TED2010
Adora Svitak: What adults can learn from kids
อโดรา สวิทัก (Adora Svitak): อะไรคือสิ่งที่พวกผู้ใหญ่สามารถเรียนรู้ได้จากเด็กๆ
Filmed:
Readability: 4
6,022,458 views
เจ้าหนูอัจฉริยะ Adora Svitak กำลังบอกเราว่า โลกนี้ต้องการความคิดแบบเด็กๆ: ไอเดียที่ไม่กลัวใคร, ความคิดสร้างสรรค์แบบบ้าคลั่ง และโดยเฉพาะการมองโลกในแง่ดี เธอบอกว่าความฝันอันยิ่งใหญ่ของเด็กๆนั้นควรค่าแก่ความคาดหวังสูง ซึ่งเริ่มได้จากการที่ผู้ใหญ่ถ่อมใจมา 'เรียนรู้' และ 'สอน' ไปพร้อมกัน
Adora Svitak - Child prodigy
A prolific short story writer and blogger since age seven, Adora Svitak (now 12) speaks around the United States to adults and children as an advocate for literacy. Full bio
A prolific short story writer and blogger since age seven, Adora Svitak (now 12) speaks around the United States to adults and children as an advocate for literacy. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
Now, I want to start with a question:
0
0
2000
หนูขอเริ่มด้วยคำถามหนึ่ง
00:17
When was the last time you were called childish?
1
2000
3000
คุณถูกเรียกว่า 'ทำตัวเหมือนเด็ก' ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?
00:20
For kids like me,
2
5000
2000
สำหรับเด็กๆอย่างหนู
00:22
being called childish can be a frequent occurrence.
3
7000
3000
การถูกเรียกแบบนั้นเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย
00:25
Every time we make irrational demands,
4
10000
3000
ทุกครั้งที่เราเรียกร้องแบบไม่สมเหตุสมผล,
00:28
exhibit irresponsible behavior
5
13000
2000
ดื้อรั้น,
00:30
or display any other signs
6
15000
2000
หรือแสดงสัญญาณอื่นๆ
00:32
of being normal American citizens,
7
17000
2000
ที่ถือเป็นปกติของชาวอเมริกัน
00:34
we are called childish.
8
19000
2000
เรามักถูกเรียกว่า 'ทำตัวเหมือนเด็ก' เสมอ
00:36
Which really bothers me.
9
21000
2000
ซึ่งมันกวนใจหนูมากจริงๆ
00:38
After all, take a look at these events:
10
23000
2000
กระนั้น ขอให้เรามาลองดูเหตุการณ์เหล่านี้กันก่อน
00:40
Imperialism and colonization,
11
25000
3000
ตั้งแต่การล่าอาณานิคม และ การตั้งอาณานิคม
00:43
world wars, George W. Bush.
12
28000
3000
สงครามโลก, ไปจนถึง จอร์จ ดับเบิลยู บุช
00:46
Ask yourself, who's responsible? Adults.
13
31000
3000
ถามตัวคุณเองดูค่ะ ว่าใครคือผู้รับผิดชอบ? ก็ผู้ใหญ่ทั้งหลายนั่นเอง
00:49
Now, what have kids done?
14
34000
3000
แล้ว เด็กๆล่ะทำไรกันมาบ้าง?
00:52
Well, Anne Frank touched millions
15
37000
2000
แอนน์ แฟรงค์ ครองใจหลายล้านคน
00:54
with her powerful account of the Holocaust,
16
39000
3000
ด้วยเรื่องราวที่ทรงพลังจากบันทึกของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
00:57
Ruby Bridges helped to end segregation in the United States,
17
42000
3000
รูบี้ บริดจ์เจส ช่วยลบการเหยียดผิวหรือศาสนาในอเมริกา,
01:00
and, most recently,
18
45000
2000
และ ล่าสุด
01:02
Charlie Simpson helped to raise
19
47000
2000
หนูน้อย ชาร์ลี ซิมสัน ได้ช่วยเรี่ยไรเงินบริจาค
01:04
120,000 pounds for Haiti
20
49000
2000
120,000 ปอนด์ (กว่า 7ล้านบาท) ไปช่วยเฮติ
01:06
on his little bike.
21
51000
2000
ด้วยจักรยานน้อยๆของเขาเอง
01:08
So, as you can see evidenced by such examples,
22
53000
3000
ดังนั้น หากคุณมองจากตัวอย่างดังกล่าว
01:11
age has absolutely nothing to do with it.
23
56000
3000
อายุ ไม่ได้มีส่วนเลยแม้แต่น้อย
01:14
The traits the word childish addresses
24
59000
2000
คุณลักษณะของการ 'ทำตัวเหมือนเด็ก' ที่สื่อออกมานั้น
01:16
are seen so often in adults
25
61000
2000
หลายครั้งผู้ใหญ่ก็เป็นเหมือนกัน
01:18
that we should abolish this age-discriminatory word
26
63000
2000
และเราก็ควรยกเลิกการใช้คำเชิงกีดกันอายุคำนี้
01:20
when it comes to criticizing behavior
27
65000
2000
โดยเฉพาะในการวิจารณ์พฤติกรรม
01:22
associated with irresponsibility and irrational thinking.
28
67000
3000
ที่เกี่ยวข้องกับ'การไร้ความรับผิดชอบ' และ 'การคิดแบบไร้เหตุผล'
01:25
(Applause)
29
70000
6000
(เสียงปรบมือ)
01:31
Thank you.
30
76000
2000
ขอบคุณค่ะ
01:33
Then again, who's to say
31
78000
2000
แล้วถามอีกว่า มีใครกล้าพูดได้เต็มปาก
01:35
that certain types of irrational thinking
32
80000
2000
ว่าความคิดที่ไร้เหตุผลบางประเภท
01:37
aren't exactly what the world needs?
33
82000
3000
จะไม่ใช่สิ่งที่โลกเราต้องการ?
01:40
Maybe you've had grand plans before
34
85000
2000
บางที คุณอาจเคยมีแผนการที่ยิ่งใหญ่มาก่อน
01:42
but stopped yourself, thinking,
35
87000
2000
แต่ได้หยุดแล้วคิดว่า
01:44
"That's impossible," or, "That costs too much,"
36
89000
2000
'นั่นเป็นไปไม่ได้แน่ๆ' หรือไม่ก็ 'มันต้องลงทุนสูงเกินไป'
01:46
or, "That won't benefit me."
37
91000
2000
หรือ 'นั่นคงไม่ให้ประโยชน์ส่วนตัวนักหรอก'
01:48
For better or worse, we kids aren't hampered as much
38
93000
3000
ยังไงก็แล้วแต่ เด็กๆอย่างเรา มักไม่เป็นแบบนั้น
01:51
when it comes to thinking about reasons why not to do things.
39
96000
3000
ที่มักชะงักการลงมือทำด้วยเหตุผลต่างๆ
01:54
Kids can be full of inspiring aspirations
40
99000
2000
เด็กๆมักเต็มไปด้วยไฟแห่งความปรารถนา
01:56
and hopeful thinking.
41
101000
2000
และกระบวนการคิดที่เต็มไปด้วยความหวัง
01:58
Like my wish that no one went hungry
42
103000
2000
เช่น ความปรารถนาของหนูให้ไม่มีคนหิวโหยบนโลก
02:00
or that everything were a free kind of utopia.
43
105000
3000
หรือความอยากให้ทุกอย่างฟรีราวกับอยู่ในโลกยูโทเปีย (ดินแดนไร้ทุกข์)
02:03
How many of you still dream like that
44
108000
2000
แต่มีสักกี่คนในที่นี้ที่ยังฝันเช่นนั้น
02:05
and believe in the possibilities?
45
110000
3000
และเชื่อว่าสักวันมันต้องเป็นไปได้?
02:08
Sometimes a knowledge of history
46
113000
2000
บางที ความรู้ทางประวัติศาสตร์
02:10
and the past failures of utopian ideals
47
115000
2000
และ ความล้มเหลวในอดีตของแนวคิดดินแดนไร้ทุกข์
02:12
can be a burden
48
117000
2000
ก็เป็นตัวถ่วง
02:14
because you know that if everything were free,
49
119000
2000
เพราะ หากทุกอย่างฟรีหมด
02:16
then the food stocks would become depleted
50
121000
2000
อาหารต่างๆจากธรรมชาติก็จะลดลงไป
02:18
and scarce and lead to chaos.
51
123000
2000
และเกิดความขาดแคลน ซึ่งเป็นเหตุการจราจล
02:20
On the other hand,
52
125000
2000
ในทางกลับกัน
02:22
we kids still dream about perfection.
53
127000
2000
เด็กๆอย่างเรายังฝันถึงความสมบูรณ์แบบ
02:24
And that's a good thing because in order
54
129000
2000
ซึ่งเป็นสิ่งดี เพราะว่าในการ
02:26
to make anything a reality,
55
131000
2000
ทำฝันให้เป็นจริงได้นั้น
02:28
you have to dream about it first.
56
133000
2000
คุณต้องฝันถึงมันก่อน
02:30
In many ways, our audacity to imagine
57
135000
3000
ในหลายแง่มุม ความกล้าที่จะจินตนาการของพวกเรานั้น
02:33
helps push the boundaries of possibility.
58
138000
3000
ได้ช่วยผลักดันขอบเขตของความเป็นไปได้ให้กว้างขึ้น
02:36
For instance, the Museum of Glass in Tacoma, Washington,
59
141000
3000
ตัวอย่างเช่น ที่พิพิธภัณฑ์แก้ว ในเมืองทาโคมา รัฐวอชิงตัน
02:39
my home state -- yoohoo Washington!
60
144000
2000
บ้านหนูเอง -- เย้! วอชิงตัน! --
02:41
(Applause) --
61
146000
3000
(เสียงปรบมือ)
02:44
has a program called Kids Design Glass,
62
149000
2000
ได้จัดโครงการ Kids Design Glass ขึ้น
02:46
and kids draw their own ideas for glass art.
63
151000
2000
และเด็กๆก็ได้วาดไอเดียของเขาเองเพื่องานศิลปะจากแก้ว
02:48
Now, the resident artist said they got
64
153000
2000
แล้วจิตรกรประจำพิพิธภัณฑ์บอกว่า พวกเขาได้เห็น
02:50
some of their best ideas through the program
65
155000
2000
ไอเดียเด็ดๆหลายอย่างผ่านโครงการนี้
02:52
because kids don't think about the limitations
66
157000
2000
เพราะเด็กไม่เคยคิดอยู่ในขีดจำกัด
02:54
of how hard it can be to blow glass into certain shapes;
67
159000
2000
ของเป่าขวดแก้วให้เป็นรูปทรงต่างๆที่ต้องการได้
02:56
they just think of good ideas.
68
161000
2000
พวกเขาแค่ออกไอเดียดีๆเท่านั้น
02:58
Now, when you think of glass, you might
69
163000
2000
ทีนี้ เมื่อคุณคิดถึงศิลปะจากแก้ว คุณอาจคิดถึง
03:00
think of colorful Chihuly designs
70
165000
3000
ดีไซน์ที่เต็มไปด้วยสีสันของชิฮิวลี่(นักออกแบบศิลปะแก้ว)
03:03
or maybe Italian vases,
71
168000
2000
หรือไม่ก็อาจจะเป็น แจกันอิตาเลียน
03:05
but kids challenge glass artists to go beyond that
72
170000
3000
แต่เด็กๆเหล่านั้นได้ท้าทายให้เหล่าจิตรกรคิดไปไกลกว่านั้น
03:08
into the realm of broken-hearted snakes
73
173000
2000
ไปถึงผลงานอย่าง 'งูน้อยอกหัก'
03:10
and bacon boys, who you can see has meat vision.
74
175000
3000
หรือ 'เจ้าหนูเบคอน'
03:13
(Laughter)
75
178000
2000
(เสียงหัวเราะ)
03:15
Now, our inherent wisdom
76
180000
2000
ภูมิปัญญาที่สืบทอดมาของเรา
03:17
doesn't have to be insider's knowledge.
77
182000
3000
ไม่ควรจะจำกัดอยู่ในกรอบความรู้เฉพาะทาง
03:20
Kids already do a lot of learning from adults,
78
185000
3000
พวกเด็กๆได้เรียนรู้จากผู้ใหญ่มาโดยตลอด
03:23
and we have a lot to share.
79
188000
2000
และเราก็มีหลายอย่างที่อยากแบ่งปันบ้าง
03:25
I think that adults should start learning from kids.
80
190000
4000
หนูคิดว่า ผู้ใหญ่ควรจะเริ่มเรียนรู้จากเด็กๆ
03:29
Now, I do most of my speaking in front of an education crowd,
81
194000
3000
เอาล่ะ การไปพูดของหนูส่วนใหญ่ เป็นการพูดให้กับกลุ่มคนทำงานด้านการศึกษา
03:32
teachers and students, and I like this analogy:
82
197000
2000
เหล่าคุณครู และนักเรียน แล้วหนูก็ชอบคำอุปมาอุปมัยคำนี้
03:34
It shouldn't just be a teacher at the head of the classroom
83
199000
2000
มันไม่เหมาะสมอีกต่อไปแล้วที่จะให้คุณครูเป็นหัวหน้าห้องเรียนเพียงคนเดียว
03:36
telling students, "Do this, do that."
84
201000
2000
แล้วบอกนักเรียนว่า ต้องทำนั่น ทำนี่
03:38
The students should teach their teachers.
85
203000
3000
นักเรียนควรจะได้สอนคุณครูบ้าง
03:41
Learning between grown ups and kids
86
206000
2000
การเรียนรู้ระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก
03:43
should be reciprocal.
87
208000
2000
ควรเป็นไปในแบบการสื่อสารสองทาง
03:45
The reality, unfortunately, is a little different,
88
210000
3000
น่าเสียดายที่ความเป็นจริง อาจเป็นไปได้ยากกว่าพูด
03:48
and it has a lot to do with trust, or a lack of it.
89
213000
3000
และมันต้องมีสิ่งที่เรียกว่า การไว้วางใจ หรือไม่ก็ไม่มีเลย
03:51
Now, if you don't trust someone, you place restrictions on them, right?
90
216000
3000
แล้วถ้าคุณไม่ไว้ใจใครสักคน คุณจะวางข้อห้ามแก่เขาใช่ไหมคะ
03:54
If I doubt my older sister's ability
91
219000
2000
ถ้าหนูสงสัยในความสามารถของพี่สาวของหนู
03:56
to pay back the 10 percent interest
92
221000
2000
ที่จะจ่ายดอกเบี้ย 10% จากเงิน
03:58
I established on her last loan,
93
223000
2000
ที่หนูให้เธอยืมไป
04:00
I'm going to withhold her ability to get more money from me
94
225000
3000
หนูก็จะยังไม่ให้สิทธิ์เธอยืมเงินหนูได้มากกว่านี้
04:03
until she pays it back. (Laughter)
95
228000
2000
จนกว่าเธอจะจ่ายคืนครบ (เสียงหัวเราะ)
04:05
True story, by the way.
96
230000
2000
นี่เป็นเรื่องจริงนะคะ
04:07
Now, adults seem to have
97
232000
3000
ทีนี้ ผู้ใหญ่หลายคนดูเหมือนว่าจะ
04:10
a prevalently restrictive attitude towards kids
98
235000
3000
มีทัศนคติเชิงลบอันแพร่หลายต่อเด็กๆ
04:13
from every "don't do that,
99
238000
2000
ตั้งแต่ทุกๆประโยคที่ว่า "อย่าทำอย่างนั้น"
04:15
don't do this" in the school handbook
100
240000
2000
หรือ "อย่าทำอย่างนี้" ในหนังสือคู่มือของโรงเรียน
04:17
to restrictions on school Internet use.
101
242000
3000
ไปจนถึง กฎข้อบังคับของการใช้อินเตอร์เน็ตโรงเรียน
04:20
As history points out, regimes become oppressive
102
245000
3000
ดังที่ประวัติศาสตร์แสดงให้เราเห็นว่า ระบอบการปกครองจะกลายเป็นแบบกดขี่
04:23
when they're fearful about keeping control.
103
248000
2000
เมื่อผู้นำกลัวว่าจะคุมอำนาจไม่อยู่
04:25
And although adults may not be quite at the level
104
250000
2000
และถึงแม้ว่า ผู้ใหญ่อาจจะไม่ได้ใช้มาตรการเช่นนั้น
04:27
of totalitarian regimes,
105
252000
2000
อย่างระบอบการปกครองแบบเผด็จการ
04:29
kids have no, or very little say in making the rules,
106
254000
3000
เด็กๆมักไม่มีสิทธิ์หรือมีน้อยมากในการบัญญัติกฎต่างๆ
04:32
when really the attitude should be reciprocal,
107
257000
2000
ในขณะที่จริงๆแล้ว การตั้งกฏต่างๆควรมาจากสองฝ่าย
04:34
meaning that the adult population should learn
108
259000
2000
กล่าวคือ ประชากรผู้ใหญ่ควรเรียนรู้และ
04:36
and take into account the wishes
109
261000
2000
เอาใจใส่ความต้องการดีๆของ
04:38
of the younger population.
110
263000
2000
ประชากรเด็ก
04:40
Now, what's even worse than restriction
111
265000
2000
แล้วอะไรที่แย่ไปกว่าระเบียบข้อห้ามจากผู้ใหญ่
04:42
is that adults often underestimate kids abilities.
112
267000
3000
นั่นคือ การที่ผู้ใหญ่ประเมินความสามารถเด็กตำ่เกินไป
04:45
We love challenges, but when expectations are low,
113
270000
3000
พวกเรารักความท้าทาย แต่เมื่อเรารู้สึกความคาดหวังที่ตำ่จากผู้ใหญ่
04:48
trust me, we will sink to them.
114
273000
3000
เชื่อหนูเถอะ ว่าเราก็จะจมตำ่ไปกับมันด้วย
04:51
My own parents had anything but low expectations
115
276000
3000
พ่อแม่ของหนูให้เกือบทุกสิ่ง
04:54
for me and my sister.
116
279000
2000
ยกเว้นการคาดหวังที่ตำ่แบบนั้นกับหนูและพี่สาว
04:56
Okay, so they didn't tell us to become doctors
117
281000
3000
โอเค แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กดดันให้เราเป็นหมอ
04:59
or lawyers or anything like that,
118
284000
2000
หรือทนายความ อะไรทำนองนั้น
05:01
but my dad did read to us
119
286000
2000
แต่พ่อของหนูอ่าน
05:03
about Aristotle
120
288000
2000
บทความของอริสโตเติล
05:05
and pioneer germ fighters
121
290000
2000
และนักสู้เชื้อโรคผู้บุกเบิกให้พวกเราฟัง
05:07
when lots of other kids were hearing
122
292000
2000
ในขณะที่เด็กหลายคนกำลังฟังเพลง
05:09
"The Wheels on the Bus Go Round and Round."
123
294000
2000
"เจ้าล้อเล็กๆ หมุนๆไปกับรถบัส"
05:11
Well, we heard that one too, but "Pioneer Germ Fighters" totally rules.
124
296000
3000
พวกเราก็ได้ฟังเหมือนกัน แต่เรื่องของ "นักต่อสู้กับเชื้อโรคผู้บุกเบิก" เจ๋งกว่า
05:14
(Laughter)
125
299000
2000
(เสียงหัวเราะ)
05:16
I loved to write from the age of four,
126
301000
2000
หนูชอบการเขียนมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ
05:18
and when I was six
127
303000
2000
และเมื่อหนู 6 ขวบ
05:20
my mom bought me my own laptop equipped with Microsoft Word.
128
305000
3000
แม่ซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กพร้อมโปรแกรม Microsoft Word ให้
05:23
Thank you Bill Gates and thank you Ma.
129
308000
2000
ขอบคุณค่ะ บิล เกตส์ ขอบคุณค่ะแม่
05:25
I wrote over 300 short stories
130
310000
2000
หนูเขียนเรื่องสั้นไว้กว่า 300 เรื่อง
05:27
on that little laptop,
131
312000
2000
บนเจ้าโน้ตบุ๊กเครื่องนั้น
05:29
and I wanted to get published.
132
314000
3000
และหนูอยากให้มันถูกตีพิมพ์
05:32
Instead of just scoffing at this heresy
133
317000
2000
แทนที่จะดูถูกหรือต่อต้านความคิดสุดโต่ง
05:34
that a kid wanted to get published
134
319000
2000
ว่าเด็กจะมาเขียนหนังสือขาย
05:36
or saying wait until you're older,
135
321000
2000
หรือบอกว่า รอให้โตก่อนนะลูก
05:38
my parents were really supportive.
136
323000
2000
พ่อแม่หนูกลับสนับสนุนเต็มที่
05:40
Many publishers were not quite so encouraging,
137
325000
3000
แต่หลายสำนักพิมพ์ไม่ค่อยส่งเสริมความฝันของหนูเท่าไรนัก
05:44
one large children's publisher ironically saying
138
329000
3000
และที่น่าสนใจคือ มีสำนักพิมพ์สำหรับเด็กแห่งหนึ่งพูดว่า
05:47
that they didn't work with children --
139
332000
2000
พวกเขาไม่ทำงานร่วมกับเด็กๆ
05:49
children's publisher not working with children?
140
334000
3000
สำนักพิมพ์สำหรับเด็กๆ ไม่ทำงานร่วมกับเด็กๆเหรอคะ?
05:52
I don't know, you're kind of alienating a large client there.
141
337000
3000
หนูไม่รู้ล่ะ แต่คุณกำลังไล่ลูกค้ารายใหญ่ออกไป
05:55
(Laughter)
142
340000
2000
(เสียงหัวเราะ)
05:57
Now, one publisher, Action Publishing,
143
342000
3000
แล้วก็มีสำนักพิมพ์ชื่อ Action Publishing
06:00
was willing to take that leap and trust me
144
345000
3000
ที่เต็มใจช่วยหนู และเชื่อมั่นในตัวหนู
06:03
and to listen to what I had to say.
145
348000
2000
และรับฟังในสิ่งที่หนูอยากพูด
06:05
They published my first book, "Flying Fingers," -- you see it here --
146
350000
3000
พวกเขาตีพิมพ์หนังสือเล่มแรกของหนู "Flying Fingers" ที่คุณเห็นอยู่นี้
06:08
and from there on, it's gone to speaking at hundreds of schools,
147
353000
4000
การได้ตีพิมพ์หนังสือ ได้พาหนูไปพูดที่หลายร้อยโรงเรียน
06:12
keynoting to thousands of educators
148
357000
2000
ปราศัยให้นักการศึกษานับพัน
06:14
and finally, today, speaking to you.
149
359000
2000
และล่าสุดก็พาหนูมายืนอยู่ตรงนี้ พูดต่อหน้าคุณ
06:16
I appreciate your attention today,
150
361000
2000
หนูยกย่องชื่นชมการให้ความสนใจของทุกท่านวันนี้
06:18
because to show that you truly care,
151
363000
2000
เพราะมันแสดงว่า คุณให้ความสนใจอย่างแท้จริง
06:20
you listen.
152
365000
2000
คุณฟัง
06:22
But there's a problem with this rosy picture
153
367000
3000
แต่มันมีปัญหาเกี่ยวกับภาพที่ฟังดูสวยงาม
06:25
of kids being so much better than adults.
154
370000
3000
ของการที่เด็กๆสามารถทำหลายสิ่งได้ดีกว่าผู้ใหญ่
06:28
Kids grow up and become adults just like you.
155
373000
3000
ซึ่งก็คือ เด็กๆเหล่านั้นมักโตไปเป็นอีกหนึ่งในพวกคุณ
06:31
(Laughter)
156
376000
2000
(เสียงหัวเราะ)
06:33
Or just like you? Really?
157
378000
2000
หรือเป็นได้แค่คุณ จริงๆเหรอคะ?
06:35
The goal is not to turn kids into your kind of adult,
158
380000
3000
เป้าหมายตรงนี้คือไม่ได้เปลี่ยนเด็กๆ ให้กลายเป็นแค่ผู้ใหญ่แบบคุณเท่านั้น
06:38
but rather better adults than you have been,
159
383000
3000
แต่ต้องดีกว่าในแบบที่คุณเคยเป็นมา
06:41
which may be a little challenging
160
386000
2000
ซึ่งมันอาจฟังดูท้าทายนิดหน่อย
06:43
considering your guys' credentials (Laughter).
161
388000
2000
เมื่อคิดถึงสิ่งต่างๆที่พวกคุณได้ทำมา
06:45
But the way progress happens
162
390000
2000
แต่หนทางที่การก้าวไปข้างหน้าเกิดขึ้นได้
06:47
is because new generations and new eras
163
392000
3000
ก็เพราะมี คนรุ่นใหม่ และยุคสมัยใหม่
06:50
grow and develop and become better than the previous ones.
164
395000
3000
ที่เติบโตและพัฒนา และกลายเป็นรุ่นที่ดีกว่ารุ่นก่อนๆ
06:53
It's the reason we're not in the Dark Ages anymore.
165
398000
3000
นี่คือเหตุผลที่ทำให้เราหลุดพ้นจากยุคมืด
06:56
No matter your position or place in life,
166
401000
3000
ไม่ว่าสถานะทางชีวิตของคุณจะเป็นเช่นไร
06:59
it is imperative to create opportunities for children
167
404000
3000
มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะสร้างโอกาสให้กับเด็กๆ
07:02
so that we can grow up to blow you away.
168
407000
3000
เพื่อว่าเราจะได้เติบโต แล้วทำให้พวกคุณทึ่ง
07:05
(Laughter)
169
410000
3000
(หัวเราะ)
07:08
Adults and fellow TEDsters,
170
413000
2000
ผู้ใหญ่และชาวTED ทั้งหลายคะ
07:10
you need to listen and learn from kids
171
415000
2000
พวกท่านจำเป็นต้องฟังและเรียนรู้จากเด็กๆอย่างเรา
07:12
and trust us and expect more from us.
172
417000
3000
ไว้ใจพวกเราและ คาดหวังจากตัวพวกเราให้มากกว่านี้
07:16
You must lend an ear today,
173
421000
2000
ท่านต้องเงี่ยหูของพวกท่านฟังเราในวันนี้
07:18
because we are the leaders of tomorrow,
174
423000
2000
เพราะเราจะกลายเป็นผู้นำในวันพรุ่งนี้
07:20
which means we're going to be taking care of you
175
425000
2000
ซึ่งหมายความว่า เรากำลังจะดูแลพวกท่าน
07:22
when you're old and senile. No, just kidding.
176
427000
3000
เมื่อพวกท่านแก่และใกล้ฝั่ง อุ้ย! หนูหยอกเล่นค่ะ
07:25
No, really, we are going to be the next generation,
177
430000
3000
จริงๆแล้ว คือเรากำลังจะกลายเป็นรุ่นต่อไป
07:28
the ones who will bring this world forward.
178
433000
3000
รุ่นที่จะนำโลกเราก้าวไปข้างหน้า
07:31
And in case you don't think that this really has meaning for you,
179
436000
3000
และในกรณีที่บางท่าน ไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่หนูพูดมานี้
07:34
remember that cloning is possible,
180
439000
2000
โปรดจำไว้ว่า การโคลนนิ่ง สามารถเป็นไปได้ตลอด
07:36
and that involves going through childhood again,
181
441000
2000
และนั่นก็เกี่ยวกับการกลับไปในวัยเด็กอีกครั้ง
07:38
in which case you'll want to be heard
182
443000
2000
วัยซึ่งพวกท่านเรียกร้องให้พวกเราฟังบ้าง
07:40
just like my generation.
183
445000
2000
เหมือนที่พวกหนูกำลังทำตอนนี้
07:42
Now, the world needs opportunities
184
447000
3000
ตอนนี้ โลกเรากำลังต้องการ 'โอกาส'
07:45
for new leaders and new ideas.
185
450000
3000
สำหรับผู้นำใหม่ๆ และไอเดียใหม่ๆ
07:48
Kids need opportunities to lead and succeed.
186
453000
3000
เด็กๆก็ต้องการโอกาสที่จะนำพวกเขาไปสู่เส้นชัย
07:51
Are you ready to make the match?
187
456000
2000
พวกท่านพร้อมกับการท้าทายนี้หรือเปล่าคะ?
07:53
Because the world's problems
188
458000
2000
เพราะปัญหาต่างๆในโลกใบนี้
07:55
shouldn't be the human family's heirloom.
189
460000
3000
ไม่สมควรจะเป็นมรดกตกทอดของมนุษยชาติอีกต่อไป
07:58
Thank you.
190
463000
2000
ขอบคุณค่ะ
08:00
(Applause)
191
465000
3000
(เสียงปรบมือ)
08:03
Thank you. Thank you.
192
468000
2000
ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมาก
ABOUT THE SPEAKER
Adora Svitak - Child prodigyA prolific short story writer and blogger since age seven, Adora Svitak (now 12) speaks around the United States to adults and children as an advocate for literacy.
Why you should listen
A voracious reader from age three, Adora Svitak's first serious foray into writing -- at age five -- was limited only by her handwriting and spelling. (Her astonishing verbal abilities already matched that of young adults over twice her age.) As her official bio says, her breakthrough would soon come "in the form of a used Dell laptop her mother bought her." At age seven, she typed out over 250,000 words -- poetry, short stories, observations about the world -- in a single year.
Svitak has since fashioned her beyond-her-years wordsmithing into an inspiring campaign for literacy -- speaking across the country to both adults and kids. She is author of Flying Fingers, a book on learning.
Adora Svitak | Speaker | TED.com