TEDWomen 2015
Margaret Heffernan: Forget the pecking order at work
มาร์กาเร็ต เฮฟเฟอร์นัน: ทำไมจึงได้เวลาเลิกจัดชั้นสังคมในที่ทำงานแล้ว
Filmed:
Readability: 4.2
3,377,127 views
องค์กรต่างๆ มักถูกบริหารภายใต้โมเดล "ซุปเปอร์ไก่" ซึ่งให้คุณค่าแก่พนักงานดาวเด่นที่ทำงานดีกว่าคนอื่นๆ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ขับเคลื่อนทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ผู้นำทางธุรกิจ มาร์กาเร็ต เฮฟเฟอร์นัน สังเกตว่ามันต้องอาศัยการเชื่อมประสานทางสังคม โดยทำให้ทุกๆ การพักกินกาแฟ ทุกๆ ครั้งที่สมาชิกคนหนึ่งในทีมขอความช่วยเหลือ นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม นี่เป็นการรื้อความคิดเดิมๆ ว่าอะไรขับเคลื่อนเราให้ทำผลงานที่ดีที่สุด และความหมายของการเป็นผู้นำคืออะไร เพราะ...อย่างที่เฮฟเฟอร์นันชี้ว่า "ตัวบริษัทไม่มีความคิด ความคิดอยู่ที่ผู้คน"
Margaret Heffernan - Management thinker
The former CEO of five businesses, Margaret Heffernan explores the all-too-human thought patterns -- like conflict avoidance and selective blindness -- that lead organizations and managers astray. Full bio
The former CEO of five businesses, Margaret Heffernan explores the all-too-human thought patterns -- like conflict avoidance and selective blindness -- that lead organizations and managers astray. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
นักชีววิทยาวิวัฒนาการที่มหาวิทยาลัยเพอร์ดู
00:12
An evolutionary biologist
at Purdue University
at Purdue University
0
717
3297
ชื่อวิลเลียม มูร์ ศึกษาไก่
00:16
named William Muir studied chickens.
1
4014
3146
เขาสนใจความสามารถในการผลิต
00:19
He was interested in productivity --
2
7520
1729
ซึ่งฉันว่ามันเป็นสิ่งที่
เกี่ยวข้องกับคนเราทุกคน
เกี่ยวข้องกับคนเราทุกคน
00:21
I think it's something
that concerns all of us --
that concerns all of us --
3
9249
2290
00:23
but it's easy to measure in chickens
because you just count the eggs.
because you just count the eggs.
4
11539
3288
แต่มันวัดได้ง่ายในไก่
เพราะคุณก็แค่นับไข่
เพราะคุณก็แค่นับไข่
00:26
(Laughter)
5
14827
1700
(เสียงหัวเราะ)
เขาอยากรู้ว่าอะไรจะทำให้ไก่ของเขา
มีความสามารถในการผลิตมากขึ้น
มีความสามารถในการผลิตมากขึ้น
00:28
He wanted to know what could make
his chickens more productive,
his chickens more productive,
6
16527
3417
00:31
so he devised a beautiful experiment.
7
19944
2926
เขาจึงออกแบบการทดลองที่งดงามขึ้นมา
00:34
Chickens live in groups, so first of all,
he selected just an average flock,
he selected just an average flock,
8
22870
4458
ปกติไก่จะอยู่กันเป็นฝูง เริ่มแรกเลย
เขาก็เลือกฝูงไก่ธรรมดาๆ มาฝูงหนึ่ง
เขาก็เลือกฝูงไก่ธรรมดาๆ มาฝูงหนึ่ง
00:39
and he let it alone for six generations.
9
27328
3390
แล้วปล่อยให้มันอยู่กันไปหกรุ่น
00:42
But then he created a second group
10
30718
2089
แต่เขาสร้างไก่อีกกลุ่มหนึ่ง
00:44
of the individually
most productive chickens --
most productive chickens --
11
32807
2508
ประกอบด้วยไก่ที่ออกไข่เก่งที่สุด
00:47
you could call them superchickens --
12
35315
2955
คุณจะเรียกว่ามันคือซุปเปอร์ไก่ก็ได้
00:50
and he put them together in a superflock,
13
38270
2107
แล้วเขาก็เอามันมาไว้ด้วยกันในซุปเปอร์ฝูง
00:52
and each generation, he selected
only the most productive for breeding.
only the most productive for breeding.
14
40377
4698
แล้วในแต่ละรุ่น เขาเลือกเฉพาะไก่ที่
ที่ออกไข่เก่งที่สุดมาทำพันธุ์ต่อ
ที่ออกไข่เก่งที่สุดมาทำพันธุ์ต่อ
00:57
After six generations had passed,
15
45415
2554
หลังจากหกรุ่นผ่านไป
00:59
what did he find?
16
47969
1748
เขาพบอะไร
01:01
Well, the first group, the average group,
was doing just fine.
was doing just fine.
17
49717
3831
ไก่กลุ่มแรก กลุ่มไก่ธรรมดา
ก็อยู่สุขสบายดี
ก็อยู่สุขสบายดี
ทุกตัวล้วนอ้วนพี ขนดก
01:05
They were all plump and fully feathered
18
53548
2526
และผลผลิตไข่เพิ่มขึ้นเยอะมาก
01:08
and egg production
had increased dramatically.
had increased dramatically.
19
56074
2278
01:10
What about the second group?
20
58702
1857
แล้วกลุ่มที่สองล่ะ
เหลือสามตัว นอกนั้นตายหมด
01:13
Well, all but three were dead.
21
61419
1874
พวกมันจิกตัวอื่นที่เหลือตายหมด
01:16
They'd pecked the rest to death.
22
64253
2160
01:18
(Laughter)
23
66413
1577
(เสียงหัวเราะ)
01:19
The individually productive chickens
had only achieved their success
had only achieved their success
24
67990
5511
ไก่แต่ละตัวที่ออกไข่เก่ง
ประสบความสำเร็จได้
ประสบความสำเร็จได้
01:25
by suppressing the productivity
of the rest.
of the rest.
25
73501
4663
ด้วยการบั่นทอน
ความสามารถในการออกไข่ของตัวอื่น
ความสามารถในการออกไข่ของตัวอื่น
01:30
Now, as I've gone around the world
talking about this and telling this story
talking about this and telling this story
26
78830
3695
ฉันเดินทางไปทั่วโลก
พูดเรื่องนี้ และเล่าเรื่องนี้
พูดเรื่องนี้ และเล่าเรื่องนี้
01:34
in all sorts of organizations
and companies,
and companies,
27
82525
2252
ให้องค์กรและบริษัททุกรูปแบบฟัง
01:36
people have seen
the relevance almost instantly,
the relevance almost instantly,
28
84777
2576
ผู้คนเห็นความเกี่ยวข้องของเรื่องนี้ทันที
01:39
and they come up and they say
things to me like,
things to me like,
29
87353
2306
พวกเขาเข้ามาคุยกับฉันและพูดทำนองว่า
01:41
"That superflock, that's my company."
30
89659
3091
"ซุปเปอร์ฝูง นั่นล่ะ บริษัทฉันเลย"
01:44
(Laughter)
31
92750
1965
(เสียงหัวเราะ)
01:46
Or, "That's my country."
32
94715
3511
หรือ "นั่นล่ะ ประเทศฉันเลย"
01:50
Or, "That's my life."
33
98226
2092
หรือ "นั่นล่ะ ชีวิตฉันเลย"
01:52
All my life I've been told that the way
we have to get ahead is to compete:
we have to get ahead is to compete:
34
100798
3924
ตลอดชีวิตของฉัน มีแต่คนบอกฉันว่า
หนทางที่จะก้าวหน้า คือต้องแข่งขัน
หนทางที่จะก้าวหน้า คือต้องแข่งขัน
01:56
get into the right school,
get into the right job, get to the top,
get into the right job, get to the top,
35
104722
4032
แย่งกันเข้าโรงเรียนที่ดี
ได้งานที่ดี ไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆ
ได้งานที่ดี ไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆ
02:00
and I've really never found it
very inspiring.
very inspiring.
36
108754
3738
แต่ฉันไม่เคยรู้สึกว่า
มันให้แรงบันดาลใจฉันเท่าไหร่
มันให้แรงบันดาลใจฉันเท่าไหร่
02:04
I've started and run businesses
because invention is a joy,
because invention is a joy,
37
112492
4783
ฉันเริ่มสร้างและบริหารธุรกิจ
เพราะการสร้างสิ่งใหม่ๆ เป็นความสุขของฉัน
เพราะการสร้างสิ่งใหม่ๆ เป็นความสุขของฉัน
02:09
and because working alongside
brilliant, creative people
brilliant, creative people
38
117275
3320
และเพราะการได้ทำงานกับคนที่ฉลาด
และมีความคิดสร้างสรรค์
และมีความคิดสร้างสรรค์
02:12
is its own reward.
39
120595
1480
มันเป็นรางวัลอยู่ในตัวอยู่แล้ว
02:14
And I've never really felt very motivated
by pecking orders or by superchickens
by pecking orders or by superchickens
40
122755
5642
ฉันไม่เคยรู้สึกมีแรงจูงใจจากการ
จัดชั้นทางสังคม หรือจากซุปเปอร์ไก่
จัดชั้นทางสังคม หรือจากซุปเปอร์ไก่
02:20
or by superstars.
41
128397
2569
หรือซุปเปอร์สตาร์
02:23
But for the past 50 years,
42
131276
1944
แต่ห้าสิบปีที่ผ่านมา
02:25
we've run most organizations
and some societies
and some societies
43
133220
4232
เราบริหารองค์กรส่วนใหญ่
และในสังคมบางสังคม
และในสังคมบางสังคม
02:29
along the superchicken model.
44
137452
2318
โดยใช้โมเดลซุปเปอร์ไก่
02:31
We've thought that success is achieved
by picking the superstars,
by picking the superstars,
45
139960
3622
เราคิดว่าเราบรรลุความสำเร็จได้
ด้วยการเลือกสรรซุปเปอร์สตาร์
ด้วยการเลือกสรรซุปเปอร์สตาร์
02:35
the brightest men,
or occasionally women, in the room,
or occasionally women, in the room,
46
143582
4149
ชาย หรือบางทีก็หญิงที่เก่งสุดในห้อง
02:39
and giving them all the resources
and all the power.
and all the power.
47
147731
3359
แล้วเอาทรัพยากรและอำนาจให้เขาไปหมด
02:43
And the result has been just the same
as in William Muir's experiment:
as in William Muir's experiment:
48
151430
4063
และผลก็เหมือนกับการทดลองของวิลเลียม มูร์
02:47
aggression, dysfunction and waste.
49
155493
4969
ความก้าวร้าว การทำงานที่บกพร่อง
การสูญเปล่า
การสูญเปล่า
02:52
If the only way the most productive
can be successful
can be successful
50
160462
4110
ถ้าหนทางเดียวที่คนที่
มีความสามารถในการผลิตสูงสุดจะสำเร็จได้
มีความสามารถในการผลิตสูงสุดจะสำเร็จได้
02:56
is by suppressing
the productivity of the rest,
the productivity of the rest,
51
164572
3181
คือการไปหยุดยั้ง
ความสามารถในการผลิตของคนอื่น
ความสามารถในการผลิตของคนอื่น
02:59
then we badly need to find
a better way to work
a better way to work
52
167753
3483
ถ้าอย่างนั้น เราก็ถึงจุดวิกฤต
ที่ต้องหาวิธีที่ดีกว่านี้ในการทำงาน
ที่ต้องหาวิธีที่ดีกว่านี้ในการทำงาน
03:03
and a richer way to live.
53
171236
2774
และหนทางที่งดงามกว่านี้ในการใช้ชีวิต
03:06
(Applause)
54
174510
4411
(เสียงปรบมือ)
03:10
So what is it that makes some groups
55
178921
3994
ดังนั้น อะไรล่ะที่ทำให้กลุ่มบางกลุ่ม
03:14
obviously more successful
and more productive than others?
and more productive than others?
56
182915
3475
ประสบความสำเร็จมากกว่าอย่างชัดเจน
03:18
Well, that's the question
a team at MIT took to research.
a team at MIT took to research.
57
186700
3274
นั่นคือคำถามที่ทีมสถาบันเอ็มไอทีนำไปวิจัย
03:21
They brought in hundreds of volunteers,
58
189974
2426
พวกเขานำอาสาสมัครนับร้อยๆ
03:24
they put them into groups, and they
gave them very hard problems to solve.
gave them very hard problems to solve.
59
192400
3494
เอามาเข้ากลุ่ม และให้แก้ปัญหาที่ยากมากๆ
03:27
And what happened was exactly
what you'd expect,
what you'd expect,
60
195894
2731
สิ่งที่เกิดขึ้นก็เหมือนที่คุณคาดเลย
03:30
that some groups were very much
more successful than others,
more successful than others,
61
198625
3306
คือบางกลุ่มประสบความสำเร็จ
มากกว่ากลุ่มอื่นๆ
มากกว่ากลุ่มอื่นๆ
03:33
but what was really interesting
was that the high-achieving groups
was that the high-achieving groups
62
201931
3530
แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ คือ
กลุ่มที่ประสบความสำเร็จสูง
กลุ่มที่ประสบความสำเร็จสูง
03:37
were not those where they had
one or two people
one or two people
63
205461
2647
ไม่ใช่กลุ่มที่มีคนหนึ่งหรือสองคน
03:40
with spectacularly high I.Q.
64
208108
3041
ที่มี ไอ.คิว. สูงลิ่ว
03:43
Nor were the most successful groups
the ones that had the highest
the ones that had the highest
65
211149
3599
กลุ่มที่ประสบความสำเร็จสูงสุด
ไม่ใช่กลุ่มที่มีคะแนน
ไอ.คิว. รวมสูงสุดด้วย
ไอ.คิว. รวมสูงสุดด้วย
03:46
aggregate I.Q.
66
214748
2369
03:49
Instead, they had three characteristics,
the really successful teams.
the really successful teams.
67
217117
5874
แต่ทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
มีลักษณะสามอย่างนี้แทน
มีลักษณะสามอย่างนี้แทน
03:54
First of all, they showed high degrees
of social sensitivity to each other.
of social sensitivity to each other.
68
222991
5642
อันดับแรกเลย สมาชิกจะต้องมีระดับ
ความใส่ใจทางสังคมต่อกันและกันสูง
ความใส่ใจทางสังคมต่อกันและกันสูง
04:00
This is measured by something called
the Reading the Mind in the Eyes Test.
the Reading the Mind in the Eyes Test.
69
228633
3599
ลักษณะนี้วัดได้ด้วยแบบวัดที่เรียกว่า
Reading the Mind in The Eyes Test
Reading the Mind in The Eyes Test
04:04
It's broadly considered
a test for empathy,
a test for empathy,
70
232232
2485
ซึ่งถือว่าเป็น
แบบวัดความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น
แบบวัดความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น
04:06
and the groups that scored highly on this
71
234717
2197
กลุ่มที่มีคะแนนตัวนี้สูง
04:08
did better.
72
236914
1950
แก้ปัญหาได้ดีกว่า
04:10
Secondly, the successful groups
gave roughly equal time to each other,
gave roughly equal time to each other,
73
238864
5108
ข้อสองคือ กลุ่มที่ประสบความสำเร็จ
ให้เวลาสมาชิกแต่ละคนเท่าๆ กัน
ให้เวลาสมาชิกแต่ละคนเท่าๆ กัน
04:15
so that no one voice dominated,
74
243972
2345
จึงไม่มีเสียงใครครอบงำกลุ่ม
04:18
but neither were there any passengers.
75
246317
2786
แต่ก็ไม่มีใครเป็นผู้โดยสารที่นั่งเงียบเฉย
04:21
And thirdly, the more successful groups
76
249103
2717
และข้อสาม
บรรดากลุ่มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
บรรดากลุ่มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
04:23
had more women in them.
77
251820
2345
มีผู้หญิงอยู่ในกลุ่มมากกว่า
04:26
(Applause)
78
254165
1997
(เสียงปรบมือ)
04:28
Now, was this because women
typically score more highly on
typically score more highly on
79
256162
4275
ทีนี้ อาจจะเป็นเพราะ
ผู้หญิงมักจะมีคะแนนสูงกว่า
ผู้หญิงมักจะมีคะแนนสูงกว่า
04:32
the Reading the Mind in the Eyes Test,
80
260437
1873
ในแบบวัด Reading the Mind in the Eyes
04:34
so you're getting a doubling down
on the empathy quotient?
on the empathy quotient?
81
262310
2727
คุณก็เลยได้แต้มต่อ
เรื่องความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น
เรื่องความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น
04:37
Or was it because they brought
a more diverse perspective?
a more diverse perspective?
82
265037
2758
หรือเป็นเพราะผู้หญิง
นำมุมมองที่หลากหลายเข้ามาในกลุ่ม
นำมุมมองที่หลากหลายเข้ามาในกลุ่ม
04:39
We don't really know, but the striking
thing about this experiment
thing about this experiment
83
267795
4156
เรายังไม่รู้ชัด
แต่สิ่งที่น่าสนใจในการทดลองนี้
แต่สิ่งที่น่าสนใจในการทดลองนี้
04:43
is that it showed what we know, which is
some groups do better than others,
some groups do better than others,
84
271951
4429
คือการแสดงให้เห็นสิ่งที่เรารู้กัน นั่นคือ
บางกลุ่มทำงานได้ดีกว่าบางกลุ่ม
บางกลุ่มทำงานได้ดีกว่าบางกลุ่ม
04:48
but what's key to that
85
276380
2351
แต่หัวใจของเรื่องนี้
04:50
is their social connectedness
to each other.
to each other.
86
278731
3647
คือการเชื่อมโยงทางสังคมระหว่างคนในกลุ่ม
04:55
So how does this play out
in the real world?
in the real world?
87
283543
2832
แล้วเรื่องนี้มันมีความหมายอย่างไร
ในโลกของความจริง
ในโลกของความจริง
04:58
Well, it means that what happens
between people really counts,
between people really counts,
88
286375
5341
คือ มันหมายความว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างบุคคลนั้นสำคัญมาก
สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างบุคคลนั้นสำคัญมาก
05:03
because in groups that are highly
attuned and sensitive to each other,
attuned and sensitive to each other,
89
291716
3808
เพราะในกลุ่มที่สมาชิกใส่ใจ
และไวต่อความรู้สึกของกันและกันมาก
และไวต่อความรู้สึกของกันและกันมาก
05:07
ideas can flow and grow.
90
295524
3256
ความคิดสามารถเลื่อนไหลและเติบโต
05:10
People don't get stuck.
They don't waste energy down dead ends.
They don't waste energy down dead ends.
91
298780
3988
พวกเขาไม่ติดขัด ไม่เสียพลังงานเปล่า
ไปกับเรื่องที่เป็นทางตัน
ไปกับเรื่องที่เป็นทางตัน
05:14
An example: Arup is one of the world's
most successful engineering firms,
most successful engineering firms,
92
302768
4714
ตัวอย่าง Arup หนึ่งในบริษัทด้านวิศวกรรม
ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก
ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก
05:19
and it was commissioned to build
the equestrian center
the equestrian center
93
307482
2652
ได้รับการว่าจ้างให้สร้างศูนย์กีฬาขี่ม้า
05:22
for the Beijing Olympics.
94
310134
1866
สำหรับโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง
05:24
Now, this building had to receive
95
312000
1826
อาคารนี้ต้องรองรับ
05:25
two and a half thousand
really highly strung thoroughbred horses
really highly strung thoroughbred horses
96
313826
5294
ม้าพันธุ์ดีสองพันห้าร้อยตัว
ที่กำลังเครียด
ที่กำลังเครียด
05:31
that were coming off long-haul flights,
97
319120
2089
เพราะเพิ่งลงจากเที่ยวบินที่ยาวนาน
05:33
highly jet-lagged,
not feeling their finest.
not feeling their finest.
98
321209
3483
อ่อนเพลียจากการเดินทางมากๆ
รู้สึกไม่ค่อยสบาย
รู้สึกไม่ค่อยสบาย
05:36
And the problem
the engineer confronted was,
the engineer confronted was,
99
324692
3412
และปัญหาที่วิศวกรต้องเผชิญคือ
05:40
what quantity of waste to cater for?
100
328104
3676
เขาไม่รู้ว่า
ปริมาณของเสียที่ต้องจัดการนั้นมากเท่าไหร่
ปริมาณของเสียที่ต้องจัดการนั้นมากเท่าไหร่
05:44
Now, you don't get taught this
in engineering school -- (Laughter) --
in engineering school -- (Laughter) --
101
332540
4644
คือ เขาไม่ได้สอนคุณในคณะวิศวะฯ
(เสียงหัวเราะ)
(เสียงหัวเราะ)
05:49
and it's not really the kind of thing
you want to get wrong,
you want to get wrong,
102
337184
3204
แล้วมันก็เป็นสิ่งที่คุณไม่อยากคำนวณพลาด
05:52
so he could have spent months
talking to vets, doing the research,
talking to vets, doing the research,
103
340388
3465
เขาอาจจะใช้เวลาสักเดือน
พูดคุยกับสัตวแพทย์ ทำวิจัย
พูดคุยกับสัตวแพทย์ ทำวิจัย
05:55
tweaking the spreadsheet.
104
343853
1801
เก็บข้อมูลมาคำนวณในโปรแกรม
05:57
Instead, he asked for help
105
345654
3145
แทนที่จะทำอย่างนั้น
เขาขอความช่วยเหลือออกไป
เขาขอความช่วยเหลือออกไป
06:00
and he found someone who had designed
the Jockey Club in New York.
the Jockey Club in New York.
106
348799
4486
แล้วก็เจอใครบางคน
ที่เคยออกแบบสมาคมขี่ม้าในนิวยอร์ก
ที่เคยออกแบบสมาคมขี่ม้าในนิวยอร์ก
06:05
The problem was solved in less than a day.
107
353285
4119
ปัญหาถูกแก้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน
06:09
Arup believes that
the culture of helpfulness
the culture of helpfulness
108
357404
2787
บริษัท Arup เชื่อว่า
วัฒนธรรมของความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ
วัฒนธรรมของความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ
06:12
is central to their success.
109
360191
2768
เป็นหัวใจหลักของความสำเร็จของบริษัท
06:15
Now, helpfulness sounds really anemic,
110
363279
4121
ความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อฟังดูธรรมดามาก
06:19
but it's absolutely core
to successful teams,
to successful teams,
111
367400
4098
แต่มันเป็นแก่นสำคัญ
ของทีมที่ประสบความสำเร็จ
ของทีมที่ประสบความสำเร็จ
06:23
and it routinely outperforms
individual intelligence.
individual intelligence.
112
371498
5209
และมันมีผลมากกว่า
ความฉลาดของแต่ละบุคคลเสมอ
ความฉลาดของแต่ละบุคคลเสมอ
06:29
Helpfulness means I don't
have to know everything,
have to know everything,
113
377117
3205
ความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อหมายความว่า
ฉันไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง
ฉันไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง
06:32
I just have to work among people
who are good at getting and giving help.
who are good at getting and giving help.
114
380322
5278
เพียงแต่ฉันต้องทำงานท่ามกลางผู้คน
ที่ยินดีให้และรับความช่วยเหลือ
ที่ยินดีให้และรับความช่วยเหลือ
06:37
At SAP, they reckon that you can answer
any question in 17 minutes.
any question in 17 minutes.
115
385600
5761
บริษัท SAP ได้สรุปมาแล้วว่า คุณสามารถ
ตอบคำถามใดๆ ก็ได้ ภายใน 17 นาที
ตอบคำถามใดๆ ก็ได้ ภายใน 17 นาที
06:44
But there isn't a single
high-tech company I've worked with
high-tech company I've worked with
116
392131
2995
แต่บริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงที่ฉันทำงานด้วย
ไม่มีเลยสักบริษัท
ไม่มีเลยสักบริษัท
06:47
that imagines for a moment
that this is a technology issue,
that this is a technology issue,
117
395126
5445
ที่จินตนาการสักนิดว่า
นี่เป็นประเด็นปัญหาทางเทคโนโลยี
นี่เป็นประเด็นปัญหาทางเทคโนโลยี
06:52
because what drives helpfulness
is people getting to know each other.
is people getting to know each other.
118
400571
4470
เพราะสิ่งที่ขับเคลื่อนความเอื้อเฟื้อ
คือการที่คนทำความรู้จักกัน
คือการที่คนทำความรู้จักกัน
06:57
Now that sounds so obvious, and we think
it'll just happen normally,
it'll just happen normally,
119
405771
5011
มันฟังดูชัดเจน ไม่ซับซ้อน
และเราก็คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้เอง
และเราก็คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้เอง
07:02
but it doesn't.
120
410782
1628
แต่มันไม่เกิด
07:04
When I was running
my first software company,
my first software company,
121
412410
3294
ตอนฉันตั้งบริษัทซอฟต์แวร์
ของฉันเป็นครั้งแรก
ของฉันเป็นครั้งแรก
07:07
I realized that we were getting stuck.
122
415704
2034
ฉันพบว่าเรากำลังติดขัด
07:09
There was a lot of friction,
but not much else,
but not much else,
123
417738
3785
มีความขัดแย้งมากมาย
และไม่ค่อยมีอย่างอื่นเลย
และไม่ค่อยมีอย่างอื่นเลย
07:13
and I gradually realized the brilliant,
creative people that I'd hired
creative people that I'd hired
124
421523
4876
ฉันค่อยๆ ตระหนักว่า
คนที่สุดฉลาด และสร้างสรรค์ที่ฉันจ้างมา
คนที่สุดฉลาด และสร้างสรรค์ที่ฉันจ้างมา
07:18
didn't know each other.
125
426399
1965
ไม่รู้จักกัน
07:20
They were so focused
on their own individual work,
on their own individual work,
126
428364
3877
พวกเขาหมกมุ่นอยู่แต่งานของตัวเอง
07:24
they didn't even know
who they were sitting next to,
who they were sitting next to,
127
432241
3729
เขาไม่รู้แม้แต่ว่า
คนที่นั่งข้างๆ เขาคือใคร
คนที่นั่งข้างๆ เขาคือใคร
จนกระทั่งฉันยืนกราน
ให้เขาหยุดทำงาน
ให้เขาหยุดทำงาน
07:27
and it was only when I insisted
that we stop working
that we stop working
128
435970
2571
และใช้เวลาทำความรู้จักกัน
07:30
and invest time in getting
to know each other
to know each other
129
438541
2584
07:33
that we achieved real momentum.
130
441125
3098
บริษัทเราถึงมีแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้า
ได้อย่างแท้จริง
ได้อย่างแท้จริง
07:36
Now, that was 20 years ago,
and now I visit companies
and now I visit companies
131
444813
2596
นั่นคือ 20 ปีที่แล้ว
เดี๋ยวนี้ฉันไปเยี่ยมชมบริษัท
เดี๋ยวนี้ฉันไปเยี่ยมชมบริษัท
07:39
that have banned coffee cups at desks
132
447409
2902
ที่ห้ามกินกาแฟที่โต๊ะตัวเอง
07:42
because they want people to hang out
around the coffee machines
around the coffee machines
133
450311
3994
เพราะเขาต้องการให้คนมาพบปะกัน
รอบเครื่องชงกาแฟ
รอบเครื่องชงกาแฟ
07:46
and talk to each other.
134
454305
1834
และพูดคุยกัน
07:48
The Swedes even have
a special term for this.
a special term for this.
135
456139
2508
ชาวสวีเดนมีคำเฉพาะสำหรับกิจกรรมนี้เลยนะ
07:50
They call it fika, which means
more than a coffee break.
more than a coffee break.
136
458647
3360
เขาเรียกว่า ฟิกา (fika)
ซึ่งมีความหมายมากกว่าการพักกินกาแฟ
ซึ่งมีความหมายมากกว่าการพักกินกาแฟ
07:54
It means collective restoration.
137
462007
3606
แปลว่าการฟื้นพลังร่วมกัน
07:57
At Idexx, a company up in Maine,
138
465613
3111
ที่บริษัท Idexx ซึ่งอยู่ในรัฐเมน
เขาสร้างสวนผักในที่ทำงาน
08:00
they've created vegetable gardens
on campus so that people
on campus so that people
139
468724
2792
เพื่อให้คนจากส่วนต่างๆ ของธุรกิจ
08:03
from different parts of the business
140
471516
2252
08:05
can work together and get to know
the whole business that way.
the whole business that way.
141
473768
4876
มาทำสวนด้วยกัน
และนั่นทำให้เขารู้ภาพรวมของธุรกิจ
และนั่นทำให้เขารู้ภาพรวมของธุรกิจ
08:10
Have they all gone mad?
142
478644
2345
พวกเขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า
08:12
Quite the opposite -- they've figured out
that when the going gets tough,
that when the going gets tough,
143
480989
3553
ตรงกันข้ามเลย เขาพบว่า
เมื่อเรื่องอะไรๆ มันยากลำบาก
เมื่อเรื่องอะไรๆ มันยากลำบาก
08:16
and it always will get tough
144
484542
2043
และมันต้องยากลำบากแน่
08:18
if you're doing breakthrough work
that really matters,
that really matters,
145
486585
2716
ถ้าคุณกำลังทำงานบุกเบิก
ที่มีความหมายอย่างแท้จริง
ที่มีความหมายอย่างแท้จริง
08:21
what people need is social support,
146
489301
2671
สิ่งที่ผู้คนต้องการ
คือการสนับสนุนทางสังคม
คือการสนับสนุนทางสังคม
08:23
and they need to know who to ask for help.
147
491972
3227
และเขาต้องการรู้ว่า
จะขอความช่วยเหลือได้จากใคร
จะขอความช่วยเหลือได้จากใคร
08:27
Companies don't have ideas;
only people do.
only people do.
148
495199
4737
ตัวบริษัทไม่มีความคิด
ความคิดอยู่ที่ผู้คน
ความคิดอยู่ที่ผู้คน
08:31
And what motivates people
149
499936
2600
และสิ่งที่จูงใจคน
08:34
are the bonds and loyalty and trust
they develop between each other.
they develop between each other.
150
502536
4494
คือความผูกพัน ความซื่อสัตย์ และไว้วางใจ
ที่สร้างขึ้นระหว่างกัน
ที่สร้างขึ้นระหว่างกัน
08:39
What matters is the mortar,
151
507566
3694
สิ่งที่สำคัญคือปูนที่เชื่อมประสาน
ไม่ใช่แค่ก้อนอิฐ
08:43
not just the bricks.
152
511260
2289
08:46
Now, when you put all of this together,
153
514299
1974
ทีนี้ เมื่อคุณเอาสิ่งเหล่านี้มาประกอบกัน
08:48
what you get is something
called social capital.
called social capital.
154
516273
3158
สิ่งที่คุณได้ เรียกว่าทุนทางสังคม
08:51
Social capital is the reliance
and interdependency that builds trust.
and interdependency that builds trust.
155
519431
5549
ทุนทางสังคมคือการพึ่งพิง
และพึ่งพาซึ่งกันและกันที่สร้างความไว้วางใจ
และพึ่งพาซึ่งกันและกันที่สร้างความไว้วางใจ
คำนี้มาจากนักสังคมศาสตร์
ซึ่งศึกษาชุมชน
ซึ่งศึกษาชุมชน
08:56
The term comes from sociologists
who were studying communities
who were studying communities
156
524980
3491
09:00
that proved particularly resilient
in times of stress.
in times of stress.
157
528471
4268
ที่มีความเข้มแข็งเป็นพิเศษ
ในเวลาที่มีความเครียด
ในเวลาที่มีความเครียด
09:05
Social capital is what
gives companies momentum,
gives companies momentum,
158
533409
4551
ทุนทางสังคมคือสิ่งที่ทำให้บริษัท
มีแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้า
มีแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้า
09:09
and social capital
is what makes companies robust.
is what makes companies robust.
159
537960
5262
และทุนทางสังคมคือ
สิ่งที่ทำให้บริษัทมีความแข็งแรงทนทาน
สิ่งที่ทำให้บริษัทมีความแข็งแรงทนทาน
สิ่งนี้มีความหมายอย่างไรในภาษานักปฏิบัติ
09:16
What does this mean in practical terms?
160
544182
2260
มันหมายความว่า เวลา คือทุกสิ่งทุกอย่าง
09:18
It means that time is everything,
161
546852
3907
09:22
because social capital
compounds with time.
compounds with time.
162
550759
4667
เพราะทุนทางสังคมใช้เวลาในการสั่งสม
09:27
So teams that work together longer
get better, because it takes time
get better, because it takes time
163
555426
5108
ดังนั้นทีมที่ทำงานด้วยกันนานกว่า
ก็ยิ่งทำงานดีขึ้น เพราะมันใช้เวลา
ก็ยิ่งทำงานดีขึ้น เพราะมันใช้เวลา
09:32
to develop the trust you need
for real candor and openness.
for real candor and openness.
164
560534
5507
ในการพัฒนาความไว้วางใจที่คุณต้องมี
เพื่อความเปิดเผยตรงไปตรงมาอย่างแท้จริง
เพื่อความเปิดเผยตรงไปตรงมาอย่างแท้จริง
09:38
And time is what builds value.
165
566461
3464
และเวลาคือสิ่งที่สร้างคุณค่านี้
09:42
When Alex Pentland
suggested to one company
suggested to one company
166
570625
2253
เมื่ออเล็กซ์ เพนท์แลนด์
เสนอแนะกับบริษัทหนึ่ง
เสนอแนะกับบริษัทหนึ่ง
09:44
that they synchronize coffee breaks
167
572878
2716
ให้จัดเวลาพักกินกาแฟให้ตรงกัน
09:47
so that people would have time
to talk to each other,
to talk to each other,
168
575594
3901
เพื่อให้ผู้คนมีเวลาคุยกัน
09:51
profits went up 15 million dollars,
169
579495
3483
กำไรเพิ่มขึ้น 15 ล้านดอลลาร์
09:54
and employee satisfaction
went up 10 percent.
went up 10 percent.
170
582978
3854
และความพึงพอใจของพนักงาน
เพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์
เพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์
09:58
Not a bad return on social capital,
171
586832
3101
ผลตอบแทนไม่เลวเลย
สำหรับการลงทุนทางสังคม
สำหรับการลงทุนทางสังคม
10:01
which compounds even as you spend it.
172
589933
4027
ซึ่งยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น
แม้เมื่อคุณใช้จ่ายออกไป
แม้เมื่อคุณใช้จ่ายออกไป
10:05
Now, this isn't about chumminess,
and it's no charter for slackers,
and it's no charter for slackers,
173
593960
6062
นี่ไม่ใช่แค่การสร้างมิตรไมตรี
และไม่ใช่การให้สิทธิพิเศษแก่คนขี้เกียจ
และไม่ใช่การให้สิทธิพิเศษแก่คนขี้เกียจ
10:12
because people who work this way
tend to be kind of scratchy,
tend to be kind of scratchy,
174
600022
4634
เพราะคนที่ทำงานในรูปแบบนี้
มักเป็นคนที่ทำให้คนอื่นเคือง
มักเป็นคนที่ทำให้คนอื่นเคือง
10:16
impatient, absolutely determined
to think for themselves
to think for themselves
175
604656
4034
ใจร้อน และมุ่งมั่น
ที่จะคิดอะไรด้วยตัวเองอย่างเต็มที่
ที่จะคิดอะไรด้วยตัวเองอย่างเต็มที่
10:20
because that's what their contribution is.
176
608690
3990
เพราะนั่นคือประโยชน์ที่เขาทำให้บริษัทได้
10:24
Conflict is frequent
because candor is safe.
because candor is safe.
177
612680
5299
ความขัดแย้งเกิดบ่อยๆ
เพราะคนพูดตรงไปตรงมาได้อย่างปลอดภัย
เพราะคนพูดตรงไปตรงมาได้อย่างปลอดภัย
10:30
And that's how good ideas
turn into great ideas,
turn into great ideas,
178
618280
5191
และนั่นคือวิธีที่ความคิดดีๆ
กลายเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม
กลายเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม
10:35
because no idea is born fully formed.
179
623471
3100
เพราะไม่มีความคิดไหนที่เกิดมาสมบูรณ์เลย
10:38
It emerges a little bit
as a child is born,
as a child is born,
180
626571
3329
มันผุดขึ้นมานิดๆ เหมือนเด็กแรกเกิด
10:41
kind of messy and confused,
but full of possibilities.
but full of possibilities.
181
629900
4589
ออกจะยุ่งเหยิงและสับสน
แต่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้
แต่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้
10:46
And it's only through the generous
contribution, faith and challenge
contribution, faith and challenge
182
634489
6121
และด้วยการเกื้อหนุนด้วยความเอื้อเฟื้อ
ศรัทธา และความท้าทาย
ศรัทธา และความท้าทาย
10:52
that they achieve their potential.
183
640610
3282
มันจึงพัฒนาขึ้นได้เต็มศักยภาพ
10:55
And that's what social capital supports.
184
643892
4063
และนั่นคือสิ่งที่ทุนทางสังคมช่วยสนับสนุน
11:01
Now, we aren't really used
to talking about this,
to talking about this,
185
649455
2773
เราไม่ค่อยคุ้นเคยกับการพูดเรื่องพวกนี้
11:04
about talent, about creativity,
in this way.
in this way.
186
652228
3970
เรื่องพรสวรรค์ เรื่องความคิดสร้างสรรค์
ในรูปแบบนี้
ในรูปแบบนี้
11:08
We're used to talking about stars.
187
656198
3734
เราชินกับการพูดถึงดาวเด่น
11:12
So I started to wonder,
well, if we start working this way,
well, if we start working this way,
188
660262
4109
ฉันจึงเริ่มสงสัยว่า
เอ ถ้าเรามาทำงานแบบนี้แทน
เอ ถ้าเรามาทำงานแบบนี้แทน
11:16
does that mean no more stars?
189
664371
2224
มันแปลว่าเราจะไม่มีดาวเด่นแล้วเหรอ
11:19
So I went and I sat in on the auditions
190
667445
2360
ฉันจึงเข้าไปนั่งดูการทดสอบการแสดง
11:21
at the Royal Academy
of Dramatic Art in London.
of Dramatic Art in London.
191
669805
3856
เพื่อคัดเลือกนักเรียนที่ราชวิทยาลัย
ด้านศิลปะการละคร ณ กรุงลอนดอน
ด้านศิลปะการละคร ณ กรุงลอนดอน
11:25
And what I saw there really surprised me,
192
673661
3225
สิ่งที่ฉันเห็นทำให้ฉันประหลาดใจมาก
11:28
because the teachers weren't looking
for individual pyrotechnics.
for individual pyrotechnics.
193
676886
4900
เพราะอาจารย์ไม่ได้มองหา
คนที่โดดเด่นราวดอกไม้ไฟทีละดอก
คนที่โดดเด่นราวดอกไม้ไฟทีละดอก
11:33
They were looking for what happened
between the students,
between the students,
194
681786
4690
เขามองหาสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างนักเรียน
11:38
because that's where the drama is.
195
686476
4110
เพราะนั่นคือจุดที่ละครเกิดขึ้น
11:42
And when I talked
to producers of hit albums,
to producers of hit albums,
196
690586
2289
และเมื่อฉันคุยกับผู้อำนวยการผลิต
อัลบั้มเพลงฮิต
อัลบั้มเพลงฮิต
11:44
they said, "Oh sure, we have
lots of superstars in music.
lots of superstars in music.
197
692875
3228
เขาบอกว่า "อ๋อ แน่นอน
เรามีดาวเด่นมากมายในวงการดนตรี
เรามีดาวเด่นมากมายในวงการดนตรี
11:48
It's just, they don't last very long.
198
696103
3117
แค่เขาอยู่ได้ไม่ยาวเท่านั้นเอง
11:51
It's the outstanding collaborators
who enjoy the long careers,
who enjoy the long careers,
199
699220
4000
มีแต่นักร่วมมือที่ยอดเยี่ยม
ที่อยู่ในอาชีพได้ยืนยาว
ที่อยู่ในอาชีพได้ยืนยาว
11:55
because bringing out the best in others
is how they found the best
is how they found the best
200
703220
4212
เพราะการดึงสิ่งที่ดีที่สุดในตัวผู้อื่นออกมา
คือวิธีการที่เขาค้นพบ
คือวิธีการที่เขาค้นพบ
11:59
in themselves."
201
707432
1644
สิ่งที่ดีที่สุดในตัวเขาเอง"
12:01
And when I went to visit companies
that are renowned
that are renowned
202
709686
2429
และเมื่อฉันไปเยี่ยมชมบริษัทที่มีชื่อเสียง
12:04
for their ingenuity and creativity,
203
712115
2067
ด้านความฉลาดในการประดิษฐ์
และความคิดสร้างสรรค์
และความคิดสร้างสรรค์
12:06
I couldn't even see any superstars,
204
714182
2925
ฉันไม่เห็นซุปเปอร์สตาร์สักคน
12:09
because everybody there really mattered.
205
717107
4338
เพราะทุกคนที่นั่นล้วนสำคัญหมด
12:13
And when I reflected on my own career,
206
721445
2883
และเมื่อฉันสะท้อนคิดถึงอาชีพของฉันเอง
12:16
and the extraordinary people
I've had the privilege to work with,
I've had the privilege to work with,
207
724328
3924
และคนที่เก่งเหนือธรรมดา
ที่ฉันมีโอกาสได้ทำงานด้วย
ที่ฉันมีโอกาสได้ทำงานด้วย
12:20
I realized how much more
we could give each other
we could give each other
208
728252
5544
ฉันตระหนักว่า คนเราสามารถที่จะ
ให้แก่กันและกันได้อีกมาก
ให้แก่กันและกันได้อีกมาก
12:25
if we just stopped trying
to be superchickens.
to be superchickens.
209
733796
5121
ถ้าเราแค่หยุดความพยายาม
ที่จะเป็นซุปเปอร์ไก่
ที่จะเป็นซุปเปอร์ไก่
12:31
(Laughter) (Applause)
210
739815
5155
(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)
12:36
Once you appreciate
truly how social work is,
truly how social work is,
211
744970
6376
เมื่อคุณเข้าใจอย่างแท้จริงว่า
การทำงานในสังคมเป็นอย่างไร
การทำงานในสังคมเป็นอย่างไร
12:43
a lot of things have to change.
212
751346
3097
หลายๆ อย่างจะต้องเปลี่ยนไป
12:46
Management by talent contest
has routinely pitted
has routinely pitted
213
754443
4087
การบริหารด้วยการแข่งขันกันด้านพรสวรรค์
12:50
employees against each other.
214
758530
2461
มักเอาพนักงานมาต่อสู้กัน
12:52
Now, rivalry has to be replaced
by social capital.
by social capital.
215
760991
4514
ความเป็นศัตรูต้องถูกแทนที่ด้วยทุนทางสังคม
12:58
For decades, we've tried
to motivate people with money,
to motivate people with money,
216
766355
3125
หลายทศวรรษที่ผ่านมา
เราพยายามจูงใจคนด้วยเงิน
เราพยายามจูงใจคนด้วยเงิน
13:01
even though we've got
a vast amount of research that shows
a vast amount of research that shows
217
769480
2880
แม้เราจะมีงานวิจัยมากมายที่แสดงว่า
13:04
that money erodes social connectedness.
218
772360
3831
เงินนั้นบ่อนทำลายความสัมพันธ์ทางสังคม
13:08
Now, we need to let people
motivate each other.
motivate each other.
219
776851
5335
เราต้องการให้คนจูงใจซึ่งกันและกัน
13:14
And for years, we've thought that leaders
were heroic soloists who were expected,
were heroic soloists who were expected,
220
782646
4924
ที่ผ่านมา เราคิดว่าผู้นำคือวีรบุรุษเดี่ยวๆ
ที่ถูกคาดหวัง
ที่ถูกคาดหวัง
13:19
all by themselves,
to solve complex problems.
to solve complex problems.
221
787570
3156
ว่าจะแก้ปัญหาซับซ้อนได้ด้วยตัวคนเดียว
13:22
Now, we need to redefine leadership
222
790726
3552
วันนี้ เราต้องนิยามความเป็นผู้นำเสียใหม่
13:26
as an activity in which
conditions are created
conditions are created
223
794278
4064
ว่าเป็นกิจกรรมสร้างภาวะแวดล้อม
13:30
in which everyone can do their most
courageous thinking together.
courageous thinking together.
224
798342
5958
ที่ทุกคนสามารถคิดและทำ
สิ่งที่กล้าหาญที่สุดของตนร่วมกัน
สิ่งที่กล้าหาญที่สุดของตนร่วมกัน
เรารู้ว่าวิธีนี้ได้ผล
13:36
We know that this works.
225
804300
3520
13:40
When the Montreal Protocol called
for the phasing out of CFCs,
for the phasing out of CFCs,
226
808210
4295
เมื่อพิธีสารมอนทรีออล
เรียกร้องให้ยุติการปล่อยสารซีเอฟซี
เรียกร้องให้ยุติการปล่อยสารซีเอฟซี
13:44
the chlorofluorocarbons implicated
in the hole in the ozone layer,
in the hole in the ozone layer,
227
812505
4342
สารครอโรฟลูออโรคาร์บอน
ที่มีส่วนทำให้เกิดรูในชั้นโอโซน
ที่มีส่วนทำให้เกิดรูในชั้นโอโซน
13:48
the risks were immense.
228
816847
2185
ความเสี่ยงนี้มหาศาลมาก
13:51
CFCs were everywhere,
229
819332
2899
เมื่อก่อนเราใช้สารซีเอฟซีกันทั่วทุกที่
และตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าจะหาสารทดแทนได้ไหม
13:54
and nobody knew if a substitute
could be found.
could be found.
230
822231
2549
13:57
But one team that rose to the challenge
adopted three key principles.
adopted three key principles.
231
825360
5311
แต่ทีมหนึ่งที่ลุกขึ้นมารับความท้าทาย
คือ คิดค้นสารทดแทนนี้ เขาใช้หลักการสามข้อ
คือ คิดค้นสารทดแทนนี้ เขาใช้หลักการสามข้อ
14:03
The first was the head of engineering,
Frank Maslen, said,
Frank Maslen, said,
232
831289
3358
ข้อแรก แฟรง มาสเลน
หัวหน้าวิศวกรกล่าวว่า
หัวหน้าวิศวกรกล่าวว่า
14:06
there will be no stars in this team.
233
834647
3333
จะไม่มีดาวเด่นในทีมนี้
14:09
We need everybody.
234
837980
2277
เราต้องการทุกคน
14:12
Everybody has a valid perspective.
235
840257
2728
ทุกคนมีมุมมองที่มีเหตุผล
14:15
Second, we work to one standard only:
236
843485
4226
ข้อสอง เราทำงานให้ได้มาตรฐานเดียวเท่านั้น
14:19
the best imaginable.
237
847711
2599
คือดีที่สุดเท่าที่จินตนาการได้
14:22
And third, he told his boss,
Geoff Tudhope,
Geoff Tudhope,
238
850590
3042
และข้อสาม เขาบอกเจฟ ทัดโฮป
เจ้านายของเขาว่า
เจ้านายของเขาว่า
14:25
that he had to butt out,
239
853632
1973
ให้ย้ายก้นออกไปห่างๆ
14:27
because he knew
how disruptive power can be.
how disruptive power can be.
240
855605
3251
เพราะเขารู้ว่าอำนาจ
อาจรบกวนกระบวนการในกลุ่มได้
อาจรบกวนกระบวนการในกลุ่มได้
14:30
Now, this didn't mean Tudhope did nothing.
241
858856
2833
นั่นไม่ได้หมายความว่าทัดโฮปไม่ทำอะไร
14:33
He gave the team air cover,
242
861689
1741
เขาให้การปกป้องทีม
14:35
and he listened to ensure
that they honored their principles.
that they honored their principles.
243
863430
4110
เขาฟัง เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ
ว่าพนักงานเคารพหลักการของทีม
ว่าพนักงานเคารพหลักการของทีม
14:40
And it worked: Ahead of all the other
companies tackling this hard problem,
companies tackling this hard problem,
244
868190
6070
และมันก็ได้ผล เทียบกับบริษัทอื่นๆ
ที่พยายามแก้ปัญหาเดียวกันนี้
ที่พยายามแก้ปัญหาเดียวกันนี้
14:46
this group cracked it first.
245
874260
3258
กลุ่มนี้แก้ได้เป็นกลุ่มแรก
14:49
And to date, the Montreal Protocol
246
877738
2601
จนทุกวันนี้ พิธีสารมอนทรีออล
14:52
is the most successful international
environmental agreement
environmental agreement
247
880339
5721
เป็นข้อตกลงด้านสิ่งแวดล้อมระดับนานาชาติ
14:58
ever implemented.
248
886060
1922
ที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดที่เคยมีมา
15:01
There was a lot at stake then,
249
889402
2538
ที่ผ่านมา เดิมพันมันสูงมาก
15:03
and there's a lot at stake now,
250
891940
2739
วันนี้ เดิมพันก็สูงมากเช่นกัน
15:06
and we won't solve our problems
if we expect it to be solved
if we expect it to be solved
251
894679
4528
และเราจะไม่มีทางแก้ปัญหาของเราได้
ถ้าเราคาดหวังว่ามันจะแก้ได้
ถ้าเราคาดหวังว่ามันจะแก้ได้
15:11
by a few supermen or superwomen.
252
899207
2601
โดยซุปเปอร์แมน ซุปเปอร์วูแมนสองสามคน
15:13
Now we need everybody,
253
901808
3506
วันนี้ เราต้องการทุกๆ คน
15:17
because it is only when we accept
that everybody has value
that everybody has value
254
905314
6226
เพราะเราต้องยอมรับเสียก่อนว่าทุกคนมีคุณค่า
15:23
that we will liberate the energy
and imagination and momentum we need
and imagination and momentum we need
255
911540
7046
เราจึงจะปลดปล่อยพลังงาน จินตนาการ
และแรงขับเคลื่อนที่เราต้องการได้
และแรงขับเคลื่อนที่เราต้องการได้
15:30
to create the best beyond measure.
256
918586
4774
เพื่อสร้างสิ่งที่ดีที่สุด
เหนือกว่ามาตรวัดใดๆ
เหนือกว่ามาตรวัดใดๆ
15:35
Thank you.
257
923360
2740
ขอบคุณค่ะ
15:38
(Applause)
258
926100
4000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Margaret Heffernan - Management thinkerThe former CEO of five businesses, Margaret Heffernan explores the all-too-human thought patterns -- like conflict avoidance and selective blindness -- that lead organizations and managers astray.
Why you should listen
How do organizations think? In her book Willful Blindness, Margaret Heffernan examines why businesses and the people who run them often ignore the obvious -- with consequences as dire as the global financial crisis and Fukushima Daiichi nuclear disaster.
Heffernan began her career in television production, building a track record at the BBC before going on to run the film and television producer trade association IPPA. In the US, Heffernan became a serial entrepreneur and CEO in the wild early days of web business. She now blogs for the Huffington Post and BNET.com. Her latest book, Beyond Measure, a TED Books original, explores the small steps companies can make that lead to big changes in their culture.
Margaret Heffernan | Speaker | TED.com