TED2008
Laura Trice: Remember to say thank you
ลอร่า ไทรซ์ แนะนำให้เราทุกคนพูดขอบคุณ
Filmed:
Readability: 2.4
2,449,953 views
ในการพูด 3 นาที่ที่ดูแสนจะเรียบง่ายนี้ ดร. ลอร่า ไทรซ์ ได้พูดถึงความวิเศษของคำว่า "ขอบคุณ" ที่มีอำนาจในการกระชับมิตรภาพ ฟื้นฟูความสัมพันธ์ และ ตอกย้ำให้คนอื่นรู้ว่าพวกเขามีค่าต่อคุณแค่ไหน แค่ลองพูดดู
Laura Trice - Counselor, coach and baker
Laura Trice is a counselor, life coach -- and purveyor of wholesome junk food. Full bio
Laura Trice is a counselor, life coach -- and purveyor of wholesome junk food. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:18
Hi. I'm here to talk to you about the importance of
0
0
4000
สวัสดีค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อเล่าให้คุณฟังถึงความสำคัญ
00:22
praise, admiration and thank you,
1
4000
3000
ของการยกย่อง การชื่่นชม และ การขอบคุณ
00:25
and having it be specific and genuine.
2
7000
2000
และการมีสิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจนและจริงใจ
00:27
And the way I got interested in this was,
3
9000
2000
สิ่งที่ทำให้ฉันสนใจในเรื่องนี้ ก็คือ
00:29
I noticed in myself, when I was growing up,
4
11000
3000
ฉันสังเกตตัวเองในช่วงที่ฉันกำลังเติบโต
00:32
and until about a few years ago,
5
14000
1000
และจนกระทั่งเมื่อสองสามปีที่ผ่านมา
00:33
that I would want to say thank you to someone,
6
15000
2000
ว่าฉันอยากจะพูดขอบคุณใครซักคน
00:35
I would want to praise them,
7
17000
1000
ฉันอยากจะเอ่ยคำชื่นชมผู้คน
00:36
I would want to take in their praise of me
8
18000
2000
ฉันอยากจะซึมซับความชื่นชมที่พวกเขามีต่อฉัน
00:38
and I'd just stop it.
9
20000
2000
แต่ฉันก็จะหยุดมันไว้
00:40
And I asked myself, why?
10
22000
3000
ฉันก็ถามตัวเองว่า ทำไม?
00:43
I felt shy, I felt embarrassed.
11
25000
2000
ฉันรู้สึกอาย ฉันรู้สึกเขิน
00:45
And then my question became,
12
27000
2000
และคำถามของฉันกลายเป็นว่า
00:47
am I the only one who does this?
13
29000
2000
ฉันเป็นคนเดียวหรือที่รู้สึกเช่นนี้หรือเปล่า
00:49
So, I decided to investigate.
14
31000
1000
ฉันจึงตัดสินใจเริ่มค้นหาคำตอบ
00:50
I'm fortunate enough to work in the rehab facility,
15
32000
3000
ฉันโชคดีที่ได้ทำงานในสถานบำบัด
00:53
so I get to see people who are facing life and death with addiction.
16
35000
3000
ฉันจึงมีโอกาสได้เห็นผู้คนที่ต้องเผชิญกับความเป็นความตายที่เกิดจากการเสพติด
00:56
And sometimes it comes down to something as simple as,
17
38000
4000
ซึ่งบางทีต้นตอของปัญหาก็มาจากสิ่งเล็กๆน้อยๆ เช่น
01:00
their core wound is their father died without ever saying he's proud of them.
18
42000
5000
บาดแผลที่แท้จริงของพวกเขา คือ พ่อของเขาเสียชีวิตไปโดยไม่ได้พูดว่าภูมิใจในตัวเขา
01:05
But then, they hear from all the family and friends
19
47000
2000
แต่แล้วเขาได้ยินจากครอบครัวและเพื่อนฝูง
01:07
that the father told everybody else that he was proud of him,
20
49000
3000
ว่าพ่อของเขาบอกทุกคนว่าภูมิใจในตัวเขา
01:10
but he never told the son.
21
52000
1000
แค่พ่อของเขาไม่เคยเอ่ยสิ่งนี้กับลูกชาย
01:11
It's because he didn't know that his son needed to hear it.
22
53000
3000
เพราะพ่อไม่รู้ว่าลูกชายของเขาต้องการได้ยินมัน
01:14
So my question is, why don't we ask for the things that we need?
23
56000
4000
คำถามของฉัน คือ ทำไมเราจึงไม่ถามหาสิ่งที่เราต้องการละ
01:18
I know a gentleman, married for 25 years,
24
60000
2000
ฉันรู้จักสุภาพบุรุษท่านหนึ่งที่แต่งงานมาแล้ว 25 ปี
01:20
who's longing to hear his wife say,
25
62000
2000
เขารอคอยที่จะได้ยินภรรยาของเขาพูดว่า
01:22
"Thank you for being the breadwinner, so I can stay home with the kids,"
26
64000
3000
"ขอบคุณที่ทำหน้าที่ผู้หาเลี้ยงครอบครัวเพื่อให้ฉันได้อยู่บ้านกับลูกๆ"
01:25
but won't ask.
27
67000
1000
แต่เขาก็ไม่ขอ
01:26
I know a woman who's good at this.
28
68000
2000
ฉันรู้จักผู้หญิงคนหนึ่งที่เก่งเรื่องนี้
01:28
She, once a week, meets with her husband and says,
29
70000
2000
เธอพบกับสามีสัปดาห์ละครั้งและพูดว่า
01:30
"I'd really like you to thank me for all these things I did in the house and with the kids."
30
72000
4000
"ฉันอยากจะให้คุณขอบคุณฉันสำหรับทุกสิ่งที่ฉันทำในบ้านหลังนี้และที่ฉันทำกับลูกๆ"
01:34
And he goes, "Oh, this is great, this is great."
31
76000
3000
เขาก็จะเริ่ม "โอ้ นี่ดีจริงๆ, นี่ดีจริงๆ"
01:37
And praise really does have to be genuine,
32
79000
2000
การชื่นชมจะต้องเป็นสิ่งที่จริงใจ
01:39
but she takes responsibility for that.
33
81000
2000
แต่เธอก็รับรู้ได้ถึงสิ่งนั้น
01:41
And a friend of mine, April, who I've had since kindergarten,
34
83000
3000
เพื่อนของฉันคนหนึ่ง ชื่อ เอพริล ซึ่งฉันรู้จักตั้งแต่อนุบาล
01:44
she thanks her children for doing their chores.
35
86000
3000
เธอขอบคุณลูกๆที่ทำงานบ้าน
01:47
And she said, "Why wouldn't I thank it, even though they're supposed to do it?"
36
89000
2000
เธอบอกว่า "ทำไมฉันจะไม่ควรขอบคุณละ ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่พวกเขาควรจะทำอยู่แล้ว?"
01:49
So, the question is, why was I blocking it?
37
91000
2000
ดังนั้น คำถามก็คือ ทำไมฉันถึงปิดกั้นสิ่งนี้?
01:51
Why were other people blocking it?
38
93000
1000
ทำไมคนอื่นๆจึงปิดกั้นสิ่งนี้?
01:52
Why can I say, "I'll take my steak medium rare,
39
94000
3000
ทำไมฉันถึงสามารถพูดว่า "ฉันต้องการเนื้อเสต็คแบบสุกปานกลาง
01:55
I need size six shoes," but I won't say,
40
97000
3000
ฉันต้องการรองเท้าเบอร์ 6" แต่ฉันไม่สามารถพูดว่า
01:58
"Would you praise me this way?"
41
100000
2000
"ฉันต้องการให้คุณชื่นชมฉันแบบนี้?"
02:00
And it's because I'm giving you critical data about me.
42
102000
4000
ก็เพราะฉันกำลังให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับฉันแก่คุณ
02:04
I'm telling you where I'm insecure.
43
106000
2000
ฉันกำลังบอกคุณว่า ฉันรู้สึกไม่มั่นคงตรงไหน
02:06
I'm telling you where I need your help.
44
108000
2000
ฉันกำลังบอกคุณว่า ฉันต้องการความช่วยเหลือตรงไหน
02:08
And I'm treating you, my inner circle,
45
110000
3000
และฉันกำลังปฏิบัติต่อคุณซึ่งเป็นคนวงในของฉัน
02:11
like you're the enemy.
46
113000
2000
เฉกเช่นคุณเป็นศัตรู
02:13
Because what can you do with that data?
47
115000
2000
เพราะคุณสามารถทำอะไรได้ด้วยข้อมูลเหล่านี้?
02:15
You could neglect me.
48
117000
2000
คุณสามารถเมินเฉยต่อฉัน
02:17
You could abuse it.
49
119000
1000
คุณสามารถใช้มันทำร้ายฉัน
02:18
Or you could actually meet my need.
50
120000
2000
หรือ คุณอาจจะสามารถสนองความต้องการของฉันก็ได้
02:20
And I took my bike into the bike store-- I love this --
51
122000
2000
ฉันได้นำจักรยานของฉันไปที่ร้าน --ฉันชอบสิ่งนี้มาก--
02:22
same bike, and they'd do something called "truing" the wheels.
52
124000
3000
จักรยานคันเดิม แล้วเขาจะทำบางอย่างที่เรียกว่า "ตั้งศูนย์" ล้อ
02:25
The guy said, "You know, when you true the wheels,
53
127000
2000
คนที่ร้านบอกว่า "คุณรู้ไหม เมื่อคุณตั้งศูนย์ล้อ
02:27
it's going to make the bike so much better."
54
129000
1000
มันจะช่วยทำให้จักรยานดีขึ้นมากทีเดียว"
02:28
I get the same bike back,
55
130000
2000
ฉันได้จักรยานคันเดิมคืนมา
02:30
and they've taken all the little warps out of those same wheels
56
132000
3000
ซึ่งเขาได้ปรับแต่งส่วนคดงอเล็กๆน้อยๆออกจากล้อวงเดิม
02:33
I've had for two and a half years, and my bike is like new.
57
135000
3000
ซึ่งฉันมีมาสองปีครึ่ง และจักรยานของฉันก็เหมือนใหม่เลย
02:36
So, I'm going to challenge all of you.
58
138000
2000
ดังนั้น ฉันจะขอท้าทายคุณทุกคน
02:38
I want you to true your wheels:
59
140000
2000
ฉันอยากให้คุณตั้งศูนย์ล้อตัวเอง
02:40
be honest about the praise that you need to hear.
60
142000
3000
ซื่อสัตย์กับคำชื่นชมที่คุณอยากได้ยิน
02:43
What do you need to hear? Go home to your wife --
61
145000
2000
อะไรคือสิ่งที่คุณอยากได้ยิน? กลับบ้านไปหาภรรยาของคุณ
02:45
go ask her, what does she need?
62
147000
2000
เข้าไปถามเธอ ว่าเธอต้องการอะไร?
02:47
Go home to your husband -- what does he need?
63
149000
2000
กลับบ้านไปหาสามีของคุณ -- เขาต้องการอะไร?
02:49
Go home and ask those questions, and then help the people around you.
64
151000
3000
กลับบ้านและถามคำถามเหล่านี้ และ ช่วยผู้คนรอบๆตัวคุณ
02:52
And it's simple.
65
154000
1000
มันง่ายมาก
02:53
And why should we care about this?
66
155000
2000
แล้วทำไมเราต้องใส่ใจเรื่องนี้ด้วย?
02:55
We talk about world peace.
67
157000
1000
เราพูดถึงเรื่องสันติภาพโลก
02:56
How can we have world peace with different cultures, different languages?
68
158000
3000
เราจะมีสันติภาพโลกได้อย่างไรด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่าง ภาษาที่แตกต่าง?
02:59
I think it starts household by household, under the same roof.
69
161000
4000
ฉันคิดว่ามันต้องเริ่มจากครอบครัว ภายใต้หลังคาเดียวกัน
03:03
So, let's make it right in our own backyard.
70
165000
2000
ดังนั้น มาเริ่มจากการทำสิ่งที่อยู่ในบ้านเราให้ถูกต้อง
03:05
And I want to thank all of you in the audience
71
167000
2000
และ ฉันอยากจะขอบคุณทุกคนในที่นี้
03:07
for being great husbands, great mothers,
72
169000
2000
ที่เป็นสามีที่ดี แม่ที่ดี
03:09
friends, daughters, sons.
73
171000
2000
เป็นเพื่อน เป็นลูกสาว เป็นลูกชาย
03:11
And maybe somebody's never said that to you,
74
173000
1000
บางทีอาจจะไม่มีใครบอกคุณ
03:12
but you've done a really, really good job.
75
174000
2000
แต่คุณได้ทำสิ่งที่ดีมากๆ
03:14
And thank you for being here, just showing up
76
176000
3000
และ ขอขอบคุณที่ทุกคนมาอยู่ที่นี้
03:17
and changing the world with your ideas.
77
179000
3000
และ เปลี่ยนแปลงโลกด้วยความคิดของคุณ
03:20
Thank you.
78
182000
2000
ขอบคุณค่ะ
03:22
(Applause)
79
184000
7000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Laura Trice - Counselor, coach and bakerLaura Trice is a counselor, life coach -- and purveyor of wholesome junk food.
Why you should listen
Dr. Laura Trice is a therapist and coach, devoted to practices that help people find fulfillment. She's created a therapeutic program called Writing in Recovery that uses creative skills such as journaling and music to help people develop better self-awareness and set goals. She's taught this program at such well-known clinics as Betty Ford and Promises. She's the author of the book How to Work Any 12-Step Program.
In her other life, she is the head of Laura's Wholesome Junk Food, making healthy cookies and brownies.
Laura Trice | Speaker | TED.com