ABOUT THE SPEAKER
Philip Zimbardo - Psychologist
Philip Zimbardo was the leader of the notorious 1971 Stanford Prison Experiment -- and an expert witness at Abu Ghraib. His book The Lucifer Effect explores the nature of evil; now, in his new work, he studies the nature of heroism.

Why you should listen

Philip Zimbardo knows what evil looks like. After serving as an expert witness during the Abu Ghraib trials, he wrote The Lucifer Effect: Understanding How Good People Turn Evil. From Nazi comic books to the tactics of used-car salesmen, he explores a wealth of sources in trying to explain the psychology of evil.

A past president of the American Psychological Association and a professor emeritus at Stanford, Zimbardo retired in 2008 from lecturing, after 50 years of teaching his legendary introductory course in psychology. In addition to his work on evil and heroism, Zimbardo recently published The Time Paradox, exploring different cultural and personal perspectives on time.

Still well-known for his controversial Stanford Prison Experiment, Zimbardo in his new research looks at the psychology of heroism. He asks, "What pushes some people to become perpetrators of evil, while others act heroically on behalf of those in need?"

More profile about the speaker
Philip Zimbardo | Speaker | TED.com
TED2009

Philip Zimbardo: The psychology of time

ฟิลิป ซิมบาร์โด แนะนำว่าการมีสุขภาพดีนั้นเกิดจากการจัดการกับเวลา

Filmed:
1,798,097 views

นักจิตวิทยา ฟิลิป ซิมบาร์โด (Philip Zimbardo) กล่าวว่า ความสุขและความสำเร็จมีรากฐานจากอุปนิสัยหนึ่งที่เราส่วนใหญ่มักมองข้าม นั่นคือ วิธีที่เรามองอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต เขาแนะนำว่า เราควรปรับสมดุลแห่งทัศนคติต่อเวลาของเราเป็นดั่งก้าวแรกในการพัฒนาชีวิต
- Psychologist
Philip Zimbardo was the leader of the notorious 1971 Stanford Prison Experiment -- and an expert witness at Abu Ghraib. His book The Lucifer Effect explores the nature of evil; now, in his new work, he studies the nature of heroism. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:18
I want to shareหุ้น with you
0
0
2000
ผมอยากจะแบ่งปัน
00:20
some ideasความคิด about the secretลับ powerอำนาจ of time,
1
2000
2000
แนวคิดเกี่ยวกับพลังแห่งเวลา
00:22
in a very shortสั้น time.
2
4000
3000
ด้วยเวลาสั้นๆครับ
00:25
Videoวีดีโอ: All right, startเริ่มต้น the clockนาฬิกา please. 30 secondsวินาที studioสตูดิโอ.
3
7000
3000
วีดิโอ: เอาล่ะ จับเวลากันนะครับ 30 วินาที
00:28
Keep it quietเงียบ please. Settleชำระ down.
4
10000
5000
เงียบกันหน่อยครับ ใจเย็นๆ
00:33
It's about time. Endปลาย sequenceลำดับ. Take one.
5
15000
6000
ใกล้จะถึงเวลาแล้ว จบไปช่วงหนึ่งแล้ว เทคที่หนึ่ง
00:39
15 secondsวินาที studioสตูดิโอ.
6
21000
3000
เหลืออีก 15 วินาที
00:42
10, nineเก้า, eightแปด, sevenเจ็ด,
7
24000
3000
สิบ เก้า แปด เจ็ด
00:45
sixหก, fiveห้า, fourสี่, threeสาม, two ...
8
27000
7000
หก ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง
00:52
Philipฟิลิป ZimbardoZimbardo: Let's tuneทำนองเพลง into the conversationการสนทนา
9
34000
2000
ฟิลิป ซิมบาร์โด: เอาล่ะ เรามาพูดถึงเรื่อง
00:54
of the principalsผู้ว่าจ้าง in Adam'sอดัม temptationสิ่งล่อใจ.
10
36000
4000
หลักการพื้นฐานของสิ่งที่ล่อใจอดัม
00:58
"Come on Adamอาดัม, don't be so wishy-washyโหลงโจ้ง. Take a biteกัด." "I did."
11
40000
4000
เอาเลย อดัม อย่าลังเลไปหน่อยเลย กัดสิ ฉันยังทำเลย
01:02
"One biteกัด, Adamอาดัม. Don't abandonละทิ้ง Eveวันก่อนวันหยุด."
12
44000
3000
คำเดียว อดัม อย่าทิ้งอีฟ
01:05
"I don't know, guys.
13
47000
3000
อ่า ผมไม่รู้ครับ
01:08
I don't want to get in troubleปัญหา."
14
50000
2000
ผมไม่อยากมีปัญหา
01:10
"Okay. One biteกัด. What the hellนรก?"
15
52000
5000
ก็ได้ ซักคำ อะไรกันนี่
01:15
(Laughterเสียงหัวเราะ)
16
57000
2000
(เสียงหัวเราะ)
01:17
Life is temptationสิ่งล่อใจ. It's all about yieldingยอมให้, resistingต่อต้าน,
17
59000
3000
ชีวิตคือสิ่งล่อลวงใจ เป็นเรื่องของการยินยอม การยับยั้งชั่งใจ
01:20
yes, no, now, laterต่อมา, impulsiveห่าม, reflectiveอย่างไตร่ตรอง,
18
62000
3000
ใช่ ไม่ใช่ ตอนนี้ ทีหลัง อยากได้ตอนนี้ ไว้รอเดี๋ยวก็ได้
01:23
presentนำเสนอ focusโฟกัส and futureอนาคต focusโฟกัส.
19
65000
3000
อยู่กับปัจจุบันและอยู่กับอนาคต
01:26
Promisedสัญญา virtuesคุณธรรม fallตก preyเหยื่อ to the passionsกิเลสตัณหา of the momentขณะ.
20
68000
2000
ความดีงามที่ได้ปฏิญาณไว้มาพ่ายแพ้ต่อแรงปรารถนาชั่วอึดใจ
01:28
Of teenageวัยรุ่น girlsสาว ๆ who pledgedให้คำมั่นสัญญา sexualทางเพศ abstinenceการละเว้น and virginityความบริสุทธิ์ untilจนกระทั่ง marriageการแต่งงาน --
21
70000
3000
เด็กสาววัยรุ่นผู้ที่ปฏิญาณว่ารักษาความบริสุทธิ์จนกระทั่งแต่งงาน
01:31
thank you Georgeจอร์จ Bushพุ่มไม้ --
22
73000
2000
ขอบคุณจอร์จ บุช (George Bush)
01:33
the majorityส่วนใหญ่, 60 percentเปอร์เซ็นต์, yieldedผล to sexualทางเพศ temptationsการล่อลวง withinภายใน one yearปี.
23
75000
4000
เด็กส่วนใหญ่นั้นซึ่งมีราวร้อยละ 60 ยอมแพ้กับสิ่งล่อใจทางเพศภายในเวลาหนึ่งปี
01:37
And mostมากที่สุด of them did so withoutไม่มี usingการใช้ birthกำเนิด controlควบคุม.
24
79000
3000
และส่วนใหญ่ทำโดยไม่มีการคุมกำเนิด
01:40
So much for promisesสัญญา.
25
82000
2000
สิ้นสุดกันทีกับคำสัญญา
01:42
Now letsช่วยให้ temptล่อ four-year-oldsสี่ปี olds, givingให้ them a treatรักษา.
26
84000
4000
ตอนนี้มาลองล่อใจเด็กสี่ขวบด้วยขนม
01:46
They can have one marshmallowขนมหวานฟู now. But if they wait
27
88000
2000
พวกเขาจะได้มาร์ชเมลโลว์หนึ่งชิ้นเลยตอนนี้ แต่ถ้าเขารอ
01:48
untilจนกระทั่ง the experimenterทดลอง comesมา back, they can have two.
28
90000
2000
จนผู้ทดลองกลับมา เขาจะได้สองชิ้น
01:50
Of courseหลักสูตร it paysจ่าย, if you like marshmallowsมาร์ชเมลโลว์, to wait.
29
92000
3000
แน่นอนถ้าคุณชอบมาร์ชเมลโลว์ มันคุ้มกว่าที่จะรอ
01:53
What happensที่เกิดขึ้น is two-thirdsสองในสาม of the kidsเด็ก give in to temptationสิ่งล่อใจ.
30
95000
3000
สิ่งที่เกิดขึ้นคือเด็กสองในสามยอมแพ้กับการล่อใจ
01:56
They cannotไม่ได้ wait. The othersคนอื่น ๆ, of courseหลักสูตร, wait.
31
98000
3000
พวกเขารอไม่ได้ แต่ส่วนที่เหลือ ยอมรอ
01:59
They resistต่อต้าน the temptationสิ่งล่อใจ. They delayความล่าช้า the now for laterต่อมา.
32
101000
4000
เขาต่อต้านสิ่งล่อลวง เขายอมอดเปรี้ยวไว้กินหวาน
02:03
Walterวอลเตอร์ MischelMischel, my colleagueเพื่อนร่วมงาน at StanfordStanford,
33
105000
2000
วอลเตอร์ มิสเชล (Walter Mischel) เพื่อนรวมงานของผมที่สแตนฟอร์ด
02:05
wentไป back 14 yearsปี laterต่อมา,
34
107000
2000
ย้อนไปเมื่อ 14 ปีที่แล้วนะครับ
02:07
to try to discoverค้นพบ what was differentต่าง about those kidsเด็ก.
35
109000
3000
พยายามจะค้นหาความแตกต่างระหว่างเด็กสองกลุ่มนี้
02:10
There were enormousมหาศาล differencesความแตกต่าง betweenระหว่าง kidsเด็ก who resistedต่อต้าน
36
112000
2000
ปรากฏว่ามีความแตกต่างกันอย่างมหาศาลในหลายๆทางระหว่างเด็กที่ทนต่อการล่อใจ
02:12
and kidsเด็ก who yieldedผล, in manyจำนวนมาก waysวิธี.
37
114000
2000
และเด็กที่ยอมแพ้กับการล่อใจ
02:14
The kidsเด็ก who resistedต่อต้าน scoredคะแนน 250 pointsจุด higherสูงกว่า on the SATกกท..
38
116000
4000
เด็กที่ทนการล่อใจนั้น ได้คะแนนเอสเอที (SAT) สูงกว่าถึง 250 คะแนน
02:18
That's enormousมหาศาล. That's like a wholeทั้งหมด setชุด of differentต่าง IQไอคิว pointsจุด.
39
120000
4000
เยอะมากนะครับ เหมือนเป็นคนที่อยู่ในช่วงไอคิว (IQ) ต่างกัน
02:22
They didn't get in as much troubleปัญหา. They were better studentsนักเรียน.
40
124000
3000
พวกเขาไม่ค่อยจะสร้างปัญหาอะไรนัก พวกเขาเป็นนักเรียนที่ดีกว่า
02:25
They were self-confidentมั่นใจตัวเอง and determinedแน่นอน. And the keyสำคัญ for me todayในวันนี้,
41
127000
2000
พวเขามีความมั่นใจในตัวเองและมุ่งมั่น และสำคัญมากเลยสำหรับผม
02:27
the keyสำคัญ for you,
42
129000
2000
สำหรับคุณด้วย
02:29
is, they were future-focusedในอนาคตที่มุ่งเน้น ratherค่อนข้าง than present-focusedปัจจุบันที่มุ่งเน้น.
43
131000
3000
นั่นคือ พวกเขาสนใจในอนาคตมากกว่าปัจจุบัน
02:32
So what is time perspectiveมุมมอง? That's what I'm going to talk about todayในวันนี้.
44
134000
3000
แล้วอะไรคือมุมมองทางเวลา นี่คือสิ่งที่ผมจะพูดวันนี้
02:35
Time perspectiveมุมมอง is the studyศึกษา of how individualsบุคคล,
45
137000
3000
มุมมองทางเวลาคือการศึกษาว่าปัจเจกบุคคล
02:38
all of us, divideการแบ่ง the flowไหล of your humanเป็นมนุษย์ experienceประสบการณ์
46
140000
3000
เราทุกคนนั้น แบ่งกระแสของประสบการณ์
02:41
into time zonesโซน or time categoriesประเภท.
47
143000
2000
ออกแบ่งช่วงเวลาและประเภทเวลาอย่างไร
02:43
And you do it automaticallyอัตโนมัติ and non-consciouslyไม่ใช่มีสติ.
48
145000
2000
และเราจะทำไปโดยอัตโนมัติ แบบใต้จิตสำนึก
02:45
They varyแตกต่าง betweenระหว่าง culturesวัฒนธรรม, betweenระหว่าง nationsประเทศ,
49
147000
2000
มันแปรผันตามวัฒนธรรม ชนชาติ
02:47
betweenระหว่าง individualsบุคคล, betweenระหว่าง socialสังคม classesชั้นเรียน,
50
149000
2000
ปัจเจก ฐานะทางสังคม
02:49
betweenระหว่าง educationการศึกษา levelsระดับ.
51
151000
2000
ระดับการศึกษา
02:51
And the problemปัญหา is that they can becomeกลายเป็น biasedลำเอียง,
52
153000
2000
และปัญหาคือ มันอาจเกิดอคติขึ้นได้
02:53
because you learnเรียน to over-useมากกว่าการใช้งาน some of them and under-useภายใต้การใช้งาน the othersคนอื่น ๆ.
53
155000
4000
เพราะเราเรียนรู้ที่จะใช้ตัวแปรบางตัวมากเกินไปและบางตัวน้อยเกินไป
02:57
What determinesกำหนด any decisionการตัดสิน you make?
54
159000
2000
แล้วอะไรที่กำหนดการติดสินใจของเรา
02:59
You make a decisionการตัดสิน on whichที่ you're going to baseฐาน an actionการกระทำ.
55
161000
3000
เราตัดสินใจว่าการกระทำของเราจะขึ้นกับสิ่งไหน
03:02
For some people it's only about what is in the immediateทันทีทันใด situationสถานการณ์,
56
164000
3000
สำหรับบางคน ก็ขึ้นอยู่กับแค่อะไรที่กำลังจะเกิดขึ้นปัจจุบันทันด่วน
03:05
what other people are doing and what you're feelingความรู้สึก.
57
167000
3000
อะไรที่คนอื่นทำอยู่และอะไรที่เรารู้สึกอยู่
03:08
And those people, when they make theirของพวกเขา decisionsการตัดสินใจ in that formatรูป --
58
170000
3000
และคนกลุ่มนี้ เมื่อเขาตัดสินใจตามรูปแบบนั้น
03:11
we're going to call them "present-orientedปัจจุบันที่มุ่งเน้น,"
59
173000
2000
เราจะเรียกคนกลุ่มนี้ว่าพวกที่ "อยู่กับปัจจุบัน"
03:13
because theirของพวกเขา focusโฟกัส is what is now.
60
175000
2000
เพราะพวกเขาสนใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ ณ ขณะนั้น
03:15
For othersคนอื่น ๆ, the presentนำเสนอ is irrelevantที่ไม่เกี่ยวข้อง.
61
177000
2000
สำหรับคนอีกบางจำพวก ปัจจุบันอาจไม่มีความเกี่ยวข้อง
03:17
It's always about "What is this situationสถานการณ์ like that I've experiencedมีประสบการณ์ in the pastอดีต?"
62
179000
3000
แต่อาจมักจะเป็นว่า "เมื่อฉันประสบเหตุการ์นั้นๆในอดีต มันเป็นอย่างไร"
03:20
So that theirของพวกเขา decisionsการตัดสินใจ are basedซึ่งเป็นรากฐาน on pastอดีต memoriesความทรงจำ.
63
182000
3000
ดังนั้น การตัดสินใจของพวกเขาจะขึ้นกับความทรงจำในอดีต
03:23
And we're going to call those people "past-orientedที่ผ่านมามุ่งเน้น," because they focusโฟกัส on what was.
64
185000
4000
และเราจะเรียกคนพวกนี้ว่าพวกที่ "อยู่กับอดีต" เพราะพวกเขาสนใจกับสิ่งที่เกิดไปแล้ว
03:27
For othersคนอื่น ๆ it's not the pastอดีต, it's not the presentนำเสนอ,
65
189000
2000
สำหรับอีกพวกที่เหลือ มันไม่เกี่ยวกับอดีต ไม่เกี่ยวกับปัจจุบัน
03:29
it's only about the futureอนาคต.
66
191000
2000
แต่เป็นเรื่องของอนาคตเท่านั้น
03:31
Theirของพวกเขา focusโฟกัส is always about anticipatedที่คาดการณ์ไว้ consequencesผลที่ตามมา.
67
193000
2000
ความสนใจของพวกเขามักจะเกี่ยวกับผลของการกระทำ
03:33
Cost-benefitต้นทุนและผลประโยชน์ analysisการวิเคราะห์.
68
195000
3000
การวิเคราะห์ การลงแรงและสิ่งที่จะได้ตอบกลับมา
03:36
We're going to call them "future-orientedในอนาคตที่มุ่งเน้น." Theirของพวกเขา focusโฟกัส is on what will be.
69
198000
3000
เราจะเรียกพวกเขาว่าพวกที่ "อยู่กับอนาคต" ความสนใจของพวกเขาอยู่ที่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
03:39
So, time paradoxบุคคลที่ผิดธรรมดา, I want to argueเถียง,
70
201000
2000
นั่นคือ ปฏิทรรศน์หรือความแย้งย้อนของเวลา ที่ผมอยากจะกล่าวถึง
03:41
the paradoxบุคคลที่ผิดธรรมดา of time perspectiveมุมมอง,
71
203000
2000
ความแย้งย้อนกันเองของมุมองทางเวลา
03:43
is something that influencesอิทธิพล everyทุกๆ decisionการตัดสิน you make,
72
205000
3000
เป็นอะไรที่มีผลต่อทุกๆการตัดสินใจของเรา
03:46
you're totallyโดยสิ้นเชิง unawareไม่ทราบ of.
73
208000
2000
เรามักจะไม่ได้ตระหนักถึงมันเลยด้วยซ้ำ
03:48
Namelyคือ, the extentขอบเขต to whichที่ you have one of these
74
210000
2000
นั่นคือ ขอบข่ายที่เราจะมีได้กับ
03:50
biasedลำเอียง time perspectivesมุมมอง.
75
212000
2000
ทัศคติต่อเวลาอย่างมีไม่เท่าเทียมเสมอกัน
03:52
Well there is actuallyแท้จริง sixหก of them. There are two waysวิธี to be present-orientedปัจจุบันที่มุ่งเน้น.
76
214000
3000
จริงๆแล้วมันมี 6 แบบนะครับ การอยู่กับปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบ
03:55
There is two waysวิธี to be past-orientedที่ผ่านมามุ่งเน้น, two waysวิธี to be futureอนาคต.
77
217000
2000
อีกสองสำหรับอดีต และสองสำหรับอนาคต
03:57
You can focusโฟกัส on past-positiveที่ผ่านมาในเชิงบวก, or past-negativeที่ผ่านมาในเชิงลบ.
78
219000
4000
เราอาจพุ่งความสนใจไปที่เรื่องทางบวกหรือเรื่องทางลบในอดีต
04:01
You can be present-hedonisticปัจจุบันประสม,
79
223000
2000
เราอาจเป็นผู้แสวงหาความสุขจากปัจจุบันกาล
04:03
namelyคือ you focusโฟกัส on the joysความสุข of life, or present-fatalistปัจจุบันโชคชะตา --
80
225000
3000
ก็คือ เราจะมุ่งเก็บเกี่ยวความสุขของชีวิตหรือเราจะซังกะตายกับปัจจุบัน
04:06
it doesn't matterเรื่อง, your life is controlledถูกควบคุม.
81
228000
2000
ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่ ชีวิตของเราควบคุมได้
04:08
You can be future-orientedในอนาคตที่มุ่งเน้น, settingการตั้งค่า goalsเป้าหมาย.
82
230000
2000
เราอาจจะยึดอยู่กับอนาคต ตั้งเป้าหมาย
04:10
Or you can be transcendentalยอดเยี่ยม futureอนาคต:
83
232000
2000
หรือเราอาจจะอยู่แบบไร้อนาคต
04:12
namelyคือ, life beginsเริ่มต้น after deathความตาย.
84
234000
3000
นั่นก็คือชีวิตเริ่มต้นหลังความตายไงครับ
04:15
Developingที่กำลังพัฒนา the mentalทางใจ flexibilityมีความยืดหยุ่น to shiftเปลี่ยน time perspectivesมุมมอง fluidlyคล่องตัว
85
237000
2000
การพัฒนาความยืดหยุ่นทางจิตเพื่อเปลี่ยนแปลงมุมมองทางเวลา
04:17
dependingทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ on the demandsความต้องการ of the situationสถานการณ์,
86
239000
3000
ขึ้นอยู่กับความเป็นไปตามสภาพการณ์
04:20
that's what you've got to learnเรียน to do.
87
242000
2000
นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องหัดเรียนรู้ที่จะทำ
04:22
So, very quicklyอย่างรวดเร็ว, what is the optimalดีที่สุด time profileข้อมูลส่วนตัว?
88
244000
3000
งั้น อย่างเร็วเลยนะครับ อะไรคือรูปแบบมุมมองทางเวลาที่ดีที่สุด
04:25
Highสูง on past-positiveที่ผ่านมาในเชิงบวก. Moderatelyปานกลาง highสูง on futureอนาคต.
89
247000
2000
ให้คุณค่ากับอดีตเชิงบวกอย่างสูง กับอนาคตค่อนข้างสูง
04:27
And moderateปานกลาง on present-hedonismปัจจุบันสุขนิยม.
90
249000
2000
และปานกลางกับการแสวงหาความสุขในปัจจุบัน
04:29
And always lowต่ำ on past-negativeที่ผ่านมาในเชิงลบ
91
251000
3000
และต่ำเสมอในอดีตเชิงลบ
04:32
and present-fatalismปัจจุบันโชคชะตา.
92
254000
2000
กับการซังกะตายในปัจจุบัน
04:34
So the optimalดีที่สุด temporalชั่วขณะ mixผสม is what you get from the pastอดีต --
93
256000
3000
ดังนั้นแล้ว ส่วนผสมที่ดีที่สุดคือ สิ่งที่เราได้จากอดีต
04:37
past-positiveที่ผ่านมาในเชิงบวก givesจะช่วยให้ you rootsราก. You connectต่อ your familyครอบครัว, identityเอกลักษณ์ and your selfตนเอง.
94
259000
4000
อดีตในเชิงบวกจะเป็นรากฐานให้กับเรา เราจะเชื่อมโยงครอบครัว อัตลักษณ์ และตัวตนของเราเอง
04:41
What you get from the futureอนาคต is wingsปีก
95
263000
2000
สิ่งที่เราได้จากอนาคตจะเป็นปีก
04:43
to soarทะยาน to newใหม่ destinationsสถานที่ท่องเที่ยว, newใหม่ challengesความท้าทาย.
96
265000
2000
ที่จะพาเราบินไปสู่จุดหมายใหม่ ความท้าทายใหม่
04:45
What you get from the presentนำเสนอ hedonismสุขนิยม
97
267000
2000
สิ่งที่เราได้จากการแสวงหาความสุขในปัจจุบัน
04:47
is the energyพลังงาน, the energyพลังงาน to exploreสำรวจ yourselfด้วยตัวคุณเอง,
98
269000
3000
จะเป็นพลัง พลังที่เราใช้ในการสำรวจตัวเอง
04:50
placesสถานที่, people, sensualityราคะ.
99
272000
4000
สถานที่ ผู้คน ความสุขทางโลกย์
04:54
Any time perspectiveมุมมอง in excessส่วนเกิน has more negativesเชิงลบ than positivesบวก.
100
276000
4000
ไม่ว่ามุมมองเวลาแบบไหน หากมากเกินไปจะมีผลทางลบมากกว่าทางบวก
04:58
What do futuresฟิวเจอร์ส sacrificeเสียสละ for successความสำเร็จ?
101
280000
3000
คนที่ยึดติดกับอนาคตต้องเสียสละอะไรบ้างเพื่อได้มาซึ่งความสำเร็จ
05:01
They sacrificeเสียสละ familyครอบครัว time. They sacrificeเสียสละ friendเพื่อน time.
102
283000
2000
พวกเขาต้องเสียสละเวลาที่ให้กับครอบครัว ให้กับเพื่อน
05:03
They sacrificeเสียสละ funสนุก time. They sacrificeเสียสละ personalส่วนบุคคล indulgenceการปล่อยตัว.
103
285000
4000
เวลาของความสนุก การได้อยู่สบายๆ
05:07
They sacrificeเสียสละ hobbiesงานอดิเรก. And they sacrificeเสียสละ sleepนอน. So it affectsส่งผลกระทบต่อ theirของพวกเขา healthสุขภาพ.
104
289000
5000
งานอดิเรก และการนอน ซึ่งมันมีผลต่อสุขภาพ
05:12
And they liveมีชีวิต for work, achievementความสำเร็จ and controlควบคุม.
105
294000
3000
และคนที่อยู่กับอนาคตนั้นจะอยู่เพื่องาน ความสำเร็จ และการได้อำนาจในการควบคุม
05:15
I'm sure that resonatesสะท้อน with some of the TEDstersTEDsters.
106
297000
3000
ผมมั่นใจว่านี่แทงใจดำพวกเรา TED บางคน
05:18
(Laughterเสียงหัวเราะ)
107
300000
2000
(เสียงหัวเราะ)
05:20
And it resonatedก้อง for me. I grewเติบโต up as a poorน่าสงสาร kidเด็ก in the Southภาคใต้ Bronxบรองซ์ ghettoสลัม,
108
302000
3000
และมันก็สะท้อนตัวผมเหมือนกัน ผมโตมาอย่างยากจนในย่านเสื่อมโทรมที่ เสาท์ บรอนซ์ (South Bronx)
05:23
a Sicilianซิซิลี familyครอบครัว -- everyoneทุกคน livedอาศัยอยู่ in the pastอดีต and presentนำเสนอ.
109
305000
3000
ของครอบครัวชาว สิซิลี (Sicily) ทุกคนอยู่กับอดีตและปัจจุบัน
05:26
I'm here as a future-orientedในอนาคตที่มุ่งเน้น personคน
110
308000
2000
แต่ผมกลับเป็นคนที่ยึดกับอนาคต
05:28
who wentไป over the topด้านบน, who did all these sacrificesเสียสละ
111
310000
2000
เป็นคนที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นที่หนึ่ง ยอมเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแลกมันมา
05:30
because teachersครู intervenedแทรกแซง, and madeทำ me futureอนาคต orientedที่มุ่งเน้น.
112
312000
4000
เพราะครูสอนและทำให้ผมเป็นคนแบบนั้น
05:34
Told me don't eatกิน that marshmallowขนมหวานฟู,
113
316000
2000
บอกผมว่า อย่าเพิ่งกินมาร์ชเมลโลว์ตอนนี้
05:36
because if you wait you're going to get two of them,
114
318000
2000
เพราะว่าถ้าเธอรอ เธอจะได้ถึงสองชิ้น
05:38
untilจนกระทั่ง I learnedได้เรียนรู้ to balanceสมดุล out.
115
320000
3000
จนกระทั่งผมได้เรียนรู้ที่จะสร้างสมดุลแก่ตัวผมเอง
05:41
I've addedที่เพิ่ม present-hedonismปัจจุบันสุขนิยม, I've addedที่เพิ่ม a focusโฟกัส on the past-positiveที่ผ่านมาในเชิงบวก,
116
323000
5000
ผมได้เพิ่มการแสวงหาความสุขกับปัจจบัน ผมเพิ่มความสนใจในอดีตที่ดีของผม
05:46
so, at 76 yearsปี oldเก่า, I am more energeticกระปรี้กระเปร่า than ever, more productiveประสิทธิผล,
117
328000
3000
ตอนนี้ผมอายุ 76 ปี ผมมีพลังกว่าแต่ก่อน มีประสิทธิภาพมากขึ้น
05:49
and I'm happierมีความสุขมาก than I have ever been.
118
331000
3000
และมีความสุขกว่าที่เคย
05:52
I just want to say that we are applyingการประยุกต์ใช้ this to manyจำนวนมาก worldโลก problemsปัญหาที่เกิดขึ้น:
119
334000
2000
ผมแค่อยากจะเล่าให้ฟังว่า พวกเราได้นำสิ่งนี้ไปใช้แก้ปัญหาระดับโลกที่มีอยู่มากมาย
05:54
changingเปลี่ยนแปลง the drop-outหล่นออกมา ratesราคา of schoolโรงเรียน kidsเด็ก,
120
336000
2000
เปลี่ยนอัตราเด็กที่สอบตก
05:56
combatingการต่อสู้ addictionsการเสพติด, enhancingการเสริมสร้าง teenวัยรุ่น healthสุขภาพ,
121
338000
3000
ต่อสู้กับยาเสพติด ส่งเสริมสุขภาพของวัยรุ่น
05:59
curingการบ่ม vets'สัตวแพทย์ PTSDพล็อต with time metaphorsอุปมาอุปมัย -- gettingได้รับ miracleปาฏิหาริย์ curesการรักษา --
122
341000
3000
รักษาโรคซึมเศร้าหลังวิกฤตชีวิต (PTSD) ของพวกทหารผ่านศึกด้วยการอุปมาทางเวลา -- เป็นการรักษาอันอัศจรรย์ --
06:02
promotingการส่งเสริม sustainabilityการพัฒนาอย่างยั่งยืน and conservationการอนุรักษ์,
123
344000
2000
ส่งเสริมแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการอนุรักษ์
06:04
reducingลด physicalกายภาพ rehabilitationการพักฟื้น where there is a 50-percent-percent dropหล่น out rateอัตรา,
124
346000
4000
ลดการฟื้นฟูสมรรถภาพทางกายที่ซึ้งมีอัตราการเลิกทำกลางคันถึงร้อยละ 50
06:08
alteringการเปลี่ยนแปลง appealsอุทธรณ์ to suicidalการฆ่าตัวตาย terroristsผู้ก่อการร้าย,
125
350000
2000
ปรับเปลี่ยนคำวอนขอต่อพวกพลีชีพก่อการร้าย
06:10
and modifyingแก้ไข familyครอบครัว conflictsความขัดแย้ง as time-zoneเขตเวลา clashesการปะทะกัน.
126
352000
4000
และเปลี่ยนแปลงปัญกาครอบครัวที่เกิดจากมุมมองทางเวลาที่แตกต่างกัน
06:14
So I want to endปลาย by sayingคำพูด:
127
356000
2000
ผมอยากจะจบการบรรยายวันนี้ด้วยการบอกว่า
06:16
manyจำนวนมาก of life'sชีวิต puzzlesจิ๊กซอร์ can be solvedแก้ไข
128
358000
3000
ปัญหาชีวิตมากมายสามารถแก้ไขได้
06:19
by understandingความเข้าใจ your time perspectiveมุมมอง and that of othersคนอื่น ๆ.
129
361000
3000
ด้วยการเข้าใจมุมมองทางเวลาของตัวเราเองและของผู้อื่น
06:22
And the ideaความคิด is so simpleง่าย, so obviousชัดเจน,
130
364000
2000
เป็นแนวคิดง่ายๆและชัดเจนมากครับ
06:24
but I think the consequencesผลที่ตามมา are really profoundลึกซึ้ง.
131
366000
2000
แต่ผมว่าผลที่เราจะได้นั้นมันล้ำลึกมากทีเดียว
06:26
Thank you so much.
132
368000
2000
ขอบคุณมากครับ
06:28
(Applauseการปรบมือ)
133
370000
1000
(เสียงปรบมือ)
Translated by Worawach Tungjitcharoen
Reviewed by Heartfelt Grace

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Philip Zimbardo - Psychologist
Philip Zimbardo was the leader of the notorious 1971 Stanford Prison Experiment -- and an expert witness at Abu Ghraib. His book The Lucifer Effect explores the nature of evil; now, in his new work, he studies the nature of heroism.

Why you should listen

Philip Zimbardo knows what evil looks like. After serving as an expert witness during the Abu Ghraib trials, he wrote The Lucifer Effect: Understanding How Good People Turn Evil. From Nazi comic books to the tactics of used-car salesmen, he explores a wealth of sources in trying to explain the psychology of evil.

A past president of the American Psychological Association and a professor emeritus at Stanford, Zimbardo retired in 2008 from lecturing, after 50 years of teaching his legendary introductory course in psychology. In addition to his work on evil and heroism, Zimbardo recently published The Time Paradox, exploring different cultural and personal perspectives on time.

Still well-known for his controversial Stanford Prison Experiment, Zimbardo in his new research looks at the psychology of heroism. He asks, "What pushes some people to become perpetrators of evil, while others act heroically on behalf of those in need?"

More profile about the speaker
Philip Zimbardo | Speaker | TED.com

Data provided by TED.

This site was created in May 2015 and the last update was on January 12, 2020. It will no longer be updated.

We are currently creating a new site called "eng.lish.video" and would be grateful if you could access it.

If you have any questions or suggestions, please feel free to write comments in your language on the contact form.

Privacy Policy

Developer's Blog

Buy Me A Coffee