TEDWomen 2010
Sheryl Sandberg: Why we have too few women leaders
เชอริล แซนด์เบิร์ก: สาเหตุที่เรามีผู้นำที่เป็นผู้หญิงน้อยเกินไป
Filmed:
Readability: 2.9
10,007,379 views
เชอริล แซนด์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการ (Chief Operating Officer) ของเฟซบุ๊ก ครุ่นคิดว่าเหตุใดถึงมีผู้หญิงที่ไต่เต้าไปถึงจุดสูงสุดของอาชีพตนเองน้อยกว่าผู้ชาย -- และเสนอคำแนะนำที่ทรงพลัง 3 ข้อ สำหรับผู้หญิงที่มุ่งมั่นจะเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
Sheryl Sandberg - COO, Facebook
As the COO at the helm of Facebook, Sheryl Sandberg juggles the tasks of monetizing the world’s largest social networking site while keeping its users happy and engaged. Full bio
As the COO at the helm of Facebook, Sheryl Sandberg juggles the tasks of monetizing the world’s largest social networking site while keeping its users happy and engaged. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
So for any of us in this room today,
0
0
2000
สำหรับเราทุกคนในห้องนี้
00:17
let's start out by admitting we're lucky.
1
2000
3000
มาเริ่มจากการยอมรับว่าเราโชคดีกันเถอะค่ะ
00:20
We don't live in the world
2
5000
2000
เราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลก
00:22
our mothers lived in, our grandmothers lived in,
3
7000
2000
ที่แม่ของเราอยู่ หรือโลกที่ยายของเราอยู่
00:24
where career choices for women were so limited.
4
9000
3000
โลกที่ผู้หญิงมีทางเลือกในอาชีพการงานจำกัดมาก
00:27
And if you're in this room today,
5
12000
2000
และถ้าคุณอยู่ในห้องนี้ วันนี้
00:29
most of us grew up in a world
6
14000
2000
พวกเราส่วนใหญ่ก็เติบโตขึ้นมาในโลก
00:31
where we had basic civil rights,
7
16000
3000
ที่เรามีสิทธิพลเมืองขั้นพื้นฐาน
00:34
and amazingly, we still live in a world
8
19000
2000
ที่น่าแปลกใจคือ เรายังอยู่ในโลก
00:36
where some women don't have them.
9
21000
2000
ที่ผู้หญิงบางคนไม่มีสิทธิเหล่านั้น
00:38
But all that aside, we still have a problem,
10
23000
2000
แต่ถ้าไม่นับเรื่องทั้งหมดนี้ เราก็มีปัญหาอยู่ดี
00:40
and it's a real problem.
11
25000
2000
และมันก็เป็นปัญหาจริงๆ
00:42
And the problem is this:
12
27000
2000
ปัญหาก็คือ
00:44
Women are not making it
13
29000
2000
ผู้หญิงไปไม่ถึง
00:46
to the top of any profession
14
31000
2000
จุดสูงสุดของอาชีพอะไรก็ตาม
00:48
anywhere in the world.
15
33000
2000
ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตามในโลก
00:50
The numbers tell the story quite clearly.
16
35000
2000
สถิติบอกเราชัดเจนค่ะเรื่องนี้
00:52
190 heads of state --
17
37000
2000
ในบรรดาผู้นำประเทศ 190 ประเทศ
00:54
nine are women.
18
39000
2000
มีเพียง 9 คนที่เป็นผู้หญิง
00:56
Of all the people in parliament in the world,
19
41000
2000
ในบรรดาสมาชิกสภาทั้งหมดในโลก
00:58
13 percent are women.
20
43000
2000
เพียงร้อยละ 13 เป็นผู้หญิง
01:00
In the corporate sector,
21
45000
2000
ในภาคธุรกิจ
01:02
women at the top,
22
47000
2000
ผู้หญิงในตำแหน่งสูงสุด
01:04
C-level jobs, board seats --
23
49000
2000
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือกรรมการบริษัท
01:06
tops out at 15, 16 percent.
24
51000
3000
อย่างมากก็มีแค่ร้อยละ 15, 16 เท่านั้น
01:09
The numbers have not moved since 2002
25
54000
2000
ตัวเลขนี้ไม่เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่ปี 2002
01:11
and are going in the wrong direction.
26
56000
3000
และกำลังลดลงด้วยซ้ำ
01:14
And even in the non-profit world,
27
59000
2000
แม้แต่ในภาคไม่แสวงกำไร
01:16
a world we sometimes think of
28
61000
2000
ซึ่งเป็นโลกที่บางครั้งเราคิดว่า
01:18
as being led by more women,
29
63000
2000
ผู้หญิงเป็นผู้นำมากกว่าผู้ชาย
01:20
women at the top: 20 percent.
30
65000
2000
ก็มีผู้นำที่เป็นผู้หญิงเพียงร้อยละ 20
01:22
We also have another problem,
31
67000
2000
นอกจากนี้ยังมีอีกปัญหาหนึ่ง
01:24
which is that women face harder choices
32
69000
3000
นั่นคือ ผู้หญิงเผชิญกับทางเลือกที่ยากกว่าผู้ชาย
01:27
between professional success and personal fulfillment.
33
72000
3000
ระหว่างความสำเร็จในอาชีพการงาน กับการเติมเต็มชีวิตส่วนตัว
01:30
A recent study in the U.S.
34
75000
2000
งานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ในสหรัฐอเมริกา
01:32
showed that, of married senior managers,
35
77000
3000
พบว่าในบรรดาผู้จัดการที่แต่งงานแล้ว
01:35
two-thirds of the married men had children
36
80000
3000
ผู้จัดการที่เป็นผู้ชายจำนวนสองในสามมีลูก
01:38
and only one-third of the married women had children.
37
83000
3000
ผู้จัดการหญิงเพียงหนึ่งในสามมีลูก
01:41
A couple of years ago, I was in New York,
38
86000
2000
เมื่อสองปีก่อน ฉันอยู่ที่นิวยอร์ก
01:43
and I was pitching a deal,
39
88000
2000
กำลังนำเสนอดีลธุรกิจ
01:45
and I was in one of those fancy New York private equity offices
40
90000
2000
ฉันไปที่สำนักงานบริษัทร่วมลงทุนแห่งหนึ่งที่ดูโก้หรู
01:47
you can picture.
41
92000
2000
คุณคงนึกออกนะคะ
01:49
And I'm in the meeting -- it's about a three-hour meeting --
42
94000
3000
ฉันอยู่ในที่ประชุม -- มันเป็นประชุมยาวสามชั่วโมง
01:52
and two hours in, there kind of needs to be that bio break,
43
97000
3000
พอผ่านไปสองชั่วโมง ทุกคนก็ต้องไปเข้าห้องน้ำ
01:55
and everyone stands up,
44
100000
2000
ทุกคนก็เลยลุกขึ้นยืน
01:57
and the partner running the meeting
45
102000
2000
ทีนี้นักการเงินในห้องที่ดำเนินการประชุม
01:59
starts looking really embarrassed.
46
104000
2000
เริ่มทำหน้าเจื่อนๆ
02:01
And I realized he doesn't know
47
106000
2000
ฉันก็เลยตระหนักว่าเขาไม่รู้
02:03
where the women's room is in his office.
48
108000
2000
ว่าห้องน้ำผู้หญิงในสำนักงานตัวเองอยู่ตรงไหน
02:05
So I start looking around for moving boxes,
49
110000
2000
ฉันก็เลยเริ่มมองหากล่องใหญ่ๆ ที่ใช้แพ็คของ
02:07
figuring they just moved in, but I don't see any.
50
112000
3000
เพราะนึกว่าพวกเขาเพิ่งย้ายเข้าสำนักงานใหม่ แต่ไม่เห็นกล่องอะไร
02:10
And so I said, "Did you just move into this office?"
51
115000
3000
ก็เลยถามว่า "พวกคุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เหรอคะ?"
02:13
And he said, "No, we've been here about a year."
52
118000
3000
เขาตอบว่า "เปล่าครับ เราอยู่มาปีนึงแล้ว"
02:16
And I said, "Are you telling me
53
121000
3000
ฉันก็เลยบอกว่า "คุณกำลังจะบอกว่า
02:19
that I am the only woman
54
124000
2000
ฉันเป็นผู้หญิงคนเดียว
02:21
to have pitched a deal in this office in a year?"
55
126000
3000
ที่มานำเสนอดีลที่นี่ ตลอดปีที่ผ่านมา?"
02:24
And he looked at me, and he said,
56
129000
2000
เขามองหน้าฉันแล้วพูดว่า
02:26
"Yeah. Or maybe you're the only one who had to go to the bathroom."
57
131000
3000
"ใช่ครับ หรือบางทีคุณอาจเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ต้องไปเข้าห้องน้ำ"
02:29
(Laughter)
58
134000
2000
(เสียงหัวเราะ)
02:31
So the question is,
59
136000
2000
ฉะนั้นคำถามคือ
02:33
how are we going to fix this?
60
138000
3000
เราจะแก้สถานการณ์นี้ได้อย่างไร?
02:36
How do we change these numbers at the top?
61
141000
3000
เราจะเปลี่ยนสถิติผู้หญิงที่เป็นผู้นำได้อย่างไร?
02:39
How do we make this different?
62
144000
3000
ทำอะไรได้บ้างที่ต่างจากเดิม?
02:42
I want to start out by saying,
63
147000
2000
ฉันอยากจะเริ่มด้วยการบอกว่า
02:44
I talk about this --
64
149000
2000
ฉันพูดเรื่องนี้ --
02:46
about keeping women in the workforce --
65
151000
2000
เรื่องการทำให้ผู้หญิงไม่ออกจากงาน --
02:48
because I really think that's the answer.
66
153000
2000
เพราะฉันคิดว่ามันคือคำตอบจริงๆ
02:50
In the high-income part of our workforce,
67
155000
2000
แรงงานทั้งระบบของเรา ส่วนที่มีรายได้สูง
02:52
in the people who end up at the top --
68
157000
3000
ในบรรดาคนที่ไปถึงจุดสูงสุด --
02:55
Fortune 500 CEO jobs,
69
160000
2000
ซีอีโอของบริษัทที่อยู่ในลิสต์ 500 ของฟอร์จูน
02:57
or the equivalent in other industries --
70
162000
3000
หรือเทียบเท่าในอุตสาหกรรมอื่น --
03:00
the problem, I am convinced,
71
165000
2000
ฉันเชื่อมั่นว่า ปัญหาคือ
03:02
is that women are dropping out.
72
167000
2000
ผู้หญิงกำลังออกไปจากระบบ
03:04
Now people talk about this a lot,
73
169000
2000
หลายคนพูดเรื่องนี้บ่อยมาก
03:06
and they talk about things like flextime and mentoring
74
171000
2000
พวกเขาพูดเรื่องเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นและการมีโค้ช
03:08
and programs companies should have to train women.
75
173000
3000
และโครงการต่างๆ ที่บริษัทควรมีเพื่ออบรมผู้หญิง
03:11
I want to talk about none of that today,
76
176000
2000
วันนี้ฉันไม่อยากพูดถึงเรื่องพวกนั้นนะคะ
03:13
even though that's all really important.
77
178000
2000
ถึงแม้ว่าทั้งหมดนั้นจะสำคัญมาก
03:15
Today I want to focus on what we can do as individuals.
78
180000
3000
วันนี้ฉันอยากจะเน้นเรื่องที่เราทุกคนทำได้ในฐานะปัจเจก
03:18
What are the messages we need to tell ourselves?
79
183000
3000
อะไรคือสารที่เราต้องบอกตัวเราเอง?
03:21
What are the messages we tell the women who work with and for us?
80
186000
3000
อะไรคือสารที่เราต้องบอกผู้หญิงที่ทำงานกับเรา และทำงานให้เรา?
03:24
What are the messages we tell our daughters?
81
189000
2000
อะไรคือสารที่เราควรบอกลูกสาวของเรา?
03:26
Now, at the outset, I want to be very clear
82
191000
2000
ฉันอยากจะเกริ่นให้ชัดก่อนว่า
03:28
that this speech comes with no judgments.
83
193000
3000
สุนทรพจน์ของฉันวันนี้ไม่ได้มาพร้อมกับคำตัดสินใดๆ
03:31
I don't have the right answer.
84
196000
2000
ฉันไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง
03:33
I don't even have it for myself.
85
198000
2000
ไม่มีแม้แต่กับตัวเอง
03:35
I left San Francisco, where I live, on Monday,
86
200000
3000
วันจันทร์ฉันเดินทางออกจากซานฟรานซิสโก เมืองที่ฉันอยู่
03:38
and I was getting on the plane for this conference.
87
203000
2000
กำลังจะขึ้นเครื่องบินมาที่งานสัมมนานี้
03:40
And my daughter, who's three, when I dropped her off at preschool,
88
205000
3000
ลูกสาววัย 3 ขวบของฉัน ตอนที่ฉันไปส่งเธอที่โรงเรียนเตรียมอนุบาล
03:43
did that whole hugging-the-leg,
89
208000
2000
โยเยเหมือนเด็กทั่วไป กอดขาฉันแน่น
03:45
crying, "Mommy, don't get on the plane" thing.
90
210000
2000
ร้องไห้งอแง "แม่จ๋า อย่าไปขึ้นเครื่องบินนะ"
03:47
This is hard. I feel guilty sometimes.
91
212000
3000
ดังนั้นนี่เป็นเรื่องยาก บางครั้งฉันก็รู้สึกผิดนะคะ
03:50
I know no women,
92
215000
2000
ฉันไม่รู้จักผู้หญิงคนไหนเลย
03:52
whether they're at home or whether they're in the workforce,
93
217000
2000
ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน หรือทำงาน
03:54
who don't feel that sometimes.
94
219000
2000
ที่ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเป็นบางครั้ง
03:56
So I'm not saying that staying in the workforce
95
221000
3000
ดังนั้น ฉันจึงไม่ได้จะบอกว่า การทำงาน
03:59
is the right thing for everyone.
96
224000
2000
คือสิ่งที่ถูกต้องสำหรับทุกคน
04:01
My talk today is about what the messages are
97
226000
3000
วันนี้ฉันแค่อยากจะบอกว่า สารหลักคืออะไร
04:04
if you do want to stay in the workforce,
98
229000
2000
ถ้าคุณอยากทำงานต่อไป
04:06
and I think there are three.
99
231000
2000
ฉันคิดว่ามีสามข้อ
04:08
One, sit at the table.
100
233000
3000
ข้อหนึ่ง นั่งที่โต๊ะ
04:11
Two, make your partner a real partner.
101
236000
3000
ข้อสอง ทำให้คู่สมรสของคุณเป็นคู่หูจริงๆ
04:14
And three, don't leave before you leave.
102
239000
4000
และข้อสาม -- ดูนั่นสิคะ -- อย่าออกจนกว่าคุณจะออก
04:18
Number one: sit at the table.
103
243000
2000
โอเค ข้อหนึ่ง การนั่งที่โต๊ะ
04:20
Just a couple weeks ago at Facebook,
104
245000
2000
สองสัปดาห์ก่อนที่เฟซบุ๊ก
04:22
we hosted a very senior government official,
105
247000
3000
เราเป็นเจ้าภาพต้อนรับเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงมากคนหนึ่ง
04:25
and he came in to meet with senior execs
106
250000
2000
เขาเดินทางมาพบปะสนทนากับผู้บริหารระดับสูง
04:27
from around Silicon Valley.
107
252000
3000
จากทั่วทั้งซิลิคอนวัลเลย์
04:30
And everyone kind of sat at the table.
108
255000
2000
ทุกคนนั่งอยู่รอบโต๊ะ
04:32
And then he had these two women who were traveling with him
109
257000
3000
ทีนี้เจ้าหน้าที่รัฐคนนี้เดินทางมาพร้อมกับผู้หญิงสองคน
04:35
who were pretty senior in his department,
110
260000
2000
ซึ่งมีตำแหน่งค่อนข้างอาวุโสในฝ่ายของเขา
04:37
and I kind of said to them, "Sit at the table. Come on, sit at the table,"
111
262000
3000
ฉันบอกพวกเธอว่า "นั่งที่โต๊ะเลยค่ะ เอาเลย นั่งที่โต๊ะ"
04:40
and they sat on the side of the room.
112
265000
3000
แต่พวกเธอเลือกนั่งริมผนังห้อง
04:43
When I was in college my senior year,
113
268000
2000
ตอนที่ฉันอยู่ปีสี่ สมัยเรียนปริญญาตรี
04:45
I took a course called European Intellectual History.
114
270000
3000
ฉันลงวิชานึงชื่อ ประวัติศาสตร์ทางปัญญาของยุโรป
04:48
Don't you love that kind of thing from college?
115
273000
2000
คุณคิดถึงเรื่องแบบนี้สมัยเรียนกันไหมคะ
04:50
I wish I could do that now.
116
275000
2000
ฉันอยากกลับไปเรียนวิชานั้นใหม่
04:52
And I took it with my roommate, Carrie,
117
277000
2000
ฉันเรียนพร้อมกับแคร์รี่ รูมเมทของฉัน
04:54
who was then a brilliant literary student --
118
279000
2000
ซึ่งตอนนั้นเป็นนักเรียนที่เก่งวรรณกรรมและหัวไวมาก --
04:56
and went on to be a brilliant literary scholar --
119
281000
2000
ตอนนี้เธอกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณกรรมแล้ว --
04:58
and my brother --
120
283000
2000
เรียนพร้อมกับน้องชายของฉัน --
05:00
smart guy, but a water-polo-playing pre-med,
121
285000
2000
ซึ่งก็เป็นคนฉลาด แต่เอกวิชาเตรียมแพทย์และเล่นโปโลน้ำไปด้วย
05:02
who was a sophomore.
122
287000
2000
น้องฉันอยู่ปีสอง
05:04
The three of us take this class together.
123
289000
2000
พวกเราสามคนลงเรียนวิชานี้พร้อมกัน
05:06
And then Carrie reads all the books
124
291000
2000
แคร์รี่อ่านหนังสือทุกเล่ม
05:08
in the original Greek and Latin,
125
293000
2000
ในภาษากรีกและละตินดั้งเดิม --
05:10
goes to all the lectures.
126
295000
2000
ไปฟังเลกเชอร์ทุกคาบ --
05:12
I read all the books in English
127
297000
2000
ส่วนฉันอ่านหนังสือทั้งหมดในภาษาอังกฤษ
05:14
and go to most of the lectures.
128
299000
2000
และไปฟังเลกเชอร์ส่วนใหญ่
05:16
My brother is kind of busy.
129
301000
2000
น้องชายของฉันค่อนข้างยุ่ง
05:18
He reads one book of 12
130
303000
2000
เลยอ่านหนังสือ 1 เล่ม จาก 12 เล่ม
05:20
and goes to a couple of lectures,
131
305000
2000
ไปฟังเลกเชอร์ครั้งสองครั้ง
05:22
marches himself up to our room
132
307000
2000
เดินดุ่มมาที่ห้องของเรา
05:24
a couple days before the exam to get himself tutored.
133
309000
3000
สองวันก่อนสอบปลายภาค ให้เราติวให้
05:27
The three of us go to the exam together, and we sit down.
134
312000
3000
เราสามคนไปที่ห้องสอบพร้อมกัน นั่งลงสอบ
05:30
And we sit there for three hours --
135
315000
2000
นั่งแช่อยู่ตรงนั้นเป็นเวลาสามชั่วโมง --
05:32
and our little blue notebooks -- yes, I'm that old.
136
317000
3000
กับสมุดข้อสอบสีฟ้า -- ใช่ค่ะ ฉันอายุมากขนาดนั้น
05:35
And we walk out, and we look at each other, and we say, "How did you do?"
137
320000
3000
พอจบแล้วเราก็เดินออกมา มองหน้ากันแล้วถามว่า "เป็นไงมั่ง?"
05:38
And Carrie says, "Boy, I feel like I didn't really draw out the main point
138
323000
3000
แคร์รี่ตอบว่า "โหย ฉันรู้สึกว่าไม่ได้ดึงเอาประเด็นหลัก
05:41
on the Hegelian dialectic."
139
326000
2000
ในวิภาษวิธีของเฮเกล"
05:43
And I say, "God, I really wish I had really connected
140
328000
3000
ฉันตอบว่า "พระเจ้า ฉันเสียดายที่ไม่ได้เชื่อมโยง
05:46
John Locke's theory of property with the philosophers who follow."
141
331000
3000
ทฤษฎีกรรมสิทธิ์ของ จอห์น ล็อค เข้ากับนักปรัชญารุ่นหลัง"
05:49
And my brother says,
142
334000
2000
เสร็จแล้วน้องชายฉันก็บอกว่า
05:51
"I got the top grade in the class."
143
336000
3000
"ฉันได้คะแนนดีที่สุดในห้องเลย"
05:55
"You got the top grade in the class?
144
340000
2000
"เธอเนี่ยนะ ได้คะแนนดีที่สุดในห้อง?
05:57
You don't know anything."
145
342000
3000
เธอไม่รู้อะไรเลย"
06:00
The problem with these stories
146
345000
2000
ปัญหาของเรื่องเหล่านี้คือ
06:02
is that they show what the data shows:
147
347000
3000
มันบอกเราแบบเดียวกับที่สถิติบอก
06:05
women systematically underestimate their own abilities.
148
350000
3000
นั่นคือ ผู้หญิงมักจะประเมินความสามารถของตัวเองต่ำเกินไป
06:08
If you test men and women,
149
353000
2000
ถ้าคุณทดสอบผู้ชายและผู้หญิง
06:10
and you ask them questions on totally objective criteria like GPAs,
150
355000
3000
และถามพวกเขาโดยใช้เกณฑ์ที่เป็นภววิสัยล้วนๆ อย่างเช่นเกรดเฉลี่ย
06:13
men get it wrong slightly high,
151
358000
2000
ผู้ชายจะตอบสูงเกินจริงไปเล็กน้อย
06:15
and women get it wrong slightly low.
152
360000
3000
ผู้หญิงจะตอบต่ำเกินจริงไปเล็กน้อย
06:18
Women do not negotiate for themselves in the workforce.
153
363000
3000
ผู้หญิงไม่เจรจาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเวลาทำงาน
06:21
A study in the last two years
154
366000
2000
งานวิจัยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
06:23
of people entering the workforce out of college
155
368000
2000
ศึกษาคนที่ไปทำงานหลังจบปริญญาตรี
06:25
showed that 57 percent of boys entering,
156
370000
3000
พบว่าเด็กผู้ชายร้อยละ 57 --
06:28
or men, I guess,
157
373000
2000
เรียกว่าผู้ใหญ่ได้แล้วมั๊ง --
06:30
are negotiating their first salary,
158
375000
2000
ต่อรองเงินเดือนแรกเข้าของพวกเขา
06:32
and only seven percent of women.
159
377000
3000
ขณะที่มีผู้หญิงเพียงร้อยละ 7 ที่ต่อรอง
06:35
And most importantly,
160
380000
2000
ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ
06:37
men attribute their success to themselves,
161
382000
3000
ผู้ชายบอกว่าความสำเร็จของพวกเขามาจากตัวเอง
06:40
and women attribute it to other external factors.
162
385000
3000
แต่ผู้หญิงบอกว่ามันมาจากปัจจัยภายนอก
06:43
If you ask men why they did a good job,
163
388000
2000
ถ้าคุณถามผู้ชายว่าทำไมพวกเขาถึงทำงานได้ดี
06:45
they'll say, "I'm awesome.
164
390000
3000
คำตอบคือ "ก็เพราะผมเจ๋งน่ะสิ
06:48
Obviously. Why are you even asking?"
165
393000
3000
เรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องถาม"
06:51
If you ask women why they did a good job,
166
396000
2000
ถ้าคุณถามผู้หญิงว่าทำไมพวกเธอถึงทำงานได้ดี
06:53
what they'll say is someone helped them,
167
398000
2000
พวกเธอจะตอบว่า เพราะมีคนอื่นช่วย
06:55
they got lucky, they worked really hard.
168
400000
2000
โชคดี หรือเพราะเธอทำงานหนักมาก
06:57
Why does this matter?
169
402000
2000
ประเด็นนี้สำคัญยังไง?
06:59
Boy, it matters a lot
170
404000
2000
โห มันสำคัญมากเลยค่ะ
07:01
because no one gets to the corner office
171
406000
3000
เพราะไม่มีใครหรอกที่ไต่เต้าจนมีห้องทำงานส่วนตัว
07:04
by sitting on the side, not at the table,
172
409000
2000
ด้วยการนั่งติดผนัง ไม่ได้นั่งที่โต๊ะประชุม
07:06
and no one gets the promotion
173
411000
2000
และไม่มีใครหรอกที่จะได้เลื่อนขั้น
07:08
if they don't think they deserve their success,
174
413000
3000
ถ้าเขาไม่คิดว่าเขาคู่ควรกับความสำเร็จ
07:11
or they don't even understand their own success.
175
416000
3000
หรือกระทั่งไม่เข้าใจความสำเร็จของตัวเอง
07:14
I wish the answer were easy.
176
419000
2000
ฉันหวังว่าคำตอบจะง่าย
07:16
I wish I could just go tell all the young women I work for,
177
421000
2000
ฉันหวังว่าฉันจะเดินไปบอกหญิงสาวทุกคนที่ฉันทำงานด้วยกัน
07:18
all these fabulous women,
178
423000
2000
ผู้หญิงแสนวิเศษเหล่านั้น
07:20
"Believe in yourself and negotiate for yourself.
179
425000
2000
ว่า "จงเชื่อมั่นในตัวเองและต่อรองเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง
07:22
Own your own success."
180
427000
2000
เป็นเจ้าของความสำเร็จของตัวเธอเอง"
07:24
I wish I could tell that to my daughter.
181
429000
3000
ฉันหวังว่าฉันจะบอกลูกสาวอย่างนี้ได้
07:27
But it's not that simple.
182
432000
2000
แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นเลย
07:29
Because what the data shows, above all else, is one thing,
183
434000
3000
เพราะสิ่งที่ข้อมูลแสดงให้เห็นเหนือสิ่งอื่นใด
07:32
which is that success and likeability
184
437000
2000
คือ ความสำเร็จและการได้รับความชื่นชอบ
07:34
are positively correlated for men
185
439000
3000
มีความสัมพันธ์เชิงบวกสำหรับผู้ชาย
07:37
and negatively correlated for women.
186
442000
2000
และความสัมพันธ์เชิงลบสำหรับผู้หญิง
07:39
And everyone's nodding,
187
444000
2000
พวกคุณทุกคนกำลังพยักหน้า
07:41
because we all know this to be true.
188
446000
2000
เพราะเราทุกคนรู้ว่านี่คือเรื่องจริง
07:43
There's a really good study that shows this really well.
189
448000
3000
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่แสดงเรื่องนี้ได้ดีมาก
07:46
There's a famous Harvard Business School study
190
451000
2000
เป็นงานวิจัยที่มีชื่อเสียงของคณะบริหารธุรกิจฮาร์วาร์ด
07:48
on a woman named Heidi Roizen.
191
453000
2000
ศึกษาชีวิตของผู้หญิงคือ ไฮดี โรยเซน
07:50
And she's an operator in a company
192
455000
2000
เธอทำงานเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ของบริษัท
07:52
in Silicon Valley,
193
457000
2000
ในซิลิคอนวัลเลย์
07:54
and she uses her contacts
194
459000
2000
เธอใช้เครือข่ายคนรู้จักที่มี
07:56
to become a very successful venture capitalist.
195
461000
3000
ก่อร่างสร้างตัวจนเป็นนักลงทุนร่วมลงทุนที่ประสบความสำเร็จมาก
07:59
In 2002 -- not so long ago --
196
464000
2000
ในปี 2002 เมื่อไม่นานนี้เอง
08:01
a professor who was then at Columbia University
197
466000
2000
อาจารย์คนหนึ่งที่ตอนนั้นอยู่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
08:03
took that case and made it Howard Roizen.
198
468000
3000
เอาเรื่องของ ไฮดี โรยเซน มาทำเป็นกรณีศึกษา
08:06
And he gave the case out, both of them,
199
471000
2000
เขาให้นักศึกษาอ่านสองเวอร์ชันของกรณีศึกษา
08:08
to two groups of students.
200
473000
2000
ให้นักศึกษาสองกลุ่ม
08:10
He changed exactly one word:
201
475000
2000
เขาเปลี่ยนแค่คำคำเดียว
08:12
"Heidi" to "Howard."
202
477000
2000
เปลี่ยนจาก ไฮดี เป็น ฮาวเวิร์ด
08:14
But that one word made a really big difference.
203
479000
3000
แต่คำคำเดียวนี้แหละที่ทำให้ปฏิกิริยาแตกต่างมาก
08:17
He then surveyed the students,
204
482000
2000
เขาสำรวจความเห็นของนักศึกษา
08:19
and the good news was the students, both men and women,
205
484000
3000
และข่าวดีก็คือนักศึกษาทั้งชายและหญิง
08:22
thought Heidi and Howard were equally competent,
206
487000
2000
คิดว่าไฮดีกับฮาวเวิร์ดมีความสามารถเท่ากัน
08:24
and that's good.
207
489000
2000
ซึ่งก็เป็นเรื่องดี
08:26
The bad news was that everyone liked Howard.
208
491000
2000
ข่าวร้ายคือทุกคนชอบฮาวเวิร์ด
08:28
He's a great guy. You want to work for him.
209
493000
2000
เขาเป็นคนที่เจ๋งมาก คุณอยากไปทำงานให้เขา
08:30
You want to spend the day fishing with him.
210
495000
2000
อยากไปตกปลากับเขา
08:32
But Heidi? Not so sure.
211
497000
2000
แต่ไฮดีล่ะ? นักศึกษาไม่แน่ใจ
08:34
She's a little out for herself. She's a little political.
212
499000
3000
เธอดูเห็นแก่ตัว ค่อนข้างจะเล่นการเมือง
08:37
You're not sure you'd want to work for her.
213
502000
3000
คุณไม่แน่ใจว่าจะอยากทำงานให้เธอหรือเปล่า
08:40
This is the complication.
214
505000
2000
นี่คือปมที่ซับซ้อน
08:42
We have to tell our daughters and our colleagues,
215
507000
2000
เราจะต้องบอกลูกสาวของเราและเพื่อนร่วมงานของเรา
08:44
we have to tell ourselves to believe we got the A,
216
509000
2000
เราต้องบอกตัวเองให้เชื่อว่า เรามีความสามารถ
08:46
to reach for the promotion,
217
511000
2000
ที่จะเอื้อมถึงการเลื่อนขั้น
08:48
to sit at the table,
218
513000
2000
ที่จะนั่งที่โต๊ะ
08:50
and we have to do it in a world
219
515000
2000
และเราต้องทำสิ่งเหล่านี้ในโลก
08:52
where, for them, there are sacrifices they will make for that,
220
517000
3000
ที่ผู้หญิงมีสิ่งที่ต้องเสียสละสำหรับสิ่งเหล่านั้น
08:55
even though for their brothers, there are not.
221
520000
3000
ถึงแม้ว่าน้องชายหรือพี่ชายของเธอไม่มีอะไรต้องเสียสละ
08:59
The saddest thing about all of this is that it's really hard to remember this.
222
524000
3000
ประเด็นที่เศร้าที่สุดของเรื่องทั้งหมดนี้คือ ยากมากที่เราจะจำได้
09:02
And I'm about to tell a story which is truly embarrassing for me,
223
527000
3000
ฉันอยากจะเล่าเรื่องเรื่องหนึ่ง ที่ทำให้ฉันรู้สึกอับอายมาก
09:05
but I think important.
224
530000
2000
แต่ฉันคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ
09:07
I gave this talk at Facebook not so long ago
225
532000
3000
ฉันกล่าวสุนทรพจน์ที่เฟซบุ๊กเมื่อไม่นานมานี้
09:10
to about 100 employees,
226
535000
2000
ต่อหน้าพนักงานประมาณหนึ่งร้อยคน
09:12
and a couple hours later, there was a young woman who works there
227
537000
3000
สองชั่วโมงถัดมา มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ทำงานให้เฟซบุ๊ก
09:15
sitting outside my little desk,
228
540000
2000
มานั่งรอหน้าโต๊ะตัวเล็กๆ ของฉัน
09:17
and she wanted to talk to me.
229
542000
2000
เธออยากคุยกับฉัน
09:19
I said, okay, and she sat down, and we talked.
230
544000
2000
ฉันบอกว่า โอเค เธอก็เลยนั่งลง เราคุยกัน
09:21
And she said, "I learned something today.
231
546000
2000
เธอบอกว่า "วันนี้ฉันได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง
09:23
I learned that I need to keep my hand up."
232
548000
2000
ได้เรียนรู้ว่าฉันต้องยกมือค้างไว้"
09:25
I said, "What do you mean?"
233
550000
2000
ฉันตอบว่า "แปลว่าอะไรเหรอคะ?"
09:27
She said, "Well, you're giving this talk,
234
552000
2000
เธอบอกว่า "คือ คุณกำลังกล่าวสุนทรพจน์
09:29
and you said you were going to take two more questions.
235
554000
2000
แล้วคุณบอกว่า คุณจะรับคำถามอีกสองข้อจากผู้ฟัง
09:31
And I had my hand up with lots of other people, and you took two more questions.
236
556000
3000
ฉันยกมือขึ้นพร้อมกับคนอีกเยอะเลย แล้วคุณก็ตอบคำถามอีกสองข้อ
09:34
And I put my hand down, and I noticed all the women put their hand down,
237
559000
3000
แล้วฉันก็ลดมือลง สังเกตว่าผู้หญิงทั้งหมดลดมือลง
09:37
and then you took more questions,
238
562000
2000
เสร็จแล้วคุณก็ตอบคำถามต่อ
09:39
only from the men."
239
564000
2000
จากผู้ชายเท่านั้น"
09:41
And I thought to myself,
240
566000
2000
และฉันก็คิดในใจว่า
09:43
wow, if it's me -- who cares about this, obviously --
241
568000
3000
โอ้โห ถ้าฉันทำอย่างนั้น -- แน่นอนว่าฉันแคร์กับเรื่องนี้
09:46
giving this talk --
242
571000
2000
ตอนกล่าวสุนทรพจน์ --
09:48
and during this talk, I can't even notice
243
573000
3000
ฉันไม่ได้สังเกตเห็นเลย
09:51
that the men's hands are still raised,
244
576000
3000
ว่าผู้ชายกำลังยกมืออยู่
09:54
and the women's hands are still raised,
245
579000
2000
หรือผู้หญิงกำลังยกมืออยู่
09:56
how good are we
246
581000
2000
เราเก่งแค่ไหนกัน
09:58
as managers of our companies and our organizations
247
583000
2000
ในฐานะผู้จัดการของบริษัทและองค์กร
10:00
at seeing that the men are reaching for opportunities
248
585000
2000
ในการมองเห็นว่าผู้ชายกำลังเอื้อมมือไขว่คว้าหาโอกาส
10:02
more than women?
249
587000
2000
มากกว่าผู้หญิง?
10:04
We've got to get women to sit at the table.
250
589000
3000
เราจะต้องทำให้ผู้หญิงมานั่งที่โต๊ะ
10:07
(Applause)
251
592000
3000
(เสียงปรบมือ)
10:10
Message number two:
252
595000
2000
สารข้อสองคือ
10:12
make your partner a real partner.
253
597000
2000
ทำให้คู่สมรสของคุณเป็นคู่หูจริงๆ
10:14
I've become convinced that we've made more progress in the workforce
254
599000
3000
ฉันเชื่อมั่นว่าเรามีความก้าวหน้าในชีวิตการทำงานของเรา
10:17
than we have in the home.
255
602000
2000
มากกว่าชีวิตครอบครัว
10:19
The data shows this very clearly.
256
604000
3000
ข้อมูลแสดงเรื่องนี้อย่างชัดเจน
10:22
If a woman and a man work full-time
257
607000
2000
ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งกับผู้ชายคนหนึ่งต่างทำงานเต็มเวลา
10:24
and have a child,
258
609000
2000
และมีลูก
10:26
the woman does twice the amount of housework the man does,
259
611000
3000
ผู้หญิงจะทำงานบ้านมากกว่าผู้ชายสองเท่า
10:29
and the woman does three times
260
614000
2000
และจะดูแลลูกมากกว่าผู้ชาย
10:31
the amount of childcare the man does.
261
616000
3000
กว่าสามเท่า
10:34
So she's got three jobs or two jobs,
262
619000
2000
ดังนั้น เธอจึงทำงานสามงาน หรือสองงาน
10:36
and he's got one.
263
621000
2000
ขณะที่เขาทำงานงานเดียว
10:38
Who do you think drops out when someone needs to be home more?
264
623000
3000
ใครที่คุณคิดว่าจะเลิกทำงาน เวลาที่ใครสักคนต้องอยู่บ้านมากขึ้น
10:41
The causes of this are really complicated,
265
626000
2000
สาเหตุของปรากฏการณ์นี้ซับซ้อนมากๆ
10:43
and I don't have time to go into them.
266
628000
2000
และฉันก็ไม่มีเวลาอธิบาย
10:45
And I don't think Sunday football-watching
267
630000
2000
แต่ฉันไม่คิดว่า การดูฟุตบอลวันอาทิตย์
10:47
and general laziness is the cause.
268
632000
2000
กับความเกียจคร้านทั่วไปคือสาเหตุ
10:49
I think the cause is more complicated.
269
634000
2000
ฉันคิดว่าสาเหตุซับซ้อนกว่านั้น
10:51
I think, as a society,
270
636000
2000
ฉันคิดว่า สังคมของเรา
10:53
we put more pressure on our boys to succeed
271
638000
2000
กดดันให้เด็กผู้ชายประสบความสำเร็จ
10:55
than we do on our girls.
272
640000
2000
มากกว่ากดดันเด็กผู้หญิง
10:57
I know men that stay home
273
642000
2000
ฉันรู้จักผู้ชายที่อยู่บ้านเลี้ยงลูก
10:59
and work in the home to support wives with careers,
274
644000
2000
ทำงานที่บ้านเพื่อสนับสนุนภรรยาที่มีอาชีพการงาน
11:01
and it's hard.
275
646000
2000
ยากสำหรับพวกเขา
11:03
When I go to the Mommy-and-Me stuff
276
648000
2000
เวลาที่ฉันไปร้านขายของสำหรับแม่และเด็ก
11:05
and I see the father there,
277
650000
2000
และมีพ่ออยู่ตรงนั้น
11:07
I notice that the other mommies
278
652000
2000
ฉันสังเกตว่าแม่คนอื่นๆ
11:09
don't play with him.
279
654000
2000
ไม่เล่นกับเขา
11:11
And that's a problem,
280
656000
2000
และนั่นคือปัญหา
11:13
because we have to make it as important a job,
281
658000
3000
เพราะเราต้องทำให้มันเป็นงานสำคัญ --
11:16
because it's the hardest job in the world to work inside the home,
282
661000
3000
เพราะการทำงานที่บ้านนั้น เป็นงานที่ยากที่สุดในโลก
11:19
for people of both genders,
283
664000
2000
สำหรับคนทั้งสองเพศ
11:21
if we're going to even things out and let women stay in the workforce.
284
666000
3000
ถ้าเราจะทำให้เกิดความเท่าเทียมกัน และให้ผู้หญิงทำงานต่อไปได้
11:24
(Applause)
285
669000
2000
(เสียงปรบมือ)
11:26
Studies show that households with equal earning
286
671000
2000
งานวิจัยพบว่า ครอบครัวที่สองคนมีรายได้พอๆ กัน
11:28
and equal responsibility
287
673000
2000
และมีความรับผิดชอบเท่าๆ กัน
11:30
also have half the divorce rate.
288
675000
2000
มีอัตราการหย่าร้างต่ำกว่าปกติสองเท่า
11:32
And if that wasn't good enough motivation for everyone out there,
289
677000
3000
และถ้านั่นยังไม่ใช่แรงจูงใจที่ดีพอสำหรับทุกคนนะคะ
11:35
they also have more --
290
680000
2000
ก็มีอีกข้อหนึ่ง --
11:37
how shall I say this on this stage? --
291
682000
2000
อืม ฉันจะพูดเรื่องนี้บนเวทีนี้ยังไงดี --
11:39
they know each other more in the biblical sense as well.
292
684000
3000
คู่สมรสจะเรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิดแบบในคัมภีร์ไบเบิลด้วย
11:42
(Cheers)
293
687000
2000
(เสียงโห่ร้อง)
11:44
Message number three:
294
689000
2000
สารข้อสามคือ
11:46
don't leave before you leave.
295
691000
2000
อย่าออกจนกว่าคุณจะออก
11:48
I think there's a really deep irony
296
693000
2000
ฉันคิดว่ามีตลกร้ายที่ลึกซึ้งมากๆ
11:50
to the fact that actions women are taking --
297
695000
2000
เกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่า สิ่งที่ผู้หญิงตัดสินใจทำ --
11:52
and I see this all the time --
298
697000
2000
และฉันก็เห็นบ่อยมาก --
11:54
with the objective of staying in the workforce
299
699000
3000
เวลาที่ตั้งเป้าหมายว่าจะทำงานเต็มเวลาต่อไป
11:57
actually lead to their eventually leaving.
300
702000
2000
กลับกลายเป็นสิ่งที่นำไปสู่การออกจากงานในที่สุด
11:59
Here's what happens:
301
704000
2000
สิ่งที่เกิดขึ้นคืออย่างนี้ค่ะ
12:01
We're all busy. Everyone's busy. A woman's busy.
302
706000
2000
พวกเราทุกคนล้วนยุ่ง ผู้หญิงก็ยุ่ง
12:03
And she starts thinking about having a child,
303
708000
3000
เธอเริ่มคิดว่าจะมีลูก
12:06
and from the moment she starts thinking about having a child,
304
711000
3000
และนับตั้งแต่จุดที่เธอเริ่มคิดว่าอยากมีลูก
12:09
she starts thinking about making room for that child.
305
714000
2000
เธอก็จะเริ่มคิดถึงการเผื่อพื้นที่ให้ลูก
12:11
"How am I going to fit this into everything else I'm doing?"
306
716000
3000
"ฉันจะยัดเรื่องนี้เข้าไปในทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำอยู่ได้ยังไงกัน"
12:15
And literally from that moment,
307
720000
2000
และนับตั้งแต่จุดนั้นจริงๆ
12:17
she doesn't raise her hand anymore,
308
722000
3000
เธอก็จะไม่ยกมือขึ้นอีกแล้ว
12:20
she doesn't look for a promotion, she doesn't take on the new project,
309
725000
3000
ไม่มองหาการเลื่อนขั้น ไม่รับโครงการใหม่ๆ
12:23
she doesn't say, "Me. I want to do that."
310
728000
2000
เธอจะไม่พูดว่า "ฉันอยากทำเรื่องนี้"
12:25
She starts leaning back.
311
730000
2000
เธอเริ่มผ่อนฝีเท้า
12:27
The problem is that --
312
732000
2000
ปัญหาก็คือว่า --
12:29
let's say she got pregnant that day, that day --
313
734000
3000
สมมติว่าเธอเกิดท้องวันนั้นเลย --
12:32
nine months of pregnancy, three months of maternity leave,
314
737000
3000
ตั้งท้องเก้าเดือน ลาคลอดอีกสามเดือน
12:35
six months to catch your breath --
315
740000
2000
อีกหกเดือนเพื่อหาเวลาหายใจ --
12:37
fast-forward two years,
316
742000
2000
หมุนเวลาไปอีกสองปี
12:39
more often -- and as I've seen it --
317
744000
2000
สิ่งที่ฉันสังเกตว่าเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
12:41
women start thinking about this way earlier --
318
746000
2000
คือ ผู้หญิงเริ่มคิดเรื่องนี้เร็วเกินควรมาก --
12:43
when they get engaged, when they get married,
319
748000
2000
เวลาที่พวกเธอหมั้น หรือแต่งงาน
12:45
when they start thinking about trying to have a child, which can take a long time.
320
750000
3000
เวลาเริ่มคิดถึงเรื่องมีลูก ซึ่งอาจกินเวลานานมาก
12:48
One woman came to see me about this,
321
753000
2000
ผู้หญิงคนหนึ่งมาปรึกษาฉันเรื่องนี้
12:50
and I kind of looked at her -- she looked a little young.
322
755000
2000
ฉันจ้องมองเธอ -- ดูอายุยังน้อย
12:52
And I said, "So are you and your husband thinking about having a baby?"
323
757000
3000
ฉันบอกว่า "คุณกับสามีของคุณกำลังคิดว่าจะมีลูกเหรอคะ?"
12:55
And she said, "Oh no, I'm not married."
324
760000
3000
เธอตอบว่า "โอ้ ฉันยังไม่ได้แต่งงานค่ะ"
12:58
She didn't even have a boyfriend.
325
763000
2000
เธอยังไม่มีแฟนเลยด้วยซ้ำ
13:00
I said, "You're thinking about this
326
765000
2000
ฉันบอกว่า "คุณกำลังคิดเรื่องนี้
13:02
just way too early."
327
767000
2000
เร็วเกินไปมากๆ เลย"
13:04
But the point is that what happens
328
769000
3000
แต่ประเด็นก็คือ เกิดอะไรขึ้น
13:07
once you start kind of quietly leaning back?
329
772000
3000
เมื่อคุณเริ่มผ่อนฝีเท้าตัวเองอย่างเงียบๆ?
13:10
Everyone who's been through this --
330
775000
2000
ทุกคนที่เคยเจอเรื่องนี้ --
13:12
and I'm here to tell you, once you have a child at home,
331
777000
3000
และฉันก็อยากบอกว่า เมื่อไรที่คุณมีเด็กอยู่ที่บ้าน
13:15
your job better be really good to go back,
332
780000
2000
งานของคุณก็ควรต้องดีมากจริงๆ ให้คุณไปทำ
13:17
because it's hard to leave that kid at home --
333
782000
2000
เพราะมันยากมากที่จะทิ้งเด็กคนนั้นไว้ที่บ้าน --
13:19
your job needs to be challenging.
334
784000
2000
งานของคุณจะต้องท้าทาย
13:21
It needs to be rewarding.
335
786000
2000
และจะต้องคุ้มค่า
13:23
You need to feel like you're making a difference.
336
788000
3000
คุณต้องรู้สึกว่างานที่ทำอยู่นั้นมีความหมาย
13:26
And if two years ago you didn't take a promotion
337
791000
3000
ถ้าสองปีก่อนหน้านี้คุณปฏิเสธการเลื่อนขั้น
13:29
and some guy next to you did,
338
794000
2000
และมีผู้ชายที่นั่งติดกันได้เลื่อนขั้น
13:31
if three years ago
339
796000
2000
ถ้าสามปีก่อนหน้านี้
13:33
you stopped looking for new opportunities,
340
798000
2000
คุณหยุดมองหาโอกาสใหม่ๆ
13:35
you're going to be bored
341
800000
2000
คุณก็จะเบื่อแน่นอน
13:37
because you should have kept your foot on the gas pedal.
342
802000
3000
เพราะตอนโน้นคุณควรจะเหยียบคันเร่ง
13:40
Don't leave before you leave.
343
805000
2000
อย่าออกก่อนที่คุณจะออกค่ะ
13:42
Stay in.
344
807000
2000
อยู่กับงาน
13:44
Keep your foot on the gas pedal,
345
809000
2000
เหยียบคันเร่งไว้
13:46
until the very day you need to leave
346
811000
2000
จนถึงวันที่คุณต้องออกจากงานจริงๆ
13:48
to take a break for a child --
347
813000
2000
เพื่อไปมีเวลาอยู่กับลูก --
13:50
and then make your decisions.
348
815000
2000
ถึงตอนนั้นค่อยตัดสินใจ
13:52
Don't make decisions too far in advance,
349
817000
3000
อย่าตัดสินใจล่วงหน้ามากไป
13:55
particularly ones you're not even conscious you're making.
350
820000
3000
โดยเฉพาะการตัดสินใจที่คุณไม่รู้ตัวว่ากำลังทำ
13:59
My generation really, sadly,
351
824000
2000
เรื่องที่น่าเศร้าคือ คนรุ่นฉัน
14:01
is not going to change the numbers at the top.
352
826000
2000
ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงสถิติของผู้หญิงที่เป็นผู้นำ
14:03
They're just not moving.
353
828000
2000
เพราะมันไม่ขยับเลย
14:05
We are not going to get to where 50 percent of the population --
354
830000
3000
เราไม่มีวันไปถึงจุดที่ประชากรร้อยละ 50
14:08
in my generation, there will not be 50 percent of [women]
355
833000
3000
คนรุ่นฉันจะไม่มีวันมีคนร้อยละ 50
14:11
at the top of any industry.
356
836000
2000
ไปถึงจุดสูงสุดของอุตสาหกรรมไหนเลย
14:13
But I'm hopeful that future generations can.
357
838000
3000
แต่ฉันหวังว่าคนรุ่นต่อๆ ไปจะทำได้
14:17
I think a world that was run
358
842000
2000
ฉันคิดว่าโลกที่
14:19
where half of our countries and half of our companies
359
844000
2000
ประเทศครึ่งหนึ่ง และบริษัทครึ่งหนึ่ง
14:21
were run by women, would be a better world.
360
846000
3000
มีผู้หญิงเป็นผู้นำ จะเป็นโลกที่ดีกว่าเดิม
14:24
And it's not just because people would know where the women's bathrooms are,
361
849000
3000
ไม่ใช่แค่เพราะคนจะรู้ว่าห้องน้ำผู้หญิงอยู่ตรงไหน
14:27
even though that would be very helpful.
362
852000
3000
ถึงแม้ว่านั่นเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก
14:30
I think it would be a better world.
363
855000
2000
ฉันคิดว่าจะเป็นโลกที่ดีกว่าเดิม
14:32
I have two children.
364
857000
2000
ฉันมีลูกสองคน
14:34
I have a five-year-old son and a two-year-old daughter.
365
859000
3000
ลูกชายอายุห้าขวบ และลูกสาวอายุสองขวบ
14:37
I want my son to have a choice
366
862000
2000
ฉันอยากให้ลูกชายมีทางเลือก
14:39
to contribute fully in the workforce or at home,
367
864000
3000
ที่จะมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในที่ทำงาน และที่บ้าน
14:42
and I want my daughter to have the choice
368
867000
2000
และฉันอยากให้ลูกสาวมีทางเลือก
14:44
to not just succeed,
369
869000
2000
ที่จะไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จ
14:46
but to be liked for her accomplishments.
370
871000
2000
แต่ให้คนชื่นชอบเธอที่ประสบความสำเร็จด้วย
14:48
Thank you.
371
873000
2000
ขอบคุณค่ะ
14:50
(Applause)
372
875000
2000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Sheryl Sandberg - COO, FacebookAs the COO at the helm of Facebook, Sheryl Sandberg juggles the tasks of monetizing the world’s largest social networking site while keeping its users happy and engaged.
Why you should listen
Long before Sheryl Sandberg left Google to join Facebook as its Chief Operating Officer in 2008, she was a fan. Today she manages Facebook’s sales, marketing, business development, human resources, public policy and communications. It’s a massive job, but one well suited to Sandberg, who not only built and managed Google’s successful online sales and operations program but also served as an economist for the World Bank and Chief of Staff at the US Treasury Department. Sandberg’s experience navigating the complex and socially sensitive world of international economics has proven useful as she and Facebook founder Mark Zuckerberg work to strike a balance between helping Facebook users control privacy while finding ways to monetize its most valuable asset: data.
At TEDWomen in 2010 Sandberg made the bold decision to talk about the experience of being one of very few women at the C-level of business. She noted that many women, in anticipating having a family, "lean back" from leading at work. After her TED Talk took off, Sandberg wrote the book Lean In, which has spent nearly a year on the New York Times Bestseller list. Sandberg plans to release a version of the book for graduates.
Sheryl Sandberg | Speaker | TED.com