TEDIndia 2009
Derek Sivers: Weird, or just different?
เดเรค สิเวอร์ส: แปลกแยก หรือแค่แตกต่าง?
Filmed:
Readability: 2.5
3,629,976 views
"ทุกสิ่งล้วนมีด้านกลับ" มีคำกล่าวไว้ และใน 2 นาที เดเรค สิเวอร์สแสดงให้เห็นว่านี่เป็นความจริงด้วยตัวอย่างไม่กี่เรื่องที่คุณอาจคาดไม่ถึง
Derek Sivers - Entrepreneur
Through his new project, MuckWork, Derek Sivers wants to lessen the burdens (and boredom) of creative people. Full bio
Through his new project, MuckWork, Derek Sivers wants to lessen the burdens (and boredom) of creative people. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
So, imagine you're standing on a street anywhere in America
0
0
4000
ลองจินตนาการว่า คุณกำลังยืนอยู่บนถนน ที่ไหนก็ได้ในอเมริกา
00:19
and a Japanese man comes up to you and says,
1
4000
3000
และคนญี่ปุ่น เดินมาหาคุณ แล้วถามว่า
00:22
"Excuse me, what is the name of this block?"
2
7000
2000
"ขอโทษนะครับ ช่วงตึกนี้ ชื่อว่าอะไรหรือครับ?"
00:24
And you say, "I'm sorry, well, this is Oak Street, that's Elm Street.
3
9000
4000
คุณจะตอบว่า "ขอโทษครับ ตรงนี้ถนนโอ๊ค ตรงนั้นถนนเอลม์
00:28
This is 26th, that's 27th."
4
13000
2000
ตรงนี้ถนนสายที่ 26 ตรงนั้นถนนสายที่ 27"
00:30
He says, "OK, but what is the name of that block?"
5
15000
2000
เขาพูดว่า "ถูกล่ะ แล้วชื่อของช่วงตึกนั้นล่ะ?"
00:32
You say, "Well, blocks don't have names.
6
17000
3000
คุณจะพูดว่า "ช่วงตึกมันไม่มีชื่อครับ"
00:35
Streets have names; blocks are just the
7
20000
2000
ถนนมีชื่อ ช่วงตึกเป็นเพียงแค่
00:37
unnamed spaces in between streets."
8
22000
2000
พื้นที่ไม่มีชื่อ ที่อยู่ระหว่างถนน"
00:39
He leaves, a little confused and disappointed.
9
24000
4000
เขาจากไป พร้อมกับความสับสนผิดหวังเล็กน้อย
00:43
So, now imagine you're standing on a street, anywhere in Japan,
10
28000
3000
ทีนี้ ลองคิดว่า คุณยืนอยู่บนถนน ที่ไหนก็ได้ ในประเทศญี่ปุ่น
00:46
you turn to a person next to you and say,
11
31000
2000
คุณหันไปเจอคนๆหนึ่ง แล้วถามว่า
00:48
"Excuse me, what is the name of this street?"
12
33000
2000
"ขอโทษนะครับ ถนนนี้ ชื่ออะไรหรือครับ?"
00:50
They say, "Oh, well that's Block 17 and this is Block 16."
13
35000
4000
เขาจะตอบว่า "อ้อ ตรงนั้นช่วงตึกที่ 17 และตรงนี้ช่วงตึกที่ 16 ครับ"
00:54
And you say, "OK, but what is the name of this street?"
14
39000
3000
คุณพูดว่า "โอเค แล้วถนนนี้ ชื่ออะไรล่ะครับ?"
00:57
And they say, "Well, streets don't have names.
15
42000
2000
เขาก็ตอบว่า "อืม ถนนมันไม่มีชื่อครับ
00:59
Blocks have names.
16
44000
2000
แต่ช่วงตึกมีชื่อ"
01:01
Just look at Google Maps here. There's Block 14, 15, 16, 17, 18, 19.
17
46000
4000
แค่ลองดูใน กูเกิ้ลแมพตรงนี้ นี่ช่วงตึกที่ 14, 15, 16, 17, 18, 19
01:05
All of these blocks have names,
18
50000
2000
ช่วงตึกทั้งหมด มีชื่อ
01:07
and the streets are just the unnamed spaces in between the blocks.
19
52000
4000
ถนน เป็นแค่พื้นที่ไม่มีชื่อ ระหว่างช่วงตึก
01:11
And you say then, "OK, then how do you know your home address?"
20
56000
3000
คุณจะพูดว่า "โอเค แล้วคุณทราบที่อยู่บ้านของคุณได้ยังไง?"
01:14
He said, "Well, easy, this is District Eight.
21
59000
3000
เขาพูดว่า "ง่ายๆ นี่คือตำบลที่แปด
01:17
There's Block 17, house number one."
22
62000
3000
ช่วงตึกที่ 17 บ้านเลขที่ 1"
01:20
You say, "OK, but walking around the neighborhood,
23
65000
2000
คุณพูดว่า "โอเค แต่เดินไปรอบๆนี้
01:22
I noticed that the house numbers don't go in order."
24
67000
2000
ผมสังเกตว่า บ้านเลขที่ มันไม่เรียงลำดับเลย"
01:24
He says, "Of course they do. They go in the order in which they were built.
25
69000
3000
เขาตอบว่า "เรียงสิ เรียงตามลำดับปีสร้างของบ้าน
01:27
The first house ever built on a block is house number one.
26
72000
3000
บ้านที่สร้างหลังแรก ก็เป็นบ้านเลขที่ 1
01:30
The second house ever built is house number two.
27
75000
3000
บ้านสร้างหลังที่ 2 ก็เลขที่ 2
01:33
Third is house number three. It's easy. It's obvious."
28
78000
2000
หลังที่ 3 เลขที่ 3 ง่ายๆ ออกจะชัดเจน"
01:35
So, I love that sometimes we need to
29
80000
3000
ผมเลยชอบมาก ที่บางครั้งเราต้อง
01:38
go to the opposite side of the world
30
83000
2000
เดินทาง ไปอีกซีกโลกหนึ่ง
01:40
to realize assumptions we didn't even know we had,
31
85000
2000
เพื่อเรียนรู้สมมุติฐาน ที่เราไม่เคยแม้แต่จะคิด
01:42
and realize that the opposite of them may also be true.
32
87000
3000
และตระหนักว่า สมมุติฐานตรงข้ามนั้น อาจจะจริงก็ได้
01:45
So, for example, there are doctors in China
33
90000
2000
ตัวอย่างเช่น มีหมอในจีน
01:47
who believe that it's their job to keep you healthy.
34
92000
3000
ที่เชื่อว่า อาชีพของพวกเขา คือคอยดูแล ให้คุณแข็งแรง
01:50
So, any month you are healthy you pay them,
35
95000
2000
ดังนั้น ถ้าเดือนไหน คุณแข็งแรง คุณก็จ่ายพวกเขา
01:52
and when you're sick you don't have to pay them because they failed
36
97000
2000
และพอคุณป่วย คุณก็ไม่ต้องจ่ายพวกเขา เพราะพวกเขาล้มเหลว
01:54
at their job. They get rich when you're healthy, not sick.
37
99000
2000
ในหน้าที่ พวกเขารวยได้ เพราะเราแข็งแรง ไม่ใช่ป่วย
01:56
(Applause)
38
101000
3000
(ปรบมือ)
01:59
In most music, we think of the "one"
39
104000
2000
ในดนตรีส่วนมาก เราคิดถึง "หนึ่ง"
02:01
as the downbeat, the beginning of the musical phrase: one, two, three, four.
40
106000
4000
ว่าเป็น จังหวะตก เป็นจุดเริ่มต้นของวรรคดนตรี หนึ่ง สอง สาม สี่
02:05
But in West African music, the "one"
41
110000
2000
แต่ในดนตรีแอฟริกาตะวันตกนั้น "หนึ่ง"
02:07
is thought of as the end of the phrase,
42
112000
2000
เป็นจุดสุดท้าย ของวรรคดนตรี
02:09
like the period at the end of a sentence.
43
114000
2000
เหมือนกับเครื่องหมายจุด ที่ใช้จบประโยค
02:11
So, you can hear it not just in the phrasing, but the way they count off their music:
44
116000
2000
คุณได้ยินมัน ไม่เพียงเวลาแบ่งวรรคดนตรี แต่วิธีนับจังหวะดนตรีด้วย
02:13
two, three, four, one.
45
118000
3000
สอง สาม สี่ หนึ่ง
02:16
And this map is also accurate.
46
121000
3000
และแผนที่นี้ ก็ถูกต้องแล้วด้วย
02:19
(Laughter)
47
124000
2000
(หัวเราะ)
02:21
There's a saying that whatever true thing you can say about India,
48
126000
3000
มีคนพูดไว้ว่า อะไรก็ตาม ที่เป็นจริงเกี่ยวกับอินเดีย
02:24
the opposite is also true.
49
129000
2000
ตรงกันข้าม ก็เป็นจริงเหมือนกัน
02:26
So, let's never forget, whether at TED, or anywhere else,
50
131000
2000
ดังนั้น พวกเราไม่ควรลืม ไม่ว่าที่ TED หรือที่ใดอื่น
02:28
that whatever brilliant ideas you have or hear,
51
133000
3000
ว่าความคิดที่ยอดเยี่ยมอะไรก็ตาม ที่คุณมี หรือได้ยินมา
02:31
that the opposite may also be true.
52
136000
2000
สิ่งตรงข้าม ก็อาจเป็นจริงได้เช่นกัน
02:33
Domo arigato gozaimashita.
53
138000
2000
ขอบคุณมากๆครับ (ภาษาญี่ปุ่น)
ABOUT THE SPEAKER
Derek Sivers - EntrepreneurThrough his new project, MuckWork, Derek Sivers wants to lessen the burdens (and boredom) of creative people.
Why you should listen
Derek Sivers is best known as the founder of CD Baby. A professional musician since 1987, he started CD Baby by accident in 1998 when he was selling his own CD on his website, and friends asked if he could sell theirs, too. CD Baby was the largest seller of independent music on the web, with over $100M in sales for over 150,000 musician clients.
In 2008, Sivers sold CD Baby to focus on his new ventures to benefit musicians, including his new company, MuckWork, where teams of efficient assistants help musicians do their "uncreative dirty work."
Derek Sivers | Speaker | TED.com