TED Talks Live
Sal Khan: Let's teach for mastery -- not test scores
ซัลมาน คาห์น: สอนเพื่อความเชี่ยวชาญ -- ไม่ใช่เพื่อคะแนนสอบ
Filmed:
Readability: 4.3
3,654,589 views
คุณจะเลือกสร้างบ้านบนฐานรากที่ยังทำไม่เสร็จหรือ? คงไม่ ถ้าอย่างนั้น ทำไมเราถึงเร่งเหล่านักเรียนให้ผ่านระบบการศึกษาไปทั้งที่พวกเขาอาจจะยังมีพื้นฐานไม่ดีพอ ? ใช่ นี่เป็นเรื่องซับซ้อน แต่นักการศึกษา ซัลมาน คาห์น เล่าถึงแผนของเขาที่จะช่วยเปลี่ยนนักเรียนที่กำลังดิ้นรนอย่างยากลำบากให้กลายเป็นนักวิชาการ โดยช่วยให้พวกเขาได้ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญในแนวคิดสำคัญต่างๆ ตามอัตราความเร็วที่เหมาะสมของตัวเอง
Sal Khan - Educator and social entrepreneur
In 2004, Sal Khan, a hedge fund analyst, began making math tutorials for his cousins. Twelve years later, Khan Academy has more than 42 million registered users from 190 countries, with tutorials on subjects from basic math through economics, art history, computer science, health, medicine and more. Full bio
In 2004, Sal Khan, a hedge fund analyst, began making math tutorials for his cousins. Twelve years later, Khan Academy has more than 42 million registered users from 190 countries, with tutorials on subjects from basic math through economics, art history, computer science, health, medicine and more. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
I'm here today to talk about
the two ideas that,
the two ideas that,
0
954
2926
วันนี้ผมจะพูดถึงแนวคิด 2 อย่าง ที่ถือว่า
00:15
at least based on
my observations at Khan Academy,
my observations at Khan Academy,
1
3904
2358
อย่างน้อยที่ผมสังเกตเห็นใน Khan อะคาเดมี
00:18
are kind of the core,
or the key leverage points for learning.
or the key leverage points for learning.
2
6286
3878
ที่ถือว่าเป็นแก่นหลัก
หรือจุดหักเหด้านการเรียน
หรือจุดหักเหด้านการเรียน
00:22
And it's the idea of mastery
3
10188
2016
มันคือแนวคิดเรื่อง ความชำนาญ
00:24
and the idea of mindset.
4
12228
1785
และแนวคิดเรื่อง กรอบความคิด
00:26
I saw this in the early days
working with my cousins.
working with my cousins.
5
14037
2834
ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ช่วงแรก
ที่เริ่มสอนญาติ ๆ ผมเองแล้ว
ที่เริ่มสอนญาติ ๆ ผมเองแล้ว
00:28
A lot of them were having trouble
with math at first,
with math at first,
6
16895
2480
แรกๆ พวกเขาหลายคน
มีปัญหากับคณิตศาสตร์
มีปัญหากับคณิตศาสตร์
เพราะพวกเขามีช่องโหว่ของความเข้าใจ
ที่ค่อยๆ สะสมมาเรื่อยระหว่างการเรียน
ที่ค่อยๆ สะสมมาเรื่อยระหว่างการเรียน
00:31
because they had all of these gaps
accumulated in their learning.
accumulated in their learning.
7
19399
3054
ด้วยเหตุนี้ พอถึงจุดหนึ่ง
ที่เขาต้องเริ่มเรียนพีชคณิต
ที่เขาต้องเริ่มเรียนพีชคณิต
00:34
And because of that, at some point
they got to an algebra class
they got to an algebra class
8
22477
2989
ทั้งที่อาจจะยังมีพื้นฐานไม่แน่นนัก
ในบางหัวข้อที่ต้องรู้ก่อนเรียนพีชคณิต
ในบางหัวข้อที่ต้องรู้ก่อนเรียนพีชคณิต
00:37
and they might have been a little bit
shaky on some of the pre-algebra,
shaky on some of the pre-algebra,
9
25490
3402
00:40
and because of that, they thought
they didn't have the math gene.
they didn't have the math gene.
10
28916
3445
และนั่นทำให้พวกเขาคิดว่า
เขาคงไม่มีหัวทางด้านคณิตศาสตร์
เขาคงไม่มีหัวทางด้านคณิตศาสตร์
00:44
Or they'd get to a calculus class,
11
32385
1663
หรือเขาอาจต้องเริ่มเรียนแคลคูลัส
00:46
and they'd be a little bit
shaky on the algebra.
shaky on the algebra.
12
34072
2762
ทั้งที่มีบางหัวข้อในพีชคณิต
ที่เขายังไม่เข้าใจดีนัก
ที่เขายังไม่เข้าใจดีนัก
00:48
I saw it in the early days
13
36858
1570
ผมสังเกตุเห็นตั้งแต่ช่วงแรก ๆ
00:50
when I was uploading
some of those videos on YouTube,
some of those videos on YouTube,
14
38452
3528
เมื่อผมอัพโหลดวีดีโอพวกนั้นขึ้นยูทูป
00:54
and I realized that people
who were not my cousins were watching.
who were not my cousins were watching.
15
42004
3277
และพบว่ามีบางคน ที่ไม่ใช่ญาติผม
เข้ามาดูด้วย
เข้ามาดูด้วย
00:57
(Laughter)
16
45305
1865
(หัวเราะ)
00:59
And at first, those comments
were just simple thank-yous.
were just simple thank-yous.
17
47194
3866
ในช่วงแรก ก็มีคอมเม้นต์
แค่ประเภท ขอบคุณนะ
แค่ประเภท ขอบคุณนะ
01:03
I thought that was a pretty big deal.
18
51084
1969
ผมคิดว่านั่นเจ๋งมากเลย
01:05
I don't know how much time
you all spend on YouTube.
you all spend on YouTube.
19
53077
2452
ผมไม่รู้เหมือนกันว่าพวกคุณ
ใช้เวลาบนยูทูปมากแค่ไหน
ใช้เวลาบนยูทูปมากแค่ไหน
01:07
Most of the comments are not "Thank you."
20
55553
2087
แต่ปกติคอมเม้นต์ส่วนใหญ่
มักจะไม่ใช่ "ขอบคุณ"
มักจะไม่ใช่ "ขอบคุณ"
01:09
(Laughter)
21
57664
1457
(หัวเราะ)
01:11
They're a little edgier than that.
22
59145
1638
มันมักจะทำให้หงุดหงิดซะมากกว่า
01:12
But then the comments
got a little more intense,
got a little more intense,
23
60807
2431
แล้วเหล่าคอมเม้นต์
ก็เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ก็เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
01:15
student after student saying
that they had grown up not liking math.
that they had grown up not liking math.
24
63262
4456
นักเรียนคนแล้วคนเล่า บอกว่า
พวกเขาโตขึ้นมาโดยไม่ชอบคณิตศาสตร์เลย
พวกเขาโตขึ้นมาโดยไม่ชอบคณิตศาสตร์เลย
01:19
It was getting difficult as they got
into more advanced math topics.
into more advanced math topics.
25
67742
3199
มันยากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเขาเรียนถึง
คณิตศาสตร์ขั้นสูงขึ้นไป
คณิตศาสตร์ขั้นสูงขึ้นไป
เมื่อตอนที่พวกเขาเรียนไปถึงพีชคณิต
01:22
By the time they got to algebra,
26
70965
1528
01:24
they had so many gaps in their knowledge
they couldn't engage with it.
they couldn't engage with it.
27
72517
3328
พวกเขาต่างก็มีช่องโหว่ของความรู้
ที่พวกเขาไม่รู้จะทำอย่างไร
ที่พวกเขาไม่รู้จะทำอย่างไร
พวกเขาคิดไปเองว่า เขาคงไม่มีหัวทางเลข
01:27
They thought they didn't
have the math gene.
have the math gene.
28
75869
2073
แต่เมื่อพวกเขาอายุมากขึ้น
01:29
But when they were a bit older,
29
77966
1480
เริ่มบังคับใจตัวเองได้มากขึ้น
ก็ตัดสินใจที่จะตั้งใจเรียน
ก็ตัดสินใจที่จะตั้งใจเรียน
01:31
they took a little agency
and decided to engage.
and decided to engage.
30
79470
2243
พวกเขาได้เจอแหล่งข้อมูลอย่าง Khan อะคาเดมี
01:33
They found resources like Khan Academy
31
81737
1852
และสามารถเติมเต็มช่องโหว่ที่เคยมี
จนเชี่ยวชาญในแนวคิดเหล่านั้น
จนเชี่ยวชาญในแนวคิดเหล่านั้น
01:35
and they were able to fill in those gaps
and master those concepts,
and master those concepts,
32
83613
3150
สิ่งนั้นตอกย้ำกรอบความคิดของเขา
ว่าความสามารถไม่ได้คงที่ตายตัว
ว่าความสามารถไม่ได้คงที่ตายตัว
01:38
and that reinforced their mindset
that it wasn't fixed;
that it wasn't fixed;
33
86787
2590
01:41
that they actually were capable
of learning mathematics.
of learning mathematics.
34
89401
3565
ว่าพวกเขาเอง ก็มีความสามารถ
ที่จะเรียนคณิตศาสตร์ได้
ที่จะเรียนคณิตศาสตร์ได้
01:44
And in a lot of ways, this is how
you would master a lot of things in life.
you would master a lot of things in life.
35
92990
4053
มันก็เหมือนกับการฝึกฝน
ความเชี่ยวชาญหลาย ๆ อย่างในชีวิต
ความเชี่ยวชาญหลาย ๆ อย่างในชีวิต
01:49
It's the way you would
learn a martial art.
learn a martial art.
36
97067
2299
การเรียนศิลปะการป้องกันตัว
ก็ต้องใช้วิธีนี้
ก็ต้องใช้วิธีนี้
01:51
In a martial art, you would
practice the white belt skills
practice the white belt skills
37
99390
3166
ในศิลปะการป้องกันตัว คุณเริ่มฝึก
ทักษะเบื้องต้นในระดับสายขาว
ทักษะเบื้องต้นในระดับสายขาว
นานเท่าที่จะจำเป็น
01:54
as long as necessary,
38
102580
1413
ต่อเมื่อคุณเชี่ยวชาญทักษะเหล่านั้นแล้ว
01:56
and only when you've mastered it
39
104017
1551
01:57
you would move on to become a yellow belt.
40
105592
2135
คุณจึงจะก้าวขึ้นไปเป็นสายเหลืองได้
เช่นเดียวกับที่คุณหัดเล่น
เครื่องดนตรีซักอย่าง
เครื่องดนตรีซักอย่าง
01:59
It's the way you learn
a musical instrument:
a musical instrument:
41
107751
2071
02:01
you practice the basic piece
over and over again,
over and over again,
42
109846
2294
คุณเริ่มฝึกโน้ตง่ายๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ต่อเมื่อคุณเชี่ยวชาญพื้นฐานแล้ว
02:04
and only when you've mastered it,
43
112164
1588
คุณจึงจะก้าวต่อไปในการฝึกขั้นสูงขึ้นได้
02:05
you go on to the more advanced one.
44
113776
1671
02:07
But what we point out --
45
115471
1340
แต่ผมอยากชี้ให้เห็นว่า
02:08
this is not the way a traditional
academic model is structured,
academic model is structured,
46
116835
4485
นี่ไม่ใช่โครงสร้างที่เป็นอยู่
ในโมเดลการศึกษาแบบดั้งเดิม
ในโมเดลการศึกษาแบบดั้งเดิม
โมเดลการศึกษาที่พวกเราส่วนมาก
เติบโตขึ้นมาในระบบนั้น
เติบโตขึ้นมาในระบบนั้น
02:13
the type of academic model
that most of us grew up in.
that most of us grew up in.
47
121344
3335
ในโมเดลการศึกษาดั้งเดิม
02:16
In a traditional academic model,
48
124703
1542
02:18
we group students together,
usually by age,
usually by age,
49
126269
2419
เราจัดนักเรียนเป็นกลุ่ม
โดยมากมักจะตามอายุ
โดยมากมักจะตามอายุ
และพอเข้าชั้นมัธยม
02:20
and around middle school,
50
128712
1279
ก็จัดกลุ่มตามอายุและทักษะที่มองเห็นได้
02:22
by age and perceived ability,
51
130015
1846
02:23
and we shepherd them all
together at the same pace.
together at the same pace.
52
131885
2558
แล้วเราก็ต้อนพวกเขาไปด้วยกัน
ด้วยอัตราเร็วเท่า ๆ กัน
ด้วยอัตราเร็วเท่า ๆ กัน
และสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นเสมอก็คือ
02:27
And what typically happens,
53
135038
1297
02:28
let's say we're in a middle school
pre-algebra class,
pre-algebra class,
54
136359
2501
สมมติเราอยู่ในชั้นเรียน
เตรียมพีชคณิตระดับมัธยม
เตรียมพีชคณิตระดับมัธยม
02:30
and the current unit is on exponents,
55
138884
1794
และบทเรียนตอนนี้คือเลขยกกำลัง
02:32
the teacher will give
a lecture on exponents,
a lecture on exponents,
56
140702
2190
ครูจะอธิบายให้ฟังในห้องเรื่องเลขยกกำลัง
02:34
then we'll go home, do some homework.
57
142916
2285
แล้วเราก็กลับบ้าน ทำการบ้าน
02:37
The next morning,
we'll review the homework,
we'll review the homework,
58
145225
2054
เช้าวันต่อมา เรามาทบทวนการบ้านกัน
02:39
then another lecture, homework,
lecture, homework.
lecture, homework.
59
147303
2348
แล้วครูก็สอน ตามด้วยการบ้าน
สอน แล้วก็การบ้าน
สอน แล้วก็การบ้าน
02:41
That will continue for about
two or three weeks,
two or three weeks,
60
149675
2261
เป็นแบบนี้ไปประมาณสองหรือสามสัปดาห์
02:43
and then we get a test.
61
151960
1175
แล้วเราก็จะมีการทดสอบ
02:45
On that test, maybe I get a 75 percent,
62
153159
3318
ในการสอบครั้งนั้น ผมอาจจะได้คะแนน
75 เปอร์เซ็นต์
75 เปอร์เซ็นต์
02:48
maybe you get a 90 percent,
63
156501
1417
คุณอาจจะได้ 90 เปอร์เซ็นต์
02:49
maybe you get a 95 percent.
64
157942
1984
ส่วนคุณอาจจะได้ 95 เปอร์เซ็นต์
02:51
And even though the test identified
gaps in our knowledge,
gaps in our knowledge,
65
159950
2747
และแม้ว่าการทดสอบ
จะระบุว่าเรายังมีช่องโหว่ทางความรู้อยู่
จะระบุว่าเรายังมีช่องโหว่ทางความรู้อยู่
ผมไม่รู้มากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ของเนื้อหา
02:54
I didn't know 25 percent of the material.
66
162721
1959
แม้แต่นักเรียนเกรดเอ
ก็ยังมีอีก 5 เปอร์เซ็นต์ที่พวกเขาไม่รู้
ก็ยังมีอีก 5 เปอร์เซ็นต์ที่พวกเขาไม่รู้
02:56
Even the A student, what was
the five percent they didn't know?
the five percent they didn't know?
67
164704
2972
ทั้งที่เห็นแล้วว่า
นักเรียนมีช่องโหว่เหล่านั้น
นักเรียนมีช่องโหว่เหล่านั้น
02:59
Even though we've identified the gaps,
68
167700
1813
03:01
the whole class will then
move on to the next subject,
move on to the next subject,
69
169537
2538
แต่ทั้งชั้นก็จะข้ามไปเรียน
บทเรียนอื่นต่อไป
บทเรียนอื่นต่อไป
03:04
probably a more advanced subject
that's going to build on those gaps.
that's going to build on those gaps.
70
172099
3402
อาจจะเป็นหัวข้อขั้นสูงกว่าเดิม
และต่อยอดจากช่องโหว่เหล่านั้น
และต่อยอดจากช่องโหว่เหล่านั้น
03:07
It might be logarithms
or negative exponents.
or negative exponents.
71
175525
3373
อาจจะเป็นเรื่องลอการิทึม
หรือเลขยกกำลังลบ
หรือเลขยกกำลังลบ
03:10
And that process continues,
and you immediately start to realize
and you immediately start to realize
72
178922
3031
แล้วกระบวนการก็ดำเนินไปแบบนี้
และคุณก็เริ่มรู้สึกได้ว่า
มันแปลกเหลือเกิน
มันแปลกเหลือเกิน
03:13
how strange this is.
73
181977
1175
03:15
I didn't know 25 percent
of the more foundational thing,
of the more foundational thing,
74
183176
2771
ผมไม่รู้เรื่องที่เป็นพื้นฐาน
ถึง 25 เปอร์เซ็นต์
ถึง 25 เปอร์เซ็นต์
03:17
and now I'm being pushed
to the more advanced thing.
to the more advanced thing.
75
185971
2445
แต่ผมถูกผลักให้เรียน
เนื้อหาขั้นสูงที่ซับซ้อนขึ้น
เนื้อหาขั้นสูงที่ซับซ้อนขึ้น
03:20
And this will continue for months, years,
all the way until at some point,
all the way until at some point,
76
188440
3712
เป็นแบบนี้ต่อเนื่อง หลายเดือน
หลายปี ไปจนถึงจุดหนึ่ง
หลายปี ไปจนถึงจุดหนึ่ง
ผมอาจจะเรียนไปถึงพีชคณิต
หรือตรีโกณมิติ
หรือตรีโกณมิติ
03:24
I might be in an algebra class
or trigonometry class
or trigonometry class
77
192176
2440
03:26
and I hit a wall.
78
194640
1257
แล้วผมก็จะชนกำแพง
03:27
And it's not because algebra
is fundamentally difficult
is fundamentally difficult
79
195921
2654
และนั่นไม่ใช่เพราะพีชคณิตนั้น
ยากเย็นแสนเข็ญโดยตัวมันเอง
ยากเย็นแสนเข็ญโดยตัวมันเอง
03:30
or because the student isn't bright.
80
198599
3992
หรือเพราะนักเรียนไม่ฉลาดพอ
03:34
It's because I'm seeing an equation
and they're dealing with exponents
and they're dealing with exponents
81
202615
3311
มันเป็นเพราะว่า เมื่อผมเห็นสมการ
และมันประกอบด้วยเลขยกกำลัง
และมันประกอบด้วยเลขยกกำลัง
03:37
and that 30 percent
that I didn't know is showing up.
that I didn't know is showing up.
82
205950
2729
นั่นคือ 30 เปอร์เซ็นต์ที่ผมไม่รู้
มันย้อนกลับมาอีกแล้ว
มันย้อนกลับมาอีกแล้ว
03:40
And then I start to disengage.
83
208703
2829
แล้วผมก็เริ่มละความพยายาม
เพื่อให้เข้าใจว่าเรื่องนี้
มันไม่สมเหตุสมผลแค่ไหน
มันไม่สมเหตุสมผลแค่ไหน
03:44
To appreciate how absurd that is,
84
212469
3426
03:47
imagine if we did other things
in our life that way.
in our life that way.
85
215919
2745
ลองนึกภาพว่าเราทำ
อย่างอื่นในชีวิตด้วยวิธีนี้ดู
อย่างอื่นในชีวิตด้วยวิธีนี้ดู
03:51
Say, home-building.
86
219124
1454
ตัวอย่างเช่น การสร้างบ้าน
03:52
(Laughter)
87
220602
2673
(หัวเราะ)
03:56
So we bring in the contractor and say,
88
224878
3394
เราเรียกผู้รับเหมามา แล้วบอกว่า
04:00
"We were told we have
two weeks to build a foundation.
two weeks to build a foundation.
89
228296
2548
"เรามีเวลาสองสัปดาห์
ที่จะสร้างฐานรากให้เสร็จ
ที่จะสร้างฐานรากให้เสร็จ
04:02
Do what you can."
90
230868
1336
ทำได้เท่าไหร่เท่ากัน"
04:04
(Laughter)
91
232228
2303
(หัวเราะ)
04:06
So they do what they can.
92
234985
1792
พวกเขาก็ทำ เท่าที่จะทำได้
04:08
Maybe it rains.
93
236801
1156
บางทีฝนอาจจะเทลงมา
04:09
Maybe some of the supplies don't show up.
94
237981
1969
บางทีของบางอย่างก็ไม่มาส่ง
04:11
And two weeks later,
the inspector comes, looks around,
the inspector comes, looks around,
95
239974
3310
และสองอาทิตย์ให้หลัง
ผู้ตรวจงานก็มา เดินดูรอบๆ
ผู้ตรวจงานก็มา เดินดูรอบๆ
04:15
says, "OK, the concrete
is still wet right over there,
is still wet right over there,
96
243308
2665
แล้วว่า "โอเค ปูนตรงนั้นยังไม่แห้งดีเลย
04:17
that part's not quite up to code ...
97
245997
1852
และส่วนนั้นก็ยังไม่ได้มาตรฐาน
04:20
I'll give it an 80 percent."
98
248838
1358
ผมให้คะแนนแค่ 80 เปอร์เซ็นต์"
04:22
(Laughter)
99
250220
1064
(หัวเราะ)
04:23
You say, "Great! That's a C.
Let's build the first floor."
Let's build the first floor."
100
251308
2735
คุณบอกว่า "เยี่ยม นั่นเกรดซี
ผ่านละ มาสร้างชั้นแรกกันเถอะ"
ผ่านละ มาสร้างชั้นแรกกันเถอะ"
(หัวเราะ)
04:26
(Laughter)
101
254067
1018
เหมือนเดิม
04:27
Same thing.
102
255109
1154
เรามีเวลาสองอาทิตย์ ทำเท่าที่ทำได้
ผู้คุมงานมาตรวจ ให้ 75 เปอร์เซ็นต์
ผู้คุมงานมาตรวจ ให้ 75 เปอร์เซ็นต์
04:28
We have two weeks, do what you can,
inspector shows up, it's a 75 percent.
inspector shows up, it's a 75 percent.
103
256287
3839
04:32
Great, that's a D-plus.
104
260150
1159
เยี่ยมเลย นั่นเกรด D บวก
ชั้นที่สอง ชั้นที่สาม
04:33
Second floor, third floor,
105
261333
1246
ทันใดนั้น ขณะที่คุณกำลังสร้างชั้นสาม
04:34
and all of a sudden,
while you're building the third floor,
while you're building the third floor,
106
262603
2778
โครงสร้างทั้งหลังก็พังครืนลง
04:37
the whole structure collapses.
107
265405
1436
ถ้าปฏิกิริยาของคุณ เหมือนปฏิกิริยา
ที่คุณมักมีต่อการศึกษา
ที่คุณมักมีต่อการศึกษา
04:38
And if your reaction is the reaction
you typically have in education,
you typically have in education,
108
266865
3244
หรือเหมือนที่คนจำนวนมากเป็น
04:42
or that a lot of folks have,
109
270133
1341
คุณอาจจะบอกว่า
เป็นเพราะเรามีผู้รับเหมาที่แย่
เป็นเพราะเรามีผู้รับเหมาที่แย่
04:43
you might say, maybe
we had a bad contractor,
we had a bad contractor,
110
271498
2106
หรือเราอาจต้องมีผู้ตรวจงานที่ดีกว่านี้
หรือตรวจบ่อยกว่านี้
หรือตรวจบ่อยกว่านี้
04:45
or maybe we needed better inspection
or more frequent inspection.
or more frequent inspection.
111
273628
3093
04:48
But what was really broken
was the process.
was the process.
112
276745
2249
แต่สิ่งที่เป็นปัญหาจริง ๆ
ก็คือกระบวนการ
ก็คือกระบวนการ
04:51
We were artificially constraining
how long we had to something,
how long we had to something,
113
279018
3029
เราสร้างข้อจำกัดเทียม
ว่างานแต่ละอย่างต้องใช้เวลาแค่ไหน
ว่างานแต่ละอย่างต้องใช้เวลาแค่ไหน
04:54
pretty much ensuring a variable outcome,
114
282071
2373
ซึ่งแน่นอนว่าย่อมให้ผลลัพธ์ที่ไม่สม่ำเสมอ
04:56
and we took the trouble of inspecting
and identifying those gaps,
and identifying those gaps,
115
284468
3524
แล้วเราก็มัวมุ่งให้ความสำคัญกับการสอบ
แล้วก็พยายามหาช่องโหว่ต่าง ๆ
แล้วก็พยายามหาช่องโหว่ต่าง ๆ
05:00
but then we built right on top of it.
116
288016
1933
แต่แล้ว เราก็ดันสร้างต่อยอดขึ้นไปอีก
05:01
So the idea of mastery learning
is to do the exact opposite.
is to do the exact opposite.
117
289973
2937
ดังนั้น แนวคิดเรื่องการเรียนให้เชี่ยวชาญ
คือการทำตรงกันข้าม
คือการทำตรงกันข้าม
05:04
Instead of artificially
constraining, fixing
constraining, fixing
118
292934
2468
แทนที่จะสร้างข้อจำกัดเทียมโดยบังคับว่า
05:07
when and how long you work on something,
119
295426
1988
คุณจะทำงานบางอย่างเมื่อไหร่ และนานแค่ไหน
05:09
pretty much ensuring
that variable outcome,
that variable outcome,
120
297438
2218
ซึ่งแน่นอนว่าให้ผลลัพธ์ที่แปรผันได้
05:11
the A, B, C, D, F --
121
299680
1673
เกิดเป็นเกรด เอ บี ซี ดี เอฟ
05:13
do it the other way around.
122
301980
1484
ก็ให้ทำในทางตรงกันข้าม
05:15
What's variable is when and how long
123
303844
1792
สิ่งที่แปรผันได้ คือจังหวะและช่วงเวลา
05:17
a student actually has
to work on something,
to work on something,
124
305660
2094
ที่นักเรียนใช้สำหรับเรียนรู้อะไรบางอย่าง
05:19
and what's fixed is that
they actually master the material.
they actually master the material.
125
307778
3247
และสิ่งที่เรากำหนดให้คงที่คือ
ทุกคนจะต้องเชี่ยวชาญในเนื้อหานั้น
ทุกคนจะต้องเชี่ยวชาญในเนื้อหานั้น
05:23
And it's important to realize
126
311445
1651
และมันสำคัญที่เราต้องตระหนักว่า
05:25
that not only will this make the student
learn their exponents better,
learn their exponents better,
127
313120
3365
วิธีนี่ไม่เพียงแต่ช่วยให้นักเรียน
เรียนเลขยกกำลังได้ดีขึ้น
เรียนเลขยกกำลังได้ดีขึ้น
05:28
but it'll reinforce
the right mindset muscles.
the right mindset muscles.
128
316509
2958
แต่มันจะช่วยตอกย้ำ
กรอบความคิดที่ถูกต้องด้วย
กรอบความคิดที่ถูกต้องด้วย
05:31
It makes them realize that if you got
20 percent wrong on something,
20 percent wrong on something,
129
319491
3428
มันจะช่วยให้นักเรียนตระหนักว่า
ถ้าพวกเขาตอบผิด 20 เปอร์เซ็นต์ในบางหัวข้อ
ถ้าพวกเขาตอบผิด 20 เปอร์เซ็นต์ในบางหัวข้อ
05:34
it doesn't mean that you have
a C branded in your DNA somehow.
a C branded in your DNA somehow.
130
322943
3389
มันไม่ได้หมายความว่า
คุณมีเกรดซึฝังติดมาใน DNA
คุณมีเกรดซึฝังติดมาใน DNA
05:38
It means that you should just
keep working on it.
keep working on it.
131
326356
2434
มันแค่หมายความว่า คุณควรจะ
ต้องกลับไปทบทวนบทเรียนอีก
ต้องกลับไปทบทวนบทเรียนอีก
05:40
You should have grit;
you should have perseverance;
you should have perseverance;
132
328814
2492
คุณควรจะต้องอดทน
ต้องมานะพากเพียร
ต้องมานะพากเพียร
05:43
you should take agency over your learning.
133
331330
2141
คุณควรรับผิดชอบการเรียนรู้ของคุณเอง
05:45
Now, a lot of skeptics might say,
well, hey, this is all great,
well, hey, this is all great,
134
333908
2990
ทีนี้ คนที่เห็นแย้งหลายคน
อาจบอกว่า มันฟังดูดีนะ
อาจบอกว่า มันฟังดูดีนะ
05:48
philosophically, this whole idea
of mastery-based learning
of mastery-based learning
135
336922
2721
ในทางทฤษฎี ไอเดียเรื่อง
การเรียนรู้ให้เชี่ยวชาญ
การเรียนรู้ให้เชี่ยวชาญ
05:51
and its connection to mindset,
136
339667
1436
แล้วความเชื่อมโยงกับกรอบความคิดน่ะ
05:53
students taking agency
over their learning.
over their learning.
137
341127
2099
นักเรียนจัดการตนเองในการเรียน
05:55
It makes a lot of sense,
but it seems impractical.
but it seems impractical.
138
343250
3135
มันฟังดูเข้าท่ามากนะ
แต่มันดูเหมือนจะไม่เวิร์คในทางปฏิบัติ
แต่มันดูเหมือนจะไม่เวิร์คในทางปฏิบัติ
05:58
To actually do it, every student
would be on their own track.
would be on their own track.
139
346409
3397
ถ้าจะทำจริงๆ นักเรียนแต่ละคน
จะต้องเรียนอยู่ในแนวทางของตัวเอง
จะต้องเรียนอยู่ในแนวทางของตัวเอง
06:01
It would have to be personalized,
140
349830
1624
ต้องปรับให้เข้ากับแต่ละคน
06:03
you'd have to have private tutors
and worksheets for every student.
and worksheets for every student.
141
351478
3182
คุณจะต้องใช้ครูพิเศษแบบตัวต่อตัว
แล้วก็ใช้แบบฝึกหัดเฉพาะตัว
แล้วก็ใช้แบบฝึกหัดเฉพาะตัว
และนั่นก็ไม่ใช่แนวคิดใหม่เลย
06:06
And these aren't new ideas --
142
354684
1499
เคยมีการทดลองในเมืองวินเน็ตก้า
อิลลินอยส์ เมื่อ 100 ปีก่อน
อิลลินอยส์ เมื่อ 100 ปีก่อน
06:08
there were experiments
in Winnetka, Illinois, 100 years ago,
in Winnetka, Illinois, 100 years ago,
143
356207
2826
เมื่อพวกเขาทดลองการเรียนรู้ให้เชี่ยวชาญ
แล้วได้ผลดีเยี่ยม
แล้วได้ผลดีเยี่ยม
06:11
where they did mastery-based learning
and saw great results,
and saw great results,
144
359057
2818
06:13
but they said it wouldn't scale
because it was logistically difficult.
because it was logistically difficult.
145
361899
3297
แต่มันขยายผลออกไปไม่ได้
เพราะว่ามันยุ่งยากในด้านการจัดการ
เพราะว่ามันยุ่งยากในด้านการจัดการ
ครูจะต้องแจกแบบฝึกหัด
ที่แตกต่างกันให้นักเรียนแต่ละคน
ที่แตกต่างกันให้นักเรียนแต่ละคน
06:17
The teacher had to give different
worksheets to every student,
worksheets to every student,
146
365220
2907
ต้องทำการประเมินผลเมื่อไหร่ก็ได้
06:20
give on-demand assessments.
147
368151
1288
06:21
But now today, it's no longer impractical.
148
369463
2261
แต่ในวันนี้ เรื่องพวกนั้น
เป็นไปได้แล้ว
เป็นไปได้แล้ว
06:23
We have the tools to do it.
149
371748
1366
เรามีเครื่องมือที่จะทำได้
06:25
Students see an explanation
at their own time and pace?
at their own time and pace?
150
373138
2595
จะให้นักเรียนฟังคำอธิบาย
ในช่วงเวลาของแต่ละคนน่ะหรือ?
ในช่วงเวลาของแต่ละคนน่ะหรือ?
06:27
There's on-demand video for that.
151
375757
1595
เรามีวิดีโอที่ดูเมื่อไหร่ก็ได้
06:29
They need practice? They need feedback?
152
377376
2072
ต้องการแบบฝึกหัด?
ต้องการการติชม?
ต้องการการติชม?
06:31
There's adaptive exercises
readily available for students.
readily available for students.
153
379472
4440
มันมีแบบฝึกหัดที่ปรับตัวไปตาม
นักเรียนแต่ละคนได้
นักเรียนแต่ละคนได้
06:36
And when that happens,
all sorts of neat things happen.
all sorts of neat things happen.
154
384311
2594
และเมื่อมีสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น
ก็เกิดเรื่องดี ๆ ตามมา
ก็เกิดเรื่องดี ๆ ตามมา
06:38
One, the students can actually
master the concepts,
master the concepts,
155
386929
2773
อย่างแรก นักเรียนสามารถ
เชี่ยวชาญแนวคิดหลักได้จริง ๆ
เชี่ยวชาญแนวคิดหลักได้จริง ๆ
06:41
but they're also building
their growth mindset,
their growth mindset,
156
389726
2195
และก็ยังสร้างกรอบความคิด
ที่เชื่อในการเติบโต
ที่เชื่อในการเติบโต
06:43
they're building grit, perseverance,
157
391945
1797
สร้างความมานะอดทน
พากเพียรพยายาม
พากเพียรพยายาม
06:45
they're taking agency over their learning.
158
393766
2023
พวกเขาได้ฝึกควบคุมตัวเองในการเรียนรู้
06:47
And all sorts of beautiful things
can start to happen
can start to happen
159
395813
2557
และยังมีเรื่องสวยงามอื่น ๆ
ที่สามารถเริ่มเกิดขึ้นได้
ที่สามารถเริ่มเกิดขึ้นได้
ในห้องเรียนจริง ๆ
06:50
in the actual classroom.
160
398394
1636
แทนที่จะต้องมานั่งฟังการอธิบายเนื้อหา
06:52
Instead of it being focused
on the lecture,
on the lecture,
161
400054
2058
นักเรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ
06:54
students can interact with each other.
162
402136
1818
ฝึกให้เชี่ยวชาญลึกซึ้งในเนื้อหามากขึ้นได้
06:55
They can get deeper mastery
over the material.
over the material.
163
403978
2158
พวกเขาสามารถเล่นกับสถานการณ์สมมติ
บทสนทนาแบบโสกราตีส
บทสนทนาแบบโสกราตีส
06:58
They can go into simulations,
Socratic dialogue.
Socratic dialogue.
164
406160
2353
07:00
To appreciate what we're talking about
165
408537
2679
เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่เรากำลังพูดกันอยู่นี้
07:03
and the tragedy of lost potential here,
166
411240
4047
และความน่าเศร้าของศักยภาพที่สูญเสียไป
07:07
I'd like to give a little bit
of a thought experiment.
of a thought experiment.
167
415311
3143
ผมอยากจะให้ทดลองคิดกันเล่น ๆ
07:10
If we were to go 400 years
into the past to Western Europe,
into the past to Western Europe,
168
418985
5066
ถ้าเราย้อนเวลากลับไป
ซัก 400 ปี ในยุโรปตะวันตก
ซัก 400 ปี ในยุโรปตะวันตก
07:16
which even then, was one of the more
literate parts of the planet,
literate parts of the planet,
169
424075
3164
ซึ่ง ณ ขณะนั้นเป็นภาคพื้นที่มี
คนรู้หนังสือมากกว่าทวีปอื่นในโลก
คนรู้หนังสือมากกว่าทวีปอื่นในโลก
07:19
you would see that about 15 percent
of the population knew how to read.
of the population knew how to read.
170
427263
3727
คุณจะเห็นได้ว่า มีผู้คนประมาณ
15 เปอร์เซ็นต์ ที่อ่านหนังสือได้
15 เปอร์เซ็นต์ ที่อ่านหนังสือได้
07:23
And I suspect that if you asked someone
who did know how to read,
who did know how to read,
171
431556
3638
และผมคาดว่า ถ้าคุณถามใครซักคน
ที่อ่านหนังสือได้
ที่อ่านหนังสือได้
07:27
say a member of the clergy,
172
435218
1896
อย่างเช่น คนที่ทำงานในโบสถ์
07:29
"What percentage of the population
do you think is even capable of reading?"
do you think is even capable of reading?"
173
437138
3612
"คุณคิดว่า มีประชากรซักกี่เปอร์เซ็นต์
ที่จะสามารถอ่านออกเขียนได้"
ที่จะสามารถอ่านออกเขียนได้"
07:32
They might say, "Well,
with a great education system,
with a great education system,
174
440774
3561
เขาอาจบอกว่า "ด้วยระบบ
การศึกษาที่ดีแล้วนะ
การศึกษาที่ดีแล้วนะ
07:36
maybe 20 or 30 percent."
175
444359
2244
อาจจะประมาณ 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์"
07:39
But if you fast forward to today,
176
447424
1587
แต่ถ้าคุณกลับมาในยุคปัจจุบัน
07:41
we know that that prediction
would have been wildly pessimistic,
would have been wildly pessimistic,
177
449035
3015
เรารู้กันแล้วว่า การคาดการณ์นั้น
ต่ำกว่าความเป็นจริงไปมาก
ต่ำกว่าความเป็นจริงไปมาก
07:44
that pretty close to 100 percent
of the population is capable of reading.
of the population is capable of reading.
178
452074
4125
ความจริงแล้ว เกือบทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์
ของประชากรสามารถอ่านออกเขียนได้
ของประชากรสามารถอ่านออกเขียนได้
07:48
But if I were to ask you
a similar question:
a similar question:
179
456223
2551
แต่ถ้าผมจะถามคุณด้วย
คำถามคล้าย ๆ กัน
คำถามคล้าย ๆ กัน
07:51
"What percentage of the population
do you think is capable
do you think is capable
180
459494
3539
"มีประชากรซักกี่เปอร์เซ็นต์
ที่คุณคิดว่ามีความสามารถ
ที่คุณคิดว่ามีความสามารถ
07:55
of truly mastering calculus,
181
463057
2873
ที่จะเชี่ยวชาญแคลคูลัสได้
07:57
or understanding organic chemistry,
182
465954
3013
หรือจะเข้าใจชีวเคมี
08:00
or being able to contribute
to cancer research?"
to cancer research?"
183
468991
3286
หรือสามารถมีส่วนช่วยเหลือ
ในการทำวิจัยโรคมะเร็งได้?"
ในการทำวิจัยโรคมะเร็งได้?"
08:04
A lot of you might say, "Well,
with a great education system,
with a great education system,
184
472301
2897
พวกคุณหลายคนคงตอบว่า
"ถ้าด้วยระบบการศึกษาที่ดีนะ
"ถ้าด้วยระบบการศึกษาที่ดีนะ
08:07
maybe 20, 30 percent."
185
475222
2022
อาจจะประมาณ 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์"
08:09
But what if that estimate
186
477778
1313
แต่ถ้าหากการคาดการณ์นั้น
08:11
is just based on your own experience
in a non-mastery framework,
in a non-mastery framework,
187
479115
3387
มีรากฐานมาจากประสบการณ์ของคุณเอง
ที่โตมาจากระบบที่ไม่เน้นความเชี่ยวชาญ
ที่โตมาจากระบบที่ไม่เน้นความเชี่ยวชาญ
08:14
your own experience with yourself
or observing your peers,
or observing your peers,
188
482526
2832
จากประสบการณ์ของคุณเอง
หรือการเฝ้าสังเกตคนอื่น ๆ
หรือการเฝ้าสังเกตคนอื่น ๆ
08:17
where you're being pushed
at this set pace through classes,
at this set pace through classes,
189
485382
2789
ซึ่งคุณถูกผลักให้ก้าวไปข้างหน้า
ผ่านชั้นเรียนต่าง ๆ
ผ่านชั้นเรียนต่าง ๆ
และสะสมช่องโหว่ความรู้ไปเรื่อยๆ ล่ะ
08:20
accumulating all these gaps?
190
488195
1339
08:21
Even when you got that 95 percent,
191
489558
1641
แม้ว่าคุณจะทำได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์
08:23
what was that five percent you missed?
192
491223
1812
แล้วอีก 5 เปอร์เซ็นต์ที่ขาดไป อยู่ไหน?
08:25
And it keeps accumulating --
you get to an advanced class,
you get to an advanced class,
193
493059
2727
และมันจะสะสมไปเรื่อย ๆ
คุณเรียนชั้นสูงขึ้น
คุณเรียนชั้นสูงขึ้น
08:27
all of a sudden you hit a wall and say,
194
495810
1872
ทันใดนั้น คุณก็ชนกำแพง แล้วบอกว่า
"ฉันคงไม่เหมาะที่จะทำงานวิจัยมะเร็ง
08:29
"I'm not meant to be a cancer researcher;
195
497706
2003
ไม่เหมาะจะเป็นนักฟิสิกส์
ไม่เหมาะจะเป็นนักคณิตศาสตร์"
ไม่เหมาะจะเป็นนักคณิตศาสตร์"
08:31
not meant to be a physicist;
not meant to be a mathematician."
not meant to be a mathematician."
196
499733
2928
ผมเดาว่ามันจะออกมาในรูปนั้น
08:34
I suspect that that actually is the case,
197
502685
1977
08:36
but if you were allowed to be operating
in a mastery framework,
in a mastery framework,
198
504686
3826
แต่ถ้าคุณได้โอกาสที่จะเรียนรู้
ในกรอบการเรียนให้เชี่ยวชาญแล้ว
ในกรอบการเรียนให้เชี่ยวชาญแล้ว
08:40
if you were allowed to really
take agency over your learning,
take agency over your learning,
199
508536
3417
ถ้ามีโอกาสที่จะจัดการตัวเอง
ในด้านการเรียนรู้
ในด้านการเรียนรู้
08:43
and when you get something wrong,
200
511977
1596
และถ้าคุณทำโจทย์ผิด
08:45
embrace it -- view that failure
as a moment of learning --
as a moment of learning --
201
513597
2792
นำมันมาใช้ มองความผิดพลาด
เป็นจังหวะแห่งการเรียนรู้
เป็นจังหวะแห่งการเรียนรู้
08:48
that number, the percent
that could really master calculus
that could really master calculus
202
516413
3957
ตัวเลขนั้น เปอร์เซ็นต์ของผู้คน
ที่สามารถเชี่ยวชาญแคลคูลัส
ที่สามารถเชี่ยวชาญแคลคูลัส
08:52
or understand organic chemistry,
203
520394
1760
หรือเข้าใจชีวเคมี
08:54
is actually a lot closer to 100 percent.
204
522178
2502
คงมีตัวเลขเข้าใกล้
100 เปอร์เซ็นต์ขึ้นอีกมาก
100 เปอร์เซ็นต์ขึ้นอีกมาก
08:57
And this isn't even just a "nice to have."
205
525601
2857
และนี่ไม่ใช่แค่สิ่งที่ "ทำได้ก็ดีนะ"
09:01
I think it's a social imperative.
206
529019
2063
ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อสังคม
09:03
We're exiting what you could call
the industrial age
the industrial age
207
531511
3851
เรากำลังออกจากยุคที่คุณเรียกว่า
ยุคอุตสาหกรรม
ยุคอุตสาหกรรม
09:07
and we're going into
this information revolution.
this information revolution.
208
535386
3804
และเรากำลังก้าวเข้าสู่การปฏิวัติสารสนเทศ
09:11
And it's clear that some
things are happening.
things are happening.
209
539646
2174
เห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้น
09:13
In the industrial age,
society was a pyramid.
society was a pyramid.
210
541844
2113
ในยุคอุตสาหกรรม
สังคมมีโครงสร้างเป็นปิรามิด
สังคมมีโครงสร้างเป็นปิรามิด
09:15
At the base of the pyramid,
you needed human labor.
you needed human labor.
211
543981
4652
ที่ฐานของปิรามิด
คือชนชั้นใช้แรงงานจำนวนมาก
คือชนชั้นใช้แรงงานจำนวนมาก
09:21
In the middle of the pyramid,
you had an information processing,
you had an information processing,
212
549085
3333
ส่วนกลางของปิรามิด
คุณมีกลุ่มคนที่ทำงานประมวลข้อมูล
คุณมีกลุ่มคนที่ทำงานประมวลข้อมูล
09:24
a bureaucracy class,
213
552442
1598
เป็นกลุ่มชนชั้นกลาง
09:26
and at the top of the pyramid,
you had your owners of capital
you had your owners of capital
214
554064
3674
และที่ส่วนยอดของปิรามิด
จะเป็นเหล่าเจ้าของทุน
จะเป็นเหล่าเจ้าของทุน
09:29
and your entrepreneurs
215
557762
1999
เจ้าของกิจการทั้งหลาย
09:31
and your creative class.
216
559785
1452
และชนชั้นผู้สร้างสรรค์
09:33
But we know what's happening already,
217
561904
1796
แต่เรารู้กันแล้วว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
09:35
as we go into this information revolution.
218
563724
2015
ขณะที่เรากำลังเข้าสู่ยุคปฏิวัติสารสนเทศ
09:37
The bottom of that pyramid,
automation, is going to take over.
automation, is going to take over.
219
565763
2953
ด้านล่างของปิรามิดกำลังถูก
ยึดครองด้วยเครื่องอัตโนมัติ
ยึดครองด้วยเครื่องอัตโนมัติ
09:40
Even that middle tier,
information processing,
information processing,
220
568740
2325
รวมไปถึงกลุ่มชนชั้นกลาง
ที่ทำงานประมวลข้อมูล
ที่ทำงานประมวลข้อมูล
09:43
that's what computers are good at.
221
571089
1626
นั่นเป็นสิ่งที่คอมพิวเตอร์ทำได้ดี
09:44
So as a society, we have a question:
222
572739
1747
ดังนั้น สังคมของเราเผชิญกับคำถามว่า
09:46
All this new productivity is happening
because of this technology,
because of this technology,
223
574510
3118
ประสิทธิผลใหม่ ๆ ทั้งหลาย
ที่กำลังเกิดขึ้นเพราะเทคโนโลยีนี้
ที่กำลังเกิดขึ้นเพราะเทคโนโลยีนี้
ใครบ้างที่จะมีส่วนในเรื่องนี้?
09:49
but who participates in it?
224
577652
1330
หรือจะเป็นแค่เพียงคนกลุ่มที่
อยู่บนยอดของปิรามิดเท่านั้น
อยู่บนยอดของปิรามิดเท่านั้น
09:51
Is it just going to be that very top
of the pyramid, in which case,
of the pyramid, in which case,
225
579006
3195
แล้วคนอื่น ๆ ที่เหลือทั้งหมดจะทำอะไร?
09:54
what does everyone else do?
226
582225
1341
พวกเขาจะอยู่กันอย่างไร?
09:55
How do they operate?
227
583590
1166
09:56
Or do we do something
that's more aspirational?
that's more aspirational?
228
584780
2420
หรือว่าเราจะทำอะไรบางอย่าง
ที่มันทะเยอทะยานกว่านี้?
ที่มันทะเยอทะยานกว่านี้?
09:59
Do we actually attempt
to invert the pyramid,
to invert the pyramid,
229
587581
3110
เราจะพยายามพลิกปิรามิด
กลับหัวกันหน่อยมั้ย
กลับหัวกันหน่อยมั้ย
10:02
where you have a large creative class,
230
590715
2001
จะได้มีชนชั้นสร้างสรรค์เป็นจำนวนมาก ๆ
10:04
where almost everyone
can participate as an entrepreneur,
can participate as an entrepreneur,
231
592740
3681
แทบทุกคนสามารถมีส่วนร่วม
ในฐานะเจ้าของกิจการ
ในฐานะเจ้าของกิจการ
10:08
an artist, as a researcher?
232
596445
1945
หรือศิลปิน หรือนักวิจัย?
และผมไม่คิดว่านั่นคือ
โลกอุดมคติที่เกินเอื้อม
โลกอุดมคติที่เกินเอื้อม
10:10
And I don't think that this is utopian.
233
598850
1930
10:12
I really think that this
is all based on the idea
is all based on the idea
234
600804
2364
ผมเชื่อจริง ๆ ว่ามันมีรากฐานจากแนวคิด
10:15
that if we let people
tap into their potential
tap into their potential
235
603192
2184
ว่าถ้าเรายินยอมให้ผู้คน
เข้าถึงศักยภาพตัวเอง
เข้าถึงศักยภาพตัวเอง
10:17
by mastering concepts,
236
605400
1964
โดยฝึกฝนเรียนรู้แนวคิดจนเชี่ยวชาญ
10:19
by being able to exercise agency
over their learning,
over their learning,
237
607388
3577
โดยสามารถใช้สิทธิ
จัดการการเรียนรู้ของตัวเอง
จัดการการเรียนรู้ของตัวเอง
10:22
that they can get there.
238
610989
1342
พวกเขาจะไปถึงที่นั่นได้
10:24
And when you think of it
as just a citizen of the world,
as just a citizen of the world,
239
612672
4000
และถ้าคุณลองคิดดู
ในฐานะพลเมืองของโลก
ในฐานะพลเมืองของโลก
10:28
it's pretty exciting.
240
616696
1263
มันน่าตื่นเต้นมาก
10:29
I mean, think about
the type of equity we can we have,
the type of equity we can we have,
241
617983
2628
ลองคิดดูว่า
จะเกิดความเที่ยงธรรมขึ้นขนาดไหน
จะเกิดความเที่ยงธรรมขึ้นขนาดไหน
10:32
and the rate at which civilization
could even progress.
could even progress.
242
620635
3204
อารยธรรมของเราจะก้าวหน้า
ไปด้วยอัตราเร็วแค่ไหน
ไปด้วยอัตราเร็วแค่ไหน
10:36
And so, I'm pretty optimistic about it.
243
624339
2213
ดังนั้น ผมเชื่อมากว่ามันเป็นไปได้
10:38
I think it's going to be
a pretty exciting time to be alive.
a pretty exciting time to be alive.
244
626576
3563
ผมคิดว่ามันจะเป็นช่วงเวลา
อันน่าตื่นเต้นที่จะได้มีชีวิตอยู่
อันน่าตื่นเต้นที่จะได้มีชีวิตอยู่
10:42
Thank you.
245
630163
1166
ขอบคุณครับ
10:43
(Applause)
246
631353
5477
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Sal Khan - Educator and social entrepreneurIn 2004, Sal Khan, a hedge fund analyst, began making math tutorials for his cousins. Twelve years later, Khan Academy has more than 42 million registered users from 190 countries, with tutorials on subjects from basic math through economics, art history, computer science, health, medicine and more.
Why you should listen
Salman "Sal" Khan is the founder and chief executive officer of Khan Academy, a not-for-profit with a mission of providing a free, world-class education for anyone, anywhere.
Khan Academy started as a passion project in 2004. Khan's cousin was struggling with math, so he tutored her remotely and posted educational videos on YouTube. So many people watched the videos that eventually Khan quit his job at a hedge fund and pursued Khan Academy full time. Today Khan Academy has more than 100 employees in Mountain View, California. Khan Academy believes learners of all ages should have unlimited access to free educational content they can master at their own pace. Its resources cover preschool through early college education, including math, grammar, biology, chemistry, physics, economics, finance and history. Additionally, Khan Academy offers free personalized SAT test prep in partnership with the test developer, the College Board. More than 42 million registered users access Khan Academy in dozens of languages across 190 countries.
Khan has been profiled by "60 Minutes," featured on the cover of Forbes, and recognized as one of TIME’s "100 Most Influential People in the World." In his book, The One World Schoolhouse: Education Reimagined, Sal outlines his vision for the future of education.
Khan holds three degrees from MIT and an MBA from Harvard Business School.
Sal Khan | Speaker | TED.com