TED2009
Seth Godin: The tribes we lead
เซธ โกดิน ว่าด้วยเผ่าที่เรานำ
Filmed:
Readability: 3.2
2,377,169 views
เซธ โกดิน เสนอว่าอินเทอร์เน็ตได้นำโลกแห่งการตลาดแบบแมสเข้าสู่จุดจบ และฟื้นฟูเอาหน่วยทางสังคมของมนุษย์จากยุคดึกดำบรรพ์ นั่นคือ สังคมแบบชนเผ่า ซึ่งตั้งอยู่บนความคิดและคุณค่าที่สมาชิกมีร่วมกัน "เผ่า" ทำให้คนธรรมดามีพลังที่จะเป็นผู้นำ และสร้างการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ เขาส่งเสริมให้เราทำอย่างนั้น
Seth Godin - Marketer and author
Seth Godin is an entrepreneur and blogger who thinks about the marketing of ideas in the digital age. His newest interest: the tribes we lead. Full bio
Seth Godin is an entrepreneur and blogger who thinks about the marketing of ideas in the digital age. His newest interest: the tribes we lead. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
So sometimes I get invited to give weird talks.
0
0
3000
โอเค บางทีคนก็เชิญผมไปบรรยายประหลาดๆ
00:15
I got invited to speak to the people
1
3000
3000
ผมได้รับเชิญไปพูดให้กับคนฟัง
00:18
who dress up in big stuffed animal costumes
2
6000
3000
ที่แต่งชุดสัตว์ตัวเบ้อเร่อ
00:21
to perform at sporting events.
3
9000
3000
เพื่อเอาไปแสดงในงานแข่งกีฬา
00:24
Unfortunately I couldn't go.
4
12000
2000
น่าเสียดายที่ผมไปไม่ได้
00:26
But it got me thinking about
5
14000
2000
แต่มันก็ทำให้ผมได้คิดถึง
00:28
the fact that these guys, at least most of them,
6
16000
3000
ข้อเท็จจริงที่ว่าอย่างน้อย คนเหล่านี้ ส่วนใหญ่
00:31
know what it is that they do for a living.
7
19000
2000
ก็รู้ว่าพวกเขาประกอบอาชีพอะไร
00:33
What they do is they dress up
8
21000
2000
สิ่งที่พวกเขาทำคือ แต่งตัว
00:35
as stuffed animals and entertain people at sporting events.
9
23000
4000
เป็นสัตว์ตัวเบ้อเร่อและทำให้คนสนุกระหว่างการแข่งกีฬา
00:39
Shortly after that I got invited
10
27000
2000
หลังจากนั้นไม่นานผมก็ถูกเชิญ
00:41
to speak at the convention of the people
11
29000
2000
ไปพูดในที่ประชุมของคน
00:43
who make balloon animals.
12
31000
2000
ที่ทำลูกโป่งรูปสัตว์
00:45
And again, I couldn't go. But it's a fascinating group. They make balloon animals.
13
33000
3000
แต่ผมก็ไปไม่ได้เหมือนกัน แต่กลุ่มนี้น่าสนใจ พวกเขาเป่าลูกโป่งรูปสัตว์
00:48
There is a big schism between the ones who make
14
36000
2000
มีข้อแตกต่างอย่างสุดขั้วระหว่างคนที่
00:50
gospel animals and porn animals, but --
15
38000
2000
ทำสัตว์ในพระคัมภีร์กับคนที่ทำสัตว์โป๊เปลือย
00:52
(Laughter)
16
40000
2000
(หัวเราะ)
00:54
they do a lot of really cool stuff with balloons.
17
42000
3000
แต่พวกเขาเป่าลูกโป่งได้เจ๋งมากๆ เลยนะ
00:57
Sometimes they get in trouble, but not often.
18
45000
2000
บางทีก็ทำให้ตัวเองเดือดร้อน แต่ไม่บ่อยนัก
00:59
And the other thing about these guys
19
47000
2000
ลักษณะของคนในกลุ่มนี้ก็เหมือนกัน
01:01
is, they also know what they do for a living.
20
49000
3000
คือพวกเขารู้ว่าตัวเองทำมาหากินอะไร
01:04
They make balloon animals.
21
52000
3000
พวกเขาทำลูกโป่งรูปสัตว์
01:07
But what do we do for a living?
22
55000
2000
แต่เราประกอบอาชีพอะไรกัน?
01:09
What exactly to the people watching this do every day?
23
57000
5000
คนที่กำลังดูวิดีโอนี้ทำอะไรทุกวัน?
01:14
And I want to argue that what we do
24
62000
2000
ผมอยากจะเสนอว่าสิ่งที่เราทำ
01:16
is we try to change everything.
25
64000
3000
คือเราพยายามเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง
01:19
That we try to find a piece of the status quo --
26
67000
3000
เราพยายามมองหาเสี้ยวหนึ่งของสถานภาพเดิมๆ
01:22
something that bothers us, something that needs to be improved,
27
70000
2000
อะไรสักอย่างที่ทำให้เราหงุดหงิด บางอย่างที่ต้องปรับปรุง
01:24
something that is itching to be changed -- and we change it.
28
72000
4000
อะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกคันจนทนไม่ได้ จนเราต้องลงมือเปลี่ยน
01:28
We try to make big, permanent, important change.
29
76000
5000
เราพยายามสร้างการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ ถาวร และสำคัญ
01:33
But we don't think about it that way.
30
81000
2000
แต่เราไม่ได้คิดถึงมันอย่างนั้น
01:35
And we haven't spent a lot of time talking about
31
83000
2000
และเราก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกันว่า
01:37
what that process is like.
32
85000
3000
กระบวนการนั้นเป็นยังไง
01:40
And I've been studying it for a couple years.
33
88000
2000
ผมศึกษามันมาสองสามปี
01:42
And I want to share a couple stories with you today.
34
90000
2000
และผมก็อยากแลกเปลี่ยนเรื่องราวสองสามเรื่องกับคุณ
01:44
First, about a guy named Nathan Winograd.
35
92000
2000
เรื่องแรกเป็นเรื่องของชายชื่อ นาธาน วิโนกราด
01:46
Nathan was the number two person at the San Francisco SPCA.
36
94000
4000
นาธานเป็นผู้บริหารระดับรอง หรือเบอร์สอง ที่เอสพีซีเอ ซานฟรานซิสโก
01:50
And what you may not know about the history of the SPCA
37
98000
2000
และสิ่งที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับประวัติของเอสพีซีเอ
01:52
is, it was founded to kill dogs and cats.
38
100000
4000
ก็คือมันถูกก่อตั้งมาฆ่าหมาและแมว
01:56
Cities gave them a charter
39
104000
3000
เทศบาลเมืองต่างๆ เขียนข้อบังคับ
01:59
to get rid of the stray animals on the street and destroy them.
40
107000
3000
ให้องค์กรนี้กำจัดสัตว์เร่ร่อนบนท้องถนน เอาไปฆ่าทิ้ง
02:02
In a typical year four million dogs and cats were killed,
41
110000
4000
แต่ละปีพวกเขาฆ่าหมาและแมวประมาณ 4 ล้านตัว
02:06
most of them within 24 hours of being scooped off of the street.
42
114000
4000
ส่วนใหญ่ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่เก็บมันไปจากถนน
02:10
Nathan and his boss saw this,
43
118000
2000
นาธานกับเจ้านายของเขาเห็นเรื่องนี้
02:12
and they could not tolerate it.
44
120000
2000
และพวกเขาก็ทนไม่ได้
02:14
So they set out to make San Francisco
45
122000
2000
ก็เลยตั้งใจว่าจะทำให้ซานฟรานซิสโก
02:16
a no-kill city:
46
124000
2000
เปลี่ยนเป็นเมืองที่ไม่ฆ่าสัตว์
02:18
create an entire city
47
126000
2000
สร้างเมืองทั้งเมือง
02:20
where every dog and cat,
48
128000
2000
ให้หมาและแมวทุกตัว
02:22
unless it was ill or dangerous,
49
130000
3000
ไม่ว่ามันจะป่วย หรือเป็นอันตรายต่อคน
02:25
would be adopted, not killed.
50
133000
2000
ก็ควรจะได้รับการดูแล ไม่ใช่ฆ่ามันทิ้ง
02:27
And everyone said it was impossible.
51
135000
3000
ทุกคนบอกว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้
02:30
Nathan and his boss went to the city council to get a change in the ordinance.
52
138000
3000
นาธานกับเจ้านายของเขาไปคุยกับเทศบาล ขอแก้ข้อบังคับ
02:33
And people from SPCAs and humane shelters around the country
53
141000
3000
คนจากเอสพีซีเอและสถานรับเลี้ยงดูสัตว์ทั่วประเทศ
02:36
flew to San Francisco
54
144000
2000
บินไปซานฟรานซิสโก
02:38
to testify against them --
55
146000
3000
เป็นพยานคัดค้านพวกเขา
02:41
to say it would hurt the movement and it was inhumane.
56
149000
4000
บอกว่ามันเป็นโทษต่อขบวนการ และไร้มนุษยธรรม
02:45
They persisted. And Nathan went directly to the community.
57
153000
4000
พวกเขายืนกรานต่อต้าน นาธานไปคุยกับชุมชนโดยตรง
02:49
He connected with people who cared about this:
58
157000
2000
เขาเชื่อมกับคนที่แคร์เรื่องนี้จริงๆ
02:51
nonprofessionals, people with passion.
59
159000
2000
คนที่ไม่ใช่มืออาชีพ แต่มีอารมณ์ร่วม
02:53
And within just a couple years,
60
161000
2000
และภายในเวลาไม่กี่ปี
02:55
San Francisco became the first no-kill city,
61
163000
5000
ซานฟรานซิสโกก็กลายเป็นเมืองแรกที่ไม่ฆ่าสัตว์
03:00
running no deficit, completely supported by the community.
62
168000
4000
งบประมาณก็ไม่ขาดดุล เพราะชุมชนสนับสนุนเต็มที่
03:04
Nathan left and went to Tompkins County, New York --
63
172000
3000
นาธานย้ายจากเมืองนั้นไปยังเทศมณฑลทอมคินส์ รัฐนิวยอร์ก
03:07
a place as different from San Francisco
64
175000
2000
เมืองที่แตกต่างจากซานฟรานซิสโก
03:09
as you can be and still be in the United States. And he did it again.
65
177000
3000
มากเท่าที่จะมากได้ในสหรัฐอเมริกา เขาทำสำเร็จอีกรอบ
03:12
He went from being a glorified dogcatcher
66
180000
2000
เขาเปลี่ยนจากการเป็นนักจับสุนัขมือหนึ่ง
03:14
to completely transforming the community.
67
182000
3000
เป็นคนที่แปลงโฉมชุมชนอย่างถึงแก่น
03:17
And then he went to North Carolina and did it again.
68
185000
2000
เสร็จแล้วเขาก็ไปที่รัฐนอร์ธคาโรไลนา และก็ทำได้อีก
03:19
And he went to Reno and he did it again.
69
187000
3000
ต่อมาก็ไปเมืองรีโน ประสบความสำเร็จอีก
03:22
And when I think about what Nathan did,
70
190000
2000
เวลาที่ผมคิดว่านาธานทำอะไร
03:24
and when I think about what people here do, I think about ideas.
71
192000
3000
และคิดว่าคนที่นี่ทำอะไร ผมก็คิดถึงเรื่องความคิดเรื่องไอเดีย
03:27
And I think about the idea that
72
195000
3000
ความคิดที่ว่าด้วย
03:30
creating an idea, spreading an idea
73
198000
2000
การสร้างและเผยแพร่ความคิด
03:32
has a lot behind it.
74
200000
2000
มีเบื้องหลังการถ่ายทำเยอะมาก
03:34
I don't know if you've ever been to a Jewish wedding,
75
202000
3000
ผมไม่รู้ว่าคุณเคยไปงานแต่งงานแบบยิวหรือเปล่านะครับ
03:37
but what they do is, they take a light bulb
76
205000
3000
ในงานนี้ พวกเขาจะเอาหลอดไฟฟ้า
03:40
and they smash it.
77
208000
3000
มาทุบให้แหลกละเอียด
03:43
Now there is a bunch of reasons for that, and stories about it.
78
211000
4000
ซึ่งมีเหตุผลหลายข้อ มีเรื่องราวเยอะเลยด้วย
03:47
But one reason is because it indicates a change,
79
215000
3000
แต่เหตุผลข้อหนึ่งคือ เพราะมันสะท้อนความเปลี่ยนแปลง
03:50
from before to after.
80
218000
2000
จากก่อนหน้าเป็นภายหลัง
03:52
It is a moment in time.
81
220000
2000
มันเป็นชั่วขณะหนึ่งในเวลา
03:54
And I want to argue that we are living through
82
222000
3000
และผมก็อยากจะเสนอว่าเรากำลังใช้ชีวิต
03:57
and are right at the key moment
83
225000
2000
อยู่ตรงชั่วขณะที่สำคัญของ
03:59
of a change in the way ideas are created
84
227000
2000
การเปลี่ยนแปลงในวิธีที่ไอเดียถูกสร้าง
04:01
and spread and implemented.
85
229000
2000
แพร่หลาย และใช้จริง
04:03
We started with the factory idea:
86
231000
3000
เราเริ่มจากความคิดเรื่องโรงงาน
04:06
that you could change the whole world if you had an efficient factory
87
234000
2000
ความคิดว่าเราเปลี่ยนโลกได้ ถ้าคุณมีโรงงานที่มีประสิทธิภาพ
04:08
that could churn out change.
88
236000
2000
ที่ผลิตการเปลี่ยนแปลงได้
04:10
We then went to the TV idea,
89
238000
2000
เสร็จแล้วเราก็ย้ายไปคิดเรื่องทีวี
04:12
that said if you had a big enough mouthpiece,
90
240000
2000
ความคิดที่ว่า ถ้าคุณมีกระบอกเสียงอันใหญ่พอ
04:14
if you could get on TV enough times, if you could buy enough ads, you could win.
91
242000
3000
ถ้าคุณปรากฏตัวบนทีวีมากพอ ซื้อโฆษณามากพอ คุณก็เป็นผู้ชนะได้
04:17
And now we're in this new model of leadership,
92
245000
4000
ตอนนี้เราอยู่ในโมเดลการเป็นผู้นำแบบใหม่
04:21
where the way we make change
93
249000
3000
แบบที่วิธีที่เราสร้างการเปลี่ยนแปลง
04:24
is not by using money
94
252000
3000
ไม่ใช่วิธีที่ใช้เงิน
04:27
or power to lever a system,
95
255000
2000
หรือใช้อำนาจเป็นคานงัดระบบ
04:29
but by leading.
96
257000
2000
แต่ด้วยการนำ
04:31
So let me tell you about the three cycles. The first one is the factory cycle.
97
259000
3000
ผมอยากเล่าเรื่องวัฎจักรสามวงให้ฟัง วงแรกคือวัฎจักรโรงงาน
04:34
Henry Ford comes up with a really cool idea.
98
262000
4000
เฮนรี ฟอร์ด มีความคิดที่เจ๋งมากๆ
04:38
It enables him to hire men
99
266000
2000
ทำให้เขาสามารถจ้างคนงาน
04:40
who used to get paid 50 cents a day
100
268000
2000
ที่เคยถูกจ้างด้วยค่าแรง 50 เซ็นต์ต่อวัน
04:42
and pay them five dollars a day.
101
270000
2000
แต่ฟอร์ดจ่ายค่าจ้าง 5 เหรียญต่อวัน
04:44
Because he's got an efficient enough factory.
102
272000
2000
เพราะโรงงานของเขามีประสิทธิภาพสูงพอ
04:46
Well with that sort of advantage
103
274000
2000
ด้วยความได้เปรียบแบบนั้น
04:48
you can churn out a lot of cars.
104
276000
2000
คุณก็ผลิตรถยนต์ได้เยอะมาก
04:50
You can make a lot of change. You can get roads built.
105
278000
3000
สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ทำให้รัฐสร้างถนนหนทาง
04:53
You can change the fabric of an entire country.
106
281000
3000
คุณเปลี่ยนโฉมหน้าของประเทศทั้งประเทศได้
04:56
That the essence of what you're doing is you need
107
284000
2000
แก่นสารของสิ่งที่คุณทำคือ คุณต้องใช้
04:58
ever-cheaper labor,
108
286000
2000
แรงงานที่ถูกลงเรื่อยๆ
05:00
and ever-faster machines.
109
288000
3000
และเครื่องจักรที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ
05:03
And the problem we've run into is, we're running out of both.
110
291000
3000
ปัญหาที่เราเจอคือ เรากำลังจะไม่มีแล้ว
05:06
Ever-cheaper labor and ever-faster machines.
111
294000
3000
ทั้งแรงงานที่ถูกลงเรื่อยๆ และเครื่องจักรที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ
05:09
(Laughter)
112
297000
5000
(เสียงหัวเราะ)
05:14
So we shift gears for a minute,
113
302000
3000
เราก็เลยเปลี่ยนเกียร์สักครู่
05:17
and say, "I know: television;
114
305000
3000
บอกว่า "รู้แล้ว ทีวีไง
05:20
advertising. Push push.
115
308000
2000
โฆษณา มาผลักดันกัน
05:22
Take a good idea and push it on the world.
116
310000
3000
ผลักดันความคิดดีๆ สู่โลก
05:25
I have a better mousetrap.
117
313000
2000
ผมมีกับดักหนูที่ดีกว่าเดิมนะ
05:27
And if I can just get enough money to tell enough people, I'll sell enough."
118
315000
4000
ถ้าผมมีเงินพอที่จะบอกคนจำนวนมากพอ ผมก็จะขายมันได้พอ"
05:31
And you can build an entire industry on that.
119
319000
3000
คุณสร้างอุตสาหกรรมทั้งอุตสาหกรรมแบบนี้ได้
05:34
If necessary you can put babies in your ads.
120
322000
3000
ถ้าจำเป็น คุณก็ใส่เด็กทารกลงไปในโฆษณาของคุณได้
05:37
If necessary you can use babies to sell other stuff.
121
325000
3000
ถ้าจำเป็น คุณก็ใช้เด็กทารกขายของอย่างอื่นได้
05:40
And if babies don't work, you can use doctors.
122
328000
4000
และถ้าเด็กทารกไม่เวิร์ค จะใช้หมอบ้างก็ได้
05:44
But be careful.
123
332000
2000
แต่ต้องระวังนะครับ
05:46
Because you don't want to get an unfortunate juxtaposition,
124
334000
2000
เพราะคุณไม่อยากให้คนดูจับคู่ผิดพลาด
05:48
where you're talking about one thing instead of the other.
125
336000
3000
ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอื่น ไม่ใช่เรื่องที่พยายามขาย
05:51
(Laughter)
126
339000
2000
(เสียงหัวเราะ)
05:53
This model requires you to act like the king,
127
341000
4000
โมเดลนี้เรียกร้องให้คุณทำตัวเหมือนพระราชา
05:57
like the person in the front of the room
128
345000
2000
เหมือนคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง
05:59
throwing things to the peons in the back.
129
347000
2000
โยนของไปให้ไพร่ที่อยู่หลังห้อง
06:01
That you are in charge, and you're going to tell people
130
349000
3000
คุณเป็นผู้นำ และคุณก็กำลังจะบอกคนอื่น
06:04
what to do next.
131
352000
2000
ว่าควรทำอะไรต่อ
06:06
The quick little diagram of it is, you're up here,
132
354000
3000
แผนภาพเร็วๆ ของโมเดลนี้คือคุณอยู่บนนี้
06:09
and you are pushing it out to the world.
133
357000
2000
แล้วคุณก็กำลังผลักมันออกสู่โลก
06:11
This method -- mass marketing --
134
359000
3000
วิธีนี้ ที่เรียกว่า การตลาดแบบแมส
06:14
requires average ideas,
135
362000
2000
ต้องใช้ความคิดพื้นๆ
06:16
because you're going to the masses,
136
364000
2000
เพราะคุณกำลังขายของกับมวลชน
06:18
and plenty of ads.
137
366000
3000
และโฆษณามหาศาล
06:21
What we've done as spammers
138
369000
2000
สิ่งที่เราทำในฐานะนักส่งข่าวขยะ
06:23
is tried to hypnotize everyone
139
371000
2000
คือพยายามสะกดจิตคนทุกคน
06:25
into buying our idea,
140
373000
2000
ให้ซื้อความคิดของเรา
06:27
hypnotize everyone into donating to our cause,
141
375000
2000
สะกดจิตทุกคนให้บริจาคให้กับโครงการของเรา
06:29
hypnotize everyone into voting for our candidate.
142
377000
3000
สะกดจิตทุกคนให้โหวตให้กับผู้สมัครของเรา
06:32
And, unfortunately, it doesn't work so well anymore either.
143
380000
5000
โชคร้ายที่วิธีนี้ก็ใช้ไม่ได้ดีอีกแล้วเหมือนกัน
06:37
(Laughter)
144
385000
3000
(เสียงหัวเราะ)
06:40
But there is good news around the corner -- really good news.
145
388000
5000
แต่ข่าวดีรอเราอยู่ไม่ไกลครับ ข่าวดีจริงๆ
06:45
I call it the idea of tribes.
146
393000
5000
ผมเรียกมันว่า ความคิดเรื่อง "เผ่า"
06:50
What tribes are, is a very simple concept
147
398000
3000
เผ่าเป็นความคิดที่เรียบง่ายมาก
06:53
that goes back 50,000 years.
148
401000
3000
และถอยกลับไปได้ 50,000 ปี
06:56
It's about leading and connecting people and ideas.
149
404000
4000
มันเป็นเรื่องของการนำและเชื่อมโยงผู้คนกับความคิด
07:00
And it's something that people have wanted forever.
150
408000
3000
และเป็นสิ่งที่คนเราก็อยากได้ตลอดมา
07:03
Lots of people are used to having a spiritual tribe, or a church tribe,
151
411000
4000
คนจำนวนมากเคยมีเผ่าทางจิตวิญญาณ อย่างเช่นโบสถ์
07:07
having a work tribe,
152
415000
2000
เผ่าที่ทำงาน
07:09
having a community tribe.
153
417000
3000
เผ่าชุมชน
07:12
But now, thanks to the internet, thanks to the explosion of mass media,
154
420000
3000
แต่ตอนนี้ ขอบคุณอินเทอร์เน็ตและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของสื่อมวลชน
07:15
thanks to a lot of other things
155
423000
2000
และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย
07:17
that are bubbling through our society around the world,
156
425000
3000
ที่กำลังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในสังคมเราทั่วโลก
07:20
tribes are everywhere.
157
428000
2000
เผ่ามีอยู่ทุกหนแห่ง
07:22
The Internet was supposed to homogenize everyone by connecting us all.
158
430000
2000
คนนึกว่าอินเทอร์เน็ตจะทำให้เราเหมือนกันหมดหลังจากเชื่อมเราเข้าหากัน
07:24
Instead what it's allowed is silos of interest.
159
432000
3000
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีกลุ่มความสนใจที่แตกต่างกันจำนวนมาก
07:27
So you've got the red-hat ladies over here.
160
435000
2000
คุณก็เลยมีกลุ่มสุภาพสตรีหมวกแดงตรงนี้
07:29
You've got the red-hat triathletes over there.
161
437000
3000
กลุ่มนักเล่นไตรกีฬาหมวกแดงตรงโน้น
07:32
You've got the organized armies over here.
162
440000
2000
มีกลุ่มกองกำลังติดอาวุธตรงนี้
07:34
You've got the disorganized rebels over here.
163
442000
2000
กลุ่มนักเลงไร้ระเบียบตรงโน้น
07:36
You've got people in white hats making food.
164
444000
2000
กลุ่มคนชอบทำกับข้าวหมวกขาว
07:38
And people in white hats sailing boats.
165
446000
2000
กลุ่มหมวกขาวอีกกลุ่มแล่นเรือใบ
07:40
The point is that you can find Ukrainian folk dancers
166
448000
3000
ประเด็นคือคุณสามารถหานักเต้นระบำท้องถิ่นชาวยูเครน
07:43
and connect with them,
167
451000
2000
และสานสัมพันธ์กับพวกเขาได้
07:45
because you want to be connected.
168
453000
2000
เพราะคุณอยากสานสัมพันธ์
07:47
That people on the fringes
169
455000
2000
คนที่อยู่ตรงชายขอบ
07:49
can find each other, connect and go somewhere.
170
457000
4000
สามารถหากันจนเจอ เชื่อมกันและไปไหนก็ได้
07:53
Every town that has a volunteer fire department
171
461000
2000
ทุกเมืองที่มีหน่วยอาสาสมัครดับเพลิง
07:55
understands this way of thinking.
172
463000
2000
เข้าใจวิธีคิดแบบนี้ดี
07:57
(Laughter)
173
465000
6000
(เสียงหัวเราะ)
08:03
Now it turns out
174
471000
3000
ตอนนี้ดูเหมือนว่า
08:06
this is a legitimate non-photoshopped photo.
175
474000
3000
นี่จะเป็นภาพถ่ายที่ชอบธรรมและไม่ถูกตัดต่อครับ
08:09
People I know who are firemen told me that this is not uncommon.
176
477000
2000
คนที่ผมรู้จักที่เป็นนักผจญเพลิง บอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ
08:11
And that what firemen do to train sometimes
177
479000
3000
บางครั้ง เวลาที่นักผจญเพลิงฝึกซ้อม
08:14
is they take a house that is going to be torn down,
178
482000
2000
พวกเขาจะไปที่บ้านที่กำลังจะถูกรื้อถอน
08:16
and they burn it down instead, and practice putting it out.
179
484000
3000
ไปเผามัน ฝึกดับเพลิง
08:19
But they always stop and take a picture.
180
487000
2000
แต่พวกเขาจะหยุดถ่ายรูปเสมอ
08:21
(Laughter)
181
489000
1000
(เสียงหัวเราะ)
08:22
You know the pirate tribe is a fascinating one.
182
490000
3000
คุณรู้ดีว่าเผ่าโจรสลัดนั้นน่าสนใจมาก
08:25
They've got their own flag. They've got the eye patches.
183
493000
2000
พวกเขามีธงของตัวเอง มีผ้าคาดตาของตัวเอง
08:27
You can tell when you're running into someone in a tribe.
184
495000
3000
คุณรู้เสมอว่ากำลังเจอสมาชิกเผ่าเข้าแล้ว
08:30
And it turns out that it's tribes --
185
498000
2000
ข้อเท็จจริงคือ เผ่านี่แหละ
08:32
not money, not factories --
186
500000
2000
ไม่ใช่เงิน ไม่ใช่โรงงาน
08:34
that can change our world, that can change politics,
187
502000
3000
เผ่าคือสิ่งที่เปลี่ยนโลกได้ เปลี่ยนการเมืองได้
08:37
that can align large numbers of people.
188
505000
2000
ทำให้คนจำนวนมหาศาลเห็นพ้องต้องกันได้
08:39
Not because you force them to do something against their will,
189
507000
4000
ไม่ใช่ด้วยการบังคับให้คนทำอะไรอย่างฝืนใจ
08:43
but because they wanted to connect.
190
511000
2000
แต่เพราะพวกเขาอยากสานสัมพันธ์
08:45
That what we do for a living now,
191
513000
2000
นี่คือสิ่งที่ตอนนี้เราทำเพื่อเลี้ยงชีพ
08:47
all of us, I think,
192
515000
2000
ผมคิดว่าเราทุกคนเลยนะครับ
08:49
is find something worth changing,
193
517000
2000
คือการหาอะไรสักอย่างที่คุ้มที่จะเปลี่ยน
08:51
and then assemble tribes that assemble tribes
194
519000
5000
เสร็จแล้วก็รวบรวมคนเป็นเผ่า เผ่าที่รวบรวมเผ่าอื่นๆ
08:56
that spread the idea and spread the idea.
195
524000
2000
ที่จะเผยแพร่ความคิดนี้ออกไป
08:58
And it becomes something far bigger than ourselves,
196
526000
2000
จนมันกลายเป็นสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวเรา
09:00
it becomes a movement.
197
528000
3000
จนกลายเป็นขบวนการเคลื่อนไหว
09:03
So when Al Gore set out
198
531000
2000
ดังนั้นเมื่อ อัล กอร์ เริ่มต้น
09:05
to change the world again,
199
533000
3000
เพื่อเปลี่ยนโลกครั้งใหม่
09:08
he didn't do it by himself.
200
536000
2000
เขาไม่ได้ทำงานคนเดียว
09:10
And he didn't do it by buying a lot of ads.
201
538000
2000
และไม่ได้ทำด้วยการซื้อโฆษณาเยอะๆ
09:12
He did it by creating a movement.
202
540000
3000
แต่ทำด้วยการสร้างขบวนการ
09:15
Thousands of people around the country
203
543000
2000
คนหลายพันคนทั่วประเทศ
09:17
who could give his presentation for him,
204
545000
3000
สามารถนำเสนอสไลด์ของกอร์ได้
09:20
because he can't be in 100 or 200 or 500 cities in each night.
205
548000
5000
เพราะแต่ละคืนเขาปรากฏตัวใน 100 หรือ 200 หรือ 500 เมืองไม่ได้
09:25
You don't need everyone.
206
553000
3000
คุณไม่ได้ต้องการคนทุกคน
09:28
What Kevin Kelley has taught us is you just need,
207
556000
2000
เควิน เคลลี สอนเราว่า คุณแค่ต้องการ
09:30
I don't know, a thousand true fans --
208
558000
2000
แฟนพันธุ์แท้ประมาณพันคนเท่านั้น
09:32
a thousand people who care enough
209
560000
3000
คนหนึ่งพันคนที่แคร์มากพอ
09:35
that they will get you the next round
210
563000
3000
ที่จะช่วยให้คุณไปยกต่อไป
09:38
and the next round and the next round.
211
566000
2000
และยกต่อไป และต่อไป
09:40
And that means that the idea you create, the product you create,
212
568000
3000
ซึ่งก็หมายความว่าความคิดหรือผลิตภัณฑ์ที่คุณสร้าง
09:43
the movement you create isn't for everyone,
213
571000
2000
ขบวนการที่คุณสร้าง ไม่ใช่สำหรับคนทุกคน
09:45
it's not a mass thing. That's not what this is about.
214
573000
2000
ไม่ใช่เรื่องของมวลชน นี่ไม่ใช่เรื่องแบบนั้น
09:47
What it's about instead
215
575000
3000
แต่เป็นเรื่องของการแสวงหา
09:50
is finding the true believers.
216
578000
2000
แฟนพันธุ์แท้ที่ศรัทธาจริงๆ
09:52
It's easy to look at what I've said so far,
217
580000
3000
ง่ายมากที่จะมองดูสิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้
09:55
and say, "Wait a minute, I don't have what it takes to be that kind of leader."
218
583000
3000
และบอกว่า "เดี๋ยวก่อน ฉันเป็นผู้นำแบบนั้นไม่ได้หรอก"
09:58
So here are two leaders. They don't have a lot in common.
219
586000
5000
ลองดูผู้นำสองคนนี้นะครับ พวกเขาไม่ค่อยมีอะไรเหมือนกัน
10:03
They're about the same age. But that's about it.
220
591000
4000
พวกเขามีอายุใกล้เคียงกัน คล้ายกันแค่นี้เอง
10:07
What they did, though, is each in their own way,
221
595000
3000
แต่สิ่งที่พวกเขาทำ ต่างคนต่างทำในแบบของตัวเอง
10:10
created a different way
222
598000
4000
คือการสร้างวิธีใหม่
10:14
of navigating your way through technology.
223
602000
2000
ในการแหวกว่ายเทคโนโลยี
10:16
So some people will go out and get people to be on one team.
224
604000
3000
บางคนจะออกไปเชิญชวนให้คนมาร่วมทีม
10:19
And some people will get people to be on the other team.
225
607000
3000
และบางคนจะเชิญชวนคนให้อยู่อีกทีมหนึ่ง
10:22
It also informs the decisions you make
226
610000
2000
"เผ่า" ยังให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
10:24
when you make products or services.
227
612000
2000
เวลาที่คุณผลิตสินค้าหรือบริการ
10:26
You know, this is one of my favorite devices.
228
614000
3000
โอเค นี่คือเครื่องมือตัวหนึ่งที่ผมชอบที่สุด
10:29
But what a shame that it's not organized
229
617000
2000
แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้ถูกจัดระเบียบ
10:31
to help authors create movements.
230
619000
3000
มาช่วยนักเขียนสร้างขบวนการ
10:34
What would happen if, when you're using your Kindle,
231
622000
2000
อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อคุณใช้คินเดิล
10:36
you could see the comments and quotes and notes
232
624000
4000
และได้เห็นข้อคิดเห็น คำพูดอ้างอิง และข้อสังเกต
10:40
from all the other people reading the same book as you in that moment.
233
628000
3000
จากคนอื่นทุกคนที่กำลังอ่านหนังสือเล่มเดียวกันกับคุณ
10:43
Or from your book group. Or from your friends, or from the circle you want.
234
631000
3000
หรือจากกลุ่มหนอนหนังสือของคุณ หรือเพื่อน หรือแวดวงอื่น
10:46
What would happen if authors, or people with ideas
235
634000
3000
อะไรจะเกิดขึ้นถ้านักเขียน หรือคนที่มีความคิด
10:49
could use version two, which comes out on Monday,
236
637000
3000
จะสามารถใช้เวอร์ชั่นที่สอง ซึ่งกำลังจะออกวันจันทร์นี้
10:52
and use it to organize people
237
640000
3000
ใช้มันรวบรวมผู้คน
10:55
who want to talk about something.
238
643000
2000
ที่อยากพูดคุยกันเรื่องอะไรสักอย่าง
10:57
Now there is a million things I could share with you about the mechanics here.
239
645000
3000
โอเค มีเรื่องเป็นล้านเรื่องที่ผมแลกเปลี่ยนได้เกี่ยวกับกลไกการทำงาน
11:00
But let me just try a couple.
240
648000
2000
แต่ผมจะลองเล่าสองเรื่องนะครับ
11:02
The Beatles did not invent teenagers.
241
650000
3000
เรื่องแรก วง เดอะ บีทเทิลส์ ไม่ได้ประดิษฐ์วัยรุ่น
11:05
They merely decided to lead them.
242
653000
3000
พวกเขาเพียงแต่ตัดสินใจ "นำ" วัยรุ่น
11:08
That most movements, most leadership that we're doing
243
656000
3000
ขบวนการส่วนใหญ่ ภาวะผู้นำส่วนใหญ่ที่เรากำลังทำ
11:11
is about finding a group that's disconnected
244
659000
2000
เป็นเรื่องของการหากลุ่มที่สมาชิกยังไม่เชื่อมโยงกัน
11:13
but already has a yearning --
245
661000
2000
แต่อยากเจอกันแล้ว
11:15
not persuading people to want something
246
663000
2000
ไม่ใช่การหว่านล้อมผู้คนให้อยากได้อะไรก็ตาม
11:17
they don't have yet.
247
665000
2000
ที่พวกเขายังไม่มี
11:19
When Diane Hatz worked on "The Meatrix,"
248
667000
4000
ตอนที่ ไดแอน แฮทซ์ สร้าง เดอะ มีทริกซ์
11:23
her video that spread all across the internet
249
671000
3000
คลิปวีดีโอที่กระจายไปทั่วเน็ต
11:26
about the way farm animals are treated,
250
674000
3000
เกี่ยวกับวิธีที่กระทำต่อสัตว์ในฟาร์ม
11:29
she didn't invent the idea of being a vegan.
251
677000
2000
เธอก็ไม่ได้ประดิษฐ์ความคิดว่าจะเป็นมังสวิรัติ
11:31
She didn't invent the idea of caring about this issue.
252
679000
2000
ไม่ได้ประดิษฐ์ความคิดว่าคุณต้องแคร์เรื่องนี้
11:33
But she helped organize people,
253
681000
2000
แต่เธอช่วยรวบรวมผู้คน
11:35
and helped turn it into a movement.
254
683000
2000
และช่วยแปลงมันให้เป็นขบวนการ
11:37
Hugo Chavez did not invent the disaffected
255
685000
3000
อูโก ชาเวซ ไม่ได้ประดิษฐ์กลุ่มผู้ด้อยโอกาส
11:40
middle and lower class of Venezuela. He merely led them.
256
688000
2000
ชนชั้นกลางและล่างแห่งเวเนซุเอลา เขาเพียงแต่ "นำ" คนกลุ่มนี้
11:42
Bob Marley did not invent Rastafarians.
257
690000
3000
บ็อบ มาร์เลย์ ไม่ได้คิดค้นชาวราสตาฟาเรียน
11:45
He just stepped up and said, "Follow me."
258
693000
3000
เขาแค่ขึ้นยืนบนแท่นและพูดว่า "ตามผมมา"
11:48
Derek Sivers invented CD Baby,
259
696000
3000
เดเร็ค ซิเวอร์ส ประดิษฐ์เว็บ ซีดีเบบี้
11:51
which allowed independent musicians
260
699000
3000
ซึ่งเปิดโอกาสให้นักดนตรีอิสระ
11:54
to have a place to sell their music without selling out to the man --
261
702000
4000
ได้มีพื้นที่ขายดนตรีของพวกเขา โดยไม่ต้องขายวิญญาณ
11:58
to have place to take the mission
262
706000
2000
มีพื้นที่ที่จะเอาพันธกิจ
12:00
they already wanted to go to, and connect with each other.
263
708000
3000
ที่พวกเขาอยากไปถึงอยู่แล้ว สานสัมพันธ์ระหว่างกัน
12:03
What all these people have in common is that they are heretics.
264
711000
4000
สิ่งหนึ่งที่คนเหล่านี้มีร่วมกัน คือพวกเขาเป็นคนนอกคอก
12:07
That heretics look at the status quo and say,
265
715000
2000
คนนอกคอกมองสภาพที่เป็นอยู่ และบอกว่า
12:09
"This will not stand. I can't abide this status quo.
266
717000
3000
ฉันรับเรื่องนี้ไม่ได้ ฉันทนสภาพที่เป็นอยู่ไม่ได้
12:12
I am willing to stand up and be counted and move things forward.
267
720000
4000
ฉันจะลุกขึ้นยืน มีความหมายและขับเคลื่อนไปข้างหน้า
12:16
I see what the status quo is; I don't like it."
268
724000
3000
ฉันมองเห็นว่าสภาพที่เป็นอยู่คืออะไร และฉันไม่ชอบมัน
12:19
That instead of looking at all the little rules
269
727000
2000
แทนที่จะมองดูกฎเล็กกฎน้อยจิปาถะ
12:21
and following each one of them,
270
729000
3000
และพยายามทำตามมันทุกข้อ
12:24
that instead of being what I call a sheepwalker --
271
732000
5000
แทนที่จะเป็นสิ่งที่ผมเรียกว่า นักเลี้ยงแกะ
12:29
somebody who's half asleep,
272
737000
2000
คนครึ่งหลับครึ่งตื่น
12:31
following instructions,
273
739000
2000
ที่ทำตามคำสั่ง
12:33
keeping their head down, fitting in --
274
741000
3000
ก้มหัวตามตลอดเวลา กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม
12:36
every once in a while someone stands up and says, "Not me."
275
744000
3000
นานๆ ทีก็จะมีคนยืนขึ้นและพูดว่า "ไม่ใช่ฉันแน่"
12:39
Someone stands up and says, "This one is important.
276
747000
4000
บางคนยืนขึ้นพูดว่า "เรื่องนี้สำคัญ
12:43
We need to organize around it."
277
751000
3000
เราต้องรวมกลุ่มจัดระเบียบกันคิด"
12:46
And not everyone will. But you don't need everyone.
278
754000
3000
ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำแบบนั้น แต่คุณไม่ต้องการทุกคน
12:49
You just need a few people --
279
757000
2000
คุณแค่ต้องการคนไม่กี่คน
12:51
(Laughter) --
280
759000
4000
(เสียงหัวเราะ)
12:55
who will look at the rules,
281
763000
2000
ที่จะมองดูกฎเกณฑ์
12:57
realize they make no sense,
282
765000
3000
และก็นึกได้ว่าจริงๆ มันไร้สาระ
13:00
and realize how much they want to be connected.
283
768000
2000
และตระหนักว่าพวกเขาอยากสานสัมพันธ์กันแค่ไหน
13:02
So Tony Hsieh does not run a shoe store.
284
770000
3000
ดังนั้น โทนี เช จึงไม่ได้เป็นเจ้าของร้านรองเท้า
13:05
Zappos isn't a shoe store.
285
773000
3000
แซปโปส์ ไม่ใช่ร้านรองเท้า
13:08
Zappos is the one, the only,
286
776000
2000
แซปโปส์เป็นพื้นที่แห่งเดียว
13:10
the best-there-ever-was
287
778000
2000
แห่งเดียวที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมี
13:12
place for people who are into shoes to find each other,
288
780000
4000
พื้นที่ที่คนที่ชอบรองเท้าจะมาพบปะกัน
13:16
to talk about their passion,
289
784000
2000
พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่รัก
13:18
to connect with people who care more
290
786000
2000
สานสัมพันธ์กับคนอื่นที่สนใจ
13:20
about customer service than making a nickel tomorrow.
291
788000
3000
เรื่องการให้บริการลูกค้ามากกว่าการทำเงินห้าเซ็นต์พรุ่งนี้
13:23
It can be something as prosaic as shoes,
292
791000
2000
มันอาจเป็นเรื่องธรรมดาๆ อย่างรองเท้า
13:25
and something as complicated as overthrowing a government.
293
793000
2000
หรือเรื่องซับซ้อนอย่างเช่นการโค่นล้มรัฐบาล
13:27
It's exactly the same behavior though.
294
795000
4000
แต่มันก็เป็นพฤติกรรมเดียวกันเป๊ะ
13:31
What it requires, as Geraldine Carter has discovered,
295
799000
3000
สิ่งที่จำเป็น อย่างที่ เจรัลดีน คาร์เตอร์ ได้ค้นพบ
13:34
is to be able to say, "I can't do this by myself.
296
802000
3000
คือความสามารถในการพูดว่า "ฉันทำเรื่องนี้คนเดียวไม่ได้
13:37
But if I can get other people to join my Climb and Ride,
297
805000
4000
แต่ถ้าฉันหว่านล้อมให้คนอื่นมาร่วมวงด้วย
13:41
then together we can get something that we all want.
298
809000
5000
เราทุกคนก็จะร่วมกันสร้างสิ่งที่เราอยากเห็นได้"
13:46
We're just waiting for someone to lead us."
299
814000
2000
เราแค่กำลังรอให้มีใครสักคนมานำเรา
13:48
Michelle Kaufman has pioneered
300
816000
2000
มิเชล คอฟแมน ได้บุกเบิก
13:50
new ways of thinking about environmental architecture.
301
818000
4000
วิธีคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมสิ่งแวดล้อม
13:54
She doesn't do it by quietly building one house at a time.
302
822000
3000
เธอไม่ได้ทำเรื่องนี้ด้วยการสร้างบ้านทีละหลังอย่างเงียบเชียบ
13:57
She does it by telling a story
303
825000
3000
แต่ด้วยการเล่าเรื่อง
14:00
to people who want to hear it.
304
828000
2000
ให้กับคนที่อยากฟัง
14:02
By connecting a tribe of people
305
830000
2000
ด้วยการสานสัมพันธ์เผ่าของผู้คน
14:04
who are desperate to be connected to each other.
306
832000
3000
ที่กระหายอยากจะสานสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
14:07
By leading a movement and
307
835000
2000
ด้วยการ "นำ" ขบวนการ
14:09
making change.
308
837000
2000
ด้วยการสร้างการเปลี่ยนแปลง
14:11
And around and around and around it goes.
309
839000
2000
และทำอย่างนี้ไปเป็นทอดๆ
14:13
So three questions I'd offer you.
310
841000
2000
ดังนั้น ผมอยากจะถามคำถามสามข้อครับ
14:15
The first one is, who exactly
311
843000
3000
ข้อแรก มีใครบ้างครับ
14:18
are you upsetting?
312
846000
2000
ที่คุณกำลังทำให้หงุดหงิด?
14:20
Because if you're not upsetting anyone, you're not changing the status quo.
313
848000
4000
เพราะถ้าคุณไม่ทำให้ใครหงุดหงิด คุณก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่
14:24
The second question is, who are you connecting?
314
852000
3000
ข้อสอง คุณกำลังสานสัมพันธ์กับใครบ้าง?
14:27
Because for a lot of people, that's what they're in it for:
315
855000
3000
เพราะสำหรับคนจำนวนมาก นั่นคือสิ่งที่พวกเขาอยากทำ
14:30
the connections that are being made, one to the other.
316
858000
4000
สายสัมพันธ์ที่กำลังก่อตัวระหว่างคน
14:34
And the third one is, who are you leading?
317
862000
4000
คำถามข้อสุดท้ายคือ คุณกำลังนำใครบ้าง?
14:38
Because focusing on that part of it --
318
866000
3000
เพราะการให้ความสำคัญกับส่วนนี้
14:41
not the mechanics of what you're building,
319
869000
2000
ไม่ใช่กลไกของสิ่งที่คุณกำลังสร้าง
14:43
but the who, and the leading part -- is where change comes.
320
871000
4000
แต่การให้ความสำคัญกับคน และการนำ คือสิ่งที่สร้างการเปลี่ยนแปลง
14:47
So Blake, at Tom's Shoes, had a very simple idea.
321
875000
4000
เบลค ที่ร้าน "รองเท้าของทอม" มีความคิดง่ายๆ
14:51
"What would happen if every time someone bought a pair of these shoes
322
879000
5000
"อะไรจะเกิดขึ้นถ้าหากทุกครั้งที่มีคนซื้อรองเท้า
14:56
I gave exactly the same pair to someone
323
884000
2000
ผมให้รองเท้าแบบเดียวกันกับคนอื่น
14:58
who doesn't even own a pair of shoes?"
324
886000
3000
ที่ไม่มีรองเท้าใส่เลย?"
15:01
This is not the story of how you get shelf space at Neiman Marcus.
325
889000
4000
นี่ไม่ใช่เรื่องของการขอพื้นที่หิ้งในห้างนีแมน มาร์คัส
15:05
It's a story of a product that tells a story.
326
893000
4000
แต่เป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราว
15:09
And as you walk around with this remarkable pair of shoes
327
897000
2000
ขณะที่คุณเดินไปมาด้วยรองเท่าที่น่าทึ่งคู่นี้
15:11
and someone says, "What are those?"
328
899000
2000
และมีคนถามว่า "นั่นรองเท้าอะไร?"
15:13
You get to tell the story on Blake's behalf,
329
901000
2000
คุณก็มีโอกาสเล่าเรื่องแทนเบลค
15:15
on behalf of the people who got the shoes.
330
903000
2000
แทนคนที่ได้รับรองเท้าคู่เดียวกัน
15:17
And suddenly it's not one pair of shoes or 100 pairs of shoes.
331
905000
3000
และทันใดนั้นมันก็ไม่ใช่แค่รองเท้าคู่เดียวหรือ 100 คู่
15:20
It's tens of thousands of pairs of shoes.
332
908000
2000
แต่เป็นรองเท้านับพันนับหมื่นคู่
15:22
My friend Red Maxwell has spent the last 10 years
333
910000
3000
เรด แม็กซ์เวล เพื่อนของผม ใช้เวลา 10 ปีที่ผ่านมา
15:25
fighting against juvenile diabetes.
334
913000
3000
ต่อสู้กับโรคเบาหวานในเด็ก
15:28
Not fighting the organization that's fighting it -- fighting with them, leading them,
335
916000
3000
ไม่ได้ต่อสู้กับองค์กรที่สู้เรื่องนี้ แต่สู้กับพวกเขา นำพวกเขา
15:31
connecting them, challenging the status quo
336
919000
4000
เชื่อมโยงพวกเขา ท้าทายสภาพที่เป็นอยู่
15:35
because it's important to him.
337
923000
2000
เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขา
15:37
And the people he surrounds himself with need the connection.
338
925000
5000
และสำหรับคนที่แวดล้อมเรด คนที่ต้องการสายสัมพันธ์
15:42
They need the leadership. It makes a difference.
339
930000
3000
พวกเขาต้องการผู้นำ มันสร้างการเปลี่ยนแปลง
15:45
You don't need permission from people to lead them.
340
933000
3000
การนำผู้คนนั้นไม่ต้องอาศัยความยินยอมของพวกเขา
15:48
But in case you do, here it is:
341
936000
3000
แต่ถ้าคุณอยากได้คำยินยอม นี่คือคำยินยอมครับ
15:51
they're waiting, we're waiting
342
939000
3000
พวกเขากำลังเฝ้ารอ พวกเรากำลังเฝ้ารอ
15:54
for you to show us where to go next.
343
942000
3000
ให้คุณชี้ทางให้กับเราว่าจะไปทางไหนต่อ
15:57
So here is what leaders have in common. The first thing is, they challenge
344
945000
3000
ลักษณะที่ผู้นำมีร่วมกันคือ ข้อแรก พวกเขาท้าทาย
16:00
the status quo.
345
948000
2000
สภาพที่เป็นอยู่
16:02
They challenge what's currently there.
346
950000
2000
พวกเขาท้าทายสิ่งเดิมๆ
16:04
The second thing is, they build a culture.
347
952000
3000
ข้อสอง พวกเขาสร้างวัฒนธรรม
16:07
A secret language, a seven-second handshake,
348
955000
3000
ภาษาลับ หรือรหัสการจับมือเจ็ดวินาที
16:10
a way of knowing that you're in or out.
349
958000
3000
วิธีบอกให้รู้ว่าคุณอยู่ในเผ่าหรือนอกเผ่า
16:13
They have curiosity. Curiosity about people in the tribe,
350
961000
3000
พวกเขามีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับคนในเผ่า
16:16
curiosity about outsiders. They're asking questions.
351
964000
3000
อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับคนนอกเผ่า พวกเขาตั้งคำถาม
16:19
They connect people to one another.
352
967000
2000
สานสัมพันธ์ระหว่างผู้คน
16:21
Do you know what people want more than anything?
353
969000
2000
คุณรู้ไหมครับว่าคนเราอยากได้อะไรที่สุด?
16:23
They want to be missed.
354
971000
2000
พวกเขาอยากให้คนคิดถึง
16:25
They want to be missed the day they don't show up.
355
973000
2000
อยากให้คนคิดถึง วันที่พวกเขาไม่โผล่หน้ามา
16:27
They want to be missed when they're gone.
356
975000
3000
อยากให้คนคิดถึงหลังจากที่ลาโลกไปแล้ว
16:30
And tribe leaders can do that.
357
978000
2000
ผู้นำเผ่าทำอย่างนั้นได้
16:32
It's fascinating, because all tribe leaders have charisma,
358
980000
4000
นี่เป็นเรื่องน่าทึ่ง เพราะผู้นำเผ่าทุกคนมีเสน่ห์
16:36
but you don't need charisma to become a leader.
359
984000
2000
แต่คุณไม่จำเป็นต้องมีเสน่ห์เพื่อจะเป็นผู้นำ
16:38
Being a leader gives you charisma.
360
986000
3000
การเป็นผู้นำนั่นเองที่ทำให้คุณมีเสน่ห์
16:41
If you look and study the leaders who have succeeded,
361
989000
3000
ถ้าคุณไปศึกษาผู้นำที่ประสบความสำเร็จ
16:44
that's where charisma comes from -- from the leading.
362
992000
2000
คุณจะพบว่าเสน่ห์มาจากตรงนั้น มาจากการนำ
16:46
Finally, they commit.
363
994000
3000
ข้อสุดท้าย ผู้นำทุ่มเทจริงๆ
16:49
They commit to the cause. They commit to the tribe.
364
997000
2000
พวกเขาทุ่มเทให้กับเป้าหมาย ทุ่มเทให้กับเผ่า
16:51
They commit to the people who are there.
365
999000
3000
ทุ่มเทให้กับสมาชิกในนั้น
16:54
So I'd like you to do something for me.
366
1002000
3000
ฉะนั้นผมจึงอยากให้คุณทำอะไรสักอย่างให้ผม
16:57
And I hope you'll think about it before you reject it out-of-hand.
367
1005000
3000
และหวังว่าคุณจะคิดเรื่องนี้ก่อนที่จะปฏิเสธมันตั้งแต่แรก
17:00
What I want you to do, it only takes 24 hours,
368
1008000
4000
ผมอยากให้คุณใช้เวลาแค่ 24 ชั่วโมง
17:04
is: create a movement.
369
1012000
2000
ไปกับการสร้างขบวนการ
17:06
Something that matters. Start. Do it. We need it.
370
1014000
4000
อะไรสักอย่างที่มีความหมาย เริ่มทำเลยครับ เราต้องการมัน
17:10
Thank you very much. I appreciate it.
371
1018000
2000
ขอบคุณมากครับ ผมรู้สึกยินดีมาก
17:12
(Applause)
372
1020000
5000
(ปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Seth Godin - Marketer and authorSeth Godin is an entrepreneur and blogger who thinks about the marketing of ideas in the digital age. His newest interest: the tribes we lead.
Why you should listen
"Seth Godin may be the ultimate entrepreneur for the Information Age," Mary Kuntz wrote in Business Week nearly a decade ago. "Instead of widgets or car parts, he specializes in ideas -- usually, but not always, his own." In fact, he's as focused on spreading ideas as he is on the ideas themselves.
After working as a software brand manager in the mid-1980s, Godin started Yoyodyne, one of the first Internet-based direct-marketing firms, with the notion that companies needed to rethink how they reached customers. His efforts caught the attention of Yahoo!, which bought the company in 1998 and kept Godin on as a vice president of permission marketing. Godin has produced several critically acclaimed and attention-grabbing books, including Permission Marketing, All Marketers Are Liars, and Purple Cow (which was distributed in a milk carton). In 2005, Godin founded Squidoo.com, a Web site where users can share links and information about an idea or topic important to them.
Seth Godin | Speaker | TED.com