TED2017
Mehdi Ordikhani-Seyedlar: What happens in your brain when you pay attention?
เมห์ดิ ออร์ดิคานิ-เซเยดลาร์ (Mehdi Ordikhani-Seyedlar): เมื่อคุณเพ่งความสนใจ มีอะไรในสมอง
Filmed:
Readability: 3.9
3,083,456 views
ความสนใจนั้น ไม่ได้มีแค่เรื่องของสิ่งที่เราให้ความสนใจอยู่เท่านั้น -- แต่มันเกี่ยวกับสิ่งที่สมองของเราตัดออกจากการรับรู้ด้วย ด้วยการใช้วิธีตรวจสอบผ่านรูปแบบของสมองในขณะที่คนเรากำลังตั้งใจหรือสนใจบางอย่าง เมห์ดิ ออร์ดิคานิ-เซเยดลาร์ นักประสาทวิทยาคอมพิวเตอร์ท่านนี้หวังว่าจะสามารถประสานสิ่งที่อยู่ในสมองและคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน นำไปสู่การสร้างแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์บางอย่างขึ้น เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น (ADHD) และช่วยเหลือคนที่สูญเสียความสามารถด้านการสื่อสาร และนี่คือทอล์คที่น่าจับตามองอันจะบอกเล่ารายละเอียดโดยย่อของวิทยาศาสตร์ด้านนี้ให้คุณรู้
Mehdi Ordikhani-Seyedlar - Neuroscientist
Mehdi Ordikhani-Seyedlar is a computational neuroscientist, researching brain signals and their usage in brain-machine interfaces. Full bio
Mehdi Ordikhani-Seyedlar is a computational neuroscientist, researching brain signals and their usage in brain-machine interfaces. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
Paying close attention to something:
0
760
2480
การสนใจจดจ่อกับอะไรซักอย่าง
00:15
Not that easy, is it?
1
3280
1240
มันไม่ง่ายเลย ใช่ไหมครับ
นั่นเป็นเพราะ
มีหลายสิ่งที่ดึงความสนใจของเราอยู่ด้วย
มีหลายสิ่งที่ดึงความสนใจของเราอยู่ด้วย
00:17
It's because our attention is pulled
in so many different directions at a time,
in so many different directions at a time,
2
5520
5016
00:22
and it's in fact pretty impressive
if you can stay focused.
if you can stay focused.
3
10560
4080
ถ้าเราสามารถจดจ่อกับมันได้จริง ๆ
มันจะน่าประทับใจมาก
มันจะน่าประทับใจมาก
00:28
Many people think that attention
is all about what we are focusing on,
is all about what we are focusing on,
4
16360
4056
หลายคนคิดว่าความจดจ่อนั้นเกี่ยวกับ
อะไรสักอย่างที่เราจดจ่ออยู่เท่านั้น
อะไรสักอย่างที่เราจดจ่ออยู่เท่านั้น
00:32
but it's also about what information
our brain is trying to filter out.
our brain is trying to filter out.
5
20440
4800
แต่จริง ๆ มันรวมถึง
การที่สมองมีการกรองข้อมูลออกด้วย
การที่สมองมีการกรองข้อมูลออกด้วย
00:38
There are two ways
you direct your attention.
you direct your attention.
6
26320
2720
ความสนใจนั้นมีอยู่ 2 แบบ
00:41
First, there's overt attention.
7
29600
1560
แบบแรกคือ ความสนใจเปิดเผย
00:43
In overt attention,
you move your eyes towards something
you move your eyes towards something
8
31640
4136
ความสนใจเปิดเผย คือ
การที่คุณย้ายสายตาไปจ้องที่บางอย่าง
การที่คุณย้ายสายตาไปจ้องที่บางอย่าง
00:47
in order to pay attention to it.
9
35800
1560
เพื่อเพ่งความสนใจไปที่สิ่งนั้น
00:50
Then there's covert attention.
10
38360
1976
อีกแบบหนึ่งคือ ความสนใจแฝง
00:52
In covert attention,
you pay attention to something,
you pay attention to something,
11
40360
4016
ความสนใจแฝง คือ
การที่คุณให้ความสนใจกับบางอย่าง
การที่คุณให้ความสนใจกับบางอย่าง
00:56
but without moving your eyes.
12
44400
1560
แต่ไม่ได้จ้องตาม
00:59
Think of driving for a second.
13
47040
1640
ลองคิดถึงการขับรถยนต์ก็ได้ครับ
01:02
Your overt attention,
your direction of the eyes,
your direction of the eyes,
14
50960
3016
ความสนใจแบบเปิดเผยของคุณ
คือทิศทางที่ตาคุณจ้องไปหา
คือทิศทางที่ตาคุณจ้องไปหา
01:06
are in front,
15
54000
1656
ก็คือจ้องตรงไปข้างหน้า
01:07
but that's your covert attention
16
55680
1776
แต่ความสนใจแฝงของคุณ
01:09
which is constantly scanning
the surrounding area,
the surrounding area,
17
57480
3080
คือการที่คุณต้องระวัง
สิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวไปด้วย
สิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวไปด้วย
01:13
where you don't actually look at them.
18
61600
1880
แต่คุณไม่ได้หันไปจ้องตรง ๆ
01:17
I'm a computational neuroscientist,
19
65519
1937
ผมเป็นนักประสาทวิทยาคอมพิวเตอร์
01:19
and I work on cognitive
brain-machine interfaces,
brain-machine interfaces,
20
67480
3096
ทำงานเกี่ยวกับ ส่วนแสดงผล
การรับรู้ของสมองผ่านคอมพิวเตอร์
การรับรู้ของสมองผ่านคอมพิวเตอร์
01:22
or bringing together
the brain and the computer.
the brain and the computer.
21
70600
3040
หรือพูดอีกอย่างคือ
เอาสมองกับคอมพิวเตอร์มารวมกัน
เอาสมองกับคอมพิวเตอร์มารวมกัน
01:26
I love brain patterns.
22
74720
1600
ผมชอบรูปแบบของสมอง
01:28
Brain patterns are important for us
23
76720
1696
รูปแบบของสมองสำคัญกับพวกเรามาก
01:30
because based on them
we can build models for the computers,
we can build models for the computers,
24
78440
3496
เพราะเราเอาพื้นฐานจากพวกมัน
มาทำเป็นแบบจำลองในคอมพิวเตอร์ได้
มาทำเป็นแบบจำลองในคอมพิวเตอร์ได้
01:33
and based on these models
25
81960
1416
และค่อยใช้แบบจำลองเหล่านั้น
01:35
computers can recognize
how well our brain functions.
how well our brain functions.
26
83400
4216
ช่วยให้คอมพิวเตอร์เข้าใจ
ว่าสมองเราทำงานได้ดีแค่ไหน
ว่าสมองเราทำงานได้ดีแค่ไหน
01:39
And if it doesn't function well,
27
87640
1600
และถ้ามันทำงานได้ไม่ดีแล้ว
01:42
then these computers themselves
can be used as assistive devices
can be used as assistive devices
28
90080
3920
เราก็ใช้คอมพิวเตอร์พวกนี้
เป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือ
เป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือ
01:46
for therapies.
29
94760
1200
เพื่อการรักษา
01:48
But that also means something,
30
96480
1640
แต่นั่นก็หมายความว่า
01:51
because choosing the wrong patterns
31
99360
2496
ถ้าเราเลือกรูปแบบมาผิด
01:53
will give us the wrong models
32
101880
1896
มันก็จะให้แบบจำลองที่ผิด
01:55
and therefore the wrong therapies.
33
103800
1656
และกลายเป็นวิธีรักษาที่ผิด
01:57
Right?
34
105480
1200
ถูกไหมครับ
01:59
In case of attention,
35
107640
1656
ในกรณีของความสนใจ
02:01
the fact that we can
36
109320
1280
ความจริงที่ว่า
02:03
shift our attention not only by our eyes
37
111800
3496
เราสามารถเปลี่ยนจุดสนใจ ไม่ใช่แค่ใช้ตา
02:07
but also by thinking --
38
115320
1320
แต่โดยใช้การคิด--
02:09
that makes covert attention
an interesting model for computers.
an interesting model for computers.
39
117440
4080
นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ความสนใจแฝง
น่าสนใจสำหรับใช้กับแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์
น่าสนใจสำหรับใช้กับแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์
02:14
So I wanted to know
what are the brainwave patterns
what are the brainwave patterns
40
122280
3456
ผมจึงต้องการรู้ว่า
รูปแบบของคลื่นสมองเป็นอย่างไร
รูปแบบของคลื่นสมองเป็นอย่างไร
02:17
when you look overtly
or when you look covertly.
or when you look covertly.
41
125760
3680
เมื่อคุณจ้องแบบเปิดเผย
หรือเมื่อคุณมองแบบแฝง
หรือเมื่อคุณมองแบบแฝง
02:22
I set up an experiment for that.
42
130440
1760
ผมทำการทดลองขึ้นสำหรับเรื่องนี้
02:24
In this experiment
there are two flickering squares,
there are two flickering squares,
43
132960
2736
ในการทดลองนี้
จะมีรูปสี่เหลี่ยมกระพริบสองรูป
จะมีรูปสี่เหลี่ยมกระพริบสองรูป
02:27
one of them flickering
at a slower rate than the other one.
at a slower rate than the other one.
44
135720
3360
อันหนึ่งจะกระพริบช้ากว่าอีกอันหนึ่ง
02:32
Depending on which of these flickers
you are paying attention to,
you are paying attention to,
45
140600
3816
ขึ้นอยู่กับว่า
คุณเพ่งความสนใจไปที่อันไหน
คุณเพ่งความสนใจไปที่อันไหน
02:36
certain parts of your brain
will start resonating in the same rate
will start resonating in the same rate
46
144440
3960
สมองส่วนที่เกี่ยวข้อง
จะสะท้อนการทำงานในจังหวะเดียวกัน
จะสะท้อนการทำงานในจังหวะเดียวกัน
02:41
as that flickering rate.
47
149200
1440
กับอัตราการกระพริบที่คุณสนใจ
02:44
So by analyzing your brain signals,
48
152000
2936
ดังนั้น เมื่อวิเคราะห์สัญญาณจากสมองของคุณ
02:46
we can track where exactly
you are watching
you are watching
49
154960
3040
เราจะรู้ได้ทันทีว่าคุณกำลังจ้องอันไหน
02:50
or you are paying attention to.
50
158760
1560
หรือคุณกำลังสนใจอันไหนอยู่
02:55
So to see what happens in your brain
when you pay overt attention,
when you pay overt attention,
51
163000
4216
ดังนั้น เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับสมอง
เมื่อคุณใช้ความสนใจแบบเปิดเผย
เมื่อคุณใช้ความสนใจแบบเปิดเผย
02:59
I asked people to look directly
in one of the squares
in one of the squares
52
167240
3256
ผมจึงให้ผู้ทดลองมองไปที่
จตุรัสอันใดอันหนึ่งตรง ๆ
จตุรัสอันใดอันหนึ่งตรง ๆ
03:02
and pay attention to it.
53
170520
1280
และเพ่งความสนใจไปที่มัน
03:04
In this case, not surprisingly,
we saw that these flickering squares
we saw that these flickering squares
54
172760
5296
ในการทดลองนี้ เป็นตามคาดครับ
คือเราจะเห็นจตุรัสเหล่านี้
คือเราจะเห็นจตุรัสเหล่านี้
03:10
appeared in their brain signals
55
178080
1936
ปรากฏตรงกันกับสัญญาณของสมอง
03:12
which was coming
from the back of their head,
from the back of their head,
56
180040
2360
ซึ่งส่งมาจากส่วนหลังของศีรษะ
03:15
which is responsible for the processing
of your visual information.
of your visual information.
57
183560
3400
ซึ่งเป็นสมองส่วนที่รับผิดชอบประมวลผล
ข้อมูลจากการมองเห็น
ข้อมูลจากการมองเห็น
03:20
But I was really interested
58
188280
2336
แต่ที่ผมสนใจมากกว่า
03:22
to see what happens in your brain
when you pay covert attention.
when you pay covert attention.
59
190640
3160
คือผมอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสมอง
เมื่อคุณมีความสนใจแบบแฝง
เมื่อคุณมีความสนใจแบบแฝง
03:26
So this time I asked people
to look in the middle of the screen
to look in the middle of the screen
60
194480
3896
ผมจึงขอให้ผู้ทดลองมองตรงไปตรงกึ่งกลางจอ
03:30
and without moving their eyes,
61
198400
1880
และไม่ขยับสายตา
03:33
to pay attention
to either of these squares.
to either of these squares.
62
201120
2720
เพื่อเพ่งความสนใจไปยังจตุรัสอันใดอันหนึ่ง
03:37
When we did that,
63
205120
1616
เมื่อเราทำแบบนั้น
03:38
we saw that both of these flickering rates
appeared in their brain signals,
appeared in their brain signals,
64
206760
3936
เราพบว่ามีอัตราการกระพริบทั้งสองแบบ
อยู่ในสัญญาณจากสมอง
อยู่ในสัญญาณจากสมอง
03:42
but interestingly,
65
210720
1200
แต่ที่น่าสนใจคือ
03:44
only one of them,
which was paid attention to,
which was paid attention to,
66
212640
3536
มีเพียงหนึ่งอัน ที่เราเพ่งความสนใจอยู่
03:48
had stronger signals,
67
216200
1656
จะส่งสัญญาณที่แรงกว่า
03:49
so there was something in the brain
68
217880
2256
ดังนั้นมีบางอย่างในสมอง
03:52
which was handling this information
69
220160
2536
ที่จัดการกับข้อมูลลักษณะนี้
03:54
so that thing in the brain was basically
the activation of the frontal area.
the activation of the frontal area.
70
222720
6200
ซึ่งโดยปกติแล้ว มันคือ
การกระตุ้นของสมองส่วนหน้า
การกระตุ้นของสมองส่วนหน้า
04:02
The front part of your brain
is responsible
is responsible
71
230440
2976
สมองส่วนหน้าของคุณจะรับผิดชอบ
04:05
for higher cognitive functions as a human.
72
233440
2880
กระบวนการรับรู้ระดับสูงของมนุษย์
04:09
The frontal part,
it seems that it works as a filter
it seems that it works as a filter
73
237160
4440
สมองส่วนหน้า มันทำงานเหมือนกับเป็นตัวกรอง
04:14
trying to let information come in
only from the right flicker
only from the right flicker
74
242640
4376
มันจะยอมให้ข้อมูล
จากด้านขวาของจอเข้ามาสู่สมอง
จากด้านขวาของจอเข้ามาสู่สมอง
04:19
that you are paying attention to
75
247040
1640
ซึ่งคืออันที่คุณให้ความสนใจ
04:21
and trying to inhibit the information
coming from the ignored one.
coming from the ignored one.
76
249400
3960
และขณะเดียวกันก็พยายามขัดขวาง
ข้อมูลที่มาจากจออีกด้าน ซึ่งเราไม่สนใจ
ข้อมูลที่มาจากจออีกด้าน ซึ่งเราไม่สนใจ
04:27
The filtering ability of the brain
is indeed a key for attention,
is indeed a key for attention,
77
255400
5296
ความสามารถในการกรองข้อมูลของสมองนี้
เป็นกุญแจหลักที่ไขปัญหาเกี่ยวกับความสนใจ
เป็นกุญแจหลักที่ไขปัญหาเกี่ยวกับความสนใจ
04:32
which is missing in some people,
78
260720
2776
ซึ่งคนหลายคนขาดอยู่
04:35
for example in people with ADHD.
79
263520
2480
ตัวอย่างเช่น คนที่เป็นโรคสมาธิสั้น (ADHD)
04:38
So a person with ADHD
cannot inhibit these distractors,
cannot inhibit these distractors,
80
266640
5016
ซึ่งผู้เป็นโรคสมาธิสั้น
สมองจะไม่สามารถกรองสิ่งรบกวนพวกนี้ได้
สมองจะไม่สามารถกรองสิ่งรบกวนพวกนี้ได้
04:43
and that's why they can't focus
for a long time on a single task.
for a long time on a single task.
81
271680
4760
และนั่นทำให้พวกเขาไม่สามารถจดจ่อ
อยู่กับงานใดงานหนึ่งได้นาน
อยู่กับงานใดงานหนึ่งได้นาน
04:49
But what if this person
82
277600
1536
แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราให้เขา
04:51
could play a specific computer game
83
279160
3536
เล่นเกมคอมพิวเตอร์แบบพิเศษ
04:54
with his brain connected to the computer,
84
282720
2880
เพื่อให้สมองของเขาเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
04:58
and then train his own brain
85
286440
2120
และฝึกให้สมองของเขา
05:01
to inhibit these distractors?
86
289360
2440
ตัดสิ่งรบกวนอื่น ๆ ออกไป
05:05
Well, ADHD is just one example.
87
293680
2480
ซึ่งคนที่เป็นสมาธิสั้นเป็นแค่ตัวอย่างหนึ่ง
05:09
We can use these cognitive
brain-machine interfaces
brain-machine interfaces
88
297200
3256
เรายังสามารถปรับใช้ส่วนแสดงผล
การรับรู้ของสมองผ่านคอมพิวเตอร์นี้
การรับรู้ของสมองผ่านคอมพิวเตอร์นี้
05:12
for many other cognitive fields.
89
300480
2200
กับการรับรู้ในแบบอื่น ๆ ได้อีก
05:15
It was just a few years ago
90
303760
1776
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
05:17
that my grandfather had a stroke,
and he lost complete ability to speak.
and he lost complete ability to speak.
91
305560
5720
คุณตาของผมมีอาการหลอดเลือดในสมองแตก
และสูญเสียความสามารถในการพูด
และสูญเสียความสามารถในการพูด
05:24
He could understand everybody,
but there was no way to respond,
but there was no way to respond,
92
312640
3336
เขาเข้าใจทุกอย่างที่คนอื่นพูด
แต่ไม่สามารถตอบกลับได้
แต่ไม่สามารถตอบกลับได้
05:28
even not writing
because he was illiterate.
because he was illiterate.
93
316000
2480
จะเขียนออกมาก็ไม่ได้เพราะท่านไม่รู้หนังสือ
05:32
So he passed away in silence.
94
320000
2520
ท่านจึงจากไปอย่างเงียบ ๆ
05:36
I remember thinking at that time:
95
324800
2336
ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมคิดว่า
05:39
What if we could have a computer
96
327160
3896
แล้วถ้ามีคอมพิวเตอร์
05:43
which could speak for him?
97
331080
1360
ที่สามารถพูดแทนท่านได้ล่ะ
05:45
Now, after years that I am in this field,
98
333840
2216
ตอนนี้ ซึ่งผมใช้เวลาหลายปีในวงการนี้
05:48
I can see that this might be possible.
99
336080
2320
ผมเริ่มเห็นความเป็นไปได้แล้วครับ
05:52
Imagine if we can find brainwave patterns
100
340240
2856
ลองจินตการว่าถ้าเราจับรูปแบบของคลื่นสมอง
05:55
when people think
about images or even letters,
about images or even letters,
101
343120
3440
เวลาที่เราคิดเป็นภาพ
หรือแม้กระทั่งเป็นตัวหนังสือ
หรือแม้กระทั่งเป็นตัวหนังสือ
05:59
like the letter A generates
a different brainwave pattern
a different brainwave pattern
102
347720
2936
อย่างเช่น คิดถึงตัว ก
ได้รูปแบบคลื่นแบบหนึ่ง
ได้รูปแบบคลื่นแบบหนึ่ง
06:02
than the letter B, and so on.
103
350680
1720
ตัว ข เป็นอีกแบบหนึ่ง ไปเรื่อย ๆ
06:04
Could a computer one day
communicate for people who can't speak?
communicate for people who can't speak?
104
352960
3680
ซักวันหนึ่ง คอมพิวเตอร์จะสามารถ
สื่อสารแทนคนที่พูดไม่ได้ได้หรือไม่
สื่อสารแทนคนที่พูดไม่ได้ได้หรือไม่
06:09
What if a computer
105
357640
1440
หรือถ้าคอมพิวเตอร์
06:11
can help us understand
the thoughts of a person in a coma?
the thoughts of a person in a coma?
106
359960
4560
จะช่วยให้เราเข้าใจ
ความคิดของคนที่อยู่ในภาวะโคม่าล่ะ
ความคิดของคนที่อยู่ในภาวะโคม่าล่ะ
06:17
We are not there yet,
107
365840
1616
เรายังเดินไปไม่ถึงจุดนั้นครับ
06:19
but pay close attention.
108
367480
2736
แต่ขอให้จับตาดูให้ดีครับ
06:22
We will be there soon.
109
370240
1696
เราจะไปถึงจุดนั้นได้ในอีกไม่นาน
06:23
Thank you.
110
371960
1496
ขอบคุณครับ
06:25
(Applause)
111
373480
5632
(เสียงปรบมือ)
Translated by Dussadee Suebsangin
ABOUT THE SPEAKER
Mehdi Ordikhani-Seyedlar - NeuroscientistMehdi Ordikhani-Seyedlar is a computational neuroscientist, researching brain signals and their usage in brain-machine interfaces.
Why you should listen
Mehdi Ordikhani-Seyedlar is a research scientist interested in brain-wave patterns generated by neural activities in the brain. Since embarking on his research on neuroscience, Ordikhani-Seyedlar has been working on different brain functions such as learning, memory, pain and, more recently, visual attention in humans. He also conducted a part of his research on monkeys when he was in Dr. Miguel Nicolelis' lab at Duke University. His findings help implement more accurate brain-machine interfaces to treat people who are suffering from attention deficiency.
After receiving his Ph.D in Biomedical Engineering, Ordikhani-Seyedlar was offered a postdoctoral position by Duke University to develop algorithms to process large-scale neuronal activity and brain-machine interfaces. However, due to political complications in the United States, Ordikhani-Seyedlar -- an Iranian citizen -- changed his plan to continue his brain research outside the US for some time.
As a passionate neuroscientist and neuroengineer, Ordikhani-Seyedlar's aim is to improve brain pattern detectability in computers. This enhances the ability of brain-machine interfaces substantially to better target the defected brain function which in turn enhances the sustainability of treatment effect.
Mehdi Ordikhani-Seyedlar | Speaker | TED.com