TED2012
David Kelley: How to build your creative confidence
เดวิด เคลลี่: จงเชื่อมั่นในความคิดสร้างสรรค์ของคุณ
Filmed:
Readability: 3.2
5,317,375 views
ในโรงเรียนหรือที่ทำงานของคุณ แบ่งกลุ่มคนออกเป็นพวกมีความคิดสร้างสรรค์กับพวกที่ไม่มีหรือไม่? เดวิด เคลลี่นำเสนอว่า ความคิดสร้างสรรค์ ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่กับกลุ่มคนเพียงส่วนน้อย เขาเล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านประสบการณ์ชีวิตและการทำงานของเขา และแนะหนทางที่จะสร้างความเชื่อมั่นเพื่อสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ (จากงานออกแบบที่ TED2012 แนะนำแขกรับเชิญโดย Chee Pearlman และ David Rockwell)
David Kelley - Designer, educator
David Kelley’s company IDEO helped create many icons of the digital generation -- but what matters even more to him is unlocking the creative potential of people and organizations to innovate routinely. Full bio
David Kelley’s company IDEO helped create many icons of the digital generation -- but what matters even more to him is unlocking the creative potential of people and organizations to innovate routinely. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
I wanted to talk to you today
0
42
2504
ผมอยากจะพูดกับคุณวันนี้
00:18
about creative confidence.
1
2546
2242
เรื่องความมั่นใจในความคิดสร้างสรรค์
00:20
I'm going to start way back in the third grade
2
4788
3254
ผมจะเริ่มตั้งแต่สมัยตอนอยู่ประถมสามเลย
00:23
at Oakdale School in Barberton, Ohio.
3
8042
2833
ที่โรงเรียนโอ๊คเดล ในเมืองบาร์เบอร์ตัน โอไฮโอ
00:26
I remember one day my best friend Brian was working on a project.
4
10875
4417
จำได้ว่า วันหนึ่งไบรอันเพื่อนผมเริ่มทำโครงการอย่างหนึ่ง
00:31
He was making a horse out of the clay
5
15292
2833
เขาปั้นม้าโดยใช้ดินน้ำมัน
00:34
that our teacher kept under the sink.
6
18125
2833
ที่ครูเก็บเอาไว้ใต้อ่างล้างมือ
00:36
And at one point, one of the girls who was sitting at his table,
7
20958
3417
ระหว่างนั้น เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกับเขา
00:40
seeing what he was doing,
8
24375
1750
เห็นว่าไบรอันกำลังทำอะไรอยู่
00:42
leaned over and said to him,
9
26125
2083
ก็โน้มตัวเข้าไปหา แล้วก็พูดว่า
00:44
"That's terrible. That doesn't look anything like a horse."
10
28208
3375
"นั่นดูแย่จังเลย ไม่เห็นเหมือนม้าเลยซักนิด"
00:47
And Brian's shoulders sank.
11
31583
3792
ไบรอันถึงกับหน้าเสียเลยทีเดียว
00:51
And he wadded up the clay horse and he threw it back in the bin.
12
35375
2625
เขาขย้ำม้าดินน้ำมันตัวนั้น แล้วโยนมันกลับไปในถัง
00:53
I never saw Brian do a project like that ever again.
13
38000
6000
ผมไม่เคยเห็นไบรอัน ลงมือทำโครงการอะไรแบบนั้นอีกเลย
00:59
And I wonder how often that happens.
14
44000
2673
ผมสงสัยว่า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน
01:02
It seems like when I tell that story of Brian to my class,
15
46673
4708
มันเหมือนกับว่า เมื่อผมเล่าเรื่องไบรอันให้นักศึกษาในชั้นฟัง
01:07
a lot of them want to come up after class
16
51381
3411
มีหลายคนที่มาหาผมหลังเลิกเรียน
01:10
and tell me about their similar experience,
17
54792
1750
และบอกผมว่า พวกเขาก็เจอประสบการณ์คล้ายๆ กัน
01:12
how a teacher shut them down
18
56542
1750
ครูบางคนทำให้พวกเขาหยุดชะงัก
01:14
or how a student was particularly cruel to them.
19
58292
2041
หรือเพื่อนนักเรียนด้วยกันวิจารณ์อย่างโหดร้าย
01:16
And some opt out thinking of themselves
20
60333
3625
และทำให้หลายคนคิดไปว่า ตัวพวกเขาเอง
01:19
as creative at that point.
21
63958
1750
คงไม่มีหัวทางความคิดสร้างสรรค์เป็นแน่
01:21
And I see that opting out that happens in childhood,
22
65708
4998
และผมได้เห็นว่า ความฝังใจแบบนั้นเกิดขึ้นในวัยเด็ก
01:26
and it moves in and becomes more ingrained,
23
70706
2252
แล้วก็ฝังแน่นลงไปเรื่อยๆ
01:28
even by the time you get to adult life.
24
72958
3167
แม้กระทั่งจนถึงตอนที่เป็นผู้ใหญ่
01:32
So we see a lot of this.
25
76125
4792
และเราเห็นเรื่องแบบนี้บ่อยมาก
01:36
When we have a workshop
26
80917
2625
เมื่อเราจัดเวิร์คช็อป
01:39
or when we have clients in to work with us side-by-side,
27
83542
1958
หรือร่วมทำงานกับลูกค้าของเรา
01:41
eventually we get to the point in the process
28
85500
2935
ถึงจุดหนึ่ง เราจะเริ่มกระบวนการ
01:44
that's fuzzy or unconventional.
29
88435
2558
ที่จำเป็นต้องอาศัยการคิดนอกกรอบ
01:46
And eventually these bigshot executives whip out their Blackberries
30
90993
4176
เราจะเริ่มเห็นพวกบิ๊กบอสทั้งหลาย เริ่มเอาแบล็คเบอร์รี่ออกมา
01:51
and they say they have to make really important phone calls,
31
95169
3101
แล้วก็อ้างว่า เขาต้องไปโทรศัพท์ที่สำคัญมากๆ
01:54
and they head for the exits.
32
98270
1355
แล้วเริ่มหาทางเลี่ยงออกมา
01:55
And they're just so uncomfortable.
33
99625
3281
พวกเขารู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย
01:58
When we track them down and ask them what's going on,
34
102906
2094
เมื่อเราตามพวกเขาไปแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น
02:00
they say something like, "I'm just not the creative type."
35
105000
3833
พวกเขาก็จะบอกว่า "ผมไม่ใช่พวกที่มีหัวทางคิดสร้างสรรค์นัก"
02:04
But we know that's not true.
36
108833
2042
แต่เรารู้ว่านั่นไม่จริงเลย
02:06
If they stick with the process, if they stick with it,
37
110875
3425
ถ้าพวกเขาอดทนทำต่อไปตามขั้นตอน
02:10
they end up doing amazing things
38
114300
1806
ท้ายที่สุดพวกเขาจะทำสิ่งที่น่าทึ่งขึ้นมาได้
02:12
and they surprise themselves just how innovative
39
116106
3274
และพวกเขาจะประหลาดใจในตัวเองว่า พวกเขาและทีมงาน
02:15
they and their teams really are.
40
119380
1674
มีความริเริ่มสร้างสรรค์มากขนาดไหน
02:16
So I've been looking at this fear of judgment that we have.
41
121054
6544
ผมได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับความกลัวที่จะถูกตัดสิน
02:23
That you don't do things, you're afraid you're going to be judged.
42
127598
3277
เราไม่ลงมือทำอะไรต่ออะไร เพราะกลัวว่าจะถูกตัดสิน
02:26
If you don't say the right creative thing, you're going to be judged.
43
130875
4083
ถ้าสิ่งที่คุณพูด ฟังดูไม่สร้างสรรค์พอ คุณจะถูกตัดสิน
02:30
And I had a major breakthrough
44
134958
2436
การศึกษาของผมก้าวกระโดดไปอย่างมาก
02:33
when I met the psychologist Albert Bandura.
45
137394
3648
เมื่อผมได้พบกับนักจิตวิทยา อัลเบิร์ต แบนดูรา
02:36
I don't know if you know Albert Bandura.
46
141042
2612
ผมไม่รู้ว่าคุณรู้จัก อัลเบิร์ต แบนดูรา หรือไม่
02:39
But if you go to Wikipedia,
47
143654
1346
ในวิกิพีเดียเขียนไว้ว่า
02:40
it says that he's the fourth most important psychologist in history --
48
145000
3583
เขาเป็นนักจิตวิทยาคนสำคัญลำดับที่สี่ในประวัติศาสตร์
02:44
like Freud, Skinner, somebody and Bandura.
49
148583
4542
แบบว่า ฟรอยด์ สกินเนอร์ ใครบางคน แล้วก็ แบนดูรา
02:49
Bandura's 86 and he still works at Stanford.
50
153125
4439
ตอนนี้เขาอายุ 86 และยังคงทำงานอยู่ที่สแตนฟอร์ด
02:53
And he's just a lovely guy.
51
157564
1728
และเขาเป็นคนที่น่ารักมาก
02:55
And so I went to see him
52
159292
2708
ผมเดินทางไปพบเขา
02:57
because he has just worked on phobias for a long time,
53
162000
3912
เพราะเขาทำงานเกี่ยวกับโรคหวาดกลัวสิ่งต่างๆ มาเป็นเวลานาน
03:01
which I'm very interested in.
54
165912
1945
ซึ่งผมก็มีความสนใจอยู่
03:03
He had developed this way, this kind of methodology,
55
167857
5893
เขาพัฒนาวิธีการที่จะช่วยเยียวยาผู้คน
03:09
that ended up curing people in a very short amount of time.
56
173750
3542
ที่เป็นโรคหวาดกลัวสิ่งต่างๆ ได้ในเวลาอันสั้น
03:13
In four hours he had a huge cure rate of people who had phobias.
57
177292
4816
เพียงแค่สี่ชั่วโมง อาการก็ดีขึ้นมากได้
03:18
And we talked about snakes. I don't know why we talked about snakes.
58
182108
2559
และเราพูดถึงความกลัวอย่าง กลัวงู
03:20
We talked about snakes and fear of snakes as a phobia.
59
184667
4333
แต่เราพูดถึงงู และความกลัวงูที่เป็นโรคอย่างหนึ่ง
03:24
And it was really enjoyable, really interesting.
60
189000
3625
มันเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจมาก
03:28
He told me that he'd invite the test subject in,
61
192625
5507
เขาบอกผมว่า เขาจะเชิญผู้รับการรักษาเข้ามา
03:34
and he'd say, "You know, there's a snake in the next room
62
198132
2578
แล้วบอกว่า "ในห้องข้างๆ นี่มีงูอยู่ตัวหนึ่ง
03:36
and we're going to go in there."
63
200710
2208
และเราจะเข้าไปในนั้นกัน"
03:38
To which, he reported, most of them replied,
64
202918
3374
เขาเล่าว่า ผู้ทดสอบเกือบทั้งหมดตอบว่า
03:42
"Hell no, I'm not going in there,
65
206292
1541
"ให้ตาย ฉันก็ไม่เข้าไปในนั้น
03:43
certainly if there's a snake in there."
66
207833
2625
ถ้ามีงูอยู่ในนั้นละก็ ไม่มีวันหรอก"
03:46
But Bandura has a step-by-step process that was super successful.
67
210458
5132
แต่แบนดูรา ก็มีวิธีการเป็นขั้นเป็นตอน ที่ประสบความสำเร็จมาก
03:51
So he'd take people to this two-way mirror
68
215590
2875
เขาพาคนเหล่านั้นไปข้างกระจกสองด้าน
03:54
looking into the room where the snake was,
69
218465
1950
มองเข้าไปในห้องที่มีงูอยู่
03:56
and he'd get them comfortable with that.
70
220415
2489
แล้วก็ช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายลง
03:58
And then through a series of steps,
71
222904
1721
แล้วก็ผ่านขั้นตอนอีกหลายอย่าง
04:00
he'd move them and they'd be standing in the doorway with the door open
72
224625
3458
จนเขาสามารถพาผู้ทดสอบมายืนอยู่หน้าประตูห้อง โดยเปิดประตูไว้
04:03
and they'd be looking in there.
73
228083
1750
แล้วให้พวกเขามองเข้าไปข้างใน
04:05
And he'd get them comfortable with that.
74
229833
1865
ช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายกับการทำอย่างนั้น
04:07
And then many more steps later, baby steps,
75
231698
2427
และผ่านขั้นตอนเล็กๆ ง่ายๆ อีกหลายต่อหลายขั้น
04:10
they'd be in the room, they'd have a leather glove like a welder's glove on,
76
234125
3917
พวกเขาเข้าไปอยู่ในห้อง สวมถุงมือหนัง แบบที่ใช้เชื่อมโลหะ
04:13
and they'd eventually touch the snake.
77
238042
3403
และในที่สุด พวกเขาก็จะกล้าที่จะสัมผัสกับงู
04:17
And when they touched the snake everything was fine. They were cured.
78
241445
5305
และเมื่อพวกเขาได้สัมผัสกับงูแล้ว
04:22
In fact, everything was better than fine.
79
246750
2417
ในความจริงแล้ว มันดีกว่านั้นเสียอีก
04:25
These people who had life-long fears of snakes
80
249167
3496
คนเหล่านี้ที่เคยหวาดกลัวงูมาตลอดทั้งชีวิต
04:28
were saying things like,
81
252663
1703
ต่างก็พูดกันว่า
04:30
"Look how beautiful that snake is."
82
254366
2769
"ดูซิว่างูพวกนี้สวยงามขนาดไหน"
04:33
And they were holding it in their laps.
83
257135
3055
และพวกเขาจะสามารถอุ้มมันไว้บนตักได้
04:36
Bandura calls this process "guided mastery."
84
260190
5060
แบนดูราเรียกกระบวนการนี้ว่า "ความชำนาญผ่านการชี้นำ"
04:41
I love that term: guided mastery.
85
265250
2943
ผมชอบศัพท์คำนี้ "ความชำนาญผ่านการชี้นำ"
04:44
And something else happened,
86
268193
2557
นอกจากนั้น
04:46
these people who went through the process and touched the snake
87
270750
3417
ผู้คนเหล่านี้ ที่ผ่านขั้นตอนมาจนสามารถสัมผัสงูได้
04:50
ended up having less anxiety about other things in their lives.
88
274167
3041
ลงท้ายด้วยการมีความวิตกกังวลน้อยลง ในเรื่องอื่นๆ ของชีวิต
04:53
They tried harder, they persevered longer,
89
277208
4710
พวกเขาจะพยายามมากขึ้น มุมานะเป็นเวลายาวนานขึ้น
04:57
and they were more resilient in the face of failure.
90
281918
2040
และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เมื่อเผชิญหน้ากับความล้มเหลว
04:59
They just gained a new confidence.
91
283958
4000
พวกเขาได้พัฒนาความเชื่อมั่นแบบใหม่
05:03
And Bandura calls that confidence self-efficacy --
92
287958
5792
และแบนดูราเรียกความเชื่อมั่นนั้นว่า การรับรู้ความสามารถของตนเอง
05:09
the sense that you can change the world
93
293750
2833
ความรู้สึกที่ว่า คุณสามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้
05:12
and that you can attain what you set out to do.
94
296583
3563
และว่าคุณสามารถบรรลุสิ่งที่คุณตั้งเป้าหมายที่จะทำได้
05:16
Well meeting Bandura was really cathartic for me
95
300146
3867
การได้พบกับแบนดูรา ทำให้ผมรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก
05:19
because I realized that this famous scientist
96
304013
3357
เพราะผมตระหนักว่า นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังคนนี้
05:23
had documented and scientifically validated
97
307370
2588
ได้ทำการทดลอง และยืนยันผ่านกระบวนการวิทยาศาสตร์
05:25
something that we've seen happen for the last 30 years.
98
309958
4125
ถึงสิ่งที่เราได้เห็นมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว
05:29
That we could take people who had the fear that they weren't creative,
99
314083
3944
ว่าเราสามารถช่วยคนที่เคยกลัว ว่าตัวเองไม่มีหัวทางสร้างสรรค์
05:33
and we could take them through a series of steps,
100
318027
2827
เราสามารถช่วยพวกเขาผ่านขั้นตอนต่างๆ
05:36
kind of like a series of small successes,
101
320854
3292
อาทิเช่น ความสำเร็จเล็กๆ ต่อเนื่องกัน
05:40
and they turn fear into familiarity, and they surprise themselves.
102
324146
5437
เปลี่ยนจากหวาดกลัว เป็นคุ้นเคย และสร้างความประหลาดใจให้ตัวเองได้
05:45
That transformation is amazing.
103
329583
1167
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้น น่าทึ่งมาก
05:46
We see it at the d.school all the time.
104
330750
3208
เราได้เห็นอย่างนั้นในวิทยาลัยการออกแบบ (ในสแตนฟอร์ด) อยู่เสมอ
05:49
People from all different kinds of disciplines,
105
333958
1750
ผู้คนจากหลากหลายภูมิหลัง
05:51
they think of themselves as only analytical.
106
335708
3292
พวกเขาเคยมองตัวเองว่าเป็นพวกมีตรรกะเพียงอย่างเดียว
05:54
And they come in and they go through the process, our process,
107
339000
3917
และเมื่อพวกเขาเข้ามา ผ่านกระบวนการของเรา
05:58
they build confidence and now they think of themselves differently.
108
342917
3083
พวกเขาได้สร้างความมั่นใจ มองตัวเองต่างไปจากเดิม
06:01
And they're totally emotionally excited
109
346000
3364
และพวกเขารู้สึกตื่นเต้นกับมันมาก
06:05
about the fact that they walk around
110
349364
1934
กับความจริงที่ว่า พวกเขาสามารถเรียกตัวเอง
06:07
thinking of themselves as a creative person.
111
351329
1838
และมองตัวเองได้ว่า เป็นพวกมีความคิดสร้างสรรค์
06:09
So I thought one of the things I'd do today
112
353167
3750
สิ่งที่ผมจะทำต่อจากนี้
06:12
is take you through and show you what this journey looks like.
113
356917
3416
คือพาคุณไปดูว่า กระบวนการนี้เป็นอย่างไร
06:16
To me, that journey looks like Doug Dietz.
114
360333
4750
ตัวอย่างของกระบวนการนี้ คือเรื่องของดั๊ก ดีดซ์
06:20
Doug Dietz is a technical person.
115
365083
4500
ดั๊ก ดิดซ์ เป็นคนที่เชียวชาญในทางเทคนิค
06:25
He designs medical imaging equipment,
116
369583
2500
เขาออกแบบอุปกรณ์ถ่ายภาพทางการแพทย์
06:27
large medical imaging equipment.
117
372083
1250
เครื่องสแกนภาพขนาดใหญ่ ที่ใช้ในการแพทย์
06:29
He's worked for GE, and he's had a fantastic career.
118
373333
4240
เขาทำงานให้กับจีอี และประสบความสำเร็จอย่างมากในงาน
06:33
But at one point he had a moment of crisis.
119
377573
3050
แต่พอถึงจุดหนึ่ง เขาได้พบกับช่วงเวลาวิกฤต
06:36
He was in the hospital looking at one of his MRI machines in use
120
380623
4031
ตอนนั้นเขาไปที่โรงพยาบาล เพื่อดูการทำงานของเครื่องเอ็มอาร์ไอ
06:40
when he saw a young family.
121
384654
1950
เมื่อเขาเห็นครอบครัวหนึ่ง เข้ามาใช้เครื่อง
06:42
There was a little girl,
122
386619
1339
มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ
06:43
and that little girl was crying and was terrified.
123
387958
3687
ซึ่งกำลังร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว
06:47
And Doug was really disappointed to learn
124
391645
2866
ดั๊กรู้สึกผิดหวังมากที่ได้รู้ว่า
06:50
that nearly 80 percent of the pediatric patients in this hospital
125
394527
4431
เกือบ 80% ของผู้ป่วยเด็กในโรงพยาบาล
06:54
had to be sedated in order to deal with his MRI machine.
126
398958
4138
จำเป็นจะต้องได้รับยาคลายเครียด เพื่อที่จะใช้เครื่องเอ็มอาร์ไอ
06:58
And this was really disappointing to Doug,
127
403096
2779
และนั่นทำให้ดั๊กผิดหวังเป็นอย่างมาก
07:01
because before this time he was proud of what he did.
128
405875
4083
เพราะก่อนหน้านั้น เขารู้สึกภาคภูมิใจในงานของเขามาก
07:05
He was saving lives with this machine.
129
409958
1750
เขาช่วยชีวิตผู้คนมากมาย ด้วยเครื่องที่เขาออกแบบ
07:07
But it really hurt him to see the fear
130
411708
2625
แต่มันเป็นเรื่องเจ็บปวดสำหรับเขา ที่เห็นเด็กๆ หวาดกลัว
07:10
that this machine caused in kids.
131
414333
2750
ที่จะต้องใช้เครื่องนี้
07:12
About that time he was at the d.school at Stanford taking classes.
132
417083
4527
ในระหว่างนั้น เขาก็กำลังเรียนอยู่ที่วิทยาลัยการออกแบบที่สแตนฟอร์ด
07:17
He was learning about our process
133
421610
1353
เขาได้เรียนรู้เกี่่ยวกับกระบวนการของเรา
07:18
about design thinking, about empathy,
134
422963
2596
เกี่ยวกับการออกแบบ เกี่ยวกับความรู้สึกร่วมกับผู้อื่น
07:21
about iterative prototyping.
135
425559
2649
และเกี่ยวกับการสร้างต้นแบบ
07:24
And he would take this new knowledge
136
428208
1750
และเขาได้นำความรู้ใหม่นี้
07:25
and do something quite extraordinary.
137
429958
2459
ไปใช้สร้างบางอย่างที่พิเศษแตกต่างออกไป
07:28
He would redesign the entire experience of being scanned.
138
432417
5558
เขาออกแบบประสบการณ์ใหม่ในการใช้เครื่องสแกนร่างกาย
07:33
And this is what he came up with.
139
437975
2025
และนี่คือสิ่งที่เขาออกแบบมาได้
07:35
He turned it into an adventure for the kids.
140
440000
3042
เขาเปลี่ยนการสแกนร่างกายให้เป็นการผจญภัยสำหรับเด็กๆ
07:38
He painted the walls and he painted the machine,
141
443042
2458
เขาระบายสีผนัง และตัวเครื่อง
07:41
and he got the operators retrained by people who know kids,
142
445500
2958
และให้เจ้าหน้าที่ควบคุมเครื่อง ได้รับการฝึกสอน จากคนที่เข้าใจเด็ก
07:44
like children's museum people.
143
448458
2209
อย่างเจ้าหน้าที่จากพิพิธภัณฑ์เด็ก
07:46
And now when the kid comes, it's an experience.
144
450667
4125
และตอนนี้เมื่อเด็กเข้ามาใช้เครื่อง มันกลายเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนาน
07:50
And they talk to them about the noise and the movement of the ship.
145
454792
3616
พวกเขาคุยกับเด็กเรื่องเสียงและการเคลื่อนไหว เหมือนกับเป็นเรือ
07:54
And when they come, they say,
146
458408
1404
และเมื่อพวกเด็กๆ เข้ามาในเครื่อง พวกเขาก็จะบอกว่า
07:55
"Okay, you're going to go into the pirate ship,
147
459812
2290
"เอาละ หนูกำลังจะเข้าไปในเรือโจรสลัดนะ
07:58
but be very still because we don't want the pirates to find you."
148
462102
2856
อยู่นิ่งๆ นะ เพราะเราไม่อยากให้พวกโจรสลัดหาหนูเจอ"
08:00
And the results were super dramatic.
149
464958
4632
และผลที่ได้ก็น่าประทับใจมาก
08:05
So from something like 80 percent of the kids needing to be sedated,
150
469590
4454
จากจำนวนเด็กที่ต้องได้ยาคลายเครียด 80%
08:09
to something like 10 percent of the kids needing to be sedated.
151
474044
4195
ได้ลดลงเหลือเพียง 10% เท่านั้น
08:14
And the hospital and GE were happy too.
152
478239
2177
และทั้งโรงพยาบาล กับทางจีอี ต่างก็มีความสุขเช่นกัน
08:16
Because you didn't have to call the anesthesiologist all the time,
153
480416
3100
เพราะไม่ต้องใช้วิสัญญีแพทย์ตลอด เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
08:19
they could put more kids through the machine in a day.
154
483516
1484
พวกเขาสามารถพาเด็กมาใช้เครื่องได้เพิ่มขึ้นต่อวัน
08:20
So the quantitative results were great.
155
485000
2888
ดังนั้นผลลัพธ์เชิงตัวเลข ก็ดีมากด้วยเช่นกัน
08:23
But Doug's results that he cared about were much more qualitative.
156
487888
4049
แต่ผลลัพธ์ที่ดั๊กให้ความสำคัญมากกว่า คือผลด้านคุณภาพ
08:27
He was with one of the mothers
157
491937
2276
เขาได้อยู่กับคุณแม่คนหนึ่ง
08:30
waiting for her child to come out of the scan.
158
494213
2104
ระหว่างรอให้ลูกของเธอ ออกมาจากเครื่องสแกน
08:32
And when the little girl came out of her scan,
159
496317
2554
และเมื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นออกจากเครื่อง
08:34
she ran up to her mother and said,
160
498871
2029
เธอวิ่งมาหาแม่ แล้วก็บอกว่า
08:36
"Mommy, can we come back tomorrow?"
161
500900
1921
"แม่จ๋า พรุ่งนี้เรามานี่อีกได้มั้ย?"
08:38
(Laughter)
162
502821
2741
(หัวเราะ)
08:41
And so I've heard Doug tell the story many times,
163
505562
3382
เราได้ยินดั๊กเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง หลายต่อหลายครั้ง
08:44
of his personal transformation
164
508944
2696
เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตัวเขาเอง
08:47
and the breakthrough design that happened from it,
165
511640
3487
และเกี่่ยวกับการออกแบบก้าวกระโดด ที่เกิดขึ้น
08:51
but I've never really seen him tell the story of the little girl
166
515127
2358
และทุกครั้งที่ผมได้ยินเขาเล่าเรื่องเด็กผู้หญิงคนนี้
08:53
without a tear in his eye.
167
517500
2333
ผมเห็นเขาน้ำตาคลอทุกครั้ง
08:55
Doug's story takes place in a hospital.
168
519833
1952
เรื่องของดั๊ก เกิดขึ้นในโรงพยาบาล
08:57
I know a thing or two about hospitals.
169
521785
3048
ผมพอจะรู้เรื่องเกี่ยวกับโรงพยาบาลอยู่บ้าง
09:00
A few years ago I felt a lump on the side of my neck,
170
524833
4423
เมื่อไม่กี่ปีก่อน ผมคลำพบก้อนเนื้อข้างลำคอ
09:05
and it was my turn in the MRI machine.
171
529287
3880
แล้วก็ถึงตาผมที่ต้องไปใช้เครื่องเอ็มอาร์ไอบ้าง
09:09
It was cancer. It was the bad kind.
172
533167
3418
มันเป็นมะเร็งครับ และเป็นแบบที่ไม่ดีเสียด้วย
09:12
I was told I had a 40 percent chance of survival.
173
536585
3546
หมอบอกว่า ผมมีโอกาสรอด 40 เปอร์เซ็นต์
09:16
So while you're sitting around with the other patients in your pajamas
174
540131
4451
และในระหว่างที่คุณนั่งอยู่ในชุดนอนร่วมกับผู้ป่วยคนอื่นๆ
09:20
and everybody's pale and thin
175
544582
2001
ทุกคนดูผอมบางและซีดเซียว
09:22
and you're waiting for your turn to get the gamma rays,
176
546583
4125
และคุณเองก็รอคิวของคุณที่จะเข้ารับการฉายรังสี
09:26
you think of a lot of things.
177
550708
1750
ตอนนั้นคุณจะคิดถึงอะไรหลายๆ อย่าง
09:28
Mostly you think about, Am I going to survive?
178
552458
2209
ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็น "ฉันจะรอดมั้ยเนี่ย?"
09:30
And I thought a lot about,
179
554667
2625
และผมก็คิดถึงเกี่ยวกับ
09:33
What was my daughter's life going to be like without me?
180
557292
3387
ชีวิตลูกสาวผมจะเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าขาดผมไป
09:36
But you think about other things.
181
560679
3321
แต่คุณก็จะคิดถึงเรื่องอื่นด้วย
09:39
I thought a lot about, What was I put on Earth to do?
182
564000
3948
ผมคิดว่า หน้าที่ของผมบนโลกนี้คืออะไร?
09:43
What was my calling? What should I do?
183
567948
2606
ภารกิจสำคัญในชีวิตของผม ควรจะเป็นเรื่องอะไร?
09:46
And I was lucky because I had lots of options.
184
570554
2446
และผมโชคดี เพราะมีตัวเลือกได้หลายอย่าง
09:48
We'd been working in health and wellness,
185
573000
1750
ผมเคยทำงานที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ
09:50
and K through 12, and the Developing World.
186
574750
3000
เกี่ยวกับเด็กในโรงเรียน และประเทศกำลังพัฒนา
09:53
And so there were lots of projects that I could work on.
187
577750
1625
ดังนั้นจึงมีโครงการต่างๆ มากมาย ที่ผมสามารถทำได้
09:55
But I decided and I committed to at this point
188
579375
2792
แต่ผมได้ตัดสินใจ และให้สัญญา ณ เวลานี้ว่า
09:58
to the thing I most wanted to do --
189
582167
1750
สิ่งที่ผมอยากทำมากที่สุด
09:59
was to help as many people as possible
190
583917
5364
คือการช่วยเหลือผู้คน การเพิ่มความมั่นใจในความคิดสร้างสรรค์
10:05
regain the creative confidence they lost along their way.
191
589281
3456
ที่อาจจะหายไปเนิ่นนาน ให้กลับคืนมา
10:08
And if I was going to survive, that's what I wanted to do.
192
592737
2930
และถ้าผมรอดชีวิตมาได้ นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการจะทำ
10:11
I survived, just so you know.
193
595667
2333
ผมรอดมาได้ครับ อย่างที่คุณได้เห็น
10:13
(Laughter)
194
598000
2250
(หัวเราะ)
10:16
(Applause)
195
600250
5167
(ปรบมือ)
10:21
I really believe
196
605417
2625
ผมเชื่อว่า
10:23
that when people gain this confidence --
197
608042
2333
เมื่อผู้คนได้สร้างความเชื่อมั่นขึ้นมาแล้ว
10:26
and we see it all the time at the d.school and at IDEO --
198
610375
2625
อย่างที่เราได้เห็นอยู่ตลอดเวลาในวิทยาลัยการออกแบบและที่ IDEO
10:28
they actually start working on the things that are really important in their lives.
199
613000
5582
พวกเขาสามารถเริ่มทำสิ่งต่างๆ ที่สำคัญจริงๆ กับชีวิตของพวกเขา
10:34
We see people quit what they're doing and go in new directions.
200
618582
3293
เราเห็นผู้คน เลิกทำสิ่งที่กำลังทำอยู่ และหันเหไปในทิศทางใหม่
10:37
We see them come up with more interesting, and just more, ideas
201
621875
6708
เราเห็นพวกเขาสร้างไอเดียใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
10:44
so they can choose from better ideas.
202
628583
2625
เพื่อที่จะได้สามารถเลือกจากไอเดียที่ดีขึ้นได้
10:47
And they just make better decisions.
203
631208
2375
และทำให้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น
10:49
So I know at TED you're supposed to have a change-the-world kind of thing.
204
633583
4073
ผมทราบว่า ที่ TED คุณควรจะมีไอเดีย ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้
10:53
Everybody has a change-the-world thing.
205
637656
1761
ทุกคนมีสิ่งที่จะสามารถเปลี่ยนโลกได้
10:55
If there is one for me, this is it. To help this happen.
206
639417
3871
สำหรับผมแล้วละก็ นั่นคือสิ่งนี้ครับ สร้างความเชื่อมั่นด้านสร้างสรรค์
10:59
So I hope you'll join me on my quest --
207
643288
2432
ผมหวังว่า พวกคุณจะมาร่วมเดินทางไปกับผม
11:01
you as thought leaders.
208
645720
2238
ในฐานะที่คุณเป็นผู้นำทางความคิด
11:03
It would be really great if you didn't let people divide the world
209
647958
4302
มันคงจะเยี่ยมมากเลย ถ้าคุณจะไม่ยอมให้มีการแบ่งแยก
11:08
into the creatives and the non-creatives, like it's some God-given thing,
210
652260
3448
ระหว่างผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ กับพวกที่ไม่มี
11:11
and to have people realize that they're naturally creative.
211
655708
4623
ช่วยให้ผู้คนตระหนักว่า พวกเขามีความสร้างสรรค์โดยธรรมชาติอยู่แล้ว
11:16
And those natural people should let their ideas fly.
212
660331
3775
และพวกเขา น่าจะปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง
11:20
That they should achieve what Bandura calls self-efficacy,
213
664106
5559
และพวกเขาน่าจะทำสิ่งที่แบนดูร่าเรียกว่า การรับรู้ความสามารถของตนเอง
11:25
that you can do what you set out to do,
214
669680
3224
พวกเขาสามารถจะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ
11:28
and that you can reach a place of creative confidence
215
672904
3315
และสามารถสร้างความเชื่อมั่นในพลังสร้างสรรค์ของตัวเองได้
11:32
and touch the snake.
216
676219
1656
และเอื้อมไปสัมผัสกับงูตัวนั้น
11:33
Thank you.
217
677875
1708
ขอบคุณครับ
11:35
(Applause)
218
679583
4642
(ปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
David Kelley - Designer, educatorDavid Kelley’s company IDEO helped create many icons of the digital generation -- but what matters even more to him is unlocking the creative potential of people and organizations to innovate routinely.
Why you should listen
As founder of legendary design firm IDEO, David Kelley built the company that created many icons of the digital generation -- the first mouse, the first Treo, the thumbs up/thumbs down button on your Tivo's remote control, to name a few. But what matters even more to him is unlocking the creative potential of people and organizations so they can innovate routinely.
David Kelley's most enduring contributions to the field of design are a methodology and culture of innovation. More recently, he led the creation of the groundbreaking d.school at Stanford, the Hasso Plattner Institute of Design, where students from the business, engineering, medicine, law, and other diverse disciplines develop the capacity to solve complex problems collaboratively and creatively.
Kelley was working (unhappily) as an electrical engineer when he heard about Stanford's cross-disciplinary Joint Program in Design, which merged engineering and art. What he learned there -- a human-centered, team-based approach to tackling sticky problems through design -- propelled his professional life as a "design thinker."
In 1978, he co-founded the design firm that ultimately became IDEO, now emulated worldwide for its innovative, user-centered approach to design. IDEO works with a range of clients -- from food and beverage conglomerates to high tech startups, hospitals to universities, and today even governments -- conceiving breakthrough innovations ranging from a life-saving portable defibrillator to a new kind of residence for wounded warriors, and helping organizations build their own innovation culture.
Today, David serves as chair of IDEO and is the Donald W. Whittier Professor at Stanford, where he has taught for more than 25 years. Preparing the design thinkers of tomorrow earned David the Sir Misha Black Medal for his “distinguished contribution to design education.” He has also won the Edison Achievement Award for Innovation, as well as the Chrysler Design Award and National Design Award in Product Design from the Smithsonian’s Cooper-Hewitt National Design Museum, and he is a member of the National Academy of Engineers.
David Kelley | Speaker | TED.com