TEDxCreativeCoast
Celeste Headlee: 10 ways to have a better conversation
เซเลสท์ เฮดลี (Celeste Headlee): 10 วิธีที่จะทำให้บทสนทนาดียิ่งขึ้น
Filmed:
Readability: 3.1
17,081,256 views
เมื่องานของคุณขึ้นอยู่กับการที่คุณเจรจากับผู้อื่นได้ดีมากน้อยแค่ไหน เราเรียนรู้อะไรมามากมายถึงวิธีที่จะมีการสนทนา ทว่าเราส่วนใหญ่กลับทำได้ไม่ดีนัก เซเลสท์ เฮดลี เป็นนักจัดรายการวิทยุมาหลายสิบปี และเธอก็รู้องค์ประกอบของการมีบทสทนาชั้นเลิศ คือ ความซื่อตรง กระชับ ชัดเจน และการรับฟังที่เหมาะสม ในการบรรยายอันรู้ซึ้งนี้ เธอจะมาเผยกฎ 10 ประการที่เป็นประโยชน์เพื่อให้มีบทสนทนาที่ดียิ่งขึ้น "ก้าวออกไปพูดคุยกับผู้คน เปิดใจรับฟังพวกเขา" เธอกล่าว "และสิ่งสำคัญที่สุด เตรียมใจให้พร้อมที่จะพิศวง"
Celeste Headlee - Writer and radio host
Celeste Headlee's years of interview experience give her a unique perspective on what makes for a good conversation. Full bio
Celeste Headlee's years of interview experience give her a unique perspective on what makes for a good conversation. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
All right, I want to see a show of hands:
0
840
1953
เอาละค่ะ ฉันอยากจะขอให้ยกมือหน่อย
00:14
how many of you have
unfriended someone on Facebook
unfriended someone on Facebook
1
2817
2399
มีใครบ้างที่เลิกเป็นเพื่อน
กับใครสักคนบนเฟสบุ๊ก (Facebook)
กับใครสักคนบนเฟสบุ๊ก (Facebook)
00:17
because they said something offensive
about politics or religion,
about politics or religion,
2
5240
3856
ด้วยเหตุที่พวกเขาชอบพูดโจมตี
การเมืองหรือศาสนา
การเมืองหรือศาสนา
00:21
childcare, food?
3
9120
2136
การดูแลเด็ก
หรือแม้แต่อาหารบ้างไหมคะ
หรือแม้แต่อาหารบ้างไหมคะ
00:23
(Laughter)
4
11280
1936
(เสียงหัวเราะ)
00:25
And how many of you
know at least one person that you avoid
know at least one person that you avoid
5
13240
2816
แล้วมีกี่ท่านที่คอยหลบเลี่ยง
คนรู้จักอย่างน้อยหนึ่งคนอยู่
คนรู้จักอย่างน้อยหนึ่งคนอยู่
00:28
because you just don't want
to talk to them?
to talk to them?
6
16079
2281
เพียงเพราะคุณไม่อยากคุยกับเขา
00:30
(Laughter)
7
18880
2056
(เสียงหัวเราะ)
00:32
You know, it used to be that in order
to have a polite conversation,
to have a polite conversation,
8
20960
3216
ทราบไหมคะ เมื่อก่อน
เพื่อจะมีการสนทนาอย่างสุภาพ
เพื่อจะมีการสนทนาอย่างสุภาพ
00:36
we just had to follow the advice
of Henry Higgins in "My Fair Lady":
of Henry Higgins in "My Fair Lady":
9
24200
3216
เราก็แค่ทำตามคำแนะนำของ
Henry Higgins ใน "My Fair Lady"
Henry Higgins ใน "My Fair Lady"
00:39
Stick to the weather and your health.
10
27440
1816
พูดแต่เรื่องอากาศและสุขภาพของคุณ
00:41
But these days, with climate change
and anti-vaxxing, those subjects --
and anti-vaxxing, those subjects --
11
29280
3376
ทว่าทุกวันนี้ จากการเปลี่ยนแปลง
ภูมิอากาศและการต่อต้านการฉีดวัคซีน
ภูมิอากาศและการต่อต้านการฉีดวัคซีน
00:44
(Laughter)
12
32680
1296
(เสียงหัวเราะ)
00:46
are not safe either.
13
34000
1296
เรื่องพวกนั้นก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน
00:47
So this world that we live in,
14
35320
2440
ดังนั้น โลกใบนี้ที่พวกเราอาศัยอยู่
00:50
this world in which every conversation
15
38520
2576
ในโลกใบนี้ ที่ซึ่งทุก ๆ การสนทนา
00:53
has the potential
to devolve into an argument,
to devolve into an argument,
16
41120
2176
สามารถกลายเป็นการโต้เถียงได้
00:55
where our politicians
can't speak to one another
can't speak to one another
17
43320
2286
โลกที่นักการเมืองไม่สามารถพูดคุยกันเองได้
00:57
and where even the most trivial of issues
18
45630
2306
โลกที่แม้แต่เรื่องเล็กน้อย
ก็ยังมีคนคิดจะสู้กัน
ก็ยังมีคนคิดจะสู้กัน
00:59
have someone fighting both passionately
for it and against it, it's not normal.
for it and against it, it's not normal.
19
47960
4976
ทั้งสู้เพื่อมัน และเพื่อล้มล้างมัน
อย่างแรงกล้า นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ
อย่างแรงกล้า นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ
01:04
Pew Research did a study
of 10,000 American adults,
of 10,000 American adults,
20
52960
3096
ศูนย์วิจัยพิว (Pew) ได้ทำการศึกษา
ผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 10,000 คน
ผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 10,000 คน
01:08
and they found that at this moment,
we are more polarized,
we are more polarized,
21
56080
2736
และพบว่า ในเวลานี้
เรามีการแบ่งขั้วอำนาจกันมากขึ้น
เรามีการแบ่งขั้วอำนาจกันมากขึ้น
01:10
we are more divided,
22
58840
1296
เราแตกแยกกันมากขึ้น
01:12
than we ever have been in history.
23
60160
2776
มากกว่าที่เคยเป็นมาในประวัติศาสตร์
01:14
We're less likely to compromise,
24
62960
1576
เรามีแนวโน้มประนีประนอมกันน้อยลง
01:16
which means we're
not listening to each other.
not listening to each other.
25
64560
2176
ซึ่งหมายความว่า เราไม่รับฟังกันและกันเลย
01:18
And we make decisions about where to live,
26
66760
2536
และเราตัดสินใจว่าจะอยู่ที่ไหน
01:21
who to marry and even
who our friends are going to be,
who our friends are going to be,
27
69320
2616
จะแต่งงานกับใครดี
และคนที่เราจะคบเป็นเพื่อนด้วย
และคนที่เราจะคบเป็นเพื่อนด้วย
01:23
based on what we already believe.
28
71960
2096
โดยขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเชื่อแต่เดิม
01:26
Again, that means
we're not listening to each other.
we're not listening to each other.
29
74080
2976
อีกครั้ง ที่มันส่อให้เห็นว่า
เราไม่รับฟังกันและกันเลย
เราไม่รับฟังกันและกันเลย
01:29
A conversation requires a balance
between talking and listening,
between talking and listening,
30
77080
3336
การสนทนาต้องการความสมดุล
ระหว่างการพูดและการฟัง
ระหว่างการพูดและการฟัง
01:32
and somewhere along the way,
we lost that balance.
we lost that balance.
31
80440
2656
และเราก็เสียสมดุลนั้นไป
ในระหว่างการสนทนา
ในระหว่างการสนทนา
01:35
Now, part of that is due to technology.
32
83120
1896
ค่ะ ส่วนหนึ่งเกิดจากเทคโนโลยี
01:37
The smartphones that you all
either have in your hands
either have in your hands
33
85040
2576
สมาร์ทโฟนที่ทุกคนถืออยู่ในมือ
01:39
or close enough that you could
grab them really quickly.
grab them really quickly.
34
87640
2656
หรือเอาไว้ใกล้ตัวที่สุดเพื่อจะได้
หยิบออกมาได้เร็ว ๆ
หยิบออกมาได้เร็ว ๆ
01:42
According to Pew Research,
35
90320
1296
ตามผลการศึกษาของสถาบันพิว
01:43
about a third of American teenagers
send more than a hundred texts a day.
send more than a hundred texts a day.
36
91640
4896
วัยรุ่นชาวอเมริกันประมาณหนึ่งในสาม
ส่งข้อความกว่า 100 ข้อความต่อวัน
ส่งข้อความกว่า 100 ข้อความต่อวัน
01:48
And many of them, almost most of them,
are more likely to text their friends
are more likely to text their friends
37
96560
4576
หลาย ๆ คน ซึ่งแทบทุกคน
มักส่งข้อความหาเพื่อน
มักส่งข้อความหาเพื่อน
01:53
than they are to talk
to them face to face.
to them face to face.
38
101160
2080
มากกว่าจะคุยกับเพื่อนแบบต่อหน้า
01:56
There's this great piece in The Atlantic.
39
104160
1976
มีหนึ่งบทความชิ้นเอกจาก
นิตยสาร The Atlantic
นิตยสาร The Atlantic
01:58
It was written by a high school teacher
named Paul Barnwell.
named Paul Barnwell.
40
106160
2856
เขียนขึ้นโดยครูชั้นมัธยมปลาย
ชื่อ พอล บาร์นเวลล์
ชื่อ พอล บาร์นเวลล์
02:01
And he gave his kids
a communication project.
a communication project.
41
109040
2136
เขาให้นักเรียนทำโครงการเกี่ยวกับการสื่อสาร
02:03
He wanted to teach them how to speak
on a specific subject without using notes.
on a specific subject without using notes.
42
111200
3736
เขาต้องการสอนให้เด็กรู้จัก
การพูดในหัวข้อเฉพาะโดยไม่ต้องดูกระดาษจด
การพูดในหัวข้อเฉพาะโดยไม่ต้องดูกระดาษจด
02:06
And he said this: "I came to realize..."
43
114960
1905
เขากล่าวว่า "ผมได้ตระหนักว่า..."
02:08
(Laughter)
44
116889
3287
(เสียงหัวเราะ)
02:12
"I came to realize
that conversational competence
that conversational competence
45
120200
3176
"ผมได้ตระหนักว่า
ความสามารถในการสนทนา
ความสามารถในการสนทนา
02:15
might be the single
most overlooked skill we fail to teach.
most overlooked skill we fail to teach.
46
123400
4096
อาจเป็นทักษะเดียวที่ถูกมองข้ามมากที่สุด
และเราล้มเหลวที่จะสอน"
และเราล้มเหลวที่จะสอน"
02:19
Kids spend hours each day engaging
with ideas and each other through screens,
with ideas and each other through screens,
47
127520
4296
เด็ก ๆ ใช้เวลาหลายชั่วโมงในแต่ละวัน
จดจ่อกับความคิดและผู้คนทางหน้าจอ
จดจ่อกับความคิดและผู้คนทางหน้าจอ
02:23
but rarely do they have an opportunity
48
131840
1856
แต่น้อยคนนักที่จะมีโอกาส
02:25
to hone their interpersonal
communications skills.
communications skills.
49
133720
2576
ฝึกฝนทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล
02:28
It might sound like a funny question,
but we have to ask ourselves:
but we have to ask ourselves:
50
136320
3176
มันอาจเป็นคำถามที่ฟังดูแปลก ๆ
แต่เราต้องถามตัวเองว่า
แต่เราต้องถามตัวเองว่า
02:31
Is there any 21st-century skill
51
139520
1936
ยังมีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อย่างไหน
02:33
more important than being able to sustain
coherent, confident conversation?"
coherent, confident conversation?"
52
141480
5576
จะสำคัญไปกว่า การประคองบทสนทนา
ให้สอดคล้องและมีความมั่นใจได้อีกล่ะ
ให้สอดคล้องและมีความมั่นใจได้อีกล่ะ
02:39
Now, I make my living talking to people:
53
147080
2216
ฉันมีอาชีพที่ต้องพูดคุยกับบุคคลต่าง ๆ
02:41
Nobel Prize winners, truck drivers,
54
149320
2256
ผู้ได้รับรางวัลโนเบล, คนขับรถบรรทุก,
02:43
billionaires, kindergarten teachers,
55
151600
2416
เศรษฐีพันล้าน, คุณครูอนุบาล,
02:46
heads of state, plumbers.
56
154040
2696
ประมุขของรัฐ, ช่างประปา
02:48
I talk to people that I like.
I talk to people that I don't like.
I talk to people that I don't like.
57
156760
3048
ฉันได้พูดคุยกับคนที่ฉันชอบ
และได้พูดคุยกับคนที่ฉันไม่ชอบ
และได้พูดคุยกับคนที่ฉันไม่ชอบ
02:51
I talk to some people that I disagree with
deeply on a personal level.
deeply on a personal level.
58
159832
3784
ฉันได้พูดคุยกับคนบางคน
ที่ฉันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งเป็นการส่วนตัว
ที่ฉันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งเป็นการส่วนตัว
02:55
But I still have
a great conversation with them.
a great conversation with them.
59
163640
2776
แต่ฉันก็ยังมีบทสนทนาเยื่ยม ๆ กับพวกเขาได้
02:58
So I'd like to spend the next 10 minutes
or so teaching you how to talk
or so teaching you how to talk
60
166440
3896
ดังนั้น ฉันจึงอยากจะใช้ 10 นาทีต่อจากนี้
สอนพวกคุณเรื่องวิธีการพูด
สอนพวกคุณเรื่องวิธีการพูด
03:02
and how to listen.
61
170360
1360
และวิธีการรับฟัง
03:04
Many of you have already heard
a lot of advice on this,
a lot of advice on this,
62
172800
2616
หลายคนอาจเคยได้ยินคำแนะนำหลายอย่าง
ในเรื่องนี้กันมาบ้างแล้วนะคะ
ในเรื่องนี้กันมาบ้างแล้วนะคะ
03:07
things like look the person in the eye,
63
175440
1976
อย่างเช่น ให้สบตาคู่สนทนา
03:09
think of interesting topics
to discuss in advance,
to discuss in advance,
64
177440
3816
คิดหัวข้อที่น่าสนใจในการพูดคุยเอาไว้ล่วงหน้า
03:13
look, nod and smile to show
that you're paying attention,
that you're paying attention,
65
181280
4776
มอง, พยักหน้า, และยิ้ม
เพื่อแสดงว่าคุณกำลังสนใจ
เพื่อแสดงว่าคุณกำลังสนใจ
03:18
repeat back what you just heard
or summarize it.
or summarize it.
66
186080
2896
พูดทวนสิ่งที่ได้ยิน หรือรวบประเด็น
03:21
So I want you to forget all of that.
67
189000
1736
แต่ฉันอยากให้คุณลืมมันไปให้หมด
03:22
It is crap.
68
190760
1216
เพราะมันไร้ประโยชน์สิ้นดี
03:24
(Laughter)
69
192000
3016
(เสียงหัวเราะ)
03:27
There is no reason to learn
how to show you're paying attention
how to show you're paying attention
70
195040
4256
ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องเรียนรู้
เพื่อแสดงความสนใจ
เพื่อแสดงความสนใจ
03:31
if you are in fact paying attention.
71
199320
3656
หากว่าคุณกำลังสนใจอยู่จริง ๆ
03:35
(Laughter)
72
203000
1856
(เสียงหัวเราะ)
03:36
(Applause)
73
204880
2896
(เสียงปรบมือ)
03:39
Now, I actually use the exact
same skills as a professional interviewer
same skills as a professional interviewer
74
207800
3656
ฉันใช้ทักษะเดียวกันนี้
ในการเป็นนักสัมภาษณ์มืออาชีพ
ในการเป็นนักสัมภาษณ์มืออาชีพ
03:43
that I do in regular life.
75
211480
2936
ที่ฉันใช้ในชีวิตประจำวัน
03:46
So, I'm going to teach you
how to interview people,
how to interview people,
76
214440
3456
ดังนั้น ฉันจะสอนคุณ
ถึงวิธีการสัมภาษณ์คน
ถึงวิธีการสัมภาษณ์คน
03:49
and that's actually going to help you
learn how to be better conversationalists.
learn how to be better conversationalists.
77
217920
3816
และนั่นจะช่วยให้คุณเรียนรู้
การจะเป็นนักสนทนาชั้นเลิศได้
การจะเป็นนักสนทนาชั้นเลิศได้
03:53
Learn to have a conversation
78
221760
1376
เรียนรู้ที่จะมีการสนทนา
03:55
without wasting your time,
without getting bored,
without getting bored,
79
223160
2336
โดยไม่ทำให้คุณเสียเวลา,
ไม่ทำให้รู้สึกเบื่อ,
ไม่ทำให้รู้สึกเบื่อ,
03:57
and, please God,
without offending anybody.
without offending anybody.
80
225520
3296
และ ได้โปรดเถอะ
โดยไม่ทำให้ใครโมโหคุณ
โดยไม่ทำให้ใครโมโหคุณ
04:00
We've all had really great conversations.
81
228840
2216
เราต่างก็เคยมีการสนทนา
ที่เยี่ยมยอดด้วยกันทั้งสิ้น
ที่เยี่ยมยอดด้วยกันทั้งสิ้น
04:03
We've had them before.
We know what it's like.
We know what it's like.
82
231080
2176
เราเคยมีมันมาก่อน
เรารู้ดีว่ามันเป็นอย่างไร
เรารู้ดีว่ามันเป็นอย่างไร
04:05
The kind of conversation where you
walk away feeling engaged and inspired,
walk away feeling engaged and inspired,
83
233280
3696
การสนทนาที่จบลงด้วย
ความรู้สึกตราตรึงและมีแรงบันดาลใจ
ความรู้สึกตราตรึงและมีแรงบันดาลใจ
04:09
or where you feel
like you've made a real connection
like you've made a real connection
84
237000
2456
ทำให้รู้สึกว่า
คุณได้สร้างความสัมพันธ์อย่างแท้จริง
คุณได้สร้างความสัมพันธ์อย่างแท้จริง
04:11
or you've been perfectly understood.
85
239480
2096
หรือคุณเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้
04:13
There is no reason
86
241600
1216
มันไม่มีเหตุผล
04:14
why most of your interactions
can't be like that.
can't be like that.
87
242840
3256
ว่าทำไมการโต้ตอบส่วนใหญ่ของคุณ
จะเป็นอย่างนั้นบ้างไม่ได้
จะเป็นอย่างนั้นบ้างไม่ได้
04:18
So I have 10 basic rules.
I'm going to walk you through all of them,
I'm going to walk you through all of them,
88
246120
3216
ฉันมีกฎง่าย ๆ อยู่ 10 ข้อ
ฉันจะถ่ายทอดให้คุณฟังทุกข้อ
ฉันจะถ่ายทอดให้คุณฟังทุกข้อ
04:21
but honestly, if you just choose
one of them and master it,
one of them and master it,
89
249360
3736
แต่อันที่จริง ถ้าคุณเลือกมาสักข้อหนึ่ง
และฝึกใช้จนชำนาญ
และฝึกใช้จนชำนาญ
04:25
you'll already enjoy better conversations.
90
253120
2736
เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้เพลิดเพลินไปกับ
บทสนทนาดี ๆ แล้ว
บทสนทนาดี ๆ แล้ว
04:27
Number one: Don't multitask.
91
255880
2216
ข้อแรก อย่าทำหลายอย่างไปพร้อมกัน
04:30
And I don't mean
just set down your cell phone
just set down your cell phone
92
258120
2176
และฉันไม่ได้หมายความแค่วางโทรศัพท์
04:32
or your tablet or your car keys
or whatever is in your hand.
or whatever is in your hand.
93
260320
2856
วางแท็บเล็ต วางกุญแจรถ
หรือวางอะไรก็ตามที่คุณถืออยู่ในมือ
หรือวางอะไรก็ตามที่คุณถืออยู่ในมือ
04:35
I mean, be present.
94
263200
1896
ฉันหมายความว่า ให้อยู่กับปัจจุบัน
04:37
Be in that moment.
95
265120
2256
อยู่กับ ณ ขณะนั้น
04:39
Don't think about your argument
you had with your boss.
you had with your boss.
96
267400
2616
ไม่คิดถึงเรื่องที่คุณเถียงกับเจ้านาย
04:42
Don't think about what
you're going to have for dinner.
you're going to have for dinner.
97
270040
2616
ไม่คิดว่าตอนเย็นจะกินอะไรดี
04:44
If you want to get out
of the conversation,
of the conversation,
98
272680
2056
ถ้าคุณไม่อยากจะคุย
04:46
get out of the conversation,
99
274760
1376
คุณก็ไม่ต้องคุย
04:48
but don't be half in it
and half out of it.
and half out of it.
100
276160
2136
แต่อย่าคุยแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ
04:50
Number two: Don't pontificate.
101
278320
2576
ข้อสอง อย่าวิจารณ์
04:52
If you want to state your opinion
102
280920
2176
ถ้าคุณอยากแสดงความเห็น
04:55
without any opportunity for response
or argument or pushback or growth,
or argument or pushback or growth,
103
283120
5936
โดยที่ไม่ต้องการการตอบกลับ
การโต้แย้ง ท้วงติงหรือการพัฒนาใด ๆ
การโต้แย้ง ท้วงติงหรือการพัฒนาใด ๆ
05:01
write a blog.
104
289080
1456
คุณไปเขียนบล็อกเถอะค่ะ
05:02
(Laughter)
105
290560
3056
(เสียงหัวเราะ)
05:05
Now, there's a really good reason
why I don't allow pundits on my show:
why I don't allow pundits on my show:
106
293640
3376
มีเหตุผลที่ฟังขึ้นว่า ทำไมฉันจึงไม่ยอม
ให้ผู้เชี่ยวชาญมาเข้าร่วมการพูดของฉัน
ให้ผู้เชี่ยวชาญมาเข้าร่วมการพูดของฉัน
05:09
Because they're really boring.
107
297040
1776
ก็เพราะพวกเขาน่าเบื่อไงคะ
05:10
If they're conservative, they're going to
hate Obama and food stamps and abortion.
hate Obama and food stamps and abortion.
108
298840
3858
ถ้าเขาเป็นพวกอนุรักษ์นิยม ก็จะเกลียดโอบามา
แสตมป์แลกอาหาร และการทำแท้ง
แสตมป์แลกอาหาร และการทำแท้ง
05:14
If they're liberal, they're going to hate
109
302722
1974
ถ้าเขาเป็นพวกเสรีนิยม เขาก็จะเกลียด
05:16
big banks and oil corporations
and Dick Cheney.
and Dick Cheney.
110
304720
2216
ธนาคารยักษ์ใหญ่ บริษัทน้ำมัน
และ ดิก เชนีย์
และ ดิก เชนีย์
05:18
Totally predictable.
111
306960
1256
เดาไว้ได้เลย
05:20
And you don't want to be like that.
112
308240
1696
และคุณคงไม่ต้องการจะเป็นอย่างนั้น
05:21
You need to enter every conversation
assuming that you have something to learn.
assuming that you have something to learn.
113
309960
5536
คุณต้องร่วมสนทนา
โดยคิดเสียว่าคุณกำลังเรียนรู้อะไรสักอย่าง
โดยคิดเสียว่าคุณกำลังเรียนรู้อะไรสักอย่าง
05:27
The famed therapist M. Scott Peck said
114
315520
2136
เอ็ม. สก๊อต เพ็คค์ (M. Scott Peck)
นักบำบัดชื่อดัง เคยกล่าวว่า
นักบำบัดชื่อดัง เคยกล่าวว่า
05:29
that true listening requires
a setting aside of oneself.
a setting aside of oneself.
115
317680
4416
"การฟังที่แท้จริง จำเป็นต้องเก็บใจไว้
05:34
And sometimes that means
setting aside your personal opinion.
setting aside your personal opinion.
116
322120
3320
และบางทีก็หมายถึง
ยอมสละความคิดเห็นส่วนตัวไปด้วย"
ยอมสละความคิดเห็นส่วนตัวไปด้วย"
05:38
He said that sensing this acceptance,
117
326200
3296
เขากล่าวว่า การได้สัมผัสถึงการยอมรับเช่นนี้
05:41
the speaker will become
less and less vulnerable
less and less vulnerable
118
329520
2256
ผู้พูดก็จะเริ่มรู้สึกอ่อนไหวน้อยลงไป
05:43
and more and more likely
to open up the inner recesses
to open up the inner recesses
119
331800
2856
และยิ่งมีโอกาสที่จะเปิดเผย
05:46
of his or her mind to the listener.
120
334680
2656
ความในใจของเขาหรือเธอให้แก่ผู้ฟัง
05:49
Again, assume that you have
something to learn.
something to learn.
121
337360
2760
ขอย้ำอีกครั้งนะคะ จงคิดเสียว่า
คุณกำลังเรียนรู้อะไรสักอย่าง
คุณกำลังเรียนรู้อะไรสักอย่าง
05:52
Bill Nye: "Everyone you will ever meet
knows something that you don't."
knows something that you don't."
122
340880
3680
บิลล์ ไนย์ : "ทุกคนที่คุณเจอ
ล้วนรู้ในบางสิ่งที่คุณไม่เคยรู้"
ล้วนรู้ในบางสิ่งที่คุณไม่เคยรู้"
05:57
I put it this way:
123
345240
1336
ฉันขอพูดอย่างนี้ว่า
05:58
Everybody is an expert in something.
124
346600
3160
"ทุกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญในบางสิ่ง"
06:03
Number three: Use open-ended questions.
125
351160
2816
ข้อสาม ใช้คำถามปลายเปิด
06:06
In this case, take a cue from journalists.
126
354000
2056
ในกรณีนี้ ให้เอาอย่างนักข่าว
06:08
Start your questions with who,
what, when, where, why or how.
what, when, where, why or how.
127
356080
3096
ขึ้นต้นคำถามด้วย ใคร, อะไร,
เมื่อไหร่, ที่ไหน, ทำไม หรือ อย่างไร
เมื่อไหร่, ที่ไหน, ทำไม หรือ อย่างไร
06:11
If you put in a complicated question,
you're going to get a simple answer out.
you're going to get a simple answer out.
128
359200
3696
ถ้าคุณใช้คำถามที่ซับซ้อน
คุณก็จะได้คำตอบเรียบ ๆ
คุณก็จะได้คำตอบเรียบ ๆ
06:14
If I ask you, "Were you terrified?"
129
362920
2336
ถ้าฉันถามคุณว่า "คุณกลัวหรือเปล่า"
06:17
you're going to respond to the most
powerful word in that sentence,
powerful word in that sentence,
130
365280
3176
คุณก็จะตอบกลับด้วยคำพูด
ที่หนักแน่นมากที่สุดในประโยคนั้น
ที่หนักแน่นมากที่สุดในประโยคนั้น
06:20
which is "terrified," and the answer is
"Yes, I was" or "No, I wasn't."
"Yes, I was" or "No, I wasn't."
131
368480
3336
คือคำว่า " หวาดกลัว" และคำตอบคือ
"ใช่ ฉันกลัว" กับ "ไม่ ฉันไม่กลัว"
"ใช่ ฉันกลัว" กับ "ไม่ ฉันไม่กลัว"
06:23
"Were you angry?" "Yes, I was very angry."
132
371840
2000
"คุณโกรธเหรอ" "ใช่ ฉันโกรธมาก"
06:25
Let them describe it.
They're the ones that know.
They're the ones that know.
133
373864
3072
ให้เขาได้บรรยายออกมา
เพราะเขารู้ดีกว่าใคร
เพราะเขารู้ดีกว่าใคร
06:28
Try asking them things like,
"What was that like?"
"What was that like?"
134
376960
2976
ลองใช้คำถาม เช่น "เป็นอย่างไรบ้าง"
06:31
"How did that feel?"
135
379960
1456
"คุณรู้สึกอย่างไร"
06:33
Because then they might have to stop
for a moment and think about it,
for a moment and think about it,
136
381440
4296
เพราะต่อจากนั้น
พวกเขาอาจหยุดคิดทบทวนดูสักครู่
พวกเขาอาจหยุดคิดทบทวนดูสักครู่
06:37
and you're going to get
a much more interesting response.
a much more interesting response.
137
385760
2976
และคุณจะได้คำตอบที่น่าสนใจ
กว่าเดิมขึ้นเยอะเลย
กว่าเดิมขึ้นเยอะเลย
06:40
Number four: Go with the flow.
138
388760
2320
ข้อสี่ ไหลตามน้ำไป
06:43
That means thoughts
will come into your mind
will come into your mind
139
391720
2816
นี่หมายถึง ความคิดต่าง ๆ จะแล่นเข้ามาในหัว
06:46
and you need to let them
go out of your mind.
go out of your mind.
140
394560
3056
คุณต้องปล่อยให้มันไหลออกจากความคิดคุณไป
06:49
We've heard interviews often
141
397640
1976
เราเคยได้ฟังการสัมภาษณ์
06:51
in which a guest is talking
for several minutes
for several minutes
142
399640
2456
บ่อยครั้ง ที่แขกรับเชิญพูดนานอยู่หลายนาที
06:54
and then the host comes back in
and asks a question
and asks a question
143
402120
2416
จากนั้นก็กลับมาที่พิธีกร แล้วเขาก็ถามคำถาม
06:56
which seems like it comes out of nowhere,
or it's already been answered.
or it's already been answered.
144
404560
3416
ซึ่งเป็นคำถามที่อยู่ดี ๆ ก็โผล่มา
หรือเป็นคำถามที่ตอบไปแล้ว
หรือเป็นคำถามที่ตอบไปแล้ว
07:00
That means the host probably
stopped listening two minutes ago
stopped listening two minutes ago
145
408000
2936
หมายความว่า พิธีกรอาจจะ
เลิกฟังตั้งแต่สองนาทีที่แล้ว
เลิกฟังตั้งแต่สองนาทีที่แล้ว
07:02
because he thought
of this really clever question,
of this really clever question,
146
410960
3416
เพราะเขาคิดคำถามสุดเจ๋งนี้ขึ้นมาได้
07:06
and he was just bound
and determined to say that.
and determined to say that.
147
414400
3016
และมันก็ติดอยู่ในใจเขา
จนเขาตัดสินใจถามคำถามนั้นออกมา
จนเขาตัดสินใจถามคำถามนั้นออกมา
07:09
And we do the exact same thing.
148
417440
1976
แล้วเราก็ทำสิ่งเดียวกันนี้เอง
07:11
We're sitting there having
a conversation with someone,
a conversation with someone,
149
419440
2616
เวลาที่เรากำลังนั่งคุยกับใครสักคน
07:14
and then we remember that time
that we met Hugh Jackman in a coffee shop.
that we met Hugh Jackman in a coffee shop.
150
422080
3456
อยู่ ๆ เราก็นึกขึ้นมาได้ว่า
เราเคยเจอฮิวจ์ แจ็คแมนที่ร้านกาแฟ
เราเคยเจอฮิวจ์ แจ็คแมนที่ร้านกาแฟ
07:17
(Laughter)
151
425560
1336
(เสียงหัวเราะ)
07:18
And we stop listening.
152
426920
1616
แล้วจากนั้นเราก็เลิกฟัง
07:20
Stories and ideas
are going to come to you.
are going to come to you.
153
428560
2056
เรื่องราวและความคิดต่าง ๆ
จะพรั่งพรูเข้ามาในหัวคุณ
จะพรั่งพรูเข้ามาในหัวคุณ
07:22
You need to let them come and let them go.
154
430640
2880
คุณต้องปล่อยให้มันผ่านมา แล้วผ่านไป
07:26
Number five: If you don't know,
say that you don't know.
say that you don't know.
155
434080
3720
ข้อห้า เมื่อไม่รู้ ก็บอกว่าคุณไม่รู้
07:30
Now, people on the radio,
especially on NPR,
especially on NPR,
156
438800
2296
ผู้ดำเนินรายการวิทยุ
โดยเฉพาะสถานีวิทยุแห่งชาติ (NPR)
โดยเฉพาะสถานีวิทยุแห่งชาติ (NPR)
07:33
are much more aware
that they're going on the record,
that they're going on the record,
157
441120
2936
จะตื่นตัวขึ้นมาก
ว่าเขากำลังถูกบันทึกเสียง
ว่าเขากำลังถูกบันทึกเสียง
07:36
and so they're more careful
about what they claim to be an expert in
about what they claim to be an expert in
158
444080
3576
เขาจึงระวังมากขึ้น
ในการอ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ในการอ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ
07:39
and what they claim to know for sure.
159
447680
2136
และสิ่งที่อ้างว่าตัวเองรู้ลึก รู้จริง
07:41
Do that. Err on the side of caution.
160
449840
2376
ให้ทำแบบนั้นค่ะ กันไว้ดีกว่าแก้
07:44
Talk should not be cheap.
161
452240
1760
"คำพูดไม่ควรเป็นเพียงลมปาก"
07:46
Number six: Don't equate
your experience with theirs.
your experience with theirs.
162
454640
3680
ข้อหก อย่าเทียบประสบการณ์คุณกับของเขา
07:51
If they're talking
about having lost a family member,
about having lost a family member,
163
459280
2776
ถ้าเขาพูดถึงการสูญเสียสมาชิกในครอบครัว
07:54
don't start talking about the time
you lost a family member.
you lost a family member.
164
462080
2856
อย่าเริ่มพูดถึงตอนที่
คุณสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไป
คุณสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไป
07:56
If they're talking about the trouble
they're having at work,
they're having at work,
165
464960
2856
ถ้าเขาพูดถึงปัญหาที่เจอในที่ทำงาน
07:59
don't tell them about
how much you hate your job.
how much you hate your job.
166
467840
2336
อย่าบอกว่าคุณเกลียดงานของคุณขนาดไหน
08:02
It's not the same. It is never the same.
167
470200
1936
มันไม่เหมือนกัน และจะไม่มีวันเหมือน
08:04
All experiences are individual.
168
472160
1776
ทุกประสบการณ์ เป็นเรื่องเฉพาะคน
08:05
And, more importantly,
it is not about you.
it is not about you.
169
473960
2680
และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น
มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ
มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ
08:09
You don't need to take that moment
to prove how amazing you are
to prove how amazing you are
170
477120
3896
คุณไม่ต้องแย่งช่วงเวลานั้นมา
เพื่อแสดงว่าคุณเจ๋งแค่ไหน
เพื่อแสดงว่าคุณเจ๋งแค่ไหน
08:13
or how much you've suffered.
171
481040
1400
หรือคุณเจ็บปวดมากเพียงใด
08:15
Somebody asked Stephen Hawking once
what his IQ was, and he said,
what his IQ was, and he said,
172
483120
3056
เคยมีคนถามสตีเฟน ฮอว์กกิง
ถึงระดับไอคิวของเขา ซึ่งเขาตอบว่า
ถึงระดับไอคิวของเขา ซึ่งเขาตอบว่า
08:18
"I have no idea. People who brag
about their IQs are losers."
about their IQs are losers."
173
486200
2880
"ไม่รู้สิ คนที่โม้เรื่องระดับไอคิว
เป็นพวกขี้แพ้ทั้งนั้นแหละ"
เป็นพวกขี้แพ้ทั้งนั้นแหละ"
08:21
(Laughter)
174
489120
1936
(เสียงหัวเราะ)
08:23
Conversations are not
a promotional opportunity.
a promotional opportunity.
175
491080
3360
การสนทนา ไม่ใช่โอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง
08:28
Number seven:
176
496560
1240
ข้อเจ็ด
08:31
Try not to repeat yourself.
177
499440
1376
พยายามอย่าทวนคำพูดตัวเอง
08:32
It's condescending,
and it's really boring,
and it's really boring,
178
500840
2376
มันทั้งดูอวดดี และน่าเสียอารมณ์มาก
08:35
and we tend to do it a lot.
179
503240
1656
และเราก็ชอบทำอย่างนั้นเป็นประจำ
08:36
Especially in work conversations
or in conversations with our kids,
or in conversations with our kids,
180
504920
3936
โดยเฉพาะ การพูดคุยในที่ทำงาน
หรือเวลาพูดกับลูก ๆ
หรือเวลาพูดกับลูก ๆ
08:40
we have a point to make,
181
508880
1256
เรามีเรื่องที่อยากจะย้ำเตือน
08:42
so we just keep rephrasing it
over and over.
over and over.
182
510160
2399
เราจึงพูดใหม่หลาย ๆ รอบ
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
08:45
Don't do that.
183
513640
1216
จงอย่าทำแบบนั้น
08:46
Number eight: Stay out of the weeds.
184
514880
2296
ข้อแปด อยู่ให้ห่างจากเรื่องยิบย่อย
(Stay out of the weeds)
(Stay out of the weeds)
08:49
Frankly, people don't care
185
517200
2815
พูดตามตรง คนอื่นเขาไม่สนใจ
08:52
about the years, the names,
186
520039
2616
เรื่องปี, เรื่องชื่อ,
08:54
the dates, all those details
187
522679
1937
เรื่องวันที่, รายละเอียดทั้งหลาย
08:56
that you're struggling
to come up with in your mind.
to come up with in your mind.
188
524640
2456
ที่คุณคิดเท่าไร ก็คิดไม่ออกสักที
08:59
They don't care.
What they care about is you.
What they care about is you.
189
527120
2200
เขาไม่สนใจหรอก เขาสนแต่เรื่องคุณ
09:01
They care about what you're like,
190
529880
1600
เขาสนว่า คุณเป็นอย่างไร
09:04
what you have in common.
191
532080
1696
คุณมีอะไรที่เหมือนกับเขา
09:05
So forget the details. Leave them out.
192
533800
2640
ฉะนั้น จงลืมรายละเอียดซะ ทิ้งมันไปเลย
09:08
Number nine:
193
536880
1216
ข้อเก้า
09:10
This is not the last one,
but it is the most important one.
but it is the most important one.
194
538120
3256
ข้อนี้ไม่ใช่ข้อสุดท้าย
แต่เป็นข้อที่สำคัญที่สุด
แต่เป็นข้อที่สำคัญที่สุด
09:13
Listen.
195
541400
1200
ฟังนะคะ
09:14
I cannot tell you how many
really important people have said
really important people have said
196
542960
3416
ฉันไม่อาจบอกได้ว่า
มีคนสำคัญสักเท่าไร ที่กล่าวว่า
มีคนสำคัญสักเท่าไร ที่กล่าวว่า
09:18
that listening is perhaps the most,
the number one most important skill
the number one most important skill
197
546400
3896
การฟัง อาจเป็นทักษะที่สำคัญ
มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง
มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง
09:22
that you could develop.
198
550320
1216
ที่คุณสามารถพัฒนาได้
09:23
Buddha said, and I'm paraphrasing,
199
551560
1896
พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้
และฉันขอกล่าวด้วยคำพูดใหม่ว่า
และฉันขอกล่าวด้วยคำพูดใหม่ว่า
09:25
"If your mouth is open,
you're not learning."
you're not learning."
200
553480
2536
"ถ้าคุณอ้าปากพูด
คุณก็กำลังอดที่จะเรียนรู้"
คุณก็กำลังอดที่จะเรียนรู้"
09:28
And Calvin Coolidge said, "No man
ever listened his way out of a job."
ever listened his way out of a job."
201
556040
4280
และคาลวิน คูลลิดจ์ เคยกล่าวว่า
"ไม่มีใคร ที่ฟังแล้วต้องตกงาน"
"ไม่มีใคร ที่ฟังแล้วต้องตกงาน"
09:32
(Laughter)
202
560680
1456
(เสียงหัวเราะ)
09:34
Why do we not listen to each other?
203
562160
2200
แล้วทำไม เราถึงไม่รับฟังกันและกันล่ะ
09:36
Number one, we'd rather talk.
204
564920
1960
ข้อหนึ่ง เราชอบพูดมากกว่า
09:39
When I'm talking, I'm in control.
205
567480
1816
เมื่อฉันได้พูด ฉันคือผู้ตัดสินใจ
09:41
I don't have to hear anything
I'm not interested in.
I'm not interested in.
206
569320
2456
ไม่ต้องฟัง สิ่งที่ฉันไม่ได้สนใจ
09:43
I'm the center of attention.
207
571800
1376
ฉันเป็นศูนย์กลางความสนใจ
09:45
I can bolster my own identity.
208
573200
1896
ฉันสามารถฉายแววความเป็นตัวตนออกมาได้
09:47
But there's another reason:
209
575120
1376
แต่ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง
09:48
We get distracted.
210
576520
1456
คือ เราเสียสมาธิ
09:50
The average person talks
at about 225 word per minute,
at about 225 word per minute,
211
578000
3536
ตามปกติ คนทั่วไปพูดประมาณ 225 คำต่อนาที
09:53
but we can listen at up to
500 words per minute.
500 words per minute.
212
581560
4296
แต่เราสามารถรับฟังได้มากถึง 500 คำต่อนาที
09:57
So our minds are filling in
those other 275 words.
those other 275 words.
213
585880
3976
เพราะ สมองเราพยายามเติมอีก 275 คำที่เหลือ
10:01
And look, I know,
it takes effort and energy
it takes effort and energy
214
589880
3176
คิดดูสิคะ ฉันรู้ว่ามันต้องใช้ความพยายาม
และพลังงาน
และพลังงาน
10:05
to actually pay attention to someone,
215
593080
2296
ในการตั้งอกตั้งใจฟังใครสักคนอย่างล้นเหลือ
10:07
but if you can't do that,
you're not in a conversation.
you're not in a conversation.
216
595400
2976
แต่ถ้าคุณทำไม่ได้
ก็เท่ากับคุณไม่ได้ร่วมวงสนทนาเลย
ก็เท่ากับคุณไม่ได้ร่วมวงสนทนาเลย
10:10
You're just two people shouting out
barely related sentences
barely related sentences
217
598400
2856
คุณเป็นแค่คนสองคนที่ตะโกนใส่กัน
ด้วยประโยคที่แทบไม่เกี่ยวข้องกันสักนิด
ด้วยประโยคที่แทบไม่เกี่ยวข้องกันสักนิด
10:13
in the same place.
218
601280
1256
ในสถานที่เดียวกัน
10:14
(Laughter)
219
602560
1896
(เสียงหัวเราะ)
10:16
You have to listen to one another.
220
604480
2496
คุณต้องรับฟังกันและกันค่ะ
10:19
Stephen Covey said it very beautifully.
221
607000
1896
สตีเฟน โควีย์ กล่าวไว้อย่างสวยหรูว่า
10:20
He said, "Most of us don't listen
with the intent to understand.
with the intent to understand.
222
608920
3936
"เราแทบทุกคน ไม่ได้ฟังด้วยเจตนาที่จะเข้าใจ
10:24
We listen with the intent to reply."
223
612880
2680
เราฟังด้วยเจตนาที่จะโต้ตอบ"
10:28
One more rule, number 10,
and it's this one: Be brief.
and it's this one: Be brief.
224
616960
3856
กฎข้อสุดท้าย
ข้อสิบ พูดให้สั้นเข้าไว้
ข้อสิบ พูดให้สั้นเข้าไว้
10:32
[A good conversation is like a miniskirt;
short enough to retain interest,
short enough to retain interest,
225
620840
3496
[การสนทนาที่ดี ก็เหมือนกับกระโปรงสั้น
ต้องสั้นพอที่จะดึงดูดความสนใจ
ต้องสั้นพอที่จะดึงดูดความสนใจ
10:36
but long enough to cover
the subject. -- My Sister]
the subject. -- My Sister]
226
624360
2416
แต่ก็ยาวพอที่จะครอบคลุมจุดสำคัญ
- พี่สาวของฉัน]
- พี่สาวของฉัน]
10:38
(Laughter)
227
626800
1216
(เสียงหัวเราะ)
10:40
(Applause)
228
628040
2416
(เสียงปรบมือ)
10:42
All of this boils down to the same
basic concept, and it is this one:
basic concept, and it is this one:
229
630480
4320
ทั้งหมดนี้ย่อลงเป็นแนวคิดพื้นฐานเดียวกัน
ก็คือสิ่งนี้
ก็คือสิ่งนี้
10:47
Be interested in other people.
230
635320
2856
จงสนใจคนอื่น
10:50
You know, I grew up
with a very famous grandfather,
with a very famous grandfather,
231
638200
2416
รู้ไหมคะ
ฉันเติบโตมากับคุณตาที่มีชื่อเสียงมาก
ฉันเติบโตมากับคุณตาที่มีชื่อเสียงมาก
10:52
and there was kind of a ritual in my home.
232
640640
2056
เราเคยจัดพิธีอย่างหนึ่งในบ้านของฉัน
10:54
People would come over
to talk to my grandparents,
to talk to my grandparents,
233
642720
2456
ผู้คนจะมาหาเพื่อพูดคุยกับคุณตาคุณยาย
10:57
and after they would leave,
my mother would come over to us,
my mother would come over to us,
234
645200
2856
หลังจากพวกเขากลับไป
คุณแม่ก็จะเข้ามาหาเรา
คุณแม่ก็จะเข้ามาหาเรา
11:00
and she'd say, "Do you know who that was?
235
648080
1976
แล้วบอกว่า "รู้ไหมจ๊ะ นั่นเป็นใคร
11:02
She was the runner-up to Miss America.
236
650080
1856
เธอคือรองอันดับหนึ่งมิสอเมริกา
11:03
He was the mayor of Sacramento.
237
651960
1696
เขาเป็นนายกเทศมนตรีเมืองซาคราเมนโต
11:05
She won a Pulitzer Prize.
He's a Russian ballet dancer."
He's a Russian ballet dancer."
238
653680
3176
เธอได้รางวัลพูลิตเซอร์
เขาเป็นนักบัตเลต์ชาวรัสเซีย
เขาเป็นนักบัตเลต์ชาวรัสเซีย
11:08
And I kind of grew up assuming
239
656880
3376
และฉันได้เติบโตขึ้น
11:12
everyone has some hidden,
amazing thing about them.
amazing thing about them.
240
660280
2760
โดยคาดว่าทุกคนมีพรสวรรค์ซ่อนอยู่ในตัว
11:15
And honestly, I think
it's what makes me a better host.
it's what makes me a better host.
241
663680
2880
เรียนตามตรง ฉันคิดว่า
มันทำให้ฉันทำหน้าที่พิธีกรได้ดียิ่งขึ้น
มันทำให้ฉันทำหน้าที่พิธีกรได้ดียิ่งขึ้น
11:19
I keep my mouth shut
as often as I possibly can,
as often as I possibly can,
242
667280
2816
ฉันหุบปากสนิท ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
11:22
I keep my mind open,
243
670120
1416
ฉันเปิดใจให้กว้าง
11:23
and I'm always prepared to be amazed,
244
671560
2496
และเตรียมพร้อมที่จะรู้สึกพิศวงอยู่เสมอ
11:26
and I'm never disappointed.
245
674080
1960
และฉันก็ไม่เคยผิดหวังเลย
11:28
You do the same thing.
246
676760
1856
คุณลองทำดูบ้างสิคะ
11:30
Go out, talk to people,
247
678640
2416
ก้าวออกไปพูดคุยกับผู้คน
11:33
listen to people,
248
681080
1216
เปิดใจรับฟังพวกเขา
11:34
and, most importantly,
be prepared to be amazed.
be prepared to be amazed.
249
682320
3480
และสิ่งสำคัญที่สุด
เตรียมใจให้พร้อมที่จะพิศวง
เตรียมใจให้พร้อมที่จะพิศวง
11:38
Thanks.
250
686440
1216
ขอบคุณค่ะ
11:39
(Applause)
251
687680
3280
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Celeste Headlee - Writer and radio hostCeleste Headlee's years of interview experience give her a unique perspective on what makes for a good conversation.
Why you should listen
Celeste Headlee hosts a daily news/talk show, On Second Thought, on Georgia Public Broadcasting.
Headlee has worked in public radio since 1999, as a reporter, host and correspondent. She was the Midwest Correspondent for NPR before becoming the co-host of the PRI show "The Takeaway.” After that, she guest hosted a number of NPR shows including "Tell Me More,” "Talk of the Nation,” "Weekend All Things Considered” and "Weekend Edition". Headlee also anchored election coverage for PBS World in 2012 and was a regular guest on CNN.
Headlee holds multiple degrees in music and still performs as a professional opera singer. She appears on the album “Classically Blue” from gospel artist Lea Gilmore. She's the granddaughter of composer William Grant Still.
Celeste Headlee | Speaker | TED.com