TED2010
Sir Ken Robinson: Bring on the learning revolution!
เซอร์ เคน โรบินสัน: ปฏิวัติการศึกษา เริ่มตั้งแต่บัดนี้!
Filmed:
Readability: 3.4
9,209,583 views
สืบเนื่องจากการพูดในปี 2006 เซอร์เคน โรบินสัน ได้พยายามปลุกกระแสการเปลี่ยนแปลงระบบโรงเรียนครั้งใหญ่ จากโรงเรียนที่ส่งเสริมความเหมือน เป็นส่งเสริมความสามารถเฉพาะบุคคล โดยการสร้างสภาวะที่พรสวรรค์ของเด็กๆสามารถเจริญเติบโตได้ ในการพูดที่เฉียบขาดแต่แฝงไว้ด้วยอารมณ์ขันนี้
Ken Robinson - Author/educator
Creativity expert Sir Ken Robinson challenges the way we're educating our children. He champions a radical rethink of our school systems, to cultivate creativity and acknowledge multiple types of intelligence. Full bio
Creativity expert Sir Ken Robinson challenges the way we're educating our children. He champions a radical rethink of our school systems, to cultivate creativity and acknowledge multiple types of intelligence. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:13
I was here four years ago,
0
1000
2000
ผมมาที่นี่เมื่อสี่ปีก่อน
00:15
and I remember, at the time,
1
3000
2000
และผมก็จำได้ว่า ในช่วงนั้น
00:17
that the talks weren't put online.
2
5000
3000
ไม่มีการนำการพูดมาไว้ออนไลน์
00:20
I think they were given to TEDsters in a box,
3
8000
4000
คิดว่าเค้าแจกให้สมาชิก TED ในกล่อง
00:24
a box set of DVDs,
4
12000
2000
ใส่กล่อง DVD เป็นชุด
00:26
which they put on their shelves, where they are now.
5
14000
3000
ซึ่งพวกเขาก็นำไปวางไว้บนชั้นหนังสือ จนกระทั่งถึงตอนนี้
00:29
(Laughter)
6
17000
2000
(หัวเราะ)
00:31
And actually, Chris called me
7
19000
2000
จริงๆแล้วคริสโทรหาผม
00:33
a week after I'd given my talk
8
21000
2000
หนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ผมพูดไป
00:35
and he said, "We're going to start putting them online.
9
23000
2000
เขาบอกว่า เรากำลังจะนำการพูดทั้งหลายไปไว้ออนไลน์
00:37
Can we put yours online?" And I said, "Sure."
10
25000
3000
เราจะนำสิ่งที่คุณพูดไปไว้ออนไลน์ด้วยได้ไหม ผมก็บอกว่า ได้เลยครับ
00:40
And four years later,
11
28000
2000
และหลังจากนั้นสี่ปี
00:42
as I said, it's been seen by four ...
12
30000
2000
ก็มีคนเข้ามาดูสี่...
00:44
Well, it's been downloaded four million times.
13
32000
3000
อืม มีคนโหลดไปประมาณสี่ล้านครั้ง
00:47
So I suppose you could multiply that by 20 or something
14
35000
3000
ซึ่งผมก็คิดว่าถ้าคุณคูณจำนวนนั้นด้วยยี่สิบ
00:50
to get the number of people who've seen it.
15
38000
2000
คงได้จำนวนผู้ชมทั้งหมดโดยประมาณ
00:52
And, as Chris says, there is a hunger
16
40000
4000
และก็อย่างที่คริสพูด คือมันมีความหิวโหย
00:56
for videos of me.
17
44000
2000
ของวีดีโอผม
00:58
(Laughter)
18
46000
3000
(หัวเราะ)
01:01
(Applause)
19
49000
3000
(ปรบมือ)
01:06
... don't you feel?
20
54000
1000
...คุณก็รู้สึกใช่ไหม
01:07
(Laughter)
21
55000
3000
(หัวเราะ)
01:12
So, this whole event has been an elaborate build-up
22
60000
3000
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การเกริ่นนำอย่างอลังการ
01:15
to me doing another one for you, so here it is.
23
63000
4000
ที่จะให้ผมมาพูดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็มาถึงแล้วครับ
01:19
(Laughter)
24
67000
1000
(หัวเราะ)
01:22
Al Gore spoke
25
70000
2000
อัล กอร์ได้พูดไว้
01:24
at the TED conference I spoke at four years ago
26
72000
3000
ที่การประชุม TED คราวก่อน ที่ผมพูดด้วย
01:27
and talked about the climate crisis.
27
75000
2000
เค้าได้พูดเรื่องวิกฤติของสภาพอากาศ
01:29
And I referenced that
28
77000
2000
ซึ่งผมก็ได้อ้างอิงไว้
01:31
at the end of my last talk.
29
79000
2000
ตอนท้ายของการพูดของผมคราวที่แล้ว
01:33
So I want to pick up from there
30
81000
2000
ผมก็เลยอยากจะพูดต่อจากตรงนั้น
01:35
because I only had 18 minutes, frankly.
31
83000
3000
เพราะจริงๆแล้วผมมีเวลาแค่สิบแปดนาที
01:38
So, as I was saying...
32
86000
2000
ก็อย่างที่ผมพูดนั่นแหละ
01:40
(Laughter)
33
88000
5000
(หัวเราะ)
01:48
You see, he's right.
34
96000
2000
ว่าเค้าพูดถูกนะ
01:50
I mean, there is a major climate crisis, obviously,
35
98000
3000
ว่าในขณะนี้มันมีวิกฤติของสภาวะอากาศที่ใหญ่หลวงอย่างที่คุณทราบ
01:53
and I think if people don't believe it, they should get out more.
36
101000
3000
ซึ่งผมก็คิดว่าถ้าใครไม่เชื่อ ก็ลองออกไปเดินข้างนอกดูสิครับ
01:56
(Laughter)
37
104000
3000
(หัวเราะ)
01:59
But I believe there's a second climate crisis,
38
107000
3000
แต่ผมเชื่อว่ายังมีวิกฤติของสภาวะอากาศอีกอย่างหนึี่ง
02:03
which is as severe,
39
111000
2000
ซึ่งรุนแรงไม่แพ้กัน
02:05
which has the same origins,
40
113000
3000
และมีต้นกำเนิดเหมือนกัน
02:08
and that we have to deal with with the same urgency.
41
116000
3000
และเราก็ต้องจัดการกับมันอย่างเร่งด่วนเช่นเดียวกัน
02:11
And I mean by this --
42
119000
2000
และสิ่งที่ผมหมายถึง
02:13
and you may say, by the way, "Look, I'm good.
43
121000
2000
คือ คุณอาจจะบอกว่า "นี่ ผมพอแล้ว
02:15
I have one climate crisis;
44
123000
2000
ผมมีวิกฤติของสภาวะอากาศอันนึงแล้ว
02:17
I don't really need the second one."
45
125000
3000
ไม่ต้องมีอีกอันก็ได้ครับ"
02:20
But this is a crisis of, not natural resources --
46
128000
2000
แต่วิกฤตินี้ไม่ใช่วิกฤติของทรัพยากรธรรมชาติ
02:22
though I believe that's true --
47
130000
3000
ถึงแม้ว่าผมว่าอันนั้นมันก็จริง
02:25
but a crisis of human resources.
48
133000
2000
แต่เป็นวิกฤติของทรัพยากรมนุษยชาติ
02:27
I believe fundamentally,
49
135000
2000
ผมเชื่อมั่นอย่างมาก
02:29
as many speakers have said during the past few days,
50
137000
2000
อย่างที่วิทยากรหลายท่านได้กล่าวถึงในช่วงสองสามวันมานี้
02:31
that we make very poor use
51
139000
3000
ว่าพวกเราใช้ประโยชน์
02:34
of our talents.
52
142000
3000
ของพรสวรรค์ของเราได้แย่มาก
02:37
Very many people go through their whole lives
53
145000
2000
ผู้คนจำนวนมากที่ใช้ชีวิตทั้งชีวิต
02:39
having no real sense of what their talents may be,
54
147000
3000
โดยไม่รู้จริงๆเลยว่าพรสวรรค์ของพวกเขาคืออะไร
02:42
or if they have any to speak of.
55
150000
2000
หรือว่าเขามีมันอยู่บ้างไหม
02:44
I meet all kinds of people
56
152000
2000
ผมได้พบปะผู้คนหลายประเภท
02:46
who don't think they're really good at anything.
57
154000
3000
ซึ่งไม่คิดว่าเขาทำอะไรเก่งสักอย่างเดียว
02:50
Actually, I kind of divide the world into two groups now.
58
158000
3000
จริงๆเดี๋ยวนี้ผมแบ่งโลกนี้ออกเป็นสองกลุ่ม
02:53
Jeremy Bentham, the great utilitarian philosopher,
59
161000
3000
เจอร์มี่ เบ็นแธม นักปราชญ์ประโยชน์นิยมผู้ยิ่งใหญ่
02:56
once spiked this argument.
60
164000
2000
ได้เคยให้ความคิดนี้ไว้
02:58
He said, "There are two types of people in this world:
61
166000
2000
เขาบอกว่า ในโลกนี้มีผู้คนอยู่สองแบบ
03:00
those who divide the world into two types
62
168000
2000
คือคนที่แบ่งโลกนี้เป็นสองแบบ
03:02
and those who do not."
63
170000
2000
กับคนที่ไม่แบ่ง
03:04
(Laughter)
64
172000
3000
(หัวเราะ)
03:09
Well, I do.
65
177000
2000
อืม ผมแบ่ง
03:11
(Laughter)
66
179000
2000
(หัวเราะ)
03:16
I meet all kinds of people
67
184000
2000
ผมพบผู้คนมากมาย
03:18
who don't enjoy what they do.
68
186000
3000
ที่ไม่มีความสุขกับสิ่งที่พวกเขาทำเลย
03:21
They simply go through their lives
69
189000
2000
เขาแค่ใช้ชีวิตไปวันๆ
03:23
getting on with it.
70
191000
2000
อย่างเรื่อยเปื่อย
03:25
They get no great pleasure from what they do.
71
193000
2000
ไม่ได้มีความรึ่นรมย์กับสิ่งที่พวกเขาทำ
03:27
They endure it rather than enjoy it
72
195000
3000
เขายอมทนอยู่กับมัน แทนที่จะมีความสุขกับมัน
03:30
and wait for the weekend.
73
198000
3000
แล้วก็รอให้ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์
03:33
But I also meet people
74
201000
2000
แต่ผมก็พบคนอืกแบบหนึ่ง
03:35
who love what they do
75
203000
2000
ซึ่งรักในสิ่งที่เขาทำ
03:37
and couldn't imagine doing anything else.
76
205000
2000
มากจนเค้านึกไม่ออกว่าจะทำอะไรอย่างอื่นได้อีก
03:39
If you said to them, "Don't do this anymore," they'd wonder what you were talking about.
77
207000
3000
ถ้าคุณบอกพวกเขาว่า "เลิกทำสิ่งนี้เถอะ" เค้าคงงงว่าคุณพูดอะไร
03:42
Because it isn't what they do, it's who they are. They say,
78
210000
3000
เพราะเขาบอกว่าที่เขาทำมันไม่ใช่งาน แต่มันคือชีวิตของเขา
03:45
"But this is me, you know.
79
213000
2000
เพราะนี่คือตัวฉัน
03:47
It would be foolish for me to abandon this, because
80
215000
2000
ถ้าจะให้เลิกทำสิ่งนี้ก็โง่สิ
03:49
it speaks to my most authentic self."
81
217000
2000
เพราะมันคือสิ่งที่สื่อตรงกับตัวตนจริงๆของฉัน
03:51
And it's not true of enough people.
82
219000
3000
แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนี้กับคนจำนวนมากพอ
03:54
In fact, on the contrary, I think
83
222000
2000
จริงๆค่อนข้างตรงข้ามนะ ผมว่า
03:56
it's still true of a minority of people.
84
224000
2000
คนที่คิดอย่างนี้ เป็นคนส่วนน้อยเท่านั้น
03:58
I think there are many
85
226000
2000
และผมก็คิดว่ามันมี
04:00
possible explanations for it.
86
228000
2000
คำอธิบายที่เป็นไปได้อยู่หลายอย่าง
04:02
And high among them
87
230000
2000
และที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง
04:04
is education,
88
232000
2000
คือการศึกษา
04:06
because education, in a way,
89
234000
2000
เพราะการศึกษานี่เอง
04:08
dislocates very many people
90
236000
2000
ที่เป็นตัวดึงผู้คนจำนวนมาก
04:10
from their natural talents.
91
238000
2000
ออกห่างจากพรสวรรค์ของพวกเขา
04:12
And human resources are like natural resources;
92
240000
3000
และทรัพยากรมนุษย์ก็เหมือนกับทรัพยากรธรรมชาติ
04:15
they're often buried deep.
93
243000
2000
ซึ่งส่วนใหญ่จะซ่อนอยู่ในที่ลึกๆ
04:17
You have to go looking for them,
94
245000
2000
คุณต้องออกไปค้นหามัน
04:19
they're not just lying around on the surface.
95
247000
2000
มันไม่ได้วางๆอยู่บนพื้นให้เห็นง่ายๆ
04:21
You have to create the circumstances where they show themselves.
96
249000
3000
คุณต้องสร้างสภาวะที่ถูกต้องเพื่อให้มันแสดงตัวออกมา
04:24
And you might imagine
97
252000
2000
และคุณก็อาจลองจินตนาการได้ว่า
04:26
education would be the way that happens,
98
254000
2000
การศึกษามันควรเป็นวิธีการให้เกิดสิ่งเหล่านี้
04:28
but too often it's not.
99
256000
2000
แต่ว่ามันมักจะไม่เป็นอย่างนั้นสิครับ
04:30
Every education system in the world
100
258000
2000
ระบบการศึกษาทุกที่ในโลกนี้
04:32
is being reformed at the moment
101
260000
2000
กำลังอยู่ระหว่างการปฏิรูป
04:34
and it's not enough.
102
262000
2000
แต่มันไม่เพียงพอครับ
04:36
Reform is no use anymore,
103
264000
2000
การปฏิรูปมันไร้ประโยชน์แล้วครับ
04:38
because that's simply improving a broken model.
104
266000
3000
เพราะมันเพียงแค่ปรับปรุงระบบที่มันพังอยู่แล้ว
04:41
What we need --
105
269000
2000
สิ่งที่เราต้องการ
04:43
and the word's been used many times during the course of the past few days --
106
271000
2000
และเป็นคำที่ใช้กันมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้
04:45
is not evolution,
107
273000
2000
มันไม่ใช่แค่การวิวัฒนาการครับ
04:47
but a revolution in education.
108
275000
3000
แต่เป็นการปฏิวัติการศึกษา
04:50
This has to be transformed
109
278000
2000
สิ่งนี้จะต้องพลิกโฉมหน้า
04:52
into something else.
110
280000
2000
ไปเป็นสิ่งใหม่เลยครับ
04:54
(Applause)
111
282000
5000
(ปรบมือ)
05:00
One of the real challenges
112
288000
2000
สิ่งที่ท้าทายที่สุดอย่างหนึ่ง
05:02
is to innovate fundamentally
113
290000
2000
คือการสร้างนวัตกรรมพื้นฐาน
05:04
in education.
114
292000
2000
ในด้านการศึกษา
05:06
Innovation is hard
115
294000
2000
นวัตกรรมนี่สร้างยากครับ
05:08
because it means doing something
116
296000
2000
เพราะมันคือการทำอะไรอย่างหนึ่ง
05:10
that people don't find very easy, for the most part.
117
298000
2000
ซึ่งผู้คนมักจะเห็นว่ามันไม่ง่ายเลย
05:12
It means challenging what we take for granted,
118
300000
3000
เพราะมันคือการท้าทายสิ่งที่เราไม่เห็นค่า
05:15
things that we think are obvious.
119
303000
3000
สิ่งที่เราเห็นๆกันอยู่
05:18
The great problem for reform
120
306000
2000
ปัญหาใหญ่ที่สุดของการปรับปรุง
05:20
or transformation
121
308000
2000
หรือเปลี่ยนแปลง
05:22
is the tyranny of common sense;
122
310000
2000
คือการครอบงำโดยสามัญสำนึก
05:24
things that people think,
123
312000
2000
สิ่งที่คนทั่วไปคิดว่า
05:26
"Well, it can't be done any other way because that's the way it's done."
124
314000
2000
"อืม มันก็ต้องเป็นไปอย่างนี้แหละ เพราะนี่คือสิ่งที่ทำกันมาตลอด"
05:28
I came across a great quote recently from Abraham Lincoln,
125
316000
3000
เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้เจอกับคำพูดที่ท่าน อับบราฮัม ลินคอล์น เคยพูดว่า
05:31
who I thought you'd be pleased to have quoted at this point.
126
319000
3000
ซึ่งผมว่าพวกคุณคงดีใจที่มีคนนำมากล่าวอ้างในตอนนี้
05:34
(Laughter)
127
322000
2000
(หัวเราะ)
05:36
He said this in December 1862
128
324000
3000
ท่านพูดไว้เมื่อเดือนธันวาคม ปี1862
05:39
to the second annual meeting of Congress.
129
327000
3000
ในการประชุมรัฐสภาประจำปีครั้งที่สอง
05:43
I ought to explain that I have no idea what was happening at the time.
130
331000
3000
คือผมต้องขอออกตัวว่าผมไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงนั้น
05:48
We don't teach American history in Britain.
131
336000
2000
เราไม่สอนประวัติศาสตร์อเมริกันในประเทศอังกฤษหรอก
05:50
(Laughter)
132
338000
2000
(หัวเราะ)
05:52
We suppress it. You know, this is our policy.
133
340000
3000
เราปกปิดมันไว้ อย่างที่คุณๆทราบ มันเป็นนโยบายของเรา
05:55
(Laughter)
134
343000
2000
(หัวเราะ)
05:58
So, no doubt, something fascinating was happening in December 1862,
135
346000
2000
สรุปว่า คงมีอะไรน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นแน่ๆในช่วงเดือนธันวาคม ปี 1862
06:00
which the Americans among us
136
348000
2000
ซึ่งคนอเมริกันที่อยู่ที่นี่กับเรา
06:02
will be aware of.
137
350000
2000
คงจะทราบ
06:05
But he said this:
138
353000
2000
แต่ท่านได้พูดไว้ว่า
06:07
"The dogmas
139
355000
2000
"หลักการที่เรายึดถือ
06:09
of the quiet past
140
357000
2000
ในอตีดที่เงียบสงบ
06:11
are inadequate to the stormy present.
141
359000
3000
ไม่อาจใช้ได้กับปัจจุบันที่ดุเดืือด
06:14
The occasion
142
362000
2000
สถานการณ์
06:16
is piled high with difficulty,
143
364000
2000
ที่เต็มไปด้วยความยุ่งยาก
06:18
and we must rise with the occasion."
144
366000
3000
และเราต้องยืนขึ้นไปกับสถานการณ์
06:21
I love that.
145
369000
2000
ผมชอบมากครับ
06:23
Not rise to it, rise with it.
146
371000
3000
ไม่ใช่ยืนเพื่อเผชิญกับมันแต่ยืนไปกับมัน
06:27
"As our case is new,
147
375000
2000
เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งใหม่
06:29
so we must think anew
148
377000
3000
เราจึงต้องคิดแบบใหม่
06:32
and act anew.
149
380000
3000
และทำแบบใหม่
06:35
We must disenthrall ourselves,
150
383000
3000
เราต้องปลดแอกตนเองให้เป็นอิสระ
06:38
and then we shall save our country."
151
386000
3000
แล้วเราจึงช่วยชาติของเราได้"
06:41
I love that word, "disenthrall."
152
389000
2000
ผมชอบมากๆคำนี้ "ปลดแอก"
06:43
You know what it means?
153
391000
2000
คุณทราบไหมมันหมายถึงอะไร
06:45
That there are ideas that all of us are enthralled to,
154
393000
3000
มันหมายถึงเราทั้งหลายโดนจองจำอยู่กับไอเดียบางอย่าง
06:48
which we simply take for granted
155
396000
2000
ซึ่งเราเห็นเป็นของธรรมดา
06:50
as the natural order of things, the way things are.
156
398000
2000
เป็นครรลองธรรมชาติ เป็นวิถึปกติ
06:52
And many of our ideas
157
400000
2000
และไอเดียเหล่านี้ของเรา
06:54
have been formed, not to meet the circumstances of this century,
158
402000
3000
ได้ก่อตัวขึ้น ไม่ใช่เพื่อใช้แก้ปัญหาสถานการณ์ของโลกปัจจุบัน
06:57
but to cope with the circumstances of previous centuries.
159
405000
3000
แต่สำหรับการอยู่รอดในสถานการณ์ของศตวรรษที่ผ่านมา
07:00
But our minds are still hypnotized by them,
160
408000
2000
แต่สมองเราก็ยังโดนสะกดจิตโดยไอเดียเหล่านี้อยู๋
07:02
and we have to disenthrall ourselves of some of them.
161
410000
3000
และเราก็ต้องปลดแอกจากไอเดียเหล่านี้
07:05
Now, doing this is easier said than done.
162
413000
3000
ครับ สิ่งนี้มันพูดง่ายแต่ทำยาก
07:08
It's very hard to know, by the way, what it is you take for granted. (Laughter)
163
416000
3000
มันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่คุณเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา
07:11
And the reason is that you take it for granted.
164
419000
3000
เพราะคุณเห็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา
07:14
So let me ask you something you may take for granted.
165
422000
3000
เอาเป็นว่าให้ผมลองถามคุณสักอย่างในเรื่องที่คุณเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา
07:17
How many of you here are over the age of 25?
166
425000
3000
ในที่นี้มีใครอายุมากกว่า 25 ปีบ้างครับ
07:20
That's not what I think you take for granted,
167
428000
2000
นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดว่าคุณเห็นเป็นเรื่องธรรมดาหรอก
07:22
I'm sure you're familiar with that already.
168
430000
2000
เพราะผมว่าคุณคงชินกันหมดแล้ว
07:24
Are there any people here under the age of 25?
169
432000
3000
ในที่นี้มีใครอายุน้อยกว่า 25 ปีไหมครับ
07:27
Great. Now, those over 25,
170
435000
3000
ดีครับ เอาล่ะ คนที่อายุมากกว่า 25
07:30
could you put your hands up if you're wearing your wristwatch?
171
438000
3000
หากคุณกำลังใส่นาฬิกาข้อมืออยู่ กรุณายกมือครับ
07:33
Now that's a great deal of us, isn't it?
172
441000
3000
ครับ มีจำนวนไม่น้อยเลยใช่ไหม
07:36
Ask a room full of teenagers the same thing.
173
444000
3000
ลองถามคำถามนี้ในห้องที่เต็มไปด้วยเด็กวัยรุ่นดูครับ
07:39
Teenagers do not wear wristwatches.
174
447000
2000
เด็กวัยรุ่นเค้าไม่ใส่นาฬิกาข้อมือกันครับ
07:41
I don't mean they can't or they're not allowed to,
175
449000
2000
ผมไม่ได้หมายความว่าเค้าใส่ไม่ได้ หรือไม่ได้รับอนุญาตให้ใส่นะครับ
07:43
they just often choose not to.
176
451000
2000
แต่เค้าเลือกที่จะไม่ใส่เอง
07:45
And the reason is, you see, that we were brought up
177
453000
2000
เพราะอะไรหรือครับ เพราะว่าพวกเราที่อายุมากกว่า 25
07:47
in a pre-digital culture, those of us over 25.
178
455000
3000
โดมาในยุคก่อนยุคดิจิตอล
07:50
And so for us, if you want to know the time
179
458000
2000
และสำหรับเรา หากต้องการรู้เวลา
07:52
you have to wear something to tell it.
180
460000
2000
เราก็ต้องหาอะไรที่บอกเวลาได้มาใส่ไว้
07:54
Kids now live in a world which is digitized,
181
462000
3000
แต่เด็กๆเดี๋ยวนี้อยู่ในโลกดิจิตอล
07:57
and the time, for them, is everywhere.
182
465000
2000
สำหรับพวกเขา เวลา มันมีบอกอยู่ทุกที่
07:59
They see no reason to do this.
183
467000
2000
เขาไม่เห็นความจำเป็นของมัน
08:01
And by the way, you don't need to do it either;
184
469000
2000
ซึ่งจริงๆแล้ว พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องมีแล้วเหมือนกัน
08:03
it's just that you've always done it and you carry on doing it.
185
471000
3000
แต่ว่าเราก็ใส่มันจนเคยชิน ก็เลยใส่กันต่อไป
08:06
My daughter never wears a watch, my daughter Kate, who's 20.
186
474000
3000
ลูกสาวผมไม่เคยใส่นาฬิกาข้อมือ เคท ลูกสาวอายุยี่สิบของผม
08:09
She doesn't see the point.
187
477000
2000
เธอไม่เห็นว่ามันจำเป็นยังไง
08:11
As she says, "It's a single function device."
188
479000
3000
เธอบอกว่า "มันเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานได้แค่อย่างเดียว"
08:14
(Laughter)
189
482000
5000
(หัวเราะ)
08:19
"Like, how lame is that?"
190
487000
3000
"แบบว่า มันเห่ยอะไรอย่างงี้"
08:22
And I say, "No, no, it tells the date as well."
191
490000
2000
ผมก็เถียงว่า "ไม่จริงนะ มันบอกวันที่ได้ด้วย"
08:24
(Laughter)
192
492000
4000
(หัวเราะ)
08:29
"It has multiple functions."
193
497000
3000
"มันทำได้มากกว่าหนึ่งอย่างนะ"
08:32
But, you see, there are things we're enthralled to in education.
194
500000
3000
แต่ว่าคุณเห็นไหมครับ มันมีสิ่งที่จองจำความคิดเราไว้หลายอย่างในด้านการศึกษา
08:35
Let me give you a couple of examples.
195
503000
2000
ขออนุญาตให้ตัวอย่างสักสองตัวอย่างนะครับ
08:37
One of them is the idea of linearity:
196
505000
3000
อย่างแรกคือการเดินตามแนวทาง
08:40
that it starts here and you go through a track
197
508000
3000
ที่เริ่มจากจุดนี้ แล้วก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ
08:43
and if you do everything right, you will end up
198
511000
2000
และถ้าคุณทำได้อย่างถูกต้อง คุณก็จะ
08:45
set for the rest of your life.
199
513000
2000
มีชีวิตที่ลงตัว
08:49
Everybody who's spoken at TED has told us implicitly,
200
517000
2000
ทุกคนที่มาพูดที่ TED นี่ได้บอกเราโดยนัยๆ
08:51
or sometimes explicitly, a different story:
201
519000
3000
หรือบางครั้งก็แบบตรงๆ ว่าความจริงมันไม่ใช่
08:54
that life is not linear; it's organic.
202
522000
3000
ชีวิตมันไม่ได้เป็นเส้นตรง มันเป็นสิ่งที่มีชีวิต
08:57
We create our lives symbiotically
203
525000
2000
เราเป็นผู้สร้างชีวิตให้อยู่อย่างร่วมกัน
08:59
as we explore our talents
204
527000
2000
ในขณะเดียวกันก็สำรวจถึงพรสวรรค์ของตนเอง
09:01
in relation to the circumstances they help to create for us.
205
529000
3000
ที่สัมพันธ์กับสถานการณ์ที่เราต้องเผชิญ
09:04
But, you know, we have become obsessed
206
532000
2000
แต่คุณทราบไหมครับ ว่าเรากลายเป็นจับจด
09:06
with this linear narrative.
207
534000
2000
อยู่กับความคิดแบบเป็นเส้นตรงแบบนี้
09:08
And probably the pinnacle for education
208
536000
2000
และจุดสุดยอดของการศึกษาปัจจุบัน
09:10
is getting you to college.
209
538000
2000
คือการเข้ามหาวิทยาลัย
09:12
I think we are obsessed with getting people to college.
210
540000
3000
ผมว่าเราจับจดกันเกินไปเกี่ยวกับการยัดผู้คนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
09:15
Certain sorts of college.
211
543000
2000
มหาวิทยาลัยบางประเภท
09:17
I don't mean you shouldn't go to college, but not everybody needs to go
212
545000
2000
ผมไม่ได้หมายความว่าเราไม่ควรเรียนมหาวิทยาลัยนะครับ แต่บางทีอาจไม่ใช่ทุกคนที่ต้องเรียน
09:19
and not everybody needs to go now.
213
547000
2000
และไม่ใช่ทุกคนต้องเรียนตอนนี้
09:21
Maybe they go later, not right away.
214
549000
2000
อาจจะไปทีหลังก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเดี๋ยวนี้
09:23
And I was up in San Francisco a while ago
215
551000
2000
ผมเพิ่งไปซานฟรานซิสโกเมื่อไม่นานมานี้
09:25
doing a book signing.
216
553000
2000
เพื่อไปแจกลายเซ็นต์ในหนังสือ
09:27
There was this guy buying a book, he was in his 30s.
217
555000
2000
ก็มีชายคนหนึ่งมาซื้อหนังสือ เขาอายุประมาณสามสิบเศษๆ
09:29
And I said, "What do you do?"
218
557000
2000
ผมถามเขาว่า "คุณทำงานอะไรครับ"
09:31
And he said, "I'm a fireman."
219
559000
3000
เขาตอบว่า "ผมเป็นพนักงานดับเพลิง"
09:34
And I said, "How long have you been a fireman?"
220
562000
2000
ผมถามว่า "คุณเป็นพนักงานดับเพลิงมานานเท่าไหร่แล้ว"
09:36
He said, "Always. I've always been a fireman."
221
564000
2000
เขาว่า "ตลอดครับ ผมเป็นพนักงานดับเพลิงมาตลอดชีวิต"
09:38
And I said, "Well, when did you decide?"
222
566000
2000
ผมถามว่า "เหรอ แล้วคุณตัดสินใจตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ"
09:40
He said, "As a kid." He said, "Actually, it was a problem for me at school,
223
568000
3000
เขาตอบว่า "ตั้งแต่เด็กๆครับ" "และจริงๆก็เป็นปัญหาของผมตอนผมอยู่ในโรงเรียน"
09:43
because at school, everybody wanted to be a fireman."
224
571000
3000
"คือที่โรงเรียนน่ะ ใครๆก็อยากเป็นพนักงานดับเพลิงครับ"
09:46
He said, "But I wanted to be a fireman."
225
574000
3000
"แต่ผมอยากเป็นพนักงานดับเพลิงจริงๆ"
09:49
And he said, "When I got to the senior year of school,
226
577000
3000
"จนตอนเรียนปีสุดท้าย
09:52
my teachers didn't take it seriously.
227
580000
3000
ครูผมไม่คิดจริงจังกับมัน
09:55
This one teacher didn't take it seriously.
228
583000
2000
มีครูคนหนึ่งเขาไม่จริงจังกับมันเลย
09:57
He said I was throwing my life away
229
585000
2000
เขาว่าผมจะมาโยนชีวิตทิ้งไปเปล่าๆ
09:59
if that's all I chose to do with it;
230
587000
2000
ถ้าผมเลือกจะเป็นเพียงแค่นี้
10:01
that I should go to college, I should become a professional person,
231
589000
3000
ว่าผมควรเรียนให้จบมหาวิทยาลัย ผมควรเป็นคนทำงานดีๆ
10:04
that I had great potential
232
592000
2000
ผมน่าจะมีอนาคตไกล
10:06
and I was wasting my talent to do that."
233
594000
2000
แล้วทำไมเอาพรสวรรค์มาทิ้งเสีย"
10:08
And he said, "It was humiliating because
234
596000
2000
แล้วก็เล่าต่อว่า "ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าอายมากครับ
10:10
he said it in front of the whole class and I really felt dreadful.
235
598000
2000
เพราะครูพูดต่อหน้าเพื่อนทั้งห้อง ผมรู้สึกแย่สุดๆ
10:12
But it's what I wanted, and as soon as I left school,
236
600000
2000
แต่มันเป็นสิ่งที่ผมอยากทำนี่ครับ และเมื่อผมเรียนจบ
10:14
I applied to the fire service and I was accepted."
237
602000
3000
ผมก็สมัครเข้าทำงานเป็นพนักงานดับเพลิง และผมก็ได้รับตำแหน่งทันที"
10:17
And he said, "You know, I was thinking about that guy recently,
238
605000
2000
แล้วชายคนนี้ก็บอกว่า "คุณรู้ไหมครับ ผมเพิ่งนึกถึงครูคนนี้ขึ้นมา
10:19
just a few minutes ago when you were speaking, about this teacher,"
239
607000
3000
เมื่อซักครู่นี่เอง ตอนที่คุณถามถึงเรื่องนี้
10:22
he said, "because six months ago,
240
610000
2000
เขาว่า เพราะเมื่อประมาณหกเดือนที่แล้ว
10:24
I saved his life."
241
612000
2000
ผมได้ช่วยชีวิตครูคนนั้นไว้ครับ"
10:26
(Laughter)
242
614000
2000
(หัวเราะ)
10:28
He said, "He was in a car wreck,
243
616000
2000
เขาว่า "ครูประสบอุบัติเหตุติดอยู่ในรถ
10:30
and I pulled him out, gave him CPR,
244
618000
3000
ผมดึงเขาออกมาก ปั๊มหัวใจให้
10:33
and I saved his wife's life as well."
245
621000
3000
ผมช่วยภรรยาครูไว้ด้วยครับ"
10:36
He said, "I think he thinks better of me now."
246
624000
2000
เขาว่า ตอนนี้ครูคงคิดชื่นชมผมบ้างแล้วครับ
10:38
(Laughter)
247
626000
2000
(หัวเราะ)
10:40
(Applause)
248
628000
5000
(ปรบมือ)
10:46
You know, to me,
249
634000
2000
คุณทราบไหมครับ ผมว่า
10:48
human communities depend upon
250
636000
2000
สังคมมนุษย์นั้นต้องพึ่งพา
10:50
a diversity of talent,
251
638000
2000
พรสวรรค์ที่หลากหลาย
10:52
not a singular conception of ability.
252
640000
3000
ไม่ใช่ความสามารถที่เราคิดเองเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
10:55
And at the heart of our challenges --
253
643000
2000
และนี่คือสิ่งที่เป็นสุดยอดของความท้าทาย
10:57
(Applause)
254
645000
2000
(ปรบมือ)
10:59
At the heart of the challenge
255
647000
2000
สิ่งที่เป็นสุดยอดของความท้าทายของเรา
11:01
is to reconstitute our sense of ability
256
649000
2000
คือการพยายามตระหนักถึงความสามารถ
11:03
and of intelligence.
257
651000
2000
รวมถึงความฉลาดปราดเปรื่องที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา
11:05
This linearity thing is a problem.
258
653000
2000
การคิดอะไรแบบเป็นเส้นตรงเป็นปัญหาครับ
11:07
When I arrived in L.A.
259
655000
2000
ตอนที่ผมเพิ่งมาที่แอลเอ
11:09
about nine years ago,
260
657000
2000
เมื่อเก้าปีก่อน
11:11
I came across a policy statement --
261
659000
3000
ผมเห็นคำขวัญประโยคหนึ่ง
11:14
very well-intentioned --
262
662000
2000
ซึ่งมาจากความตั้งใจดี
11:16
which said, "College begins in kindergarten."
263
664000
3000
ที่บอกว่า "มหาวิทยาลัยเริ่มตั้งแต่อนุบาล"
11:21
No, it doesn't.
264
669000
2000
ไม่จริงมั้งครับ
11:23
(Laughter)
265
671000
3000
(หัวเราะ)
11:26
It doesn't.
266
674000
2000
ไม่จริง
11:28
If we had time, I could go into this, but we don't.
267
676000
3000
ถ้าเรามีเวลา ผมอยากพูดเรื่องนี้ต่อ แต่เราไม่มี
11:31
(Laughter)
268
679000
2000
(หัวเราะ)
11:33
Kindergarten begins in kindergarten.
269
681000
2000
อนุบาล เริ่มต้้งแต่อนุบาลครับ
11:35
(Laughter)
270
683000
2000
(หัวเราะ)
11:37
A friend of mine once said,
271
685000
2000
เพื่อนผมเคยพูดไว้ว่า
11:39
"You know, a three year-old is not half a six year-old."
272
687000
3000
"รู้ไหม เด็กสามขวบไม่ใช่ครึ่งหนึ่งของเด็กหกขวบ"
11:42
(Laughter)
273
690000
2000
(หัวเราะ)
11:44
(Applause)
274
692000
5000
(ปรบมือ)
11:49
They're three.
275
697000
2000
เขาอายุสามขวบ
11:51
But as we just heard in this last session,
276
699000
2000
แต่เท่าที่เราได้ยินมาในช่วงที่ผ่านมา
11:53
there's such competition now to get into kindergarten --
277
701000
3000
เดี๋ยวนี้มีการแข่งขันที่สูงมากเพื่อเข้าเรียนชั้นอนุบาล
11:56
to get to the right kindergarten --
278
704000
2000
เพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาลที่ดีที่สุด
11:58
that people are being interviewed for it at three.
279
706000
3000
คนเราโดนสัมภาษณ์ตอนอายุสามขวบนะครับ
12:03
Kids sitting in front of unimpressed panels,
280
711000
2000
เด็กเล็กๆนั่งต่อหน้ากรรมการที่ไม่ประทับใจเลย
12:05
you know, with their resumes,
281
713000
2000
คุณครับ ผลงานของพวกเขา
12:07
(Laughter)
282
715000
3000
(หัวเราะ)
12:10
flipping through and saying, "Well, this is it?"
283
718000
2000
เปิดผ่านๆดู "แค่นี้เองเหรอ"
12:12
(Laughter)
284
720000
2000
(หัวเราะ)
12:14
(Applause)
285
722000
3000
(ปรบมือ)
12:17
"You've been around for 36 months, and this is it?"
286
725000
3000
"คุณอยู่มาตั้ง 36 เดือน ทำได้แค่นี้เองเหรอ"
12:20
(Laughter)
287
728000
7000
(หัวเราะ)
12:27
"You've achieved nothing -- commit.
288
735000
3000
"มันไม่ค่อยได้เรื่องเลย
12:30
Spent the first six months breastfeeding, the way I can see it."
289
738000
3000
เท่าที่ทราบคุณใช้เวลาหกเดือนแรกไปกับการดูดนม"
12:33
(Laughter)
290
741000
3000
(หัวเราะ)
12:38
See, it's outrageous as a conception, but it [unclear].
291
746000
3000
เห็นไหมครับ มันเป็นไอเดียที่บ้ามากๆ แต่มันน่าหลงไหล
12:41
The other big issue is conformity.
292
749000
2000
ปัญหาอีกอย่างคือการทำอะไรตามกัน
12:43
We have built our education systems
293
751000
2000
เราได้สร้างระบบการศึกษา
12:45
on the model of fast food.
294
753000
2000
โดยทำเหมือนอาหารแบบจานด่วน
12:47
This is something Jamie Oliver talked about the other day.
295
755000
3000
นี่คือสิ่งที่เจมี่ โอลิเวอร์พูดถึงเมื่อวันก่อน
12:50
You know there are two models of quality assurance in catering.
296
758000
2000
คุณทราบไหมว่า ในการทำอาหารมีระบบประกันคุณภาพสองแบบ
12:52
One is fast food,
297
760000
2000
แบบแรกคือแบบจานด่วน
12:54
where everything is standardized.
298
762000
2000
คือทุกอย่างออกมาเหมือนกันหมด
12:56
The other are things like Zagat and Michelin restaurants,
299
764000
2000
กับอีกแบบคือแบบร้านอาหาร (ที่ได้รับการยกย่องจากซากัด และมิชิลลิน)
12:58
where everything is not standardized,
300
766000
2000
ซึ่งไม่ใช่ทุกอย่างเหมือนกัน
13:00
they're customized to local circumstances.
301
768000
2000
แต่ทำความต้องการของลูกค้าในสภาวะแวดล้อมที่ตั้งอยู่
13:02
And we have sold ourselves into a fast food model of education,
302
770000
3000
และพวกเราก็ซื้อระบบการทำอาหารแบบจานต่วนมาใช้กับการศึกษา
13:05
and it's impoverishing our spirit and our energies
303
773000
3000
และมันก็ทำให้สปิริตและพลังงานของเราหร่อยหรอ
13:08
as much as fast food is depleting our physical bodies.
304
776000
3000
เช่นเดียวกับที่อาหารจานด่วนทำให้ร่างกายเราอ่อนแอ
13:11
(Applause)
305
779000
5000
(ปรบมือ)
13:17
I think we have to recognize a couple of things here.
306
785000
2000
ผมคิดว่าเราต้องตระหนักถึงสิ่งสำคัญบางอย่าง
13:19
One is that human talent is tremendously diverse.
307
787000
3000
อย่างแรก คือ พรสวรรค์ของมนุษย์นั้นหลากหลายเหลือเกิน
13:22
People have very different aptitudes.
308
790000
2000
คนเรามีความถนัดที่ต่างกัน
13:24
I worked out recently that
309
792000
2000
ผมเพิ่งคิดได้ไม่นานมานี้
13:26
I was given a guitar as a kid
310
794000
2000
ว่าผมได้รับกีต้าร์ตอนเป็นเด็ก
13:28
at about the same time that Eric Clapton got his first guitar.
311
796000
3000
ในช่วงเวลาพอๆกับที่ อีริก แคลพตัน (นักร้องชื่อดัง) ได้กีต้าร์ตัวแรกของเขา
13:32
You know, it worked out for Eric, that's all I'm saying.
312
800000
3000
ผมจะพูดแค่ว่า สำหรับอีริก มันเยี่ยมมากเลย
13:35
(Laughter)
313
803000
2000
(หัวเราะ)
13:37
In a way, it did not for me.
314
805000
2000
สำหรับผม มันไม่ค่อยจะได้ผล
13:39
I could not get this thing to work
315
807000
3000
ผมไม่สามารถทำให้มันเป็นเพลงได้เลย
13:42
no matter how often or how hard I blew into it.
316
810000
2000
ไม่ว่าจะเป่ามันบ่อยหรือแรงแค่ไหน
13:44
(Laughter) It just wouldn't work.
317
812000
2000
มันก็ไม่ยอมออกมาเป็นเพลงเลย
13:49
But it's not only about that.
318
817000
2000
แต่มันไม่ใช่แค่นั้นครับ
13:51
It's about passion.
319
819000
2000
มันเกี่ยวกับความกระหายใคร่รู้ด้วย
13:53
Often, people are good at things they don't really care for.
320
821000
2000
ส่วนใหญ่แล้ว คนเราจะเก่งในเรื่องที่เราไม่ค่อยจะสนใจ
13:55
It's about passion,
321
823000
2000
มันต้องมีความอยากรู้
13:57
and what excites our spirit and our energy.
322
825000
3000
และสิ่งที่กระตุ้นสปิริตและพลังงานของเรา
14:00
And if you're doing the thing that you love to do, that you're good at,
323
828000
3000
ถ้าคุณได้ทำสิ่งที่คุณรักที่จะทำ และทำได้ดี
14:03
time takes a different course entirely.
324
831000
3000
เวลาของคุณจะเปลี่ยนไปทันที
14:06
My wife's just finished writing a novel,
325
834000
3000
ภรรยาผมเพิ่งเขียนนิยายเสร็จเรื่องหนึ่ง
14:09
and I think it's a great book,
326
837000
2000
และผมคิดว่ามันเป็นหนังสือที่ดี
14:11
but she disappears for hours on end.
327
839000
3000
แต่เธอจะหายไปทีละเป็นชั่วโมงๆ
14:14
You know this, if you're doing something you love,
328
842000
2000
คุณจะเข้าใจ ถ้าคุณทำอะไรสักอย่างที่คุณรัก
14:16
an hour feels like five minutes.
329
844000
3000
หนึ่งชั่วโมงมันเหมือนไม่กี่นาที
14:19
If you're doing something that doesn't resonate with your spirit,
330
847000
2000
ถ้าคุณทำอะไรที่มันไม่สอดคล้องกับสปิริตของคุณ
14:21
five minutes feels like an hour.
331
849000
2000
ห้านาทีก็รู้สึกเหมือนหนึ่งชั่วโมง
14:23
And the reason so many people are opting out of education
332
851000
3000
และสาเหตุที่ผู้คนหนึห่างจากการศึกษา
14:26
is because it doesn't feed their spirit,
333
854000
2000
ก็เป็นเพราะว่ามันไม่ได้หล่อเลี้ยงสปิริตเขา
14:28
it doesn't feed their energy or their passion.
334
856000
3000
มันไม่เสริมสร้างให้เกิดพลัง หรือความอยากรู้
14:31
So I think we have to change metaphors.
335
859000
3000
ผมจึงคิดว่าเราควรเปลี่ยนแบบแผน
14:34
We have to go from what is essentially an industrial model of education,
336
862000
3000
เราต้องเปลี่ยนจากการจัดการศึกษาระบบอุตสาหกรรม
14:37
a manufacturing model,
337
865000
2000
ระบบโรงงาน
14:39
which is based on linearity
338
867000
2000
ซึ่งอาศัยการทำงานแบบเป็นเส้นตรง
14:41
and conformity and batching people.
339
869000
3000
และการสร้างผู้คนให้ออกมาเหมือนๆกัน
14:44
We have to move to a model
340
872000
2000
เราต้องสร้างโมเดลใหม่
14:46
that is based more on principles of agriculture.
341
874000
3000
ที่เหมือนกับการทำการเกษตร
14:49
We have to recognize that human flourishing
342
877000
3000
เราต้องเข้าใจว่าการเติบโตของมนุษย์นั้น
14:52
is not a mechanical process;
343
880000
2000
ไม่ใช่กระบวนการแบบเครื่องจักร
14:54
it's an organic process.
344
882000
2000
มันเป็นแบบชีวภาพ
14:56
And you cannot predict the outcome of human development.
345
884000
3000
และคุณไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ของการพัฒนาของมนุษย์ได้
14:59
All you can do, like a farmer,
346
887000
2000
คุณทำได้เหมือนกับเกษตรกร คือเพียงแค่
15:01
is create the conditions under which
347
889000
2000
สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี
15:03
they will begin to flourish.
348
891000
2000
ที่ให้พวกเขาเจริญเติบโตได้
15:05
So when we look at reforming education and transforming it,
349
893000
3000
ดังนั้นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา
15:08
it isn't like cloning a system.
350
896000
3000
มันจึงไม่เหมือนกับการลอกระบบกันมา
15:11
There are great ones, like KIPP's; it's a great system.
351
899000
2000
มันมีบางอันที่ดี อย่างเช่น KIPPs
15:13
There are many great models.
352
901000
2000
มีต้นแบบดีๆให้ดูมากมาย
15:15
It's about customizing to your circumstances
353
903000
3000
แต่เราต้องปรับให้เหมาะกับสถานการณ์
15:18
and personalizing education
354
906000
2000
และให้สอดคล้องและเหมาะสม
15:20
to the people you're actually teaching.
355
908000
2000
กับผู้ที่ได้รับการศึกษาจากคุณจริงๆ
15:22
And doing that, I think,
356
910000
2000
และผมคิดว่าการทำอย่างนี้
15:24
is the answer to the future
357
912000
2000
คือคำตอบสำหรับอนาคต
15:26
because it's not about scaling a new solution;
358
914000
3000
เพราะเราไม่เพียงแค่หาทางแก้ใหม่
15:29
it's about creating a movement in education
359
917000
2000
แต่เป็นการผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนของระบบการศึกษา
15:31
in which people develop their own solutions,
360
919000
3000
ในแบบที่ผู้คนต้องพัฒนาหาคำตอบด้วยตัวเอง
15:34
but with external support based on a personalized curriculum.
361
922000
3000
แต่จะได้รับการสนับสนุนจากภายนอก ตามแผนการสอนที่จัดมาเฉพาะบุคคล
15:37
Now in this room,
362
925000
2000
ในที่นี้
15:39
there are people who represent
363
927000
2000
มีผู้คนที่เป็นตัวแทน
15:41
extraordinary resources in business,
364
929000
2000
ของแหล่งทรัพยากรที่ยอดเยี่ยม ทั้งในด้านเศรษฐกิจ
15:43
in multimedia, in the Internet.
365
931000
2000
ด้านสื่อต่างๆ อินเทอร์เน็ต
15:45
These technologies,
366
933000
2000
เทคโนโลยีเหล่านี้
15:47
combined with the extraordinary talents of teachers,
367
935000
3000
ผสมผสานกับความสามารถอันยอดเยี่ยมของครู
15:50
provide an opportunity to revolutionize education.
368
938000
3000
เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมที่จะปฏิวัติการศึกษา
15:53
And I urge you to get involved in it
369
941000
2000
และผมสนับสนุนให้ทุกคนเข้ามาร่วมกัน
15:55
because it's vital, not just to ourselves,
370
943000
2000
เพราะมันมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ไม่เพียงแค่สำหรับพวกเรา
15:57
but to the future of our children.
371
945000
2000
แต่สำหรับอนาคตของลูกหลานเรา
15:59
But we have to change from the industrial model
372
947000
2000
แต่เราต้องเปลี่ยนจากระบบอุตสาหกรรม
16:01
to an agricultural model,
373
949000
2000
มาเป็นระบบแบบเกษตรกรรม
16:03
where each school can be flourishing tomorrow.
374
951000
3000
ที่โรงเรียนแต่ละแห่งสามารถเจริญเติบโตได้
16:06
That's where children experience life.
375
954000
2000
เป็นที่ที่เด็กๆจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิต
16:08
Or at home, if that's where they choose to be educated
376
956000
2000
หรืออาจเป็นที่บ้าน ถ้าพวกเขาเลือกจะเรียนที่นั่น
16:10
with their families or their friends.
377
958000
2000
กับครอบครัว หรือกับเพื่อนๆ
16:12
There's been a lot of talk about dreams
378
960000
2000
มีการพูดคุยถึงเรื่องความฝันหลายครั้ง
16:14
over the course of this few days.
379
962000
3000
ในช่วงเวลาสองสามวันนี้
16:17
And I wanted to just very quickly ...
380
965000
2000
และผมก็อยากที่จะ
16:19
I was very struck by Natalie Merchant's songs last night,
381
967000
3000
เมื่อคืนนี้ผมฟังเพลงของ Natalie Merchant
16:22
recovering old poems.
382
970000
2000
เกี่ยวกับบทกวีเก่าๆ
16:24
I wanted to read you a quick, very short poem
383
972000
2000
ผมจึงอยากอ่านบทกวีสั้นๆให้คุณฟัง
16:26
from W. B. Yeats, who some of you may know.
384
974000
3000
เป็นบทกวีจาก W.B. Yeats ซึ่งบางคนอาจรู้จัก
16:29
He wrote this to his love,
385
977000
2000
เขาเขียนให้คนที่เขารัก
16:31
Maud Gonne,
386
979000
2000
Maud Gonne
16:33
and he was bewailing the fact that
387
981000
3000
และเขากำลังคร่ำครวญว่า
16:36
he couldn't really give her what he thought she wanted from him.
388
984000
3000
เขาไม่สามารถที่จะให้สิ่งที่เขาคิดว่าเธออยากได้จากเขา
16:39
And he says, "I've got something else, but it may not be for you."
389
987000
3000
และเขาบอกว่า "ผมมีอย่างอื่นที่อยากให้คุณ แต่มันอาจไม่ใช่สำหรับคุณ"
16:42
He says this:
390
990000
2000
เขาบอกว่า
16:44
"Had I the heavens' embroidered cloths,
391
992000
3000
"หากฉันมีผืนผ้างดงามจากสวรรค์
16:47
Enwrought with gold
392
995000
2000
ถักทอด้วยทองคำ
16:49
and silver light,
393
997000
2000
และแสงเงินเงา
16:51
The blue and the dim
394
999000
2000
สีครามและสีหม่น
16:53
and the dark cloths
395
1001000
2000
และสีมืดของผืนผ้า
16:55
Of night and light and the half-light,
396
1003000
3000
แห่งกลางคืน และแสงสว่าง และแสงสลัว
16:58
I would spread the cloths under your feet:
397
1006000
3000
ฉันจะนำมาแผ่ไว้ใต้ฝ่าเท้าของเธอ
17:01
But I, being poor,
398
1009000
3000
แต่ฉันเพียงแค่ยาจก
17:04
have only my dreams;
399
1012000
3000
ที่มีเพียงแค่ความฝัน
17:07
I have spread my dreams under your feet;
400
1015000
3000
ฉันขอเอาความฝันลงแผ่ใต้ฝ่าเท้าของเธอ
17:10
Tread softly
401
1018000
2000
จงก้าวย่างอย่างแผ่วเบา
17:12
because you tread on my dreams."
402
1020000
3000
เพราะเธอกำลังก้าวอยู่บนความฝันของฉัน"
17:15
And every day, everywhere,
403
1023000
3000
และทุกๆวัน ในทุกๆที่
17:18
our children spread their dreams beneath our feet.
404
1026000
3000
เด็กๆของเราก็กำลังแผ่ความฝันของพวกเขาใต้ฝ่าเท้าเรา
17:21
And we should tread softly.
405
1029000
3000
เราต้องก้าวย่างอย่างระมัดระวัง
17:24
Thank you.
406
1032000
2000
ขอบคุณครับ
17:26
(Applause)
407
1034000
17000
(ปรบมือ)
17:43
Thank you very much.
408
1051000
2000
ขอบคุณครับ
ABOUT THE SPEAKER
Ken Robinson - Author/educatorCreativity expert Sir Ken Robinson challenges the way we're educating our children. He champions a radical rethink of our school systems, to cultivate creativity and acknowledge multiple types of intelligence.
Why you should listen
Why don't we get the best out of people? Sir Ken Robinson argues that it's because we've been educated to become good workers, rather than creative thinkers. Students with restless minds and bodies -- far from being cultivated for their energy and curiosity -- are ignored or even stigmatized, with terrible consequences. "We are educating people out of their creativity," Robinson says. It's a message with deep resonance. Robinson's TED Talk has been distributed widely around the Web since its release in June 2006. The most popular words framing blog posts on his talk? "Everyone should watch this."
A visionary cultural leader, Sir Ken led the British government's 1998 advisory committee on creative and cultural education, a massive inquiry into the significance of creativity in the educational system and the economy, and was knighted in 2003 for his achievements. His 2009 book, The Element: How Finding Your Passion Changes Everything, is a New York Times bestseller and has been translated into 21 languages. A 10th anniversary edition of his classic work on creativity and innovation, Out of Our Minds: Learning to be Creative, was published in 2011. His 2013 book, Finding Your Element: How to Discover Your Talents and Passions and Transform Your Life, is a practical guide that answers questions about finding your personal Element. In his latest book, Creative Schools: The Grassroots Revolution That’s Transforming Education, he argues for an end to our outmoded industrial educational system and proposes a highly personalized, organic approach that draws on today’s unprecedented technological and professional resources to engage all students.
Ken Robinson | Speaker | TED.com