TEDxKC
Martin Pistorius: How my mind came back to life — and no one knew
มาร์ติน พิสโตริอุส (Martin Pistorius): สติของผมฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ แต่กลับไม่มีใครล่วงรู้
Filmed:
Readability: 3.4
2,460,653 views
ลองนึกภาพดูถึงการไม่สามารถพูดได้ว่า "ฉันหิว", "ฉันเจ็บ", "ขอบคุณ" หรือ "ฉันรักคุณ" ได้
สูญเสียความสามารถในการสื่อสารและถูกกักขังอยู่แต่ภายในร่างกาย รายล้อมไปด้วยผู้คน แต่กลับโดดเดี่ยวอย่างสุดซึ้ง เป็นเวลากว่า 13 ปี ที่มาร์ตินต้องเผชิญความจริงนี้ หลังจากที่เขาติดเชื้อในสมองตอนอายุได้ 12 ปี มาร์ตินก็สูญเสียความสามารถในการควบคุมความเคลื่อนไหวและการพูด และสุดท้ายเขาก็ไม่ผ่านการประเมินแบบทดสอบการรับรู้สติสัมปชัญญะใด ๆ เขาจึงมีสภาพไม่ต่างจากวิญญาณ แต่แล้วเรื่องประหลาดก็เกิดขึ้น เมื่อสติของเขาเริ่มถักทอตัวมันเองเข้าด้วยกัน
ในการบรรยายที่จะมาทำให้หัวใจคุณหวั่นไหวนี้ มาร์ตินจะมาเล่าว่า เขาปลดปล่อยตัวเองออกจากชีวิตที่ถูกกักขังแต่ภายในร่างกายได้อย่างไร
Martin Pistorius - Author, designer
At age 12, Martin Pistorius fell into a coma, and spent 13 years locked inside his body, unable to communicate -- until a caregiver noticed his eyes responded to her. His book "Ghost Boy" tells his story. Full bio
At age 12, Martin Pistorius fell into a coma, and spent 13 years locked inside his body, unable to communicate -- until a caregiver noticed his eyes responded to her. His book "Ghost Boy" tells his story. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
Imagine being unable to say,
"I am hungry," "I am in pain,"
"I am hungry," "I am in pain,"
0
960
5296
ลองนึกภาพดูถึงการไม่สามารถพูดว่า
"ฉันหิว", "ฉันเจ็บ"
"ฉันหิว", "ฉันเจ็บ"
00:18
"thank you," or "I love you."
1
6280
2536
"ขอบคุณ" หรือ "ฉันรักคุณ" ได้
00:20
Being trapped inside your body,
2
8840
2096
ถูกกักขังอยู่แต่ในร่างกายตัวเอง
00:22
a body that doesn't respond to commands.
3
10960
3136
ร่างกายที่ไร้ซึ่งการตอบสนองดั่งใจต้องการ
00:26
Surrounded by people,
4
14120
1656
ทั้ง ๆ ที่ห้อมล้อมไปด้วยผู้คน
00:27
yet utterly alone.
5
15800
1616
แต่กลับโดดเดี่ยวอย่างสุดซึ้ง
00:29
Wishing you could reach out,
6
17440
1696
ปรารถนาที่จะเอื้อมมือออกไป
00:31
to connect, to comfort, to participate.
7
19160
4216
เพื่อมีปฏิสัมพันธ์ เพื่อปลอบประโลม
เพื่อมีส่วนร่วม
เพื่อมีส่วนร่วม
00:35
For 13 long years, that was my reality.
8
23400
3080
เป็นเวลา 13 ปี ที่ผมอยู่มาแบบนั้น
00:39
Most of us never think twice
about talking, about communicating.
about talking, about communicating.
9
27520
5536
เราส่วนใหญ่ไม่เคยคิดให้รอบคอบ
ก่อนที่จะพูด ก่อนที่จะสื่อสารกับใคร
ก่อนที่จะพูด ก่อนที่จะสื่อสารกับใคร
00:45
I've thought a lot about it.
10
33080
2136
แต่ผมคิดละเอียดถี่ถ้วนมาก
00:47
I've had a lot of time to think.
11
35240
2656
ผมมีเวลาเหลือเฟือในการคิด
00:49
For the first 12 years of my life,
12
37920
2096
ในช่วง 12 ปีแรกของชีวิตผม
00:52
I was a normal, happy, healthy little boy.
13
40040
2696
ผมเป็นเจ้าหนูตัวน้อยที่ปกติ
มีความสุข และแข็งแรง
มีความสุข และแข็งแรง
00:54
Then everything changed.
14
42760
2136
แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
00:56
I contracted a brain infection.
15
44920
2256
เมื่อผมติดเชื้อในสมอง
00:59
The doctors weren't sure what it was,
16
47200
2296
คณะแพทย์เองก็ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร
01:01
but they treated me the best they could.
17
49520
2496
แต่พวกเขาก็รักษาผมอย่างสุดความสามารถ
01:04
However, I progressively got worse.
18
52040
3376
อย่างไรก็ตาม ผมกลับแย่ลงเรื่อย ๆ
01:07
Eventually, I lost my ability
to control my movements,
to control my movements,
19
55440
4176
สุดท้าย ผมก็สูญเสียความสามารถ
ในการควบคุมความเคลื่อนไหว
ในการควบคุมความเคลื่อนไหว
01:11
make eye contact,
20
59640
1336
การสบตากับผู้คน
01:13
and finally, my ability to speak.
21
61000
3239
และความสามารถในการพูด ท้ายที่สุด
01:17
While in hospital,
22
65280
1216
ขณะที่ผมอยู่โรงพยาบาล
01:18
I desperately wanted to go home.
23
66520
2576
ผมอยากกลับบ้านแทบขาดใจ
01:21
I said to my mother, "When home?"
24
69120
3296
ผมบอกกับแม่ "..บ้านเมื่อไหร่"
01:24
Those were the last words
I ever spoke with my own voice.
I ever spoke with my own voice.
25
72440
4456
และนั่นก็เป็นคำพูดสุดท้ายที่
ผมพูดด้วยน้ำเสียงของตัวเอง
ผมพูดด้วยน้ำเสียงของตัวเอง
01:28
I would eventually fail every test
for mental awareness.
for mental awareness.
26
76920
3816
แล้วผมก็ไม่ผ่านการประเมิน
แบบทดสอบการรับรู้ทางสติสัมปชัญญะใด ๆ
แบบทดสอบการรับรู้ทางสติสัมปชัญญะใด ๆ
01:32
My parents were told
I was as good as not there.
I was as good as not there.
27
80760
2816
พ่อแม่ผมได้รับฟังจากปากคุณหมอว่า
ผู้อยู่ก็เหมือนไม่อยู่แล้ว
ผู้อยู่ก็เหมือนไม่อยู่แล้ว
01:35
A vegetable, having the intelligence
of a three-month-old baby.
of a three-month-old baby.
28
83600
4616
เป็นผัก (vegetable)
ที่มีสติปัญญาเท่าเด็กทารกสามเดือน
ที่มีสติปัญญาเท่าเด็กทารกสามเดือน
01:40
They were told to take me home
and try to keep me comfortable
and try to keep me comfortable
29
88240
3656
คุณหมอบอกว่า ให้พาผมกลับบ้าน
และดูแลผมให้ดี ๆ
และดูแลผมให้ดี ๆ
01:43
until I died.
30
91920
1200
จนกว่าผมจะไปสบาย
01:46
My parents, in fact
my entire family's lives,
my entire family's lives,
31
94000
3536
พ่อแม่ผม จริง ๆ แล้ว
ทั้งครอบครัวผม
ทั้งครอบครัวผม
01:49
became consumed by taking care of me
the best they knew how.
the best they knew how.
32
97560
4296
ถูกสูบเลือดเนื้อ
จากการที่ต้องดูแลผมให้ดีที่สุด
จากการที่ต้องดูแลผมให้ดีที่สุด
01:53
Their friends drifted away.
33
101880
2336
เพื่อน ๆ ของพวกเขาพากันตีจาก
01:56
One year turned to two,
34
104240
1816
จากหนึ่งปี ผันผ่านไปเป็นสองปี
01:58
two turned to three.
35
106080
1320
สองปีก็แปรเปลี่ยนเป็นสามปี
02:00
It seemed like the person I once was
began to disappear.
began to disappear.
36
108240
4416
ดูราวกับว่า ตัวผมในอดีต
เริ่มค่อย ๆ จางหายไป
เริ่มค่อย ๆ จางหายไป
02:04
The Lego blocks and electronic circuits
I'd loved as a boy were put away.
I'd loved as a boy were put away.
37
112680
4896
ตัวต่อเลโก้และแผงวงจรไฟฟ้า
ที่ผมรักตอนยังเด็กถูกนำไปทิ้ง
ที่ผมรักตอนยังเด็กถูกนำไปทิ้ง
02:09
I had been moved out of my bedroom
into another more practical one.
into another more practical one.
38
117600
4456
ผมถูกย้ายจากห้องนอน
ไปสู่ห้องที่เหมาะสมกว่า
ไปสู่ห้องที่เหมาะสมกว่า
02:14
I had become a ghost,
39
122080
1696
ผมมีสภาพไม่ต่างจากวิญญาณ
02:15
a faded memory of a boy
people once knew and loved.
people once knew and loved.
40
123800
4375
เป็นความทรงจำที่ถูกลบเลือน
ของเด็กชายที่ผู้คนเคยรู้จักและรักใคร่
ของเด็กชายที่ผู้คนเคยรู้จักและรักใคร่
02:20
Meanwhile, my mind began
knitting itself back together.
knitting itself back together.
41
128199
4257
ในขณะเดียวกัน
สติของผมก็เริ่มถักทอตัวเอง
สติของผมก็เริ่มถักทอตัวเอง
02:24
Gradually, my awareness started to return.
42
132480
3016
ทีละน้อย ๆ สติผมก็เริ่มกลับมา
02:27
But no one realized
that I had come back to life.
that I had come back to life.
43
135520
3336
แต่กลับไม่มีใครสังเกตว่า
ผมได้ฟื้นคืนชีพแล้ว
ผมได้ฟื้นคืนชีพแล้ว
02:30
I was aware of everything,
44
138880
1816
ผมรับรู้ได้ทุกสิ่ง
02:32
just like any normal person.
45
140720
2016
เฉกเช่นคนทั่วไป
02:34
I could see and understand everything,
46
142760
2296
สามารถเห็นและเข้าใจทุกอย่าง
02:37
but I couldn't find a way
to let anybody know.
to let anybody know.
47
145080
2840
แต่กลับไม่สามารถหาทางสื่อให้คนอื่นรับรู้
02:40
My personality was entombed
within a seemingly silent body,
within a seemingly silent body,
48
148560
3976
ตัวตนของผมถูกฝังอยู่ในร่างกายที่ดูแน่นิ่ง
02:44
a vibrant mind hidden in plain sight
within a chrysalis.
within a chrysalis.
49
152560
3720
จิตใจที่สดใสแฝงอยู่ในสายตาที่เรียบเฉย
ภายใต้รังไหม
ภายใต้รังไหม
02:48
The stark reality hit me
that I was going to spend
that I was going to spend
50
156920
2736
แล้วความจริงอันเป็นสัจธรรม
ก็จู่โจมผมว่า ผมต้องมีชีวิต
ก็จู่โจมผมว่า ผมต้องมีชีวิต
02:51
the rest of my life locked inside myself,
51
159680
2656
ที่เหลืออยู่
ภายใต้ร่างกายที่ถูกปิดตาย
ภายใต้ร่างกายที่ถูกปิดตาย
02:54
totally alone.
52
162360
1696
อย่างอ้างว้าง
02:56
I was trapped with only
my thoughts for company.
my thoughts for company.
53
164080
3616
ผมถูกขังไปพร้อมกับ "ความคิด"
ผู้เป็นเพื่อนเพียงคนเดียว
ผู้เป็นเพื่อนเพียงคนเดียว
02:59
I would never be rescued.
54
167720
2176
ผมจะไม่มีวันได้รับการปลดปล่อย
03:01
No one would ever show me tenderness.
55
169920
2936
จะไม่มีใครอ่อนโยนต่อผม
03:04
I would never talk to a friend.
56
172880
2256
ผมจะไม่มีวันได้พูดคุยกับเพื่อน
03:07
No one would ever love me.
57
175160
1920
จะไม่มีวันได้รับความรัก
03:09
I had no dreams, no hope,
nothing to look forward to.
nothing to look forward to.
58
177920
4136
ไม่มีความฝัน ความหวัง
ไม่มีอนาคตใดให้เฝ้ารอ
ไม่มีอนาคตใดให้เฝ้ารอ
03:14
Well, nothing pleasant.
59
182080
2496
ไร้ซึ่งความสุข
03:16
I lived in fear,
60
184600
1336
ตกอยู่ในความหวาดกลัว
03:17
and, to put it bluntly,
61
185960
1536
และกล่าวได้สั้น ๆ ว่า
03:19
was waiting for death
to finally release me,
to finally release me,
62
187520
3056
รอวันที่ความตายจะมาปลดปล่อยผม
03:22
expecting to die all alone in a care home.
63
190600
3896
เชื่อว่าคงจะตายอย่างโดดเดี่ยวในสถานดูแล
03:26
I don't know if it's truly possible
to express in words
to express in words
64
194520
3376
ผมไม่รู้จะหาคำพูดใดมาบรรยาย
03:29
what it's like not to be able
to communicate.
to communicate.
65
197920
2816
ความรู้สึกของการไม่สามารถสื่อสารได้
03:32
Your personality appears
to vanish into a heavy fog
to vanish into a heavy fog
66
200760
3416
ตัวตนของคุณสูญสลายไปในม่านหมอกทึบ
03:36
and all of your emotions and desires are
constricted, stifled and muted within you.
constricted, stifled and muted within you.
67
204200
5776
อารมณ์และความต้องการของคุณ
ถูกกักขัง ถูกสะกด ถูกดับภายในตัวคุณ
ถูกกักขัง ถูกสะกด ถูกดับภายในตัวคุณ
03:42
For me, the worst was the feeling
of utter powerlessness.
of utter powerlessness.
68
210000
4496
สำหรับผมแล้ว ความรู้สึกที่แย่ที่สุด
คือการไร้ซึ่งพลังอย่างสิ้นเชิง
คือการไร้ซึ่งพลังอย่างสิ้นเชิง
03:46
I simply existed.
69
214520
1440
ผมแค่ยังอยู่
03:48
It's a very dark place to find yourself
70
216680
2456
มันเป็นสถานที่อันมืดมิดเหลือเกิน
ที่ได้มาค้นพบตัวเอง
ที่ได้มาค้นพบตัวเอง
03:51
because in a sense, you have vanished.
71
219160
2680
เพราะตามจริง ผมได้หายไปแล้ว
03:55
Other people controlled
every aspect of my life.
every aspect of my life.
72
223000
3216
คนอื่นเข้าบงการทุกส่วนในชีวิตผม
03:58
They decided what I ate and when.
73
226240
2296
พวกเขาคือผู้ตัดสินว่า
ผมจะกินอะไร เมื่อไหร่
ผมจะกินอะไร เมื่อไหร่
04:00
Whether I was laid on my side
or strapped into my wheelchair.
or strapped into my wheelchair.
74
228560
3976
ตอนไหนถึงจะพลิกตัวผม
หรือจะจับผมนั่งรถเข็น
หรือจะจับผมนั่งรถเข็น
04:04
I often spent my days
positioned in front of the TV
positioned in front of the TV
75
232560
3376
ผมมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์
04:07
watching Barney reruns.
76
235960
1840
ดูเรื่องบาร์นี่ฉายซ้ำ ๆ
04:10
I think because Barney
is so happy and jolly,
is so happy and jolly,
77
238440
2896
ผมคิดว่าเป็นเพราะ
บาร์นี่ดูมีความสุขและร่าเริง
บาร์นี่ดูมีความสุขและร่าเริง
04:13
and I absolutely wasn't,
78
241360
1736
แต่ผมกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
04:15
it made it so much worse.
79
243120
1680
ตอกย้ำให้วันคืนของผมแย่ลงไปอีก
04:17
I was completely powerless
to change anything in my life
to change anything in my life
80
245800
3416
ผมหมดสิ้นพลัง
ที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิต
ที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิต
04:21
or people's perceptions of me.
81
249240
2456
หรือความคิดที่ผู้อื่นมีต่อผม
04:23
I was a silent, invisible observer
of how people behaved
of how people behaved
82
251720
3576
ผมเป็นผู้เฝ้ามองที่สงบนิ่ง
ไร้ตัวตน คอยดูการกระทำของผู้อื่น
ไร้ตัวตน คอยดูการกระทำของผู้อื่น
04:27
when they thought no one was watching.
83
255320
2376
ยามที่พวกเขาคิดว่าไม่มีใครเฝ้ามองอยู่
04:29
Unfortunately, I wasn't only an observer.
84
257720
3696
โชคร้าย ที่ผมไม่ได้เป็นแค่ผู้เฝ้ามอง
04:33
With no way to communicate,
I became the perfect victim:
I became the perfect victim:
85
261440
3976
ปราศจากหนทางที่จะสื่อสาร
ผมยังตกเป็นเหยื่ออย่างแท้จริง
ผมยังตกเป็นเหยื่ออย่างแท้จริง
04:37
a defenseless object,
seemingly devoid of feelings
seemingly devoid of feelings
86
265440
3976
เป็นสิ่งของที่ไร้ซึ่งการปกป้อง
ดูเหมือนจะปราศจากความรู้สึก
ดูเหมือนจะปราศจากความรู้สึก
04:41
that people used
to play out their darkest desires.
to play out their darkest desires.
87
269440
3736
ถูกผู้คนใช้เพื่อสนองความต้องการอันชั่วร้าย
04:45
For more than 10 years,
people who were charged with my care
people who were charged with my care
88
273200
3656
เป็นเวลากว่าสิบปี ผู้คนที่มีหน้าที่ดูแลผม
04:48
abused me physically,
verbally and sexually.
verbally and sexually.
89
276880
3160
ได้ทำร้ายผมทั้งทางกาย วาจา และทางเพศ
04:52
Despite what they thought, I did feel.
90
280760
2760
ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอะไรก็ตามที
แต่ผมสัมผัสได้
แต่ผมสัมผัสได้
04:56
The first time it happened,
91
284400
1736
ครั้งแรกที่มันเกิดขึ้น
04:58
I was shocked and filled with disbelief.
92
286160
2656
ผมทั้งตกใจและเต็มไปด้วยความหวาดระแวง
05:00
How could they do this to me?
93
288840
1520
พวกเขาทำกับผมแบบนี้ได้อย่างไร
05:03
I was confused.
94
291120
1576
ผมรู้สึกสับสนไปหมด
05:04
What had I done to deserve this?
95
292720
2120
ผมทำอะไรลงไปถึงต้องโดนแบบนี้
05:07
Part of me wanted to cry
and another part wanted to fight.
and another part wanted to fight.
96
295440
4056
ใจผมส่วนหนึ่งอยากจะร่ำไห้
แต่อีกใจก็ต้องการลุกขึ้นสู้
แต่อีกใจก็ต้องการลุกขึ้นสู้
05:11
Hurt, sadness and anger
flooded through me.
flooded through me.
97
299520
3736
ความเจ็บปวด ความเสียใจ
ความโกรธแค้น ถาโถมเข้าใส่ผม
ความโกรธแค้น ถาโถมเข้าใส่ผม
05:15
I felt worthless.
98
303280
1776
ผมรู้สึกไร้ค่า
05:17
There was no one to comfort me.
99
305080
1920
ไม่มีใครที่จะมาปลอบโยนผม
05:20
But neither of my parents
knew this was happening.
knew this was happening.
100
308080
3256
แต่พ่อแม่ผมหารู้ไม่ว่า
มีสิ่งใดเกิดขึ้นบ้าง
มีสิ่งใดเกิดขึ้นบ้าง
05:23
I lived in terror, knowing
it would happen again and again.
it would happen again and again.
101
311360
4056
ผมตกอยู่ในความหวาดผวา
รู้ตัวดีว่ามันต้องเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
รู้ตัวดีว่ามันต้องเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
05:27
I just never knew when.
102
315440
2096
ไม่รู้แต่เพียง มันจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่
05:29
All I knew was that I would
never be the same.
never be the same.
103
317560
2760
เท่าที่รู้คือ ผมจะไม่มีวันเป็นเหมือนเดิม
05:33
I remember once listening
to Whitney Houston singing,
to Whitney Houston singing,
104
321360
3616
ผมจำเพลงที่วิทนีย์ ฮูสตันร้องได้ว่า
05:37
"No matter what they take from me,
they can't take away my dignity."
they can't take away my dignity."
105
325000
4856
"ไม่ว่าพวกเขาจะพรากอะไรไปจากฉัน
พวกเขาจะไม่มีวันพรากศักดิ์ศรีฉันไปได้"
พวกเขาจะไม่มีวันพรากศักดิ์ศรีฉันไปได้"
05:41
And I thought to myself,
"You want to bet?"
"You want to bet?"
106
329880
2920
แล้วผมก็คิดในใจว่า "มาพนันกันไหมล่ะ"
05:47
Perhaps my parents could have
found out and could have helped.
found out and could have helped.
107
335120
3736
บางทีพ่อแม่อาจจับได้และช่วยผมไว้
05:50
But the years of constant caretaking,
108
338880
2256
แต่หลายปีของการดูแลเป็นกิจวัตร
05:53
having to wake up
every two hours to turn me,
every two hours to turn me,
109
341160
2896
ต้องตื่นทุก ๆ สองชั่วโมงเพื่อพลิกตัวผม
05:56
combined with them essentially
grieving the loss of their son,
grieving the loss of their son,
110
344080
3376
ประกอบกับความโศกเศร้า
จากการสูญเสียลูกชาย
จากการสูญเสียลูกชาย
05:59
had taken a toll on my mother and father.
111
347480
3336
ได้ทำร้ายจิตใจพ่อแม่ผม
06:02
Following yet another heated argument
between my parents,
between my parents,
112
350840
3576
ตามมาด้วยพ่อกับแม่มีปากเสียงกัน
06:06
in a moment of despair and desperation,
113
354440
2616
ในชั่ววูบแห่งความสิ้นหวังและหมดกำลังใจ
06:09
my mother turned to me
and told me that I should die.
and told me that I should die.
114
357080
3320
แม่หันมาหาผมและบอกว่า
"ผมน่าจะตายไปเสีย"
"ผมน่าจะตายไปเสีย"
06:14
I was shocked, but as I thought
about what she had said,
about what she had said,
115
362160
3136
ผมสะเทือนใจมาก
แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของแม่
แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของแม่
06:17
I was filled with enormous compassion
and love for my mother,
and love for my mother,
116
365320
4016
ผมก็เอ่อล้นไปด้วยความรัก
และความเห็นใจที่มีต่อแม่อย่างเต็มเปี่ยม
และความเห็นใจที่มีต่อแม่อย่างเต็มเปี่ยม
06:21
yet I could do nothing about it.
117
369360
1960
แต่ผมกลับช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย
06:24
There were many moments when I gave up,
118
372640
2376
หลายครา ที่ผมยอมจำนน
06:27
sinking into a dark abyss.
119
375040
2376
จมดิ่งลงสู่ห้วงหุบเหวลึกอันมืดมิด
06:29
I remember one particularly low moment.
120
377440
3136
ผมก็นึกถึงช่วงเวลาสั้น ๆ ครั้งหนึ่ง
06:32
My dad left me alone in the car
121
380600
2256
ที่พ่อให้ผมรออยู่บนรถคนเดียว
06:34
while he quickly went
to buy something from the store.
to buy something from the store.
122
382880
3576
ระหว่างที่เขารีบไปซื้อของจากร้านค้า
06:38
A random stranger walked past,
123
386480
2616
มีคนแปลกหน้าผู้หนึ่งเดินผ่านมา
06:41
looked at me and he smiled.
124
389120
2840
มองมาที่ผมแล้วยิ้มให้
06:44
I may never know why, but that simple act,
125
392880
3136
ผมอาจไม่เคยรู้ว่าเพราะอะไร
แต่การกระทำเรียบ ๆ นั้น
แต่การกระทำเรียบ ๆ นั้น
06:48
the fleeting moment of human connection,
126
396040
2296
ชั่วขณะของความสัมพันธ์กับผู้คน
06:50
transformed how I was feeling,
127
398360
2376
ได้แปรเปลี่ยนความรู้สึกผม
06:52
making me want to keep going.
128
400760
1920
ทำให้ผมอยากจะก้าวต่อไป
06:55
My existence was tortured by monotony,
129
403760
2936
การมีชีวิตอยู่ของผม
ถูกทรมานจากความซ้ำซาก
ถูกทรมานจากความซ้ำซาก
06:58
a reality that was often too much to bear.
130
406720
3016
บ่อยครั้ง ความเป็นจริงก็ยากเกินจะรับไหว
07:01
Alone with my thoughts,
I constructed intricate fantasies
I constructed intricate fantasies
131
409760
4136
การอยู่กับความคิดอย่างเดียวดาย
ผมได้สร้างโลกจิตนาการอันล้ำลึก
ผมได้สร้างโลกจิตนาการอันล้ำลึก
07:05
about ants running across the floor.
132
413920
3376
ถึงเหล่ามดที่เดินไปตามพื้น
07:09
I taught myself to tell the time
by noticing where the shadows were.
by noticing where the shadows were.
133
417320
5096
ผมได้เรียนรู้วิธีบอกเวลา
จากการสังเกตตำแหน่งของเงา
จากการสังเกตตำแหน่งของเงา
07:14
As I learned how the shadows moved
as the hours of the day passed,
as the hours of the day passed,
134
422440
4136
และเรียนรู้ว่าเงาเคลื่อนที่อย่างไร
เมื่อเวลาของแต่ละวันผ่านไป
เมื่อเวลาของแต่ละวันผ่านไป
07:18
I understood how long it would be
before I was picked up and taken home.
before I was picked up and taken home.
135
426600
4656
ผมถึงเข้าใจว่า นานเพียงใด
กว่าจะมีคนมารับผมกลับบ้าน
กว่าจะมีคนมารับผมกลับบ้าน
07:23
Seeing my father walk
through the door to collect me
through the door to collect me
136
431280
3256
การได้เห็นพ่อเดินพ้นประตูมารับผม
07:26
was the best moment of the day.
137
434560
2160
เป็นช่วงเวลาอันวิเศษสุดของวัน
07:29
My mind became a tool that I could use
138
437600
2336
จิตใจผมกลายเป็นเครื่องมือ
ที่ผมสามารถใช้งานได้
ที่ผมสามารถใช้งานได้
07:31
to either close down
to retreat from my reality
to retreat from my reality
139
439960
2816
ไม่ว่าจะปิดใจเพื่อหลีกหนีความเป็นจริง
07:34
or enlarge into a gigantic space
that I could fill with fantasies.
that I could fill with fantasies.
140
442800
4976
หรือแผ่ขยายให้เป็นอาณาเขตอันไพศาล
ที่ผมสามารถเติมเต็มด้วยจินตนาการ
ที่ผมสามารถเติมเต็มด้วยจินตนาการ
07:39
I hoped that my reality would change
141
447800
1976
ผมได้แต่หวังว่าความจริงจะเปลี่ยนไป
07:41
and someone would see
that I had come back to life.
that I had come back to life.
142
449800
2856
จะมีใครสักคนเห็นว่าผมกลับมามีชีวิตแล้ว
07:44
But I had been washed away
like a sand castle
like a sand castle
143
452680
2696
แต่ผมก็ถูกซัดออกไปเหมือนกับปราสาททราย
07:47
built too close to the waves,
144
455400
2136
ที่สร้างชิดริมหาดจนเกินไป
07:49
and in my place was the person
people expected me to be.
people expected me to be.
145
457560
4176
และในสถานะของผม
คือคนที่ผู้อื่นหวังให้ผมเป็น
คือคนที่ผู้อื่นหวังให้ผมเป็น
07:53
To some I was Martin,
a vacant shell, the vegetable,
a vacant shell, the vegetable,
146
461760
3776
ใครคนหนึ่งที่เป็น มาร์ติน
เป็นเปลือกกลวง ๆ เป็นผัก
เป็นเปลือกกลวง ๆ เป็นผัก
07:57
deserving of harsh words,
dismissal and even abuse.
dismissal and even abuse.
147
465560
4416
สมควรที่จะถูกดุด่า ไม่แยแส
หรือแม้กระทั่งทารุณ
หรือแม้กระทั่งทารุณ
08:02
To others, I was the tragically
brain-damaged boy
brain-damaged boy
148
470000
2936
สำหรับคนอื่น ผมก็คือ
เด็กที่มีความผิดปกติทางสมองที่น่าเวทนา
เด็กที่มีความผิดปกติทางสมองที่น่าเวทนา
08:04
who had grown to become a man.
149
472960
2216
ผู้เติบโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่ม
08:07
Someone they were kind to and cared for.
150
475200
3176
ใครคนหนึ่งที่พวกเขาเคยห่วงใยและเมตตา
08:10
Good or bad, I was a blank canvas
151
478400
2496
จะดีจะร้าย ผมก็คือผืนผ้าใบเปล่า ๆ
08:12
onto which different versions
of myself were projected.
of myself were projected.
152
480920
3320
ที่รูปแบบของผมอันหลากหลาย
ถูกฉายลงบนนั้น
ถูกฉายลงบนนั้น
08:17
It took someone new
to see me in a different way.
to see me in a different way.
153
485160
3296
ทำให้มีใครคนใหม่
ที่จะมองผมต่างออกไป
ที่จะมองผมต่างออกไป
08:20
An aromatherapist began coming
to the care home about once a week.
to the care home about once a week.
154
488480
4256
นักสุคนธบำบัดคนหนึ่ง
เริ่มมาที่สถานดูแลประมาณสัปดาห์ละครั้ง
เริ่มมาที่สถานดูแลประมาณสัปดาห์ละครั้ง
08:24
Whether through intuition
or her attention to details
or her attention to details
155
492760
2976
ไม่ว่าจะรู้โดยสัญชาตญาณ
หรือความใส่ใจในรายละเอียด
หรือความใส่ใจในรายละเอียด
08:27
that others failed to notice,
156
495760
2016
ที่คนอื่นล้มเหลวที่จะสังเกต
08:29
she became convinced that I could
understand what was being said.
understand what was being said.
157
497800
4136
เธอเริ่มเกลี้ยกล่อมว่า
ผมเข้าใจสิ่งที่เธอพูดอยู่
ผมเข้าใจสิ่งที่เธอพูดอยู่
08:33
She urged my parents
to have me tested by experts
to have me tested by experts
158
501960
3496
เธอรบเร้าพ่อแม่ ให้พาผม
ไปหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทดสอบ
ไปหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทดสอบ
08:37
in augmentative
and alternative communication.
and alternative communication.
159
505480
3296
"การสื่อความหมายเสริมและทางเลือก"
08:40
And within a year,
160
508800
1216
และภายในหนึ่งปี
08:42
I was beginning to use
a computer program to communicate.
a computer program to communicate.
161
510040
4056
ผมก็เริ่มใช้คอมพิวเตอร์ในการสื่อสาร
08:46
It was exhilarating,
but frustrating at times.
but frustrating at times.
162
514120
3736
บางครั้ง มันทั้งน่าตื่นเต้น
และน่าขัดใจระคนกัน
และน่าขัดใจระคนกัน
08:49
I had so many words in my mind,
163
517880
1976
ผมมีความในใจมากมายเหลือเกิน
08:51
that I couldn't wait
to be able to share them.
to be able to share them.
164
519880
2816
ที่ไม่อาจรอจะถ่ายทอดให้พวกเขาฟัง
08:54
Sometimes, I would say things to myself
simply because I could.
simply because I could.
165
522720
4736
บางที ผมอาจจะพูดกับตัวเอง
ก็เพราะผมทำได้
ก็เพราะผมทำได้
08:59
In myself, I had a ready audience,
166
527480
2616
ภายในตัวผม มีผู้พร้อมฟังอยู่
09:02
and I believed that by expressing
my thoughts and wishes,
my thoughts and wishes,
167
530120
3136
และผมเชื่อว่า หากผมแสดง
ความคิดและความปรารถนาออกมา
ความคิดและความปรารถนาออกมา
09:05
others would listen, too.
168
533280
1736
คนอื่น ๆ ก็จะรับฟังด้วย
09:07
But as I began to communicate more,
169
535040
2256
แต่เมื่อผมเริ่มสื่อสารมากขึ้น
09:09
I realized that it was in fact
only just the beginning
only just the beginning
170
537320
3176
ผมก็ตระหนักว่า แท้จริงแล้ว
มันเป็นเพียงการเริ่มต้น
มันเป็นเพียงการเริ่มต้น
09:12
of creating a new voice for myself.
171
540520
2936
ของการสร้างเสียงใหม่ให้ตัวเอง
09:15
I was thrust into a world
I didn't quite know how to function in.
I didn't quite know how to function in.
172
543480
4336
ผมถูกผลักดันให้เข้าสู่โลก
ที่ไม่รู้แน่ว่ามันทำงานอย่างไร
ที่ไม่รู้แน่ว่ามันทำงานอย่างไร
09:19
I stopped going to the care home
173
547840
1656
ผมเลิกไปที่สถานดูแล
09:21
and managed to get my first job
making photocopies.
making photocopies.
174
549520
3856
และเริ่มหางานชิ้นแรกทำ
คืองานรับถ่ายเอกสาร
คืองานรับถ่ายเอกสาร
09:25
As simple as this may sound,
it was amazing.
it was amazing.
175
553400
3456
ซึ่งเป็นงานง่าย ๆ แต่กลับน่าอัศจรรย์
09:28
My new world was really exciting
176
556880
2016
โลกใหม่ของผมช่างน่าตื่นตาตื่นใจ
09:30
but often quite overwhelming
and frightening.
and frightening.
177
558920
2816
แต่บ่อยครั้ง มันก็ท่วมท้นจนน่ากลัว
09:33
I was like a man-child,
178
561760
1816
ผมเหมือนเด็กในร่างวัยหนุ่ม
09:35
and as liberating as it often was,
179
563600
2096
และจากที่เคยเป็นอิสระ
09:37
I struggled.
180
565720
1736
ผมกลับต้องฝ่าฟัน
09:39
I also learned that many of those
who had known me for a long time
who had known me for a long time
181
567480
3536
ผมยังได้เรียนรู้ว่า มันเป็นไปไม่ได้เลย
09:43
found it impossible to abandon the idea
of Martin they had in their heads.
of Martin they had in their heads.
182
571040
4656
ที่จะลบภาพมาร์ตินคนเดิม ออกไปจาก
ความทรงจำของผู้คนทั้งหลายที่รู้จักผมมานาน
ความทรงจำของผู้คนทั้งหลายที่รู้จักผมมานาน
09:47
While those I had only just met
183
575720
1616
ในขณะผู้คนที่เพิ่งพบกัน
09:49
struggled to look past the image
of a silent man in a wheelchair.
of a silent man in a wheelchair.
184
577360
3760
ก็ยากที่จะมองข้าม
ภาพลักษณ์ของชายใบ้บนรถเข็น
ภาพลักษณ์ของชายใบ้บนรถเข็น
09:54
I realized that some people
would only listen to me
would only listen to me
185
582000
2736
ผมตระหนักว่าบางคนจะรับฟังผม
09:56
if what I said was in line
with what they expected.
with what they expected.
186
584760
3016
ก็ต่อเมื่อสิ่งที่ผมพูด
มันตรงกับสิ่งที่เขาอยากฟังเท่านั้น
มันตรงกับสิ่งที่เขาอยากฟังเท่านั้น
09:59
Otherwise, it was disregarded
187
587800
2016
หาไม่แล้ว พวกเขาจะไม่สนใจเลย
10:01
and they did what they felt was best.
188
589840
2656
และพวกเขาจะทำแต่สิ่งที่คิดว่าดีที่สุด
10:04
I discovered that true communication
189
592520
2016
ผมค้นพบว่าการสื่อสารที่แท้จริง
10:06
is about more than merely
physically conveying a message.
physically conveying a message.
190
594560
3816
เป็นมากกว่าแค่การสื่อข้อความทางกายภาพ
10:10
It is about getting the message
heard and respected.
heard and respected.
191
598400
2960
แต่เป็นการที่ข้อความได้รับฟัง
และได้รับความเคารพ
และได้รับความเคารพ
10:14
Still, things were going well.
192
602960
2256
สื่งต่าง ๆ ยังคงเป็นไปด้วยดี
10:17
My body was slowly getting stronger.
193
605240
2576
ร่างกายผมค่อย ๆ แข็งแรงขึ้น
10:19
I had a job in computing that I loved,
194
607840
2456
ผมได้งานคอมพิวเตอร์ที่ผมรัก
10:22
and had even got Kojak, the dog
I had been dreaming about for years.
I had been dreaming about for years.
195
610320
4896
และมีแม้กระทั่งสุนัขที่ชื่อ "โคเเจ๊ค"
ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาตลอดหลายปี
ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาตลอดหลายปี
10:27
However, I longed to share
my life with someone.
my life with someone.
196
615240
3936
แต่ถึงอย่างนั้น
ผมก็ยังโหยหาที่จะใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคน
ผมก็ยังโหยหาที่จะใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคน
10:31
I remember staring out the window
as my dad drove me home from work,
as my dad drove me home from work,
197
619200
4416
ผมยังจำครั้งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
ระหว่างที่พ่อขับรถพากลับบ้านจากที่ทำงาน
ระหว่างที่พ่อขับรถพากลับบ้านจากที่ทำงาน
10:35
thinking I have so much love inside of me
and nobody to give it to.
and nobody to give it to.
198
623640
4696
คิดว่าผมมีความรักมากมายอยู่ภายในตัว
แต่กลับไม่ใครจะมอบให้
แต่กลับไม่ใครจะมอบให้
10:40
Just as I had resigned myself
to being single for the rest of my life,
to being single for the rest of my life,
199
628360
4456
และเมื่อผมก้มหน้ายอมรับความจริง
ว่าคงต้องครองตนเป็นโสดไปชั่วชีวิต
ว่าคงต้องครองตนเป็นโสดไปชั่วชีวิต
10:44
I met Joan.
200
632840
1776
ผมก็ได้พบ "โจน"
10:46
Not only is she the best thing
that has ever happened to me,
that has ever happened to me,
201
634640
3456
ไม่เพียงแค่เธอจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
เท่าที่เคยเกิดขึ้นกับตัวผมเท่านั้น
เท่าที่เคยเกิดขึ้นกับตัวผมเท่านั้น
10:50
but Joan helped me to challenge
my own misconceptions about myself.
my own misconceptions about myself.
202
638120
4896
แต่เธอยังช่วยให้ผมฝ่าความคิดผิด ๆ
ที่มีต่อตัวเองอีกด้วย
ที่มีต่อตัวเองอีกด้วย
10:55
Joan said it was through my words
that she fell in love with me.
that she fell in love with me.
203
643040
4616
โจนบอกว่า เธอตกหลุมรักผมผ่านถ้อยคำ
10:59
However, after all I had been through,
204
647680
2776
ทว่า หลังจากทุกสิ่งที่ผมได้ผ่านพ้นมา
11:02
I still couldn't shake the belief
205
650480
1736
ผมก็ยังไม่สามารถสั่นคลอนความเชื่อ
11:04
that nobody could truly see
beyond my disability
beyond my disability
206
652240
3216
ที่ว่า ไม่มีใครสามารถ
จะมองข้ามความพิการของผมไปได้
จะมองข้ามความพิการของผมไปได้
11:07
and accept me for who I am.
207
655480
2576
และยอมรับในสิ่งที่ผมเป็น
11:10
I also really struggled
to comprehend that I was a man.
to comprehend that I was a man.
208
658080
4176
ผมยังต้องกัดฟันที่จะเข้าใจ
ว่าตัวผมเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง
ว่าตัวผมเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง
11:14
The first time someone
referred to me as a man,
referred to me as a man,
209
662280
2816
ครั้งแรกที่มีคนเอ่ยถึงผมในฐานะมนุษย์
11:17
it stopped me in my tracks.
210
665120
2296
มันทำให้ผมหยุดชะงัก
11:19
I felt like looking around
and asking, "Who, me?"
and asking, "Who, me?"
211
667440
4616
ผมรู้สึกราวกับมองไปรอบ ๆ
แล้วถามว่า "ใคร? ผมเหรอ"
แล้วถามว่า "ใคร? ผมเหรอ"
11:24
That all changed with Joan.
212
672080
2176
ทุกอย่างนั้น เปลี่ยนไปเพราะโจน
11:26
We have an amazing connection
213
674280
1576
เราสองมีสัมพันธภาพอันน่าอัศจรรย์
11:27
and I learned how important it is
to communicate openly and honestly.
to communicate openly and honestly.
214
675880
4656
และผมได้เรียนรู้ว่ามันสำคัญแค่ไหน
ที่จะสื่อสารอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา
ที่จะสื่อสารอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา
11:32
I felt safe, and it gave me the confidence
to truly say what I thought.
to truly say what I thought.
215
680560
4936
ผมรู้สึกปลอดภัย และมันได้มอบความเชื่อมั่น
ที่จะพูดในสิ่งที่คิดออกมาจากใจ
ที่จะพูดในสิ่งที่คิดออกมาจากใจ
11:37
I started to feel whole again,
a man worthy of love.
a man worthy of love.
216
685520
4296
ผมรู้สึกอิ่มเอิบอีกครั้ง
เป็นมนุษย์ผู้ควรค่าแก่ความรัก
เป็นมนุษย์ผู้ควรค่าแก่ความรัก
11:41
I began to reshape my destiny.
217
689840
2456
ผมเริ่มจะวาดหวังอนาคตของตัวเองขึ้นมาใหม่
11:44
I spoke up a little more at work.
218
692320
2216
ผมเริ่มแสดงความเห็นมากขึ้นในที่ทำงาน
11:46
I asserted my need for independence
to the people around me.
to the people around me.
219
694560
4376
ผมได้แสดงความต้องการอิสระของผม
กับผู้คนรอบข้าง
กับผู้คนรอบข้าง
11:50
Being given a means of communication
changed everything.
changed everything.
220
698960
3856
การได้รับเครื่องมือสำหรับการสื่อสาร
ได้แปรเปลี่ยนทุกอย่าง
ได้แปรเปลี่ยนทุกอย่าง
11:54
I used the power of words and will
to challenge the preconceptions
to challenge the preconceptions
221
702840
4216
ผมใช้พลังแห่งคำพูดและความมุ่งมั่น
ประมือกับความคิดด่วนตัดสิน
ประมือกับความคิดด่วนตัดสิน
11:59
of those around me
and those I had of myself.
and those I had of myself.
222
707080
3576
ของผู้คนรอบข้างและของตัวผมเอง
12:02
Communication is what makes us human,
223
710680
2696
การสื่อสารคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์
12:05
enabling us to connect
on the deepest level
on the deepest level
224
713400
2296
ทำให้เรามีปฏิสัมพันธ์ในระดับลึกที่สุด
12:07
with those around us --
225
715720
1936
กับผู้คนรอบข้าง
12:09
telling our own stories,
226
717680
1576
บอกเล่าเรื่องราวของตัวเราเอง
12:11
expressing wants, needs and desires,
227
719280
3616
แสดงความต้องการ ความปรารถนา
12:14
or hearing those of others
by really listening.
by really listening.
228
722920
3136
หรือรับรู้จากคนอื่นด้วยการตั้งใจฟัง
12:18
All this is how the world
knows who we are.
knows who we are.
229
726080
3336
ทั้งหมดนี้คือหนทางที่โลกจะรู้ว่าเราคือใคร
12:21
So who are we without it?
230
729440
1800
เช่นนั้น เราจะเป็นใครเล่า ถ้าขาดมันไป
12:24
True communication increases understanding
231
732480
3176
การสื่อสารที่แท้จริงจะเพิ่มความเข้าใจ
12:27
and creates a more caring
and compassionate world.
and compassionate world.
232
735680
3040
และสร้างโลกที่มีความเห็นใจ
มีความเอาใจใส่กันมากขึ้น
มีความเอาใจใส่กันมากขึ้น
12:31
Once, I was perceived
to be an inanimate object,
to be an inanimate object,
233
739800
3096
ครั้งหนึ่ง ผมเคยถูกมองเป็นสิ่งของไร้ชีวิต
12:34
a mindless phantom
of a boy in a wheelchair.
of a boy in a wheelchair.
234
742920
3296
เป็นร่างไร้จิตใจของเด็กชายบนรถเข็น
12:38
Today, I am so much more.
235
746240
2256
วันนี้ ผมเป็นมากกว่านั้น
12:40
A husband, a son, a friend,
236
748520
2416
เป็นทั้งสามี, ลูกชาย, เพื่อน,
12:42
a brother, a business owner,
a first-class honors graduate,
a first-class honors graduate,
237
750960
4256
พี่ชาย, เจ้าของกิจการ,
บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง,
บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง,
12:47
a keen amateur photographer.
238
755240
2336
ช่างภาพมือสมัครเล่นผู้กระตือรือร้น
12:49
It is my ability to communicate
that has given me all this.
that has given me all this.
239
757600
3840
เป็นเพราะความสามารถในการสื่อสาร
ที่ได้มอบทุกสิ่งทั้งหมดนี้แก่ผม
ที่ได้มอบทุกสิ่งทั้งหมดนี้แก่ผม
12:54
We are told that actions
speak louder than words.
speak louder than words.
240
762320
3696
เราถูกพร่ำสอนมาว่า
"การกระทำสำคัญกว่าคำพูด"
"การกระทำสำคัญกว่าคำพูด"
12:58
But I wonder,
241
766040
1936
แต่ผมก็สงสัยว่า
13:00
do they?
242
768000
1200
"จริงหรือ"
13:02
Our words, however we communicate them,
243
770880
2656
อย่างไรก็ดี เราต่างสื่อสารกันด้วยคำพูด
13:05
are just as powerful.
244
773560
2096
พวกมันก็ทรงพลังเช่นกัน
13:07
Whether we speak the words
with our own voices,
with our own voices,
245
775680
2736
ไม่ว่าเราจะพูดด้วยน้ำเสียงของเรา
13:10
type them with our eyes,
246
778440
1336
หรือด้วยการส่งสายตา
13:11
or communicate them non-verbally
to someone who speaks them for us,
to someone who speaks them for us,
247
779800
4256
หรือสื่อสารโดยไร้เสียง
ให้ใครบางคนกล่าวออกมาแทนเรา
ให้ใครบางคนกล่าวออกมาแทนเรา
13:16
words are among our most powerful tools.
248
784080
2880
คำพูดเป็นหนึ่งในเครื่องมืออันทรงพลังที่สุด
13:20
I have come to you through
a terrible darkness,
a terrible darkness,
249
788400
2816
ผมฟื้นขึ้นมาจากความมืดมนอันแสนโหดร้าย
13:23
pulled from it by caring souls
250
791240
2096
ถูกฉุดรั้งขึ้นมาด้วยบรรดาผู้ที่ห่วงใย
13:25
and by language itself.
251
793360
2336
และด้วยตัวภาษาเอง
13:27
The act of you listening to me today
brings me farther into the light.
brings me farther into the light.
252
795720
4016
การกระทำของคุณที่รับฟังผมในวันนี้
ได้พาผมให้ก้าวออกมาเผยตัวตนมากขึ้น
ได้พาผมให้ก้าวออกมาเผยตัวตนมากขึ้น
13:31
We are shining here together.
253
799760
2296
เราได้เปล่งประกายไปด้วยกัน ณ ที่แห่งนี้
13:34
If there is one most difficult obstacle
to my way of communicating,
to my way of communicating,
254
802080
4296
หากจะมีอุปสรรคใดที่ยากลำบากที่สุด
ในการสื่อสารของผม
ในการสื่อสารของผม
13:38
it is that sometimes I want to shout
255
806400
1936
ก็คงจะเป็น เวลาที่ผมอยากจะร้องออกมาดัง ๆ
13:40
and other times simply to whisper
a word of love or gratitude.
a word of love or gratitude.
256
808360
4296
และบางครั้งที่ผมอยากจะกระซิบ
คำว่ารักหรือคำขอบคุณอย่างแผ่วเบา
คำว่ารักหรือคำขอบคุณอย่างแผ่วเบา
13:44
It all sounds the same.
257
812680
2256
มันฟังดูเหมือนกันไปหมด
13:46
But if you will,
258
814960
1416
แต่ถ้าคุณอยากจะรู้
13:48
please imagine these next two words
as warmly as you can:
as warmly as you can:
259
816400
3760
โปรดจินตนาการถึงคำพูดสองคำถัดจากนี้
ให้อบอุ่นที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ
ให้อบอุ่นที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ
13:54
Thank you.
260
822480
1200
"ขอบคุณ"
13:56
(Applause)
261
824280
10800
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Martin Pistorius - Author, designerAt age 12, Martin Pistorius fell into a coma, and spent 13 years locked inside his body, unable to communicate -- until a caregiver noticed his eyes responded to her. His book "Ghost Boy" tells his story.
Why you should listen
Martin Pistorius is a web designer and author whose personal story borders on the unimaginable. In his book Ghost Boy, he tells the story of his return to consciousness after a horrible illness ... and his struggle to tell the world that he was still there, inside his body, hoping to communicate.
More profile about the speakerMartin Pistorius | Speaker | TED.com