ABOUT THE SPEAKER
Annie Murphy Paul - Science author
Annie Murphy Paul investigates how life in the womb shapes who we become.

Why you should listen

To what extent the conditions we encounter before birth influence our individual characteristics? It‘s the question at the center of fetal origins, a relatively new field of research that measures how the effects of influences outside the womb during pregnancy can shape the physical, mental and even emotional well-being of the developing baby for the rest of its life.

Science writer Annie Murphy Paul calls it a gray zone between nature and nurture in her book Origins, a history and study of this emerging field structured around a personal narrative -- Paul was pregnant with her second child at the time. What she finds suggests a far more dynamic nature between mother and fetus than typically acknowledged, and opens up the possibility that the time before birth is as crucial to human development as early childhood.

Read Annie Murphy Paul's essay on CNN.com>>

More profile about the speaker
Annie Murphy Paul | Speaker | TED.com
TEDGlobal 2011

Annie Murphy Paul: What we learn before we're born

แอนนี เมอร์ฟีย์ พอล: สิ่งที่เราเรียนรู้ก่อนที่เราจะเกิด

Filmed:
2,517,731 views

คำถาม: การเรียนรู้เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไร คำตอบ: ก่อนที่เราจะเกิด -- นักเขียนบทความด้านวิทยาศาสตร์ แอนนี เมอร์ฟีย์ พอลจะมาเล่าให้เราฟังถึงงานวิจัยชิ้นใหม่ที่แสดงให้เห็นว่าเราเรียนรู้กันมากแค่ไหนระหว่างที่ยังอยู่ในครรภ์มารดา นับตั้งแต่การร้องไห้เป็นจังหวะตามภาษาแม่ของเรา ไปจนถึงการเรียนรู้อาหารที่จะกลายเป็นอาหารจานโปรดของเราเมื่อเติบโตขึ้น
- Science author
Annie Murphy Paul investigates how life in the womb shapes who we become. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:15
My subjectเรื่อง todayในวันนี้ is learningการเรียนรู้.
0
0
3000
หัวข้อที่ฉันจะพูดในวันนีี้คือเรื่องการเรียนรู้
00:18
And in that spiritวิญญาณ, I want to springฤดูใบไม้ผลิ on you all a popป๊อป quizทดสอบ.
1
3000
3000
และว่าด้วยเรื่องนั้น ฉันมีคำถามที่อยากถามทุกคน
00:21
Readyพร้อมแล้ว?
2
6000
2000
พร้อมกันรึยังคะ
00:23
When does learningการเรียนรู้ beginเริ่ม?
3
8000
3000
คุณคิดว่าการเรียนรู้เริ่มขึ้นเมื่อไร
00:26
Now as you ponderไตร่ตรอง that questionคำถาม,
4
11000
2000
ตอนนี้คุณคงครุ่นคิดถึงคำตอบกันอยู่
00:28
maybe you're thinkingคิด about the first day of preschoolเด็กก่อนวัยเรียน
5
13000
2000
บางที คุณอาจนึกถึงวันแรกในโรงเรียนก่อนวัยเรียน
00:30
or kindergartenโรงเรียนอนุบาล,
6
15000
2000
หรือโรงเรียนอนุบาล
00:32
the first time that kidsเด็ก are in a classroomห้องเรียน with a teacherครู.
7
17000
3000
หรือการที่เด็กๆเจอกับคุณครูครั้งแรกในห้องเรียน
00:35
Or maybe you've calledเรียกว่า to mindใจ the toddlerคนเดินเตาะแตะ phaseระยะ
8
20000
3000
บางที คุณอาจนึกไปถึงช่วงที่เด็กกำลังหัดเดิน
00:38
when childrenเด็ก ๆ are learningการเรียนรู้ how to walkเดิน and talk
9
23000
3000
ช่วงที่เด็กๆเรียนรู้วิธีการเดินและการพูดคุย
00:41
and use a forkส้อม.
10
26000
2000
รวมถึงวิธีใช้ส้อม
00:43
Maybe you've encounteredพบ the Zero-to-Threeศูนย์ถึงสาม movementการเคลื่อนไหว,
11
28000
3000
หรือ คุณอาจเคยเห็นพัฒนาการของเด็กช่วง 3 ขวบปีแรก
00:46
whichที่ assertsอ้าง that the mostมากที่สุด importantสำคัญ yearsปี for learningการเรียนรู้
12
31000
3000
ซึ่งช่วยยืนยันว่าช่วงปีที่สำคัญต่อการเรียนรู้นั้น
00:49
are the earliestที่เก่าแก่ที่สุด onesคน.
13
34000
2000
คือช่วงขวบปีแรกๆ
00:51
And so your answerตอบ to my questionคำถาม would be:
14
36000
3000
ดังนั้น คำตอบที่คุณมีในใจก็คือ
00:54
Learningการเรียนรู้ beginsเริ่มต้น at birthกำเนิด.
15
39000
2000
การเรียนรู้เริ่มต้นตั้งแต่เกิด
00:56
Well todayในวันนี้ I want to presentนำเสนอ to you
16
41000
2000
วันนี้ สิ่งที่ฉันจะนำเสนอ
00:58
an ideaความคิด that mayอาจ be surprisingน่าแปลกใจ
17
43000
3000
เป็นแนวคิดที่อาจฟังดูน่าประหลาดใจ
01:01
and mayอาจ even seemดูเหมือน implausibleไม่น่าเชื่อ,
18
46000
3000
หรืออาจถึงขั้นเหลือเชื่อเลยทีเดียว
01:04
but whichที่ is supportedได้รับการสนับสนุน by the latestล่าสุด evidenceหลักฐาน
19
49000
2000
แต่แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนด้วยหลักฐานชิ้นล่าสุด
01:06
from psychologyจิตวิทยา and biologyชีววิทยา.
20
51000
3000
ทางจิตวิทยาและชีววิทยา
01:09
And that is that some of the mostมากที่สุด importantสำคัญ learningการเรียนรู้ we ever do
21
54000
3000
และมันชี้ให้เห็นว่าการเรียนรู้ที่สำคัญที่สุดนั้น
01:12
happensที่เกิดขึ้น before we're bornโดยกำเนิด,
22
57000
2000
เริ่มขึ้นตั้งแต่ก่อนเราเกิดเสียอีก
01:14
while we're still in the wombครรภ์.
23
59000
3000
คือตั้งแต่เรายังอยู่ในครรภ์มารดา
01:17
Now I'm a scienceวิทยาศาสตร์ reporterผู้สื่อข่าว.
24
62000
2000
ปัจจุบัน ฉันเป็นนักข่าวด้านวิทยาศาสตร์
01:19
I writeเขียน booksหนังสือ and magazineนิตยสาร articlesบทความ.
25
64000
2000
ฉันเขียนหนังสือและบทความลงนิตยสาร
01:21
And I'm alsoด้วย a motherแม่.
26
66000
2000
และฉันยังเป็นแม่ด้วย
01:23
And those two rolesบทบาท cameมา togetherด้วยกัน for me
27
68000
3000
หน้าที่ทั้งสองอย่างของฉันมาบรรจบกัน
01:26
in a bookหนังสือ that I wroteเขียน calledเรียกว่า "Originsต้นกำเนิด."
28
71000
3000
ในหนังสือที่ฉันเขียน ชื่อว่า "ออริจินส์" (จุดกำเนิด)
01:29
"Originsต้นกำเนิด" is a reportรายงาน from the frontด้านหน้า linesเส้น
29
74000
3000
"ออริจินส์" เป็นรายงานระดับแนวหน้า
01:32
of an excitingน่าตื่นเต้น newใหม่ fieldสนาม
30
77000
2000
ของแวดวงเกิดใหม่ซึ่งน่าตื่นตาตื่นใจมาก
01:34
calledเรียกว่า fetalเป็นศัตรู originsต้นกำเนิด.
31
79000
2000
ที่เรียกกันว่า จุดเริ่มต้นของชีวิต
01:36
Fetalเป็นศัตรู originsต้นกำเนิด is a scientificวิทยาศาสตร์ disciplineวินัย
32
81000
3000
จุดเริ่มต้นของชีวิตนี้เป็นสาขาทางวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่ง
01:39
that emergedโผล่ออกมา just about two decadesทศวรรษที่ผ่านมา agoมาแล้ว,
33
84000
3000
ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 ทศวรรษที่ผ่านมานี้เอง
01:42
and it's basedซึ่งเป็นรากฐาน on the theoryทฤษฎี
34
87000
3000
และมีรากฐานอยู่บนทฤษฎี
01:45
that our healthสุขภาพ and well-beingความผาสุก throughoutตลอด our livesชีวิต
35
90000
3000
ที่ว่าสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีตลอดทั้งชีวิตของเรานั้น
01:48
is cruciallyขับเคลื่อน affectedได้รับผล
36
93000
2000
ได้รับผลกระทบอย่างมาก
01:50
by the nineเก้า monthsเดือน we spendใช้จ่าย in the wombครรภ์.
37
95000
3000
มาจากช่วงเวลา 9 เดือนที่เราอยู่ในครรภ์มารดา
01:53
Now this theoryทฤษฎี was of more than just intellectualทางปัญญา interestดอกเบี้ย to me.
38
98000
4000
ตอนนี้ สำหรับฉันแล้ว ทฤษฎีนี้เป็นมากกว่าแค่ความสนใจทางวิชาการ
01:57
I was myselfตนเอง pregnantตั้งครรภ์
39
102000
2000
ฉันเองก็ตั้งครรภ์
01:59
while I was doing the researchการวิจัย for the bookหนังสือ.
40
104000
3000
ขณะที่กำลังทำวิจัยเพื่อเขียนหนังสือ
02:02
And one of the mostมากที่สุด fascinatingมโนหร insightsข้อมูลเชิงลึก
41
107000
2000
และสิ่งน่าทึ่งที่สุดอย่างหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้
02:04
I tookเอา from this work
42
109000
2000
จากงานชิ้นนี้
02:06
is that we're all learningการเรียนรู้ about the worldโลก
43
111000
3000
คือแนวคิดที่ว่า เราทุกคนล้วนเรียนรู้เกี่ยวกับโลก
02:09
even before we enterเข้าสู่ it.
44
114000
3000
ตั้งแต่ก่อนที่เราจะเกิดขึ้นมาในโลกนี้เสียอีก
02:12
When we holdถือ our babiesทารก for the first time,
45
117000
2000
ขณะที่เราอุ้มทารกน้อยๆเป็นครั้งแรก
02:14
we mightอาจ imagineจินตนาการ that they're cleanสะอาด slatesชนวน,
46
119000
3000
เราอาจคิดไปว่าพวกเขาช่างบริสุทธิ์
02:17
unmarkedไม่มีเครื่องหมาย by life,
47
122000
2000
ยังไม่มีร่องรอยที่เขียนขึ้นจากชีวิต
02:19
when in factความจริง, they'veพวกเขาได้ alreadyแล้ว been shapedมีรูป by us
48
124000
3000
แต่ที่จริงแล้ว ตัวตนพวกเขาถูกหล่อหลอมจากเรา
02:22
and by the particularโดยเฉพาะ worldโลก we liveมีชีวิต in.
49
127000
4000
และจากโลกที่เราอาศัยอยู่นี้
02:26
Todayในวันนี้ I want to shareหุ้น with you some of the amazingน่าอัศจรรย์ things
50
131000
2000
วันนี้ ฉันอยากแบ่งปันเรื่องราวน่าทึ่ง
02:28
that scientistsนักวิทยาศาสตร์ are discoveringการค้นพบ
51
133000
2000
ที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ
02:30
about what fetusesทารกในครรภ์ learnเรียน
52
135000
2000
เกี่ยวกับการเรียนรู้ของทารกในครรภ์
02:32
while they're still in theirของพวกเขา mothers'แม่ belliesท้อง.
53
137000
3000
ขณะที่ยังอยู่ในท้องแม่
02:36
First of all,
54
141000
2000
แรกเริ่มเลย
02:38
they learnเรียน the soundเสียง of theirของพวกเขา mothers'แม่ voicesเสียง.
55
143000
3000
พวกเขาเรียนรู้ที่จะจดจำเสียงของแม่ตนเอง
02:41
Because soundsเสียง from the outsideด้านนอก worldโลก
56
146000
3000
เนื่องจากเสียงที่มาจากโลกภายนอกนั้น
02:44
have to travelการท่องเที่ยว throughตลอด the mother'sแม่ abdominalเกี่ยวกับท้อง tissueเนื้อเยื่อ
57
149000
3000
ต้องเดินทางผ่านเนื้อเยื่อบริเวณท้องของมารดา
02:47
and throughตลอด the amnioticน้ำคร่ำ fluidของเหลว that surroundsล้อมรอบ the fetusลูกอ่อนในครรภ์,
58
152000
4000
และผ่านน้ำคร่ำที่ล้อมรอบตัวทารกอยู่
02:51
the voicesเสียง fetusesทารกในครรภ์ hearได้ยิน,
59
156000
2000
เสียงต่างๆที่ทารกในครรภ์ได้ยิน
02:53
startingที่เริ่มต้น around the fourthที่สี่ monthเดือน of gestationการตั้งครรภ์,
60
158000
3000
เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนที่ 4 ของการตั้งครรภ์
02:56
are mutedไม่ออกเสียง and muffledอยู่ในลำคอ.
61
161000
2000
นั้นเป็นเสียงเงียบและได้ยินไม่ชัด
02:58
One researcherนักวิจัย saysกล่าวว่า
62
163000
2000
นักวิจัยรายหนึ่งกล่าวว่า
03:00
that they probablyอาจ soundเสียง a lot like the the voiceเสียงพูด of Charlieชาร์ลี Brown'sบราวน์ teacherครู
63
165000
3000
เสียงเหล่านั้นอาจฟังดูคล้ายกับเสียงคุณครูของชาร์ลี บราวน์
03:03
in the oldเก่า "Peanutsถั่ว" cartoonการ์ตูน.
64
168000
3000
ในการ์ตูน"พีนัทส์"สมัยก่อน
03:06
But the pregnantตั้งครรภ์ woman'sผู้หญิง ownด้วยตัวเอง voiceเสียงพูด
65
171000
3000
แต่เสียงของมารดาที่ตั้งครรภ์อยู่นั้น
03:09
reverberatesสั่นสะเทือน throughตลอด her bodyร่างกาย,
66
174000
2000
จะดังก้องสะท้อนอยู่ในตัวเธอเอง
03:11
reachingถึง the fetusลูกอ่อนในครรภ์ much more readilyอย่างง่ายดาย.
67
176000
3000
และส่งผ่านไปยังทารกได้ในทันที
03:14
And because the fetusลูกอ่อนในครรภ์ is with her all the time,
68
179000
3000
และเนื่องจากทารกนั้นก็อยู่กับมารดาตลอดเวลา
03:17
it hearsได้ยิน her voiceเสียงพูด a lot.
69
182000
3000
ทารกจึงได้ยินเสียงมารดาบ่อยมาก
03:20
Onceครั้งหนึ่ง the baby'sของทารก bornโดยกำเนิด, it recognizesตระหนักถึงความ her voiceเสียงพูด
70
185000
3000
เมื่อเด็กเกิดมา เขาจึงจดจำเสียงของมารดาได้
03:23
and it prefersชอบ listeningการฟัง to her voiceเสียงพูด
71
188000
2000
และเขาก็ชื่นชอบการฟังเสียงแม่ตัวเอง
03:25
over anyoneใคร ๆ else'sอื่น.
72
190000
2000
มากกว่าเสียงคนอื่นๆ
03:27
How can we know this?
73
192000
2000
เราทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร
03:29
Newbornทารกแรกเกิด babiesทารก can't do much,
74
194000
2000
เด็กแรกเกิดทำอะไรไม่ได้มากนัก
03:31
but one thing they're really good at is suckingดูด.
75
196000
3000
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำได้คือ พวกเขาเก่งเรื่องการดูดนม
03:34
Researchersนักวิจัย take advantageความได้เปรียบ of this factความจริง
76
199000
3000
บรรดานักวิจัยจึงใช้ประโยชน์จากข้อเท็จจริงดังกล่าว
03:37
by riggingเสื้อผ้า up two rubberยาง nipplesหัวนม,
77
202000
3000
โดยการทำหัวนมยางขึ้นมาสองชิ้น
03:40
so that if a babyทารก sucksดูด on one,
78
205000
2000
หากทารกดูดหัวนมชิ้นหนึ่ง
03:42
it hearsได้ยิน a recordingการบันทึก of its mother'sแม่ voiceเสียงพูด
79
207000
2000
เขาจะได้ยินเสียงของแม่ตัวเองซึ่งได้บันทึกเก็บไว้
03:44
on a pairคู่ of headphonesหูฟัง,
80
209000
2000
ผ่านทางหูฟัง
03:46
and if it sucksดูด on the other nippleหัวนม,
81
211000
2000
และหากเขาดูดหัวนมอีกชิ้นหนึ่ง
03:48
it hearsได้ยิน a recordingการบันทึก of a femaleหญิง stranger'sของคนแปลกหน้า voiceเสียงพูด.
82
213000
4000
เขาจะได้ยินเสียงหญิงแปลกหน้าซึ่งได้บันทึกไว้
03:52
Babiesทารก quicklyอย่างรวดเร็ว showแสดง theirของพวกเขา preferenceการตั้งค่า
83
217000
3000
เด็กทารกแสดงออกถึงความชอบของตนได้อย่างรวดเร็ว
03:55
by choosingเลือก the first one.
84
220000
3000
โดยการเลือกหัวนมชิ้นแรก
03:58
Scientistsนักวิทยาศาสตร์ alsoด้วย take advantageความได้เปรียบ of the factความจริง
85
223000
3000
นักวิทยาศาสตร์ยังใช้ประโยชน์จากข้อเท็จจริงที่ว่า
04:01
that babiesทารก will slowช้า down theirของพวกเขา suckingดูด
86
226000
2000
ทารกจะดูดนมช้าลง
04:03
when something interestsความสนใจ them
87
228000
2000
เมื่อมีสิ่งใดดึงดูดความสนใจพวกเขา
04:05
and resumeประวัติย่อ theirของพวกเขา fastรวดเร็ว suckingดูด
88
230000
2000
และกลับไปดูดนมเร็วๆตามเดิม
04:07
when they get boredเบื่อ.
89
232000
3000
เมื่อรู้สึกเบื่อ
04:10
This is how researchersนักวิจัย discoveredค้นพบ
90
235000
2000
ข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ
04:12
that, after womenผู้หญิง repeatedlyซ้ำแล้วซ้ำเล่า readอ่าน aloudดัง
91
237000
3000
ว่าหลังจากที่มารดาอ่านหนังสือออกเสียงดังๆซ้ำๆกัน
04:15
a sectionมาตรา of Drดร. Seuss'Seuss' "The Catแมว in the Hatหมวก" while they were pregnantตั้งครรภ์,
92
240000
4000
เช่นอ่านเรื่องแมวในหมวกของ ดร.ซูสส์หนึ่งตอน ขณะที่ตั้งครรภ์
04:19
theirของพวกเขา newbornแรกเกิด babiesทารก recognizedได้รับการยอมรับ that passageทางเดิน
93
244000
3000
เด็กเกิดใหม่จะจดจำข้อความเหล่านั้นได้
04:22
when they hearได้ยิน it outsideด้านนอก the wombครรภ์.
94
247000
3000
เมื่อเขาได้ยินข้อความนั้นนอกครรภ์มารดา
04:25
My favoriteที่ชื่นชอบ experimentการทดลอง of this kindชนิด
95
250000
3000
การทดลองในทำนองนี้ที่ฉันชื่นชอบ
04:28
is the one that showedแสดงให้เห็นว่า that the babiesทารก
96
253000
2000
คือการทดลองที่แสดงให้เห็นว่าทารก
04:30
of womenผู้หญิง who watchedดู a certainบาง soapสบู่ operaอุปรากร
97
255000
2000
ของมารดาที่ดูละครโทรทัศน์บางรายการ
04:32
everyทุกๆ day duringในระหว่าง pregnancyการตั้งครรภ์
98
257000
3000
เป็นประจำทุกวันขณะตั้งครรภ์
04:35
recognizedได้รับการยอมรับ the themeกระทู้ songเพลง of that showแสดง
99
260000
3000
สามารถจดจำเพลงเปิดรายการนั้นได้
04:38
onceครั้งหนึ่ง they were bornโดยกำเนิด.
100
263000
3000
เมื่อทารกเกิดขึ้นมาแล้ว
04:41
So fetusesทารกในครรภ์ are even learningการเรียนรู้
101
266000
2000
ทารกในครรภ์ยังเรียนรู้
04:43
about the particularโดยเฉพาะ languageภาษา that's spokenพูด
102
268000
3000
ภาษาที่พูดกันอยู่
04:46
in the worldโลก that they'llพวกเขาจะ be bornโดยกำเนิด into.
103
271000
2000
ในโลกที่เขากำลังจะถือกำเนิดขึ้นด้วย
04:48
A studyศึกษา publishedการตีพิมพ์ last yearปี
104
273000
3000
มีการศึกษาชิ้นหนึ่งซึ่งตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้ว
04:51
foundพบ that from birthกำเนิด, from the momentขณะ of birthกำเนิด,
105
276000
3000
พบว่าตั้งแต่เกิด ตั้งแต่วินาทีที่ทารกถือกำเนิดขึ้นมา
04:54
babiesทารก cryร้องไห้ in the accentสำเนียง
106
279000
2000
พวกเขาร้องไห้ด้วยสำเนียง
04:56
of theirของพวกเขา mother'sแม่ nativeพื้นเมือง languageภาษา.
107
281000
3000
ของภาษาดั้งเดิมที่มารดาพวกเขาพูด
04:59
Frenchฝรั่งเศส babiesทารก cryร้องไห้ on a risingที่เพิ่มสูงขึ้น noteบันทึก
108
284000
3000
ทารกชาวฝรั่งเศสร้องไห้ด้วยโน๊ตเสียงสูง
05:02
while Germanเยอรมัน babiesทารก endปลาย on a fallingล้ม noteบันทึก,
109
287000
3000
ขณะที่ทารกชาวเยอรมันร้องไห้ด้วยโน๊ตเสียงต่ำ
05:05
imitatingเลียนแบบ the melodicไพเราะ contoursรูปทรง
110
290000
2000
เป็นการเลียนแบบทำนอง
05:07
of those languagesภาษา.
111
292000
2000
ของภาษานั้นๆ
05:09
Now why would this kindชนิด of fetalเป็นศัตรู learningการเรียนรู้
112
294000
2000
เอาละ เรื่องการเรียนรู้ของทารกในครรภ์แบบนี้
05:11
be usefulมีประโยชน์?
113
296000
2000
จะมีประโยชน์อย่างไร
05:13
It mayอาจ have evolvedการพัฒนา to aidช่วยเหลือ the baby'sของทารก survivalการอยู่รอด.
114
298000
3000
มันอาจช่วยในการวิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอดของทารก
05:16
From the momentขณะ of birthกำเนิด,
115
301000
2000
นับแต่วินาทีที่ทารกเกิด
05:18
the babyทารก respondsตอบสนอง mostมากที่สุด to the voiceเสียงพูด
116
303000
2000
การตอบสนองส่วนใหญ่เกิดขึ้นต่อเสียง
05:20
of the personคน who is mostมากที่สุด likelyน่าจะ to careการดูแล for it --
117
305000
2000
ของคนที่น่าจะห่วงใยทารกมากที่สุด
05:22
its motherแม่.
118
307000
2000
ซึ่งก็คือมารดา
05:24
It even makesยี่ห้อ its criesเสียงร้อง
119
309000
2000
ทารกยังร้องไห้
05:26
soundเสียง like the mother'sแม่ languageภาษา,
120
311000
2000
ด้วยเสียงที่ฟังดูเป็นภาษาเดียวกันกับภาษาของแม่
05:28
whichที่ mayอาจ furtherต่อไป endearเป็นที่รัก the babyทารก to the motherแม่,
121
313000
3000
ซึ่งจะทำให้มารดายิ่งรักใคร่ทารกมากขึ้นอีก
05:31
and whichที่ mayอาจ give the babyทารก a headหัว startเริ่มต้น
122
316000
2000
อีกทั้งยังส่งผลต่อการเริ่มต้นเรียนรู้
05:33
in the criticalวิกฤติ taskงาน
123
318000
2000
ภารกิจที่สำคัญมากๆ
05:35
of learningการเรียนรู้ how to understandเข้าใจ and speakพูด
124
320000
3000
ซึ่งก็คือการทำความเข้าใจภาษาและการหัดพูด
05:38
its nativeพื้นเมือง languageภาษา.
125
323000
2000
ภาษาแม่ของตน
05:40
But it's not just soundsเสียง
126
325000
2000
แต่ไม่ใช่แค่เรื่องของเสียงเท่านั้น
05:42
that fetusesทารกในครรภ์ are learningการเรียนรู้ about in uteroมดลูก.
127
327000
2000
ที่ทารกได้เรียนรู้ในครรภ์มารดา
05:44
It's alsoด้วย tastesรสนิยม and smellsกลิ่น.
128
329000
3000
ยังเป็นเรื่องของการดมกลิ่นและลิ้มรสด้วย
05:47
By sevenเจ็ด monthsเดือน of gestationการตั้งครรภ์,
129
332000
2000
เมื่อถึงเดือนที่ 7 ของการตั้งครรภ์
05:49
the fetus'ทารกในครรภ์ tasteลิ้มรส budsตา are fullyอย่างเต็มที่ developedพัฒนา,
130
334000
2000
ต่อมรับรสของทารกจะพัฒนาเต็มที่
05:51
and its olfactoryเกี่ยวกับจมูก receptorsผู้รับ, whichที่ allowอนุญาต it to smellกลิ่น,
131
336000
3000
และอวัยวะรับกลิ่น ซึ่งช่วยให้ทารกสามารถดมกลิ่นได้
05:54
are functioningการทำงาน.
132
339000
2000
ก็ทำงานแล้ว
05:56
The flavorsรสชาติ of the foodอาหาร a pregnantตั้งครรภ์ womanหญิง eatsมื้ออาหาร
133
341000
3000
รสชาติของอาหารที่หญิงมีครรภ์รับประทาน
05:59
find theirของพวกเขา way into the amnioticน้ำคร่ำ fluidของเหลว,
134
344000
2000
จะถูกลำเลียงไปยังน้ำคร่ำ
06:01
whichที่ is continuouslyอย่างต่อเนื่อง swallowedกลืนกิน
135
346000
2000
ซึ่งจะมีการดูดกลืนอย่างต่อเนื่อง
06:03
by the fetusลูกอ่อนในครรภ์.
136
348000
2000
โดยทารกในครรภ์
06:05
Babiesทารก seemดูเหมือน to rememberจำ and preferชอบ these tastesรสนิยม
137
350000
3000
ทารกดูจะจดจำรสชาติเหล่านี้ได้ และแสดงออกว่าตนชอบรสชาตินั้น
06:08
onceครั้งหนึ่ง they're out in the worldโลก.
138
353000
3000
เมื่อพวกเขาลืมตาดูโลกแล้ว
06:11
In one experimentการทดลอง, a groupกลุ่ม of pregnantตั้งครรภ์ womenผู้หญิง
139
356000
3000
มีการทดลองหนึ่งที่ให้กลุ่มหญิงมีครรภ์
06:14
was askedถาม to drinkดื่ม a lot of carrotแครอท juiceน้ำผลไม้
140
359000
2000
ดื่มน้ำแครอทเป็นประจำ
06:16
duringในระหว่าง theirของพวกเขา thirdที่สาม trimesterภาคการศึกษา of pregnancyการตั้งครรภ์,
141
361000
3000
ในช่วงเดือนที่ 7-9 ของการตั้งครรภ์
06:19
while anotherอื่น groupกลุ่ม of pregnantตั้งครรภ์ womenผู้หญิง
142
364000
2000
ในขณะที่ให้หญิงมีครรภ์อีกกลุ่มหนึ่ง
06:21
drankดื่ม only waterน้ำ.
143
366000
2000
ดื่มแต่น้ำเปล่า
06:23
Sixหก monthsเดือน laterต่อมา, the women'sของผู้หญิง infantsทารก
144
368000
3000
หกเดือนให้หลัง เด็กที่คลอดออกมา
06:26
were offeredที่นำเสนอ cerealเมล็ดธัญพืช mixedผสม with carrotแครอท juiceน้ำผลไม้,
145
371000
3000
เราได้ป้อนซีเรียลที่ผสมน้ำแครอทให้
06:29
and theirของพวกเขา facialที่หน้า expressionsการแสดงออก were observedสังเกต while they ateกิน it.
146
374000
4000
และสังเกตสีหน้าของพวกเขาระหว่างที่รับประทาน
06:33
The offspringบุตร of the carrotแครอท juiceน้ำผลไม้ drinkingการดื่ม womenผู้หญิง
147
378000
2000
เด็กๆที่มารดาดื่มน้ำแครอทระหว่างตั้งครรภ์
06:35
ateกิน more carrot-flavoredแครอทรส cerealเมล็ดธัญพืช,
148
380000
2000
เป็นเด็กที่รับประทานซีเรียลเจือรสแครอทมากกว่า
06:37
and from the looksรูปลักษณ์ of it,
149
382000
2000
และดูจากสีหน้าท่าทางแล้ว
06:39
they seemedดูเหมือน to enjoyสนุก it more.
150
384000
2000
พวกเขาดูจะชื่นชอบมันมากกว่าเด็กอีกกลุ่ม
06:41
A sortประเภท of Frenchฝรั่งเศส versionรุ่น of this experimentการทดลอง
151
386000
3000
มีการทดลองทำนองนี้ในแบบฝรั่งเศส
06:44
was carriedดำเนินการ out in Dijonดิฌง, Franceฝรั่งเศส
152
389000
2000
ที่เมืองดีฌง ประเทศฝรั่งเศส
06:46
where researchersนักวิจัย foundพบ
153
391000
2000
นักวิจัยพบว่า
06:48
that mothersมารดา who consumedถูกใช้ foodอาหาร and drinkดื่ม
154
393000
3000
เมื่อมารดาที่รับประทานอาหารและเครื่องดื่ม
06:51
flavoredรส with licorice-flavoredชะเอมรส aniseโป๊ยกั๊ก duringในระหว่าง pregnancyการตั้งครรภ์
155
396000
5000
ปรุงด้วยสมุนไพรเทียนข้าวเปลือกซึ่งมีรสคล้ายชะเอม ในช่วงตั้งครรภ์
06:56
showedแสดงให้เห็นว่า a preferenceการตั้งค่า for aniseโป๊ยกั๊ก
156
401000
2000
เด็กๆจะชื่นชอบเทียนข้าวเปลือกเป็นพิเศษ
06:58
on theirของพวกเขา first day of life,
157
403000
2000
นับตั้งแต่วันแรกที่เกิดมา
07:00
and again, when they were testedการทดสอบ laterต่อมา,
158
405000
2000
และเมื่อมีการทดสอบเพิ่มเติมครั้งถัดมา
07:02
on theirของพวกเขา fourthที่สี่ day of life.
159
407000
2000
เมื่อเด็กเกิดมาได้ 4 วัน
07:04
Babiesทารก whoseใคร mothersมารดา did not eatกิน aniseโป๊ยกั๊ก duringในระหว่าง pregnancyการตั้งครรภ์
160
409000
4000
เด็กๆซึ่งมารดาไม่ได้รับประทานเทียนข้าวเปลือกระหว่างตั้งครรภ์
07:08
showedแสดงให้เห็นว่า a reactionปฏิกิริยา that translatedแปล roughlyลวก as "yuckyuck."
161
413000
4000
มีปฏิกิริยาตอบสนองซึ่งอาจแปลคร่าวๆได้ว่า "แหวะ"
07:12
What this meansวิธี
162
417000
2000
สิ่งเหล่านี้หมายถึง
07:14
is that fetusesทารกในครรภ์ are effectivelyมีประสิทธิภาพ beingกำลัง taughtสอน by theirของพวกเขา mothersมารดา
163
419000
2000
การที่มารดาได้สอนบทเรียนที่มีประสิทธิภาพแก่ทารกในครรภ์
07:16
about what is safeปลอดภัย and good to eatกิน.
164
421000
3000
ว่าอะไรที่ปลอดภัยและกินได้
07:19
Fetusesทารกในครรภ์ are alsoด้วย beingกำลัง taughtสอน
165
424000
2000
ทารกในครรภ์ยังได้บทเรียน
07:21
about the particularโดยเฉพาะ cultureวัฒนธรรม that they'llพวกเขาจะ be joiningการร่วม
166
426000
3000
ว่าด้วยวัฒนธรรมที่เขากำลังจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง
07:24
throughตลอด one of culture'sวัฒนธรรม mostมากที่สุด powerfulมีอำนาจ expressionsการแสดงออก,
167
429000
3000
ผ่านการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่ทรงพลังมากที่สุด
07:27
whichที่ is foodอาหาร.
168
432000
2000
ซึ่งก็คืออาหาร
07:29
They're beingกำลัง introducedแนะนำ to the characteristicลักษณะเฉพาะ flavorsรสชาติ and spicesเครื่องเทศ
169
434000
3000
พวกเขาได้รับการแนะนำให้รู้จักรสชาติและเครื่องเทศที่มีความเป็นเอกลักษณ์
07:32
of theirของพวกเขา culture'sวัฒนธรรม cuisineอาหาร
170
437000
2000
ของวัฒนธรรมการรับประทานอาหารของตน
07:34
even before birthกำเนิด.
171
439000
3000
ก่อนที่จะเกิดเสียอีก
07:37
Now it turnsผลัดกัน out that fetusesทารกในครรภ์ are learningการเรียนรู้ even biggerที่ใหญ่กว่า lessonsบทเรียน.
172
442000
3000
ปัจจุบัน เราพบว่าทารกในครรภ์เรียนรู้บทเรียนที่ยิ่งใหญ่มากกว่านั้นอีก
07:40
But before I get to that,
173
445000
2000
แต่ก่อนที่ฉันจะเล่าให้ฟัง
07:42
I want to addressที่อยู่ something that you mayอาจ be wonderingสงสัย about.
174
447000
4000
ฉันอยากจะพูดอะไรสักหน่อย ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่คุณกำลังสงสัยอยู่
07:46
The notionความคิด of fetalเป็นศัตรู learningการเรียนรู้
175
451000
2000
ความเชื่อเรื่องการเรียนรู้ของทารกในครรภ์
07:48
mayอาจ conjureปลุกผี up for you attemptsความพยายามในการ to enrichประเทือง the fetusลูกอ่อนในครรภ์ --
176
453000
3000
อาจทำให้คุณอยากพัฒนาการเรียนรู้ของทารก
07:51
like playingเล่น Mozartโมซาร์ท throughตลอด headphonesหูฟัง
177
456000
2000
เช่น การเล่นเพลงโมสาร์ทผ่านทางหูฟัง
07:53
placedวางไว้ on a pregnantตั้งครรภ์ bellyท้อง.
178
458000
2000
แล้วนำไปวางไว้บนครรภ์มารดา
07:55
But actuallyแท้จริง, the nine-month-longเก้าเดือนยาว processกระบวนการ
179
460000
3000
แต่ที่จริงแล้ว กระบวนการซึ่งยาวนาน 9 เดือน
07:58
of moldingการปั้น and shapingการสร้าง that goesไป on in the wombครรภ์
180
463000
3000
ของการบ่มเพาะและหล่อหลอมที่ดำเนินไปในครรภ์นี้
08:01
is a lot more visceralเกี่ยวกับอวัยวะภายใน and consequentialที่สืบเนื่องมา than that.
181
466000
4000
เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่านั้น
08:05
Much of what a pregnantตั้งครรภ์ womanหญิง encountersการเผชิญหน้า in her dailyประจำวัน life --
182
470000
4000
เป็นสิ่งที่หญิงมีครรภ์ต้องพบในชีวิตประจำวัน
08:09
the airอากาศ she breathesหายใจ,
183
474000
2000
อากาศที่หายใจเข้าไป
08:11
the foodอาหาร and drinkดื่ม she consumesกิน,
184
476000
2000
อาหารและเครื่องดื่มที่บริโภคเข้าไป
08:13
the chemicalsสารเคมี she's exposedที่เปิดเผย to,
185
478000
2000
สารเคมีที่สัมผัส
08:15
even the emotionsอารมณ์ she feelsรู้สึก --
186
480000
2000
หรือแม้กระทั่ง อารมณ์ที่รู้สึก
08:17
are sharedที่ใช้ร่วมกัน in some fashionแฟชั่น with her fetusลูกอ่อนในครรภ์.
187
482000
3000
จะถูกถ่ายทอดไปยังทารกในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
08:20
They make up a mixผสม of influencesอิทธิพล
188
485000
3000
ทารกรับเอาอิทธิพลจากหลายสิ่งหลายอย่าง
08:23
as individualรายบุคคล and idiosyncraticที่มีนิสัยแปลก
189
488000
2000
ซึ่งก่อให้เกิดความเป็นตัวเองที่มีลักษณะเฉพาะ
08:25
as the womanหญิง herselfตัวเธอเอง.
190
490000
2000
ไม่ต่างกันกับมารดา
08:27
The fetusลูกอ่อนในครรภ์ incorporatesรวม these offeringsการนำเสนอ
191
492000
2000
ทารกในครรภ์รวบรวมเอาสิ่งต่างๆเหล่านี้
08:29
into its ownด้วยตัวเอง bodyร่างกาย,
192
494000
2000
เข้าไว้ด้วยกันในร่างกายพวกเขา
08:31
makesยี่ห้อ them partส่วนหนึ่ง of its fleshเนื้อ and bloodเลือด.
193
496000
3000
เกิดเป็นชีวิตเลือดเนื้อขึ้นมา
08:34
And oftenบ่อยครั้ง it does something more.
194
499000
2000
บ่อยครั้งที่ทารกทำอะไรมากกว่านั้น
08:36
It treatsถือว่า these maternalเกี่ยวกับมารดา contributionsผลงาน
195
501000
3000
พวกเขารับเอาสิ่งต่างๆที่แม่หยิบยื่นให้นี้
08:39
as informationข้อมูล,
196
504000
2000
ในฐานะข้อมูล
08:41
as what I like to call biologicalชีวภาพ postcardsโปสการ์ด
197
506000
2000
ซึ่งฉันขอเรียกมันว่า โปสการ์ดทางชีวภาพ
08:43
from the worldโลก outsideด้านนอก.
198
508000
3000
จากโลกภายนอก
08:46
So what a fetusลูกอ่อนในครรภ์ is learningการเรียนรู้ about in uteroมดลูก
199
511000
3000
ดังนั้นสิ่งที่ทารกได้เรียนรู้ในครรภ์มารดา
08:49
is not Mozart'sโมซาร์ท "Magicมายากล Fluteขลุ่ย"
200
514000
2000
จึงไม่ใช่แค่บทเพลง "เมจิกฟลุต" ของโมสาร์ต
08:51
but answersคำตอบ to questionsคำถาม much more criticalวิกฤติ to its survivalการอยู่รอด.
201
516000
4000
แต่เป็นคำตอบของปัญหาที่สำคัญต่อการมีชีวิตรอด
08:55
Will it be bornโดยกำเนิด into a worldโลก of abundanceความอุดมสมบูรณ์
202
520000
2000
คือ โลกที่กำลังจะต้องออกไปเผชิญนี้เป็นโลกที่อุดมสมบูรณ์
08:57
or scarcityความขาดแคลน?
203
522000
2000
หรือขาดแคลนกันแน่
08:59
Will it be safeปลอดภัย and protectedมีการป้องกัน,
204
524000
3000
เกิดมาแล้วจะปลอดภัยและมีคนปกป้องดูแล
09:02
or will it faceใบหน้า constantคงที่ dangersอันตราย and threatsภัยคุกคาม?
205
527000
3000
หรือจะต้องเจอกับภัยอันตรายอย่างต่อเนื่อง
09:05
Will it liveมีชีวิต a long, fruitfulมีผล life
206
530000
2000
ชีวิตที่เกิดมานี้จะเป็นชีวิตที่ยืนยาวและสมบูรณ์พร้อม
09:07
or a shortสั้น, harriedรุมเร้า one?
207
532000
3000
หรือเป็นชีวิตสั้นๆ ที่ไม่มีความปกติสุขเลย
09:10
The pregnantตั้งครรภ์ woman'sผู้หญิง dietอาหาร and stressความตึงเครียด levelชั้น in particularโดยเฉพาะ
208
535000
3000
วิถีการบริโภคและระดับความเครียดของมารดา
09:13
provideให้ importantสำคัญ cluesเบาะแส to prevailingแพร่หลาย conditionsเงื่อนไข
209
538000
3000
จะให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
09:16
like a fingerนิ้ว liftedยก to the windลม.
210
541000
3000
คล้ายกับการใช้นิ้วแตะน้ำลายเพื่อวัดทิศทางลม
09:19
The resultingส่งผลให้ tuningการปรับเสียง and tweakingแสตมป์
211
544000
2000
การปรับตำแหน่งและจัดท่าทางที่เกิดขึ้น
09:21
of a fetus'ทารกในครรภ์ brainสมอง and other organsอวัยวะ
212
546000
3000
ของสมองและอวัยวะอื่นๆของทารก
09:24
are partส่วนหนึ่ง of what give us humansมนุษย์
213
549000
2000
เป็นส่วนหนึ่งของความสามารถของมนุษย์
09:26
our enormousมหาศาล flexibilityมีความยืดหยุ่น,
214
551000
2000
ในการปรับตัวได้อย่างยอดเยี่ยม
09:28
our abilityความสามารถ to thriveเจริญเติบโต
215
553000
2000
ความสามารถที่จะเติบโต
09:30
in a hugeใหญ่ varietyความหลากหลาย of environmentsสภาพแวดล้อม,
216
555000
2000
ได้ในสภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายมาก
09:32
from the countryประเทศ to the cityเมือง,
217
557000
2000
ตั้งแต่ชนบทไปจนถึงเมืองใหญ่
09:34
from the tundraทุ่งทุนดรา to the desertทะเลทราย.
218
559000
3000
ตั้งแต่ทุ่งราบทุนดราไปจนถึงทะเลทราย
09:37
To concludeเอาเป็นว่า, I want to tell you two storiesเรื่องราว
219
562000
2000
เพื่อเป็นการสรุป ฉันอยากเล่าเรื่องให้คุณฟังสองเรื่อง
09:39
about how mothersมารดา teachสอน theirของพวกเขา childrenเด็ก ๆ about the worldโลก
220
564000
3000
เกี่ยวกับวิธีที่แม่สอนทารกให้ทราบเกี่ยวกับโลกภายนอก
09:42
even before they're bornโดยกำเนิด.
221
567000
3000
ก่อนที่ทารกจะเกิดมาดูโลก
09:46
In the autumnฤดูใบไม้ร่วง of 1944,
222
571000
2000
ในฤดูใบไม้ร่วง ปี 1944
09:48
the darkestที่มืดมนที่สุด daysวัน of Worldโลก Warสงคราม IIครั้งที่สอง,
223
573000
3000
ในวันที่มืดมนที่สุดของช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
09:51
Germanเยอรมัน troopsกองกำลัง blockadedปิดกั้น Westernตะวันตก Hollandประเทศเนเธอร์แลนด์,
224
576000
3000
กองทัพเยอรมันได้ปิดล้อมฮอลแลนด์ตะวันตก
09:54
turningการหมุน away all shipmentsการจัดส่ง of foodอาหาร.
225
579000
3000
การขนส่งเสบียงทั้งหมดถูกตัดขาด
09:57
The openingการเปิด of the Nazi'sนาซี siegeการล้อม
226
582000
2000
การปิดล้อมของนาซีในระยะแรกเริ่มนั้น
09:59
was followedตาม by one of the harshestไห้ wintersฤดูหนาว in decadesทศวรรษที่ผ่านมา --
227
584000
3000
ตามมาด้วยฤดูหนาวที่โหดร้ายรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายทศวรรษ
10:02
so coldหนาว the waterน้ำ in the canalsคลอง frozeแช่แข็ง solidของแข็ง.
228
587000
4000
น้ำในแม่น้ำลำคลองเย็นจัดจนกลายเป็นน้ำแข็ง
10:06
Soonในไม่ช้า foodอาหาร becameกลายเป็น scarceขาดแคลน,
229
591000
2000
จากนั้น อาหารก็เริ่มขาดแคลน
10:08
with manyจำนวนมาก Dutchดัตช์ survivingที่รอดตาย on just 500 caloriesแคลอรี่ a day --
230
593000
4000
ชาวดัตช์หลายคนมีชีวิตอยู่ได้ด้วยพลังงาน 500 แคลอรีต่อวัน
10:12
a quarterย่าน of what they consumedถูกใช้ before the warสงคราม.
231
597000
3000
ซึ่ง 25% ได้มาจากอาหารที่บริโภคเข้าไปก่อนช่วงสงคราม
10:15
As weeksสัปดาห์ที่ผ่านมา of deprivationการกีดกัน stretchedยืด into monthsเดือน,
232
600000
3000
เมื่อสภาวะขาดแคลนนั้นดำเนินต่อไป จากสัปดาห์เป็นเดือน
10:18
some resortedresorted to eatingการรับประทานอาหาร tulipพืชไม้ดอกขนาดใหญ่มีรูปคล้ายถ้วยหรือระฆัง bulbsหลอดไฟ.
233
603000
3000
บางคนจึงหันไปกินหัวดอกทิวลิป
10:21
By the beginningการเริ่มต้น of Mayอาจ,
234
606000
2000
เมื่อถึงต้นเดือนพฤษภาคม
10:23
the nation'sประเทศ carefullyรอบคอบ rationedปันส่วน foodอาหาร reserveสำรอง
235
608000
2000
เสบียงอาหารของฮอลแลนด์ที่ปันส่วนไว้อย่างดี
10:25
was completelyอย่างสมบูรณ์ exhaustedเหนื่อย.
236
610000
2000
ก็หมดลง
10:27
The specterสาง of massมวล starvationความอดอยาก loomedปรากฏ.
237
612000
3000
เค้าลางของความอดอยากหิวโหยครั้งใหญ่เริ่มก่อตัว
10:30
And then on Mayอาจ 5thTH, 1945,
238
615000
3000
จากนั้น เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 1945
10:33
the siegeการล้อม cameมา to a suddenฉับพลัน endปลาย
239
618000
2000
ภาวะขาดแคลนก็ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุด
10:35
when Hollandประเทศเนเธอร์แลนด์ was liberatedเสรี
240
620000
2000
เมื่อฮอลแลนด์ได้รับการปลดปล่อย
10:37
by the Alliesฝ่ายพันธมิตร.
241
622000
2000
จากฝ่ายสัมพันธมิตร
10:39
The "Hungerความหิว Winterฤดูหนาว," as it cameมา to be knownที่รู้จักกัน,
242
624000
3000
"ฤดูหนาวแห่งความหิวโหย" ดังที่เป็นที่รู้จักกันดีต่อมา
10:42
killedถูกฆ่าตาย some 10,000 people
243
627000
2000
ได้พรากชีวิตคนไปราว 10,000 คน
10:44
and weakenedอ่อนแอ thousandsพัน more.
244
629000
2000
และคนอีกนับพันๆก็อ่อนแอลง
10:46
But there was anotherอื่น populationประชากร that was affectedได้รับผล --
245
631000
3000
แต่ยังมีประชากรอีกพวกหนึ่งที่ได้รับผลกระทบ
10:49
the 40,000 fetusesทารกในครรภ์
246
634000
2000
ซึ่งก็คือทารก 40,000 ชีวิต
10:51
in uteroมดลูก duringในระหว่าง the siegeการล้อม.
247
636000
3000
ซึ่งอยู่ในครรภ์มารดาในช่วงภาวะขาดแคลน
10:54
Some of the effectsผลกระทบ of malnutritionการขาดแคลนอาหาร duringในระหว่าง pregnancyการตั้งครรภ์
248
639000
2000
ผลกระทบที่เกิดจากการขาดสารอาหารระหว่างการตั้งครรภ์
10:56
were immediatelyทันที apparentเห็นได้ชัด
249
641000
2000
เป็นที่เห็นได้ชัดในทันที
10:58
in higherสูงกว่า ratesราคา of stillbirthsคลอด,
250
643000
2000
จากการเพิ่มขึ้นของอัตราการตายของทารกในครรภ์
11:00
birthกำเนิด defectsข้อบกพร่อง, lowต่ำ birthกำเนิด weightsน้ำหนัก
251
645000
2000
ความผิดปกติแรกคลอด น้ำหนักแรกคลอดที่น้อยเกินไป
11:02
and infantทารก mortalityความตาย.
252
647000
2000
และอัตราการตายของทารกเมื่อคลอดออกมาแล้ว
11:04
But othersคนอื่น ๆ wouldn'tจะไม่ be discoveredค้นพบ for manyจำนวนมาก yearsปี.
253
649000
3000
แต่มีความผิดปกติอีกหลายประการที่ไม่มีใครพบจนกระทั่งหลายปีถัดมา
11:07
Decadesทศวรรษที่ผ่านมา after the "Hungerความหิว Winterฤดูหนาว,"
254
652000
2000
หลายทศวรรษ หลัง"ฤดูหนาวแห่งความหิวโหย"
11:09
researchersนักวิจัย documentedเอกสาร
255
654000
2000
นักวิจัยได้บันทึกว่า
11:11
that people whoseใคร mothersมารดา were pregnantตั้งครรภ์ duringในระหว่าง the siegeการล้อม
256
656000
4000
กลุ่มคนที่มารดาตั้งครรภ์ระหว่างช่วงภาวะขาดแคลน
11:15
have more obesityความอ้วน, more diabetesโรคเบาหวาน
257
660000
2000
มีน้ำหนักตัวเกิน เป็นโรคเบาหวาน
11:17
and more heartหัวใจ diseaseโรค in laterต่อมา life
258
662000
3000
และโรคหัวใจเมื่อเติบโตขึ้น
11:20
than individualsบุคคล who were gestatedgestated underภายใต้ normalปกติ conditionsเงื่อนไข.
259
665000
3000
มากกว่าคนที่มารดาตั้งครรภ์ในสภาวะปกติ
11:23
These individuals'บุคคล prenatalก่อนคลอด experienceประสบการณ์ of starvationความอดอยาก
260
668000
4000
ประสบการณ์ความหิวโหยที่เกิดขึ้นก่อนคลอดของคนกลุ่มนี้
11:27
seemsดูเหมือนว่า to have changedการเปลี่ยนแปลง theirของพวกเขา bodiesร่างกาย
261
672000
2000
ดูเหมือนว่าได้เปลี่ยนแปลงร่างกายพวกเขา
11:29
in myriadนับไม่ถ้วน waysวิธี.
262
674000
2000
ไปอย่างมหาศาล
11:31
They have higherสูงกว่า bloodเลือด pressureความดัน,
263
676000
2000
พวกเขามีความดันโลหิตสูงกว่าปกติ
11:33
poorerด้อย cholesterolคอเลสเตอรอล profilesโปรไฟล์
264
678000
2000
ระดับคลอเรสเตอรอลที่ผิดปกติ
11:35
and reducedที่ลดลง glucoseกลูโคส toleranceความอดทน --
265
680000
2000
ความทนทานต่อน้ำตาลกลูโคสลดต่ำลง
11:37
a precursorผู้นำ of diabetesโรคเบาหวาน.
266
682000
3000
ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ของโรคเบาหวาน
11:40
Why would undernutritionundernutrition in the wombครรภ์
267
685000
2000
เหตุใดภาวะพร่องโภชนาการในครรภ์มารดา
11:42
resultผล in diseaseโรค laterต่อมา?
268
687000
2000
จึงก่อให้เกิดโรคตามมาภายหลัง
11:44
One explanationคำอธิบาย
269
689000
2000
คำอธิบายหนึ่งคือ
11:46
is that fetusesทารกในครรภ์ are makingการทำ the bestดีที่สุด of a badไม่ดี situationสถานการณ์.
270
691000
3000
ทารกพยายามใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เลวร้ายอย่างเต็มที่
11:49
When foodอาหาร is scarceขาดแคลน,
271
694000
2000
เมื่ออาหารขาดแคลน
11:51
they divertเบนเข็ม nutrientsสารอาหาร towardsไปทาง the really criticalวิกฤติ organอวัยวะ, the brainสมอง,
272
696000
3000
พวกเขาลำเลียงสารอาหารไปยังอวัยวะที่สำคัญจริงๆ ซึ่งก็คือสมอง
11:54
and away from other organsอวัยวะ
273
699000
2000
และดึงสารอาหารออกจากอวัยวะอื่นๆ
11:56
like the heartหัวใจ and liverตับ.
274
701000
2000
เช่นหัวใจและตับ
11:58
This keepsช่วยให้ the fetusลูกอ่อนในครรภ์ aliveมีชีวิตอยู่ in the short-termช่วงเวลาสั้น ๆ,
275
703000
3000
การทำเช่นนี้ช่วยให้ทารกอยู่รอดได้ในช่วงสั้นๆ
12:01
but the billบิล comesมา dueครบกำหนด laterต่อมา on in life
276
706000
3000
แต่ภายหลังก็ต้องจ่ายบิลที่ค้างชำระไว้
12:04
when those other organsอวัยวะ, deprivedถูกลิดรอน earlyตอนต้น on,
277
709000
2000
เมื่ออวัยวะที่ถูกดึงสารอาหารออกไปใช้เหล่านั้น
12:06
becomeกลายเป็น more susceptibleอ่อนแอ to diseaseโรค.
278
711000
3000
มีความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บเพิ่มมากขึ้น
12:09
But that mayอาจ not be all that's going on.
279
714000
3000
แต่อาจไม่ใช่เพียงเท่านั้น
12:12
It seemsดูเหมือนว่า that fetusesทารกในครรภ์ are takingการ cuesชี้นำ
280
717000
2000
ดูเหมือนว่า ทารกในครรภ์จะรับเอาสัญญาณ
12:14
from the intrauterineมดลูก environmentสิ่งแวดล้อม
281
719000
3000
ของสภาพแวดล้อมภายในครรภ์
12:17
and tailoringการตัดเสื้อ theirของพวกเขา physiologyสรีรวิทยา accordinglyตาม.
282
722000
2000
และออกแบบสรีระของตนเองตามนั้น
12:19
They're preparingการจัดเตรียม themselvesตัวเอง
283
724000
2000
พวกเขาเตรียมตัวเองให้พร้อม
12:21
for the kindชนิด of worldโลก they will encounterพบ
284
726000
2000
สำหรับโลกที่เขาต้องเผชิญ
12:23
on the other sideด้าน of the wombครรภ์.
285
728000
2000
ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของครรภ์มารดา
12:25
The fetusลูกอ่อนในครรภ์ adjustsปรับ its metabolismการเผาผลาญอาหาร
286
730000
2000
ทารกในครรภ์ปรับระดับการเผาผลาญของตนเอง
12:27
and other physiologicalสรีรวิทยา processesกระบวนการ
287
732000
3000
และกระบวนการทางสรีระด้านอื่นๆ
12:30
in anticipationความคาดหมาย of the environmentสิ่งแวดล้อม that awaitsรอ it.
288
735000
3000
ด้วยความคาดหวังที่มีต่อโลกที่รออยู่ข้างนอก
12:33
And the basisรากฐาน of the fetus'ทารกในครรภ์ predictionคาดการณ์
289
738000
3000
และสิ่งพื้นฐานที่ทารกในครรภ์ใช้ในการคาดเดา
12:36
is what its motherแม่ eatsมื้ออาหาร.
290
741000
2000
ก็คือสิ่งที่มารดาทานเข้าไป
12:38
The mealsอาหาร a pregnantตั้งครรภ์ womanหญิง consumesกิน
291
743000
2000
อาหารที่หญิงมีครรภ์บริโภค
12:40
constituteเป็น a kindชนิด of storyเรื่องราว,
292
745000
2000
ก่อให้เกิดเรื่องราวแตกต่างกันไป
12:42
a fairyนางฟ้า taleนิทาน of abundanceความอุดมสมบูรณ์
293
747000
2000
อาจเป็นเทพนิยายที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์
12:44
or a grimน่ากลัว chronicleประวัติการณ์ of deprivationการกีดกัน.
294
749000
3000
หรือนิทานพี่น้องตระกูลกริมม์แสนโหดร้าย
12:47
This storyเรื่องราว impartsimparts informationข้อมูล
295
752000
3000
เรื่องราวเหล่านี้ช่วยส่งต่อข้อมูล
12:50
that the fetusลูกอ่อนในครรภ์ usesการใช้งาน
296
755000
2000
ซึ่งทารกจะนำไปใช้
12:52
to organizeจัดระเบียบ its bodyร่างกาย and its systemsระบบ --
297
757000
2000
ในการเสริมสร้างจัดการร่างกายและระบบต่างๆ
12:54
an adaptationการปรับตัว to prevailingแพร่หลาย circumstancesพฤติการณ์
298
759000
3000
ซึ่งก็คือ การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่
12:57
that facilitatesอำนวยความสะดวก its futureอนาคต survivalการอยู่รอด.
299
762000
3000
เพื่อช่วยให้มีชีวิตรอดในอนาคต
13:00
Facedต้องเผชิญ with severelyอย่างรุนแรง limitedถูก จำกัด resourcesทรัพยากร,
300
765000
3000
การที่ต้องเผชิญกับทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
13:03
a smaller-sizedขนาดเล็ก childเด็ก with reducedที่ลดลง energyพลังงาน requirementsความต้องการ
301
768000
3000
เด็กที่ตัวเล็กกว่าปกติ และต้องการพลังงานที่น้อยกว่าปกติ
13:06
will, in factความจริง, have a better chanceโอกาส
302
771000
2000
จะมีโอกาสสูง
13:08
of livingการดำรงชีวิต to adulthoodวุฒิ.
303
773000
2000
ในการอยู่รอดไปจนถึงวัยผู้ใหญ่
13:10
The realจริง troubleปัญหา comesมา
304
775000
2000
ปัญหาที่แท้จริงเกิดขึ้น
13:12
when pregnantตั้งครรภ์ womenผู้หญิง are, in a senseความรู้สึก, unreliableไม่น่าเชื่อถือ narratorsผู้รายงาน,
305
777000
3000
เมื่อหญิงมีครรภ์กลายเป็นผู้ส่งสารที่เชื่อถือไม่ได้ ในทางใดทางหนึ่ง
13:15
when fetusesทารกในครรภ์ are led
306
780000
2000
เมื่อทารกถูกชักนำ
13:17
to expectคาดหวัง a worldโลก of scarcityความขาดแคลน
307
782000
2000
ให้คาดหวังว่าโลกข้างนอกจะมีแต่ความขาดแคลน
13:19
and are bornโดยกำเนิด insteadแทน into a worldโลก of plentyความอุดมสมบูรณ์.
308
784000
3000
แต่กลับเกิดมาในโลกที่อุดมสมบูรณ์
13:22
This is what happenedที่เกิดขึ้น to the childrenเด็ก ๆ of the Dutchดัตช์ "Hungerความหิว Winterฤดูหนาว."
309
787000
3000
เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับเด็กชาวดัตช์ในช่วง "ฤดูหนาวแห่งความหิวโหย"
13:25
And theirของพวกเขา higherสูงกว่า ratesราคา of obesityความอ้วน,
310
790000
2000
และการเพิ่มสูงของอัตราการมีน้ำหนักเกิน
13:27
diabetesโรคเบาหวาน and heartหัวใจ diseaseโรค
311
792000
2000
โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ
13:29
are the resultผล.
312
794000
2000
ก็เป็นผลลัพธ์ที่ได้จากเหตุการณ์นี้
13:31
Bodiesร่างกาย that were builtสร้างขึ้น to hangแขวน ontoไปยัง everyทุกๆ calorieแคลอรี่
313
796000
3000
ร่างกายที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เก็บสะสมแคลอรีทุกเม็ดทุกหน่วย
13:34
foundพบ themselvesตัวเอง swimmingว่ายน้ำ in the superfluousฟุ่มเฟือย caloriesแคลอรี่
314
799000
2000
กลับต้องแหวกว่ายอยู่ในทะเลแคลอรีปริมาณมหาศาล
13:36
of the post-warหลังสงคราม Westernตะวันตก dietอาหาร.
315
801000
3000
ของวิถีการกินแบบตะวันตกช่วงหลังสงคราม
13:39
The worldโลก they had learnedได้เรียนรู้ about while in uteroมดลูก
316
804000
3000
โลกที่พวกเขาได้เรียนรู้ระหว่างอยู่ในครรภ์มารดา
13:42
was not the sameเหมือนกัน
317
807000
2000
กลับไม่เหมือนกัน
13:44
as the worldโลก into whichที่ they were bornโดยกำเนิด.
318
809000
3000
กับโลกที่พวกเขาเกิดขึ้นมา
13:47
Here'sต่อไปนี้คือ anotherอื่น storyเรื่องราว.
319
812000
2000
มีอีกเรื่องหนึ่ง
13:49
At 8:46 a.m. on Septemberกันยายน 11thTH, 2001,
320
814000
4000
ณ เวลา 8.46 ของเช้าวันที่ 11 กันยายน 2001
13:53
there were tensนับ of thousandsพัน of people
321
818000
2000
มีคนนับหมื่นๆ
13:55
in the vicinityบริเวณใกล้เคียง of the Worldโลก Tradeค้า Centerศูนย์
322
820000
2000
อยู่ใกล้ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
13:57
in Newใหม่ Yorkนิวยอร์ก --
323
822000
2000
ในกรุงนิวยอร์ก
13:59
commutersผู้โดยสาร spillingspilling off trainsรถไฟ,
324
824000
2000
ทั้งผู้โดยสารที่หลั่งไหลลงจากรถไฟ
14:01
waitressesพนักงานเสิร์ฟ settingการตั้งค่า tablesตาราง for the morningตอนเช้า rushวิ่ง,
325
826000
3000
พนักงานเสิร์ฟที่จัดโต๊ะต้อนรับฝูงชนที่เร่งรีบในยามเช้า
14:04
brokersโบรกเกอร์ alreadyแล้ว workingการทำงาน the phonesโทรศัพท์ on Wallผนัง Streetถนน.
326
829000
4000
โบรกเกอร์ที่เริ่มคุยงานทางโทรศัพท์ในย่านวอลล์สตรีท
14:08
1,700 of these people were pregnantตั้งครรภ์ womenผู้หญิง.
327
833000
3000
คนในกลุ่มนั้นจำนวน 1,700 คนเป็นหญิงมีครรภ์
14:11
When the planesเครื่องบิน struckหลง and the towersอาคาร collapsedทรุดตัวลง,
328
836000
3000
ตอนที่เครื่องบินพุ่งชน และตึกถล่มลงมา
14:14
manyจำนวนมาก of these womenผู้หญิง experiencedมีประสบการณ์ the sameเหมือนกัน horrorsความน่าสะพรึงกลัว
329
839000
3000
ผู้หญิงกลุ่มนี้หลายคนต้องประสบกับความกลัวประเภทเดียวกัน
14:17
inflictedลือ on other survivorsผู้รอดชีวิต of the disasterภัยพิบัติ --
330
842000
3000
ที่เกิดกับผู้รอดชีวิตรายอื่นๆ
14:20
the overwhelmingล้นหลาม chaosความสับสนวุ่นวาย and confusionความสับสน,
331
845000
2000
คือความสับสนอลหม่านที่ท่วมท้น
14:22
the rollingการกลิ้ง cloudsเมฆ
332
847000
2000
กลุ่มควันที่ลอยฟุ้ง
14:24
of potentiallyที่อาจเกิดขึ้น toxicเป็นพิษ dustฝุ่น and debrisเศษ,
333
849000
4000
ที่เกิดจากฝุ่นและเศษซากปรักหักพังที่อาจเป็นพิษ
14:28
the heart-poundingหัวใจห้ำหั่น fearกลัว for theirของพวกเขา livesชีวิต.
334
853000
2000
ความกลัวอันตรายที่อาจเกิดกับชีวิตจนหัวใจเต้นแรง
14:30
About a yearปี after 9/11,
335
855000
2000
ประมาณหนึ่งปี หลังจากเหตุการณ์ 9/11
14:32
researchersนักวิจัย examinedการตรวจสอบ a groupกลุ่ม of womenผู้หญิง
336
857000
3000
นักวิจัยได้ทำการทดสอบหญิงกลุ่มหนึ่ง
14:35
who were pregnantตั้งครรภ์
337
860000
2000
ซึ่งตั้งครรภ์
14:37
when they were exposedที่เปิดเผย to the Worldโลก Tradeค้า Centerศูนย์ attackโจมตี.
338
862000
2000
ในช่วงที่ต้องเผชิญความเสี่ยงต่อเหตุการณ์ตึกเวิลด์เทรดถล่ม
14:39
In the babiesทารก of those womenผู้หญิง
339
864000
2000
ทารกของหญิงเหล่านั้น
14:41
who developedพัฒนา post-traumaticโพสต์บาดแผล stressความตึงเครียด syndromeซินโดรม, or PTSDพล็อต,
340
866000
3000
ซึ่งเติบโตมาพร้อมภาวะหวาดผวาจากภัยพิบัติ หรือ PTSD
14:44
followingดังต่อไปนี้ theirของพวกเขา ordealความเจ็บปวด,
341
869000
2000
หลังจากติดตามอาการ
14:46
researchersนักวิจัย discoveredค้นพบ a biologicalชีวภาพ markerเครื่องหมาย
342
871000
3000
นักวิจัยได้ค้นพบตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ
14:49
of susceptibilityความอ่อนแอ to PTSDพล็อต --
343
874000
2000
ที่ชี้ให้เห็นความเสี่ยงต่อการเป็น PTSD ได้ง่าย
14:51
an effectผล that was mostมากที่สุด pronouncedเด่นชัด
344
876000
3000
ผลกระทบที่ชัดเจนที่สุด
14:54
in infantsทารก whoseใคร mothersมารดา experiencedมีประสบการณ์ the catastropheภัยพิบัติ
345
879000
3000
พบในทารกที่มารดาเผชิญกับภัยพิบัติ
14:57
in theirของพวกเขา thirdที่สาม trimesterภาคการศึกษา.
346
882000
2000
ในช่วงเดือนที่ 7-9 ของการตั้งครรภ์
14:59
In other wordsคำ,
347
884000
2000
พูดอีกนัยหนึ่งคือ
15:01
the mothersมารดา with post-traumaticโพสต์บาดแผล stressความตึงเครียด syndromeซินโดรม
348
886000
3000
มารดาที่ประสบกับภาวะหวาดผวาจากภัยพิบัติ
15:04
had passedผ่าน on a vulnerabilityความอ่อนแอ to the conditionเงื่อนไข
349
889000
3000
ได้ส่งต่อภาวะเสี่ยงของอาการดังกล่าว
15:07
to theirของพวกเขา childrenเด็ก ๆ while they were still in uteroมดลูก.
350
892000
3000
ไปยังบุตร ขณะที่ยังอยู่ในครรภ์
15:10
Now considerพิจารณา this:
351
895000
2000
เอาล่ะ ลองคิดถึงเรื่องนี้กันดู
15:12
post-traumaticโพสต์บาดแผล stressความตึงเครียด syndromeซินโดรม
352
897000
2000
ภาวะหวาดผวาจากภัยพิบัติ
15:14
appearsปรากฏ to be a reactionปฏิกิริยา to stressความตึงเครียด goneที่ไปแล้ว very wrongไม่ถูกต้อง,
353
899000
3000
เป็นเหมือนปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเมื่อความเครียดทำงานผิดปกติ
15:17
causingการก่อให้เกิด its victimsผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ tremendousมหึมา unnecessaryไม่จำเป็น sufferingความทุกข์ทรมาน.
354
902000
4000
ส่งผลให้เหยื่อต้องเผชิญกับความทุกข์หนักหนาสาหัสเกินจำเป็น
15:21
But there's anotherอื่น way of thinkingคิด about PTSDพล็อต.
355
906000
3000
แต่เราอาจมอง PTSD ในอีกมุมหนึ่งได้
15:24
What looksรูปลักษณ์ like pathologyพยาธิวิทยา to us
356
909000
3000
สิ่งที่ดูเหมือนโรคร้ายสำหรับเรา
15:27
mayอาจ actuallyแท้จริง be a usefulมีประโยชน์ adaptationการปรับตัว
357
912000
2000
ที่จริงอาจเป็นการปรับตัวที่สำคัญ
15:29
in some circumstancesพฤติการณ์.
358
914000
2000
ในบางสถานการณ์
15:31
In a particularlyโดยเฉพาะ dangerousเป็นอันตราย environmentสิ่งแวดล้อม,
359
916000
3000
โดยเฉพาะ ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายอย่างมาก
15:34
the characteristicลักษณะเฉพาะ manifestationsอาการ of PTSDพล็อต --
360
919000
3000
ลักษณะอาการของ PTSD ซึ่งได้แก่
15:37
a hyper-awarenessHyper-ความตระหนัก of one'sหนึ่งคือ surroundingsสิ่งแวดล้อม,
361
922000
3000
ความตระหนักรู้ถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวที่มีมากกว่าปกติ
15:40
a quick-triggerอย่างรวดเร็วทริกเกอร์ responseคำตอบ to dangerอันตราย --
362
925000
3000
ภาวะการตอบสนองต่ออันตรายที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก
15:43
could saveประหยัด someone'sใครบางคน life.
363
928000
3000
อาจช่วยรักษาชีวิตไว้ได้
15:46
The notionความคิด that the prenatalก่อนคลอด transmissionการส่งผ่าน of PTSDพล็อต riskอันตราย is adaptiveปรับได้
364
931000
4000
แนวคิดที่ว่าการส่งผ่านความเสี่ยงของ PTSD ก่อนคลอดนั้นเปลี่ยนแปลงได้
15:50
is still speculativeเกี่ยวกับการพิจารณา,
365
935000
2000
ยังไม่ได้รับการยืนยัน
15:52
but I find it ratherค่อนข้าง poignantสาหัส.
366
937000
3000
แต่ฉันเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่สะเทือนอารมณ์
15:55
It would mean that, even before birthกำเนิด,
367
940000
2000
นี่อาจหมายถึง ก่อนที่เด็กจะเกิด
15:57
mothersมารดา are warningการเตือน theirของพวกเขา childrenเด็ก ๆ
368
942000
2000
มารดาได้เตือนลูกๆ
15:59
that it's a wildป่า worldโลก out there,
369
944000
2000
ว่าโลกข้างนอกมันโหดร้าย
16:01
tellingบอก them, "Be carefulระมัดระวัง."
370
946000
3000
บอกพวกเขาว่า "ระวังตัวนะ"
16:04
Let me be clearชัดเจน.
371
949000
2000
ขออธิบายให้ชัดสักหน่อย
16:06
Fetalเป็นศัตรู originsต้นกำเนิด researchการวิจัย is not about blamingโทษ womenผู้หญิง
372
951000
3000
การวิจัยว่าด้วยจุดเริ่มต้นของชีวิตนี้ไม่ใช่การกล่าวโทษมารดา
16:09
for what happensที่เกิดขึ้น duringในระหว่าง pregnancyการตั้งครรภ์.
373
954000
2000
ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์
16:11
It's about discoveringการค้นพบ how bestดีที่สุด to promoteส่งเสริม
374
956000
3000
แต่เป็นเรื่องว่าด้วยวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยพัฒนา
16:14
the healthสุขภาพ and well-beingความผาสุก of the nextต่อไป generationรุ่น.
375
959000
3000
สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของคนรุ่นต่อไป
16:17
That importantสำคัญ effortความพยายาม mustต้อง includeประกอบด้วย a focusโฟกัส
376
962000
2000
ความทุ่มเทที่สำคัญเช่นนั้นต้องมุ่งความสนใจไปที่
16:19
on what fetusesทารกในครรภ์ learnเรียน
377
964000
2000
สิ่งที่ทารกในครรภ์เรียนรู้
16:21
duringในระหว่าง the nineเก้า monthsเดือน they spendใช้จ่าย in the wombครรภ์.
378
966000
3000
ระหว่างช่วงเวลา 9 เดือนในครรภ์มารดาด้วย
16:24
Learningการเรียนรู้ is one of life'sชีวิต mostมากที่สุด essentialสำคัญ activitiesกิจกรรม,
379
969000
3000
การเรียนรู้เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญที่สุดในชีวิต
16:27
and it beginsเริ่มต้น much earlierก่อน
380
972000
2000
และมันเริ่มต้นขึ้นรวดเร็วมาก
16:29
than we ever imaginedจินตนาการ.
381
974000
2000
เกินกว่าที่เราคาดไว้เสียอีก
16:31
Thank you.
382
976000
2000
ขอบคุณค่ะ
16:33
(Applauseการปรบมือ)
383
978000
7000
(ปรบมือ)

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Annie Murphy Paul - Science author
Annie Murphy Paul investigates how life in the womb shapes who we become.

Why you should listen

To what extent the conditions we encounter before birth influence our individual characteristics? It‘s the question at the center of fetal origins, a relatively new field of research that measures how the effects of influences outside the womb during pregnancy can shape the physical, mental and even emotional well-being of the developing baby for the rest of its life.

Science writer Annie Murphy Paul calls it a gray zone between nature and nurture in her book Origins, a history and study of this emerging field structured around a personal narrative -- Paul was pregnant with her second child at the time. What she finds suggests a far more dynamic nature between mother and fetus than typically acknowledged, and opens up the possibility that the time before birth is as crucial to human development as early childhood.

Read Annie Murphy Paul's essay on CNN.com>>

More profile about the speaker
Annie Murphy Paul | Speaker | TED.com