว์ที่ล่าเหยื่อเป็นฝูง
09:31
Because the one advantage we have in the wilderness --
234
556000
2000
เพราะว่าจุดแข็งอย่างเดียวที่เรามีในธรรมชาติ
09:33
again, it's not our fangs and our claws and our speed --
235
558000
2000
ซึ่งอีกครั้ง มันไม่ใช่ทั้งเขี้ยว เล็บ หรือความเร็วของเรา
09:35
the only thing we do really, really well is sweat.
236
560000
3000
สิ่งเดียวที่เรามี และทำได้ดีที่สุด คือการออกเหงื่อ
09:38
We're really good at being sweaty and smelly.
237
563000
3000
พวกเรานั้นเก่งกันจริงๆ เรื่องการออกเหงื่อเหม็นๆ เนี่ย
09:41
Better than any other mammal on Earth, we can sweat really well.
238
566000
3000
เก่งกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใดๆ บนโลก
09:44
But the advantage
239
569000
2000
แต่ข้อดี
09:46
of that little bit of social discomfort
240
571000
2000
ของการมีข้อน่ารังเกียจเล็กๆทางสังคมนี้
09:48
is the fact that, when it comes to running
241
573000
2000
ก็คือความจริงที่ว่า เมื่อเป็นเรื่องของการวิ่ง
09:50
under hot heat for long distances,
242
575000
3000
ภายใต้อากาศร้อนสูง เป็นระยะทางไกลๆ
09:53
we're superb, we're the best on the planet.
243
578000
3000
พวกเรานั้นสุดยอด เรียกได้ว่าเก่งที่สุดในพื้นพิภพ
09:56
You take a horse on a hot day,
244
581000
2000
ถ้าคุณเอาม้าไปวิ่งในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว
09:58
and after about five or six miles, that horse has a choice.
245
583000
2000
และหลังจากระยะ 5 หรือ 6 ไมล์ เจ้าม้าตัวนั้นก็มีทางเลือก
10:00
It's either going to breathe or it's going to cool off,
246
585000
3000
ว่ามันจะหายใจ หรือมันจะทำให้ร่างกายเย็นลง
10:03
but it ain't doing both -- we can.
247
588000
2000
แต่มันจะทำไม่ได้ทั้ง 2 อย่างพร้อมๆ กันแน่ๆ แต่พวกเราทำได้
10:05
So what if we evolved as hunting pack animals?
248
590000
3000
ถ้าเกิดว่าพวกเราวิวัฒนาการมาเป็นฝูงล่าสัตว์ล่ะ?
10:08
What if the only natural advantage we had in the world
249
593000
4000
ถ้าเกิดว่าจุดแข็งข้อเดียวที่ธรรมชาติได้ให้เรามาในโลกนี้
10:12
was the fact that we could get together as a group,
250
597000
2000
ก็คือความจริงที่ว่าเราสามารถที่จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
10:14
go out there on that African Savannah, pick out an antelope
251
599000
3000
ภายในทุ่งแอฟริกัน สะวันนา เลือกละมั่งที่จะล่าซักตัว
10:17
and go out as a pack and run that thing to death?
252
602000
3000
จากนั้นก็วิ่งล่ามันไปเป็นฝูง จนมันเหนื่อยตายล่ะ?
10:20
That's all we could do.
253
605000
2000
เพราะนั่นแหละคือทั้งหมดที่พวกเราทำได้
10:22
We could run really far on a hot day.
254
607000
2000
พวกเราสามารถวิ่งได้เป็นระยะทางไกลๆ ในวันที่ร้อนอบอ้าว
10:24
Well if that's true, a couple other things had to be true as well.
255
609000
3000
และถ้าเกิดว่านั่นมันเป็นเรื่องจริง เรื่องอื่นๆ ก็น่าจะเป็นความจริงด้วยเช่นกัน
10:27
The key to being part of a hunting pack is the word "pack."
256
612000
3000
กุญแจสำคัญของฝูงสัตว์นักล่า ก็คือคำว่า "ฝูง"
10:30
If you go out by yourself, and you try to chase an antelope,
257
615000
2000
ถ้าเกิดคุณออกไปล่าละมั่งตามลำพัง
10:32
I guarantee you there's going to be two cadavers out there in the Savannah.
258
617000
3000
ผมยืนยันได้เลยว่ามันจะต้องมีซากศพ 2 ซากอยู่ในทุ่งสะวันนาแน่นอน
10:35
You need a pack to pull together.
259
620000
2000
คุณจะต้องอาศัยฝูงในการล่าด้วยกัน
10:37
You need to have those 64-, 65-year-olds
260
622000
2000
คุณจำเป็นตั้งมีคนอายุ 64-65 ปี
10:39
who have been doing this for a long time
261
624000
2000
คนที่ทำอย่างนี้มาเป็นเวลานานแล้ว
10:41
to understand which antelope you're actually trying to catch.
262
626000
2000
ที่จะเข้าใจได้ว่าละมั่งตัวไหนที่คุณกำลังล่าอยู่จริงๆ
10:43
The herd explodes and it gathers back again.
263
628000
3000
และเมื่อฝูงสัตว์ที่ถูกล่ากระจายกันออกไป และกลับมารวมกันอีกครั้ง
10:46
Those expert trackers have got to be part of the pack.
264
631000
2000
พวกผู้เชี่ยวชาญในการติดตามพวกนี้จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของฝูง
10:48
They can't be 10 miles behind.
265
633000
2000
พวกเขาไม่สามารถถูกทิ้งอยู่ 10 ไมล์ข้างหลังได้
10:50
You need to have the women and the adolescents there
266
635000
2000
คุณจะต้องมีผู้หญิง และวัยรุ่นอยู่ที่นั่น
10:52
because the two times in your life you most benefit from animal protein
267
637000
3000
เพราะว่าช่วงเวลาสำคัญที่สุด 2 ครั้งที่คุณจะได้รับประโยชน์จากโปรตีนจากสัตว์ได้เต็มที่ก็คือ
10:55
is when you are a nursing mother and a developing adolescent.
268
640000
3000
ตอนที่คุณกำลังอุ้มครรภ์ กับตอนที่คุณกำลังเติบโต
10:58
It makes no sense to have the antelope over there dead
269
643000
2000
มันดูไร้สาระถ้าเกิดว่าละมั่งมาตาย
11:00
and the people who want to eat it 50 miles away.
270
645000
2000
ห่างจากคนที่ต้องการจะกิน 50 ไมล์
11:02
They need to be part of the pack.
271
647000
2000
พวกเขาทั้งหมดจำเป็นต้องเป็นส่วนหนึ่งของฝูง
11:04
You need to have those 27-year-old studs at the peak of their powers
272
649000
2000
คุณจำเป็นต้องมีพวกอายุ 27 ที่ยังหนุ่มยังแน่น
11:06
ready to drop the kill,
273
651000
2000
เตรียมพร้อมที่จะลงมือฆ่า
11:08
and you need to have those teenagers there
274
653000
2000
และคุณก็จำเป็นที่จะต้องมีพวกวัยรุ่นอยู่ที่นั่น
11:10
who are learning the whole thing all involved.
275
655000
2000
เพื่อเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
11:12
The pack stays together.
276
657000
2000
เป็นฝูงอยู่ร่วมกัน
11:14
Another thing that has to be true about this pack: this pack cannot be really materialistic.
277
659000
3000
อีกอย่างหนึ่งที่น่าจะจริงเกี่ยวกับการอยู่แบบฝูงก็คือ พวกเค้าจะต้องไม่ยึดติดกับข้าวของ
11:17
You can't be hauling all your crap around, trying to chase the antelope.
278
662000
3000
เพราะคุณไม่สามารถที่จะหิ้วสัมภาระไปมา ระหว่างที่ล่าละมั่งไปด้วยได้
11:20
You can't be a pissed-off pack. You can't be bearing grudges,
279
665000
3000
คุณต้องไม่เป็นกลุ่มเจ้าอารมณ์ คุณต้องไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น
11:23
like, "I'm not chasing that guy's antelope.
280
668000
2000
อย่างเช่น "ชั้นจะไม่ล่าละมั่งของเจ้านั่น
11:25
He pissed me off. Let him go chase his own antelope."
281
670000
2000
มันทำให้ชั้นโกรธ ให้มันล่าละมั่งของตัวเองไปเถอะ"
11:27
The pack has got to be able to swallow its ego,
282
672000
3000
ฝูงจะต้องไม่เห็นแก่ตัว
11:30
be cooperative and pull together.
283
675000
2000
ต้องร่วมมือและช่วยเหลือกัน
11:32
What you end up with, in other words,
284
677000
3000
สิ่งที่คุณจะได้ พูดอีกอย่างก็คือ
11:35
is a culture remarkably similar
285
680000
2000
จะได้วัฒนธรรมที่คล้ายคลึง
11:37
to the Tarahumara --
286
682000
2000
กับของชาวทารูมาฮารา
11:39
a tribe that has remained unchanged
287
684000
2000
ชาวเผ่าที่คงอยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
11:41
since the Stone Age.
288
686000
2000
มาตั้งแต่ยุคหิน
11:43
It's a really compelling argument
289
688000
2000
มันเป็นเรื่องราวที่น่าทึ่ง
11:45
that maybe the Tarahumara are doing
290
690000
2000
ที่ว่าบางทีชาวทารูมาฮารากำลัง
11:47
exactly what all of us had done for two million years,
291
692000
3000
ทำสิ่งเดียวกันกับที่พวกเราได้ทำมาเมื่อ 2 ล้านปีก่อน
11:50
that it's us in modern times who have sort of gone off the path.
292
695000
3000
ว่ามันเป็นพวกเราในสมัยใหม่นี้เองที่ออกนอกลู่นอกทาง
11:53
You know, we look at running as this kind of alien, foreign thing,
293
698000
3000
ก็อย่างที่พวกเรามองว่าการวิ่งนั้นเป็นสิ่งที่แปลก ที่พิสดารบางอย่าง
11:56
this punishment you've got to do because you ate pizza the night before.
294
701000
3000
เป็นการลงโทษสำหรับพิซซ่าที่กินไปในคืนวันก่อน
11:59
But maybe it's something different.
295
704000
2000
แต่บางทีมันอาจเป็นอะไรที่ต่างออกไป
12:01
Maybe we're the ones who have taken this natural advantage we had
296
706000
3000
บางทีอาจเป็นพวกเราเองที่นำเอาข้อได้เปรียบของธรรมชาติที่เรามีนี้
12:04
and we spoiled it.
297
709000
2000
และทำให้มันเสียไป
12:06
How do we spoil it? Well how do we spoil anything?
298
711000
3000
เราทำอย่างไรน่ะรึ? แล้วคุณทำให้อย่างอื่นเสียยังไงล่ะ?
12:09
We try to cash in on it.
299
714000
2000
เราพยายามที่จะซื้อมันด้วยเงิน
12:11
We try to can it and package it and make it "better"
300
716000
2000
เราพยายามที่จะเอามันใส่กระป๋อง ใส่กล่องอย่างดี ทำให้มันดีขึ้นกว่าเก่า
12:13
and sell it to people.
301
718000
2000
และก็ขายให้คนอื่น
12:15
And what happened was we started creating
302
720000
2000
และสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือพวกเราเริ่มสร้าง
12:17
these fancy cushioned things,
303
722000
2000
เจ้าสิ่งกันกระแทกที่สวยงามพวกนี้
12:19
which can make running "better," called running shoes.
304
724000
3000
ที่จะทำให้วิ่งได้ดีขึ้น เราเรียกมันว่า รองเท้าวิ่ง
12:22
The reason I get personally pissed-off about running shoes
305
727000
3000
เหตุผมเดียวที่เจ้าพวกรองเท้าวิ่งพวกนี้ทำให้ผมโกรธก็คือ
12:25
is because I bought a million of them and I kept getting hurt.
306
730000
3000
ผมซื้อมันมาเป็นล้านคู่ แต่ก็ยังกลับมาเจ็บอีกทุกที
12:28
And I think that, if anybody in here runs --
307
733000
2000
และผมก็คิดว่า ถ้ามีใครในที่นี้ที่วิ่ง
12:30
and I just had a conversation with Carol;
308
735000
2000
และผมเองก็เพิ่งได้คุยมากับแครอล
12:32
we talked for two minutes backstage, and she's talking about plantar fasciitis.
309
737000
3000
เราได้คุยกัน 2 นาที และเธอก็พูดถึงอาการเอ็นข้อเท้าอักเสบ
12:35
You talk to a runner, I guarantee, within 30 seconds,
310
740000
3000
ถ้าคุณพูดกับนักวิ่ง ผมยืนยันได้เลยว่าภายใน 30 วินาที
12:38
the conversation turns to injury.
311
743000
2000
เค้าจะต้องพูดถึงอาการบาดเจ็บ
12:40
So if humans evolved as runners, if that's our one natural advantage,
312
745000
3000
เพราะฉะนั้นถ้ามนุษย์วิวัฒนาการมาเป็นนักวิ่ง และนั่นมันก็เป็นข้อได้เปรียบทางธรรมชาติอย่างเดียวของพวกเรา
12:43
why are we so bad at it? Why do we keep getting hurt?
313
748000
3000
แล้วทำไมเราถึงทำมันได้แย่นัก? ทำไมพวกเราถึงบาดเจ็บอยู่เรื่อยๆ?
12:46
Curious thing about running and running injuries
314
751000
2000
สิ่งที่น่าฉงนเกี่ยวกับการวิ่ง และอาการบาดเจ็บจากการวิ่ง
12:48
is that the running injury is new to our time.
315
753000
3000
ก็คือการบาดเจ็บนั้น เพิ่งจะเกิดขึ้นมาในยุคของเรา
12:51
If you read folklore and mythology,
316
756000
2000
ถ้าเกิดคุณเคยได้อ่านนิทานพื้นบ้าน หรือตำนานต่างๆ
12:53
any kind of myths, any kind of tall tales,
317
758000
2000
เรื่องลึกลับ หรือเรื่องเล่าใดก็ได้
12:55
running is always associated
318
760000
2000
การวิ่งนั้นจะเกี่ยวข้องกับ
12:57
with freedom and vitality and youthfulness and eternal vigor.
319
762000
3000
ความเป็นอิสระ ความมีชีวิตชีวา ความเยาว์วัย และความกระฉับกระเฉง
13:00
It's only in our lifetime
320
765000
2000
มันมีแค่ในช่วงชีวิตของเราเนี่ยแหละ
13:02
that running has become associated with fear and pain.
321
767000
2000
ที่การวิ่งมาเกี่ยวข้องกับความกลัว และความเจ็บปวด
13:04
Geronimo used to say
322
769000
2000
เจอโรนิโม (Geronimo) เคยกล่าวเอาไว้ว่า
13:06
that, "My only friends are my legs. I only trust my legs."
323
771000
3000
"เพื่อนคนเดียวที่ผมมีคือขาของผม ผมเชื่อในขาของผมเท่านั้น"
13:09
That's because an Apache triathlon
324
774000
2000
นั่นก็เพราะการแข่งขันไตรกีฬาของชาวเผ่าอาปาเช่
13:11
used to be you'd run 50 miles across the desert,
325
776000
2000
นั้นเคยเป็นการวิ่งข้ามทะเลทรายระยะ 50 ไมล์
13:13
engage in hand-to-hand combat, steal a bunch of horses
326
778000
2000
เข้าต่อสู้ตัวต่อตัว ขโมยม้าซัก 2-3 ฝูง
13:15
and slap leather for home.
327
780000
2000
แล้วก็แบกหนังกลับบ้าน
13:17
Geronimo was never saying, "Ah, you know something,
328
782000
2000
เจอโรนิโมไม่เคยพูดว่า "อาา คุณรู้อะไรมั้ย
13:19
my achilles -- I'm tapering. I got to take this week off,"
329
784000
3000
เอ็นร้อยหวายของผมอักเสบ อาทิตย์นี้ผมคงต้องหยุดพัก"
13:22
or "I need to cross-train.
330
787000
2000
หรือ "ผมต้องออกกำลังกายแบบผสมผสาน
13:24
I didn't do yoga. I'm not ready."
331
789000
3000
ผมไม่ได้เล่นโยคะมา ผมไม่พร้อม"
13:27
Humans ran and ran all the time.
332
792000
2000
มนุษย์นั้นวิ่งอยู่ตลอดเวลา
13:29
We are here today. We have our digital technology.
333
794000
2000
ที่เรามาถึงที่นี่ในทุกวันนี้ เรามีเทคโนโลยีมากมาย
13:31
All of our science comes from the fact
334
796000
2000
วิทยาศาสตร์ทั้งหมดของเรามาจากความจริงที่ว่า
13:33
that our ancestors were able
335
798000
2000
บรรพบุรุษของเราสามารถที่จะ
13:35
to do something extraordinary every day,
336
800000
2000
ทำสิ่งที่น่าเหลือเชื่อในทุกๆ วัน
13:37
which was just rely on their naked feet and legs
337
802000
2000
โดยพึ่งพาเพียงขาเปล่า เท้าเปล่าของพวกเขา
13:39
to run long distances.
338
804000
2000
ในการวิ่งระยะทางไกลๆ
13:41
So how do we get back to that again?
339
806000
2000
แล้วเราจะกลับไปอยู่จุดนั้นได้อย่างไรน่ะรึ?
13:43
Well, I would submit to you the first thing is
340
808000
2000
เอาล่ะ อย่างแรกที่ผมจะบอกคุณก็คือ
13:45
get rid of all packaging, all the sales, all the marketing.
341
810000
3000
จงทิ้งพวกหีบห่อทั้งหมด ทิ้งการลดราคา ทิ้งยุทธศาสตร์การตลาดต่างๆ
13:48
Get rid of all the stinking running shoes.
342
813000
2000
จงทิ้งเจ้ารองเท้าวิ่งเหม็นโฉ่ว
13:50
Stop focusing on urban marathons,
343
815000
2000
หยุดสนใจในการแข่งขันมาราธอนในเมือง
13:52
which, if you do four hours, you suck.
344
817000
3000
ที่ถ้าคุณทำได้ภายใน 4 ชั่วโมง คุณห่วย
13:55
If you do 3:59:59, you're awesome,
345
820000
2000
แต่ถ้าคุณทำได้ 3.59.59 ชั่วโมง คุณเจ๋ง
13:57
because you qualified for another race.
346
822000
2000
เพราะคุณจะเข้ารอบสำหรับการแข่งครั้งต่อไป
13:59
We need to get back to that sense of playfulness and joyfulness
347
824000
3000
เราจำเป็นต้องกลับไปสู่ความขี้เล่น และความสนุกสนาน
14:02
and, I would say, nakedness,
348
827000
3000
และสุดท้ายความเปลือยเปล่า
14:05
that has made the Tarahumara
349
830000
2000
ที่ทำให้ชาวทาราฮูมารา
14:07
one of the healthiest and serene cultures in our time.
350
832000
3000
เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่แข็งแรงและปลอดโปร่งที่สุดในยุคของเรา
14:10
So what's the benefit? So what?
351
835000
2000
และคุณจะได้ประโยชน์อะไรน่ะรึ?
14:12
So you burn off the Haagen-Dazs from the night before?
352
837000
3000
เพื่อคุณจะได้เผาผลาญไอศครีมฮาเกนดาสจากคืนวันก่อนงั้นรึ?
14:15
But maybe there's another benefit there as well.
353
840000
3000
แต่บางทีมันอาจจะมีประโยชน์อย่างอื่นด้วยเหมือนกัน
14:18
Without getting a little too extreme about this,
354
843000
3000
โดยผมจะไม่พยายามคิดให้มันสุดขั้วมากเกินไป
14:21
imagine a world
355
846000
2000
ลองนึกถึงภาพของโลกที่
14:23
where everybody could go out their door
356
848000
2000
ทุกคนสามารถออกไปนอกประตู
14:25
and engage in the kind of exercise
357
850000
2000
และเข้าร่วมในกิจกรรม
14:27
that's going to make them more relaxed, more serene,
358
852000
3000
ที่จะทำให้พวกเขาผ่อนคลาย และปลอดโปร่งมากขึ้น
14:30
more healthy,
359
855000
2000
แข็งแรงมากขึ้น
14:32
burn off stress --
360
857000
2000
กำจัดความเครียด
14:34
where you don't come back into your office a raging maniac anymore,
361
859000
2000
แบบที่คุณไม่ต้องกลับมาที่สำนักงานและโกรธเป็นบ้าเป็นหลังอีกแล้ว
14:36
where you don't go back home with a lot of stress on top of you again.
362
861000
2000
แบบที่คุณไม่ต้องแบบเอาความเครียดกลับบ้านอีกแล้ว
14:38
Maybe there's something between what we are today
363
863000
3000
บางทีมันอาจจะมีอะไรซักอย่างอยู่ระหว่างพวกเราในวันนี้
14:41
and what the Tarahumara have always been.
364
866000
3000
กับสิ่งที่ชาวทาราฮูมาราเป็นมาอยู่ตลอด
14:44
I don't say let's go back to the Copper Canyons
365
869000
2000
ผมไม่ได้บอกให้พวกเรากลับไปที่ Copper Canyons
14:46
and live on corn and maize, which is the Tarahumara's preferred diet,
366
871000
3000
และใช้ชีวิตอยู่กับข้าวโพดกับแป้งข้าวโพด แบบที่ชาวทาราฮูมารากิน
14:49
but maybe there's somewhere in between.
367
874000
2000
แต่บางที มันอาจจะมีบางอย่างอยู่ระหว่างกลาง
14:51
And if we find that thing,
368
876000
2000
และถ้าเราพบสิ่งนั้น
14:53
maybe there is a big fat Nobel Prize out there.
369
878000
3000
บางทีอาจจะมีรางวัลโนเบลอยู่ที่ไหนซักแห่งที่นั่น
14:56
Because if somebody could find a way
370
881000
3000
เพราะถ้ามีใครซักคนสามารถหาวิธี
14:59
to restore that natural ability
371
884000
2000
ที่จะเอาความสามารถทางธรรมชาตินั้นกลับคืนมา
15:01
that we all enjoyed for most of our existence,
372
886000
2000
ที่เราจะเพลิดเพลินได้มากที่สุดตลอดช่วงชีวิตของเรา
15:03
up until the 1970s or so,
373
888000
2000
ที่เราเพลิดเพลินมาจนถึงช่วง ปี ค.ศ. 1970
15:05
the benefits, social and physical
374
890000
2000
ข้อดีพวกนั้น ทั้งทางสังคม และกายภาพ
15:07
and political and mental,
375
892000
3000
ทั้งเรื่องการเมือง และจิตใจ
15:10
could be astounding.
376
895000
2000
อาจทำให้คุณประหลาดใจได้
15:12
So what I've been seeing today is there is a growing subculture
377
897000
3000
เพราะฉะนั้นที่ผมเห็นในวันนี้ก็คือ การเติบโตของวัฒนธรรมย่อยๆ วัฒนธรรมหนึ่ง
15:15
of barefoot runners, people who got rid of their shoes.
378
900000
3000
ของการวิ่งเท้าเปล่า ผู้คนที่กำจัดรองเท้าวิ่งของเค้าทิ้ง
15:18
And what they have found uniformly is
379
903000
2000
และสิ่งที่พวกเค้าค้นพบกันก็คือ
15:20
you get rid of the shoes, you get rid of the stress,
380
905000
3000
ถ้าคุณกำจัดรองเท้าวิ่ง คุณก็กำจัดความเครียด
15:23
you get rid of the injuries and the ailments.
381
908000
2000
คุณก็จะกำจัดความเจ็บปวด และอาการป่วยต่างๆ
15:25
And what you find is something
382
910000
2000
และสิ่งที่คุณจะพบก็คือบางอย่าง
15:27
the Tarahumara have known for a very long time,
383
912000
2000
ที่ชาวทาราฮูมารารู้มาเป็นเวลานานมาแล้ว
15:29
that this can be a whole lot of fun.
384
914000
2000
ว่านี่แหละคือความสนุกสุดยอด
15:31
I've experienced it personally myself.
385
916000
2000
ที่ผมได้ประสบมากับตัวผมเอง
15:33
I was injured all my life, and then in my early 40s I got rid of my shoes
386
918000
3000
ผมบาดเจ็บมาตลอดชีวิต และหลังจากนั้นในช่วงต้นอายุ 40 ผมก็ทิ้งรองเท้าวิ่งของผม
15:36
and my running ailments have gone away too.
387
921000
2000
และอาการบาดเจ็บจากการวิ่งก็หายไปด้วยเหมือนกัน
15:38
So hopefully it's something we can all benefit from.
388
923000
2000
เพราะฉะนั้นหวังว่ามันเป็นบางอย่างที่เราจะสามารถได้ประโยชน์จากมันได้
15:40
And I appreciate you guys listening to this story. Thanks very much.
389
925000
3000
และผมก็รู้สึกซาบซึ้งที่พวกคุณมาฟังเรื่องราวของผม ขอบพระคุณมากครับ
15:43
(Applause)
390
928000
2000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Christopher McDougall - Journalist, runnerChristopher McDougall is the author of "Born to Run: A Hidden Tribe, Super Athletes, and the Greatest Race the World Has Never Seen."
Why you should listen
Longtime reporter Christopher McDougall is also a longtime runner -- and he brings his reporter's passion and eye for detail to the mysteries of running in his latest book. "Born to Run" examines humanity's inborn need to run and sweat, and it's filled with passion, odd facts, oddly pertinent digressions and deeply engaging journeys to running subcults (and cults-of-one). The book has inspired at least one fan site.
McDougall writes for Outside, Men's Health, New York and other magazines. His other, equally intriguing book, is Girl Trouble: The True Saga of Superstar Gloria Trevi and the Secret Teenage Sex Cult That Stunned the World.
Christopher McDougall | Speaker | TED.com