TED2004
Matthieu Ricard: The habits of happiness
แมทเทอ ริคาดร์ (Matthieu Ricard): กับนิสัยของความสุข
Filmed:
Readability: 3.8
9,314,836 views
ความสุขคืออะไร และมีวิธีที่เราทุกคนสามารถปฏิบัติได้อย่างไร? นักชีวเคมีหันเหเปลี่ยนมาเป็นพระสงฆ์ แมทเทอ ริคาดร์ (Matthieu Ricard) พูดว่าเราสามารถฝึกอบรมจิตใจของเราในนิสัยของเป็นอยู่ที่ดี ในการสร้างความรู้สึกที่แท้จริงของความสงบและความสุขที่ถาวรณ์
Matthieu Ricard - Monk, author, photographer
Sometimes called the "happiest man in the world," Matthieu Ricard is a Buddhist monk, author and photographer. Full bio
Sometimes called the "happiest man in the world," Matthieu Ricard is a Buddhist monk, author and photographer. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
So, I guess it is a result of globalization that you can find
0
0
5000
ดังนั้นผมคิดว่ามันเป็นผลของโลกาภิวัตน์ที่คุณสามารถค้นหา
00:17
Coca-Cola tins on top of Everest and a Buddhist monk in Monterey.
1
5000
5000
กระป๋อง Coca-Cola บนยอดเขา Everest
และพระสงฆ์ใน Monterey
และพระสงฆ์ใน Monterey
00:22
(Laughter)
2
10000
3000
(หัวเราะ)
00:25
And so I just came, two days ago, from the Himalayas to your kind invitation.
3
13000
6000
และดังนั้นผมจึงเพิ่งมา สองวันที่ผ่านมา
จากเทือกเขาหิมาลัยจากการเชิญของคุณ
จากเทือกเขาหิมาลัยจากการเชิญของคุณ
00:31
So I would like to invite you, also, for a while, to the Himalayas themselves.
4
19000
4000
ดังนั้นผมจึงอยากจะเชิญชวนคุณ
ยังในขณะที่ ไปยังเทือกเขาหิมาลัยตัวเอง
ยังในขณะที่ ไปยังเทือกเขาหิมาลัยตัวเอง
00:37
And to show the place where meditators, like me,
5
25000
6000
และเพื่อแสดงสถานที่ ที่นั่งสมาธิ (Meditators) เช่นฉัน
00:43
who began with being a molecular biologist in Pasteur Institute,
6
31000
4000
ที่เริ่มต้นด้วยการเป็นนักชีววิทยาโมเลกุลใน
สถานบันวิจัยพาสเทอร์ (Pasyrut Institutr)
สถานบันวิจัยพาสเทอร์ (Pasyrut Institutr)
00:47
and found their way to the mountains.
7
35000
4000
และพบทางที่สงบสู่ยอดภูเขา
00:52
So these are a few images I was lucky to take and be there.
8
40000
5000
ดังนั้นเหล่านี้เป็นเพียงไม่กี่ภาพผมโชคดีที่จะใช้และจะมี
00:58
There's the Mount Kailash in Eastern Tibet -- wonderful setting.
9
46000
6000
การตั้งค่าที่ยอดเยี่ยม -
มี Mount Kailash ในภาคตะวันออกของทิเบต
มี Mount Kailash ในภาคตะวันออกของทิเบต
01:04
This is from Marlboro country.
10
52000
2000
นี่คือจาก ทุ่งหญ้า Marlboro
01:06
(Laughter)
11
54000
5000
(หัวเราะ)
01:11
This is a turquoise lake.
12
59000
2000
นี้เป็นทะเลสาบ ฟ้าสีคราม
01:13
A meditator.
13
61000
2000
ผู้ปฏิบัตินั่งสมาธิ
01:16
This is the hottest day of the year somewhere in Eastern Tibet, on August 1.
14
64000
5000
นี้เป็นวันที่ร้อนที่สุดของปีที่ในบางแห่ง
ในภาคตะวันออกทิเบต วันที่ 1 สิงหาคม
ในภาคตะวันออกทิเบต วันที่ 1 สิงหาคม
01:21
And the night before, we camped, and my Tibetan friends said,
15
69000
5000
และคืนก่อนที่ เราตั้งค่ายพักแรม
และเพื่อนชาวทิเบตของฉันบอกว่า
และเพื่อนชาวทิเบตของฉันบอกว่า
01:26
"We are going to sleep outside." And I said, "Why? We have enough space in the tent."
16
74000
4000
"เราจะนอนข้างนอก" และผมพูดว่า "ทำไม?
เรามีพื้นที่เพียงพอในเต็นท์."
เรามีพื้นที่เพียงพอในเต็นท์."
01:30
They said, "Yes, but it's summertime."
17
78000
2000
พวกเขากล่าวว่า "ใช่ แต่ตอนนี้มันช่วงฤดูร้อน"
01:32
(Laughter)
18
80000
4000
(หัวเราะ)
01:37
So now, we are going to speak of happiness.
19
85000
3000
ดังนั้นตอนนี้ เราจะไปพูดถึงความสุข
01:40
As a Frenchman, I must say that there are a lot of French intellectuals
20
88000
4000
ผมเป็นชาวฝรั่งเศส
ผมต้องบอกว่ามีจำนวนมากคนฝรั่งเศสเป็นผู้ทรงความรู้
ผมต้องบอกว่ามีจำนวนมากคนฝรั่งเศสเป็นผู้ทรงความรู้
01:44
that think happiness is not at all interesting.
21
92000
4000
ที่คิดว่ามีความสุขไม่ได้อยู่ที่ที่น่าสนใจทั้งหมด
01:48
(Laughter)
22
96000
1000
(หัวเราะ)
01:49
I just wrote an essay on happiness, and there was a controversy.
23
97000
3000
ผมเพิ่งเขียนเรียงความความสุข และมีการโต้เถียง
01:52
And someone wrote an article saying, "Don't impose on us the dirty work of happiness."
24
100000
5000
และคนที่เขียนบทความพูด
"อย่ากำหนดเรากับความสกปรกของความสุข"
"อย่ากำหนดเรากับความสกปรกของความสุข"
01:57
(Laughter)
25
105000
2000
(หัวเราะ)
01:59
"We don't care about being happy. We need to live with passion.
26
107000
4000
"เราไม่สนใจเกี่ยวกับการมีความสุข
เราจำเป็นต้องอาศัยอยู่กับกิเลส
เราจำเป็นต้องอาศัยอยู่กับกิเลส
02:03
We like the ups and downs of life.
27
111000
3000
เราชอบการขึ้นและลงของชีวิต
02:06
We like our suffering because it's so good when it ceases for a while."
28
114000
3000
เราชอบความทุกข์ของเรา
เพราะมันเป็นความรู้สึกที่ดีชั่วครู่เมื่อมันสิ้นสุดลง "
เพราะมันเป็นความรู้สึกที่ดีชั่วครู่เมื่อมันสิ้นสุดลง "
02:09
(Laughter)
29
117000
4000
(หัวเราะ)
02:13
This is what I see from the balcony of my hermitage in the Himalayas.
30
121000
5000
นี่คือสิ่งที่ฉันเห็น
จากระเบียงของฉันอาศรมในเทือกเขาหิมาลัย
จากระเบียงของฉันอาศรมในเทือกเขาหิมาลัย
02:18
It's about two meters by three, and you are all welcome any time.
31
126000
3000
ขนาดสองคูณสามเมตร และยินดีต้อนรับคุณทั้งหมดทุกเวลา
02:21
(Laughter)
32
129000
2000
(หัวเราะ)
02:23
Now, let's come to happiness or well-being.
33
131000
6000
ตอนนี้ ขอมาเพื่อความสุขหรือเป็นอยู่อย่างสงบ
02:29
And first of all, you know, despite what the French intellectuals say,
34
137000
4000
และครั้งแรก ของทุกท่านทราบ
แม้ว่าจะมีคนฝรั่งเศสผู้ทรงความรู้ กล่าวว่า
แม้ว่าจะมีคนฝรั่งเศสผู้ทรงความรู้ กล่าวว่า
02:33
it seems that no one wakes up in the morning thinking,
35
141000
3000
ดูเหมือนว่าไม่มีใครตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วคิด
02:36
"May I suffer the whole day?"
36
144000
2000
"ขอให้ฉันมีความทุกข์ทั้งวัน?"
02:38
(Laughter)
37
146000
1000
(หัวเราะ)
02:39
Which means that somehow -- consciously or not,
38
147000
5000
ซึ่งหมายความว่าอย่างใด - รู้ตัวหรือไม่
02:44
directly or indirectly, in the short or the long term,
39
152000
4000
โดยตรงหรือโดยอ้อม ในระยะสั้นหรือระยะยาว
02:48
whatever we do, whatever we hope, whatever we dream --
40
156000
4000
สิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราหวัง สิ่งที่เราฝัน
02:52
somehow, is related to a deep, profound desire for well-being or happiness.
41
160000
8000
อย่างใดก็ตาม ทีเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้ง ความปรารถนาอย่างยิ่ง
สำหรับความเป็นอยู่อย่างสงบหรือแบบมีความสุข
สำหรับความเป็นอยู่อย่างสงบหรือแบบมีความสุข
03:00
As Pascal said, even the one who hangs himself,
42
168000
4000
Pascal กล่าวว่า แม้แต่คนที่คนที่แควนคอฆ่าตัวเอง
03:04
somehow, is looking for cessation of suffering -- he finds no other way.
43
172000
7000
อย่างใด กำลังมองหาการสิ้นสุดของความทุกข์ -
เขาพบว่าไม่มีวิธีอื่น
เขาพบว่าไม่มีวิธีอื่น
03:11
But then, if you look in the literature, East and West,
44
179000
3000
แต่แล้ว ถ้าคุณมองในวรรณคดี ตะวันออกและตะวันตก
03:14
you can find incredible diversity of definition of happiness.
45
182000
5000
คุณสามารถพบความหลากหลาย
เหลือเชื่อความหมายของความสุข
เหลือเชื่อความหมายของความสุข
03:19
Some people say, I only believed in remembering the past,
46
187000
5000
บางคนบอกว่า ฉันมีเพียงแค่เชื่อมั่นในความทรงจำที่ผ่านมา
03:24
imagining the future, never the present.
47
192000
2000
จินตนาการอนาคต ที่ไม่เคยมีอยู่ในปัจจุบัน
03:26
Some people say happiness is right now;
48
194000
3000
บางคนบอกว่ามีความสุขในขณะนี้
03:29
it's the quality of the freshness of the present moment.
49
197000
4000
มันเป็นคุณภาพความสดชื่นของปัจจุบันชั่วขณะ
03:33
And that led to Henri Bergson, the French philosopher, to say,
50
201000
4000
และที่นำไปสู่เฮนรี่ อองรี บาร์เซน (Henry Bergson)
นักปรัชญาชาวฝรั่งเศสพูด
นักปรัชญาชาวฝรั่งเศสพูด
03:37
"All the great thinkers of humanity have left happiness in the vague
51
205000
4000
"ทั้งหมดเป็นนักคิดที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ
มีความสุขที่เหลืออยู่ในความคลุมเครือ
มีความสุขที่เหลืออยู่ในความคลุมเครือ
03:41
so that they could define -- each of them could define their own terms."
52
209000
4000
เพื่อให้พวกเขาสามารถให้คำนิยาม -
แต่ละพวกเขาสามารถกำหนดนิยามของตัวเอง "
แต่ละพวกเขาสามารถกำหนดนิยามของตัวเอง "
03:46
Well, that would be fine if it was just a secondary preoccupation in life.
53
214000
5000
มันที่จะค้นพบ ถ้ามันเป็นแค่เป็นความลุ่มหลงชั่วคราวในชีวิต
03:52
But now, if it is something that is going to determine
54
220000
3000
แต่ตอนนี้ถ้ามันเป็นสิ่งที่จะไปกำหนด
03:55
the quality of every instant of our life,
55
223000
3000
คุณภาพชีวิตของเราที่สำเร็จรูป
03:58
then we better know what it is, have some clearer idea.
56
226000
5000
แล้วเรารู้ดีว่ามันคืออะไร มีบางความคิดที่ชัดเจน
04:03
And probably, the fact that we don't know that is why, so often,
57
231000
5000
และอาจจะเป็นความจริงที่เราไม่ทราบเหตุผลว่าทำไม
ดังนั้นบ่อยๆ
ดังนั้นบ่อยๆ
04:08
although we seek happiness, it seems we turn our back to it.
58
236000
3000
แม้ว่าเราแสวงหาความสุข
มันดูเหมือนว่าเราหันหลังของเราให้มัน
มันดูเหมือนว่าเราหันหลังของเราให้มัน
04:11
Although we want to avoid suffering, it seems we are running somewhat towards it.
59
239000
5000
แม้ว่าเราต้องการที่จะหลีกเลี่ยงความทุกข์
ดูเหมือนว่าเรากำลังค่อนข้างไปหามัน
ดูเหมือนว่าเรากำลังค่อนข้างไปหามัน
04:16
And that can also come from some kind of confusions.
60
244000
4000
และที่ยังสามารถมาจากประเภทของความสับสน
04:20
One of the most common ones is happiness and pleasure.
61
248000
4000
ส่วนใหญ่ที่พบมากที่สุดคือความสุขและความปารถนา
04:24
But, if you look at the characteristics of those two,
62
252000
3000
แต่ถ้าคุณดูที่ลักษณะของทั้งสอง
04:27
pleasure is contingent upon time, upon its object, upon the place.
63
255000
8000
ความปารถนาสุขจะเกิดขึ้น สุดแล้วแต่
ขี้นกับเวลา ขี้นกับวัตถุ ขี้นกับสถานที่
ขี้นกับเวลา ขี้นกับวัตถุ ขี้นกับสถานที่
04:35
It is something that -- changes of nature.
64
263000
4000
มันเป็นสิ่งที่ - การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ
04:40
Beautiful chocolate cake: first serving is delicious,
65
268000
4000
เค๊กช็อคโกแลสวยงาม: การกินครั้งแรกก็อร่อย
04:44
second one not so much, then we feel disgust.
66
272000
3000
ครั้งต่อมากินไม่มาก แล้วเราก็รู้สึกจะเอียน
04:47
(Laughter)
67
275000
2000
(หัวเราะ)
04:49
That's the nature of things. We get tired.
68
277000
4000
เป้นสิ่งธรรมชาติ เราจะเบื่อ
04:53
I used to be a fan of Bach. I used to play it on the guitar, you know.
69
281000
4000
ผมเคยเป็นแฟนของ Bach ผมเคยเล่นกีตาร์ คุณรู้
04:57
I can hear it two, three, five times.
70
285000
2000
ฉันจะได้ฟังมันสอง สาม สี่ ห้าครั้ง
04:59
If I had to hear it 24 hours, non-stop, it might be very tiring.
71
287000
5000
ถ้าผมจะได้ยินมัน 24 ชั่วโมงไม่หยุด
ก็อาจจะเบื่อมาก
ก็อาจจะเบื่อมาก
05:04
If you are feeling very cold, you come near a fire, it's so wonderful.
72
292000
5000
ถ้าคุณรู้สึกหนาวเย็นมากคุณมาใกล้กองไฟ
คุณก็จะมีความรู้สึกที่อบอุ่น
คุณก็จะมีความรู้สึกที่อบอุ่น
05:09
Then, after some moments, you just go a little back, and then it starts burning.
73
297000
3000
จากนั้น หลังจากที่ช่วงเวลา
คุณถอยย้อนเวลากลับไปเพียงเล็กน้อย
และแล้วก็เริ่มการเผาไหม้
คุณถอยย้อนเวลากลับไปเพียงเล็กน้อย
และแล้วก็เริ่มการเผาไหม้
05:13
It sort of uses itself as you experience it.
74
301000
4000
มันประเภทใช้ประสพการณ์ของตัวเอง
05:19
And also, again, it can -- also, it's something that you --
75
307000
4000
และยังอีกครั้งก็สามารถ - ยังเป็นสิ่งที่คุณ
05:23
it is not something that is radiating outside.
76
311000
2000
มันไม่ใช่สิ่งที่ที่แสดงออกมาจากข้างใน
05:25
Like, you can feel intense pleasure
77
313000
2000
คุณสามารถรู้สึกถึงความสุขที่มากมาย
05:27
and some others around you can be suffering a lot.
78
315000
5000
และคนอื่นๆ รอบๆ ตัวคุณจะทุกข์ทรมานมาก
05:32
Now, what, then, will be happiness?
79
320000
3000
ตอนนี้ คืออะไร แล้วต่อมา จะมีการพ้นทุกข์อย่างไร?
05:35
And happiness, of course, is such a vague word, so let's say well-being.
80
323000
5000
และความสุข แน่นอน เป็นคำที่คลุมเครือ
ดังนั้นสมมติว่าเป็นอยู่อย่างสงบ
ดังนั้นสมมติว่าเป็นอยู่อย่างสงบ
05:42
And so, I think the best definition, according to the Buddhist view,
81
330000
4000
และดังนั้น ผมคิดว่าคำนิยามที่ดีที่สุด
ตามมุมมองทางพุทธศาสนา
ตามมุมมองทางพุทธศาสนา
05:46
is that well-being is not just a mere pleasurable sensation.
82
334000
7000
คือเป็นอยู่อย่างสงบไม่ได้เป็นเพียง
แต่ความรู้สึกการพ้นทุกข์ที่แท้จริง
แต่ความรู้สึกการพ้นทุกข์ที่แท้จริง
05:53
It is a deep sense of serenity and fulfillment,
83
341000
5000
มันเป็นความรู้สึกลึกๆ ของความสงบและความสำเร็จ
05:58
a state that actually pervades and underlies all emotional states,
84
346000
11000
สภาพที่จริงแสดงภายในใจเพื่อรองรับอารมณ์ฯ ทั้งหมด
06:09
and all the joys and sorrows that can come one's way.
85
357000
4000
ความสุข และความทุกข์ทั้งหมด มาด้วยทางใดทางหนึ่ง
06:13
For you, that might be surprising.
86
361000
2000
สำหรับคุณ ที่อาจจะแปลกใจ
06:15
Can we have this kind of well-being while being sad? In a way, why not?
87
363000
6000
เราสามารถมีควาบสุขกายสบายใจในขณะที่ใจเราเศร้านี้
ในบางที ทำไม?
ในบางที ทำไม?
06:21
Because we are speaking of a different level.
88
369000
3000
เพราะเรากำลังพูดถึงระดับที่แตกต่าง
06:27
Look at the waves coming here to shore.
89
375000
4000
มองไปที่คลื่นพัดมากระทบฝั่ง
06:31
When you are at the bottom of the wave, you hit the bottom.
90
379000
4000
เมื่อคุณอยู่ที่ด้านล่างของคลื่น คุณถูกคลื่นกระทบด้านล่าง
06:35
You hit the solid rock.
91
383000
2000
คุณจะกระแทกกับก้อนหินแข็งใต้น้ำ
06:37
When you are surfing on the top, you are all elated.
92
385000
2000
เมื่อคุณอยู่บนกระดานโต้คลื่น คุณจะมีความร่าเริงมาก
06:39
So you go from elation to depression -- there's no depth.
93
387000
3000
ดังนั้นคุณมาจากความรื่นเริงไปสู่สภาวะซึมเศร้า -
ไม่มีช่วงความลึก
ไม่มีช่วงความลึก
06:44
Now, if you look at the high sea, there might be beautiful, calm ocean, like a mirror.
94
392000
6000
ตอนนี้ถ้าคุณมองไปที่ทะเลสูง
อาจจะมีความสวยงามของท้องทะเลสงบเหมือนกระจก
อาจจะมีความสวยงามของท้องทะเลสงบเหมือนกระจก
06:50
There might be storms, but the depth of the ocean is still there, unchanged.
95
398000
7000
อาจจะมีพายุ แต่ความลึกของมหาสมุทรยังคงเท่าเดิม
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
06:58
So now, how is that?
96
406000
2000
ดังนั้นตอนนี้ วิธีการที่เป็น?
07:00
It can only be a state of being, not just a fleeting emotion, sensation.
97
408000
5000
มันสามารถเป็นพื้นฐานของความสงบ ไม่เพียงแต่อารมณ์ ความรู้สึกประเดี๋ยวเดียว
07:05
Even joy -- that can be the spring of happiness.
98
413000
4000
ความสุขแม้ - ที่สามารถเสมือนฤดูใบไม้ผลิของความสุข
07:09
But there's also wicked joy, you can rejoice in someone's suffering.
99
417000
4000
แต่ยังมีความสุขบนบาป
คุณสามารถมีความสุขในความทุกข์ของใครบางคน
คุณสามารถมีความสุขในความทุกข์ของใครบางคน
07:13
So how do we proceed in our quest for happiness? Very often, we look outside.
100
421000
8000
ดังนั้นเราจึงดำเนินการในการแสวงหาของเราเพื่อความสุขได้อย่างไร? หลายครั้งมาก เรามองออกไปรอบๆ ตัวเรา
07:21
We think that if we could gather this and that, all the conditions,
101
429000
5000
เราคิดว่า ถ้าเราสามารถรวบรวมสิ่งที่พบเห็นเหล่านี้
และทุกสภาวะต่างๆ
และทุกสภาวะต่างๆ
07:26
something that we say, "Everything to be happy --
102
434000
3000
สิ่งที่เราพูดว่า "ทุกอย่างจะเป็นความสุข"
07:29
to have everything to be happy."
103
437000
3000
การที่จะมีทุกอย่างเป็นความสุข. "
07:32
That very sentence already reveals the doom of destruction of happiness.
104
440000
4000
ประโยคที่กล่าวได้ค้นพบแล้ว ให้เห็นชะตากรรม
ของการล่มสลายของความสุข
ของการล่มสลายของความสุข
07:36
To have everything. If we miss something, it collapses.
105
444000
5000
จะมีทุกอย่าง ถ้าเราพลาดอะไร มันก็พังทลายลงมา
07:41
And also, when things go wrong, we try to fix the outside so much,
106
449000
4000
และยัง เมื่อสิ่งผิดพลาดไป
เราพยายามอย่างมากที่จะแก้ไขสิ่งรอบๆ ตัวเรา
เราพยายามอย่างมากที่จะแก้ไขสิ่งรอบๆ ตัวเรา
07:45
but our control of the outer world is limited, temporary, and often, illusory.
107
453000
9000
แต่การควบคุมสิ่งรอบๆ ตัวของเรามีจำกัด ชั่วคราว
และมักจะเป็นภาพลวงตา
และมักจะเป็นภาพลวงตา
07:54
So now, look at inner conditions. Aren't they stronger?
108
462000
4000
ดังนั้นตอนนี้ ให้ดูที่เงื่อนไขภายใน
พวกเขามีจิตที่แข็งแกร่งไหม?
พวกเขามีจิตที่แข็งแกร่งไหม?
07:58
Isn't it the mind that translates the outer condition into happiness and suffering?
109
466000
6000
มันเป็นจิตที่แปรสภาพสิ่งรอบๆ ตัวเรามาเป็น
ความสุขและความทุกข์ทรมาน?
ความสุขและความทุกข์ทรมาน?
08:04
And isn't that stronger?
110
472000
2000
และมีจิตที่ไม่แข็งแกร่งละ?
08:06
We know, by experience, that we can be what we call "a little paradise,"
111
474000
5000
เรารู้ จากประสบการณ์ ที่เราสามารถจะเป็นในสิ่งที่เราเรียกว่า
"สวรรค์อยู่ในอก" ("a little paradise")
"สวรรค์อยู่ในอก" ("a little paradise")
08:11
and yet, be completely unhappy within.
112
479000
4000
และนอกไปกว่านี้ ความสุขอย่างไม่สมบูรณ์ภายในใจ
08:16
The Dalai Lama was once in Portugal,
113
484000
3000
ท่านดาไลลามะไปประเทศโปรตุเกสเป็นครั้งแรก
08:19
and there was a lot of construction going on everywhere.
114
487000
2000
และมีจำนวนมากของการก่อสร้างที่เกิดขึ้นทุกที่เป็น
08:21
So one evening, he said, "Look, you are doing all these things,
115
489000
3000
ดังนั้นในเย็นวันหนึ่งเขากล่าวว่า
"ดูสิว่าคุณกำลังทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
"ดูสิว่าคุณกำลังทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
08:24
but isn't it nice, also, to build something within?"
116
492000
3000
แต่ไม่ดีไปกว่า การสร้างบางสิ่งบางอย่างภายในจิตใจเราหรือ? "
08:27
And he said, "Unless that -- even you get high-tech flat
117
495000
5000
และท่านกล่าวว่า "เว้นแต่ว่า -
แม้คุณจะได้รับเทคโนโลยีชั้นสูงแบบเรียบง่าย
แม้คุณจะได้รับเทคโนโลยีชั้นสูงแบบเรียบง่าย
08:32
on the 100th floor of a super-modern and comfortable building,
118
500000
5000
บนพื้น 100ชั้น ของอาคารซุปเปอร์ทันสมัย และสะดวกสบาย
08:37
if you are deeply unhappy within,
119
505000
2000
ถ้าคุณไม่มีความสุขลึกๆ ภายในใจ
08:39
all you are going to look for is a window from which to jump."
120
507000
3000
ทั้งหมดที่คุณจะต้องมองหาคือหน้าต่างที่จะกระโดด "
08:44
So now, at the opposite,
121
512000
2000
ดังนั้นตอนนี้ ที่ตรงข้าม
08:46
we know a lot of people who, in very difficult circumstances,
122
514000
4000
เรารู้ว่าผู้คนจำนวนมาก ที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก
08:50
manage to keep serenity, inner strength, inner freedom, confidence.
123
518000
6000
ทำจิตให้เงียบสงบ มีความเข้มแข็ง จิตว่าง ความเชื่อมั่น
08:57
So now, if the inner conditions are stronger --
124
525000
2000
ดังนั้นตอนนี้หากมีเงื่อนไขภายในมีความแข็งแรง -
08:59
of course, the outer conditions do influence,
125
527000
3000
แน่นอน สภาวะสิ่งรอบๆ ตัวเรามีอิทธิพล
09:02
and it's wonderful to live longer, healthier,
126
530000
4000
และมันวิเศษมากที่มีชีวิตที่ยืนยาว สุขภาพดี
09:06
to have access to information, education, to be able to travel,
127
534000
3000
ที่จะมีการเข้าถึงข้อมูล การศึกษา เพื่อให้สามารถที่จะไปเรียนรู้
09:09
to have freedom. It's highly desirable.
128
537000
5000
ที่จะมีอิสระ มันเป็นที่พึงปรารถนาอย่างมาก
09:14
However, this is not enough. Those are just auxiliary, help conditions.
129
542000
6000
แต่นี้ยังไม่เพียงพอ เหล่านี้เป็นเพียงเงื่อนไของค์ประกอบช่วย
09:20
The experience that translates everything is within the mind.
130
548000
5000
ประสบการณ์ที่แปลทุกอย่างภายในจิตใจ
09:25
So then, when we ask oneself how to nurture the condition for happiness,
131
553000
6000
ดังนั้นแล้ว
เมื่อเราถามตัวเองว่าจะรักษาเงื่อนใขความสุขอย่างไร?
เมื่อเราถามตัวเองว่าจะรักษาเงื่อนใขความสุขอย่างไร?
09:31
the inner conditions, and which are those which will undermine happiness.
132
559000
5000
เงื่อนไขภายในจิต และภายใต้จิตใจเป็นผู้ที่จะทำลายความสุข
09:37
So then, this just needs to have some experience.
133
565000
3000
ดังนั้นแล้ว เพียงแค่นี้จะต้องมีบางประสบการณ์
09:40
We have to know from ourselves, there are certain states of mind
134
568000
3000
เราต้องรู้ตัวเองจากตัวเอง มีบางพื้นฐานของจิตใจ
09:43
that are conducive to this flourishing, to this well-being,
135
571000
3000
ที่นำไปสู่ความเจริญนี้ แล้วก็นำไปเป็นอยู่อย่างสงบ
09:46
what the Greeks called eudaimonia, flourishing.
136
574000
5000
สิ่งชาวกรีกเรียกว่า eudaimonia ความเจริญรุ่งเรือง
09:51
There are some which are adverse to this well-being.
137
579000
4000
มีบางอย่างที่มีผลกระทบการเป็นอยู่ที่สงบนี้
09:56
And so, if we look from our own experience,
138
584000
3000
ดังนั้น ถ้าเรามองจากประสบการณ์ของเราเอง
09:59
anger, hatred, jealousy, arrogance, obsessive desire, strong grasping,
139
587000
9000
ความโกรธ ความเกลียด ความอิจฉาริษยา ความเย่อหยิ่ง ความปรารถนาครอบงำภายในจิตเรา
10:08
they don't leave us in such a good state after we have experienced it.
140
596000
5000
สิ่งเหล่านั้นไม่ปล่อยให้เราอยู่ในสภาพจิตที่ดี
หลังจากที่เราได้มีประสบการณ์
หลังจากที่เราได้มีประสบการณ์
10:13
And also, they are detrimental to others' happiness.
141
601000
3000
และยัง เป็นอันตรายต่อความสุขของผู้อื่น
10:17
So we may consider that the more those are invading our mind,
142
605000
4000
ดังนั้นเราอาจพิจารณาว่า ยิ่งมีสิ่งที่แทรกแทรงใจของเรา
10:21
and, like a chain reaction, the more we feel miserable, we feel tormented.
143
609000
5000
และเช่นเดียวกับปฏิกิริยาลูกโซ่
ยิ่งมีมากเรารู้สึกทุกข์ รู้สึกทรมาน
ยิ่งมีมากเรารู้สึกทุกข์ รู้สึกทรมาน
10:27
At the opposite, everyone knows deep within that an act of selfless generosity,
144
615000
6000
ตรงข้ามกับ ที่ทุกคนรู้ลึกภายในจิตว่า
การกระทำความเอื้ออาทรเสียสละ
การกระทำความเอื้ออาทรเสียสละ
10:33
if from the distance, without anyone knowing anything about it,
145
621000
5000
ถ้ามองจากระยะไกล โดยไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับมัน
10:38
we could save a child's life, make someone happy.
146
626000
4000
เราจะช่วยคุ้มครองสิ่งมีค่าของชีวิตเด็ก
ทำให้เป็นคนมีความสุข
ทำให้เป็นคนมีความสุข
10:42
We don't need the recognition. We don't need any gratitude.
147
630000
3000
เราไม่จำเป็นต้องได้รับการยอมรับ เราไม่ต้องการกตัญญูใด ๆ
10:45
Just the mere fact of doing that fills such a sense of adequation with our deep nature.
148
633000
8000
เพียงความจริงเท่านั้นในการทำเช่น
ที่เติมความรู้สึกของความสมดุล กับปกติวิสัยที่แท้จริงของเรา
ที่เติมความรู้สึกของความสมดุล กับปกติวิสัยที่แท้จริงของเรา
10:53
And we would like to be like that all the time.
149
641000
3000
และเราต้องการที่จะเป็นเช่นนั้นตลอดเวลา
10:56
So is that possible, to change our way of being, to transform one's mind?
150
644000
6000
เพื่อให้เป็นไปได้ ที่จะเปลี่ยนวิธีการเป็นอยู่ของเรา
ไปปรับเปลี่ยนจิตใจเรา?
ไปปรับเปลี่ยนจิตใจเรา?
11:02
Aren't those negative emotions, or destructive emotions,
151
650000
4000
ไม่ใช่ผืนอารมณ์เหล่านั้น หรือทำลายอารมณ์ของเรา
11:06
inherent to the nature of mind?
152
654000
3000
โดยเนื้อแท้ธรรมชาติของจิตใจ?
11:09
Is change possible in our emotions, in our traits, in our moods?
153
657000
6000
การเปลี่ยนแปลงเป็นไปในอารมณ์ของเรา
ในลักษณะนิสัยของเรา ในบรรยากาศของเราหรือไม่?
ในลักษณะนิสัยของเรา ในบรรยากาศของเราหรือไม่?
11:15
For that we have to ask, what is nature of mind?
154
663000
3000
สำหรับการที่เราต้องถามสิ่งที่เป็นธรรมชาติของจิตใจ?
11:18
And if we look from the experiential point of view,
155
666000
4000
และถ้าเรามองจากจุดประสบการณ์ในมุมมอง
11:22
there is a primary quality of consciousness
156
670000
3000
มีคุณภาพเบื้องต้นของการรู้สึกตัวเอง
11:25
that's just the mere fact to be cognitive, to be aware.
157
673000
5000
นั่นเป็นเพียงความจริงเท่านั้นที่จะรับรู้ ที่จะตระหนักถึง
11:30
Consciousness is like a mirror that allows all images to rise on it.
158
678000
5000
สติเป็นเหมือนกระจกที่ช่วยให้บนภาพทุกภาพมีแสงสว่างเพิ่ม
11:35
You can have ugly faces, beautiful faces in the mirror.
159
683000
3000
คุณสามารถมีใบหน้าน่าเกลียด ใบหน้าที่สวยงามในกระจก
11:38
The mirror allows that, but the mirror is not tainted,
160
686000
4000
กระจกช่วยให้เห็น แต่ว่ากระจกไม่ปนเปื้อน
11:42
is not modified, is not altered by those images.
161
690000
4000
จะไม่ถูกปรับเปลี่ยน จะไม่ถูกเปลี่ยนแปลงโดยภาพเหล่านั้น
11:46
Likewise, behind every single thought there is the bare consciousness, pure awareness.
162
694000
8000
ในทำนองเดียวกัน ที่อยู่เบื้องหลังความคิดที่มีสติว่างเปล่า
ความตระหนักที่บริสุทธิ์
ความตระหนักที่บริสุทธิ์
11:54
This is the nature. It cannot be tainted intrinsically with hatred or jealousy because,
163
702000
6000
นี่คือธรรมชาติ มันไม่สามารถแปดเปื้อนจากภายใน
ที่มีความเกลียดชังหรือความริษยา
ที่มีความเกลียดชังหรือความริษยา
12:00
then, if it was always there -- like a dye that would permeate the whole cloth --
164
708000
5000
แล้ว ถ้ามันเป็นเสมอเหมือน - สีย้อมที่จะซึมไปในผ้าทั้งผืน
12:05
then it would be found all the time, somewhere.
165
713000
3000
จะพบมันตลอดเวลา ทุกหนทุกแห่ง
12:08
We know we're not always angry, always jealous, always generous.
166
716000
5000
เรารู้ว่าเราไม่ได้โกรธ อิจฉา มีความเมตตาเสมอๆ
12:13
So, because the basic fabric of consciousness
167
721000
3000
ดังนั้น เนื่องจากพื้นเนื้อผ้าของความมีสติ
12:16
is this pure cognitive quality that differentiates it from a stone,
168
724000
4000
นี้เป็นคุณภาพทางปัญญาที่บริสุทธิ์
ที่แตกต่างจากการซึมซับของหิน
ที่แตกต่างจากการซึมซับของหิน
12:20
there is a possibility for change because all emotions are fleeting.
169
728000
4000
มีความเป็นไปได้สำหรับการเปลี่ยนแปลง
เป็นเพราะอารมณ์ทุกชั่วขณะ
เป็นเพราะอารมณ์ทุกชั่วขณะ
12:24
That is the ground for mind training.
170
732000
3000
ที่เป็นพื้นฐานสำหรับการฝึกอบรมจิตใจ
12:27
Mind training is based on the idea that two opposite mental factors
171
735000
5000
การฝึกอบรมจิตใจอยู่บนพื้นฐานของความคิด
ที่ว่าสองปัจจัยทางจิตตรงข้าม
ที่ว่าสองปัจจัยทางจิตตรงข้าม
12:32
cannot happen at the same time.
172
740000
2000
ไม่สามารถเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
12:34
You could go from love to hate.
173
742000
2000
คุณสามารถจากความรักไปเป็นเกลียด
12:36
But you cannot, at the same time, toward the same object,
174
744000
3000
แต่คุณไม่สามารถ
ที่ในเวลาเดียวกัน ไปเกลียดและรักในสิ่งเดียวกัน
ที่ในเวลาเดียวกัน ไปเกลียดและรักในสิ่งเดียวกัน
12:39
the same person, want to harm and want to do good.
175
747000
4000
คนเดียวกัน ที่เป็นบุคคลอันตรายและต้องการที่จะทำความดี
12:43
You cannot, in the same gesture, shake hand and give a blow.
176
751000
4000
คุณไม่สามารถ ในอิริยาบถเดียวกัน
จับมือและยื่นวัตถุระเบิดให้
จับมือและยื่นวัตถุระเบิดให้
12:47
So, there are natural antidotes to emotions
177
755000
4000
ดังนั้น มียาถอนพิษกับอารมณ์ความรู้สึก
12:51
that are destructive to our inner well-being.
178
759000
3000
ที่เป็นอันตรายต่อความเป็นอยู่อย่างสงบของเรา
12:54
So that's the way to proceed. Rejoicing compared to jealousy.
179
762000
6000
เพื่อให้เป็นวิธีการดำเนินการ ปีติยินดีเมื่อเทียบกับความริษยา
13:00
A kind of sense of inner freedom as opposite to intense grasping and obsession.
180
768000
7000
ชนิดของความรู้สึกของการไร้ความวิตกกังวล
ที่ตรงกันข้ามกับความโลภที่รุนแรงและความหลงใหล
ที่ตรงกันข้ามกับความโลภที่รุนแรงและความหลงใหล
13:08
Benevolence, loving kindness against hatred.
181
776000
5000
ความกรุณา ความรัก ความเมตตา จะต่อต้าน ความเกลียดชัง
13:13
But, of course, each emotion then would need a particular antidote.
182
781000
5000
แต่ แน่นอน แต่ละอารมณ์ต้องใช้ยาแก้พิษโดยเฉพาะของมัน
13:18
Another way is to try to find a general antidote to all emotions,
183
786000
5000
อีกวิธีหนึ่งคือการพยายามที่จะหายาแก้พิษทั่วไป
กับอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมด
กับอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมด
13:23
and that's by looking at the very nature.
184
791000
3000
และที่โดยดูที่ธรรมชาติมากๆ
13:26
Usually, when we feel annoyed, hatred or upset with someone,
185
794000
6000
โดยปกติ เมื่อเรารู้สึกเกลียดชัง รำคาญ
หรืออารมณ์เสียกับใครสักคน
หรืออารมณ์เสียกับใครสักคน
13:32
or obsessed with something, the mind goes again and again to that object.
186
800000
4000
หรือหมกมุ่นอยู่กับบางสิ่ง ที่ใจไปกังวลซ้ำๆ กับสิ่งนั้น
13:36
Each time it goes to the object, it reinforces that obsession or that annoyance.
187
804000
6000
แต่ละครั้งที่ไปกังวลกับสิ้งนั้น
มันจะไปเสริมสร้างความหลงใหลหรือความรำคาญ
มันจะไปเสริมสร้างความหลงใหลหรือความรำคาญ
13:42
So then, it's a self-perpetuating process.
188
810000
4000
ดังนั้นแล้ว มันเป็นกระบวนการพื้นฐานของตนเอง
13:46
So what we need to look now is, instead of looking outward, we look inward.
189
814000
5000
ดังนั้นสิ่งที่เราต้องมองในขณะนี้คือ
แทนที่จะมองไปรอบๆ ตัวเรา เรามองข้างในจิตของเรา
แทนที่จะมองไปรอบๆ ตัวเรา เรามองข้างในจิตของเรา
13:51
Look at anger itself.
190
819000
2000
มองไปที่ความโกรธตัวเอง
13:53
It looks very menacing, like a billowing monsoon cloud or thunderstorm.
191
821000
6000
ดูเหมือนการคุกคามมาก
เหมือนเมฆมรสุมมีคลื่นหรือพายุฝนฟ้าคะนอง
เหมือนเมฆมรสุมมีคลื่นหรือพายุฝนฟ้าคะนอง
13:59
But we think we could sit on the cloud -- but if you go there, it's just mist.
192
827000
4000
แต่เราคิดว่าเราสามารถนั่งบนเมฆ -
แต่ถ้าคุณไปที่นั่น ก็เพียงถึงแค่หมอก
แต่ถ้าคุณไปที่นั่น ก็เพียงถึงแค่หมอก
14:03
Likewise, if you look at the thought of anger,
193
831000
3000
ในทำนองเดียวกัน ถ้าคุณมองไปที่ความคิดของความโกรธ
14:06
it will vanish like frost under the morning sun.
194
834000
4000
มันก็จะหายไปเช่นน้ำค้างแข็งภายใต้ดวงอาทิตย์ยามเช้า
14:10
If you do this again and again, the propensity,
195
838000
3000
ถ้าคุณทำเช่นนี้อีกครั้งและอีกครั้ง ความเอนเอียง
14:13
the tendencies for anger to arise again
196
841000
3000
แนวโน้มความโกรธที่จะเกิดขึ้นอีก
14:16
will be less and less each time you dissolve it.
197
844000
3000
จะน้อยลงและน้อยทุกครั้งที่คุณไม่สามารถแก้ปัญหามันได้
14:19
And, at the end, although it may rise, it will just cross the mind,
198
847000
4000
และในตอนท้าย แม้ว่ามันอาจเพิ่มขึ้น มันก็จะสะกิดใจ
14:23
like a bird crossing the sky without leaving any track.
199
851000
3000
เหมือนนกบินข้ามท้องฟ้าโดยไม่ต้อทิ้งร่องรอยใด ๆ
14:26
So this is the principal of mind training.
200
854000
4000
ดังนั้นนี่คือหลักเบื้องต้นของการฝึกอบรมจิตใจ
14:30
Now, it takes time because we -- it took time for all those faults in our mind,
201
858000
9000
ตอนนี้ มันต้องใช้เวลาเพราะเรา -
มันต้องใช้เวลาสำหรับทุกความผิดที่อยู่ในใจของเรา
มันต้องใช้เวลาสำหรับทุกความผิดที่อยู่ในใจของเรา
14:39
the tendencies, to build up, so it will take time to unfold them as well.
202
867000
4000
แนวโน้ม ในการสร้าง
มันจะใช้เวลาในการแสดงความจริงในใจออกมา
มันจะใช้เวลาในการแสดงความจริงในใจออกมา
14:43
But that's the only way to go.
203
871000
2000
แต่ที่วิธีเดียวที่จะทำ
14:45
Mind transformation -- that is the very meaning of meditation.
204
873000
5000
การเปลี่ยนแปลงความคิด -
นั่นคือความหมายของการทำสมาธิ
นั่นคือความหมายของการทำสมาธิ
14:50
It means familiarization with a new way of being,
205
878000
3000
มันหมายถึงการทำความคุ้นเคยกับวิธีการใหม่
ของการอยู่อย่างสงบ
ของการอยู่อย่างสงบ
14:53
new way of perceiving things, which is more in adequation with reality,
206
881000
4000
วิธีการใหม่ของสิ่งเข้าใจซึ่งเป็นมากขึ้นใน
ความสมดุลย์ กับความเป็นจริง
ความสมดุลย์ กับความเป็นจริง
14:57
with interdependence, with the stream and continuous transformation,
207
885000
4000
ด้วยการพึ่งพาซึ่งกันและกัน
กระแสลำธารกับและการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
กระแสลำธารกับและการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
15:01
which our being and our consciousness is.
208
889000
3000
ซึ่งเป็นของเราและจิตสำนึกของเราคือ
15:04
So, the interface with cognitive science,
209
892000
2000
ดังนั้น ส่วนเชื่อมต่อความรู้ความเข้าใจทางด้านวิทยาศาสตร์
15:06
since we need to come to that, and it was, I suppose, the subject of --
210
894000
3000
ตั้งแต่ที่มา และมันในปัจจุบัน ฉันคิดหวังการสิ้นสุด
เรื่องของปัญหา -
เรื่องของปัญหา -
15:09
we have to deal in such a short time
211
897000
2000
เราต้องจัดการมันในเวลาอันสั้น
15:11
with brain plasticity. The brain was thought to be more or less fixed.
212
899000
4000
ด้วยสมองยืดหยุ่น สมองคิดมากหรือน้อยการแก้ปัญหา
15:15
All the nominal connections, in numbers and quantities, were thought --
213
903000
4000
ทุกการเชื่อมต่อที่ระบุ ในจำนวนและปริมาณถูกคิดว่า
15:19
until the last 20 years -- thought to be more or less fixed when we reached adult age.
214
907000
6000
จนสุดท้าย 20 ปี - ความคิดที่จะมากหรือน้อยการแก้ปัญหา
เมื่อถึงเวลาที่เราอายุผู้ใหญ่
เมื่อถึงเวลาที่เราอายุผู้ใหญ่
15:25
Now, recently, it has been found that it can change a lot.
215
913000
3000
ตอนนี้ เพิ่งจะได้รับการพบว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงมาก
15:28
A violinist, as we heard, who has done 10,000 hours of violin practice,
216
916000
4000
นักไวโอลินที่เราได้ยินคนที่ได้ทำ 10,000 ชั่วโมง
ของการฝึกเล่นไวโอลิน
ของการฝึกเล่นไวโอลิน
15:32
some area that controls the movements of fingers in the brain change a lot,
217
920000
5000
พื้นที่ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของนิ้วมือในสมอง
เปลี่ยนแปลงมาก
เปลี่ยนแปลงมาก
15:37
increasing reinforcement of the synaptic connections.
218
925000
4000
เสริมสร้างเพิ่มขึ้นของประสาทการเชื่อมต่อ
15:41
So can we do that with human qualities?
219
929000
4000
เพื่อให้เราสามารถดำเนินการได้ด้วยคุณภาพของมนุษย์?
15:45
With loving kindness, with patience, with openness?
220
933000
4000
ด้วยความเมตตาความรัก ด้วยความอดทน กับการเปิดกว้าง?
15:49
So that's what those great meditators have been doing.
221
937000
4000
ดังนั้นนั่นคือสิ่งที่ผู้ มีสมาธิดีได้ทำปฎิบัติ
15:53
Some of them who came to the labs, like in Madison, Wisconsin, or in Berkeley,
222
941000
7000
บางส่วนของพวกเขาที่มาห้องปฏิบัติธรรม
เช่นใน เม็ดดิสั้น วิสคอนซิน หรือในเบิร์กลีย์
เช่นใน เม็ดดิสั้น วิสคอนซิน หรือในเบิร์กลีย์
16:00
did 20 to 40,000 hours of meditation.
223
948000
5000
ปฏิบัติ 20 ถึง 40,000 ชั่วโมงของการทำสมาธิ
16:05
They do, like, three years' retreat, where they do meditate 12 hours a day.
224
953000
3000
พวกเขาปฏิบัติ สามปีที่พวกเขานั่งสมาธิ 12 ชั่วโมงต่อวัน
16:08
And then, the rest of their life, they will do that three or four hours a day.
225
956000
4000
แล้วส่วนที่เหลือของชีวิตของพวกเขา
พวกเขาจะทำที่สามหรือสี่ชั่วโมงต่อวัน
พวกเขาจะทำที่สามหรือสี่ชั่วโมงต่อวัน
16:12
They are real Olympic champions of mind training.
226
960000
3000
พวกเขาเป็นแชมป์โอลิมปิกที่แท้จริงของการฝึกอบรมจิตใจ
16:15
(Laughter)
227
963000
3000
(หัวเราะ)
16:18
This is the place where the meditators -- you can see it's kind of inspiring.
228
966000
4000
นี้เป็นสถานที่ที่ปฎิบัตินั่งสมาธิ -
คุณสามารถดูชนิดของแรงบันดาลใจ
คุณสามารถดูชนิดของแรงบันดาลใจ
16:22
Now, here with 256 electrodes.
229
970000
3000
ตอนนี้ ที่นี่มี 256 ขั้วไฟฟ้า
16:25
(Laughter)
230
973000
4000
(หัวเราะ)
16:31
So what did they find? Of course, same thing.
231
979000
4000
ดังนั้นพวกเขาค้นพบสิ่งใด? แน่นอน สิ่งเดียวกัน
16:35
The scientific embargo -- if ever has been to submitted to "Nature,"
232
983000
4000
การคว่ำบาตรทางวิทยาศาสตร์ - ถ้าเคยได้ส่งไปยัง "ธรรมชาติ"
16:39
hopefully, it will be accepted.
233
987000
3000
หวังว่า มันจะได้รับการยอมรับ
16:42
It deals with the state of compassion, unconditional compassion.
234
990000
3000
มันเกี่ยวข้องกับสถานะของความเมตตา อย่างไม่มีเงื่อนไข
16:45
We asked meditators, who have been doing that for years and years and years,
235
993000
4000
เราถามผู้ปฎิบัตืนั่งสมาธิ
ที่ได้ปฎิบัติเป็น ปีๆที่ ผ่านมา
ที่ได้ปฎิบัติเป็น ปีๆที่ ผ่านมา
16:49
to put their mind in a state where there's nothing but loving kindness,
236
997000
5000
ที่จะนำจิตของพวกเขาอยู่ในสภาพที่จิตว่างเปล่า
แต่ความรักความเมตตา
แต่ความรักความเมตตา
16:54
total availability to sentient being.
237
1002000
2000
ความว่างที่พร้อมจะมีชีวิตที่สงบ
16:56
Of course, during the training, we do that with objects.
238
1004000
2000
แน่นอน ในระหว่างการฝึก เราไปปฎิบัติกับรูปธรรม
16:58
We think of people suffering, we think of people we love,
239
1006000
3000
เราคิดว่าคนที่ทุกข์ทรมาน เราคิดว่าคนที่เรารัก
17:01
but at some point, it can be a state which is all pervading.
240
1009000
4000
แต่ในบางจุด พื้นฐานสามารถเป็นสิ่งที่เผยแพร่
17:05
Here is the preliminary result, which I can show because it's already been shown.
241
1013000
5000
ที่นี่ผลการทดลองเบื้องต้น
ที่ฉันสามารถแสดงเนื่องจากได้รับการเผยแพร่แล้ว
ที่ฉันสามารถแสดงเนื่องจากได้รับการเผยแพร่แล้ว
17:10
The bell curve shows 150 controls, and what is being looked at
242
1018000
7000
เส้นโค้งรูประฆังแสดง 150 จุดควบคุม และสิ่งที่จะถูกมอง
17:17
is the difference between the right and the left frontal lobe.
243
1025000
4000
ความแตกต่างระหว่าง
กลีบหน้าผากด้านขวาและกลีบหน้าผากด้านซ้าย
กลีบหน้าผากด้านขวาและกลีบหน้าผากด้านซ้าย
17:21
In very short, people who have more activity in the right side of the prefrontal cortex
244
1029000
5000
ในระยะสั้นมาก คนที่มีกิจกรรมมากขึ้นในด้านขวาของ
กลีบหน้าผากด้านซ้ายเยื่อหุ้มสมอง
กลีบหน้าผากด้านซ้ายเยื่อหุ้มสมอง
17:26
are more depressed, withdrawn. They don't describe a lot of positive affect.
245
1034000
6000
มีความทุกข์มาก ถูกนำมาใช้
พวกเขาไม่ได้อธิบายมากอารมณ์ทางบวก
พวกเขาไม่ได้อธิบายมากอารมณ์ทางบวก
17:33
It's the opposite on the left side: more tendency to altruism,
246
1041000
5000
มันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามด้านซ้าย:
แนวโน้มมากขึ้นที่จะเห็นแก่ตัว
แนวโน้มมากขึ้นที่จะเห็นแก่ตัว
17:38
to happiness, to express, and curiosity and so forth.
247
1046000
5000
ไปสู่ความสุขเพื่อแสดงความอยากรู้อยากเห็นและอื่น ๆ
17:43
So there's a basic line for people. And also, it can be changed.
248
1051000
4000
จึงมีเส้นขั้นพื้นฐานสำหรับประชาชนที่
และยังไม่สามารถจะมีการเปลี่ยนแปลง
และยังไม่สามารถจะมีการเปลี่ยนแปลง
17:47
If you see a comic movie, you go off to the left side.
249
1055000
2000
ถ้าคุณเห็นภาพยนตร์การ์ตูนที่คุณออกไปทางด้านซ้าย
17:49
If you are happy about something, you'll go more to the left side.
250
1057000
3000
ถ้าคุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณจะไปขึ้นไปทางด้านซ้าย
17:52
If you have a bout of depression, you'll go to the right side.
251
1060000
4000
หากคุณมีการแข่งขันของภาวะซึมเศร้า คุณจะไปยังด้านขวา
17:56
Here, the -0.5 is the full standard deviation
252
1064000
6000
นี่คือ -0.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเต็ม
18:02
of a meditator who meditated on compassion.
253
1070000
3000
จากการไตร่ตรองที่ครุ่นคิดความเห็นอกเห็นใจ
18:05
It's something that is totally out of the bell curve.
254
1073000
4000
มันเป็นสิ่งที่มีทั้งหมดออกจากเส้นโค้งรูประฆัง
18:09
So, I've no time to go into all the different scientific results.
255
1077000
4000
ดังนั้น
ฉันไม่มีเวลาที่ลึกลงไปในทุกผลทางวิทยาศาสตร์ที่แตกต่างกัน
ฉันไม่มีเวลาที่ลึกลงไปในทุกผลทางวิทยาศาสตร์ที่แตกต่างกัน
18:13
Hopefully, they will come.
256
1081000
2000
หวังว่า พวกเขาจะมา
18:15
But they found that -- this is after three and a half hours in an fMRI,
257
1083000
4000
แต่พวกเขาพบว่า - นี่คือหลังจากสามชั่วโมงครึ่งใน
FMRI
FMRI
18:19
it's like coming out of a space ship.
258
1087000
3000
มันก็เหมือนออกมาจากยานอวกาศ
18:24
Also, it has been shown in other labs --
259
1092000
2000
ยังจะได้รับการแสดงในห้องปฏิบัติการอื่น ๆ
18:26
for instance, Paul Ekman's labs in Berkeley --
260
1094000
4000
ตัวอย่างเช่น ห้องปฏิบัติการพอล เอก (Paul Ekman's)
ในเบิร์กลีย์
ในเบิร์กลีย์
18:30
that some meditators are able, also,
261
1098000
2000
ที่ ผู้ปฎิบัติธรรมยังสามารถ
18:32
to control their emotional response more than it could be thought.
262
1100000
4000
ควบคุมการตอบสนองทางอารมณ์ของพวกเขา
มากกว่าที่คิด
มากกว่าที่คิด
18:36
Like the startle experiments, for example.
263
1104000
2000
เช่นการทดลองการตกใจเช่น
18:38
If you sit a guy on a chair with all this kind of apparatus measuring your physiology,
264
1106000
4000
ถ้าคุณเอาคนนั่งบนเก้าอี้ที่มีทุกชนิดของอุปกรณ์
วัดสมส่วนร่างกายของเขา
วัดสมส่วนร่างกายของเขา
18:42
and there's kind of a bomb that goes off, it's so instinctive response that,
265
1110000
5000
และมีชนิดของระเบิดเวลาที่จะระเบิด
มันจะมีการตอบสนองสัญชาตญาณ
มันจะมีการตอบสนองสัญชาตญาณ
18:47
in 20 years, they never saw anyone who will not jump.
266
1115000
4000
ใน 20 ปี พวกเขาไม่เคยเห็นใครที่จะไม่กระโดด
18:51
Some meditators, without trying to stop it,
267
1119000
3000
ผู้ปฎิบัตินั่งสมธิบางคน
อยู่สงบ โดยที่ไม่ต้องพยายามที่จะหยุดกระโดดหนี
อยู่สงบ โดยที่ไม่ต้องพยายามที่จะหยุดกระโดดหนี
18:54
but simply by being completely open,
268
1122000
3000
แต่เพียงง่ายๆ โดยการมีใจที่สงบสมบูรณ์
18:57
thinking that that bang is just going to be just a small event like a shooting star,
269
1125000
5000
คิดว่าบางที่เป็นเพียงไปได้เพียงเหตุการณ์เล็ก ๆ เช่นดาวตก
19:02
they are able not to move at all.
270
1130000
2000
พวกเขาก็จะไม่ขยับตัวกระโดด
19:04
So the whole point of that is not, sort of, to make, like,
271
1132000
4000
ดังนั้นจุดรวมไม่ได้อยู่ที่ ประเภทของ ที่ทำให้เกิด เช่น
19:08
a circus thing of showing exceptional beings who can jump, or whatever.
272
1136000
7000
ในการแสดงละครสัตว์สิ่งมีชีวิตที่ความสามารถพิเศษ
ในการกระโดดหรืออะไรก็ตาม
ในการกระโดดหรืออะไรก็ตาม
19:15
It's more to say that mind training matters. That this is not just a luxury.
273
1143000
6000
มันขึ้นจะบอกถึงความสำคัญการฝึกอบรมจิตใจ
ที่ว่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการแสดงอวด
ที่ว่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการแสดงอวด
19:21
This is not a supplementary vitamin for the soul.
274
1149000
5000
นี้ไม่ได้เป็นวิตามินเสริมให้กับดวงวิญญาณ
19:26
This is something that's going to determine the quality of every instant of our lives.
275
1154000
6000
นี่คือสิ่งที่จะกำหนดคุณภาพของของชีวิต
ในระยะยาวของเราทุกคน
ในระยะยาวของเราทุกคน
19:32
We are ready to spend 15 years achieving education.
276
1160000
4000
เราพร้อมที่จะใช้เวลา 15 ปีที่ประสบความสำเร็จการศึกษา
19:36
We love to do jogging, fitness.
277
1164000
3000
เรารักที่จะทำวิ่งออกกำลังกาย
19:39
We do all kinds of things to remain beautiful.
278
1167000
4000
เราทำทุกชนิดของสิ่งที่จะคงอยู่ที่สวยงาม
19:43
Yet, we spend surprisingly little time taking care of what matters most --
279
1171000
7000
แต่เราใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการดูแลสิ่งที่สำคัญที่สุด
19:50
the way our mind functions --
280
1178000
3000
วิธีการทำงานในใจของเรา -
19:53
which, again, is the ultimate thing that determines the quality of our experience.
281
1181000
5000
ซึ่งเป็นอีกสิ่งที่ดีที่สุดที่จะกำหนดคุณภาพ
ของประสบการณ์ของเรา
ของประสบการณ์ของเรา
19:58
Now, our compassion is supposed to be put in action.
282
1186000
4000
ตอนนี้ความรักความเมตตาของเราควรที่จะใส่ในการดำเนินการ
20:02
That's what we try to do in different places.
283
1190000
3000
นั่นคือสิ่งที่เราพยายามทำในสถานที่ที่แตกต่างกัน
20:05
Just this one example is worth a lot of work.
284
1193000
4000
เพียงแค่นี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่มีค่ามากในการทำงาน
20:09
This lady with bone TB, left alone in a tent, is going to die with her only daughter.
285
1197000
6000
ผู้หญิงคนนี้มีวัณโรคกระดูกที่เหลืออยู่คนเดียว
ในเต็นท์จะตายกับลูกสาวคนเดียวของเธอ
ในเต็นท์จะตายกับลูกสาวคนเดียวของเธอ
20:15
One year later, how she is.
286
1203000
3000
หนึ่งปีต่อมา ดูซืว่าเธอเป็นอย่างไร
20:20
Different schools and clinics we've been doing in Tibet.
287
1208000
4000
โรงเรียนที่ต่างๆ และคลินิกเราได้ทำในทิเบต
20:26
And just, I leave you with the beauty of those looks
288
1214000
4000
และเพียงแค่ผมปล่อยให้คุณกับความงาม
ของบรรดารูปลักษณ์ที่
ของบรรดารูปลักษณ์ที่
20:30
that tells more about happiness than I could ever say.
289
1218000
5000
ที่บอกเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสุขกว่าที่ฉันเคยจะพูด
20:35
And jumping monks of Tibet.
290
1223000
2000
และพระสงฆ์กระโดดของทิเบต
20:37
(Laughter)
291
1225000
2000
(หัวเราะ)
20:39
Flying monks.
292
1227000
2000
พระสงฆ์บิน
20:47
Thank you very much.
293
1235000
2000
ขอบคุณมากครับ
ABOUT THE SPEAKER
Matthieu Ricard - Monk, author, photographerSometimes called the "happiest man in the world," Matthieu Ricard is a Buddhist monk, author and photographer.
Why you should listen
After training in biochemistry at the Institute Pasteur, Matthieu Ricard left science behind to move to the Himalayas and become a Buddhist monk -- and to pursue happiness, both at a basic human level and as a subject of inquiry. Achieving happiness, he has come to believe, requires the same kind of effort and mind training that any other serious pursuit involves.
His deep and scientifically tinged reflections on happiness and Buddhism have turned into several books, including The Quantum and the Lotus: A Journey to the Frontiers Where Science and Buddhism Meet. At the same time, he also makes sensitive and jaw-droppingly gorgeous photographs of his beloved Tibet and the spiritual hermitage where he lives and works on humanitarian projects.
His latest book on happiness is Happiness: A Guide to Developing Life's Most Important Skill; his latest book of photographs is Tibet: An Inner Journey.
Matthieu Ricard | Speaker | TED.com