TEDGlobal 2011
Mark Pagel: How language transformed humanity
มาร์ค เพเจิล (Mark Pagel) : ภาษาพลิกมนุษยชาติ
Filmed:
Readability: 4.2
1,708,914 views
นักชีววิทยา มาร์ค เพเจิล (Mark Pagel) แบ่งปันทฤษฎีที่น่าสนใจว่า ทำไมมนุษย์ถึงมีวิวัฒนาการทางภาษาอย่างซับซ้อน เขาเสนอว่าภาษาคือ "เทคโนโลยีทางสังคม" ที่ทำให้มนุษย์ยุคแรกสามารถเข้าถึงเครื่องมือที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่ง นั่นคือ ความร่วมมือ
Mark Pagel - Evolutionary biologist
Using biological evolution as a template, Mark Pagel wonders how languages evolve. Full bio
Using biological evolution as a template, Mark Pagel wonders how languages evolve. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
Each of you possesses
0
0
2000
พวกเราทุกคน
00:17
the most powerful, dangerous and subversive trait
1
2000
3000
ต่างมีลักษณะเฉพาะที่ทั้งทรงพลัง อันตราย และพลังทำลายล้างสูงที่สุด
00:20
that natural selection has ever devised.
2
5000
3000
เท่าที่ธรรมชาติเคยสร้างมา
00:23
It's a piece of neural audio technology
3
8000
3000
มันเป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเสียงและระบบประสาท
00:26
for rewiring other people's minds.
4
11000
2000
สำหรับดัดแปลงความคิดของผู้อื่น
00:28
I'm talking about your language, of course,
5
13000
3000
แน่นอนครับ ผมกำลังพูดถึงภาษาของเรา
00:31
because it allows you to implant a thought from your mind
6
16000
3000
เพราะมันทำให้คุณสามารถนำความคิดของคุณ
00:34
directly into someone else's mind,
7
19000
3000
ไปฝังไว้ในสมองของคนอื่นได้โดยตรง
00:37
and they can attempt to do the same to you,
8
22000
2000
และในทางกลับกัน คนเหล่านั้นก็ทำกับคุณได้เช่นเดียวกัน
00:39
without either of you having to perform surgery.
9
24000
3000
โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดใดๆเลย
00:42
Instead, when you speak,
10
27000
2000
เวลาที่คุณพูด
00:44
you're actually using a form of telemetry
11
29000
2000
จริงๆ แล้วคุณกำลังสื่อสารทางไกล
00:46
not so different
12
31000
2000
ในแบบเดียวกับ
00:48
from the remote control device for your television.
13
33000
2000
ที่เราใช้รีโมทควบคุมโทรทัศน์
00:50
It's just that, whereas that device
14
35000
2000
เพียงแค่ว่า รีโมทนั้นพึ่งพา
00:52
relies on pulses of infrared light,
15
37000
2000
การปิดเปิดแสงอินฟราเรดให้เป็นจังหวะ
00:54
your language relies on pulses,
16
39000
3000
แต่ภาษาของเราพึ่งพา
00:57
discrete pulses, of sound.
17
42000
2000
จังหวะของคลื่นเสียง
00:59
And just as you use the remote control device
18
44000
3000
และในทางเดียวกันกับที่เราใช้รีโมท
01:02
to alter the internal settings of your television
19
47000
2000
เพื่อปรับเปลี่ยนการทำงานภายในของโทรทัศน์
01:04
to suit your mood,
20
49000
2000
ตามที่เราต้องการ
01:06
you use your language
21
51000
2000
เราใช้ภาษาของเรา
01:08
to alter the settings inside someone else's brain
22
53000
2000
เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนความคิดของคนอื่น
01:10
to suit your interests.
23
55000
2000
ตามสิ่งที่เราสนใจ
01:12
Languages are genes talking,
24
57000
2000
ภาษาคือการสื่อสารของพันธุกรรม
01:14
getting things that they want.
25
59000
2000
เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่มันต้องการ
01:16
And just imagine the sense of wonder in a baby
26
61000
3000
ลองนึกภาพเด็กทารกดูสิครับ มันน่าอัศจรรย์แค่ไหน
01:19
when it first discovers that, merely by uttering a sound,
27
64000
3000
เมื่อทารกรับรู้ว่า เขาสามารถทำให้สิ่งของเคลื่อนที่ไปมาในห้องได้
01:22
it can get objects to move across a room
28
67000
2000
เพียงแค่เปล่งเสียงออกมา
01:24
as if by magic,
29
69000
2000
ประหนึ่งการใช้เวทย์มนต์
01:26
and maybe even into its mouth.
30
71000
3000
อาจะทำให้สิ่งนั้นเคลื่อนที่เข้าปากได้เลยด้วยซ้ำ
01:29
Now language's subversive power
31
74000
2000
เรารู้ว่าภาษามีพลังทำลายล้างสูง
01:31
has been recognized throughout the ages
32
76000
2000
มานานมากแล้ว
01:33
in censorship, in books you can't read,
33
78000
2000
จากการเซ็นเซอร์เนื้อหา จากหนังสือต้องห้าม
01:35
phrases you can't use
34
80000
2000
จากวลีที่ไม่ควรใช้
01:37
and words you can't say.
35
82000
2000
ไปจนถึงศัพท์ที่ต้องห้าม
01:39
In fact, the Tower of Babel story in the Bible
36
84000
3000
อันที่จริง เรื่องของหอคอยบาเบล ในไบเบิล
01:42
is a fable and warning
37
87000
2000
เป็นเรื่องราวที่คอยเตือนเรา
01:44
about the power of language.
38
89000
2000
ถือพลังของภาษา
01:46
According to that story, early humans developed the conceit
39
91000
3000
เรื่องราวมีอยู่ว่า มนุษย์ในอดีตมีความเชื่อว่า
01:49
that, by using their language to work together,
40
94000
2000
ถ้าเราร่วมมือกันโดยใช้ภาษาเข้าช่วย
01:51
they could build a tower
41
96000
2000
เราสามารถสร้างหอคอยสูงเสียดฟ้า
01:53
that would take them all the way to heaven.
42
98000
2000
ที่จะนำพาทุกคนไปสวรรค์
01:55
Now God, angered at this attempt to usurp his power,
43
100000
3000
เมื่อพระเจ้าได้ยินถึงความพยายามจะช่วงชิงอำนาจจากพระองค์เช่นนี้จึงโมโหมาก
01:58
destroyed the tower,
44
103000
3000
พระองค์จึงทำลายหอคอยทิ้ง
02:01
and then to ensure
45
106000
2000
และเพื่อให้แน่ใจว่า
02:03
that it would never be rebuilt,
46
108000
2000
หอคอยนี้จะไม่ถูกสร้างขึ้นอีก
02:05
he scattered the people by giving them different languages --
47
110000
3000
พระเจ้าจึงมอบภาษาที่หลากหลายให้มนุษย์
02:08
confused them by giving them different languages.
48
113000
3000
ให้พวกมนุษย์สับสนจากภาษาเหล่านี้
02:11
And this leads to the wonderful irony
49
116000
2000
ซึ่งนำมาสู่การเหน็บแนม
02:13
that our languages exist to prevent us from communicating.
50
118000
3000
ที่ว่าภาษาขัดขวางไม่ให้เราติดต่อสื่อสารกันได้
02:16
Even today,
51
121000
2000
แม้กระทั่งทุกวันนี้
02:18
we know that there are words we cannot use,
52
123000
2000
เรามีศัพท์ที่เราไม่ควรใช้
02:20
phrases we cannot say,
53
125000
2000
และวลีที่ต้องห้าม
02:22
because if we do so,
54
127000
2000
เพราะถ้าหากเราพูดออกไป
02:24
we might be accosted, jailed,
55
129000
3000
เราอาจถูกตักเตือน จับเข้าคุก
02:27
or even killed.
56
132000
2000
หรือแม้กระทั่งถูกฆ่าตาย
02:29
And all of this from a puff of air
57
134000
2000
และทั้งหมดนี้เกิดจากอากาศ
02:31
emanating from our mouths.
58
136000
2000
ที่ออกมาจากปากของพวกเรา
02:33
Now all this fuss about a single one of our traits
59
138000
3000
และเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับลักษณะพิเศษของมนุษย์นี้
02:36
tells us there's something worth explaining.
60
141000
2000
บ่งบอกว่า มีอะไรบางอย่างที่สำคัญ
02:38
And that is how and why
61
143000
2000
นั่นก็คือ ภาษาถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างไร
02:40
did this remarkable trait evolve,
62
145000
2000
และเพื่ออะไร
02:42
and why did it evolve
63
147000
2000
และทำไมถึงมีเฉพาะมนุษย์
02:44
only in our species?
64
149000
2000
ที่พัฒนาภาษาได้ถึงขนาดนี้
02:46
Now it's a little bit of a surprise
65
151000
2000
มันน่าแปลกใจเล็กน้อยครับ
02:48
that to get an answer to that question,
66
153000
2000
ที่เราจะตอบคำถามนี้ได้
02:50
we have to go to tool use
67
155000
2000
โดยใช้เครื่องมือ
02:52
in the chimpanzees.
68
157000
2000
ที่ใช้โดยลิงชิมแปนซี
02:54
Now these chimpanzees are using tools,
69
159000
2000
ชิมแปนซีเหล่านี้รู้จักการใช้เครื่องมือ
02:56
and we take that as a sign of their intelligence.
70
161000
3000
ซึ่งเราถือว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกระดับสติปัญญา
02:59
But if they really were intelligent,
71
164000
2000
แต่ถ้าพวกมันมีสติปัญญาจริงๆ
03:01
why would they use a stick to extract termites from the ground
72
166000
3000
ทำไมมันถึงใช้ไม้เขี่ยปลวกออกจากพื้นดิน
03:04
rather than a shovel?
73
169000
2000
แทนที่จะใ้ช้พลั่ว
03:06
And if they really were intelligent,
74
171000
3000
และถ้าพวกมันมีสติปัญญาจริงๆ
03:09
why would they crack open nuts with a rock?
75
174000
2000
ทำไมมันมัวแต่กระเทาะเปลือกถั่วด้วยหิน
03:11
Why wouldn't they just go to a shop and buy a bag of nuts
76
176000
3000
ทำไมมันไม่ไปซื้อถั่วที่กระเทาะเปลือกเรียบร้อยแล้ว
03:14
that somebody else had already cracked open for them?
77
179000
3000
จากร้านขายถั่ว
03:17
Why not? I mean, that's what we do.
78
182000
2000
ทำไมล่ะ มันคือสิ่งที่มนุษย์อย่างเราทำมิใช่หรือ
03:19
Now the reason the chimpanzees don't do that
79
184000
2000
สาเหตุที่ชิมแปนซีไม่ทำอะไรแบบนั้น
03:21
is that they lack what psychologists and anthropologists call
80
186000
3000
เกิดจากสิ่งที่นักจิตวิทยา และนักมานุษยวิทยาเรียกว่า
03:24
social learning.
81
189000
2000
การเรียนรู้ทางสังคม
03:26
They seem to lack the ability
82
191000
2000
พวกมันไม่มีความสามารถ
03:28
to learn from others
83
193000
2000
ในการเรียนรู้จากลิงตัวอื่น
03:30
by copying or imitating
84
195000
2000
โดยการเลียนแบบ
03:32
or simply watching.
85
197000
2000
หรือจากการเฝ้ามองลิงอีกตัว
03:34
As a result,
86
199000
2000
ผลก็คือ
03:36
they can't improve on others' ideas
87
201000
2000
มันไม่สามารถพัฒนาจากความคิดของตัวอื่น
03:38
or learn from others' mistakes --
88
203000
2000
หรือเรียนรู้ความผิดพลาดของตัวอื่น
03:40
benefit from others' wisdom.
89
205000
2000
เพื่อสั่งสมเป็นปัญญาของตนเอง
03:42
And so they just do the same thing
90
207000
2000
พวกมันเลยทำสิ่งเดิมๆ
03:44
over and over and over again.
91
209000
2000
ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
03:46
In fact, we could go away for a million years and come back
92
211000
4000
ถ้าเราไปเที่ยวนอกโลกสักล้านปี แล้วกลับมา
03:50
and these chimpanzees would be doing the same thing
93
215000
3000
ลิงชิมแปนซีพวกนี้ก็จะยังทำแต่สิ่งเดิมๆ
03:53
with the same sticks for the termites
94
218000
2000
ใช้ไม้เขี่ยหาปลวก
03:55
and the same rocks to crack open the nuts.
95
220000
3000
ใช้หินแกะเปลือกถั่ว
03:58
Now this may sound arrogant, or even full of hubris.
96
223000
3000
มันฟังดูเหยียดหยามชิมแปนซีพวกนี้มาก
04:01
How do we know this?
97
226000
2000
เรารู้ได้อย่างไร?
04:03
Because this is exactly what our ancestors, the Homo erectus, did.
98
228000
3000
เพราะนี่คือสิ่งที่บรรพบุรุษของพวกเรา โฮโม อีเรกตัส (Homo Erectus) ทำ
04:06
These upright apes
99
231000
2000
ลิงที่ยืนตัวตรงได้พวกนี้
04:08
evolved on the African savanna
100
233000
2000
วิวัฒนาการมาจากทุ่งหญ้าในแอฟริกา
04:10
about two million years ago,
101
235000
2000
ตั้งแต่เมื่อประมาณ 2 ล้านปีที่แล้ว
04:12
and they made these splendid hand axes
102
237000
2000
พวกเขาสร้างขวานเหล่านี้ขึ้น
04:14
that fit wonderfully into your hands.
103
239000
2000
ขนาดพอดีมือเลย
04:16
But if we look at the fossil record,
104
241000
2000
แต่ถ้าเราลองดูหลักฐานจากซากฟอสซิล
04:18
we see that they made the same hand axe
105
243000
3000
เราจะเห็นว่าเขาทำขวานพวกนี้
04:21
over and over and over again
106
246000
2000
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
04:23
for one million years.
107
248000
2000
เป็นเวลากว่าหนึ่งล้านปี
04:25
You can follow it through the fossil record.
108
250000
2000
คุณสามารถดูหลักฐานได้จากซากฟอสซิล
04:27
Now if we make some guesses about how long Homo erectus lived,
109
252000
2000
ถ้าเราลองคำนวณอายุขัยของ โฮโม อีเรกตัส คร่าวๆ
04:29
what their generation time was,
110
254000
2000
เพื่อนับจำนวนชั่วรุ่น
04:31
that's about 40,000 generations
111
256000
3000
คิดเป็น 40,000 ชั่วคนได้เลยครับ
04:34
of parents to offspring, and other individuals watching,
112
259000
3000
จากพ่อแม่สู่รุ่นลูก จากลิงรอบตัวที่คอยมอง
04:37
in which that hand axe didn't change.
113
262000
2000
แล้วขวานนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย
04:39
It's not even clear
114
264000
2000
เรายังไม่แน่ใจด้วยซ้ำ
04:41
that our very close genetic relatives, the Neanderthals,
115
266000
2000
ว่าญาติทางพันธุกรรมของเรา อย่างมนุษย์ยุคหิน (Neanderthals)
04:43
had social learning.
116
268000
2000
เคยมีการเรียนรู้ทางสังคมหรือเปล่า
04:45
Sure enough, their tools were more complicated
117
270000
3000
แน่นอนว่าเครื่องมือของมนุษย์ยุคหิน
04:48
than those of Homo erectus,
118
273000
2000
มีความซับซ้อนกว่าของ โฮโม อีเรกตัส
04:50
but they too showed very little change
119
275000
2000
แต่เราก็เห็นความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
04:52
over the 300,000 years or so
120
277000
3000
ตลอดกว่า 300,000 ปี
04:55
that those species, the Neanderthals,
121
280000
2000
ที่มนุษย์ยุคหินพวกนี้
04:57
lived in Eurasia.
122
282000
2000
อาศัยอยู่ในทวีปยูเรเซีย (Eurasia)
04:59
Okay, so what this tells us
123
284000
2000
เราจึงรู้ว่า
05:01
is that, contrary to the old adage,
124
286000
3000
ภาษิตเก่าแก่ของเรา
05:04
"monkey see, monkey do,"
125
289000
3000
"ลิงเห็น ลิงทำ" "monkey see, monkey do,"
05:07
the surprise really is
126
292000
2000
จริงๆแล้ว
05:09
that all of the other animals
127
294000
2000
สัตว์อื่นๆทั้งหมดทั้งปวง
05:11
really cannot do that -- at least not very much.
128
296000
3000
ทำแบบนั้นไม่ได้ หรือได้ในระดับที่น้อยมากๆ
05:14
And even this picture
129
299000
2000
แม้แต่ในภาพนี้
05:16
has the suspicious taint of being rigged about it --
130
301000
3000
ที่ได้มาจากละครสัตว์แห่งหนึ่ง (Barnum & Bailey)
05:19
something from a Barnum & Bailey circus.
131
304000
2000
ก็ดูขัดธรรมชาติเอามากๆ
05:21
But by comparison,
132
306000
2000
เมื่อย้อนมามองดูตัวเราเอง
05:23
we can learn.
133
308000
2000
เราเรียนรู้ได้
05:25
We can learn by watching other people
134
310000
3000
เราสามารถเรียนรู้ โดยการมองผู้อื่น
05:28
and copying or imitating
135
313000
2000
แล้วเลียนแบบ เอาเป็นแบบอย่าง
05:30
what they can do.
136
315000
2000
ว่าคนคนนั้นทำอะไร ทำอย่างไร
05:32
We can then choose, from among a range of options,
137
317000
3000
แล้วเราก็มาเลือกได้ว่า
05:35
the best one.
138
320000
2000
สิ่งไหนคือวิธีที่ดีที่สุด
05:37
We can benefit from others' ideas.
139
322000
2000
เราได้ประโยชน์จากความคิดของผู้อื่น
05:39
We can build on their wisdom.
140
324000
2000
เราสามารถสร้างปัญญาของตนเองจากปัญญาของผู้อื่น
05:41
And as a result, our ideas do accumulate,
141
326000
3000
ผลลัพธ์ก็คือ เราสั่งสมความคิดรวมกันได้
05:44
and our technology progresses.
142
329000
4000
เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีต่อไป
05:48
And this cumulative cultural adaptation,
143
333000
5000
และการปรับตัวสะสมทางวัฒนธรรมเช่นนี้
05:53
as anthropologists call
144
338000
2000
หรือที่นักมานุษยวิทยาเรียกว่า
05:55
this accumulation of ideas,
145
340000
2000
การสั่งสมความคิด
05:57
is responsible for everything around you
146
342000
2000
เป็นเหตุผลที่พวกเราในที่นี้
05:59
in your bustling and teeming everyday lives.
147
344000
2000
ต่างวุ่นวายทำงานร่วมกันในทุกวันนี้
06:01
I mean the world has changed out of all proportion
148
346000
2000
โลกใบนี้ช่างเปลี่ยนจากหน้่ามือเป็นหลังมือ
06:03
to what we would recognize
149
348000
2000
แม้จะลองมองกลับไป
06:05
even 1,000 or 2,000 years ago.
150
350000
3000
เพียง 1,000 หรือ 2,000 ปีก่อนเท่านั้น
06:08
And all of this because of cumulative cultural adaptation.
151
353000
3000
และทั้งหมดเกิดขึ้นจากการปรับตัวสะสมทางวัฒนธรรม
06:11
The chairs you're sitting in, the lights in this auditorium,
152
356000
2000
เก้าอี้ที่คุณนั่งอยู่ หลอดไฟที่อยู่ในห้องประชุมนี้
06:13
my microphone, the iPads and iPods that you carry around with you --
153
358000
3000
ไมโครโฟนของผม ไอแพดและไอพอดที่คุณพกติดตัว
06:16
all are a result
154
361000
2000
ทั้งหมดเกิดขึ้นจาก
06:18
of cumulative cultural adaptation.
155
363000
2000
การปรับตัวสะสมทางวัฒนธรรม
06:20
Now to many commentators,
156
365000
4000
หลายคนอาจกล่าวว่า
06:24
cumulative cultural adaptation, or social learning,
157
369000
3000
การปรับตัวสะสมทางวัฒนธรรม หรือการเรียนรู้ทางสังคม
06:27
is job done, end of story.
158
372000
3000
เป็นสิ่งที่ตายตัวแล้ว
06:30
Our species can make stuff,
159
375000
3000
เผ่าพันธุ์ของเราสามารถสร้างสิ่งต่างๆ นาๆ
06:33
therefore we prospered in a way that no other species has.
160
378000
3000
เราจึงเจริญรุ่งเรืองกว่าเผ่าพันธุ์ไหนๆ
06:36
In fact, we can even make the "stuff of life" --
161
381000
3000
เราสามารถสร้าง "สรรพสิ่งของชีวิต"
06:39
as I just said, all the stuff around us.
162
384000
2000
สร้างทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา
06:41
But in fact, it turns out
163
386000
2000
แต่จริงๆแล้ว
06:43
that some time around 200,000 years ago,
164
388000
3000
เมื่อ 200,000 ปีก่อน
06:46
when our species first arose
165
391000
2000
ในช่วงที่เผ่าพันธุ์ของเรา
06:48
and acquired social learning,
166
393000
2000
เริ่มรู้จักการเรียนรู้ทางสังคม
06:50
that this was really the beginning of our story,
167
395000
2000
นั่นคือจุดเริ่มต้นของเราครับ
06:52
not the end of our story.
168
397000
2000
ไม่ใช่ตอนจบของนิทาน
06:54
Because our acquisition of social learning
169
399000
3000
เพราะการที่เรารู้จักการเรียนรู้ทางสังคม
06:57
would create a social and evolutionary dilemma,
170
402000
3000
เราได้ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทั้งทางสังคมและทางวิวัฒนาการ
07:00
the resolution of which, it's fair to say,
171
405000
3000
ที่จะเป็นตัวกำหนด
07:03
would determine not only the future course of our psychology,
172
408000
4000
ไม่ใช่เพียงแค่ความคิดของเราในอนาคต
07:07
but the future course of the entire world.
173
412000
2000
แต่ชะตาของโลกทั้งใบ
07:09
And most importantly for this,
174
414000
3000
และที่สำคัญที่สุด
07:12
it'll tell us why we have language.
175
417000
3000
มันคือสิ่งที่อธิบายว่า ทำไมเราถึงมีภาษาใช้
07:15
And the reason that dilemma arose
176
420000
2000
และภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้น
07:17
is, it turns out, that social learning is visual theft.
177
422000
3000
ก็เพราะว่าการเรียนรู้ทางสังคม เป็นการโจรกรรมทางสายตา
07:20
If I can learn by watching you,
178
425000
3000
เพราะถ้าผมสามารถเรียนรู้โดยมองคุณเฉยๆ
07:23
I can steal your best ideas,
179
428000
2000
ผมสามารถขโมยความคิดเจ๋งๆของคุณ
07:25
and I can benefit from your efforts,
180
430000
3000
ได้ประโยชน์จากการทุ่มเทของคุณ
07:28
without having to put in the time and energy that you did
181
433000
2000
โดยไม่ต้องเสียเวลา เสียแรงไปกับการพัฒนาความคิดนั้น
07:30
into developing them.
182
435000
2000
อย่างที่คุณต้องทำ
07:32
If I can watch which lure you use to catch a fish,
183
437000
3000
ถ้าผมเห็นเหยื่อที่คุณใช้ในการตกปลา
07:35
or I can watch how you flake your hand axe
184
440000
2000
หรือวิธีการลับขวาน
07:37
to make it better,
185
442000
2000
ให้คมกริบ
07:39
or if I follow you secretly to your mushroom patch,
186
444000
3000
หรือถ้าผมสะกดรอยตามคุณไปในแปลงเพาะเห็ด
07:42
I can benefit from your knowledge and wisdom and skills,
187
447000
3000
ผมสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากความรู้่ ปัญญา และความสามารถของคุณ
07:45
and maybe even catch that fish
188
450000
2000
หรืออาจจับปลาได้เก่งกว่าคุณ
07:47
before you do.
189
452000
2000
ก็เป็นไปได้
07:49
Social learning really is visual theft.
190
454000
3000
การเรียนรู้ทางสังคม เป็นการโจรกรรมทางสายตาจริงๆ
07:52
And in any species that acquired it,
191
457000
2000
และเผ่าพันธุ์ใดก็ตามที่มีความสามารถนี้
07:54
it would behoove you
192
459000
2000
จะทำให้คุณพยายามอย่างที่สุด
07:56
to hide your best ideas,
193
461000
2000
เพื่อปิดบังความคิดเจ๋งๆของคุณ
07:58
lest somebody steal them from you.
194
463000
3000
เพราะเกรงว่าใครจะมาขโมยมันไป
08:02
And so some time around 200,000 years ago,
195
467000
3000
เมื่อ 200,000 ปีที่แล้ว
08:05
our species confronted this crisis.
196
470000
3000
เผ่าพันธุ์ของเราประสบปัญหานี้ครับ
08:08
And we really had only two options
197
473000
3000
เรามีเพียงสองทางเลือก
08:11
for dealing with the conflicts
198
476000
2000
เพื่อจัดการกับปัญหา
08:13
that visual theft would bring.
199
478000
2000
ที่เกิดจากการโจรกรรมทางสายตา
08:15
One of those options
200
480000
2000
หนทางหนึ่งคือ
08:17
was that we could have retreated
201
482000
3000
เราสามารถถอยร่น
08:20
into small family groups.
202
485000
2000
ไปอาศัยเป็นครอบครัวเล็กๆ
08:22
Because then the benefits of our ideas and knowledge
203
487000
3000
เพื่อที่ผลประโยชน์จากความคิดของคุณ
08:25
would flow just to our relatives.
204
490000
2000
จะตกอยู่กับลูกหลานคุณเท่านั้น
08:27
Had we chosen this option,
205
492000
2000
ถ้าเราเลือกจะเดินทางนี้
08:29
sometime around 200,000 years ago,
206
494000
3000
เมื่อ 200,000 ปีที่แล้ว
08:32
we would probably still be living like the Neanderthals were
207
497000
3000
พวกเราคงยังอาศัยอยู่แบบมนุษย์หิน
08:35
when we first entered Europe 40,000 years ago.
208
500000
3000
เมื่อครั้งที่เราเข้าสู่ยุโรปเมื่อ 40,000 ปีที่แล้ว
08:38
And this is because in small groups
209
503000
2000
เพราะว่าในกลุ่มเล็กๆ
08:40
there are fewer ideas, there are fewer innovations.
210
505000
3000
เราจะมีความคิดจำนวนน้อยลง มีนวัตกรรมน้อยลง
08:43
And small groups are more prone to accidents and bad luck.
211
508000
3000
และกลุ่มเล็กๆก็ง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุ และโชคไม่ดี
08:46
So if we'd chosen that path,
212
511000
2000
ถ้าเราเลือกทางเดินนั้น
08:48
our evolutionary path would have led into the forest --
213
513000
3000
วิวัฒนาการของเราคงพาเราไปอยู่ในป่า
08:51
and been a short one indeed.
214
516000
2000
และเราคงมาไม่ได้ถึงตรงนี้
08:53
The other option we could choose
215
518000
2000
อีกทางเลือกหนึ่งที่เราเลือกได้
08:55
was to develop the systems of communication
216
520000
3000
ึคือการพัฒนาวิธีการสื่อสาร
08:58
that would allow us to share ideas
217
523000
2000
ที่ทำให้เราแบ่งปันความคิด
09:00
and to cooperate amongst others.
218
525000
3000
และร่วมมือกับคนอื่นๆได้
09:03
Choosing this option would mean
219
528000
2000
การเลือกทางเดินนี้ทำให้เรา
09:05
that a vastly greater fund of accumulated knowledge and wisdom
220
530000
3000
สั่งสมความรู้และปัญญาที่สูงกว่ามาก
09:08
would become available to any one individual
221
533000
3000
ที่สามารถแบ่งปันกับผู้อื่นได้
09:11
than would ever arise from within an individual family
222
536000
3000
มากกว่าความรู้ที่เราจะสร้างได้เองภายในครอบครัว
09:14
or an individual person on their own.
223
539000
3000
หรือด้วยตัวคนเดียว
09:18
Well, we chose the second option,
224
543000
3000
แล้วเราก็เลือกทางเลือกที่สอง
09:21
and language is the result.
225
546000
3000
ภาษาคือสิ่งที่เราได้จากการเดินทางสายนั้น
09:24
Language evolved to solve the crisis
226
549000
2000
ภาษาถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้วิกฤติ
09:26
of visual theft.
227
551000
2000
ของการโจรกรรมทางสายตา
09:28
Language is a piece of social technology
228
553000
3000
ภาษาเป็นเทคโนโลยีทางสังคม
09:31
for enhancing the benefits of cooperation --
229
556000
3000
ที่ช่วยให้การร่วมมือกันได้ผลลัพธ์ดีขึ้น
09:34
for reaching agreements, for striking deals
230
559000
3000
ทำให้เราบรรลุข้อตกลง
09:37
and for coordinating our activities.
231
562000
4000
และเพื่อให้เราประสานงานได้ดีขึ้น
09:41
And you can see that, in a developing society
232
566000
2000
และคุณจะเห็นได้ว่า ในสังคมที่กำลังพัฒนา
09:43
that was beginning to acquire language,
233
568000
2000
ที่กำลังจะมีภาษาของตน
09:45
not having language
234
570000
2000
การไม่มีภาษา
09:47
would be a like a bird without wings.
235
572000
2000
เป็นดั่งนกที่ไม่มีปีกบิน
09:49
Just as wings open up this sphere of air
236
574000
3000
ดังที่ปีกนกเปิดท้องฟ้า
09:52
for birds to exploit,
237
577000
2000
ให้เหล่านกได้โบยบินหาประโยชน์
09:54
language opened up the sphere of cooperation
238
579000
2000
ภาษาก็เปิดความร่วมมือ
09:56
for humans to exploit.
239
581000
2000
ให้มนุษย์ได้หาประโยชน์จากมัน
09:58
And we take this utterly for granted,
240
583000
2000
และเราคิดว่านี่คือเรื่องปกติของเรา
10:00
because we're a species that is so at home with language,
241
585000
3000
เพราะเผ่าพันธุ์ของเราช่างคุ้นเคยกับการมีภาษาใช้เป็นอย่างดี
10:03
but you have to realize
242
588000
2000
แต่คุณต้องเข้าใจว่า
10:05
that even the simplest acts of exchange that we engage in
243
590000
3000
แม้แต่การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เรียบง่ายที่สุด
10:08
are utterly dependent upon language.
244
593000
3000
เราก็ยังต้องพึ่งพาภาษา
10:11
And to see why, consider two scenarios
245
596000
2000
การที่เราจะเข้าใจได้ ลองนึกถึงสองสถานการณ์
10:13
from early in our evolution.
246
598000
2000
จากวิวัฒนาการช่วงแรกๆของพวกเรา
10:15
Let's imagine that you are really good
247
600000
2000
สมมติว่าคุณผลิตหัวธนู
10:17
at making arrowheads,
248
602000
2000
ได้เก่งมากๆ
10:19
but you're hopeless at making the wooden shafts
249
604000
3000
แต่คุณทำลำธนู
10:22
with the flight feathers attached.
250
607000
3000
ที่มีขนนกติดได้ห่วยได้ใจ
10:25
Two other people you know are very good at making the wooden shafts,
251
610000
3000
แล้วคุณมีเพื่ีอนสองคน ที่ทำลำธนูเก่งมากๆ
10:28
but they're hopeless at making the arrowheads.
252
613000
3000
แต่ทำหัวธนูไม่เป็นเอาซะเลย
10:31
So what you do is --
253
616000
2000
เพราะฉะนั้น สิ่งที่คุณจะทำ --
10:33
one of those people has not really acquired language yet.
254
618000
3000
หนึ่งในสองคนนั้น ยังเรียนรู้ภาษาไม่เป็น
10:36
And let's pretend the other one is good at language skills.
255
621000
2000
ส่วนอีกคนหนึ่งนั้น มีทักษะภาษาดีแล้ว
10:38
So what you do one day is you take a pile of arrowheads,
256
623000
3000
สิ่งที่คุณจะทำคือ คุณแบกหัวธนู
10:41
and you walk up to the one that can't speak very well,
257
626000
2000
ไปให้คนที่พูดไม่ค่อยได้
10:43
and you put the arrowheads down in front of him,
258
628000
2000
คุณวางหัวธนูไว้ด้านหน้าเขา
10:45
hoping that he'll get the idea that you want to trade your arrowheads
259
630000
3000
โดยหวังว่าเขาจะเข้าใจ ว่าคุณต้องการแลกเปลี่ยนหัวธนูของคุณ
10:48
for finished arrows.
260
633000
2000
กับธนูที่พร้อมใช้งาน
10:50
But he looks at the pile of arrowheads, thinks they're a gift,
261
635000
2000
แต่คนนั้นเห็นธนูของคุณ คิดว่าคุณมาให้เขาเป็นของขวัญ
10:52
picks them up, smiles and walks off.
262
637000
3000
หยิบหัวธนูของคุณขึ้นมา ยิ้มให้คุณ แล้วเดินจากไป
10:55
Now you pursue this guy, gesticulating.
263
640000
2000
คุณตามชายคนนี้ไป พยายามแสดงท่าทางให้เขาเข้าใจ
10:57
A scuffle ensues and you get stabbed
264
642000
2000
การต่อสู้เกิดขึ้น แล้วคุณก็ถูกแทง
10:59
with one of your own arrowheads.
265
644000
3000
ด้วยหัวธนูของคุณเอง
11:02
Okay, now replay this scene now, and you're approaching the one who has language.
266
647000
3000
ตอนนี้ ลองย้อนกลับมาตั้งแต่ต้น คุณไปหาคนที่พูดรู้เรื่องแทน
11:05
You put down your arrowheads and say,
267
650000
2000
คุณวางหัวธนูของคุณลง แล้วพูดว่า
11:07
"I'd like to trade these arrowheads for finished arrows. I'll split you 50/50."
268
652000
3000
"ผมอยากแลกหัวธนูเหล่านี้ กับธนูที่พร้อมใช้ เราแบ่งกันคนละครึ่งนะ"
11:10
The other one says, "Fine. Looks good to me.
269
655000
2000
อีกคนหนึ่งกล่าว "ได้ ดีเหมือนกัน
11:12
We'll do that."
270
657000
3000
ตกลงตามนั้น"
11:15
Now the job is done.
271
660000
3000
ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี
11:18
Once we have language,
272
663000
2000
เมื่อเรามีภาษา
11:20
we can put our ideas together and cooperate
273
665000
2000
เราสามารถนำความคิดหลายๆคนมารวมกัน
11:22
to have a prosperity
274
667000
2000
เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรือง
11:24
that we couldn't have before we acquired it.
275
669000
3000
ที่เราไม่มีทางได้มา หากไม่มีภาษา
11:27
And this is why our species
276
672000
2000
และนี่คือเหตุผลที่เผ่าพันธุ์ของเรา
11:29
has prospered around the world
277
674000
2000
เจริญมั่งคั่งทั่วทุกมุมโลก
11:31
while the rest of the animals
278
676000
2000
ในขณะที่สัตว์ที่เหลือ
11:33
sit behind bars in zoos, languishing.
279
678000
3000
ต้องอาศัยอยู่ในกรงอย่างไร้เรี่ยวแรง
11:36
That's why we build space shuttles and cathedrals
280
681000
3000
นั่นคือเหตุผลที่เราสามารถสร้างตึกรามบ้านช่อง สร้างกระสวยอวกาศ
11:39
while the rest of the world sticks sticks into the ground
281
684000
2000
ในขณะที่สัตว์ที่เหลือบนโลก ยังพยายามใช้ไม้เขี่ยพื้นดิน
11:41
to extract termites.
282
686000
2000
เพื่อขุดคุ้ยหาปลวกออกมากิน
11:43
All right, if this view of language
283
688000
3000
ถ้ามุมมองที่ว่า ภาษาและคุณค่าของมัน
11:46
and its value
284
691000
2000
เป็นการแก้ปัญหา
11:48
in solving the crisis of visual theft is true,
285
693000
3000
ของการโจรกรรมทางสายตา
11:51
any species that acquires it
286
696000
2000
เผ่าพันธุ์ใดก็ตามที่มีภาษาใช้
11:53
should show an explosion of creativity and prosperity.
287
698000
3000
ก็ควรมีความคิดสร้างสรรค์และความเจริญรุ่งเรืองอย่างหยุดไม่อยู่
11:56
And this is exactly what the archeological record shows.
288
701000
3000
และนี่คือสิ่งที่หลักฐานทางโบราณคดียืนยัน
11:59
If you look at our ancestors,
289
704000
2000
ถ้าเรามองกลับไปยังบรรพบุรุษโดยตรงของเรา
12:01
the Neanderthals and the Homo erectus, our immediate ancestors,
290
706000
3000
เหล่ามนุษย์ยุคหิน (Neanderthals) และ โฮโม อีเรกตัส (Homo Erectus)
12:04
they're confined to small regions of the world.
291
709000
3000
พวกเขาอาศัยอยู่ในส่วนเล็กๆของโลกใบนี้
12:07
But when our species arose
292
712000
2000
แต่เมื่อเผ่าพันธุ์ของเราถือกำเนิดขึ้น
12:09
about 200,000 years ago,
293
714000
2000
เมื่อประมาณ 200,000 ปีที่แล้ว
12:11
sometime after that we quickly walked out of Africa
294
716000
3000
เราก็ออกจากทวีปแอฟริกาอย่างรวดเร็ว
12:14
and spread around the entire world,
295
719000
3000
และแพร่กระจายไปทั่วโลก
12:17
occupying nearly every habitat on Earth.
296
722000
3000
อาศัยอยู่เกือบทุกภูมิประเทศบนโลกใบนี้
12:20
Now whereas other species are confined
297
725000
3000
ในขณะที่เผ่าพันธุ์อื่นๆ อาศัยอยู่ได้แค่
12:23
to places that their genes adapt them to,
298
728000
3000
สถานที่ที่เหมาะกับการปรับตัวทางพันธุกรรมของตัวเองเท่านั้น
12:26
with social learning and language,
299
731000
2000
สัตว์ที่มีการเรียนรู้ทางสังคม และภาษาอย่างพวกเรา
12:28
we could transform the environment
300
733000
2000
สามารถปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม
12:30
to suit our needs.
301
735000
2000
เพื่อให้เข้ากับความต้องการของเราได้
12:32
And so we prospered in a way
302
737000
2000
และนี่คือวิธีที่เราเจริญรุ่งเรือง
12:34
that no other animal has.
303
739000
2000
อย่างที่ไม่มีสัตว์ตัวไหนทำได้
12:36
Language really is
304
741000
3000
ภาษาคือคุณลักษณะพิเศษ
12:39
the most potent trait that has ever evolved.
305
744000
3000
ที่มีอำนาจมากที่สุด เท่าที่เคยมีวิวัฒนาการมา
12:42
It is the most valuable trait we have
306
747000
3000
มันคือสิ่งที่มีค่าที่สุดที่เรามี
12:45
for converting new lands and resources
307
750000
3000
ในการแปลงเปลี่ยนผืนดิน และทรัพยากร
12:48
into more people and their genes
308
753000
3000
ให้เป็นจำนวนมนุษย์ และยีนให้มากขึ้น
12:51
that natural selection has ever devised.
309
756000
2000
ยิ่งกว่า กระบวนการคัดเลือกโดยธรรมชาติ (natural selection) จะทำได้
12:53
Language really is
310
758000
2000
ภาษาคือ
12:55
the voice of our genes.
311
760000
2000
เสียงของพันธุกรรม
12:57
Now having evolved language, though,
312
762000
2000
นอกจากการวิวัฒนาการภาษาแล้ว
12:59
we did something peculiar,
313
764000
2000
เรายังทำสิ่งที่ประหลาด
13:01
even bizarre.
314
766000
2000
และผิดธรรมชาติมาก
13:03
As we spread out around the world,
315
768000
2000
ในขณะที่เราแผ่ขยายไปรอบโลก
13:05
we developed thousands of different languages.
316
770000
3000
เราสร้างภาษาเป็นพันๆภาษา
13:08
Currently, there are about seven or 8,000
317
773000
2000
ขณะนี้ เรามีกว่า เจ็ดหรือแปดพันภาษา
13:10
different languages spoken on Earth.
318
775000
3000
ที่เราใช้อยู่บนโลกใบนี้
13:13
Now you might say, well, this is just natural.
319
778000
2000
คุณอาจบอกได้ว่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติ
13:15
As we diverge, our languages are naturally going to diverge.
320
780000
3000
เมื่อเราแยกตัวออกไป ภาษาของเราก็แตกต่างออกไป
13:18
But the real puzzle and irony
321
783000
2000
แต่สิ่งที่น่าแปลกที่สุด
13:20
is that the greatest density of different languages on Earth
322
785000
3000
คือความแตกต่างทางภาษาที่มากที่สุดในโลก
13:23
is found where people are most tightly packed together.
323
788000
4000
อยู่ในบริเวณที่ผู้คนอยู่รวมกันหนาแน่นที่สุด
13:27
If we go to the island of Papua New Guinea,
324
792000
2000
ถ้าเราไปเกาะปาปัวนิวกีนี
13:29
we can find about 800 to 1,000
325
794000
3000
เราจะพบ 800 ถึง 1,000 ภาษา
13:32
distinct human languages,
326
797000
2000
ที่แตกต่างกันออกไป
13:34
different human languages,
327
799000
2000
ไม่ซ้ำรูปแบบกัน
13:36
spoken on that island alone.
328
801000
2000
บนเกาะนั้นๆ เกาะเดียว
13:38
There are places on that island
329
803000
2000
มีบริเวณบนเกาะนั้น
13:40
where you can encounter a new language
330
805000
2000
ที่คุณจะเจอภาษาใหม่
13:42
every two or three miles.
331
807000
2000
ทุกๆ สองถึงสามไมล์
13:44
Now, incredible as this sounds,
332
809000
2000
ที่น่าอัศจรรย์คือ
13:46
I once met a Papuan man, and I asked him if this could possibly be true.
333
811000
3000
ผมถามชาวท้องถิ่น ว่ามันจริงหรือไม่
13:49
And he said to me, "Oh no.
334
814000
2000
เขาบอกว่า "ไม่หรอก
13:51
They're far closer together than that."
335
816000
3000
มันใกล้กันยิ่งกว่านั้นเสียอีก"
13:54
And it's true; there are places on that island
336
819000
2000
มันคือเรื่องจริงครับ มีบางส่วนของเกาะนั้น
13:56
where you can encounter a new language in under a mile.
337
821000
3000
ที่คุณจะได้ยินภาษาใหม่ ภายในรัศมีหนึ่งไมล์
13:59
And this is also true of some remote oceanic islands.
338
824000
3000
เฉกเช่นเดียวกันกับบนเกาะอีกหลายเกาะ
14:03
And so it seems that we use our language,
339
828000
2000
ดังนั้น เราไม่ได้ใช้ภาษา
14:05
not just to cooperate,
340
830000
2000
เพียงเพื่อการร่วมมือกัน
14:07
but to draw rings around our cooperative groups
341
832000
3000
แต่เพื่อสร้างอาณาเขตของการร่วมมือ
14:10
and to establish identities,
342
835000
2000
เพื่อสร้างตัวตนของตนเอง
14:12
and perhaps to protect our knowledge and wisdom and skills
343
837000
3000
และเพื่อปกป้อง ความรู้ ปัญญา และความสามารถที่เรามี
14:15
from eavesdropping from outside.
344
840000
3000
ไม่ให้คนอื่นมาแอบได้ยิน
14:18
And we know this
345
843000
2000
และเรามั่นใจได้
14:20
because when we study different language groups
346
845000
2000
เพราะเวลาเราศึกษากลุ่มคนต่างภาษา
14:22
and associate them with their cultures,
347
847000
2000
และเชื่อมโยงพวกเขากับวัฒนธรรมของเขา
14:24
we see that different languages
348
849000
2000
เราจะเห็นว่าภาษาที่ต่างกัน
14:26
slow the flow of ideas between groups.
349
851000
3000
มีส่วนชะลอการถ่ายทอดของความคิด จากกลุ่มสู่กลุ่ม
14:29
They slow the flow of technologies.
350
854000
3000
ภาษาชะลอการถ่ายทอดเทคโนโลยี
14:32
And they even slow the flow of genes.
351
857000
3000
แม้กระทั่งชะลอการถ่ายทอดพันธุกรรม
14:35
Now I can't speak for you,
352
860000
2000
ผมคงพูดแทนคุณไม่ได้
14:37
but it seems to be the case
353
862000
2000
แต่มันดูเหมือนเรื่องจริง
14:39
that we don't have sex with people we can't talk to.
354
864000
3000
ว่าเราไม่ค่อยมีเซ็กส์กับคนที่เราพูดด้วยไม่รู้เรื่อง
14:43
(Laughter)
355
868000
2000
(เสียงหัวเราะ)
14:45
Now we have to counter that, though,
356
870000
2000
นี่คือหลักฐานยืนยัน
14:47
against the evidence we've heard
357
872000
2000
เพื่อปฏิเสธว่า
14:49
that we might have had some rather distasteful genetic dalliances
358
874000
3000
ไม่เคยเกิดการเกี้ยวพาราสีขึ้น
14:52
with the Neanderthals and the Denisovans.
359
877000
2000
ระหว่างมนุษย์ยุคหิน และมนุษย์แถบเทือกเขาอัลไต
14:54
(Laughter)
360
879000
2000
(เสียงหัวเราะ)
14:56
Okay, this tendency we have,
361
881000
2000
แนวโน้มที่เราพูดถึงนี้
14:58
this seemingly natural tendency we have,
362
883000
2000
เป็นสิ่งที่มีตามธรรมชาติ
15:00
towards isolation, towards keeping to ourselves,
363
885000
3000
ที่ว่าเราพยายามปิดกั้นตนเอง
15:03
crashes head first into our modern world.
364
888000
3000
ดูแตกต่างจากโลกสมัยใหม่โดยสิ้นเชิง
15:06
This remarkable image
365
891000
2000
ภาพที่เห็นนี้
15:08
is not a map of the world.
366
893000
2000
ไม่ใช่แผนที่โลก
15:10
In fact, it's a map of Facebook friendship links.
367
895000
4000
มันคือแผนที่ความสัมพันธ์บนเฟสบุ๊ค
15:14
And when you plot those friendship links
368
899000
2000
เมื่อคุณวาดความสัมพันธ์เหล่านี้
15:16
by their latitude and longitude,
369
901000
2000
ตามเส้นรุ้งเส้นแวง
15:18
it literally draws a map of the world.
370
903000
3000
มันกลายเป็นแผนที่โลก
15:21
Our modern world is communicating
371
906000
2000
โลกปัจจุบันของเรากำลังสื่อสาร
15:23
with itself and with each other
372
908000
2000
ระหว่างตนเอง และกับคนอื่นๆ
15:25
more than it has
373
910000
2000
มากกว่าที่เคยเกิดขึ้น
15:27
at any time in its past.
374
912000
2000
ครั้งใดในอดีต
15:29
And that communication, that connectivity around the world,
375
914000
3000
และการสื่อสาร การเชื่อมโยงกันที่เกิดขึ้นทั่วโลก
15:32
that globalization
376
917000
2000
ทำให้เกิดโลกาภิวัฒน์
15:34
now raises a burden.
377
919000
3000
กำลังกลายเป็นภาระ
15:37
Because these different languages
378
922000
2000
เพราะภาษาที่แตกต่างกันออกไปนี้
15:39
impose a barrier, as we've just seen,
379
924000
2000
กลายเป็นอุปสรรค ดังที่เราเห็น
15:41
to the transfer of goods and ideas
380
926000
2000
ต่อการส่งผ่านความคิด
15:43
and technologies and wisdom.
381
928000
2000
เทคโนโลยี และปัญญา
15:45
And they impose a barrier to cooperation.
382
930000
3000
และเป็นอุปสรรคต่อการร่วมมือกัน
15:48
And nowhere do we see that more clearly
383
933000
3000
และเราคงไม่มีหลักฐานไหนชัดเจนไปกว่า
15:51
than in the European Union,
384
936000
2000
สหภาพยุโรป
15:53
whose 27 member countries
385
938000
3000
ที่ประเทศสมาชิก 27 ประเทศ
15:56
speak 23 official languages.
386
941000
3000
มีภาษาทางการ 23 ภาษา
15:59
The European Union
387
944000
2000
สหภาพยุโรป
16:01
is now spending over one billion euros annually
388
946000
4000
เสียเงินกว่าหนึ่งพันล้านยูโรต่อปี
16:05
translating among their 23 official languages.
389
950000
3000
เพื่อแปลไปมาระหว่าง 23 ภาษานี้
16:08
That's something on the order
390
953000
2000
คิดเป็นเงินดอลล่าร์
16:10
of 1.45 billion U.S. dollars
391
955000
2000
กว่า 1.45 พันล้านดอลล่าร์
16:12
on translation costs alone.
392
957000
3000
เพื่อการแปลภาษาล้วนๆ
16:15
Now think of the absurdity of this situation.
393
960000
2000
มันดูไม่สมเหตุสมผลมากๆครับ หากลองนึกดูดีๆ
16:17
If 27 individuals
394
962000
2000
ถ้ามีตัวแทน 27 คน
16:19
from those 27 member states
395
964000
2000
จากประเทศสมาชิก 27 ประเทศ
16:21
sat around table, speaking their 23 languages,
396
966000
3000
นั่งรวมกัน ต่างคนต่างพูดภาษาทั้ง 23 ภาษาของตนเอง
16:24
some very simple mathematics will tell you
397
969000
2000
คณิตศาสตร์ง่ายๆบอกคุณได้ว่า
16:26
that you need an army of 253 translators
398
971000
4000
คุณต้องมีกองทัพล่ามกว่า 253 คน
16:30
to anticipate all the pairwise possibilities.
399
975000
4000
เพื่อทำหน้าที่ล่ามตัวต่อตัวสำหรับทุกคน
16:34
The European Union employs a permanent staff
400
979000
3000
สหภาพยุโรปมีพนักงานล่ามประจำ
16:37
of about 2,500 translators.
401
982000
2000
กว่า 2,500 คน
16:39
And in 2007 alone --
402
984000
2000
และในปี 2543 ปีเดียว --
16:41
and I'm sure there are more recent figures --
403
986000
2000
ซึ่งอาจมีตัวเลขที่ใหม่กว่านี้อีก --
16:43
something on the order of 1.3 million pages
404
988000
3000
สหภาพยุโรปมีเอกสารกว่า 1.3 ล้านหน้ากระดาษ
16:46
were translated into English alone.
405
991000
3000
ที่ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษ แค่ภาษาเดียว
16:49
And so if language really is
406
994000
3000
หากภาษาคือคำตอบ
16:52
the solution to the crisis of visual theft,
407
997000
3000
สำหรับภาวะการโจรกรรมทางสายตา
16:55
if language really is
408
1000000
2000
หากภาษาจะเป็น
16:57
the conduit of our cooperation,
409
1002000
2000
ทางเชื่อมสำหรับการร่วมมือกันของเรา
16:59
the technology that our species derived
410
1004000
3000
เป็นเทคโนโลยีที่เผ่าพันธุ์ของเราคิดค้นขึ้น
17:02
to promote the free flow and exchange of ideas,
411
1007000
4000
เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิด
17:06
in our modern world,
412
1011000
2000
ในโลกปัจจุบัน
17:08
we confront a question.
413
1013000
2000
เราต้องตั้งคำถามแล้ว
17:10
And that question is whether
414
1015000
2000
และคำถามก็คือ
17:12
in this modern, globalized world
415
1017000
2000
ในโลกปัจจุบัน โลกโลกาภิวัฒน์ของเรา
17:14
we can really afford to have all these different languages.
416
1019000
3000
เราสามารถรองรับภาษาทั้งหมดบนโลกนี้ได้หรือไม่
17:17
To put it this way, nature knows no other circumstance
417
1022000
3000
หากลองมองในอีกแง่หนึ่ง ธรรมชาติไม่เคยปล่อย
17:20
in which functionally equivalent traits coexist.
418
1025000
5000
ให้คุณลักษณะที่มีประโยชน์เหมือนๆกัน อยู่ร่วมกันได้
17:25
One of them always drives the other extinct.
419
1030000
3000
จะมีคุณลักษณะหนึ่งที่อยู่รอด อีกคุณลักษณะที่หดหายไปเสมอ
17:28
And we see this in the inexorable march
420
1033000
2000
และเรากำลังเห็นการมุ่งหน้า
17:30
towards standardization.
421
1035000
2000
ไปสู่มาตรฐานเดียวกัน
17:32
There are lots and lots of ways of measuring things --
422
1037000
3000
มีหลายวิธีมากมายในการวัดสิ่งของ --
17:35
weighing them and measuring their length --
423
1040000
2000
การชั่งน้ำหนัก การวัดความยาว --
17:37
but the metric system is winning.
424
1042000
2000
แต่ระบบเมตริก (metric) กำลังจะชนะ
17:39
There are lots and lots of ways of measuring time,
425
1044000
3000
มีหลากหลายวิธีในการเทียบวัดเวลา
17:42
but a really bizarre base 60 system
426
1047000
3000
แต่ระบบฐาน 60
17:45
known as hours and minutes and seconds
427
1050000
2000
หรือที่เราเรียกว่า ชั่วโมง นาที และวินาที
17:47
is nearly universal around the world.
428
1052000
3000
กลับเป็นมาตรฐานสากล
17:50
There are many, many ways
429
1055000
2000
มีวิธีการมากมาย
17:52
of imprinting CDs or DVDs,
430
1057000
2000
ไว้เขียนข้อมูลลงบนซีดี หรือดีวีดี
17:54
but those are all being standardized as well.
431
1059000
3000
แต่นั่นก็กำลังกลายเป็นมาตรฐานเช่นกัน
17:57
And you can probably think of many, many more
432
1062000
3000
คุณคงนึกถึงมาตรฐานได้อีกหลายอย่าง
18:00
in your own everyday lives.
433
1065000
2000
ในชีวิตประจำวันของคุณ
18:02
And so our modern world now
434
1067000
3000
โลกปัจจุบันของเรา
18:05
is confronting us with a dilemma.
435
1070000
2000
จึงกำลังประสบกับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
18:07
And it's the dilemma
436
1072000
2000
และมันเป็นภาวะเดียวกัน
18:09
that this Chinese man faces,
437
1074000
2000
กับที่ชาวจีนผู้นี้กำลังประสบปัญหา
18:11
who's language is spoken
438
1076000
2000
ผู้ที่ภาษาของเขาถูกใช้
18:13
by more people in the world
439
1078000
2000
มากกว่าภาษาใดๆ
18:15
than any other single language,
440
1080000
3000
ที่มีอยู่บนโลกใบนี้
18:18
and yet he is sitting at his blackboard,
441
1083000
4000
แต่เขาก็ยังต้องนั่งอยู่หน้ากระดานดำ
18:22
converting Chinese phrases
442
1087000
3000
แปลวลีภาษาจีนเหล่านี้
18:25
into English language phrases.
443
1090000
2000
ให้กลายเป็นภาษาอังกฤษ
18:27
And what this does is it raises the possibility to us
444
1092000
3000
และสิ่งที่เราต้องคำนึงถึงจากจุดนี้
18:30
that in a world in which we want to promote
445
1095000
2000
บนโลกที่เราต้องการผลักดัน
18:32
cooperation and exchange,
446
1097000
2000
การร่วมมือกันและการแลกเปลี่ยน
18:34
and in a world that might be dependent more than ever before
447
1099000
3000
บนโลกที่อาจต้องพึ่งพาการร่วมมือกัน
18:37
on cooperation
448
1102000
2000
มากกว่ายุคไหนๆที่ผ่านมา
18:39
to maintain and enhance our levels of prosperity,
449
1104000
3000
เพื่อจะดำรงไว้ซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของเรา
18:42
his actions suggest to us
450
1107000
2000
ชายชาวจีนผู้นี้แสดงให้เราเห็นว่า
18:44
it might be inevitable
451
1109000
2000
เราอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้
18:46
that we have to confront the idea
452
1111000
2000
ที่วันหนึ่งเราต้องเผชิญกับความคิดที่ว่า
18:48
that our destiny is to be one world with one language.
453
1113000
3000
ชะตาจะพาเราไปพบกับ โลกที่มีภาษาหนึ่งเดียว
18:51
Thank you.
454
1116000
2000
ขอบคุณครับ
18:53
(Applause)
455
1118000
8000
(เสียงปรบมือ)
19:01
Matt Ridley: Mark, one question.
456
1126000
2000
แมทท์ ริดลีย์ (Matt Ridley): มาร์ค ขอถามหน่อยครับ
19:03
Svante found that the FOXP2 gene,
457
1128000
3000
สว๊านท์พบว่า พันธุกรรมชื่อ FOXP2 ของเรา
19:06
which seems to be associated with language,
458
1131000
2000
ซึ่งเชื่อมโยงกับภาษา
19:08
was also shared in the same form
459
1133000
2000
ก็ถูกพบในมนุษย์ยุคหิน
19:10
in Neanderthals as us.
460
1135000
2000
เฉกเช่นเดียวกับเรา
19:12
Do we have any idea
461
1137000
2000
คุณพอมีคำตอบไหมครับ
19:14
how we could have defeated Neanderthals
462
1139000
2000
ว่าเราเอาชนะมนุษย์ยุคหินได้อย่างไร
19:16
if they also had language?
463
1141000
2000
ถ้าเขามีภาษาเช่นเดียวกัน
19:18
Mark Pagel: This is a very good question.
464
1143000
2000
มาร์ค เพเจิล: เป็นคำถามที่ดีมากครับ
19:20
So many of you will be familiar with the idea that there's this gene called FOXP2
465
1145000
3000
หลายคนคงรู้จักยีนที่ชื่อ FOXP2
19:23
that seems to be implicated in some ways
466
1148000
3000
ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
19:26
in the fine motor control that's associated with language.
467
1151000
3000
กับการควบคุมเกี่ยวกับภาษา
19:29
The reason why I don't believe that tells us
468
1154000
2000
แต่ที่ผมไม่เชื่อว่า
19:31
that the Neanderthals had language
469
1156000
2000
มนุษย์ยุคหินมีภาษาใช้นั้น
19:33
is -- here's a simple analogy:
470
1158000
3000
เพราะ -- ผมจะยกตัวอย่างนะครับ
19:36
Ferraris are cars that have engines.
471
1161000
3000
รถเฟอร์รารี่มีเครื่องยนต์
19:39
My car has an engine,
472
1164000
2000
รถที่เราขับก็มีเครื่องยนต์เช่นกัน
19:41
but it's not a Ferrari.
473
1166000
2000
แต่มันไม่ใช่เฟอร์รารี่
19:43
Now the simple answer then
474
1168000
2000
คำตอบง่ายๆก็คือ
19:45
is that genes alone don't, all by themselves,
475
1170000
2000
พันธุกรรมอย่างเดียว
19:47
determine the outcome
476
1172000
2000
ไม่สามารถบ่งบอกถึง
19:49
of very complicated things like language.
477
1174000
2000
สิ่งที่สลับซับซ้อนอย่างภาษาได้
19:51
What we know about this FOXP2 and Neanderthals
478
1176000
2000
สิ่งที่เรารู้ระหว่าง FOXP2 กับมนุษย์ยุคหินนั้น
19:53
is that they may have had fine motor control of their mouths -- who knows.
479
1178000
4000
มันอาจเป็นเพียงกลไกควบคุมกล้ามเนื้อของปากเท่านั้นก็ได้ ใครจะรู้
19:57
But that doesn't tell us they necessarily had language.
480
1182000
2000
แต่มันไม่ได้หมายความว่า พวกมันมีภาษาใช้
19:59
MR: Thank you very much indeed.
481
1184000
2000
แมทท์ ริดลีย์: ขอบคุณมากครับ
20:01
(Applause)
482
1186000
3000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Mark Pagel - Evolutionary biologistUsing biological evolution as a template, Mark Pagel wonders how languages evolve.
Why you should listen
Mark Pagel builds statistical models to examine the evolutionary processes imprinted in human behavior, from genomics to the emergence of complex systems -- to culture. His latest work examines the parallels between linguistic and biological evolution by applying methods of phylogenetics, or the study of evolutionary relatedness among groups, essentially viewing language as a culturally transmitted replicator with many of the same properties we find in genes. He’s looking for patterns in the rates of evolution of language elements, and hoping to find the social factors that influence trends of language evolution.
At the University of Reading, Pagel heads the Evolution Laboratory in the biology department, where he explores such questions as, "Why would humans evolve a system of communication that prevents them with communicating with other members of the same species?" He has used statistical methods to reconstruct features of dinosaur genomes, and to infer ancestral features of genes and proteins.
He says: "Just as we have highly conserved genes, we have highly conserved words. Language shows a truly remarkable fidelity."
Mark Pagel | Speaker | TED.com