TEDGlobal 2011
Lucianne Walkowicz: Finding planets around other stars
ลูเซียน วอลโควิคซ์: ค้นหาดาวเคราะห์ในจักรวาล
Filmed:
Readability: 3.8
1,240,810 views
เราตามหาดาวเคราะห์ โดยเฉพาะดาวเคราะห์ที่สิ่งมีชีวิตสามารถอาศัยอยู่ได้ ได้อย่างไร? TED Fellow นามว่า ลูเซียน วอลโควิคซ์ (Lucianne Walkowicz) และ โครงการเคปเลอร์ (Kepler mission) ได้ค้นพบระบบดาวเคราะห์กว่า 1,200 ระบบ โดยการค้นหาจุดบอดเล็กๆที่เกิดขึ้นเมื่อดาวเคราะห์โคจรตัดหน้าดาวฤกษ์ ด้วยกลวิธีแบบใหม่นี้อาจทำให้พวกเขาค้นพบดาวเคราะห์ที่มีสภาวะเหมาะสมสำหรับสิ่งมีชีวิตก็เป็นได้
Lucianne Walkowicz - Stellar astronomer
Lucianne Walkowicz works on NASA's Kepler mission, studying starspots and "the tempestuous tantrums of stellar flares." Full bio
Lucianne Walkowicz works on NASA's Kepler mission, studying starspots and "the tempestuous tantrums of stellar flares." Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
Planetary systems outside our own
0
0
2000
ระบบดาวเคราะห์นอกเหนือจากระบบสุริยะของเรา
00:17
are like distant cities whose lights we can see twinkling,
1
2000
3000
เป็นดั่งเมืองห่างไกลออกไป ที่เราพอจะเห็นแสงสียามค่ำคืน
00:20
but whose streets we can't walk.
2
5000
3000
แต่เราเดินไปไม่ถึง
00:23
By studying those twinkling lights though,
3
8000
2000
ด้วยการศึกษาแสงระยิบระยับเหล่านั้น
00:25
we can learn about how stars and planets interact
4
10000
3000
เราสามารถเรียนรู้ระบบนิเวศน์
00:28
to form their own ecosystem
5
13000
2000
ที่เกิดจากการปฏิกิริยาระหว่างดาวฤกษ์และบริวารของมัน
00:30
and make habitats that are amenable to life.
6
15000
3000
ที่อาจมีที่พักพิงให้สิ่งมีชีวิตยืนยงอยู่ได้
00:33
In this image of the Tokyo skyline,
7
18000
2000
รูปเส้นขอบฟ้าของเมืองโตเกียวนี้
00:35
I've hidden data
8
20000
2000
ผมซ่อนข้อมูล
00:37
from the newest planet-hunting space telescope on the block,
9
22000
2000
จากกล้องโทรทรรศน์ที่สร้างมาเพื่อค้นหาดาวเคราะห์โดยเฉพาะ
00:39
the Kepler Mission.
10
24000
2000
ของโครงการเคปเลอร์ (Kepler Mission)
00:41
Can you see it?
11
26000
2000
คุณเห็นไหม?
00:43
There we go.
12
28000
2000
นี่ล่ะ
00:45
This is just a tiny part of the sky the Kepler stares at,
13
30000
3000
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของที่เคปเลอร์มองหาอยู่
00:48
where it searches for planets
14
33000
2000
มันค้นหาดาวเคราะห์
00:50
by measuring the light from over 150,000 stars,
15
35000
3000
โดยการวัดแสงจากดาวฤกษ์กว่า 150,000 ดวง
00:53
all at once, every half hour,
16
38000
2000
ในเวลาเดียวกัน ในทุกๆครึ่งชั่วโมง
00:55
and very precisely.
17
40000
2000
ด้วยความแม่นยำเป็นเลิศ
00:57
And what we're looking for
18
42000
2000
และสิ่งที่เราตามหาอยู่
00:59
is the tiny dimming of light
19
44000
2000
คือแสงสลัว
01:01
that is caused by a planet passing in front of one of these stars
20
46000
3000
เมื่อดาวเคราะห์เคลื่อนผ่านหน้าดาวฤกษ์เหล่านี้
01:04
and blocking some of that starlight from getting to us.
21
49000
3000
ทำให้แสงส่วนหนึ่งที่เดินทางมาหาเรา กลับลดลง
01:07
In just over two years of operations,
22
52000
3000
ด้วยเวลาเพียงสองปี
01:10
we've found over 1,200
23
55000
2000
เราพบระบบดาวเคราะห์กว่า 1,200 ระบบ
01:12
potential new planetary systems around other stars.
24
57000
3000
ที่มีดาวเคราะห์โคจรรอบดาวฤกษ์
01:15
To give you some perspective,
25
60000
2000
เพื่อให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น
01:17
in the previous two decades of searching,
26
62000
3000
ตลอดระยะเวลากว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา
01:20
we had only known about 400
27
65000
2000
เราค้นพบเพียง 400 ระบบ
01:22
prior to Kepler.
28
67000
2000
ก่อนหน้าที่จะมีโครงการเคปเลอร์
01:24
When we see these little dips in the light,
29
69000
2000
เมื่อเราพบแสงสลัวเหล่านี้
01:26
we can determine a number of things.
30
71000
2000
เราสามารถบอกได้หลายอย่าง
01:28
For one thing, we can determine that there's a planet there,
31
73000
2000
แน่นอนว่าเราสามารถบอกได้ว่ามันมีดาวเคราะห์อยู่ที่นั่น
01:30
but also how big that planet is
32
75000
3000
แต่ยังบอกขนาดของดาวเคราะห์
01:33
and how far it is away from its parent star.
33
78000
3000
และระยะวงโคจรจากดาวฤกษ์ของมันได้อีกด้วย
01:36
That distance is really important
34
81000
2000
ระยะวงโคจรนั้นสำคัญมาก
01:38
because it tells us
35
83000
2000
เพราะมันสามารถบอกเราได้ว่า
01:40
how much light the planet receives overall.
36
85000
2000
ดาวเคราะห์ดวงนั้นรับแสงอาทิตย์มากน้อยแค่ไหน
01:42
And that distance and knowing that amount of light is important
37
87000
3000
และระยะห่างกับปริมาณแสงอาทิตย์ที่ได้รับนั้นสำคัญมาก
01:45
because it's a little like you or I sitting around a campfire:
38
90000
3000
มันเหมือนเวลาเรานั่งรอบกองไฟ
01:48
You want to be close enough to the campfire so that you're warm,
39
93000
2000
คุณอยากอยู่ใกล้พอให้ได้รับความอบอุ่น
01:50
but not so close
40
95000
2000
แต่ก็ต้องไกลพอ
01:52
that you're too toasty and you get burned.
41
97000
2000
ไม่ให้คุณรู้สึกร้อนเกินไป
01:54
However, there's more to know about your parent star
42
99000
3000
ยังมีอีกหลายอย่างที่เราค้นพบ
01:57
than just how much light you receive overall.
43
102000
2000
นอกเหนือไปจากปริมาณแสงที่ดาวเคราะห์ได้รับ
01:59
And I'll tell you why.
44
104000
2000
ดิฉันจะเล่าให้ฟัง
02:01
This is our star. This is our Sun.
45
106000
3000
นี่คือดาวฤกษ์ของเรา ดวงอาทิตย์ของเรา
02:04
It's shown here in visible light.
46
109000
2000
นี่คือสิ่งที่เรามองเห็น
02:06
That's the light that you can see with your own human eyes.
47
111000
2000
นั่นคือแสงที่เราเห็นได้ด้วยตาของเรา
02:08
You'll notice that it looks pretty much
48
113000
2000
คุณจะเห็นว่ามันรูปร่างเหมือน
02:10
like the iconic yellow ball --
49
115000
2000
ลูกบอลสีเหลืองกลมๆ
02:12
that Sun that we all draw when we're children.
50
117000
2000
เป็นพระอาทิตย์ที่เราวาดกันตอนเด็กๆ
02:14
But you'll notice something else,
51
119000
2000
แต่คุณจะเห็นอะไรบางอย่าง
02:16
and that's that the face of the Sun
52
121000
2000
ใบหน้าของดวงอาทิตย์เรา
02:18
has freckles.
53
123000
2000
มีจุดด่าง
02:20
These freckles are called sunspots,
54
125000
2000
จุดด่างเหล่านี้ เราเรียกว่าจุดดับบนดวงอาทิตย์
02:22
and they are just one of the manifestations
55
127000
2000
ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้
02:24
of the Sun's magnetic field.
56
129000
2000
ถึงสนามแม่เหล็กบนดวงอาทิตย์
02:26
They also cause the light from the star to vary.
57
131000
3000
มันทำให้แสงที่เราได้รับจากดาวฤกษ์เปลี่ยนแปลงไป
02:29
And we can measure this
58
134000
2000
และเราสามารถวัดและติดตามผล
02:31
very, very precisely with Kepler and trace their effects.
59
136000
3000
ได้อย่างแม่นยำด้วยเคปเลอร์
02:34
However, these are just the tip of the iceberg.
60
139000
3000
นี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆเท่านั้น
02:37
If we had UV eyes or X-ray eyes,
61
142000
3000
หากดวงตาเรารับแสงยูวี (UV) หรือเอ็กซ์เรย์ (X-ray) ได้
02:40
we would really see
62
145000
2000
เราก็จะเห็น
02:42
the dynamic and dramatic effects
63
147000
2000
พลังอำนาจ
02:44
of our Sun's magnetic activity --
64
149000
2000
ของสนามแม่เหล็กบนดวงอาทิตย์
02:46
the kind of thing that happens on other stars as well.
65
151000
3000
คล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับดาวฤกษ์ดวงอื่นเช่นกัน
02:49
Just think, even when it's cloudy outside,
66
154000
2000
ลองนึกดูสิคะ แม้กระทั่งเวลาฟ้าครึ้ม
02:51
these kind of events are happening
67
156000
2000
ปรากฎการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
02:53
in the sky above you all the time.
68
158000
3000
เหนือศีรษะคุณตลอดเวลา
02:57
So when we want to learn whether a planet is habitable,
69
162000
3000
ดังนั้น ถ้าเราต้องการรู้ว่าดาวดวงไหนเหมาะแก่การอยู่อาศัย
03:00
whether it might be amenable to life,
70
165000
2000
สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
03:02
we want to know not only how much total light it receives
71
167000
2000
เราต้องรู้มากกว่าแค่ว่ามันรับแสงมากน้อยแค่ไหน
03:04
and how warm it is,
72
169000
2000
หรืออบอุ่นแค่ไหน
03:06
but we want to know about its space weather --
73
171000
3000
แต่เราต้องรู้ถึงสภาพเหนือชั้นบรรยากาศด้วย
03:09
this high-energy radiation,
74
174000
2000
การแผ่รังสี
03:11
the UV and the X-rays
75
176000
2000
ทั้งรังสียูวีและเอ็กซ์เรย์
03:13
that are created by its star
76
178000
2000
ที่เกิดจากดาวฤกษ์
03:15
and that bathe it in this bath of high-energy radiation.
77
180000
3000
และตกกระทบลงบนดาวเคราะห์เหล่านั้น
03:18
And so, we can't really look
78
183000
2000
ดังนั้นเราไม่สามารถ
03:20
at planets around other stars
79
185000
2000
ศึกษาดาวเคราะห์ในระบบอื่นๆ
03:22
in the same kind of detail
80
187000
2000
ด้วยรายละเอียด
03:24
that we can look at planets in our own solar system.
81
189000
3000
ในแบบที่เราศึกษาระบบสุริยะของเราได้
03:27
I'm showing here Venus, Earth and Mars --
82
192000
2000
นี่คือภาพของดาวศุกร์ โลก และดาวอังคาร
03:29
three planets in our own solar system that are roughly the same size,
83
194000
3000
ดาวเคราะห์สามดวงที่มีขนาดใกล้เคียงกัน
03:32
but only one of which
84
197000
2000
แต่มีเพียงดวงเดียว
03:34
is really a good place to live.
85
199000
2000
ที่เหมาะสำหรับสิ่งมีชีวิต
03:36
But what we can do in the meantime
86
201000
2000
แต่สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้
03:38
is measure the light from our stars
87
203000
3000
คือการศึกษาแสงจากดาวฤกษ์
03:41
and learn about this relationship
88
206000
2000
และศึกษาความสัมพันธ์
03:43
between the planets and their parent stars
89
208000
2000
ระหว่างดาวฤกษ์และดาวบริวารของมัน
03:45
to suss out clues
90
210000
2000
เพื่อหาเบาะแส
03:47
about which planets might be good places
91
212000
2000
ว่าดาวดวงไหนที่อาจจะเหมาะสำหรับ
03:49
to look for life in the universe.
92
214000
2000
การค้นหาสิ่งมีชีวิตอื่นในจักรวาล
03:51
Kepler won't find a planet
93
216000
2000
เคปเลอร์อาจไม่พบดาวเคราะห์
03:53
around every single star it looks at.
94
218000
2000
รอบๆดาวฤกษ์ทุกดวง
03:55
But really, every measurement it makes
95
220000
2000
แต่ที่ย่างก้าวที่เราค้นหา
03:57
is precious,
96
222000
2000
เป็นสิ่งล้ำค่า
03:59
because it's teaching us about the relationship
97
224000
2000
เพราะมันกำลังสอนเราเกี่ยวกับความสัมพันธ์
04:01
between stars and planets,
98
226000
2000
ระหว่างดาวฤกษ์และดาวเคราะห์
04:03
and how it's really the starlight
99
228000
2000
และเพื่อเรียนรู้ว่าแสงจากดาวฤกษ์
04:05
that sets the stage
100
230000
2000
คือสิ่งที่เป็น
04:07
for the formation of life in the universe.
101
232000
2000
ต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตในจักรวาล
04:09
While it's Kepler the telescope, the instrument that stares,
102
234000
3000
ในขณะที่เคปเลอร์เป็นผู้เฝ้ามองจักรวาล
04:12
it's we, life, who are searching.
103
237000
3000
เรา ที่เป็นสิ่งมีชีวิต ต่างหากที่เป็นผู้คนหา
04:15
Thank you.
104
240000
2000
ขอบคุณค่ะ
04:17
(Applause)
105
242000
2000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Lucianne Walkowicz - Stellar astronomerLucianne Walkowicz works on NASA's Kepler mission, studying starspots and "the tempestuous tantrums of stellar flares."
Why you should listen
Lucianne Walkowicz is an Astronomer at the Adler Planetarium in Chicago. She studies stellar magnetic activity and how stars influence a planet's suitability as a host for alien life. She is also an artist and works in a variety of media, from oil paint to sound. She got her taste for astronomy as an undergrad at Johns Hopkins, testing detectors for the Hubble Space Telescope’s new camera (installed in 2002). She also learned to love the dark stellar denizens of our galaxy, the red dwarfs, which became the topic of her PhD dissertation at University of Washington. Nowadays, she works on NASA’s Kepler mission, studying starspots and the tempestuous tantrums of stellar flares to understand stellar magnetic fields. She is particularly interested in how the high energy radiation from stars influences the habitability of planets around alien suns. Lucianne is also a leader in the Large Synoptic Survey Telescope, a new project that will scan the sky every night for 10 years to create a huge cosmic movie of our Universe.
Lucianne Walkowicz | Speaker | TED.com