ABOUT THE SPEAKER
Beau Lotto - Neuroscientist, Artist
Beau Lotto is founder of Lottolab, a hybrid art studio and science lab. With glowing, interactive sculpture -- and old-fashioned peer-reviewed research--he's illuminating the mysteries of the brain's visual system.

Why you should listen

"Let there be perception," was evolution's proclamation, and so it was that all creatures, from honeybees to humans, came to see the world not as it is, but as was most useful. This uncomfortable place--where what an organism's brain sees diverges from what is actually out there--is what Beau Lotto and his team at Lottolab are exploring through their dazzling art-sci experiments and public illusions. Their Bee Matrix installation, for example, places a live bee in a transparent enclosure where gallerygoers may watch it seek nectar in a virtual meadow of luminous Plexiglas flowers. (Bees, Lotto will tell you, see colors much like we humans do.) The data captured isn't just discarded, either: it's put to good use in probing scientific papers, and sometimes in more exhibits.

At their home in London’s Science Museum, the lab holds "synesthetic workshops" where kids and adults make abstract paintings that computers interpret into music, and they host regular Lates--evenings of science, music and "mass experiments." Lotto is passionate about involving people from all walks of life in research on perception--both as subjects and as fellow researchers. One such program, called "i,scientist," in fact led to the publication of the first ever peer-reviewed scientific paper written by schoolchildren ("Blackawton Bees," December 2010). It starts, "Once upon a time ..."

These and Lotto's other conjurings are slowly, charmingly bending the science of perception--and our perceptions of what science can be.

More profile about the speaker
Beau Lotto | Speaker | TED.com
TEDGlobal 2009

Beau Lotto: Optical illusions show how we see

โบ ล็อตโต (Beau Lotto): ภาพลวงตาที่แสดงให้เห็นว่าเรามองเห็นอย่างไร

Filmed:
7,158,267 views

เกมส์เกี่ยวกับสีของโบ ล็อตโต สร้างความสับสนงุงงงให้กับสายตาฃของคุณ แต่ก็เผยให้เห็นถึงสิ่งที่โดยปกติแล้วคุณไม่สามารถมองเห็นด้วย : ว่าสมองคุณทำงานอย่างไร การบรรยายที่สนุก มาพร้อมกับการทดลองที่ให้คุณร่วมสัมผัสว่าประสาทสัมผัสทางสายตานั้นปรับเปลี่ยนได้เร็วแค่ไหน เผยให้เห็นว่าวิวัฒนาการได้ปรุงแต่งการรับรู้ของเราอย่างไรเกี่ยวกับโลกภายนอก
- Neuroscientist, Artist
Beau Lotto is founder of Lottolab, a hybrid art studio and science lab. With glowing, interactive sculpture -- and old-fashioned peer-reviewed research--he's illuminating the mysteries of the brain's visual system. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:13
I want to startเริ่มต้น with a gameเกม.
0
1000
3000
ผมอยากจะเริ่มด้วยการเล่นเกม
00:16
And to winชนะ this gameเกม,
1
4000
2000
วิธีที่จะชนะเกมนี้
00:18
all you have to do is see the realityความจริง that's in frontด้านหน้า of you
2
6000
3000
สิ่งที่ต้องทำคือ
ดูความจริงที่อยู่ตรงหน้าคุณ
00:21
as it really is. All right?
3
9000
2000
อย่างที่คุณเห็น โอเคไหมครับ?
00:23
So, we have two panelsแผง here,
4
11000
2000
เรามีกระดาน 2 อัน
ที่มีจุดสีต่างๆ
00:25
of coloredมีสี dotsจุด.
5
13000
2000
และจะมีจุดสีหนึ่งที่เหมือนกัน
ทั้งในสองกระดาน
00:27
And one of those dotsจุด is the sameเหมือนกัน
6
15000
3000
00:30
in the two panelsแผง. Okay?
7
18000
3000
00:33
And you have to tell me whichที่ one.
8
21000
2000
และคุณต้องบอกผมว่าเป็นสีไหน
00:35
Now, narrowแคบ it down to
9
23000
3000
ผมช่วยตัดตัวเลือกให้เหลือแค่
จุดสีเทา สีเขียว หรือสีส้ม
00:38
the grayสีเทา one, the greenสีเขียว one and, say, the orangeส้ม one.
10
26000
3000
00:41
So, by a showแสดง of handsมือ -- we'llดี startเริ่มต้น with the easiestที่ง่ายที่สุด one --
11
29000
3000
ที่นี้ให้ยกมือขึ้นเวลาตอบนะครับ
มาเริ่มกันเลย
00:44
Showแสดง of handsมือ: how manyจำนวนมาก people think it's the grayสีเทา one?
12
32000
4000
ใครบ้างที่คิดว่าเป็นสีเทา? ให้ยกมือขึ้น
00:48
Really? Okay.
13
36000
2000
จริงหรือนี่? โอเค
00:50
How manyจำนวนมาก people think it's the greenสีเขียว one?
14
38000
5000
ใครที่คิดว่าเป็นสีเขียว?
ใครที่คิดว่าเป็นสีส้ม?
00:55
And how manyจำนวนมาก people think it's the orangeส้ม one?
15
43000
4000
มีคนเลือกพอๆ กัน
00:59
Prettyน่ารัก even splitแยก.
16
47000
3000
01:02
Let's find out what the realityความจริง is.
17
50000
3000
ทีนี้มาดูเฉลยกัน
นี่เป็นสีส้ม
01:05
Here is the orangeส้ม one.
18
53000
3000
(เสียงหัวเราะ)
01:08
(Laughterเสียงหัวเราะ)
19
56000
2000
01:10
Here is the greenสีเขียว one.
20
58000
3000
อันนี้สีเขียว
01:13
And here is the grayสีเทา one.
21
61000
4000
และนี่เป็นสีเทา
(เสียงหัวเราะ)
01:17
(Laughterเสียงหัวเราะ)
22
65000
3000
01:20
So, for all of you who saw that, you're a completeสมบูรณ์ realistผู้นิยมความจริง. All right?
23
68000
4000
สำหรับคนที่ดูออก
คุณเป็นพวกสัจนิยมตัวจริง
ใช่ไหมครับ
01:24
(Laughterเสียงหัวเราะ)
24
72000
2000
(เสียงหัวเราะ)
01:26
So, this is prettyน่ารัก amazingน่าอัศจรรย์, actuallyแท้จริง, isn't it?
25
74000
2000
นี่มันน่าทึ่งจริงๆ เห็นด้วยไหมครับ?
เพราะว่าสิ่งมีชีวิตเกือบทุกชนิด
01:28
Because nearlyเกือบ everyทุกๆ livingการดำรงชีวิต systemระบบ
26
76000
2000
ได้มีวิวัฒนาการให้มีความสามารถ
ในการรับรู้แสงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
01:30
has evolvedการพัฒนา the abilityความสามารถ to detectตรวจจับ lightเบา in one way or anotherอื่น.
27
78000
3000
01:33
So, for us, seeingเห็น colorสี is one of the simplestที่ง่ายที่สุด things the brainสมอง does.
28
81000
5000
สำหรับมนุษย์ การมองเห็นสี
เป็นงานง่ายๆ ที่สมองเราทำได้
แม้แต่ในความสามารถพื้นๆ นี้
01:38
And yetยัง, even at this mostมากที่สุด fundamentalพื้นฐาน levelชั้น,
29
86000
2000
01:40
contextบริบท is everything.
30
88000
3000
ก็ยังขึ้นอยู่กับบริบทแวดล้อม
01:43
What I want to talk about is not that contextบริบท is everything,
31
91000
3000
ที่ผมจะพูดไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับ
ความสำคัญของบริบท
01:46
but why is contextบริบท everything.
32
94000
2000
แต่เป็นเรื่องที่ว่าทำไมบริบทจึงสำคัญ
01:48
Because it's answeringตอบ that questionคำถาม that tellsบอก us not only
33
96000
4000
เพราะว่ามันไม่เพียงจะช่วยตอบคำถามที่ว่า
ทำไมเราจึงมองเห็นสิ่งที่เราทำ
01:52
why we see what we do,
34
100000
2000
01:54
but who we are as individualsบุคคล,
35
102000
2000
แต่ยังรวมถึงเราเป็นใครในระดับปัจเจก
01:56
and who we are as a societyสังคม.
36
104000
3000
รวมถึงเราเป็นใครในระดับสังคม
01:59
But first, we have to askถาม anotherอื่น questionคำถาม,
37
107000
2000
แต่ก่อนอื่น เราต้องถามอีกคำถามหนึ่งก่อน
02:01
whichที่ is, "What is colorสี for?"
38
109000
2000
ซึ่งคือ "สีต่างๆ มีไว้เพื่ออะไร?"
02:03
And insteadแทน of tellingบอก you, I'll just showแสดง you.
39
111000
2000
แทนที่จะเล่า ผมจะแสดงให้คุณดูรูปแทน
02:05
What you see here is a jungleป่า sceneฉาก,
40
113000
3000
ที่คุณเห็นอยู่นี้เป็นฉากป่าดงดิบแห่งหนึ่ง
02:08
and you see the surfacesพื้นผิว accordingตาม to the amountจำนวน
41
116000
2000
คุณจะเห็นลักษณะพื้นผิวต่างๆ
ตามปริมาณของแสง
02:10
of lightเบา that those surfacesพื้นผิว reflectสะท้อน.
42
118000
2000
ที่พื้นผิวนั้นสะท้อนออกมา
02:12
Now, can any of you see the predatorนักล่า that's about to jumpกระโดด out at you?
43
120000
5000
ทีนี้ คุณมองเห็นสัตว์นักล่าไหม?
ที่มันพร้อมจะกระโจนเข้าใส่คุณ
ถ้าคุณไม่เห็น คุณก็ตาย จริงไหม?
02:17
And if you haven'tยังไม่ได้ seenเห็น it yetยัง, you're deadตาย. Right?
44
125000
2000
02:19
(Laughterเสียงหัวเราะ)
45
127000
2000
(เสียงหัวเราะ)
มีใครเห็นมันไหม? ไม่มีเลยเหรอครับ?
02:21
Can anyoneใคร ๆ see it? Anyoneใคร ๆ? No?
46
129000
2000
02:23
Now, let's see the surfacesพื้นผิว accordingตาม to the qualityคุณภาพ of lightเบา that they reflectสะท้อน.
47
131000
4000
ทีนี้ดูลักษณะพื้นผิวต่างๆ
ที่แสงสะท้อนออกมาในเชิงคุณภาพ
02:27
And now you see it.
48
135000
3000
ตอนนี้คุณเห็นมันแล้ว
02:30
So, colorสี enablesช่วยให้ us to see
49
138000
3000
สีสันทำให้เรามองเห็นถึง
ความคล้ายและความต่าง
ระหว่างพื้นผิวต่างๆ
02:33
the similaritiesความคล้ายคลึงกัน and differencesความแตกต่าง betweenระหว่าง surfacesพื้นผิว,
50
141000
2000
02:35
accordingตาม to the fullเต็ม spectrumคลื่นความถี่ of lightเบา that they reflectสะท้อน.
51
143000
3000
ตามสเปกตรัมของแสงที่มันสะท้อนออกมา
02:38
But what you've just doneเสร็จแล้ว is, in manyจำนวนมาก respectsความนับถือ, mathematicallyในทางคณิตศาสตร์ impossibleเป็นไปไม่ได้.
52
146000
4000
แต่สิ่งที่คุณเพิ่งทำไปนั้น
ในหลายๆ แง่มุมแล้ว
มันเป็นไปไม่ได้ในทางคณิตศาสตร์
02:42
Why? Because, as Berkeleyเบิร์กลีย์ tellsบอก us,
53
150000
3000
ทำไมล่ะ?
ก็เพราะว่า อย่างที่เบิร์กลีย์บอกเรา
02:45
we have no directโดยตรง accessทางเข้า to our physicalกายภาพ worldโลก,
54
153000
3000
เราไม่สามารถเข้าถึงโลกกายภาพได้โดยตรง
ถ้าปราศจากประสาทสัมผัสต่างๆ ของเรา
02:48
other than throughตลอด our sensesความรู้สึก.
55
156000
2000
02:50
And the lightเบา that fallsน้ำตก ontoไปยัง our eyesตา
56
158000
2000
แสงที่ตกกระทบสู่ตาเรา
ถูกกำหนดโดยหลายปัจจัยภายนอก
02:52
is determinedแน่นอน by multipleหลายอย่าง things in the worldโลก --
57
160000
2000
02:54
not only the colorสี of objectsวัตถุ,
58
162000
2000
ไม่ใช่กำหนดจากแค่เพียงสีของตัววัตถุ
02:56
but alsoด้วย the colorสี of theirของพวกเขา illuminationประภาส,
59
164000
2000
แต่ยังรวมถึงสีสันของทัศนวิสัยรอบๆด้วย
02:58
and the colorสี of the spaceช่องว่าง betweenระหว่าง us and those objectsวัตถุ.
60
166000
3000
และสีสันของสิ่งที่อยู่ระหว่างเรากับวัตถุ
ถ้าคุณเปลี่ยนตัวแปรเหล่านั้นไปสักอย่าง
03:01
You varyแตกต่าง any one of those parametersพารามิเตอร์,
61
169000
2000
03:03
and you'llคุณจะ changeเปลี่ยนแปลง the colorสี of the lightเบา that fallsน้ำตก ontoไปยัง your eyeตา.
62
171000
5000
มันก็จะเปลี่ยนแสงสีที่คุณจะเห็นไปด้วย
03:08
This is a hugeใหญ่ problemปัญหา because it meansวิธี that
63
176000
2000
นี่เป็นปัญหาใหญ่
เพราะว่ามันหมายความว่า
ภาพอย่างเดียวกัน
03:10
the sameเหมือนกัน imageภาพ could have an infiniteอนันต์ numberจำนวน
64
178000
3000
อาจเกิดจากต้นกำเนิดได้นับไม่ถ้วน
03:13
of possibleเป็นไปได้ real-worldโลกแห่งความจริง sourcesแหล่งที่มา.
65
181000
3000
ผมจะแสดงให้ดูว่าผมหมายถึงอะไร
03:16
So let me showแสดง you what I mean. Imagineจินตนาการ that this is the back of your eyeตา.
66
184000
3000
นึกภาพว่านี่เป็นจอประสาทตาของคุณ
03:19
And these are two projectionsประมาณการ from the worldโลก.
67
187000
3000
และนี่เป็นสองภาพที่ฉายมากจากโลกภายนอก
03:22
They are identicalเหมือนกัน in everyทุกๆ singleเดียว way.
68
190000
3000
พวกมันเหมือนกันทุกประการ
03:25
Identicalเหมือนกัน in shapeรูปร่าง, sizeขนาด, spectralเป็นเงา contentเนื้อหา.
69
193000
4000
ในแง่ของรูปร่าง ขนาด สเปกตรัมของสี
03:29
They are the sameเหมือนกัน, as farห่างไกล as your eyeตา is concernedเกี่ยวข้อง.
70
197000
4000
มันเหมือนกัน เท่าที่ตาคุณรับรู้
แต่พวกมันมาจากต้นกำนิดที่ต่างกัน
03:33
And yetยัง they come from completelyอย่างสมบูรณ์ differentต่าง sourcesแหล่งที่มา.
71
201000
5000
03:38
The one on the right
72
206000
2000
อันที่อยู่ทางขวา
มาจากพื้นผิวสีเหลือง
03:40
comesมา from a yellowสีเหลือง surfaceพื้นผิว,
73
208000
3000
อยู่ในเงา หันออกด้านซ้าย
03:43
in shadowเงา, orientedที่มุ่งเน้น facingเผชิญ the left,
74
211000
2000
03:45
viewedดู throughตลอด a pinkishค่อนข้างแดง mediumกลาง.
75
213000
3000
มองผ่านตัวกลางสีชมพู
03:48
The one on the left comesมา from an orangeส้ม surfaceพื้นผิว,
76
216000
3000
ส่วนอันที่ซ้ายมือมาจากพื้นผิวสีส้ม
03:51
underภายใต้ directโดยตรง lightเบา, facingเผชิญ to the right,
77
219000
2000
อยู่ในที่สว่าง หันออกด้านขวา
03:53
viewedดู throughตลอด a sortประเภท of a bluishสีน้ำเงินอ่อน mediumกลาง.
78
221000
2000
มองผ่านตัวกลางสีน้ำเงิน
03:55
Completelyอย่างสมบูรณ์ differentต่าง meaningsความหมาย,
79
223000
3000
นัยยะต่างกันโดยสิ้นเชิง
แต่ให้ข้อมูลแก่จอประสาทตาในแบบเดียวกัน
03:58
givingให้ riseลุกขึ้น to the exactแน่นอน sameเหมือนกัน retinalจอประสาทตา informationข้อมูล.
80
226000
3000
04:01
And yetยัง it's only the retinalจอประสาทตา informationข้อมูล
81
229000
2000
และเราก็รับรู้ได้เพียงแค่ข้อมูล
จากจอประสาทตาเท่านั้น
04:03
that we get.
82
231000
2000
04:05
So how on Earthโลก do we even see?
83
233000
3000
แล้วเรามองเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างไร?
04:08
So, if you rememberจำ anything in this nextต่อไป 18 minutesนาที,
84
236000
4000
ถ้าคุณจะได้อะไรติดไปจากการพูดของผมในวันนี้
จำไว้อย่างหนึ่งว่า :
04:12
rememberจำ this: that the lightเบา that fallsน้ำตก on to your eyeตา,
85
240000
3000
แสงที่ตกกระทบตาของคุณ
ข้อมูลจากการมองเห็น
นั้นไม่มีความหมายใดๆ
04:15
sensoryประสาทสัมผัส informationข้อมูล, is meaninglessไม่มีความหมาย,
86
243000
2000
04:17
because it could mean literallyอย่างแท้จริง anything.
87
245000
3000
เพราะมันสามารถหมายถึงอะไรก็ได้
สิ่งที่เกิดกับข้อมูลจากประสาทสัมผัส
ก็เป็นจริงสำหรับข้อมูลอื่นทั่วไป
04:20
And what's trueจริง for sensoryประสาทสัมผัส informationข้อมูล is trueจริง for informationข้อมูล generallyโดยทั่วไป.
88
248000
3000
04:23
There is no inherentโดยธรรมชาติ meaningความหมาย in informationข้อมูล.
89
251000
2000
ข้อมูลโดยตัวมันเองไม่ได้มีความหมายอะไร
04:25
It's what we do with that informationข้อมูล that mattersเรื่อง.
90
253000
4000
แต่สิ่งที่สำคัญคือเราเอาข้อมูลนั้นไปทำอะไรต่างหาก
แล้วเราเห็นสิ่งต่างๆ อย่างไร?
เราเห็นโดยการเรียนรู้ที่จะเห็น
04:29
So, how do we see? Well, we see by learningการเรียนรู้ to see.
91
257000
3000
04:32
So, the brainสมอง evolvedการพัฒนา the mechanismsกลไก for findingคำวินิจฉัย patternsรูปแบบ,
92
260000
4000
สมองเราได้พัฒนากลไกในการมองหารูปแบบต่างๆ
04:36
findingคำวินิจฉัย relationshipsสัมพันธ์ in informationข้อมูล
93
264000
2000
มองหาความสัมพันธ์จากในข้อมูล
04:38
and associatingการเชื่อมโยง those relationshipsสัมพันธ์
94
266000
2000
และนำความสัมพันธ์ที่พบนั้น
มาจับคู่ให้ความหมายในเชิงพฤติกรรม
04:40
with a behavioralเกี่ยวกับพฤติกรรม meaningความหมาย,
95
268000
2000
04:42
a significanceความสำคัญ, by interactingการมีปฏิสัมพันธ์ with the worldโลก.
96
270000
3000
หาความสำคัญของมัน
และมีปฏิสัมพันธ์กับโลกรอบๆ ตัว
04:45
We're very awareทราบ of this
97
273000
2000
เราตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
ในแบบของคุณลักษณะที่เกี่ยวกับ
กระบวนการรับรู้ เช่นเดียวกับภาษา
04:47
in the formฟอร์ม of more cognitiveองค์ความรู้ attributesแอตทริบิวต์, like languageภาษา.
98
275000
3000
ผมจะให้คุณดูตัวอักษร 2-3 แถว
ให้คุณช่วยอ่านให้ผมหน่อย
04:50
So, I'm going to give you some letterจดหมาย stringsเงื่อนไข. And I want you to readอ่าน them out for me,
99
278000
2000
ถ้าคุณทำได้
04:52
if you can.
100
280000
2000
04:54
Audienceผู้ชม: "Can you readอ่าน this?"
101
282000
3000
ผู้ชม : "Can you read this?"
(คุณอ่านนี่ได้ไหม?)
"You are not reading this."
(คุณไม่ได้กำลังอ่านมัน)
04:57
"You are not readingการอ่าน this."
102
285000
2000
04:59
"What are you readingการอ่าน?"
103
287000
2000
"What are you reading?"
(คุณกำลังอ่านอะไร?)
โบ ล็อตโต :"What are you reading?"
ครึ่งหนึ่งของตัวอักษรหายไปใช่ไหม?
05:01
Beauแฟน Lottoเกมพนันชนิดหนึ่ง: "What are you readingการอ่าน?" Halfครึ่ง the lettersตัวอักษร are missingหายไป. Right?
104
289000
3000
05:04
There is no a prioriเบื้องต้น reasonเหตุผล why an "H" has to go
105
292000
2000
มันไม่ได้มีเหตุผลว่า
ทำไม "H" ถึงต้องไปอยู่
ระหว่าง "W" และ "A"
05:06
betweenระหว่าง that "W" and "A."
106
294000
2000
05:08
But you put one there. Why?
107
296000
2000
แต่คุณก็ใส่มันไปตรงนั้น
ทำไมน่ะเหรอ?
ก็เพราะว่าประสบการณ์ในอดีตของคุณ
05:10
Because in the statisticsสถิติ of your pastอดีต experienceประสบการณ์
108
298000
2000
05:12
it would have been usefulมีประโยชน์ to do so. So you do so again.
109
300000
3000
มันอาจมีประโยชน์ที่จะทำเช่นนั้น
ดังนั้นคุณจึงทำมันอีก
05:15
And yetยัง you don't put a letterจดหมาย after that first "T."
110
303000
3000
นอกจากนี้คุณยังไม่ใส่ตัวอักษรลงไป
หลัง "T" ตัวแรก
05:18
Why? Because it wouldn'tจะไม่ have been usefulมีประโยชน์ in the pastอดีต.
111
306000
3000
ทำไมนะเหรอ? ก็เพราะว่ามันไม่มีประโยชน์
จากประสบการณ์ของคุณ
ดังนั้นคุณจึงยังคงไม่ทำมัน
05:21
So you don't do it again.
112
309000
2000
05:23
So let me showแสดง you how quicklyอย่างรวดเร็ว our brainsสมอง can redefineredefine normalityภาวะปกติ,
113
311000
4000
ผมจะแสดงให้คุณดูว่าสมองเราสามารถ
ปรับตัวไปสู่ค่าปกติค่าใหม่ได้เร็วแค่ไหน
แม้แต่ในเรื่องของสี ซึ่งเป็น
เรื่องสุดธรรมดา
05:27
even at the simplestที่ง่ายที่สุด thing the brainสมอง does, whichที่ is colorสี.
114
315000
2000
05:29
So, if I could have the lightsไฟ down up here.
115
317000
3000
ช่วยปิดไฟบนเวทีหน่อยครับ
05:32
I want you to first noticeแจ้งให้ทราบ that those two desertทะเลทราย scenesฉาก are physicallyทางร่างกาย the sameเหมือนกัน.
116
320000
3000
ผมขอให้คุณสังเกตดู
ภาพทะเลทรายทั้งสองว่าเหมือนกัน
05:35
One is simplyง่ายดาย the flippingพลิก of the other. Okay?
117
323000
5000
ซึ่งภาพหนึ่งเป็นภาพสะท้อนของอีกภาพ
05:40
Now I want you to look at that dotจุด
118
328000
2000
ทีนี้ผมอยากให้คุณมองไปที่จุด
05:42
betweenระหว่าง the greenสีเขียว and the redสีแดง. Okay?
119
330000
3000
ระหว่างสีเขียวกับสีแดง
จ้องไปที่จุดจุดนั้น อย่างมองไปที่อื่น
05:45
And I want you to stareจ้อง at that dotจุด. Don't look anywhereทุกแห่ง elseอื่น.
120
333000
3000
05:48
And we're going to look at that for about 30 secondsวินาที,
121
336000
1000
นานประมาณ 30 วินาที
05:49
whichที่ is a bitบิต of a killerนักฆ่า in an 18-minute-นาที talk.
122
337000
3000
ซึ่งนานจริงๆ
เพราะผมยิ่งมีเวลาพูดไม่ค่อยจะพออยู่
05:52
(Laughterเสียงหัวเราะ)
123
340000
1000
(เสียงหัวเราะ)
05:53
But I really want you to learnเรียน.
124
341000
2000
แต่ผมอยากให้คุณได้เรียนรู้
05:55
And I'll tell you -- don't look anywhereทุกแห่ง elseอื่น --
125
343000
3000
-- อย่าเพิ่งละสายตาจากจุดนะครับ --
ผมจะบอกคุณว่าเกิดอะไรขึ้นในสมองคุณ
05:58
and I'll tell you what's happeningสิ่งที่เกิดขึ้น insideภายใน your headหัว.
126
346000
2000
06:00
Your brainสมอง is learningการเรียนรู้. And it's learningการเรียนรู้ that the right sideด้าน of its visualภาพ fieldสนาม
127
348000
3000
สมองคุณกำลังเรียนรู้ว่า
ลานสายตาด้านขวา
06:03
is underภายใต้ redสีแดง illuminationประภาส;
128
351000
2000
อยู่ใต้แหล่งกำเนิดแสงสีแดง
06:05
the left sideด้าน of its visualภาพ fieldสนาม is underภายใต้ greenสีเขียว illuminationประภาส.
129
353000
3000
ลานสายตาด้านซ้ายอยู่ใต้แหล่งกำเนิด
แสงสีเขียว
06:08
That's what it's learningการเรียนรู้. Okay?
130
356000
3000
นี่คือสิ่งที่สมองกำลังเรียนรู้
06:11
Now, when I tell you, I want you to look at the dotจุด betweenระหว่าง the two desertทะเลทราย scenesฉาก.
131
359000
5000
ทีนี้ผมขอให้คุณลองมองไปที่จุด
ที่อยู่ระหว่างทะเลทรายทั้งสอง
เอาเลยครับ
06:16
So why don't you do that now?
132
364000
2000
(เสียงหัวเราะ)
06:18
(Laughterเสียงหัวเราะ)
133
366000
3000
06:21
Can I have the lightsไฟ up again?
134
369000
2000
ช่วยเปิดไฟบนเวทีหน่อยครับ
06:23
I take it from your responseคำตอบ they don't look the sameเหมือนกัน anymoreอีกต่อไป. Right?
135
371000
4000
ผมเดาจากปฏิกิริยาของพวกคุณว่า
ภาพทะเลทรายดูไม่เหมือนกันอีกต่อไป ใช่ไหม?
(เสียงปรบมือ)
06:27
(Applauseการปรบมือ)
136
375000
1000
06:28
Why? Because your brainสมอง is seeingเห็น that sameเหมือนกัน informationข้อมูล
137
376000
3000
ทำไมล่ะ? ก็เพราะว่าสมองคุณมองเห็นว่า
ชุดข้อมูลชุดเดียวกัน
06:31
as if the right one is still underภายใต้ redสีแดง lightเบา,
138
379000
2000
ราวกับว่ารูปขวามือยังคงอยู่ใต้แสงสีแดง
06:33
and the left one is still underภายใต้ greenสีเขียว lightเบา.
139
381000
2000
และรูปซ้ายมือยังอยู่ใต้แสงสีเขียว
06:35
That's your newใหม่ normalปกติ.
140
383000
2000
นั่นเป็นค่าปกติอันใหม่ของคุณ
06:37
So, what does this mean for contextบริบท?
141
385000
2000
นี่มันมีความหมายอย่างไร กับบริบทแวดล้อม?
06:39
It meansวิธี that I can take these two identicalเหมือนกัน squaresสี่เหลี่ยม,
142
387000
2000
มันมีความหมายว่า ผมสามารถ
นำสี่เหลี่ยมที่เหมือนกัน 2 อัน
06:41
and I can put them in lightเบา and darkมืด surroundsล้อมรอบ.
143
389000
2000
นำมันไปวางบนพื้นหลังที่มีสีอ่อนหรือเข้ม
06:43
And now the one on the darkมืด surroundรอบทิศทาง looksรูปลักษณ์ lighterน้ำหนักเบา than the one on the lightเบา surroundรอบทิศทาง.
144
391000
3000
อันที่มีสีเข้มล้อมรอบจะดูมีโทนสีอ่อนกว่า
อีกอันที่มีสีอ่อนล้อมรอบ
06:46
What's significantสำคัญ is not simplyง่ายดาย the lightเบา and darkมืด surroundsล้อมรอบ that matterเรื่อง.
145
394000
4000
สิ่งสำคัญไม่เพียงแค่ว่า
สีที่ล้อมรอบเป็นสีอ่อนหรือเข้ม
06:50
It's what those lightเบา and darkมืด surroundsล้อมรอบ meantความหมาย for your behaviorพฤติกรรม in the pastอดีต.
146
398000
4000
แต่รวมถึงว่าสีที่ล้อมรอบสีอ่อนหรือเข้ม
มีความหมายกับคุณในอดีตอย่างไร
06:54
So I'll showแสดง you what I mean. Here we have
147
402000
2000
ผมจะแสดงให้ดูว่าผมหมายถึงอะไร
เรายังคงใช้ภาพชุดเดิม
06:56
that exactแน่นอน sameเหมือนกัน illusionภาพมายา.
148
404000
2000
ภาพซ้ายมือ ซึ่งมีแผ่นสีเหลี่ยม 2 อัน
06:58
We have two identicalเหมือนกัน tilesกระเบื้อง, on the left,
149
406000
2000
อันนึงล้อมรอบด้วยสีเข้ม อีกอันล้อมรอบด้วยสีอ่อน
07:00
one in a darkมืด surroundรอบทิศทาง, one in a lightเบา surroundรอบทิศทาง.
150
408000
2000
07:02
And the sameเหมือนกัน thing over on the right.
151
410000
2000
ภาพขวามือก็เช่นเดียวกัน
07:04
Now, what I'm going to do is I'm going to reviewทบทวน those two scenesฉาก.
152
412000
3000
ที่ผมจะทำต่อไปก็คือ
เผยให้เห็นฉากหลังทั้งสองข้าง
07:07
But I'm not going to changeเปลี่ยนแปลง anything withinภายใน those boxesกล่อง,
153
415000
2000
แต่ผมจะไม่ไปเปลี่ยนแปลงอะไร
กับภาพที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม
07:09
exceptยกเว้น theirของพวกเขา meaningความหมาย.
154
417000
2000
ยกเว้นความหมายของภาพ
07:11
And see what happensที่เกิดขึ้น to your perceptionความเข้าใจ.
155
419000
2000
แล้วดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับการรับรู้ของคุณ
07:13
Noticeแจ้งให้ทราบ that on the left
156
421000
2000
สังเกตว่าภาพด้านซ้ายมือ
07:15
the two tilesกระเบื้อง look nearlyเกือบ completelyอย่างสมบูรณ์ oppositeตรงข้าม:
157
423000
3000
สี่เหลี่ยมทั้งสองอันดูราวกับ
มีสีที่แทบจะตรงข้ามกันเลย
อันหนึ่งขาวมาก อีกอันเกือบดำ
07:18
one very whiteขาว and one very darkมืด.
158
426000
2000
07:20
All right? Whereasแต่ทว่า on the right,
159
428000
2000
ขณะที่ภาพด้านขวามือ
สี่เหลี่ยมทั้งสองดูเกือบจะเหมือนกัน
07:22
the two tilesกระเบื้อง look nearlyเกือบ the sameเหมือนกัน.
160
430000
2000
07:24
And yetยัง there is still one on a darkมืด surroundรอบทิศทาง and one on a lightเบา surroundรอบทิศทาง.
161
432000
4000
ถึงกระนั้น พวกมันยังคงถูกล้อมรอบด้วยสีเข้ม
และสีอ่อนตามเดิม
ทำไมล่ะ?
07:28
Why? Because if the tileกระเบื้อง in that shadowเงา
162
436000
3000
ก็เพราะว่า ถ้าสี่เหลี่ยมนั้นอยู่ใต้เงา
ถ้าเกิดต้องไปอยู่ใต้เงาจริงๆ
07:31
were in factความจริง in shadowเงา,
163
439000
2000
07:33
and reflectingสะท้อนให้เห็นถึง the sameเหมือนกัน amountจำนวน of lightเบา to your eyeตา
164
441000
2000
และสะท้อนแสงเข้าสู่ตาคุณในปริมาณที่เท่ากับ
07:35
as the one outsideด้านนอก the shadowเงา,
165
443000
2000
อันที่อยู่นอกเงา
07:37
it would have to be more reflectiveอย่างไตร่ตรอง -- just the lawsกฎหมาย of physicsฟิสิกส์.
166
445000
3000
มันควรต้องมีการสะท้อนแสงออกมามากกว่า
--ตามกฎของฟิสิกส์
07:40
So you see it that way.
167
448000
2000
คุณจึงเห็นมันออกมาเป็นแบบนั้น
07:42
Whereasแต่ทว่า on the right, the informationข้อมูล is consistentคงเส้นคงวา
168
450000
3000
ขณะที่ภาพขวามือนั้น ข้อมูลจะเป็นว่า
สี่เหลี่ยมทั้งสองอันอยู่ภายใต้แสงไฟอันเดียวกัน
07:45
with those two tilesกระเบื้อง beingกำลัง underภายใต้ the sameเหมือนกัน lightเบา.
169
453000
2000
07:47
If they are underภายใต้ the sameเหมือนกัน lightเบา, reflectingสะท้อนให้เห็นถึง the sameเหมือนกัน amountจำนวน of lightเบา
170
455000
2000
ถ้ามันอยู่ใต้แสงแบบเดียวกัน
มันก็ควรจะสะท้อนแสงเข้าสู่ตาในปริมาณเท่าๆ กัน
07:49
to your eyeตา,
171
457000
2000
07:51
then they mustต้อง be equallyพอ ๆ กัน reflectiveอย่างไตร่ตรอง.
172
459000
2000
ดังนั้นพวกมันต้องมีการสะท้อนแสงที่เท่าๆกัน
07:53
So you see it that way.
173
461000
2000
ดังนั้นคุณจึงเห็นพวกมันเกือบจะเหมือนกัน
ซึ่งหมายความว่าเราสามารถนำข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน
07:55
Whichที่ meansวิธี we can bringนำมาซึ่ง all this informationข้อมูล togetherด้วยกัน
174
463000
2000
07:57
to createสร้าง some incrediblyเหลือเชื่อ strongแข็งแรง illusionsภาพลวงตา.
175
465000
2000
เพื่อสร้างภาพลวงตาที่น่าทึ่งได้
07:59
This is one I madeทำ a fewน้อย yearsปี agoมาแล้ว.
176
467000
2000
อันนี้เป็นงานที่ผมทำเมื่อสองสามปีก่อน
08:01
And you'llคุณจะ noticeแจ้งให้ทราบ you see a darkมืด brownสีน้ำตาล tileกระเบื้อง at the topด้านบน,
177
469000
3000
คุณจะเห็นช่องสีเหลี่ยมสีน้ำตาลที่อยู่ด้านบน
08:04
and a brightสดใส orangeส้ม tileกระเบื้อง at the sideด้าน.
178
472000
3000
และช่องสีเหลี่ยมสีส้มอ่อนที่อยู่ด้านข้าง
นั้นเป็นความจริงในการรับรู้ของคุณ
08:07
That is your perceptualการรับรู้ realityความจริง. The physicalกายภาพ realityความจริง
179
475000
2000
แต่ในทางกายภาพนั้น
ทั้งสองอันมีสีที่เหมือนกัน
08:09
is that those two tilesกระเบื้อง are the sameเหมือนกัน.
180
477000
5000
08:14
Here you see fourสี่ grayสีเทา tilesกระเบื้อง on your left,
181
482000
3000
คุณเห็นแผ่นสี่เหลี่ยมสีเทา 4 อันทางด้านซ้าย
08:17
sevenเจ็ด grayสีเทา tilesกระเบื้อง on the right.
182
485000
2000
7 อันทางด้านขวา
08:19
I'm not going to changeเปลี่ยนแปลง those tilesกระเบื้อง at all,
183
487000
2000
ผมจะไม่ทำอะไรแผ่นสีเหลี่ยมพวกนั้น
08:21
but I'm going to revealเปิดเผย the restส่วนที่เหลือ of the sceneฉาก
184
489000
2000
แต่ผมจะเผยให้เห็นถึง
ฉากรอบๆ แผ่นสี่เหลี่ยมเหล่านั้น
08:23
and see what happensที่เกิดขึ้น to your perceptionความเข้าใจ.
185
491000
3000
ดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับการรับรู้ของคุณ
08:26
The fourสี่ blueสีน้ำเงิน tilesกระเบื้อง on the left are grayสีเทา.
186
494000
4000
แผ่นสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน 4 อันด้านซ้าย
มีสีเทา
แผ่นสีเหลี่ยมสีเหลือง 7 อันด้านขวา
ก็มีสีเทา
08:30
The sevenเจ็ด yellowสีเหลือง tilesกระเบื้อง on the right are alsoด้วย grayสีเทา.
187
498000
3000
08:33
They are the sameเหมือนกัน. Okay?
188
501000
2000
พวกมันดูเหมือนกัน เห็นไหม?
08:35
Don't believe me? Let's watch it again.
189
503000
4000
ไม่เชื่อผมเหรอ? ลองดูอีกทีก็ได้
08:39
What's trueจริง for colorสี is alsoด้วย trueจริง for complexซับซ้อน perceptionsการรับรู้ of motionการเคลื่อนไหว.
190
507000
4000
สิ่งที่เป็นจริงสำหรับสีสันก็เป็นจริงสำหรับ
การรับรู้ที่ซับซ้อนเช่นการเคลื่อนไหวเช่นกัน
08:43
So here we have --
191
511000
3000
ทีนี้เรามี
08:46
let's turnกลับ this around -- a diamondเพชร.
192
514000
5000
วัตถุทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด
08:51
And what I'm going to do is, I'm going to holdถือ it here,
193
519000
2000
ผมจะถือมันไว้อย่างนี้
08:53
and I'm going to spinปั่น it.
194
521000
4000
แล้วก็หมุนมัน
ทุกคนจะเห็นว่ามันจะหมุนไปทิศทางนี้
08:57
And for all of you, you'llคุณจะ see it probablyอาจ spinningการปั่นด้าย this directionทิศทาง.
195
525000
3000
ผมขอให้คุณจ้องมันไว้
09:00
Now I want you to keep looking at it.
196
528000
3000
กลอกตาไปมา กระพริบตา
จะปิดตาข้างนึงก็ได้
09:03
Moveย้าย your eyesตา around, blinkกะพริบตา, maybe closeปิด one eyeตา.
197
531000
2000
09:05
And suddenlyทันใดนั้น it will flipดีด, and startเริ่มต้น spinningการปั่นด้าย the oppositeตรงข้าม directionทิศทาง.
198
533000
4000
ทันใดนั้นมันจะพลิกกลับ เริ่มหมุนไปอีกด้าน
09:09
Yes? Raiseยก your handมือ if you got that. Yes?
199
537000
3000
ใช่ไหม? ยกมือขึ้นถ้าคุณเห็นเช่นที่ว่า
09:12
Keep blinkingกระพริบ. Everyทุกๆ time you blinkกะพริบตา it will switchสวิตซ์. AlrightAlright?
200
540000
4000
กระพริบตาต่อไป
ทุกครั้งที่กระพริบตามันจะเปลี่ยนทิศหมุน
09:16
So I can askถาม you, whichที่ directionทิศทาง is it rotatingหมุน?
201
544000
4000
ผมถามคุณว่า ตอนนี้มันกำลังหมุนไปทิศไหน?
09:20
How do you know?
202
548000
2000
คุณรู้ได้อย่างไร?
09:22
Your brainสมอง doesn't know. Because bothทั้งสอง are equallyพอ ๆ กัน likelyน่าจะ.
203
550000
3000
สมองคุณไม่รู้หรอก เพราะว่ามันเป็นไปได้เท่าๆ กัน
09:25
So dependingทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ on where it looksรูปลักษณ์, it flipsพลิก
204
553000
2000
มันขึ้นอยู่กับว่าเรามองไปที่ไหน
มันพลิกกลับไปมาระหว่างความเป็นไปได้ทั้งสองด้าน
09:27
betweenระหว่าง the two possibilitiesความเป็นไปได้.
205
555000
3000
09:30
Are we the only onesคน that see illusionsภาพลวงตา?
206
558000
2000
แล้วมีเพียงมนุษย์ที่เห็นภาพลวงตาใช่ไหม?
09:32
The answerตอบ to this questionคำถาม is no.
207
560000
2000
คำตอบคือ ไม่
09:34
Even the beautifulสวย bumblebeebumblebee,
208
562000
2000
แม้แต่ในผึ้งตัวน้อย
ที่มีเซลล์สมองเพียง 1 ล้านเซลล์
09:36
with its mereเท่านั้น one millionล้าน brainสมอง cellsเซลล์,
209
564000
2000
09:38
whichที่ is 250 timesครั้ง fewerน้อยลง cellsเซลล์ than you have in one retinaจอตา,
210
566000
3000
ซึ่งน้อยกว่าเซลล์จอประสาทตาถึง 250 เท่า
09:41
seesเห็น illusionsภาพลวงตา, does the mostมากที่สุด complicatedซับซ้อน things
211
569000
3000
พวกมันก็เห็นภาพลวงตา
ทำสิ่งซับซ้อนที่สุด
09:44
that even our mostมากที่สุด sophisticatedซับซ้อน computersคอมพิวเตอร์ can't do.
212
572000
3000
ที่แม้แต่คอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดก็ยังทำไม่ได้
09:47
So in my labห้องปฏิบัติการ, we of courseหลักสูตร work on bumblebeesผึ้ง.
213
575000
2000
ที่ห้องทดลองผม ทำการศึกษาพวกผึ้ง
09:49
Because we can completelyอย่างสมบูรณ์ controlควบคุม theirของพวกเขา experienceประสบการณ์,
214
577000
2000
เพราะว่าเราสามารถควบคุม
ประสบการณ์ของพวกมันได้อย่างสมบูรณ์
09:51
and see how that altersalters the architectureสถาปัตยกรรม of theirของพวกเขา brainสมอง.
215
579000
2000
แล้วดูว่ามันทำให้สมองของพวกมันเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
09:53
And we do this in what we call the Beeผึ้ง Matrixมดลูก.
216
581000
3000
เราทำการทดลองนี้ในสิ่งที่เราเรียกว่า "Bee Matrix"
09:56
And here you have the hiveรัง. You can see the queenพระราชินี beeผึ้ง,
217
584000
2000
ซึ่งเรามีรังผึ้ง
คุณจะเห็นนางพญาผึ้ง
ผึ้งตัวใหญ่ๆ ที่อยู่ตรงกลาง
09:58
that largeใหญ่ beeผึ้ง in the middleกลาง there. Those are all her daughtersลูกสาว, the eggsไข่.
218
586000
3000
นั่นเป็นลูกๆ ของเธอ และไข่
10:01
And they go back and forthออกมา betweenระหว่าง this hiveรัง
219
589000
3000
พวกมันไปมาระหว่างรังผึ้ง
และสนามทดลองผ่านทางท่อแบบนี้
10:04
and the arenaสนามกีฬา, viaผ่านทาง this tubeหลอด.
220
592000
5000
คุณจะเห็นผึ้งตัวหนึ่งออกมาจากท่อ
10:09
And you'llคุณจะ see one of the beesผึ้ง come out here.
221
597000
2000
10:11
You see how she has a little numberจำนวน on her?
222
599000
3000
เห็นไหมว่ามันมีเบอร์ติดบนตัวด้วย?
10:14
Yeah there is anotherอื่น one comingมา out. She has anotherอื่น numberจำนวน on her.
223
602000
3000
ผึ้งอีกตัวก็กำลังออกมา มันก็มีเบอร์ติดอยู่เช่นกัน
10:17
Now, they are not bornโดยกำเนิด that way. Right?
224
605000
3000
มันไม่ได้มีมาแต่เกิดใช่ไหม? เบอร์พวกนั้น
เราเอาผึ้งออกมา ใส่ในตู้เย็น จนมันหลับ
10:20
We pullดึง them out, put them in the fridgeตู้เย็น, and they fallตก asleepนอนหลับ.
225
608000
2000
10:22
And then you can supergluesuperglue little numbersหมายเลข on them.
226
610000
2000
แล้วเราจะสามารถติดเบอร์ลงบนตัวพวกมันได้
10:24
(Laughterเสียงหัวเราะ)
227
612000
2000
(เสียงหัวเราะ)
10:26
And now, in this experimentการทดลอง they get rewardedได้รับรางวัล if they go to the blueสีน้ำเงิน flowersดอกไม้.
228
614000
4000
ในการทดลองนี้ผึ้งจะได้รางวัล
ถ้าพวกมันไปที่ดอกไม้สีฟ้า
10:30
And they landที่ดิน on the flowerดอกไม้. They stickติด theirของพวกเขา tongueลิ้น in there,
229
618000
3000
เมื่อพวกมันมาถึงดอกไม้นั้น ก็จะยื่นลิ้นเข้าไปในนั้น
โดยอวัยวะคล้ายหลอดดูด เพื่อดูดน้ำหวาน
10:33
calledเรียกว่า a proboscisงวง, and they drinkดื่ม sugarน้ำตาล waterน้ำ.
230
621000
2000
ผึ้งตัวนี้กำลังดูดน้ำหวานที่มีขนาดใหญ่เกือบเท่าตัวมัน
10:35
Now she is drinkingการดื่ม a glassกระจก of waterน้ำ that's about that bigใหญ่ to you and I,
231
623000
3000
มันจะทำทั้งหมดสามคร้้งแล้วบินกลับ
10:38
will do that about threeสาม timesครั้ง, and then flyบิน.
232
626000
6000
บางครั้งพวกมันก็เรียนรู้ว่าไม่ควรไปที่ดอกสีฟ้า
10:44
And sometimesบางครั้ง they learnเรียน not to go to the blueสีน้ำเงิน,
233
632000
2000
10:46
but to go to where the other beesผึ้ง go.
234
634000
2000
แต่ให้ไปยังดอกไม้ที่ผึ้งตัวอื่นๆไป
10:48
So they copyสำเนา eachแต่ละ other. They can countนับ to fiveห้า. They can recognizeรับรู้ facesใบหน้า.
235
636000
3000
พวกมันทำตามกัน
พวกมันสามารถนับเลขได้ถึง 5
มันสามารถจดจำหน้ากันได้
10:51
And here she comesมา down the ladderกระได.
236
639000
3000
ผึ้งตัวนี้กำลังลงมาตามทาง
มันจะกลับไปที่รัง หาโพรงที่ยังว่างอยู่
10:54
And she'llเปลือก come into the hiveรัง, find an emptyว่างเปล่า honeyน้ำผึ้ง potหม้อ
237
642000
2000
10:56
and throwโยน up, and that's honeyน้ำผึ้ง.
238
644000
2000
แล้วก็อาเจียนออกมา กลายเป็นน้ำผึ้ง
10:58
(Laughterเสียงหัวเราะ)
239
646000
1000
(เสียงหัวเราะ)
10:59
Now rememberจำ -- (Laughterเสียงหัวเราะ)
240
647000
3000
จำได้ไหมครับว่า
มันควรจะไปที่ดอกไม้สีฟ้า
11:02
-- she's supposedควร to be going to the blueสีน้ำเงิน flowersดอกไม้.
241
650000
2000
11:04
But what are these beesผึ้ง doing in the upperบน right cornerมุม?
242
652000
3000
แต่ผึ้งพวกนี้กำลังทำอะไรอยู่ตรงมุมขวาบน?
ดูเหมือนพวกมันจะไปที่ดอกไม้สีเขียว
11:07
It looksรูปลักษณ์ like they're going to greenสีเขียว flowersดอกไม้.
243
655000
2000
11:09
Now, are they gettingได้รับ it wrongไม่ถูกต้อง?
244
657000
3000
พวกมันเข้าใจอะไรผิดอยู่หรือเปล่า?
11:12
And the answerตอบ to the questionคำถาม is no. Those are actuallyแท้จริง blueสีน้ำเงิน flowersดอกไม้.
245
660000
3000
คำตอบคือ ไม่ใช่
ดอกไม้พวกนั้นจริงๆ เป็นสีฟ้า
11:15
But those are blueสีน้ำเงิน flowersดอกไม้ underภายใต้ greenสีเขียว lightเบา.
246
663000
4000
แต่เป็นดอกไม้สีฟ้าภายใต้แสงสีเขียว
11:19
So they are usingการใช้ the relationshipsสัมพันธ์ betweenระหว่าง the colorsสี to solveแก้ the puzzleปริศนา,
247
667000
4000
พวกมันกำลังใช้ความสัมพันธ์ของสีต่างๆ
ในการจัดการปัญหา
11:23
whichที่ is exactlyอย่างแน่นอน what we do.
248
671000
2000
ซึ่งก็เหมือนๆ กับที่พวกเราทำ
11:25
So, illusionsภาพลวงตา are oftenบ่อยครั้ง used,
249
673000
2000
ภาพลวงตาถูกนำมาใช้บ่อยๆ
11:27
especiallyโดยเฉพาะอย่างยิ่ง in artศิลปะ, in the wordsคำ of a more contemporaryร่วมสมัย artistศิลปิน,
250
675000
4000
โดยเฉพาะในงานศิลป์
จากคำกล่าวของศิลปินร่วมสมัยคนหนึ่ง
11:31
"to demonstrateสาธิต the fragilityความบอบบาง of our sensesความรู้สึก."
251
679000
2000
"เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของ
ประสาทสัมผัสของเรา"
11:33
Okay, this is completeสมบูรณ์ rubbishขยะมูลฝอย.
252
681000
3000
โอเค นี่มันเป็นเรื่องไร้สาระ
ประสาทสัมผัสไม่ได้เปราะบาง
เพราะถ้าเป็นจริง พวกเราคงไม่ได้มาอยู่ที่นี่เป็นแน่
11:36
The sensesความรู้สึก aren'tไม่ได้ fragileบอบบาง. And if they were, we wouldn'tจะไม่ be here.
253
684000
3000
11:39
Insteadแทน, colorสี tellsบอก us something completelyอย่างสมบูรณ์ differentต่าง,
254
687000
4000
ในทางตรงกันข้าม สีบอกเราถึงบางอย่าง
ที่ต่างออกไปเป็นคนละเรื่อง
เรื่องที่ว่าสมองไม่ได้พัฒนามา
เพื่อมองโลกอย่างที่มันเป็นจริงๆ
11:43
that the brainสมอง didn't actuallyแท้จริง evolveคาย to see the worldโลก the way it is.
255
691000
3000
11:46
We can't. Insteadแทน, the brainสมอง evolvedการพัฒนา to see the worldโลก
256
694000
4000
เราทำเช่นนั้นไม่ได้
แต่สมองพัฒนามาเพื่อที่จะเห็นโลก
ในแบบที่มันเคยมีประโยชน์กับเรา
จากประสบการณ์ในอดีต
11:50
the way it was usefulมีประโยชน์ to see in the pastอดีต.
257
698000
3000
11:53
And how we see is by continuallyเรื่อย redefiningRedefining normalityภาวะปกติ.
258
701000
6000
การมองเห็นของเราเกิดจากความต่อเนื่อง
ในการให้นิยามใหม่ๆ ของสภาวะปกติ
11:59
So how can we take this
259
707000
4000
แล้วเราจะนำความสามารถ
ในการแปรเปลี่ยนไปได้อย่างมากมายของสมอง
12:03
incredibleเหลือเชื่อ capacityความจุ of plasticityลักษณะปั้นง่าย of the brainสมอง
260
711000
3000
12:06
and get people to experienceประสบการณ์ theirของพวกเขา worldโลก differentlyต่างกัน?
261
714000
3000
แล้วทำให้ผู้คนรับรู้โลกอย่างแตกต่างกันได้อย่างไร?
หนึ่งในหลายๆ วิธีที่เราทำในห้องทดลอง
12:09
Well, one of the waysวิธี we do in my labห้องปฏิบัติการ and studioสตูดิโอ
262
717000
3000
ก็คือ เราแปลงแสงให้กลายเป็นเสียง
12:12
is we translateแปลความ the lightเบา into soundเสียง
263
720000
3000
ทำให้ผู้คนสามารถได้ยินเสียง
จากโลกของการมองเห็น
12:15
and we enableทำให้สามารถ people to hearได้ยิน theirของพวกเขา visualภาพ worldโลก.
264
723000
4000
12:19
And they can navigateนำทาง the worldโลก usingการใช้ theirของพวกเขา earsหู.
265
727000
3000
พวกเขาสามารถสำรวจโลกโดยการใช้หูของพวกเขา
12:22
Here is Davidเดวิด, in the right. And he is holdingโฮลดิ้ง a cameraกล้อง.
266
730000
3000
นี่คือเดวิด เขากำลังถือกล้องตัวหนึ่งอยู่
12:25
On the left is what his cameraกล้อง seesเห็น.
267
733000
2000
ทางซ้ายคือสิ่งที่กล้องของเขาเห็น
12:27
And you'llคุณจะ see there is a lineเส้น, a faintเป็นลม lineเส้น going acrossข้าม that imageภาพ.
268
735000
3000
จะเห็นว่ามันมีเส้นจางๆเส้นหนึ่งเคลื่อนผ่านรูปภาพนั้นไป
12:30
That lineเส้น is brokenแตก up into 32 squaresสี่เหลี่ยม.
269
738000
3000
เส้นๆนั้นถูกแบ่งออกเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส 32 อัน
ในแต่ละอันเราได้คำนวนค่าเฉลี่ยของสี
12:33
In eachแต่ละ squareสี่เหลี่ยม we calculateคำนวณ the averageเฉลี่ย colorสี.
270
741000
2000
12:35
And then we just simplyง่ายดาย translateแปลความ that into soundเสียง.
271
743000
2000
แล้วก็เปลี่ยนค่านั้นให้กลายเป็นเสียง
12:37
And now he's going to
272
745000
3000
ทีนี้ เขากำลังจะกลับหลังหัน
12:40
turnกลับ around, closeปิด his eyesตา,
273
748000
4000
โดยปิดตาอยู่
หาจานบนพื้นโดยที่ยังปิดตาอยู่
12:44
and find a plateจาน on the groundพื้น with his eyesตา closedปิด.
274
752000
3000
(เสียงดังต่อเนื่อง)
(เสียงเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง)
(เสียงเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง)
(เสียงเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง)
(เสียงเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง)
(เสียงเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง)
เขาเจอมัน น่าทึ่งใช่ไหม?
13:06
He findsพบ it. Amazingน่าอัศจรรย์. Right?
275
774000
2000
ไม่เพียงแค่เราจะสามารถสร้างอวัยวะเทียม
สำหรับคนที่พิการทางการมองเห็น
13:08
So not only can we createสร้าง a prostheticเทียม for the visuallyสายตา impairedวิกล,
276
776000
2000
13:10
but we can alsoด้วย investigateสอบสวน how people
277
778000
3000
แต่เรายังสามารถศึกษา
13:13
literallyอย่างแท้จริง make senseความรู้สึก of the worldโลก.
278
781000
3000
ว่าผู้คนทำความเข้าใจโลก
กันอย่างไรด้วย?
เรายังสามารถทำสิ่งอื่นได้อีก
13:16
But we can alsoด้วย do something elseอื่น. We can alsoด้วย make musicเพลง with colorสี.
279
784000
4000
เราสามารถสร้างดนตรีขึ้นจากสีได้
13:20
So, workingการทำงาน with kidsเด็ก,
280
788000
2000
ด้วยความช่วยเหลือของเด็กๆ
13:22
they createdสร้าง imagesภาพ,
281
790000
2000
พวกเขาวาดภาพขึ้นมา
13:24
thinkingคิด about what mightอาจ the imagesภาพ you see
282
792000
2000
ลองคิดดูว่าภาพที่คุณเห็น
13:26
soundเสียง like if we could listen to them.
283
794000
2000
จะมีเสียงเป็นอย่างไรถ้าเราสามารถฟังมันได้
13:28
And then we translatedแปล these imagesภาพ.
284
796000
2000
เราทำการแปลภาพวาดเหล่านั้น
13:30
And this is one of those imagesภาพ.
285
798000
2000
และนี่ก็เป็นหนึ่งในภาพเหล่านั้น
13:32
And this is a six-year-oldหกปี childเด็ก composingเขียน a pieceชิ้น of musicเพลง
286
800000
3000
นี่เป็นเด็กหกขวบที่แต่งเพลงเพลงหนึ่ง
13:35
for a 32-piece-ชิ้น orchestraวงออเคสตรา.
287
803000
3000
สำหรับวงออร์เคสตรา 32 ชิ้น
13:38
And this is what it soundsเสียง like.
288
806000
2000
นี่เป็นเสียงของมัน
(เสียงเพลงอิเล็กทรอนิกส์
เลียนแบบวงออร์เคสตรา)
14:06
So, a six-year-oldหกปี childเด็ก. Okay?
289
834000
3000
ผลงานจากเด็กหกขวบ
ทั้งหมดนี้หมายถึงอะไร?
14:09
Now, what does all this mean?
290
837000
3000
14:12
What this suggestsแสดงให้เห็น is that no one is an outsideด้านนอก observerผู้สังเกตการณ์
291
840000
3000
มันบอกเราว่า มันไม่มีผู้สังเกตการณ์
ที่อยู่ภายนอกระบบธรรมชาติ
14:15
of natureธรรมชาติ. Okay?
292
843000
2000
พวกเราไม่ได้ถูกนิยามโดยคุณสมบัติภายในของเรา
14:17
We are not definedที่กำหนดไว้ by our centralศูนย์กลาง propertiesคุณสมบัติ,
293
845000
2000
14:19
by the bitsเกร็ด that make us up.
294
847000
2000
จากเซลล์แต่ละเซลล์ที่ประกอบกันเป็นตัวเรา
แต่เราถูกนิยามโดยสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา
และการปฏิสัมพันธ์ของเรากับมัน
14:21
We're definedที่กำหนดไว้ by our environmentสิ่งแวดล้อม and our interactionปฏิสัมพันธ์ with that environmentสิ่งแวดล้อม --
295
849000
3000
14:24
by our ecologyนิเวศวิทยา.
296
852000
2000
ในระบบนิเวศของเรา
14:26
And that ecologyนิเวศวิทยา is necessarilyจำเป็นต้อง relativeญาติ,
297
854000
4000
ทั้งในเชิงความสัมพันธ์ ในเชิงประวัติศาสตร์
และในเชิงประสบการณ์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
14:30
historicalประวัติศาสตร์ and empiricalเชิงประจักษ์.
298
858000
2000
14:32
So what I'd like to finishเสร็จสิ้น with is this over here.
299
860000
6000
ผมอยากจะปิดท้ายการพูดด้วยสิ่งนี้
14:38
Because what I've been tryingพยายาม to do is really celebrateฉลอง uncertaintyความไม่แน่นอน.
300
866000
3000
เพราะว่าสิ่งที่ผมได้พยายามทำ
ก็คือ การยกย่องความไม่แน่นอน
14:41
Because I think only throughตลอด uncertaintyความไม่แน่นอน is there potentialที่อาจเกิดขึ้น for understandingความเข้าใจ.
301
869000
4000
ผมคิดว่า โดยอาศัยความไม่แน่นอนเท่านั้น
ที่มีศักยภาพในการทำความเข้าใจ
14:45
So, if some of you are still feelingความรู้สึก a bitบิต too certainบาง,
302
873000
3000
หากบางคนยังคงรู้สึกถึงความเที่ยงแท้แน่นอนอยู่
14:48
I'd like to do this one.
303
876000
2000
ผมอยากจะแสดงสิ่งนี้ให้ดู
ช่วยปิดไฟบนเวทีด้วยครับ
14:50
So, if we have the lightsไฟ down.
304
878000
2000
14:52
And what we have here --
305
880000
6000
บนเวทีนี้เรามี
14:58
Can everyoneทุกคน see 25 purpleสีม่วง surfacesพื้นผิว
306
886000
3000
ทุกคนเห็นช่องสีม่วง 25 ช่อง
ทางด้านซ้าย
15:01
on your left,
307
889000
2000
15:03
and 25, call it yellowishค่อนข้างเหลือง, surfacesพื้นผิว on your right?
308
891000
4000
และช่องสีเหลือง 25 ช่อง
ทางด้านขวา ใช่ไหม?
15:07
So, now, what I want to do:
309
895000
2000
สิ่งที่ผมจะทำ คือ
ผมจะปิดช่องตรงกลาง 9 ช่องนี้ด้วย
15:09
I'm going to put the middleกลาง nineเก้า surfacesพื้นผิว here
310
897000
2000
15:11
underภายใต้ yellowสีเหลือง illuminationประภาส
311
899000
2000
แสงสีเหลือง
15:13
by simplyง่ายดาย puttingวาง a filterกรอง behindหลัง them.
312
901000
4000
โดยใช้แผ่นกรองแสงวางที่ด้านหลัง
15:17
All right. Now you can see that changesการเปลี่ยนแปลง the lightเบา
313
905000
3000
ทีนี้คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของแสง
ที่ส่องออกมาตรงนั้น
15:20
that's comingมา throughตลอด there. Right?
314
908000
2000
เพราะตอนนี้แสงส่องผ่านแผ่นกรองแสงสีเหลือง
15:22
Because now the lightเบา is going throughตลอด a yellowishค่อนข้างเหลือง filterกรอง
315
910000
2000
15:24
and then a purplishสีม่วง filterกรอง.
316
912000
2000
และผ่านแผ่นกรองแสงสีม่วง
15:26
I'm going to do this oppositeตรงข้าม on the left here.
317
914000
5000
ผมจะทำสิ่งตรงกันข้ามที่กระดานด้านซ้าย
ผมจะใส่แผ่นกรองแสงสีม่วงที่ 9 ช่องตรงกลาง
15:31
I'm going to put the middleกลาง nineเก้า underภายใต้ a purplishสีม่วง lightเบา.
318
919000
7000
15:38
Now, some of you will noticeแจ้งให้ทราบ that the consequenceผลพวง is that
319
926000
4000
ทีนี้บางคนอาจจะเห็นแล้วว่า
15:42
the lightเบา comingมา throughตลอด those middleกลาง nineเก้า on the right,
320
930000
3000
แสงที่ผ่านช่องตรงกลาง 9 ช่อง
15:45
or your left,
321
933000
2000
ทางซ้ายมือ
นั้นเหมือนกันกับแสงที่ผ่าน
15:47
is exactlyอย่างแน่นอน the sameเหมือนกัน as the lightเบา comingมา throughตลอด
322
935000
2000
ช่องตรงกลาง 9 ช่องทางขวามือ
15:49
the middleกลาง nineเก้า on your right.
323
937000
2000
15:51
Agreedตกลง? Yes?
324
939000
3000
เห็นตรงกันนะครับ
พวกมันเหมือนกันในเชิงกายภาพ
15:54
Okay. So they are physicallyทางร่างกาย the sameเหมือนกัน.
325
942000
2000
15:56
Let's pullดึง the coversปก off.
326
944000
6000
ทีนี้ลองดึงเอาฉากกั้นด้านหน้าออก
16:02
Now rememberจำ,
327
950000
4000
จำไว้ว่า
คุณรู้ว่าช่องตรงกลาง 9 ช่องนั้นเหมือนกัน
16:06
you know the middleกลาง nineเก้า are exactlyอย่างแน่นอน the sameเหมือนกัน.
328
954000
3000
16:09
Do they look the sameเหมือนกัน? No.
329
957000
4000
ตอนนี้มันยังดูเหมือนกันอยู่ไหมครับ?
ไม่เหมือนแล้ว
คำถามคือ "นี่เป็นภาพลวงตาหรือไม่?"
16:13
The questionคำถาม is, "Is that an illusionภาพมายา?"
330
961000
2000
ผมจะทิ้งไว้ให้เก็บไปคิดนะครับ
16:15
And I'll leaveออกจาก you with that.
331
963000
2000
ขอบคุณมากครับ
(เสียงปรบมือ)
16:17
So, thank you very much.
332
965000
2000
16:19
(Applauseการปรบมือ)
333
967000
3000

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Beau Lotto - Neuroscientist, Artist
Beau Lotto is founder of Lottolab, a hybrid art studio and science lab. With glowing, interactive sculpture -- and old-fashioned peer-reviewed research--he's illuminating the mysteries of the brain's visual system.

Why you should listen

"Let there be perception," was evolution's proclamation, and so it was that all creatures, from honeybees to humans, came to see the world not as it is, but as was most useful. This uncomfortable place--where what an organism's brain sees diverges from what is actually out there--is what Beau Lotto and his team at Lottolab are exploring through their dazzling art-sci experiments and public illusions. Their Bee Matrix installation, for example, places a live bee in a transparent enclosure where gallerygoers may watch it seek nectar in a virtual meadow of luminous Plexiglas flowers. (Bees, Lotto will tell you, see colors much like we humans do.) The data captured isn't just discarded, either: it's put to good use in probing scientific papers, and sometimes in more exhibits.

At their home in London’s Science Museum, the lab holds "synesthetic workshops" where kids and adults make abstract paintings that computers interpret into music, and they host regular Lates--evenings of science, music and "mass experiments." Lotto is passionate about involving people from all walks of life in research on perception--both as subjects and as fellow researchers. One such program, called "i,scientist," in fact led to the publication of the first ever peer-reviewed scientific paper written by schoolchildren ("Blackawton Bees," December 2010). It starts, "Once upon a time ..."

These and Lotto's other conjurings are slowly, charmingly bending the science of perception--and our perceptions of what science can be.

More profile about the speaker
Beau Lotto | Speaker | TED.com

Data provided by TED.

This site was created in May 2015 and the last update was on January 12, 2020. It will no longer be updated.

We are currently creating a new site called "eng.lish.video" and would be grateful if you could access it.

If you have any questions or suggestions, please feel free to write comments in your language on the contact form.

Privacy Policy

Developer's Blog

Buy Me A Coffee